คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : บทที่ 9 หัวใจที่แหว่งวิ่น [1]
9
หัวใจที่แหว่งวิ่น
2
สัปดาห์ผ่านไป
หลังจากค่ำคืนนั้นตื่นขึ้นมาวิมลกานต์ก็เจอกับข้อความของกานต์พงศ์อีกครั้ง
ชายหนุ่มบอกกับเธอว่าเขามีงานด่วนที่ต่างประเทศอย่างน้อยต้องอยู่ที่โน่นหนึ่งสัปดาห์หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้
แต่การไปของเขาครั้งนี้ทำให้วิมลกานต์รู้สึกหวิวไหวที่หัวใจแปลก
ๆ อาจจะเป็นเพราะการกระทำของเขาร่วมด้วย
กานต์พงศ์ไม่รับโทรศัพท์เธอสักครา
แต่วิมลกานต์ก็ไม่อยากเซ้าซี้โทร.หา เธอกลัวว่าเขาจะรำคาญ
และกลัวตัวเองจะไปเป็นปัญหาให้กับงานของเขา
แต่ในความเงียบงันที่ได้รับวิมลกานต์คิดว่ายังดีที่มีข้อความตอบกลับมาจากเขาหลังจากนั้นว่า
เขากำลังยุ่ง เสร็จเรื่องวุ่น ๆ แล้วจะโทร.หา ทว่ามาบัดนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม
หรือนี่มันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนของอะไรบางอย่างจากเขา...
"เมี้ยว...เมี้ยว..."
เสียงร้องเรียก พร้อมกับที่รับรู้ได้ว่ามีอะไรนุ่มนิ่มอยู่ตรงหน้าขา
วิมลกานต์ยิ้มออกมาเมื่อพบว่าเป็นอะไร
"กีวี่"
หญิงสาวอุ้มมันขึ้นมา จมูกของมันชนปลายคางของเธอเข้าให้จนต้องหลุดหัวเราะให้กับการ
'โมโหหิว' ของเจ้ากีวี่
"รู้แล้วน่า
ทำเป็นวัยรุ่นใจร้อนไปได้" หญิงสาวว่าแต่กลับอุ้มมันตรงไปยังถุงอาหาร
ก่อนจะเทใส่ภาชนะที่เจ้ากีวี่กินเป็นประจำ
"เชิญค่ะ
นายท่าน" หญิงสาวว่าแล้วหัวเราะขบขัน เมื่อ 'นายท่าน'
ของเธอก้มหน้าก้มตากินท่าทางหิวจัดทันทีที่ 'ทาสแมว'
อย่างเธอยกปากกล่องอาหารขึ้นจากภาชนะ
"ขอโทษนะกีวี่"
เพิ่งตระหนักในตอนนี้เองว่าเธอละเลยจนปล่อยให้เจ้ากีวี่หิว
หญิงสาวนั่งลูบหัวของมันจนกระทั่งกีวี่จัดกานจนหมดและตรงไปดื่มน้ำจากอีกภาชนะหนึ่ง
หลังจากนั้นจึงได้เก็บทุกอย่างเข้าที่ ก่อนจะคว้าเอาอาหารปลาติดมือไปด้วย
วิมลกานต์ให้อาหารปลา
โดยมีเจ้ากีวี่ที่กินอาหารของมันเสร็จแล้วลอบมองอย่างสนใจ
ก่อนจะเปิดโน้ตบุ๊กที่มีงานคั่งค้างอยู่ ระหว่างนั้นก็เปิดทีวีดู
ตั้งใจจะดูข่าวสั้น ๆ ก่อนจะทำงานยาว
หากแต่ภาพที่เห็นอยู่ในหน้าจอโทรทัศน์ทำวิมลกานต์ชะงักนิ่ง
คนในจอเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่วิมลกานต์ไม่เคยลืมเลือนว่าเธอคนนั้นเป็นใคร
อีกครั้งที่เธอดำดิ่งสู่ความทรงจำครั้งเก่าก่อน
"อ่านอะไรน่ะ"
วิมลกานต์ที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้เงยหน้าขึ้นจากหนังสือในมือ
หันมองคนถาม
"นั่งด้วยคนนะ"
คนมาใหม่บอกเธอ ไม่แน่ใจว่าเป็นคำขอหรือแค่คำบอกกันแน่
เพราะเธอคนนั้นนั่งลงข้างเธอทันทีโดยไม่ฟังคำอนุญาตใด
"อ่านอะไรเหรอ"
คำถามเดิมถูกป้อนมาอีกครา
ครานี้วิมลกานต์จึงตอบออกไปโดยที่ดวงตาละจากคนพูดมายังหนังสือที่เปิดคาเอาไว้
"อ่านหนังสือ"
"เอ๊ะ! ก็รู้ไงว่าหนังสือ
ที่อยากรู้คือแล้วมันเกี่ยวกับอะไรต่างหาก"
เธอคนนั้นว่ายืดยาว
ท่าทางหงุดหงิดเต็มทีกับคำตอบที่ไม่โดนใจจากเธอ
แต่วิมลกานต์ก็ยังไม่สนใจให้คำตอบนอกจากเปิดอ่านไปเรื่อย
กระทั่งได้ยินเสียงถามอีกครา
"เรายืมอ่านบ้างได้ไหม"
"ไม่ได้!"
ครานี้นอกจากตอบเสียงดังฟังชัด
เธอยังปิดหน้าหนังสือลงและเอามาไว้แนบอกจ้องมองคนพูดราวกับทำอะไรผิด
"ขี้หวงจัง
ไม่อ่านก็ได้" ว่าแล้วลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังให้
"ดะ...เดี๋ยวสิ"
ครานี้เธอคนที่หันหลังให้หันกลับมามอง ใบหน้ายังคงงอเง้าไม่คลายกับการกระทำก่อนหน้านี้ของเธอ
"คือว่า...เล่มนี้เราให้ใครไม่ได้จริง
ๆ เพราะว่ามีคนให้เรามาเหมือนกัน แต่ถ้า...วิชอบเราจะเอาอีกเล่มมาให้"
"รู้ชื่อเราด้วยเหรอ"
ครานี้ร่างนั้นกลับมานั่งลงเคียงข้างเธออีกครา
รอยยิ้มสว่างสดใสเต็มใบหน้าจนเธอต้องกลั้นยิ้ม
ก่อนจะหันไปพยักหน้าส่งให้คนที่รอคอยเป็นคำตอบ แล้วหลุดยิ้มท่าทีเขินอาย
จนรวิกานต์ลอบมองเธอนิ่ง
ใครบ้างจะไม่รู้จักรวิกานต์ที่ทั้งสวย
ทั้งเก่ง เพียบพร้อมไปเสียหมดทุกอย่าง
เธอเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชมอีกฝ่ายอยู่ห่าง ๆ เพราะคงไม่คิดว่าคนอย่างรวิกานต์จะมาเป็นเพื่อนกับคนที่ไม่มีใครต้องการอย่างเธอ...
"ที่พูดเมื่อกี้อย่าโกหกนะ"
เสียงนั้นดึงวิมลกานต์ออกจากภวังค์ออกจากความทรงจำที่เจ็บปวด
และรอยยิ้มสดใสของคนข้าง ๆ ทำให้วิมลกานต์คลายความหม่นเศร้าไปอีกครา
ครั้นนึกได้ว่าที่อีกฝ่ายพูดหมายถึงเรื่องใดเธอก็โบกมือพัลวันพร้อมกับเอ่ยยืนยัน
"ไม่ ๆ
เราไม่โกหกแน่"
ครั้นเธอตอบรับก็ได้รอยยิ้มสดใสบ่งบอกว่าอีกฝ่ายพอใจกับคำตอบของเธอ
วิมลกานต์ก็พูดถึงเหตุผลของการกระทำของเธอขึ้นอีกครา
"เรื่องนี้เราชอบมากน่ะ
หลังจากที่ได้อ่านจากเล่มนี้เราก็ซื้อเล่มใหม่เก็บไว้อีกเล่ม
แล้วก็ยังมีเผื่อเอาไว้อ่านอีกหนึ่งเล่ม
ที่จริงวันนี้ก็กะจะหยิบเล่มที่เอาไว้อ่านแต่ดันหยิบเล่มนี้ที่มีคนให้เรามาแทน"
"ขนาดนั้นเลย
มันสนุกมากเหรอ"
"อืม...ก็ไม่รู้ว่าวิจะสนุกหรือเปล่า
แต่มันเป็นแนวที่เราชอบน่ะเราเลยรู้สึกสนุกไปกับมัน"
ครั้นเห็นรวิกานต์ขมวดคิ้วมุ่นเธอจึงรีบอธิบายต่อ
"มันเกี่ยวกับการเดินทาง
เราชอบตอนจบของมันมากเลย" แต่ดูเหมือนว่ารวิกานต์จะยังไม่เข้าใจ
วิมลกานต์จึงได้แต่ยิ้มเจื่อนส่งให้
"อ่านให้เราฟังได้ไหม"
แน่นอนว่าคำตอบของวิมลกานต์เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก
"ได้สิ!
ทำไมจะไม่ได้ล่ะ"
แล้ววันนั้นวิมลกานต์ก็อ่านให้รวิกานต์ฟังจนกระทั่งได้ยินเสียงออดเตือนให้เข้าเรียน
รวิกานต์โอดครวญขึ้นมาอย่างขัดใจ เห็นแบบนั้นวิมลกานต์ก็อดยิ้มไม่ได้
เพราะนั่นหมายความว่าเพื่อนชอบหนังสือที่เธออ่านให้ฟัง...
"นี่!
โดดเรียนกันไหม"
"ได้ไง
ไม่เอานะวิ" วิมลกานต์ส่ายหน้ารัวส่งให้คนที่เธอเริ่มสนิทใจ
คงเพราะได้คุยเรื่องหนังสือที่เธอเองก็ชอบเหมือนกัน รู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งที่เธอไม่ค่อยยอมให้ใครเข้าหาได้ง่าย ๆ...
"แต่วิอยากฟังต่อนี่"
คำบอกอย่างเอาแต่ใจดึงวิมลกานต์ออกจากภวังค์ความคิด
"อย่าทำเลย
ไม่ดีหรอก" วิมลกานต์ยืนยันคำเดิม
แน่นอนว่ามันทำให้ใบหน้าของรวิกานต์ยิ่งงอง้ำเข้าไปใหญ่ เธอยิ้มก่อนจะบอกว่า
"งั้นเอาแบบนี้ดีไหม พรุ่งนี้วิมาหาเราตรงนี้เดี๋ยวเราเอาเล่มที่บอกมาให้วิ เราจะได้อ่านด้วยกัน"
"โห!
มลใจดีจัง"
วิมลกานต์ขัดเขินกับถ้อยคำนั้นจนต้องก้มหน้ายิ้มกับตัวเอง
"มลชื่อจริงว่าอะไรเหรอ"
ครั้นคนข้าง ๆ
เอ่ยถามจึงหันไปสบตาบอกด้วยรอยยิ้ม
"วิมลกานต์
เรียกเราว่ามลก็ได้"
"ชื่อเรามีคำว่ากานต์เหมือนกันเลยเนอะ
กานต์ที่แปลว่าความรัก เราสองคนคงเกิดมาจากความรักของพ่อกับแม่" แต่ครั้นได้ฟังรอยยิ้มก็เลือนหายไปจากใบหน้าของคนฟัง
"รวิกานต์แปลว่าความรักแห่งดวงอาทิตย์
แม่เราชื่อรวี พ่อเราชื่ออาทิตย์ เราชื่อรวิกานต์เป็นความรักของพวกท่าน
แล้วมลล่ะ"
วิมลกานต์นิ่งไปกับคำตอบนั้น
ก่อนจะบอกออกไปเสียงอ่อย
"เราไม่รู้หรอก..."
"อ้าว!
งั้นก็กลับไปถามพ่อกับแม่สิ"
นอกจากยิ้มไม่ออก
วิมลกานต์ยิ่งอยากจะร้องไห้ หวังว่าหากบอกความจริงไปรวิกานต์จะไม่รังเกียจกัน
วิมลกานต์สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วหันไปบอกคนที่รอคอยคำตอบ
"เราไม่มีพ่อแม่หรอก"
ครานี้เงียบงันไปอึดใจใหญ่
ก่อนเสียงสดใสจะถามย้ำอีกครา
"...หมายถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันกับพ่อแม่หรือ"
วิมลกานต์พยักหน้า
กลัวเหมือนกันว่ารวิกานต์จะรังเกียจที่เธอเป็นเด็กกำพร้า
"วิ!"
เสียงเรียกดังมาจากด้านหลังของพวกเธอ แล้ววิมลกานต์ก็พบว่าเป็นคนหนึ่งที่เรียบร้อยที่สุดในกลุ่มเพื่อนของรวิกานต์ หากจำไม่ผิดเธอคนนั้นชื่อแก้ว...
วิมลกานต์พยักหน้าให้ โบกมือลาเพื่อนใหม่ที่ยิ้มให้เธอก่อนไปแล้วหายลับไปกับเพื่อนของเธอ
วันต่อมา
วิมลกานต์นั่งรอรวิกานต์อยู่ตรงที่เดิม ภายในมือถือหนังสือที่ตั้งใจจะเอามาให้เพื่อนไว้มั่น ก่อนจะหันไปด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงเหมือนใครเดินเข้ามา
"วิ..." เสียงของเธอขาดหายไปเมื่อพบว่าไม่ได้มีแค่รวิกานต์เพียงเท่านั้น แล้วคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของรวิกานต์ก็เดินเข้ามาหาเธอ
"ได้ยินว่าเธอไม่มีพ่อกับแม่เหรอ"
วิมลกานต์หน้าบึ้งเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยออกมาในสิ่งที่เธอไม่ชอบที่จะได้ยิน ก่อนจะหันไปหารวิกานต์เอ่ยถามน้ำเสียงเรียบแววตาตัดพ้อ
________________________________________________
รวิกานต์นอกจากจะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับคุณกานต์ ยังเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับมลในอดีตอีกด้วย! รวิกานต์เป็นนางเอกอีกเรื่องของไรต์ค่ะ เป็นภาคต่อของเรื่องนี้ ชื่อเรื่อง 'ยอมรัก' ซึ่งตอนนี้กำลังเปิดจองอยู่เช่นกันนค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ
หนังสือเปิดจองอยู่นะคะ รายละเอียดตามภาพด่านล่างเลยค่ะ ^^
วอนรักพร้อมโหลดในราคา 139 บาท ระบบแอปเปิล 149 บาทค่ะ
วอนรัก จุมพิตหวาน www.mebmarket.com วันนั้นเขาเป็นคนอ้อนวอนให้เธอปล่อยเขาไป ทว่าวันนี้ใจกลับโหยหา... หากว่า 'ไม่มีอะไรสายไป สำหรับการเริ่มต้นใหม่' เขาจะใช้มันเริ่มต้นใหม่กับเธอ...
ยอมรัก ภาคต่อวอนรัก สามารถอ่านแยกกันได้ แต่อ่านด้วยกันจะฟินกว่าค่า ^^
ยอมรัก จุมพิตหวาน www.mebmarket.com เธอก่อปราการแห่งความเชื่อใจ ถักทอความรักเอาไว้ในใจจนแน่นหนา เพียงเพราะคำมั่นสัญญาที่เคยได้จากวันวาน...กระทั่งวันหนึ่ง รวิกานต์จึงได้ประจักษ์แก่ใจ คำ...
ปลอบขวัญสำหรับนวนิยายโรมานซ์ กลมารพ่ายรัก พนันรักร้อยใจ และเพราะรักคือเธอ ผลงานในปีแรกของปลอบขวัญกำลังจัดโพรโมชันลดราคาช่วงงานสัปดาห์หนังสือที่บ้านอยู่ค่ะ เพราะรักคือเธอ และกลมารพ่ายรัก รูปเล่มหมดแล้ว ฝากอีบุ๊กแทนนะคะ ^^
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น