ตอนที่ 5 : Collection -4-
วันนี้ลู่หานมีตารางงานทั้งวัน และเช้านี้เขาต้องเข้าออฟฟิศเพราะทีมกองบรรณาธิการนัดคุยรายละเอียดการถ่ายแฟชั่นฉลองครบรอบปีที่ 22 ของโว้กโคเรียกับทุกฝ่าย และนายแบบกิตติมศักดิ์ที่จะมาขึ้นปกพิเศษอย่างวิลลิส โอ ก็ต้องมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วยอย่างแน่นอน
ทำไมวันเกิดของเขามันช่างยุ่งเหยิงแบบนี้ เฮ้อ~ เนี่ยแหละนะ ชีวิตคนทำงาน
เดินเข้าออฟฟิศมาได้ไม่ทันไร เสียงดังปุ้ง! และคอนเฟตติที่พุ่งเข้าใส่ลู่หานก็ทำให้คนตัวเล็กตกใจไม่น้อย
“Happy birthday to you, Happy birthday to you. Happy birthday Happy birthday. Happy birthday to you~”
แล้วเสียงประสานช่วยกันร้องเพลงสุขสันต์วันเกิด ซึ่งมาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่เดินถือเค้กมาให้ก็ทำให้ลู่หานทำตาโตเข้าไปอีก
แล้วทำไมคุณวิลลิสถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ! ยังไม่ถึงเวลาประชุมไม่ใช่เหรอ
“อย่าลืมอธิษฐานก่อนเป่าเค้กนะครับ”
ลู่หานเงยมองรอยยิ้มและสายตาที่เจือความอบอุ่นก็พยักหน้าให้แล้วหลับตาลงอธิษฐาน แล้วเมื่อเอ่ยคำขอของตัวเองในมโนสำนึกเสร็จเรียบร้อย ก็ลืมตาขึ้นแล้วเป่าเค้กที่อยู่ในฝ่ามือใหญ่นั้นทันที
เสียงปรบมือแสดงความยินดีดังขึ้นหลังจากที่เทียนดับหมด ลู่หานยิ้มรับคำอวยพรต่างๆ ที่เพื่อนร่วมงานมอบให้อย่างมีความสุข แล้วปิดท้ายด้วยอ้อมกอดของเจนนี่
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่าพี่แอรีส หนูมีกระเป๋าเอกสารของชาแนลมาให้พี่ด้วย” เด็กฝึกงานภายใต้การดูแลของเขายิ้มสดใส
“ขอบคุณครับ แต่ความจริงไม่ต้องก็ได้นะ พี่เกรงใจ”
“ไม่เป็นไรค่า หนูอยากให้ มีความสุขมากๆ นะคะ เป็นบอสที่น่ารักของหนูไปตลอดเลยนะคะ อย่าลืมให้หนูฝึกงานผ่านด้วยล่ะ” เสียงเจื้อยแจ้วอย่างน่ารักเรียกเสียงหัวเราะสดใสของเจ้าของวันเกิดได้อย่างดี
“หนูขอไปเตรียมเอกสารการประชุมก่อนนะคะ เจอกันห้องประชุมค่ะ อ้อ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะคะคุณวิลลิส” เจนนี่เอ่ยบอกคนทั้งคู่ หันไปขยิบตาและยิ้มกว้างให้ลู่หานก่อนที่จะเฟดตัวออกไปอย่างรู้สถานการณ์
ลู่หานหันมาหาคนที่ถือเค้กออกมาให้ เผยรอยยิ้มน่ารักให้กับคุณนายแบบอย่างรู้สึกขอบคุณ
“คุณวิลลิสมาเร็วจังครับ”
“ผมกลัวหลงก็เลยเผื่อเวลาน่ะครับ แต่ก็ดีแล้วที่มาเร็ว ทันเซอร์ไพรส์วันเกิดให้คุณด้วย”
“ขอบคุณมากนะครับ”
“งั้นแทนคำขอบคุณ วันนี้หลังเลิกงานผมขอพาคุณไปเลี้ยงฉลองได้มั้ยครับ” แววตาอ้อนวอนในแบบที่ไม่อยากได้รับคำปฏิเสธทำให้ลู่หานใจอ่อน
“ก็ได้ครับ แต่ผมไม่รู้ว่าจะเลิกงานกี่โมง เพราะตอนเย็นผมต้องไปอีเว้นท์ของเบอร์เบอรี่น่ะครับ”
“ให้ผมไปรับมั้ยครับ”
“เจอกันที่ออฟฟิศง่ายกว่าครับ”
“โอเคครับ งั้นก่อนเสร็จงานโทรหาผมก่อนสัก 1 ชั่วโมงนะ”
“ก็ได้ครับ เอ่อ เราไปห้องประชุมกันเลยมั้ยครับ ใกล้ได้เวลาแล้ว” ลู่หานตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เขาจะจมไปกับความรู้สึกในแบบที่ทำให้หัวใจพองฟูมากไปกว่านี้
“คุณนำไปเลยครับ” วิลลิสตอบรับพร้อมรอยยิ้ม และคิดถึงแผนที่จะใช้เวลาด้วยกันในวันสำคัญอย่างวันนี้
คนทั้งคู่เดินเคียงคู่กันไปยังห้องประชุม โดยมีเสียงพูดคุยในเรื่องราวเรื่อยเปื่อยดังไปตลอดทาง
;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;
ในที่สุดการประชุมที่สูบพลังของลู่หานไปพอควรก็จบลง รายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ได้ถูกกำหนดไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งคอลเลคชั่นเสื้อผ้าที่จะใช้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง
รวมทั้งการที่จะให้นางแบบชาวตะวันตกร่วมถ่ายแบบกับคุณวิลลิสในคอนเซ็ปท์ “LOVER” ด้วย ซึ่งก็มีมติว่าควรให้นางแบบที่เข้าร่วมเดินแบบในหลุยส์ วิตตอง ครูซโชว์ 2019 มาร่วมในโปรเจคที่สำคัญที่สุดในปีนี้ของโว้กโคเรีย
แล้วในฐานะคอลัมนิสต์ของโว้กโคเรียอย่างลู่หาน ก็มีหน้าที่ในการต้องสัมภาษณ์นายแบบคนสำคัญที่ได้ขึ้นปกฉลองครบรอบปีที่ 22 ของนิตยสาร ซึ่งไม่ใช่แค่ 1 ปก แต่เป็น 4 ปก เลยต่างหาก
การร่วมงานกันของนายแบบระดับโลกอย่างวิลลิส โอ แบรนด์หลุยส์ วิตตอง และโว้กโคเรีย มันต้องออกมาดีอย่างแน่นอน ลู่หานรู้สึกได้ว่ามันพิเศษ และเขาก็ตื่นเต้นรอล่วงหน้าแล้ว
หลังการประชุมเสร็จ คุณวิลลิสก็ย้ำกับเขาเรื่องนัดตอนเย็นในแบบที่ไม่มีการพูดคุยกัน แต่เป็นการใช้มือทำเป็นโทรศัพท์แนบหูแทน ก็น่ารักดีเหมือนกัน
เขามีเวลาพักนิดหน่อยก่อนที่จะไปงานอีเว้นท์ของแบรนด์เบอร์เบอรี่ (Burberry) สาขาเกาหลี และแน่นอนว่าแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง คริสอู๋ ต้องมาร่วมงานด้วยอย่างแน่นอน
คริสอู๋ หรือ อู๋อี้ฝาน ศิลปินชื่อดังชาวจีนสัญชาติแคนาดาที่ได้เซ็นสัญญากับยูนิเวอร์แซลมิวสิค และกำลังบุกตลาดเพลงอเมริกาอยู่ในขณะนี้ เพลงของเขาที่เพิ่งปล่อยออกมาภายใต้สังกัดใหม่ก็ขึ้นอันดับ 1 iTunes ของอเมริกาไปได้อย่างสวยงาม
ลู่หานมีความลับอย่างหนึ่งที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน แต่ถึงจะบอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อว่า เขากับคริสอู๋คนนั้นเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยกันแล้ว
นึกย้อนกลับไปลู่หานก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ตอนนั้นเขาอยากทำงานในสายแฟชั่น ส่วนอี้ฝานนั้นอยากทำงานในสายดนตรี ปัจจุบันนี้ทั้งเขาและอี้ฝานก็ได้เดินในเส้นทางที่ตัวเองปรารถนาสมใจ และเหมือนจะไปได้ดีกันทั้งคู่ด้วย
แน่นอนว่าลู่หานไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้ไปเจอเพื่อนเก่า โดยการบอกบรรณาธิการบทความว่าเขาขอไปงานอีเว้นท์ของเบอร์เบอรี่เอง ด้วยความโด่งดังของคริสอู๋ในตอนนี้ ทำให้การที่จะได้พบกันนั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ถึงจะเป็นคนคุ้นเคยกันก็เถอะ
อีกผลหนึ่งคืออี้ฝานทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะในอเมริกาและจีน นานๆ ครั้งจึงจะเดินทางมาที่เกาหลี แล้วในครั้งนี้ก็เป็นโอกาสดีที่เขาคว้าไว้
;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;
เป็นเรื่องธรรมดาของงานอีเว้นท์แฟชั่นที่จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ลู่หานมาถึงงานในช่วงที่เหล่าบรรดาเซเลบริตี้กำลังทยอยกันเข้างานพอดี แสงแฟลชวูบวาบสะท้อนเข้าตา จนทำให้เขาต้องรีบเดินหลบหลีกรีบเข้าไปในฮอลจัดงาน
ลู่หานยืนมองร่างสูงเด่นของแบรนด์แอมบาสเดอร์เบอร์เบอรี่อยู่ภายในท่ามกลางวงล้อมของคนทำงานในวงการแฟชั่นอย่างภูมิใจ เขาไม่ได้เดินไปหาคริส แต่เป็นฝ่ายรอให้คริสเดินทักทายผู้คนจนเข้ามาใกล้พอและไม่มีใครเข้าไปพูดคุยกับเจ้าตัวแล้ว จึงเอ่ยทักทายออกไป
“สวัสดีครับคุณคริสอู๋ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ” ลู่หานเปิดบทสนทนาเป็นทางการในแบบที่จงใจเว้นระยะห่าง พร้อมกับยื่นมือออกไปเพื่อรออีกฝ่ายจับมือกลับ การอยู่ในงานอีเว้นท์แบบนี้ การให้เกียรติกันถือเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ
“เสี่ยวลู่! ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีมั้ย” คริสโผเข้ากอดลู่หาน ด้วยความสูงที่ต่างกันค่อนข้างมากทำให้ร่างเล็กแทบจะจมหายเข้าไปภายในอ้อมอกของร่างสูง
เขาไม่ได้รับความร่วมมือจากคริสในการขอความเป็นทางการเลย ให้ตายสิ!
“เรียกแอรีสสิ แล้วฉันจะเรียกนายว่าคริสด้วย” ลู่หานกอดตอบพร้อมดิ้นออกเล็กน้อย เป็นสัญญาณบอกให้คริสรู้ว่าเขาเริ่มอึดอัดแล้ว ช่วยปล่อยเขาด้วยเถอะ
“เราเป็นเพื่อนกันนะ ทำไมต้องเรียกชื่อในวงการแบบนั้นด้วย”
“มารยาทน่ะ เข้าใจมั้ย”
“It’s not my style~”
“But it’s my style, deal with it.”
ลู่หานยิ้มส่ายหัว เหนื่อยใจกับความเป็นตัวของตัวเอง และดูออกจะแปลกประหลาดในบางครั้งของเพื่อนสนิทคนนี้ แต่เขารับมือได้ ไม่มีปัญหา
“เรียกลู่หานก็ไม่ได้เหรอ” คริสต่อรอง
“ได้ แต่เรียกได้เฉพาะตอนที่ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยนะ”
“นายทำอะไรให้มันยุ่งยากจังเสี่ยว..เอ้อ...ลู่ หา...เอ้ย แอรีส” คริสเปลี่ยนชื่อคนตัวเล็กแทบไม่ทันเมื่อโดนถลึงตาใส่
“ดีมากคุณคริส” คริสกรอกตา ยอมจำนนกับความต้องการของเพื่อนสนิทตัวเล็ก
“วันนี้วันเกิดนายนี่นา จบงานไปเลี้ยงฉลองกันหน่อยมั้ย”
“นายยังจำได้อยู่อีกเหรอ”
“แน่นอนสิ”
“ขอโทษทีนะ พอดีวันนี้ฉันมีนัดแล้วอะ” ลู่หานยิ้มแหยๆ ให้อย่างรู้สึกขอโทษขอโพย เพราะกว่าเขากับคริสจะหาโอกาสเจอกันได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ไม่เป็นไร ฉันมากะทันหันด้วยแหละ งั้นเดี๋ยวจบงานไปส่งนะ เผื่อได้คุยกับบนรถด้วย”
“โอเค งั้นขอเวลาไปโทรศัพท์แป๊บ” พอคริสคุยเรื่องนี้ขึ้นมา ลู่หานก็นึกขึ้นมาได้ว่าต้องโทรศัพท์หาใครบางคนเพื่อนัดหมายตามที่ได้ตกลงกันไว้
;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;
ตลอดทางที่นั่งมาบนรถของคริส ก็เป็นเวลาของการอัพเดทข่าวคราวของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีการถามไถ่พูดคุยกันบ้างในแอพพลิเคชันแชท แต่การได้มาพบกันแบบนี้มันดีกว่ามากจริงๆ แล้วลู่หานก็ได้รู้ว่า คริสอาจจะพักร้อนและมาอยู่ที่เกาหลีนานขึ้นกว่าเดิม
ลู่หานผลักประตูออฟฟิศเข้ามาพร้อมกับคริส พอดีกับคนที่เขาโทรหาเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วก็ลุกขึ้นมาทันทีที่เห็นเขา
“พี่แอรีสกลับมาแล้ว~ หนูสรุปรายละเอียดของรายงานการประชุมวันนี้ให้แล้ว อยู่บนโต๊ะนะคะ” เป็นเจนนี่ที่ปรากฏตัวทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูเช่นกัน
“ขอบคุณครับ วันนี้กลับได้แล้วนะ พี่ก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”
“โอเคค่า”
ในสายตาคนชอบสังเกตแบบเจนนี่ ผู้ชายร่างสูงใหญ่สองคนที่มองประเมินกันอยู่นิ่งๆ นั้น ให้ความรู้สึกในแบบที่ต่างเขม่นมองกันแบบไม่มีใครยอมใคร เหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นแปลบปลาบคั่นกลาง จนเจนนี่คิดว่าถ้ามันมีออกมาจริงๆ ต่างคนก็ต่างอยากจะระเบิดอีกฝ่ายให้เป็นจุณ
นี่เธออยู่ในออฟฟิศหรืออยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 3 กันแน่นะ สงครามเย็นซะด้วย น่ากลัวจนแทบจะกระดิกตัวไม่ออกแน่ะ พี่แอรีสช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลย ว่าตัวเองเสน่ห์แรงจนเหล่าหนุ่มสุดฮ็อตมะรุมมะตุ้มกันขนาดนี้
งานนี้เจนนี่ไม่อยู่ข้างใครทั้งนั้น เพราะคุณวิลลิสก็หล่อ คุณคริสก็คมเข้ม อยู่ที่พี่แอรีสแล้วว่าจะตัดสินใจเลือกใคร
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ ลาทุกคนเลยค่ะ สวัสดีค่า~” บรรยากาศฟาดฟันกันขนาดนี้ เจนนี่ขอหลบไปก่อนแล้วกันค่า~
ลู่หานที่ไม่ทันได้สังเกตบรรยากาศมาคุเพิ่งได้หันกลับมาสนใจหนุ่มๆ ตัวโต ซึ่งต่างก็ปรับอารมณ์ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ยังไม่ได้แนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเลย
“คุณคริสครับ นี่คุณวิลลิส นายแบบที่กำลังจะมาร่วมงานกับโว้กโคเรีย
ส่วนนี่คุณคริส แบรนด์แอมบาสเดอร์ของเบอร์เบอรี่ครับ คุณวิลลิส”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” พูดพร้อมกันทั้งคู่ แล้วยื่นมือมาจับกันลวกๆ ในแบบที่ไม่ค่อยอยากจะสานสัมพันธ์กันเท่าไรนัก
"那我先走了,小鹿 !下次我会请你吃饭,不准再拒绝我!"
(งั้นฉันกลับก่อนนะเสี่ยวลู่ ไว้คราวหน้าจะพาไปเลี้ยงข้าว อย่าปฏิเสธอีกล่ะ)
"好的, 谢了! 开车小心"
(โอเคเลย ขอบคุณมากที่มาส่ง ขับรถกลับดีๆ ล่ะ)
ลู่หานตอบกลับด้วยความเคยชิน โดยไม่ทันนึกเอะใจว่าทำไมคริสถึงเรียกเสี่ยวลู่ขึ้นมาดื้อๆ แล้วพูดด้วยภาษาจีน แต่ก่อนที่จะถามออกไป คริสอู๋ก็เปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว
ภาษาซึ่งไม่คุ้นเคยลอยผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาไปในแบบที่วิลลิสไม่เข้าใจเลยสักคำ เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองด้อยความสามารถทำอะไรไม่ได้ จนมาเจอเหตุการณ์ในตอนนี้
หลังจากนี้เขาจะกลับไปเรียนภาษาจีนให้เก่ง คอยดู!
คิ้วได้รูปเริ่มขมวดมุ่นเข้าหากันมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะพันกันยุ่งเหยิงส่งสัญญาณให้ลู่หานรับรู้ว่าคนตรงหน้าอาจจะอารมณ์เสียเนื่องจากมารอเขานานแล้ว
“ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ ไปทานข้าวกันเถอะครับ คุณน่าจะหิวแล้ว”
เห็นเจ้าของวันเกิดพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดแบบนั้น วิลลิสก็ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม เขาสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วปัดความหงุดหงิดใจทิ้งไป
“วันนี้คือวันของคุณ เต็มที่เลยนะครับ and call me ‘daddy’ after today, OK?”
“Nooooooo, I will call you whatever I wanna call” คนตัวเล็กส่ายหัวปฏิเสธเป็นพัลวัน
“So call me by your name and I’ll call you by mine”
เล่นประโยคที่มาจากหนังแบบนั้นทำเอาลู่หานไปไม่เป็นเลยทีเดียว ได้แต่อมยิ้มจนแก้มดันขึ้นมาเป็นลูกน่าบีบ คุณวิลลิสในโหมดนี้รับมือยากเป็นบ้า เขานี่แหละต้องเป็นคนยกธงขาวยอมแพ้ก่อนทุกที
;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;
หลังดินเนอร์กันในร้านอาหารฝรั่งเศสโดยคนที่เป็นเจ้ามือจ่ายก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่รับหน้าที่เป็นสารถีให้ลู่หานอยู่ในตอนนี้ด้วย
Audi S7 สีดำพุ่งทะยานบนถนนหนทางที่ไม่ค่อยมีรถออกมาวิ่งกันมากนัก ด้วยเวลาที่ใกล้จะเข้าวันใหม่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเข้าไปทุกที
คนทำตัวชอบเปย์ไม่ได้บอกว่าจะพาลู่หานไปที่ไหน เจ้าตัวบอกแค่สั้นๆ ว่า เซอร์ไพรส์อย่างสุดท้ายที่รออยู่และหวังว่าเขาจะชอบ
เมื่อรถเข้าจอดในที่จอดรถ แล้วเห็นช็อปพร้อมตัวอักษร LOUIS VUITTON เด่นหราอยู่ตรงหน้า ลู่หานก็พอจะเดาออกแล้วว่า ทำไมคุณวิลลิสถึงพามาที่นี่
พนักงานประจำสาขาเปิดประตูและโค้งให้กับทั้งสองคน ลู่หานนึกแปลกใจว่าทำไมถึงไม่มีลูกค้าสักคนอยู่ในช็อปตอนนี้เลย
“เชิญคุณแอรีสเลือกอะไรก็ได้ กี่ชิ้นก็ได้ตามที่ต้องการเลยนะครับ เปิดพิเศษให้สำหรับคุณคนเดียวเลย” แล้วเสียงแหบทุ้มนุ่มของคนข้างตัวก็ไขข้อข้องใจของลู่หานในทันที
ดวงตากลมโตซึ่งฉายแววตื่นเต้นและมีความสุขกับการเดินดูของในช็อป ทำให้วิลลิสรู้สึกว่าคิดไม่ผิดเลยที่โทรศัพท์ไปขอพ่อให้ปิดช็อปหลุยส์ วิตตองสาขาที่ใกล้พอจะทำเวลาขับรถมาถึงในไม่กี่นาที เพื่อบุคคล VIP คนนี้
ความจริงในเวลาดึกดื่นแบบนี้ ก็ไม่ค่อยมีลูกค้ากระเป๋าหนักเข้ามาช็อปปิ้งแล้ว ดังนั้นการปิดช็อปก่อนเวลาสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากนัก
โดยปกติวิลลิสไม่เคยคิดจะใช้สิทธิ์พิเศษในเรื่องนี้ แต่ในวันพิเศษของร่างเล็กตรงหน้านี้ เขาก็อยากทำอะไรให้ประทับใจในแบบที่เจ้าตัวจะต้องจดจำไว้ในความทรงจำดีๆ และเขาก็ดีใจที่เป็นหนึ่งในคนที่สร้างมันขึ้นมา
ใครจะมีโอกาสได้เลือกสินค้าอะไรก็ได้ของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง ในแบบที่ปิดช็อปเพื่อเจ้าตัวคนเดียวเลยแบบนี้ล่ะ
ลู่หานเลือกเสื้อเชิ้ตแขนยาวปริ๊นท์ลายตารางหมากรุกที่มีสัญลักษณ์ LV เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าแบบที่มีกระดุมเล็กๆ ที่ปลายปกเสื้อ และกางเกงขายาวสีดำที่เข้ากับเสื้อทั้ง 2 ตัวที่เลือกไป
วิลลิสที่ยืนมองทุกอิริยาบถนั่นอย่างไม่คลาดสายตา ก็นึกชื่นชมในใจว่าเซ้นส์แฟชั่นของอีกฝ่ายนั้นดีมากจริงๆ ไม่เสียแรงที่เป็นถึงคอลัมนิสต์คนเก่งของโว้กโคเรีย
“แค่นี้เหรอครับ”
“แค่นี้แหละครับ คุณไปครูซโชว์ไม่กี่วัน คงไม่ต้องใช้เสื้อผ้าเยอะขนาดนั้น”
คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้วิลลิสประหลาดใจ เดี๋ยวนะ ทำไมถึงกลายมาเป็นเรื่องของเขาแทนซะล่ะ
“คุณหมายความว่า คุณเลือกเสื้อผ้าทั้งหมดนี่ให้ผมเหรอครับ”
“ถ้าคุณไม่ชอบ ก็ไม่ต้องใส่ก็ได้นะครับ”
“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น คือมัน...จะพูดยังไงดี คุณน่ารักจัง”
คำชมตรงๆ แบบนั้นทำให้ริ้วสีแดงพาดผ่านแก้มนิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ลู่หานยอมรับตรงๆ ก็ได้ว่าเขิน ฮือ ~วันนี้คุณนายแบบทำตัวน่ารักมากเหมือนกัน ก็ต้องมีรางวัลให้บ้างใช่มั้ยล่ะ
“เอาไว้ไปดูครูซโชว์เดือนหน้า ผมจะใส่เสื้อผ้าที่คุณเลือกให้ทุกวันเลยนะครับ” วิลลิสอยากจะตอบแทนความน่ารักของอีกฝ่ายด้วยการตอบรับความตั้งใจของเจ้าตัวอย่างไม่อิดออด
หลังจัดการของทั้งหมดแล้วหอบหิ้วออกมาจากช็อป ทั้งคู่ก็กลับเข้ามานั่งในรถ เจ้าของรถฝั่งคนขับเปิดแอร์เย็นฉ่ำพร้อมกับที่จัดการเปิดเพลง Call you mine ของ Jeff Bernat คลอเบาๆ ซ้ำๆ วนไปเรื่อยๆ เพลงซึ่งมีความหมายเหมือนอยากจะร้องขอลู่หานนั้น ทำให้คนที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ นั่งอมยิ้มไปตลอดทางของการเดินทางกลับที่พัก
วันนี้จะกลายเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาปีหนึ่งเลยล่ะ
…To be continued…
เฟรนด์โซน หรือ แฟนโซน ฮิ__ฮิ
ตอนหน้าเราจะไปครูซโชว์และถ่ายโว้กโคเรียกันแล้วค่า เย้ ~
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกการกดกำลังใจ ทุกการเฟบค่ะ
เจอกัน Collection -5- ค่า ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบความสัมพันธ์ที่ escalat เร็วของคู่นี้
วิลเปย์หนักมาก เปย์ขนาดนี้แอรีสควรคราง- แค่กๆ เรียกแด๊ดดี้ให้พ่อบุญทุ่มชื่นใจสักครั้ง5555 เขินมากกกก