ตอนที่ 16 : Hate you, I hate you Chapter 15 :: We got married [100%]

Hate you, I hate you Chapter 15
We got married
จงฮยอนตกใจไม่รู้ว่าพ่อของเขาจะพูดเรื่องไหน ในใจเอาแต่คิดไปต่างๆนานาว่าแล้วสมุดบันทึกที่ตนเก็บรักษาไว้จะเหลือประโยชน์อะไรอีก
ชายชราสูดลมหายใจก่อนที่จะค่อยๆเล่าเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วออกมาอย่างช้าๆ ถึงวันนี้จะแก่ชราไม่รู้จะตายวันไหน แต่ตนก็ยังจำภาพเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี
“วันที่…ผมกับคุณพ่อของคุณยงฮวาประสบอุบัติเหตุ วันนั้นเป็นวันที่พวกเรา เดินทางเอาเงินไปไถ่บ้านให้กับคุณพ่อของคุณหนู”
…!!
ไถ่บ้าน เพราะพ่อของเธอเล่นการพนันจนบ้านเกือบจะถูกยึด จูฮยอนพูดไม่ออก ลิ้นของเธอชาและสมองก็เต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง เธอไม่รู้จะขอบคุณหรือว่าเอ่ยคำขอโทษพวกเขาดี
พ่อของยงฮวาต้องตายทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องของท่านเลย จูฮยอนไม่รู้ว่าที่ผ่านมายงฮวารู้สึกยังไงกับเรื่องนี้
“ยงฮวารู้ไหมคะ เขารู้รายละเอียด…เรื่องการตายของพ่อเขาไหมคะ?”
“….” ชายแก่พยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า ยงฮวารู้ทุกอย่าง และวันนั้นเขาก็เสียใจมากด้วย
พ่อของยงฮวาต้องตายก็เพราะเรื่องของเธอกับพ่อ ส่วนสาเหตุที่แม่จำเป็นจะต้องแต่งงานครั้งที่สองก็เป็นเพราะพ่อโกงเงินบริษัทไปละลายลงบ่อนการพนันจนทำให้บ้านของเธอเกือบจะต้องล้มละลาย
“ตอนนั้น…คุณแม่ของคุณหนูมีทางเลือกแค่สองทาง ทางแรกก็คือปิดกิจการ ส่วนทางที่สองก็คือจำเป็นจะต้องหาแหล่งเงินทุนมากอบกู้กิจการใหม่ แต่คุณแจวันทำเสียเครดิตหมดทุกอย่าง ไม่ว่าคุณอินฮวาจะพยายามกู้เงินกี่ครั้ง ก็ไม่มีใครยอมให้กู้ คุณอินฮวาเครียดมากจนล้มป่วย ตอนนั้น…คุณแม่ของคุณหนูจึงได้พบกับคุณพ่อของคุณยงฮวา”
“หนูรู้ค่ะว่าคุณพ่อของนายยงฮวา เป็นรักแรกและเขาก็เคยเป็นคู่หมั้นคู่หมายของแม่มาก่อนด้วย แต่เขาบีบบังคับให้แม่แต่งงานด้วยหรือเปล่าคะ?”
“เงินลงทุนทั้งหมด เป็นเงินที่คุณพ่อของคุณยงฮวาช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะต้องการจะรักษาทุกอย่างเอาไว้ คุณอินฮวาก็เลยจำเป็นจะต้องแต่งงานเป็นครั้งที่สอง”
แม่ของเธอไม่ได้ถูกบังคับ แม่ยอมแต่งงานด้วยความเต็มใจ เพราะท่านรู้ว่าพ่อของยงฮวาเป็นคนดี ท่านจึงเลือกที่จะทดแทนหนี้รักด้วยการยอมแต่งงาน
“แล้วทำไม…ถึงมาบอกหนูตอนนี้ล่ะคะ?”
“เพราะลุงไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอีกนานเท่าไหร่ ทุกการตัดสินใจของคุณอินฮวาก็เพื่อคุณหนูทั้งนั้น ตลอดเวลา…คนที่คุณอินฮวาห่วงที่สุดก็คือคุณหนู หลายเรื่องราวที่คุณอินฮวาพยายามเก็บซ่อนมันไว้ มันไม่แค่เป็นเรื่องยากที่จะพูด แต่ที่ไม่ยอมพูดก็เพราะไม่อยากให้คุณหนูต้องเจ็บปวด” ถึงแม้การพูดยาวๆจะทำให้เหน็ดเหนื่อยไม่ใช่น้อย แต่ชายชราก็ค่อยๆพูด ในสิ่งที่อยากจะพูดออกมาทั้งหมด
สิ่งเดียวที่ทุกคนคาดหวังก็คือหวังว่าจูฮยอนจะยอมมองยงฮวาในแง่ดีบ้าง ไม่ใช่เพียงแค่ความห่วงใย ไม่ใช่เพียงแค่การแต่งงานเพราะสมบัติ ไม่ใช่เพียงแค่สมุดบันทึก ความจริงที่จูฮยอนได้รับรู้ในวันนี้ก็คือเธอไม่ใช่แค่คนเดียวที่ต้องสูญเสีย ไม่ใช่เธอแค่คนเดียวที่ต้องเจ็บปวด ยงฮวาเองก็เจ็บปวดมากเหมือนกัน แต่เขากลับต้องทนอยู่ ต้องอดทนกับคนงี่เง่าแบบเธอเสมอมา
แต่ค่อยๆได้รู้อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าเรื่องทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมาพร้อมๆกัน บางทีเธออาจจะรับมือกับมันไม่ได้เลยสักเรื่องก็เป็นได้
“แม่คงเจ็บปวดมากที่ต้องทนเก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียว การจะอธิบายเรื่องราวซับซ้อนกับเด็กเอาแต่ใจมันไม่ง่ายเลย หนูเข้าใจดีค่ะ แต่ไม่ว่ายังไง หนูก็ไม่กลัวกับความจริง หนูจะรอนะคะ จากนี้หนูจะต้องรู้เรื่องทั้งหมดให้ได้ ถึงแม้จะเจ็บปวด แต่หนูก็จะทนค่ะ”
หนูน้อยยองจูที่ยังคงมีลมหายใจเพื่อรอคอยวันตายรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าพี่สาวคนสำคัญกำลังจะแต่งงาน
…พี่จูฮยอนสวยมาก หนูน้อยเองก็คาดหวังว่าหากตนสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนโตเป็นสาว ก็อยากที่จะสวมชุดเจ้าสาวแบบนี้ด้วยเหมือนกัน
“พี่จูฮยอน…คนไหนเจ้าบ่าวของพี่คะ หนูไม่เห็นเลย”
จูฮยอนหน้าเจื่อนเมื่อถูกถามถึงเจ้าบ่าว แต่เพื่อความสุขของเด็กตัวเล็กๆแล้ว เธอยินดีทำให้ทุกอย่าง
“นายน่ะ มานี่สิ”
ยงฮวาชี้มาที่ตัวเองอย่างมึนงง เขารับโทรศัพท์ที่เธอส่งให้ แล้วจ้องมองดูเด็กน้อยในหน้าจอนั้นด้วยความแปลกใจ
“พอแล้ว เอาคืนมา” จูฮยอนดึงเอาโทรศัพท์กลับคืนมา ขบวนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวใกล้เคลื่อนเข้าสู่ห้องจัดเลี้ยงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว จูฮยอนรู้ว่าเธอไม่ควรเอาแต่พูดคุยโทรศัพท์หรืออวดอะไรต่อมิอะไรตั้งมากมายให้คนไกลได้เห็น แต่เพราะยองจูอยากมาร่วมงานนี้มาก แต่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องปลอดเชื้อ ดังนั้นอะไรที่พอจะทำให้ได้ เธอก็ยินดีที่จะทำให้ทุกอย่าง
“พี่จูฮยอน เจ้าบ่าวของพี่หล่อจัง เขาชื่ออะไรหรอคะ?”
ยงฮวายืนอมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงนั้นดังออกมาจากลำโพงโทรศัพท์ แม้แต่เด็กตัวเล็กๆยังรู้เลยว่าเขาหน้าตาดีมากแค่ไหน
“หล่อหรอ? ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน” จูฮยอนส่ายหน้า ทำเหมือนไม่ให้ความสนใจกับคำชมนั้น ความจริงแล้วยงฮวาก็หน้าตาดีอยู่ แต่คนอย่างเธอไม่มีทางเอ่ยชมคนที่เคยบอกว่าเธอหน้าตาน่าเกลียดอย่างแน่นอน
“พี่ชื่อยงฮวาครับ น้องคนสวยชื่ออะไร บอกพี่ได้ไหม?” อยู่ดีดีเขาก็โผล่มายืนข้างๆ หนูน้อยยองจูยิ้มรับ ในสายตาเด็กน้อยภาพที่เห็นมันสวยงดงามมากเหลือเกิน
“หนูชื่อยองจูค่ะ พี่ยงฮวาคะ พี่จะรักพี่จูฮยอนของหนูตลอดไปเลยใช่ไหมคะ?”
ยงฮวากับจูฮยอนชะงักงัน คำถามของยองจูใสซื่อมากเกินกว่าความเป็นจริงที่ยงฮวากับจูฮยอนกำลังจะต้องเผชิญ
“แน่นอนสิครับ…พี่ต้องรัก…พี่จูฮยอนของยองจูตลอดไปอยู่แล้ว”
จูฮยอนหันขวับ แต่ยงฮวากลับเอาแต่หลบสายตาหนี
“พวกพี่ดูเหมือน…เจ้าหญิงกับเจ้าชายเลยค่ะ”
คำชมของเด็กน้อยทำให้คนสองคนเกือบจะคล้อยตาม เมื่อก่อนตอนที่ยังเด็ก จูฮยอนก็เคยคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง แต่พอได้พบกับยงฮวา ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป
“ยองจู พี่ต้องไปแล้วล่ะ เอาไว้เสร็จพิธีแล้ว พี่จะไปเยี่ยมนะ”
“พาพี่ยงฮวามาด้วยนะคะ บ๊ายบาย”
จูฮยอนปิดโทรศัพท์ก่อนที่จะยืนนิ่ง เมื่อครู่นี้ยงฮวาพูดจริงหรือว่าพูดเพราะอยากให้ยองจูสบายใจกันแน่
“พูดโกหกแบบนี้ไม่เข้าท่าเลยนะ”
“ยองจู…ป่วยเป็นอะไรหรอ?” ยงฮวาถามไม่ยอมมองหน้า เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่จูฮยอนพูด นอกจากวันนี้เจ้าสาวของเขาจะสวยมากแล้ว คนไข้เด็กน้อยของเธอยังทำให้เขาได้พูดในสิ่งที่อยากพูดอีกด้วย
“เป็นเนื้อร้ายในสมอง อีกไม่นาน…เธอก็จะตาย” จูฮยอนเสียงสั่นเครือ รู้สึกผิดที่ช่วยเหลืออะไรยองจูไม่ได้ เด็กคนนั้นมีชีวิตคล้ายๆเธอ ก็คือพ่อกับแม่แยกทางกัน ยองจูในวัยเก้าขวบเหลือพ่อแค่คนเดียว แต่ท่านก็ต้องไปทำงานเพื่อหาเงินมารักษาลูกสาวที่ป่วยหนัก ทุกครั้งที่สองพ่อลูกได้พบกัน ยองจูจะกอดและบอกรักพ่อในทุกครั้ง ภาพนั้นทำให้รู้สึกอบอุ่นน่ารัก แต่ขณะเดียวกันก็เศร้ามากด้วยเหมือนกัน
“….” ยงฮวายืนนิ่งไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงที่ได้พูดคุยด้วยคือคนที่กำลังรอคอยความตาย
“ถ้านายมีเวลาหลังจากนี้ ช่วยไปเยี่ยมยองจูสักครั้งแล้วกันนะ ถ้านายไม่ไป เธอก็จะเอาแต่ถามถึงนายแน่ๆ”
“ผมไปโรงพยาบาลบ่อยอยู่แล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
จงฮยอนกับจุนฮีรับหน้าที่เดินมาตรวจดูความเรียบร้อยของขบวนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะพร้อมหมดแล้ว ดังนั้นตอนนี้ก็น่าจะสมควรแก่เวลาเสียที
“พิธีจะเริ่มแล้วนะครับ พอดนตรีบรรเลง หลังจากนั้น 5 วินาที พี่ยงฮวาควงแขนพาคุณจูฮยอนเข้างานได้เลย”
ยงฮวากับจูฮยอนใจเต้นมากพอๆกันในทันทีที่เพลงบรรเลงดังขึ้นมา ยงฮวาเชื่อว่าทุกอย่างจะราบรื่น หากก้าวแรกของเราสองคนไม่สะดุด
จูฮยอนรู้สึกอายที่ต้องเดินควงแขนยงฮวาเข้างาน เธอรู้สึกสมองตื้อไปหมด หูของเธอไม่ได้ยินอะไรเลยเพียงแค่เข้ามาในงานแล้วเห็นสายตาของทุกคนจ้องมองมาที่เราทั้งคู่
มือข้างที่ว่างกำช่อดอกไม้ไว้แน่น แขนข้างที่คล้องเกี่ยวกันเอาไว้เต็มไปด้วยเหงื่อที่ไม่รู้ว่าเป็นเหงื่อของใคร ยงฮวาเคยได้ยินมาว่าคนเราใช้เวลาแค่ 0.2 วินาทีเพื่อตกหลุมรัก แต่อาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมใครสักคนหนึ่ง สำหรับยงฮวาแล้วเขามั่นใจว่าตัวเองใช้เวลาตกหลุมรักมากกว่านั้นมาก และหลังจากนี้เขาคงไม่สามารถลืมเธอได้เลย เพราะว่าทั้งตัวและหัวใจของเขาเป็นของจูฮยอนไปหมดแล้ว
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกหลุมรักผู้หญิงร้ายๆคนนี้ ขนาดตอนที่คบกับคริสตัล เวลาส่วนใหญ่ที่ชายหญิงสมควรที่จะใช้เรียนรู้ซึ่งกันและกันกลับหมดไปกับการเฝ้าดูจูฮยอน ซึ่งเวลานั้นในสายตาของเขาเธอเป็นเพียงแค่เด็กดื้อไร้เหตุผลคนหนึ่งเท่านั้น
เขาไม่เคยได้รับคำพูดหวานๆ ทุกครั้งที่เคยคิดว่าตัวเองต้องตามติดเธอเพราะคำขอร้องของแม่จูฮยอน สิ่งที่ได้รับมีแต่คำด่าและการกระทำแย่ๆกลับมาทั้งนั้น บางครั้งก็เจ็บตัว บางครั้งก็เจ็บใจ สุดท้ายทุกการกระทำที่ได้รับมันกลับตาลปัตรกลายมาเป็นความรักได้ยังไงก็ไม่รู้
“โดยที่ท่านทั้งสองมีเจตจำนงที่จะสมรสกัน ขอให้ท่านจับมือขวาของกันและกันและแสดง ความสมัครใจ ต่อหน้าพระเป็นเจ้า และพระศาสนจักรของพระองค์”
ยงฮวากับจูฮยอนต่างจับมือกันและกันด้วยความตื่นเต้น เวลานั้นพวกเขาเกือบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามือข้างไหนคือมือข้างขวา
“ผม…นายจองยงฮวาขอรับคุณซอจูฮยอนเป็นภรรยา และขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ทุกอย่างสมจริงไปหมด แม้แต่สีหน้าของยงฮวา ก็ยังทำให้หัวใจของจูฮยอนเต้นรัวแรง
“ดิฉัน…นางสาวซอจูฮยอนขอรับคุณ...จองยงฮวาเป็น…สามี และขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“ความสมัครใจที่ท่านทั้งสองได้แสดงต่อหน้าพระศาสนจักรนี้ ขอพระเจ้าทรงพระเมตตา ทะนุบำรุงให้เข้มแข็ง และประทานพระพรแก่ท่านทั้งสองอย่างอุดมสมบูรณ์เทอญ สิ่งที่พระเจ้าได้รวมไว้ให้ชิดสนิทกัน มนุษย์อย่าแยกออกจากกันเลย อาแมน”
ทุกอย่างรวดเร็วทั้งที่จูฮยอนและยงฮวาคิดว่าพวกเขาสองคนยังไม่ได้หยุดหายใจเลยด้วยซ้ำ เหมือนกับความฝันที่เราต่างสวมแหวนให้กันและกัน
ยงฮวาสวมแหวนของแม่ให้จูฮยอน สืบเนื่องมาจากแหวนสองพันวอนที่จงฮยอนเตรียมไว้ให้เกิดหักคามือ ขณะที่จูฮยอนสวมแหวนสองพันวอนอีกวงให้กับเจ้าบ่าวของเธอด้วยความประหม่า แค่มันไม่หักสองท่อนต่อหน้าผู้คนก็จัดว่าทำให้โล่งใจมากแล้ว จงฮยอนใช้งบประมาณหมดเกลี้ยงจนไม่เหลือเงินซื้อแหวน เป็นไปได้หรือที่เขาจะบกพร่องมากถึงขนาดนี้
แขกเหรื่อร่วมปรบมือชื่นชมยินดีไปกับจุมพิตแสดงความรักของคู่บ่าวสาว ริมฝีปากของจูฮยอนร้อนผ่าว จูบของยงฮวาไม่เหมือนจูบกับกำแพงแน่ๆ ความอับอายยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อจูฮยอนต้องจูบตอบกลับไปทำเอามิยองกับแทยอนถึงกับตาค้าง ชายหนุ่มหลายคนในงานต้องเก็บซ่อนความอิจฉาเพราะถึงจะเคยคบกับจูฮยอนมาก่อน แต่ก็ไม่เคยได้จูบเธอเลยแม้แต่มือก็แทบจะไม่ได้แตะต้อง
“เสร็จงานนี้…นายตายแน่” จูฮยอนขู่อาฆาตด้วยรอยยิ้ม แต่ยงฮวาก็ไม่ได้คิดกลัวเกรง หากจะบอกว่าแมวมีเก้าชีวิต เขาก็คิดว่าตัวเองคงมีเก้าชีวิตด้วยเหมือนกัน
“ทำไม…อายแฟนเก่าหรอ?”
แม้แต่จองชินก็ยังร่วมปรบมือแสดงความยินดีให้ คังมินฮยอกก็ควงคู่พาคริสตัลมาด้วยเหมือนกัน จะมีก็แต่ซูโฮคนเดียวที่ดูห่อเหี่ยวน่าสงสารมากกว่าใคร แต่ยิ่งเห็นเขาหงอย ยงฮวาก็ยิ่งพอใจ เขารู้ว่าคนล้มไม่ควรข้าม แต่ถ้าคนล้มเป็นซูโฮ เขายินดีที่จะรีบเดินข้ามอย่างไม่มีลังเลเลย
จุนฮีปรี่เข้าหาพี่สาวพี่ชาย ขอร่วมเฟรมถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นที่ระลึก
“ไงล่ะเรา ได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวแบบนี้ ใกล้จะได้สละโสดแล้วสินะ”
ถูกพี่ชายพูดแซวทำเอาจุนฮีถึงกับหน้าแดงซ่าน
“ฉันยังไม่มีเจ้าบ่าวเลยค่ะ” จุนฮีกระซิบตอบด้วยความเขินอาย การได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวคือสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนและเธอก็ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ได้รับดอกไม้ด้วย
จูฮยอนไม่ได้โยนช่อดอกไม้ แต่เธอแบ่งดอกไม้ช่อโตออกเป็นสามช่อแล้วมอบช่อดอกไม้ทั้งหมดให้กับคนที่เธออยากเห็นในชุดเจ้าสาว
มิยองกับแทยอนยืนมองช่อดอกไม้แล้วอมยิ้มชอบใจ ทุกอย่างสมจริงและจูฮยอนก็ยอมทำทุกอย่างตามขั้นตอนไม่ได้แตกแถว วันนี้น้องสาวที่น่ารักของพวกเธอเป็นเจ้าสาวที่สวยสมบูรณ์แบบทั้งร่างกายและจิตใจ
“ฉันไปขอนิชคุณแต่งงานเลยดีไหม?”
“ใจร้อนนะเธอ ฉันกลัวว่าเขาจะวิ่งหนีไปจากเธอเลยสิไม่ว่า อย่าทำอะไรห่ามนักเลย”
ทั้งสองสาวหัวเราะคิกคักพากันมีความสุขเหมือนกับว่าคืองานแต่งงานที่พวกเธอเฝ้ารอคอย แต่ก็คงดีกว่าถ้าการแต่งงานในครั้งนี้จะเป็นงานที่ทำให้จูฮยอนมีความสุขได้ทั้งชีวิต เรื่องจริงมันเศร้าเกินไป
หลังเสร็จสิ้นจากพิธีก็มาถึงงานจัดเลี้ยงอาหารค่ำ ซูโฮดื่มหนักจนเมาแล้วก็เริ่มส่งเสียงดัง จนทำให้มิยองกับแทยอนต้องรับอาสาพาเขากลับไปส่งที่บ้าน
“ปล่อยผม!” ซูโฮดิ้นหลุดจากสองสาวมุ่งหน้าเข้าหาศัตรูหัวใจคนสำคัญ ยงฮวาทำให้เขาเจ็บปวดมาก ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากกลายเป็นคนบ้าอยู่แบบนี้
“ซูโฮ! นายเมามากแล้วนะ” จูฮยอนเอ่ยเตือนปนดุ ถ้ารู้ว่ามาแล้วทำให้วุ่นวายแบบนี้ เธอจะไม่ให้จงฮยอนส่งการ์ดไปเชิญเขาตั้งแต่แรก
“เดี๋ยวนี้ออกรับแทนมันแล้วหรอ?” คนเมาถามหน้าแดง
ยงฮวาเห็นท่าไม่ดีรีบดันจูฮยอนเข้าไปด้านหลัง ตัดสินใจที่จะลากพาซูโฮออกมาจากงานเลี้ยงท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย
จูฮยอนอยากตามมาด้วยแต่ก็ต้องยืนยิ้มสู้ดูแลแขกเหรื่อแล้วก็บอกพวกเขาทุกคนว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
“พี่ๆคะ หนูฝากซูโฮด้วย ช่วยพาเขากลับบ้านทีนะคะ”
แทยอนกับมิยองยินดีเป็นธุระให้กับน้องสาว พากันวิ่งกระหืดกระหอบตามยงฮวาออกมาที่หน้างาน
มินฮยอกกับคริสตัลเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดเรื่อง แต่ทั้งสองคนซึ่งเป็นคนดังก็ไม่กล้าที่จะลุกออกจากงาน นอกจากต้องนั่งเป็นผู้ร่วมงานที่ดี เพราะไม่อยากทำตัวเด่นดังให้เกิดข่าวอีก
“ซอจูฮยอน…เธอเสน่ห์แรงไม่ใช่เล่นเลยนะคะ”
“นี่หึงพี่อยู่หรือเปล่า?”
คริสตัลนั่งอมยิ้ม ความจริงแล้วเธออยากขอบคุณซอจูฮยอนด้วยซ้ำที่ช่วยแนะนำหมอเก่งๆแบบลีจองชินให้ ถึงตอนนี้มินฮยอกจะยังไม่เลิกกลัวเรือ แต่จากเหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำให้เราสองคนเข้าใจกัน แถมยังกล้าที่จะเปิดอกพูดคุยกันได้ทุกเรื่องอีกด้วย
“ฉันกลัวก็แค่พี่ยงฮวาจะเข้าใจผิด เพราะตอนนั้น…ฉันมีทัศนคติกับเธอไม่ดีเลยน่ะค่ะ”
“สงสัยว่าเธอจะต้องรอไปอธิบายวันอื่นแล้วล่ะ วันนี้พวกเขาคงไม่สะดวก นี่จ๊ะ กินเยอะๆนะจ๊ะที่รัก”
คู่สามีภรรยาคนดังสวีทหวานกลางงานเลี้ยงแต่งงานสยบข่าวลือเตียงหักเพราะฝ่ายชายหมดรัก สามารถกอบกู้ภาพลักษณ์ที่เคยเกือบจะดิ่งลงเหวของทั้งสองคนได้ในระดับหนึ่ง จากเดิมที่คริสตัลสับสนเพราะเธอไม่ได้อยากจะตั้งท้องแต่อยากที่จะทำงานเพื่อกอบโกยชื่อเสียงในระหว่างที่ตัวเองกำลังขึ้นหม้ออย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายเธอก็ได้พบว่าการได้อยู่กับคนที่เธอรัก ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเขาในทุกวันคือความสุขเหลือล้นและมันก็มีค่ามากกว่าชื่อเสียงเงินทองอีกด้วย
ไม่นานนักยงฮวาก็กลับเข้ามาในงาน และสภาพของเขาก็ดูปกติสมบูรณ์ดีทุกอย่าง ก่อนหน้าจูฮยอนแอบกลัวว่าซูโฮจะก่อเรื่องหรือทำให้ยงฮวายิ่งต้องเดือดร้อน แต่เห็นเขากลับเข้ามาได้ เธอก็โล่งใจ
“ซูโฮกลับไปแล้วใช่ไหมคะ?”
คำแรกที่เอ่ยถามกลับเป็นคำถามเกี่ยวกับอดีตแฟน ยงฮวารู้สึกน้อยใจเต็มกลืน แต่ก็ต้องอดทนเหมือนกับที่ผ่านๆมา
“นายซูโฮปลอดภัยดี ผมไม่ได้แตะต้องเขาเลยแม้แต่ปลายเล็บ แต่ถ้าครั้งหน้าเขาเมาแล้วก็ก่อเรื่องอีก ผมไม่รับประกันว่าจะยอมอยู่เฉยเหมือนวันนี้หรอกนะ”
จูฮยอนเชิดหน้ารับคำขู่ บางทีเขาก็ชอบยั่วให้เธอโมโห จะบอกว่ายอมให้กันตลอดก็คงไม่ใช่ ยงฮวาเคยบอกว่าเกลียดเธอด้วย เขาบอกว่าไม่ชอบทุกอย่างที่เป็นเธอ แล้วเธอก็ไม่ใช่คนที่เขาอยากจะมอง, เธอเกลียดเขาเพราะคิดว่าเขาเข้ามาแย่งทุกอย่างไปจากเธอ ส่วนยงฮวาคงเกลียดเธอเพราะว่าพ่อของเขาต้องมาจากไปด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“นายคงรู้สึกแย่ที่ฉันทำให้ประวัติเพอร์เฟคของนายต้องด่างพร้อย แต่วัตถุโบราณสมัยโชซอนอย่างนายเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งชาติ ต่อให้หลุดรอดจากฉันไปได้ ก็คงมีผู้หญิงอีกมากมายมารอรุมทึ้ง ฉันขอให้นายอดทนจนกว่าจะจบงานนี้แล้วกัน หลังจากนี้เราสองคนก็ต่างคนต่างอยู่ ฉันจะไม่อยู่บ้านแม่อีกแล้ว นายจะได้สบายใจ”
“คิดจะทำอะไรของคุณอีก!?” ยงฮวาตกใจที่รู้ว่าจูฮยอนจะย้ายออก เธอไม่ควรทำแบบนั้น เขาไม่เข้าใจว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ในพินัยกรรมระบุให้เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ห้ามให้ฉันย้ายออกนี่”
“นี่คุณ…ไม่คิดว่าเหตุผลมันน้อยกว่าอายุไปหน่อยหรอ”
“เราสองคนอยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยาร่วมโลกไง แค่นี่แหละที่ฉันอยากจะบอก”
“แต่บ้านนั้น…เป็นบ้านของคุณนะ” ข้อแก้ตัวของจูฮยอนไม่เข้าท่า และยงฮวาก็คิดว่าเธอไม่จำเป็นจะต้องย้ายออกจากบ้านของตัวเอง
เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีอะไรที่เป็นของเธออีกแล้ว ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ยงฮวากับพ่อของเขาสร้างขึ้นมาทั้งนั้น
“จบงานแล้วฉันขอแค่ไดอารี่เล่มเดียว นอกนั้นฉันไม่อยากได้อะไรอีก ส่วนบ้านที่นายออกค่าใช้จ่ายช่วยซ่อมให้ ฉันจะเก็บเงินมาใช้คืนให้นายโดยเร็วที่สุด”
“….” อยู่ดีดีจูฮยอนก็เปลี่ยนไป เธอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนทำให้ยงฮวารู้สึกว่าเขาวิ่งไล่ตามเธอไม่ทันอีกแล้ว
“ผมไม่เคยคิดอยากได้อะไรเลยเหมือนกัน ผมต้องการแค่… ” ยงฮวากำลังจะอ้าปากพูดให้จบประโยค หากแต่จงฮยอนกลับวิ่งตรงมาหาเราทั้งสองคนเสียก่อน
“อยู่ที่นี่กันนี่เอง ไปเถอะครับ ได้เวลาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้ว”
“ไม่มีการส่งตัวอะไรทั้งนั้นค่ะ จบงานเลี้ยงก็คือจบ” จูฮยอนพูดแย้งหน้าตึง ทว่าสิ่งที่เธอคิดเองเออเอง ไม่ใช่สิ่งที่จงฮยอนจะยอมรับได้
“ถ้าไม่มีการเข้าหอ ทุกอย่างก็จะสูญเปล่า คุณไม่เชื่อผมไม่เป็นไร ตามใจคุณก็แล้วกัน”
เป็นครั้งแรกที่จงฮยอนแสดงความไม่พอใจออกมา ทั้งที่ก่อนหน้าเขามักจะใจเย็นอยู่เสมอ
“….” จูฮยอนยืนอึ้งพูดไม่ออก จะว่าโมโหก็โมโห แต่ในเมื่อจงฮยอนยืนยันว่าเธอจะต้องทำทุกอย่างให้ครบทุกขั้นตอน ดังนั้นเธอก็จะทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการเพียงเพราะหวังอยากได้แค่ไดอารี่ของแม่
คู่บ่าวสาวถูกพากลับมาที่บ้านหลังจากที่แขกเหรื่อที่มาร่วมงานพากันกลับไปหมดแล้ว พิธีส่งตัวเหลือเพียงแค่คนสนิทและญาติไม่กี่คน นอกจากจูฮยอนกับยงฮวาแล้ว ก็มีแค่จุนฮี จงฮยอนและพ่อของเขา
พ่อของจงฮยอนรับหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวสู่ประตูแห่งความรัก ห้องนอนที่จูฮยอนยึดมาจากยงฮวาถูกจัดเตรียมไว้เป็นห้องหอ บนเตียงนอนหลังใหญ่มีกลีบกุหลาบสีแดงจัดเรียงร้อยเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่ ผ้าปูที่นอนสีขาวเรียบตึงแลดูสะอาดสะอ้านและประณีตมากไปกว่าที่เคย
หลังจบคำอวยพรของชายชรา ประตูห้องหอก็ถูกปิดลงอย่างแน่นหนา จงฮยอนคล้องกุญแจพวงใหญ่ปิดหมดทั้งประตูและหน้าต่าง จุนฮีตกใจเป็นอย่างมาก แต่จงฮยอนยืนยันว่าเขาต้องทำ เพราะถ้าไม่ทำ สองคนนั้นไม่ใครก็ใครคนใดคนหนึ่งจะต้องแอบหนีออกจากห้องหออย่างแน่นอน
“พี่จงฮยอน นี่ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยหรอคะ?”
“คุณชเวอินฮวาสั่งเอาไว้ พวกเขาต้องทำทุกอย่างให้เหมือนกับคู่แต่งงานทั่วไป พี่เองก็ไม่อยากบีบบังคับพวกเขาหรอก แต่คนเราแต่งงานกันแล้ว แล้วทำไมจะนอนร่วมห้องเดียวกันไม่ได้”
จุนฮียืนฟังหน้าซีด เหมือนจะเข้าใจ แต่อีกใจก็หวั่นกลัวว่าพี่สาวกับพี่ชายจะต้องพากันอึดอัด
“ถ้าไม่ใช่พี่ยงฮวา ฉันจะไม่ยอมให้พี่ทำแบบนี้แน่ๆค่ะ”
“เข้าใจพี่เถอะนะ เห็นใจพี่หน่อย อีกไม่นาน เรื่องมันก็จะจบแล้วล่ะ”
จูฮยอนเดินวุ่นไปทั้งห้อง เหตุก็เพราะทั้งประตูหน้าต่างถูกปิดล็อคแน่นหนาเหมือนกับมีใครเอาโซ่มาล่ามไว้ไม่มีผิด
“ทำไงดี เปิดไม่ออกเลยซักบาน”
“แล้วถ้ามันเปิดได้ คุณจะกระโดดหน้าต่างลงไปหรือไง”
“ฉันไม่โง่ที่จะกระโดดลงไปให้แข้งขาหักหรอก ใช้สมองสิ เคยดูละครไหม ใช้ผ้าปูที่นอนไต่ลงไปก็ได้”
ยงฮวาส่ายหน้าด้วยความระอา วันนี้เขาเหนื่อยมาแล้วทั้งวันกลับยังต้องมาทนฟังคุณหมอจูฮยอนพูดเล่นราวกับกำลังดูหนังการ์ตูน
“พักผ่อนสมองได้แล้วคุณ ไปอาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวผมอาบทีหลัง” พูดจบ ยงฮวาก็ทิ้งร่างนอนแผ่บนเตียงนอน จูฮยอนตาโตรีบฉุดให้เขาลุกกลับขึ้นมา ที่นอนสำหรับจองยงฮวาต้องไม่ใช่บนเตียงแล้วเขาก็ไม่มีสิทธิ์มานอนบนนี้ด้วย
“ลุกขึ้นมา ไปนอนโซฟาโน่นเลย” จูฮยอนเหวี่ยงหมอนใบโตไปยังโซฟา ยงฮวาลุกขึ้นมานั่ง ก่อนที่จะถอยหายใจเฮือกใหญ่
“คุณคงลืมว่าเราสองคนแต่งงานกันแล้ว ผมเป็นสามีคุณ คุณเป็นภรรยาของผม แล้วทำไมผมจะนอนบนเตียงนี้ไม่ได้” ยงฮวาลอยหน้าทักท้วงสิทธิ์แก้มแดง ทั้งหน้าและเนื้อตัวของเขาร้อนผ่าวมากพอๆกับคนฟังที่ถึงกับโกรธจนแทบจะควันออกหู
“ไม่ได้ ฉันไม่ให้นอน นายมีปัญหาหรอ! ลุกมาเดี๋ยวนี้เลย ลุกออกจากเตียงของฉันเดี๋ยวนี้นะ!” จูฮยอนออกแรงฉุดลากยงฮวาเต็มที่ แต่เขากลับหนักอึ้งสมกับเป็นวัตถุโบราณอย่างไรอย่างนั้น ยอมให้ยื้อยุดฉุดลากมาได้พักใหญ่ ก็ถึงคราวที่ยงฮวาจะสำแดงฤทธิ์เสียที
“ว้าย!!”
ยงฮวาฉุดร่างบางลงมานอนบนเตียงกว้าง ถือโอกาสที่จะทาบทับร่างบาง แล้วจ้องมองดูจูฮยอนทั้งที่ใจกำลังสั่นระรัวอย่างหนัก
จูฮยอนกลัวจนใจหายใจคว่ำ แต่เธอก็สามารถตั้งสติได้รวดเร็ว ถึงกลัวแต่ก็ตีหน้าทำกล้าเก่ง วัตถุโบราณอย่างยงฮวาหรือจะสู้เธอได้
“นายตบะแตกวันละสามเวลาเลยนะ หัดควบคุมตัวเองบางสิ ปากบอกไม่ แต่การกระทำน่ะ ร้ายกาจนักเชียว”
ยงฮวากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ถูกจูฮยอนดักทางจนมือไม้และเนื้อตัวอ่อนยวบ จูฮยอนพูดถูกว่าตอนนี้เขาเหมือนคนที่พร้อมจะตบะแตกได้ทุกเมื่อ ทั้งรักทั้งหึงหวง ทุกอย่างมันตีพันกันมั่วจนทำให้เขารับมือกับมันไม่ค่อยไหว
“แล้วทำไม ผมมีสิทธิ์ไม่ใช่หรอ”
“….” จูฮยอนอึ้ง แต่ก็ตั้งสติรีบผลักยงฮวาออกโดยเร็ว ร่างบางลุกขึ้นมานั่งจ้องมองยงฮวาอย่างตัดรอน ยิ่งเข้าใกล้เขา เธอก็พบว่าเขายิ่งน่ากลัวขึ้นทุกที
“รีบไปอาบน้ำได้แล้ว ดูสิ ได้ดูกระจกบ้างไหมว่าหน้าของคุณมันหนาขึ้นมากี่มิลลิเมตร แต่งหน้าซะหนาเชียว อีกไม่นานทุกอย่างมันก็จะไหลเยิ้มลงมากองจนเหมือนผี เวลาปิดไฟคงสยองน่าดู ช่วยเห็นใจผมด้วยเถอะ”
จูฮยอนเอามือลูบหน้าตัวเองอย่างตกใจ นายจองยงฮวาปากคอช่างเราะร้าย ดูเขาพูดเข้าสิ หาว่าเธอเอาปูนมาโบกฉาบหน้าหรือไง พูดจาน่าเกลียดไม่เข้าหู คนอุตส่าห์แต่งหน้าซะสวยจนมีแต่คนพูดชมกันทั้งงาน
แต่ในเมื่อไม่ชอบ จูฮยอนก็จัดให้ได้ในทุกสิ่ง ต่อให้ต้องแก่ลงเพราะไม่ยอมล้างเครื่องสำอาง เธอก็ยอมแล้วคราวนี้
อยู่ดีดีเจ้าสาวแสนสวยของยงฮวาก็นอนแผ่กางแขนกางขาบนเตียงนอนก่อนที่จะหลับตาพริ้มไม่เหลือคราบกุลสตรี ยงฮวาถึงกับนั่งมึนเป็นไก่ตาแตก หากแต่จะว่าไปแล้วพฤติกรรมประชดประชันแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“มานอนเลยมา…แต่ต้องขอโทษด้วยนะ วันนี้ฉันไม่อยากอาบน้ำแล้วล่ะ” จูฮยอนไม่ได้พูดปากเปล่า แต่เธอยังฉุดดึงให้ยงฮวามานอนเคียงข้าง การกระทำสุดห่ามที่ทำให้ยงฮวาเกือบจะหัวใจวายตายก็คือ เธอตั้งใจใช้อกของเขาหนุนนอนแทนหมอน
หัวใจของจองยงฮวากำลังเต้น จังหวะหัวใจของเขาแปลก มันเต้นเร็วจนทำให้รู้สึกกลัว
“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก เราต้องเริ่มอย่างช้าๆ ฉันคิดว่า…นายเองก็รู้จักฉันระดับหนึ่ง ถ้าจำเป็นจะต้องรู้จักกันให้ดีมากยิ่งขึ้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“พูดอะไรของคุณ…ออกไปให้ห่างจากผมเลย” ยงฮวาเสียงสั่น เนื้อตัวของเขาแข็งทื่อไปหมดจนแทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้
จูฮยอนกลั้นขำ ยิ่งรู้ว่าตัวเองมาถูกทาง เธอก็ยิ่งได้ใจ จงใจปั่นป่วนคุกคามวัตถุโบราณให้หนักมากขึ้นอีก เพราะย่ามใจว่าคนอย่างยงฮวาไม่มีทางทำอะไรเธอแน่นอน
“ทีอย่างนี้มาทำเป็นไล่กัน ฉันอยากรู้จริงๆว่าในหัวใจของนายมันประกอบไปด้วยอะไรบ้าง” นิ้วเรียวจิ้มลงบนอกข้างที่หัวใจสีแดงสดกำลังเต้นและสูบฉีดอย่างหนัก แม้แต่เรียวเล็บของเธอก็ยังสวยงามและน่าหลงใหล
จูฮยอนคนอวดเก่งนอนเท้าคางจ้องมองสบสายตากับวัตถุโบราณสมัยโชซอนตาใส เธออับอายตัวเองมาก แต่กลับต้องลงทุนทำในสิ่งที่คิดว่าไม่สมควรที่จะต้องทำเลย
“ฉันจะบอกอะไรให้ ว่าความจริงแล้วฉันไม่ชอบอาบน้ำ ถ้ามีเหงื่อออก เต่าของฉันก็จะส่งกลิ่นแรงจนทำให้นายอาจจะอ้วกได้”
ไม่ต้องมีกลิ่นอะไรออกมา ก็ทำให้ยงฮวาถึงกับแทบจะเป็นลมตายคาเตียงแล้ว จะมีผู้หญิงบ้านไหนบอกกับผู้ชายแบบนี้บ้าง นี่เป็นสิ่งที่เขาเกินจะรับไหวจริงๆ
“ตอนกลางคืนฉันอาจจะนอนละเมอแล้วก็ทำมิดีมิร้ายนายได้ ฉันอาจคิดว่านายเป็นกระสอบทราย เตะต่อยแล้วก็กัด…, นี่ฉันก็ไม่ได้หน้าหนาที่จะพูดเรื่องนี้โดยที่ไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ แต่ฉันคิดว่านายควรที่จะรู้ไว้”
“แล้วหมด…หมดหรือยัง?” ยงฮวากัดฟันถามเสียงสั่น เวลานี้เขายอมยกธงขาวให้จูฮยอนแต่โดยดีแล้ว
“ฉันนอนน้ำลายไหล แล้วก็อาจจะผายลมเสียงดัง ยังมีอะไรอีกนะ… มีแต่เรื่องน่าอายทั้งนั้น แน่ใจหรอว่าจะให้ฉันบอกกับนายจริงๆ จะบอกอะไรให้ว่าสาเหตุพวกนี้แหละที่ทำให้ฉันต้องเลิกกับผู้ชายที่เคยคบด้วยทั้งหมด เบื้องหน้าที่นายว่าน่าเกลียดแล้ว เบื้องหลังเนี่ยหนักจน…ไม่มีใครทนฉันได้เลยสักคน มันเศร้านะ นายว่าไหม”
**********************************100%**********************************
Merry Christmas นะคะทุกคน
พระเอกของเราช่างแสนดี๊แสนดี นางเอกไม่รักให้รู้ไป อิอิ
อย่าลืมคอมเม้นท์ให้กันนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จัดการเลย!!!!!
ยงถึงเวลาจิงๆก้ไม่กล้าตลอด 5555
แต่อะไรคือจบหักมุมละคะ 5555 ถ้าเจ้าสาวจะซกมกแบบนี้ ยงฮวาไม่ทนนนนน 555
น้องซอรู้ดีว่าตลอดเวลายงดีแค่ไหน แต่ปากหนักทั้งคู่ โอ๊ยยย ลุ้นต่อ
แต่โดนล๊อกห้องแล้วววว หมดกัยคุณหมอคนสวย พูดแต่ละอย่าง
น้องซอจัดการซะอยู่หมัดเลย 555
จะได้ลดอคติกับยงลงบ้าง
อยากจะเป็นลมแทนพ่อพระเอกเสียจริง
ปล.ไรเตอร์สู้ๆคะ