ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    >>เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกาหลี<<

    ลำดับตอนที่ #82 : ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.27K
      0
      5 เม.ย. 50

    ภาคตะวันออกเฉียงใต้
    ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลี เป็นภาคที่ร่ำรวยที่สุดของเกาหลี เมืองหลักอยู่ในภาคนี้และมีร่องรอยอารยธรรมอันงามสง่าของอาณา จักรชิลล่า และเคียงจู พูซาน และแทกู


    แทกู และบริเวณใกล้เคียง
    แทกู
    แทกู[
    คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D1] เป็นศูนย์กลางการทอผ้าของเกาหลี เป็นหนึ่งในเมืองที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ฟีฟ่า ปี ค.ศ.2002 เป็นศูนย์กลางตลาดพืชสมุนไพรต่าง ๆ ที่ใช้ทำยาของชาวตะวันออกที่มีสถานพยาบาลแบบตะวันออกมากถึง 300 แห่ง ร้านขายยาสมุนไพร และร้านปรุงสมุนไพรรวมอยู่ด้วย หอคอยสูงวูบังตั้งตระหง่านมองเห็นวิวที่สวยงามของเมือง

    ภูเขาพัลกงซาน[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D2] ตั้งตะหง่านอยู่เหนือตัวเมือง

    วัดชิกชีซา
    ก็น่าชมเช่นเดียวกัน วัดนี้ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแทกู และท่านสามารถเดินทางโดยใช้ทางออกคิมชอนของทางด่วนเคียงบู วัดนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง เนื่องจากมีกระเบื้องหลังคาสีน้ำเงินและเสาหินที่หน้าประตูใหญ่ที่เก่าแก่อายุ 1,000 ปี พระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ 1,000 องค์

    วัดแฮอินซา
    วัดแฮอินซา[
    คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D4]  เป็นวัดที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศเกาหลี ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติ คายาซาน สร้างขึ้นใน ค.ศ.802 เป็นที่เก็บรักษาศิลปะวัตถุจำนวนมากในอาคารทั้งหมด 90 อาคาร
    (ศาลเจ้า กุฎิ และอาคารย่อยต่าง ๆ) แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้แตกต่างจากวัดอื่นคือ เป็นสถานที่เก็บรักษาแผ่นไม้แกะสลักสำหรับพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับเกาหลีจำนวน 80,000 แผ่น นับเป็นการรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่สมบูรณ์ที่สุดในเอเซียตะวันออก

    แผ่นไม้เหล่านี้ทำขึ้นในปี ค.ศ.1251 เพื่อเป็นการร้องขอให้พระพุทธเจ้าคุ้มครองประชาชนในช่วงที่กองทัพมองโกเลียกำลังรุกรานประเทศ ในปัจจุบันแผ่นไม้เหล่านี้ยังอยู่ในสภาพดีและเป็นหลักฐานในการรวบรวมและเผยแพร่พระคัมภีร์ในพุทธศาสนาที่น่าเชื่อถือที่สุด

    ในปี ค.ศ.1995 องค์การยูเนสโก้ได้จัดให้แผ่นไม้แกะสลักพระไตรปิฎก หรือชางเกียง พันจอน เป็นหนึ่งในมรดกอันมีค่าของโลก

    อันดง
    อันดง[
    คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D5 เป็นแหล่งที่มีวิถีชีวิตแบบเกาหลีสุดท้ายแหล่งหนึ่งในสมัยโบราณให้ได้สัมผัส ซึ่งเปรียบได้กับหีบสมบัติแห่งลัทธิขงจื๊อ สิ่งที่ประทับใจนักท่องเที่ยวทุกคนคือ บ้านของผู้สูงศักดิ์ ในสมัยโบราณหรือยางบาน สมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 2 ทรงเสด็จประพาสอันดงในเดือนเมษายน ค.ศ.1990 ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบรอบ 73 พรรษา ระหว่างเสด็จเยือนเกาหลีอย่างเป็นทางการ 4 วัน

    วัดบงเจียงซา
    ได้ชื่อว่าเป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศ มีห้องโถงใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการก่อสร้างในต้นราชวงศ์โชซอน

    วิทยาลัยขงจื๊อ โทซาน
    สร้างขึ้นโดยปราชญ์ชื่อ โทเก อีฮวาง ในศตวรรษที่ 16 อยู่ในอันดง


    หมู่บ้านฮาฮวย
    เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งประกอบด้วยบ้านมุงหลังคาด้วยฟางและบ้านมุงหลังคากระเบื้องยางบาน บ้านผู้สูงศักดิ์ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงจากการแสดงพิเศษ ระบำหน้ากาก เรียกว่า ฮาฮวย เบียวชินกุท ทาวโนริ




    อาณาจักรศิลปินจีเร
    จัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1988 เป็นอาณาจักรสำหรับให้ศิลปินและนักเขียนได้สรรค์สร้างงานศิลป์ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ปัจจุบันอาณาจักรแห่งนี้เปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวจากที่ต่าง ๆ ได้มาสัมผัสกับความสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมของครอบครัวนักปราชญ์ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ในช่วงพิธีเจซา
    ซึ่งเป็นพิธีระลึกถึงบรรพบุรุษที่จะมีปีละสิบครั้ง นักท่องเที่ยวจะได้เห็นพิธีการบูชาบรรพบุรุษของชาวเกาหลี หากได้จองทัวร์ไว้ ไกด์จากอาณาจักรจะรอพบคณะนักท่องเที่ยวที่สถานีรถไฟอันดง และถ้าไปถึงสถานีก่อนเวลาบ่ายสามโมง ก็อาจได้เห็นทิวทัศน์ยามอาทิตย์อัสดงที่สวยงาม ที่อาณาจักรนี้มีห้องพักอนดอล (ห้องที่พื้นห้องมีการปรับอุณหภูมิให้อุ่นและมีเสื่อและเครื่องนอนแบบเกาหลี) 14 ห้อง ค่าบริการราคาท่านละ 34,000 วอน รวมอาหารเช้าและอาหารเย็น

    วัดพูซกซา
    ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันกับยงจู เป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึงในประเทศเกาหลี








    อุทยานแห่งชาติเขาจูวังซาน
    ตั้งอยู่ทางทิศใต้ปลายทางหลวงที่วิ่งตามแนวฝั่ง เป็นสถานที่ที่หลบหลีกจากประชากรหนาแน่น เมืองชายฝั่งยองด๊อก ซึ่งอยู่ใกล้กับอุทยานมีอาหารทะเลสด ๆ และปูตัวใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากใกล้กับเมืองเคียงจู ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกมีเมืองอุตสาหกรรม เช่น โพฮัง และอุลซาน


    เมืองอุลซาน
    เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทรถยนต์ฮันได (Hyundai Motor Company) และบริษัท ฮึนไดเฮฟวี่อันดัสตรีส์ (Hyundai Heavy Industries) นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมบริเวณนี้ได้โดยมีการบรรยายภาษาอังกฤษเกี่ยวกับความเป็นมาของบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลี

    เคียงจู
    เคียงจู เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรชิลลาเป็นเวลา 1,000 ปี ในหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของ เคียงจู นั้นก็มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงวัดและโบราณวัตถุมากมายหลังจากอาณาจักรชิลลาได้รวบรวมดินแดนต่าง ๆ บนคาบสมุทรเกาหลีเข้าไว้ด้วยกันใน ค.ศ.676 เมืองเคียงจู ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งในโลก บริเวณนี้จึงได้ชื่อว่า "พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง" เนื่องจากมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญ ๆ มากมาย

    อุทยาน ทูมูลี
    เป็นสุสานหลวงจากอาณาจักรชิลลา ก่อนการรวมประเทศในใจกลางเมืองเคียงจู ประกอบด้วยสุสาน 23 แห่งจากทั้งหมด 200 แห่งที่พบในเคียงจู ได้มีการขุดค้นสุสานชนมาชอง (สุสานม้าสวรรค์) ใน ค.ศ.1974 และพบทรัพย์สมบัติมีค่าถึง 10,000 ชิ้น หนึ่งในของมีค่าเหล่านั้นคือ มงกุฎทองและเข็มขัดซึ่งปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจู นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมสุสานดังกล่าวเพื่อให้ได้เห็นลักษณะการก่อสร้างสุสานและการจัดวางทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ภายในสุสาน นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ สุสานที่สงบร่มรื่นยังเหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย


    หอดูดาว ชมซงแด
    จัดเป็นหอคอยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและยังปรากฎให้เห็นจนทุกวันนี้ มีลักษณะเป็นรูปขวด สร้างด้วยหินในศตวรรษที่ 7 และเป็นที่ชื่นชมของนักโบราณคดีทั่วโลก เชื่อกันว่าทางเข้าหอคอยคือหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งหันไปทางใต้ตรงกลาง หอคอยและต้องใช้บันไดพาด



    สระอันอั้บจิ
    อยู่ห่างจาก ชมซงแด ไปเพียงสิบนาที ในสมัยอาณาจักรชิลลา สระแห่งนี้เคยเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของพระราชวงศ์ ใน ค.ศ.1974 ได้มีการวิดน้ำออกจากสระ และได้ค้นพบหีบสมบัติซึ่งเต็มไปด้วยโบราณวัตถุจาออาณาจักรชิลลา ปัจจุบันนี้โบราณวัตถุดังกล่าวถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมือง เคียงจู

    พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจู
    พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจู เป็นสถานที่ที่ควรแก่การไปเยี่ยมชมอย่างยิ่ง เนื่องจากเต็มไปด้วยโบราณวัตถุต่าง ๆ จากอาณาจักรชิลลา ไม่ว่าจะเป็นมงกุฎทองคำที่งดงาม เครื่องปั้นดินเผา รูปปั้นทำจากหินและโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เก็บรักษาระฆังแห่งพระเจ้าซงดกมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ หรือที่เรียกว่า "ระฆังเอมิลเล่" นับเป็นระฆังที่ใหญ่และมีเสียงดังกังวาลมากที่สุดใบหนึ่งในเอเชีย ระฆังนี้ทำจากทองสัมฤทธิ์หนัก 19 ตัน และมีความสูง 11 ฟุต นาที

    วัดพูลกุกซา
    วัดพูลกุกซา เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดวัดหนึ่งในประเทศเกาหลี เนื่องจากแสดงถึงฝีมือของสถาปนิก สมัยชิลลาและความเชื่อในพุทธศาสนาในสมัยนั้นอย่างแท้จริง แต่เดิมเมื่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ.535 มีทั้งสิ่งก่อสร้างที่เป็นไม้และเป็นหิน แต่ปัจจุบันนี้คงเหลือแต่สะพานบันได และเจดีย์ที่ทำจากหิน ได้มีการบูรณะวัดนี้เมื่อ ค.ศ.752

    ถ้ำซ็อกคูรัม
                                                                                                                                                           














     
    ถ้ำซ็อกคูรัม เป็นศาสนสถานในศาสนาพุทธที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งมีอายุเก่าแก่และโบราณพอ ๆ กับวัดพุลกุกซา และมีการแกะสลักขึ้นในสมัยชิลลาเช่นเดียวกัน ศาสนวัตถุที่ถูกประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ ได้แก่พระพุทธรูปขนาดใหญ่ตรงกลาง สายพระเนตรทอดสู่ป่าเขาผ่านทะเลตะวันออกไปถึงขอบฟ้า พระพุทธรูปนี้ถูกล้อมรอบด้วยรูปปั้นของพระโพธิสัตว์และเทพยดาที่ช่วยปกปักรักษา ส่วนผนังถ้ำซึ่งเป็นรูปทรงโดมทำจากหินแกรนิตก็มีการสลักลวดลายอันวิจิตร นับเป็นอัจฉริยภาพทางสถาปัตยกรรมในปี ค.ศ.1995 องค์การยูเนสโกได้จัดให้วัดพุลกุกซา และถ้ำซ็อกคูรัม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของโลก


    เนื้อหาเยอะหน่อยนะค่ะ ที่เที่ยวเยอะจัง ^^ บางที่ก็ตัดไปบ้างนะค่ะ









    ************************************************************************************

    เครดิต  www.kto.or.th

    เม้นให้หน่อยนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ









     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×