คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Episode 5 : เดี๋ยวพี่ไปส่ง [ 100% ]
5
เดี๋ยวพี่ไปส่ง
ณ ร้านอาหารใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง
บรรยากาศในร้านดูเงียบสนิท มีเพียงแต่เสียงเพลงที่ถูกบรรเลงออกมาอย่างไพเราะ
โต๊ะที่เราสองคนนั่งก็เป็นโซนในสุดและห่างไกลจากผู้คนสุดๆเหมือนโซนนี้ถูกจองเพื่อให้ฉันโดยเฉพาะ
ดูมีความเป็นส่วนตัวดีเหมือนกัน
“ ชอบไหมครับ ”
พี่ซิวเวอร์เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มก่อนจะส่งแก้วน้ำมาให้ฉัน
มันเป็นร้านอาหารตามสั่งที่ดูเรียบง่าย มองไปรอบร้านแล้วรู้สึกสบายตาดี
“ ชอบค่ะ ชอบมากๆเลยค่ะ ”
“ ชอบแค่ร้านอย่างเดียวหรอ ”
“ ก็... ” ฉันถึงกับชะงักไปเลยทีเดียวพอเจอคำถามนี้ ฮือๆ อย่าส่งสายตาแบบนั้นและรอยยิ้มน่ารักแบบนั้นมาได้ไหม
ฉันไปไม่เป็น ตอบไม่ถูกแล้วนะ “
ชอบอาหารด้วย ”
“ แล้วคนพามาละ ชอบไหม? ”
“ ไม่ได้ชอบ ”
“ ...! ” พี่ซิวเวอร์ถึงกับเหวอไปในทันทีที่ได้ยิน
ก่อนที่ฉันจะหลุดขำออกมาแล้วพูดต่อ
“ แต่รักเลย ”
ฉันเอ่ยตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะเห็นสีหน้าของพี่เขาที่เปลี่ยนไป
ก่อนที่ซิวเวอร์จะหลุดยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจในคำตอบของฉัน
“ รักจริงเปล่า ”
“ ก็ต้องรักคนที่เลี้ยงฝันอยู่แล้ว ”
“ นี่ถ้าพี่ไม่เลี้ยงเราก็ไม่รักใช่ไหมเนี่ย ”
ซิวเวอร์เอ่ยตอบฉันอย่างขำๆ ตอนนี้หลายสายตาภายในร้านเริ่มจับจ้องมาที่พวกเราสองคนในระยะไกล
ดีนะที่คนในร้านไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่งั้นคงวุ่นวายกว่านี้แน่ๆ
“ พี่เลือกโซนได้ดีจัง ไม่มีใครมานั่งแถวโซนเราเลย
”
“ อ่อ พี่ขอปิดโซนนี้เพื่อน้องน่ะ ”
“ หะ!? จะ...จริงหรอคะ ” ฉันเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้
“ พี่ต้องการความเป็นส่วนตัวกับเรา แล้วก็... ”
ซิวเวอร์เอ่ยอธิบายเหตุผลของเขาให้ฉันฟัง
“ ... ”
“
ไม่อยากให้เราเป็นข่าวและก็วุ่นวายเหมือนตอนนั้นด้วย ”
ฉันฟังเหตุผลของเขาแล้วก็คิดตาม ก็จริงอย่างที่เขาว่าอย่างน้อยก็จะได้ไม่วุ่นวาย
ส่วนเรื่องข่าวนี่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะไม่เป็นข่าว
จากเท่าที่เห็นก็มีหลายสายตาจากระยะไกลจ้องมองมาเหมือนกัน
บางคนก็อาจจะแอบถ่ายไปลงเป็นข่าวได้ ตัวฉันน่ะไม่เท่าไหร่หรอก
แต่พี่ซิวเวอร์นี่สิ...น่าจะเจอหนักอยู่
“ คือ...พี่ซิวเวอร์ มันก็ไม่วุ่นวายก็จริง
แต่เรื่องข่าว... ” ฉันเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหันไปมองรอบๆร้าน
ทำให้ซิวเวอร์ที่เห็นแบบนั้นก็หันไปมองด้วย ทุกสายตาที่กำลังจ้องมองมาที่เราอยู่ เมื่อเห็นเรามองกลับก็รีบหันหน้าหนีเปลี่ยนสายตาไปมองทางอื่นในทันที
“ พี่เข้าใจแหละ ไม่ต้องกังวลนะพี่จะปกป้องเราเอง
”
“ ปกป้องตัวเองก่อนดีกว่าไหมพี่
ตัวฝันไม่เป็นไรหรอก ”
“ พี่ขอโทษนะที่ทำให้เราเป็นข่าว ” พี่ซิวเวอร์เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด
“ ไม่เป็นไรค่ะ ฝันชินกับการเป็นข่าวแล้ว ”
ฉันเอ่ยตอบกลับเขาพร้อมรอยยิ้ม ไม่อยากให้เขาเครียดหรือเป็นกังวลเพราะเรื่องของฉัน
อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ผิดอะไรสะหน่อย
“ ไว้คราวหน้าพี่จะสั่งปิดร้านนะ ” เขาเอ่ยบอกกับฉันพร้อมรอยยิ้ม
“ อันนั้นก็เกินไป ” ฉันเอ่ยตอบไปอย่างขำๆ
แล้วทานอาหารตรงหน้าต่อในทันที โดยไม่สนใจสายตารอบข้าง ช่างเถอะ
จะเป็นข่าวก็เป็นไป
เดี๋ยวข่าวมันก็ซาลงเองแหละ
[ Silver Part ]
ผมแอบรู้สึกผิดเหมือนกันนะที่ทำอะไรไม่ค่อยรอบคอบเลย รู้แบบนี้น่าจะสั่งปิดร้านไปเลยก็ดี
จะได้ไม่ต้องถูกจ้องมองเยอะขนาดนี้
ปิดโซนอย่างเดียวคงไม่พอสำหรับน้องในตอนนี้ที่กำลังอยู่ในช่วงเป็นที่จับตามองเป็นข่าวอยู่
ตอนแรกผมกะจะพาน้องไปโรงหนังดูหนังด้วยกันต่อ
แต่คิดไปคิดมาไม่ดีกว่า
พาไปดูหนังที่บ้านผมเนี่ยแหละ
วันนี้ไม่มีคนอยู่บ้านด้วยทางสะดวก
“ ปันฝัน ”
“ คะ? ”
“ ไปดูหนังกันต่อดีไหม ”
“ ที่ไหนคะ ”
“ บ้านพี่ ”
“ ...! ” เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมอย่างอึ้งๆ
เอ่อ...คือจะว่าไงดีล่ะ เกิดมาก็ไม่เคยชวนผู้หญิงเข้าบ้านตัวเองเลยสักครั้ง
ยกเว้นเพื่อนตัวเองอะนะ
มันดูตรงไปหรือเปล่าวะ
“ เอ่อ...คือตอนแรกพี่ว่าจะชวนไปโรงหนัง
แต่ดูจากสถานการณ์แล้วพี่ว่าถ้าไปก็คงไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
ก็เลย...เอ่อ...ชวนไปดูที่บ้านพี่เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นเลย จริงๆนะ ”
“ ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะคะ ”
เธอเอ่ยตอบพร้อมกับหลุดขำออกมากับท่าที่ตะกุกตะกักของผม น่าอายชะมัด
และแล้วคำตอบของเธอก็ทำเอาผมถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว “ ก็ได้ค่ะ ฝันจะไป ”
“ หะ? ”
“ ก็ไปดูหนังบ้านพี่ไง ฝันตกลง ”
“ ง่ายแบบนี้เลยหรอ ” ผมเอ่ยถามเธอกลับอย่างอึ้งๆ
“
กับคนที่อยากไปด้วยก็ไม่เห็นต้องทำให้เป็นเรื่องยากเลย อีกอย่างฝันก็ไว้ใจพี่ด้วย
” ปันฝันตอบกลับผมด้วยรอยยิ้ม คือน้องไว้ใจผมได้ไง ผมเป็นผู้ชายนะเฮ้ย!
ขนาดผมยังไม่ไว้ใจตัวเองเลย
“ จริงหรอ? ” ผมทวนคำถามตัวเองอีกทีเพื่อความแน่ใจ
“ จริงสิ พี่เป็นรุ่นพี่ฝันนะ ”
เป็นอีกครั้งที่เธอกลับผมด้วยเสียงหัวเราะ
อืมนะ...
คำก็พี่ สองคำก็พี่
ผมรู้เลยว่าที่น้องตอบตกลงง่ายๆเพราะเห็นผมเป็นรุ่นพี่คนนึงที่ไว้ใจได้
และเธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับผมเกินคำว่าพี่น้องเลยสักนิด
เดี๋ยวเปลี่ยนจากพี่ให้เป็นผัวเลยดีไหมเนี่ย
ยัยเด็กบ้านี่!!
“ โอเค งั้นกินเสร็จแล้วไปกันนะ ”
[ Punfan
Part ]
ฉันละขำจริงๆเมื่อนึกถึงท่าทีของเขา คิดไม่ถึงเหมือนกันนะว่าพี่เขาจะน่ารักขนาดนี้
เอาจริงๆก็แอบเขินเหมือนกันนะที่โดนชวนแบบนี้ รู้สึกเหมือนมาเดทยังไงก็ไม่รู้...
พอๆ เลิกคิดดีกว่า
“ ถึงแล้วครับ ”
พี่ซิวเวอร์เอ่ยขึ้นทันทีพร้อมกับขับรถเข้าไปในบ้าน ประตูด้านนอกค่อยๆเคลื่อนตัวปิดลง
ฉันมองออกไปนอกกระจกรถเห็นตัวบ้านที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามและกว้างใหญ่
ดูมีความร่มรื่นเพราะเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ชนิด
ฉันค่อยๆลงจากรถทันทีที่เขาจอดเข้าที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนจะเดินออกมาดูรอบๆตัวบ้าน มันใหญ่กว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะเนี่ย
แล้วดูเหมือนข้างหลังจะมีสวนหลังบ้านด้วยนะ
“ สวยจัง ”
ฉันพึมพำออกมาเบาๆหลังจากที่มองบ้านพี่เขาจนตาค้าง
“ ชอบเหรอ ”
เสียงกระซิบของพี่ซิวเวอร์ที่มาอยู่ข้างหูๆฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองเขาที่กำลังมองมาที่ฉันอยู่
“ คะ...ค่ะ ชอบค่ะ ”
“ งั้นจะเดินดูรอบบ้านพี่หน่อยไหมล่ะ
แล้วค่อยไปดูหนังกัน ”
“ โอเคค่ะ ”
ฉันตอบรับคำเชิญชวนของเขาทันทีพร้อมรอยยิ้ม ซิวเวอร์ที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มตอบรับแล้วเดินนำไปยังสวนหลังบ้าน
ทำให้ฉันได้เห็นสระว่ายน้ำขนาดกลางที่น้ำในสระสุดจะใสสะอาดและน่าว่ายน้ำมากอยู่ตรงกลาง
ข้างๆตัวบ้านมีต้นไม้และดอกไม้เล็กๆประดับให้ความรู้สึกน่ารักไปอีกแบบ
จะบอกว่าหรูมันก็ไม่ถึงกับขนาดนั้น
แต่จะบอกว่าไม่หรูหราเลยก็ไม่ได้อีก
เออ ก็คือบ้านสวย สวยมากจริงๆ
“ มองตาค้างเลยนะ ชอบมากขนาดนั้นเลยหรอ ”
พี่ซิวเวอร์เอ่ยขึ้นอย่างขำๆกับท่าทางของฉันในตอนนี้ แหม
เป็นใครก็ต้องชอบบ้านพี่ทั้งนั้นแหละ
“ ชอบสิ แล้วก็ชอบสวนหลังบ้านพี่ด้วย ” ฉันตอบเขาด้วยรอยยิ้ม
ก่อนที่จะสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดของคนมาใหม่
ทำให้ฉันและซิวเวอร์ต้องหันไปมองแล้วพบกับป้าแม่บ้านสองคนที่กำลังมองมาที่ฉันและซิวเวอร์ด้วยความตกใจ
“ กรี๊ดดดดดดด น้องปันฝัน ”
“ กรี๊ดดดดด น้องปันฝันตัวจริงสวยมากค่า ”
ฉันหันไปยิ้มแห้งๆให้พวกเขา
ก่อนที่จะหันกลับมามองที่ซิวเวอร์
ทำให้สองคนนั้นที่ไม่เห็นซิวเวอร์อยู่ในสายตาตั้งแต่ทีแรกก็หันมามองตามฉัน
แล้วถึงกับสะดุ้ง
“ แต่ละคน ” ซิวเวอร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอาข้างๆฉัน
“ คะ...คุณซิวเวอร์ กลับมานานยังคะ หิวไหมคะเดี๋ยวป้าจะไปเตรียมอะไรให้ทานนะคะ
”
“ เพิ่งกลับมาเองครับ ไม่เป็นไรครับป้าวิผมยังไม่หิวเท่าไหร่
” เขาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่ป้าแม่บ้านอีกคนจะเป็นคนถามเขาด้วยความสงสัย
“ ว่าแต่คุณซิวเวอร์กับคุณน้องปันฝันนี่ยังไงหรอคะ
”
“ ก็ไม่ได้มีอะไรนี่ครับป้าแจ่ม ”
“ ไม่มีอะไรแล้วพามาบ้านอยู่ด้วยกันได้ไงคะ ”
ป้าคนที่ชื่อวิถามกลับด้วยความอยากรู้ ฉันเริ่มสงสารเขานิดๆแล้วนะเนี่ย
“ พอดีพี่ซิวเวอร์เขาชวนมาดูหนังที่บ้านเขานะคะ ”
ฉันเอ่ยตอบแทนเขาก่อนที่จะฉีกยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
แล้วหันไปสบตากับซิวเวอร์ที่กำลังมองมาที่ฉันอยู่
“ พอดีผมไม่อยากชวนน้องไปดูในโรงนะครับ
ก็เลยมาดูที่นี้แทน น้องเขาจะได้ไม่เป็นข่าวด้วย ”
“ อ่อ อย่างนี้นี่เอง ”
ป้าแจ่มตอบกลับพร้อมหันไปมองหน้าป้าวิอย่างเข้าใจกัน
“ เอ่อ...แล้วถ้าป้าจะขอถ่ายรูปกับหนูปันฝันหน่อยได้ไหมคะ
”
“ ป้าด้วยๆ อยากถ่ายรูปกับหนูเหมือนกัน ”
“ ได้ค่ะ ” ฉันเอ่ยตอบรับในทันทีพร้อมรอยยิ้ม
แล้วเดินไปหาพวกเขาในทันที
ส่วนป้าวิกับป้าแจ่มที่เห็นแบบนั้นก็รีบส่งกล้องมือถือให้ซิวเวอร์พร้อมกันแล้วขอให้ซิวเวอร์ถ่ายให้อย่างรวดเร็ว
“ รบกวนคุณซิวเวอร์ช่วยถ่ายให้ป้าหน่อยนะคะ ”
“ อ่า...ครับ ” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มแล้วยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปให้ในทันที
.
.
.
สิบนาทีต่อมา
ตอนนี้ฉันก็ได้ดูหนังพร้อมกับพี่ซิวเวอร์แล้ว
เราดูหนังด้วยกันในห้องห้องหนึ่งที่มีเพียงโซฟายาวใหญ่หนึ่งตัวพร้อมกับเก้าอี้โซฟาข้างๆสองตัว โต๊ะกระจก
และทีวีบานใหญ่ตรงหน้าที่ใช้สำหรับดูหนัง
บรรยากาศเงียบสงบมีแต่เสียงหนังที่กำลังถ่ายถอดอยู่กับลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศ
หนังที่กำลังดูในตอนนี้เป็นเรื่อง Avengers ภาคเก่าที่ฉันยังไม่ได้ดูนั้นเอง
เพราะตอนมันฉายฉันยังอยู่ที่เกาหลีทำแต่งานอยู่เลย ไม่มีเวลามาดูเหมือนคนอื่นเขาหรอก
“ พอแล้วค่ะพี่ซิวเวอร์ ”
ฉันเอ่ยบอกเขาทันทีที่เห็นเขายื่นคุกกี้มาจ่อปากให้ฉันกินอีก
“ อีกชิ้นนึงนะ ชิ้นนี้พี่ป้อน ” ซิวเวอร์เอ่ยตอบกลับฉันพร้อมกับค้างมืออยู่อย่างนั้น
“ อ่าๆ ก็ได้ค่ะ ”
ฉันยอมรับเขาในที่สุดแล้วงับคุกกี้ของเขาปากตัวเองในทันที
ทั้งๆที่ตาตัวเองก็จดจ่ออยู่กับหนังที่กำลังดำเนินไปอย่างลุ้นระทึก
[ Silver
Part ]
ผมชวนน้องมาดูหนัง
แต่ดูเหมือนว่าผมจะดูหนังไม่รู้เรื่องเลย เพราะผมมัวแต่มองหน้าน้องจนเพลินไปหน่อย
รู้ตัวอีกที...
หนังก็จบลงเสียแล้ว
ผมยังคงมองหน้าน้องนิ่งไม่ขยับไปไหน
จนกระทั่งปันฝันหันมามองผมทำให้ผมถึงกับสะดุ้งเบาๆแล้วหันหน้าหนีทันทีเมื่อเห็นแบบนั้น
“ เอ่อ...คือ... ” จะพูดอะไรดีวะ คิดไม่ออกเลย
“ พี่ซิวเวอร์ ”
“ คะ...ครับ! ”
“ ขอบคุณนะคะที่ชวนมาดูหนัง ”
ปันฝันเอ่ยตอบกลับผมพร้อมรอยยิ้ม
ตึกตัก...ตึกตัก
บ้าเอ๋ย! ทำไมหัวใจมันต้องเต้นเร็วขนาดนี้ด้วยวะ
“ ไม่เป็นไร พี่ยินดี ” ผมเอ่ยบอกกับเธอก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วหันมามองหน้าผู้หญิงข้างๆผม
“ จะกลับเลยหรือเปล่า เดี๋ยวพี่ไปส่ง ”
“ คะ? ”
“ หรือไม่อยากกลับ นอนที่นี้เลยดีไหม? ”
“ กะ...กลับสิ! กลับค่ะ ” ปันฝันเอ่ยตอบผมในทันทีพร้อมกับรีบลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเตรียมออกจากห้องดูหนังในทันที
“ เชิญครับ ” ผมตอบกลับเธอพร้อมรอยยิ้มแล้วเปิดประตูให้น้องออกจากห้อง
เราสองคนเดินลงมาข้างล่างด้วยกัน ก่อนที่ผมจะพบกับบุคคลที่เข้ามาใหม่ที่ผมโครตจะไม่อยากเจอในตอนนี้เลย
แล้วยิ่งตอนนี้ผมอยู่กับปันฝันด้วย
จะเป็นใครไปไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ยัยเคอิพี่สาวตัวดีของผมนั่นเอง
“ กรี๊ดดดดดดดดด น้องปันฝัน!! ”
เสียงกรี๊ดของเคอิทำให้ทั้งผมและปันฝันถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ
ก่อนที่นางจะรีบเดินเข้ามาหาปันฝันกับผมที่กำลังจะเตรียมออกนอกบ้าน
เอาละไง ขนาดคนในบ้านตัวเองยังขนาดนี้
“ พี่สาวของพี่เองแหละ ”
ผมหันไปยิ้มแห้งๆแล้วบอกน้อง
ก่อนที่ปันฝันจะหันไปยิ้มให้ผู้หญิงตรงหน้าเธอในตอนนี้แล้วกล่าวทักทาย
“ สวัสดีค่ะ ”
“ น้องปันฝันจริงๆด้วย ตัวจริงสวยมากๆ ” เคอิเอ่ยขึ้นอย่างดีใจก่อนที่จะพูดต่อ
“ จะว่าไรไหม ถ้าพี่จะขอจับมือเราหน่อย ”
“ ได้ค่ะ
” ปันฝันเอ่ยตอบรับพร้อมกับยื่นมือไปให้เคอิจับมือแปปนึง
ก่อนที่เคอิจะค่อยๆปล่อยมือออกจากเธอแล้วหันไปมองหน้าผมด้วยความสงสัย
“ ว่าแต่แกนี่ยังไงซิวเวอร์ ”
“ ยังไงของพี่นี่หมายความว่ายังไงล่ะ ”
“ ก็แกกับน้องปันฝันไง ”
“ ก็ไม่มีอะไร แค่พี่น้องกันเฉยๆ ”
ผมตอบกลับไปพร้อมกับหลบสายตาจับผิดของเคอิ นี่ก็อีกคน จับผิดเก่งจริงๆเลยนะ
“ แน่ใจนะ ”
“ แน่ใจสิ ”
“ ก็แล้วไป ”
เคอิเอ่ยตอบกลับผมพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วหันไปสนใจปันฝันต่อในทันที “
ลืมแนะนำตัวเลย พี่ชื่อเคอินะคะเป็นพี่สาวของซิวเวอร์มันนะคะ ”
“ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ”
“ ถ้าพี่จะขออะไรน้องปันฝันอย่างนึงได้ไหมคะ ”
“ ขออะไรหรอคะ ” ปันฝันเอ่ยถามกลับด้วยความสงสัย
และผมเองก็สงสัยเหมือนกัน
“
คือว่า...พี่อยากจะจ้างน้องมาร้องเพลงให้พี่ในงานแต่งของพี่อะคะ ”
เคอิเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มแห้งๆ ส่วนผมนี่อึ้งไปเลย
นี่พี่ผมมันคิดอะไรอยู่ละเนี่ย “ จะได้ไหมคะ ”
“ ไม่ได้ครับ ” ผมตอบให้ในทันที
ขืนร้องเพลงในงานแต่งพี่ผมคงได้เป็นข่าวกันพอดี
“ ฉันถามน้องปันฝัน ไม่ได้ถามแกซิวเวอร์ ”
“ ก็ผมไม่ให้ จะทำไม ”
“ มีสิทธิ์อะไรถึงมาห้าม ”
คำถามของเคอิทำให้ผมถึงกับชะงักไปชั่วครู่นึง เออ นั่นสิ
ผมมีสิทธิ์อะไรมาห้ามน้องไม่ให้ไปร้องเพลงวะ
“ เอ่อ... ” ผมถึงกับเถียงไม่ออกในทันที
“ ก็ได้ค่ะ
ถ้าวันนั้นฝันไม่ติดอะไรจะไปร้องให้นะคะ ” ปันฝันเอ่ยตอบรับงานในทันที
ทำเอาเคอิถึงกับฉีกยิ้มกว้างแล้วหันมามองหน้าผมแล้วยักคิ้วใส่ให้ด้วยความเหนือกว่า
“ ขอบคุณนะคะ
งั้นพี่ขอไลน์เราไว้ติดต่อเรื่องงานหน่อยได้ไหมคะ ”
“ ติดต่อผ่านผมก็ได้มั้งพี่เคอิ ”
“ งั้นให้พี่ซิวเวอร์ส่ง contact ฝันให้พี่ก็ได้ค่ะ ไม่ก็ DM
มาทาง IG ฝันก็ได้ค่ะ ”
“ โอเคค่ะ ตามนั้นก็ได้ ” เคอิเอ่ยตอบรับด้วยความยินดี
ก่อนที่ผมและเธอจะขอตัวไปก่อน
“ งั้นขอตัวก่อนนะคะ ”
“ ผมไปส่งน้องก่อนนะ ” ผมเอ่ยบอกเคอิ
แล้วเดินออกจากตัวบ้านไปพร้อมกับปันฝันในทันที
ส่วนเคอิที่เห็นแบบก็โอเคและโบกมือลาทันที
ครืน~
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นทำให้ต้องแอบหยิบมันขึ้นมาดูนิดนึงว่าใครส่งมา
K-ei : ถ้าอยากมีสิทธิ์ก็รีบเป็นแฟนน้องเขาเร็วๆสิ
K-ei : รีบจีบเข้าล่ะ
คนนี้พี่โอเคนะ
ผมถึงกับหันหน้าขวับไปมองหน้าเคอิที่กำลังยกยิ้มให้ผมอยู่ รู้นะว่าคิดอะไร แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะ
เขาเป็นถึงนักร้องดัง ส่วนผมก็แค่เดือนมหาลัย จะเอาอะไรไปสู้เขาวะ แล้วถ้าเกิดน้องไม่ได้คิดแบบนั้นกับผมจะทำไงวะ
Silver : แล้วผมต้องทำยังไง
K-ei : อ่อยเลย!!
100%
------------------------------------------------------------------------
มาอัพต่อแล้วค่าาาา ขออภัยที่แอบหายไปนานนิดนึงนะคะ 555555 ช่วงนี้ไรท์ทำงานอื่นนิดหน่อยอะคะ เลยไม่ค่อยได้แต่งต่อเลยพอมีเวลาก็รีบมาเขียนและอัพต่อให้ทันทีเลยนะ ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกๆคนด้วยนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกันเน้ออ ติดตามกันเยอะๆนะคะ แอด fav. กันไว้ได้เลยจ้าาาาา แล้วก็อย่าลืมคอมเม้นต์เป็นกำลังใจซิวเวอร์และปันฝันของเราด้วยนะคะ 555555555
ฝากเพจ Amy07
ขอบคุณนะคะ
By : Amy07
24/5/19
ฝากอีกเรื่องของเราด้วยจ้า
ความคิดเห็น