ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KHR Fanfic][2769] When the time has come... you belong me

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 Marshmallow Crash

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 886
      23
      27 ก.ย. 54

    Chapter 5 Marshmallow Crash

     

    อรุณที่สาดแสง อสนีบาตที่ทรงพลัง พิรุณที่โปรยปราย

    วายุที่โหมกระหน่ำ เมฆาที่ล่องลอยอย่างอิสระ

    และสายหมอกที่พร่าเลือน ล้วนมีตัวตนใต้ผืนนภา

    สิ่งที่เคียงคู่กับนภาได้ คงมีเพียงนภาเช่นเดียวกันเท่านั้นสินะ

     

       สึนะโยชิ คิดถึงจังเลย สับปะรดยังงอนไม่เลิก มือที่สามตัวจริงก็ถลาเข้ามากอดทูน่าอย่างหน้าชื่นตาบานและไม่อายใคร

       เบียคุรัน... ผมบอกคุณตั้งกี่ครั้งแล้วครับ ว่าวิธีการทักทายอย่างนี้คนญี่ปุ่นเขาไม่ใช้กันน่ะ สึนะไม่ต้องออกแรงมากนัก ผลักเพียงเล็กน้อยเบียคุรันก็ยอมปล่อย

       อย่าใจจืดนักสิ ฉันเหมามาชเมลโล่ทั้งร้านเพื่อมาฉลองกับเธอเชียวนา เค้กมาชเมลโล่ก็มีนะ ผู้มาเยือนยังไม่สนใจคนอื่นในห้องสักนิดเดียว

       ไม่ไหวมั้งครับเค้กแบบนั้นน่ะ จะเลี่ยนตายก่อน แต่สึนะยังหัวเราะได้เพราะรู้ว่าเบียคุรันแค่พูดเล่น

       แล้วนกน้อยตาสองสีนั่นน่ะใครเหรอ? เบียคุรันหันมาสนใจทางอื่นบ้างแล้ว

       สายหมอกของผมเอง สึนะย้ำคำว่า ของผม ชัดเจนกว่าที่อื่น ห้ามยุ่งนะครับ

       ฉันสนใจแต่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละ เบียคุรันยืนยันเช่นกัน แต่ตายังมองผลไม้ต้องห้าม(?)ไม่วางตา

       แล้วไอ้พวกนี้มันอะไรกันครับ!!!!!” สึนะกรีดนิ้วโชว์รูปถ่ายเบียคุรันกับสาวอื่นนับไม่ถ้วนหลากใบที่มาม่อนเอามาขายต่อให้ในราคาแพงลิบลิ่ว หนึ่งในรูปถ่ายเหล่านั้นมีตอนที่เบียคุรันกำลังโอ้โลมหนุ่มน้อยข้างบ้านเขานามกรว่าโชอิจิด้วย

       สุนทรีย์ของผู้ชายน่ะจำเลยยอมรับสารภาพได้อย่างน่าจับแช่แข็งด้วยเดือดทะลุจุดศูนย์ อ้ะ ฉันว่าฉันไปดีกว่านะ รู้สึกว่านกน้อยของเธอจะไม่ชอบขี้หน้าฉันน่ะ ไม่ได้เกรงใจเจ้าของที่สักนิด แต่สงสารนกน้อยที่ทำหน้าเหมือนไม่แคร์ แต่แววตาแสดงความช้ำใจอย่างเห็นได้ชัด ประสบการณ์รักของเขาโชกโชน แค่นี้มีหรือจะดูไม่ออก

       มุคุโร่เป็นสับปะรดต่างหากครับ ถ้าพูดถึงนกเขาจะนึกถึงคุณฮิบาริ

     

       โครม!!!!!!!!!!!

       จินตภาพโลกทั้งใบหล่นทับสายหมอกผู้โดนบอกซึ่งๆ หน้าว่าเป็นสับปะรด!

     

       “...บ้าที่สุด...!!! มุคุโร่โวยใส่เมื่อเสือขาวหน้าเป็นกลับไปตามทางของตัวเองแล้ว ความโกรธที่ถูกเรียกเป็นสับปะรดยังไม่มากเท่าเห็นไอ้หัวเผือกมากระเซ้ากระซี้กับนภาของเขา เรื่องกลิ่นนั่นทีนึงแล้ว ยังมีเรื่องนี้อีก เห็นเผือกดีกว่าสับปะรดหรือครับวองโกเล่!

     

       เห็นหน้ากระเง้ากระงอดของมุคุโร่แล้วสึนะก็หัวเราะร่วน... สายหมอกของฉัน น่ารักจริงๆ นะ

     

       ขอโทษที่ไม่ทันได้แนะนำนะ คนเมื่อกี้นี้เป็นบอสของเจสโซแฟมิลี่ พันธมิตรของวองโกเล่น่ะ

       เบียคุรันอะไรนั่นเป็นอะไรของคุณกัน? มุคุโร่คิดว่าปฏิกิริยาของทั้งสองฝ่ายเกินกว่าที่จะเป็นแค่คนรู้จักกัน

       อา... ก็...... เคยคบกันน่ะ... แต่แค่เดือนเดียวเท่านั้นแหละ สึนะบอกไปตามตรง

     

       ทั้งห้องเงียบสนิท... ราวกับไม่มีใครอยู่......

     

       คึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ ได้ยินเรื่องน่าสนุกเข้าแล้วสินะครับ มุคุโร่หัวเราะเมื่อทบทวนคำพูดของทั้งสองฝ่าย หยามหยันที่ประคับประคองความสัมพันธ์กันไม่รอด... และปิดซ่อน... น้ำตาที่ไม่ได้หลั่งริน

     

     

    สายหมอก... สายหมอกเจ้าเอย... เจ้ามีตัวตนเพียงเพื่ออำพราง

    ...ลวงตาแม้แต่หัวใจที่มีรัก...

     

       อยากรู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงเลิกกับหมอนั่น? สึนะแกล้งถาม

       เรื่องที่พวกคุณคุยกันเมื่อครู่เป็นคำตอบอยู่แล้วล่ะครับ มากรัก หลายใจ ใครจะทน

     

       สึนะรู้ดีว่านั่นไม่ใช่คำตอบที่ถูก... เขาไม่ได้คบกับเบียคุรันเพราะมีใจมาแต่แรก เป็นเพียงความพยายามที่จะเสาะแสวงหาในสิ่งที่ขาดหายไป... แต่หนหลัง สิ่งที่เขาไขว่คว้าคือรอยยิ้มของเด็กสาวผู้หนึ่งที่สดใสราวดวงตะวัน... รอยยิ้มที่ผลักดันให้เขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไม่หวั่นไหว... ก่อนจะรู้ตัวว่าสิ่งมุ่งหวังแท้จริงคือการได้โอบกอดสายหมอกที่เย็นยะเยือก... แต่ในสายตาของผู้สูญเสียโทษทัณฑ์ที่มุคุโร่ได้รับนั้นสาสมกับการกระทำแล้ว และเด็กนักเรียนที่ไร้อำนาจย่อมไม่มีสิทธิ์ท้วงติง

     

       เบียคุรัน... คล้ายมุคุโร่อยู่บ้าง... ไม่มากก็น้อย......

       โดยเฉพาะรอยยิ้มเสแสร้งที่ปั้นแต่ง...

     

    ตัวแทนเป็นได้เพียงตัวแทน เฉกเช่นที่สายหมอกไม่อาจเปลี่ยนแปรเป็นนภา

    นภาก็มิอาจกลายผันเป็นสายหมอก

    ทางเดียวที่เขาจะสมปรารถนาได้มีเพียงการก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ที่สูงที่สุด

    ในฐานะ ก๊อดฟาเธอร์

     

    เรียนรู้... ที่จะใช้พลัง... เรียนรู้... ที่จะใช้อำนาจ

    เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

    ทั้งหมดที่ทำ เพียงแลกกับการปลดสายหมอกจากพันธนาการอันเย็นเยียบ

    แล้วล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวนแห่งฟากฟ้า

    แม้ไม่ใช่เสรีที่ใฝ่ฝัน แต่นภาผืนนี้ยังมีไออุ่นที่จะมอบให้

     

     

       ทำไมท่านรุ่นที่สิบต้องไปฉลองกับเจ้าหัวสับปะรดนั่นด้วยนะ!!” โกคุเดระไม่ดีใจสักนิดที่บอสอนุญาตให้พักผ่อนและใช้เวลาส่วนตัวได้ตามสบาย

       แต่เพราะแบบนั้นเราถึงได้อยู่ด้วยกันตามลำพังได้ไม่ใช่เหรอ? ยามาโมโตะหอมแก้มแฟนหนุ่มฟอดใหญ่แทนความคิดถึง แข่งเบสบอลแมทซ์สำคัญจบแล้วเขาก็รีบบินมาอิตาลีทันทีเชียวนะ

       ใครอยากจะไปอยู่กับแกกันฟะเจ้าบ้าเบสบอล อ่ะ... เสียงประท้วงขาดหายเมื่อฝ่ามือหนาทั้งสองข้างล็อคตัวเขาไว้โดยการยันกับกำแพง ...ไม่มีทางหนี... ริมฝีปากไม่เอ่ยคำตรงข้ามกับใจอีกต่อไป เมื่อริมฝีปากของชายที่คิดถึงจนสุดใจสัมผัสกับริมฝีปากของตน ปล่อยใจทั้งใจให้ซึมซับและเตลิดไปกับรสเสน่หา

     

       อ้ะ!!! เดี๋ยวสิฟะ!!!!!!!!

     

       “เจ้าบ้านี่!! มันจะเกินไปแล้วนะเฟ้ย!!!! โกคุเดระตีเข่าใส่ท้องน้อยคนไม่รู้จักกาลเทศะ จูบน่ะได้ แต่มือน่ะลามปามเกินไปแล้ว เผลอไม่ได้เลย จะมาปลดซิปกางเกงเขาตรงเฉลียงทางเดินนี่คิดจะทำอะไร!!!

       “โธ่ ฉันอดทนมาตั้งนานแล้วนะ ตอนที่นายไม่อยู่ก็อดกลั้นไม่ช่วยตัวเองด้วยนะเนี่ย ยามาโมโตะยังคงยิ้มร่าเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด

     

       ด้านโคตร!!!!!! หน้าหนายิ่งกว่ากระเบื้องตราช้าง...

     

       ......ถ้าเป็นในห้อง............ เห็นหน้าเอ๋อๆ ของเจ้าบ้านี่แล้วหมั่นเขี้ยว... แต่อดใจอ่อนไม่ได้... และถ้าให้พูดความจริง ตอนนี้เขาแทบทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

       จริงๆ นะ ...รักนายจัง ยามาโมโตะรีบอุ้มคนรักเข้าห้องด่วนจี๋ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ

     

     

    ঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃ

     

     

    Varia’s Gossip Today : Christmas Column

     

    คริสตมาสปีนี้แสบสันต์สะท้านทรวง...

    บอสดวดเหล้าไปเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขวด วาเรียลูกกระจ๊อกบาดเจ็บไปเก้าสิบเก้าคน

    ท่านสควอลโล่โดนบอสเขวี้ยงแก้วใส่เก้าสิบเก้าหน... เลขสวยจนน่าซื้อหวย

     

       “เชือดยัยหนูที่ทำให้บอสอารมณ์เสียซะเลยดีมะ ชิๆๆๆๆๆๆๆๆเบลอาสาเก็บกวาดให้

       “สควอลโล่จะได้ไล่ฆ่านายปะไร ลุซซูเรีย กะเทยงาม(?)เพียงหนึ่งเดียวของวาเรียทัดทาน แต่เบลไม่ทันฟังเสียงก็วิ่งไปตามหาคนที่ตั้งใจจะเชือดแล้ว

     

       เจ้าชาย...... ทำไม่ได้............ เบลคอตกกลับมา

       เกิดอะไรขึ้นหรือจ๊ะ? ลุซซูเรียถามด้วยความสงสัยอย่างมาก อย่างเบลน่ะหรือจะเปลี่ยนใจไม่เชือดใครง่ายๆ จะว่าฝ่ายนั้นฝีมือสูงกว่าเบลการลอบฆ่าจึงไม่ประสบผลก็ไม่น่าใช่ แม้เอเรียตต้าจะมีฝีมือการต่อสู้ในระดับสูง แต่ยังไร้ประสบการณ์

       ...ฆ่าไม่ลงง่า................................... เห็นหน้านั่นแล้วหมดแรงจะทำ เส้นผมสีเงินยาวสลวยเป็นประกาย... ดวงตาสีทับทิม ดันสีผมเหมือนสควอลโล่ สีตาเหมือนบอส~ รู้สึกยังกะเป็นลูกบอสกับสควอลโล่เลยลูกของพระราชากับพระราชินีก็ต้องเป็นเจ้าหญิง ...และถ้าเป็นเจ้าหญิงก็ต้องเป็นน้องของเจ้าชาย... แม้เจ้าชายจะเชือดพี่ชายตัวเองไปแล้วแต่ลองมีน้องสาวบ้างก็น่าสนุกดี

     

       ยังกะเป็นลูกบอสกับสควอลโล่เลย

       มีใครหนึ่งคน... ที่บังเอิญได้ยินเจ้าชายพูดแล้วเก็บเอาไปคิด...

     

       อีกไม่กี่นาทีต่อมา...

     

       กรี๊ดดดดดดดด!!!! พี่ลุซซูเรียค้------า ช่วยด้วยค่ะ บอสเพี้ยนไปแล้ว หนูกลัว!!!!!!!!!!! เอเรียตต้าวิ่งแจ้นมาหลบหลังกะเทยถึกอย่างปัจจุบันทันด่วน

     

    Varia’s Gossip Today : Varia’s Life Column

     

    คืนนี้มีเด็กใสวัยสิบสี่คนหนึ่งฝันหลอนนอนผวา เนื่องจากจู่ๆ ได้เจอกับบอสวาเรียในโหมดใจดีผีเข้า

    ต้นเหตุจากได้ยินเจ้าชายวิปริตตัวหนึ่งพูดว่าเจ้าตัวเหมือนลูกฉลามที่เกิดจากท่านชายแสนศักดิ์

    ส่วนป๋าแสนได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความมึน งง เง็ง ว่าเวลาตูใจดีน่ากลัวกว่าเวลาตูใจร้ายเรอะ!!

     

     

    ঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃ

     

     

    ความเหน็บหนาวของสายน้ำ... ไม่ได้เกาะกินไปถึงหัวใจ

    ไม่ช้าจึงกลายเป็นความชาชิน

    หิมะสีขาวบริสุทธิ์ของไวท์คริสตมาสที่ไม่อาจแตะต้องผิวกายของสายหมอกได้

    กลับสร้างความเหน็บหนาวให้มากกว่านั้น

    เมื่อเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่มองเห็นไกลๆ

    จากทางหน้าต่างเดินห่างไปไกลราวกับจะหายไปในสีขาวโพลนของหิมะ

     

    โคลม...... โคลมครับ...... มาหาผมได้หรือเปล่า?

    ค่ะ ท่านมุคุโร่

     

       บทสนทนาที่ไม่จำเป็นต้องเอื้อนเอ่ยเป็นคำพูดเด็กสาวก็เข้าใจ และไม่ได้คิดว่าเป็นการรบกวนแม้ว่าเธอจะหลับไปแล้วก็ตามที เธอดีใจด้วยซ้ำที่ถูกเรียกหา

     

       ฉันว่าฉันไปให้เองดีกว่านะคะ ร่างกายของท่านมุคุโร่ไม่เหมาะจะออกไปข้างนอกตอนอากาศแบบนี้ โคลมค้านเมื่อรู้จุดประสงค์ของคนที่เรียกเธอมา

       ขอร้องล่ะครับโคลม เขาแค่อยากจะรู้... ว่าหลังจากที่ส่งเขาเข้านอนแล้ว... วองโกเล่ออกไปที่ไหนตอนดึกดื่นอย่างนี้

     

       แม้จะเคลื่อนไหวได้อย่างเชื่องช้าภายใต้การประคองของเด็กสาว แต่รอยเท้าที่ย่ำเหยียบทิ้งรอยไว้ที่ผืนหิมะที่ทับถมหนาจนมองไม่เห็นพื้นยังคอยเป็นเครื่องบอกทางให้ได้

     

       บอส... เข้าไปในบาร์...... ปกติที่อย่างนี้บอสไม่ค่อยชอบนี่นา ทำไมถึงได้มาล่ะ?

       โคลมพยุงมุคุโร่เพื่อจะแอบตามเข้าไป แต่ถูกห้ามเอาไว้จากคนเฝ้าเสียก่อน

     

       ขอโทษครับ ที่นี่เราไม่อนุญาตให้เด็กเข้านะครับคุณหนู

     

       คนถูกห้ามจากยามเฝ้าหน้าประตูไม่พูดค้าน เพียงแค่แสดงวองโกเล่ริงแห่งสายหมอกเท่านั้น

     

       ขอประทานอภัยโทษครับ กระผมไม่ทราบว่าท่านคือผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกของวองโกเล่ ระดับความนอบน้อมเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อเห็นแหวนที่แสดงถึงตำแหน่งของผู้พิทักษ์

       ฉันกับท่านมุคุโร่เข้าไปได้สินะคะ โคลมถาม

       แน่นอนครับ คนเฝ้าประตูเปิดทางให้ทันที

     

       ขอโทษนะคะท่านมุคุโร่ ที่ใช้อำนาจของมาเฟียที่ท่านเกลียดอย่างนี้ โคลมเอ่ยเมื่อหาที่นั่งพักให้เจ้าของแหวนสายหมอกตัวจริงได้

       ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้ว่าเพราะคุณเป็นห่วงผม ข้างนอกอากาศเย็น แล้วร่างกายเขาไม่ค่อยดีด้วย

       “…จากตรงนี้บอสคงมองไม่เห็นพวกเรา ผู้คนในบาร์คับคั่งและมีคนเข้าออกตลอดเวลาอยู่แล้ว จึงไม่มีใครสนใจคนที่เพิ่งเข้ามา

     

    สีขาว... สีของหิมะ

    สีขาว... สีที่สว่างไสว

    สีขาว... สีที่แสดงถึงความพิสุทธิ์

    ทว่า สีที่เขาได้เห็น คือความอันธการที่มีไร้สีสันใดๆ นอกจากสีขาวนั้น

    ความมืด... ที่ไม่ใช่สีดำ

     

       “พวกคุณนี่แปลกจริงๆ เลยนะครับ ทั้งที่มาบาร์เหล้าแต่กลับสั่งเครื่องดื่มเป็นนมอุ่นอย่างนี้น่ะ บาร์เทนเดอร์พยายามสร้างความสนิทสนมกับลูกค้า

       ผมไม่ชอบเหล้า สึนะตอบสั้นๆ ดื่มในงานสังสรรค์บ้าง แต่ไม่เคยชื่นชอบรสชาติของมันสักนิด

       ฉันก็ชอบแต่ของหวานๆ เท่านั้นน่ะ เบียคุรันดื่มนมร้อนเข้าไปแล้วยิ้มหวานให้บาร์เทนเดอร์

     

    ทำไมคุณถึงมาพบคนคนนี้ครับ วองโกเล่?!




    -tbc-
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×