คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 Marshmallow Crash
Chapter 5 Marshmallow Crash
อรุณที่สาดแสง อสนีบาตที่ทรงพลัง พิรุณที่โปรยปราย
วายุที่โหมกระหน่ำ เมฆาที่ล่องลอยอย่างอิสระ
และสายหมอกที่พร่าเลือน ล้วนมีตัวตนใต้ผืนนภา
สิ่งที่เคียงคู่กับนภาได้ คงมีเพียงนภาเช่นเดียวกันเท่านั้นสินะ
“สึนะโยชิ คิดถึงจังเลย” สับปะรดยังงอนไม่เลิก มือที่สามตัวจริงก็ถลาเข้ามากอดทูน่าอย่างหน้าชื่นตาบานและไม่อายใคร
“เบียคุรัน... ผมบอกคุณตั้งกี่ครั้งแล้วครับ ว่าวิธีการทักทายอย่างนี้คนญี่ปุ่นเขาไม่ใช้กันน่ะ” สึนะไม่ต้องออกแรงมากนัก ผลักเพียงเล็กน้อยเบียคุรันก็ยอมปล่อย
“อย่าใจจืดนักสิ ฉันเหมามาชเมลโล่ทั้งร้านเพื่อมาฉลองกับเธอเชียวนา เค้กมาชเมลโล่ก็มีนะ” ผู้มาเยือนยังไม่สนใจคนอื่นในห้องสักนิดเดียว
“ไม่ไหวมั้งครับเค้กแบบนั้นน่ะ” จะเลี่ยนตายก่อน แต่สึนะยังหัวเราะได้เพราะรู้ว่าเบียคุรันแค่พูดเล่น
“แล้วนกน้อยตาสองสีนั่นน่ะใครเหรอ?” เบียคุรันหันมาสนใจทางอื่นบ้างแล้ว
“สายหมอกของผมเอง” สึนะย้ำคำว่า ‘ของผม’ ชัดเจนกว่าที่อื่น “ห้ามยุ่งนะครับ”
“ฉันสนใจแต่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละ” เบียคุรันยืนยันเช่นกัน แต่ตายังมองผลไม้ต้องห้าม(?)ไม่วางตา
“แล้วไอ้พวกนี้มันอะไรกันครับ!!!!!” สึนะกรีดนิ้วโชว์รูปถ่ายเบียคุรันกับสาวอื่นนับไม่ถ้วนหลากใบที่มาม่อนเอามาขายต่อให้ในราคาแพงลิบลิ่ว หนึ่งในรูปถ่ายเหล่านั้นมีตอนที่เบียคุรันกำลังโอ้โลมหนุ่มน้อยข้างบ้านเขานามกรว่าโชอิจิด้วย
“สุนทรีย์ของผู้ชายน่ะ” จำเลยยอมรับสารภาพได้อย่างน่าจับแช่แข็งด้วยเดือดทะลุจุดศูนย์ “อ้ะ ฉันว่าฉันไปดีกว่านะ รู้สึกว่านกน้อยของเธอจะไม่ชอบขี้หน้าฉันน่ะ” ไม่ได้เกรงใจเจ้าของที่สักนิด แต่สงสารนกน้อยที่ทำหน้าเหมือนไม่แคร์ แต่แววตาแสดงความช้ำใจอย่างเห็นได้ชัด ประสบการณ์รักของเขาโชกโชน แค่นี้มีหรือจะดูไม่ออก
“มุคุโร่เป็นสับปะรดต่างหากครับ” ถ้าพูดถึงนกเขาจะนึกถึงคุณฮิบาริ
โครม!!!!!!!!!!!
จินตภาพโลกทั้งใบหล่นทับสายหมอกผู้โดนบอกซึ่งๆ หน้าว่าเป็นสับปะรด!
“...บ้าที่สุด...!!!” มุคุโร่โวยใส่เมื่อเสือขาวหน้าเป็นกลับไปตามทางของตัวเองแล้ว ความโกรธที่ถูกเรียกเป็นสับปะรดยังไม่มากเท่าเห็นไอ้หัวเผือกมากระเซ้ากระซี้กับนภาของเขา เรื่องกลิ่นนั่นทีนึงแล้ว ยังมีเรื่องนี้อีก เห็นเผือกดีกว่าสับปะรดหรือครับวองโกเล่!
เห็นหน้ากระเง้ากระงอดของมุคุโร่แล้วสึนะก็หัวเราะร่วน... สายหมอกของฉัน น่ารักจริงๆ นะ
“ขอโทษที่ไม่ทันได้แนะนำนะ คนเมื่อกี้นี้เป็นบอสของเจสโซแฟมิลี่ พันธมิตรของวองโกเล่น่ะ”
“เบียคุรันอะไรนั่นเป็นอะไรของคุณกัน?” มุคุโร่คิดว่าปฏิกิริยาของทั้งสองฝ่ายเกินกว่าที่จะเป็นแค่คนรู้จักกัน
“อา... ก็...... เคยคบกันน่ะ... แต่แค่เดือนเดียวเท่านั้นแหละ” สึนะบอกไปตามตรง
ทั้งห้องเงียบสนิท... ราวกับไม่มีใครอยู่......
“คึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ ได้ยินเรื่องน่าสนุกเข้าแล้วสินะครับ” มุคุโร่หัวเราะเมื่อทบทวนคำพูดของทั้งสองฝ่าย หยามหยันที่ประคับประคองความสัมพันธ์กันไม่รอด... และปิดซ่อน... น้ำตาที่ไม่ได้หลั่งริน
สายหมอก... สายหมอกเจ้าเอย... เจ้ามีตัวตนเพียงเพื่ออำพราง
...ลวงตาแม้แต่หัวใจที่มีรัก...
“อยากรู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงเลิกกับหมอนั่น?” สึนะแกล้งถาม
“เรื่องที่พวกคุณคุยกันเมื่อครู่เป็นคำตอบอยู่แล้วล่ะครับ” มากรัก หลายใจ ใครจะทน
สึนะรู้ดีว่านั่นไม่ใช่คำตอบที่ถูก... เขาไม่ได้คบกับเบียคุรันเพราะมีใจมาแต่แรก เป็นเพียงความพยายามที่จะเสาะแสวงหาในสิ่งที่ขาดหายไป... แต่หนหลัง สิ่งที่เขาไขว่คว้าคือรอยยิ้มของเด็กสาวผู้หนึ่งที่สดใสราวดวงตะวัน... รอยยิ้มที่ผลักดันให้เขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไม่หวั่นไหว... ก่อนจะรู้ตัวว่าสิ่งมุ่งหวังแท้จริงคือการได้โอบกอดสายหมอกที่เย็นยะเยือก... แต่ในสายตาของผู้สูญเสียโทษทัณฑ์ที่มุคุโร่ได้รับนั้นสาสมกับการกระทำแล้ว และเด็กนักเรียนที่ไร้อำนาจย่อมไม่มีสิทธิ์ท้วงติง
เบียคุรัน... คล้ายมุคุโร่อยู่บ้าง... ไม่มากก็น้อย......
โดยเฉพาะรอยยิ้มเสแสร้งที่ปั้นแต่ง...
ตัวแทนเป็นได้เพียงตัวแทน เฉกเช่นที่สายหมอกไม่อาจเปลี่ยนแปรเป็นนภา
นภาก็มิอาจกลายผันเป็นสายหมอก
ทางเดียวที่เขาจะสมปรารถนาได้มีเพียงการก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ที่สูงที่สุด
ในฐานะ ก๊อดฟาเธอร์
เรียนรู้... ที่จะใช้พลัง... เรียนรู้... ที่จะใช้อำนาจ
เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
ทั้งหมดที่ทำ เพียงแลกกับการปลดสายหมอกจากพันธนาการอันเย็นเยียบ
แล้วล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวนแห่งฟากฟ้า
แม้ไม่ใช่เสรีที่ใฝ่ฝัน แต่นภาผืนนี้ยังมีไออุ่นที่จะมอบให้
“ทำไมท่านรุ่นที่สิบต้องไปฉลองกับเจ้าหัวสับปะรดนั่นด้วยนะ!!” โกคุเดระไม่ดีใจสักนิดที่บอสอนุญาตให้พักผ่อนและใช้เวลาส่วนตัวได้ตามสบาย
“แต่เพราะแบบนั้นเราถึงได้อยู่ด้วยกันตามลำพังได้ไม่ใช่เหรอ?” ยามาโมโตะหอมแก้มแฟนหนุ่มฟอดใหญ่แทนความคิดถึง แข่งเบสบอลแมทซ์สำคัญจบแล้วเขาก็รีบบินมาอิตาลีทันทีเชียวนะ
“ใครอยากจะไปอยู่กับแกกันฟะเจ้าบ้าเบสบอล อ่ะ...” เสียงประท้วงขาดหายเมื่อฝ่ามือหนาทั้งสองข้างล็อคตัวเขาไว้โดยการยันกับกำแพง ...ไม่มีทางหนี... ริมฝีปากไม่เอ่ยคำตรงข้ามกับใจอีกต่อไป เมื่อริมฝีปากของชายที่คิดถึงจนสุดใจสัมผัสกับริมฝีปากของตน ปล่อยใจทั้งใจให้ซึมซับและเตลิดไปกับรสเสน่หา
อ้ะ!!! เดี๋ยวสิฟะ!!!!!!!!
“เจ้าบ้านี่!! มันจะเกินไปแล้วนะเฟ้ย!!!!” โกคุเดระตีเข่าใส่ท้องน้อยคนไม่รู้จักกาลเทศะ จูบน่ะได้ แต่มือน่ะลามปามเกินไปแล้ว เผลอไม่ได้เลย จะมาปลดซิปกางเกงเขาตรงเฉลียงทางเดินนี่คิดจะทำอะไร!!!
“โธ่ ฉันอดทนมาตั้งนานแล้วนะ ตอนที่นายไม่อยู่ก็อดกลั้นไม่ช่วยตัวเองด้วยนะเนี่ย” ยามาโมโตะยังคงยิ้มร่าเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
ด้านโคตร!!!!!! หน้าหนายิ่งกว่ากระเบื้องตราช้าง...
“......ถ้าเป็นในห้อง............” เห็นหน้าเอ๋อๆ ของเจ้าบ้านี่แล้วหมั่นเขี้ยว... แต่อดใจอ่อนไม่ได้... และถ้าให้พูดความจริง ตอนนี้เขาแทบทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“จริงๆ นะ ...รักนายจัง” ยามาโมโตะรีบอุ้มคนรักเข้าห้องด่วนจี๋ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ
ঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃ◌
Varia’s Gossip Today : Christmas Column
คริสตมาสปีนี้แสบสันต์สะท้านทรวง...
บอสดวดเหล้าไปเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขวด วาเรียลูกกระจ๊อกบาดเจ็บไปเก้าสิบเก้าคน
ท่านสควอลโล่โดนบอสเขวี้ยงแก้วใส่เก้าสิบเก้าหน... เลขสวยจนน่าซื้อหวย
“เชือดยัยหนูที่ทำให้บอสอารมณ์เสียซะเลยดีมะ ชิๆๆๆๆๆๆๆๆ” เบลอาสาเก็บกวาดให้
“สควอลโล่จะได้ไล่ฆ่านายปะไร” ลุซซูเรีย กะเทยงาม(?)เพียงหนึ่งเดียวของวาเรียทัดทาน แต่เบลไม่ทันฟังเสียงก็วิ่งไปตามหาคนที่ตั้งใจจะเชือดแล้ว
“เจ้าชาย...... ทำไม่ได้............” เบลคอตกกลับมา
“เกิดอะไรขึ้นหรือจ๊ะ?” ลุซซูเรียถามด้วยความสงสัยอย่างมาก อย่างเบลน่ะหรือจะเปลี่ยนใจไม่เชือดใครง่ายๆ จะว่าฝ่ายนั้นฝีมือสูงกว่าเบลการลอบฆ่าจึงไม่ประสบผลก็ไม่น่าใช่ แม้เอเรียตต้าจะมีฝีมือการต่อสู้ในระดับสูง แต่ยังไร้ประสบการณ์
“...ฆ่าไม่ลงง่า...................................” เห็นหน้านั่นแล้วหมดแรงจะทำ เส้นผมสีเงินยาวสลวยเป็นประกาย... ดวงตาสีทับทิม “ดันสีผมเหมือนสควอลโล่ สีตาเหมือนบอส~ รู้สึกยังกะเป็นลูกบอสกับสควอลโล่เลย” ลูกของพระราชากับพระราชินีก็ต้องเป็นเจ้าหญิง ...และถ้าเป็นเจ้าหญิงก็ต้องเป็นน้องของเจ้าชาย... แม้เจ้าชายจะเชือดพี่ชายตัวเองไปแล้วแต่ลองมีน้องสาวบ้างก็น่าสนุกดี
‘ยังกะเป็นลูกบอสกับสควอลโล่เลย’
มีใครหนึ่งคน... ที่บังเอิญได้ยินเจ้าชายพูดแล้วเก็บเอาไปคิด...
อีกไม่กี่นาทีต่อมา...
“กรี๊ดดดดดดดด!!!! พี่ลุซซูเรียค้------า ช่วยด้วยค่ะ บอสเพี้ยนไปแล้ว หนูกลัว!!!!!!!!!!!” เอเรียตต้าวิ่งแจ้นมาหลบหลังกะเทยถึกอย่างปัจจุบันทันด่วน
Varia’s Gossip Today : Varia’s Life Column
คืนนี้มีเด็กใสวัยสิบสี่คนหนึ่งฝันหลอนนอนผวา เนื่องจากจู่ๆ ได้เจอกับบอสวาเรียในโหมดใจดีผีเข้า
ต้นเหตุจากได้ยินเจ้าชายวิปริตตัวหนึ่งพูดว่าเจ้าตัวเหมือนลูกฉลามที่เกิดจากท่านชายแสนศักดิ์
ส่วนป๋าแสนได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความมึน งง เง็ง ว่าเวลาตูใจดีน่ากลัวกว่าเวลาตูใจร้ายเรอะ!!
ঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃঃ◌
ความเหน็บหนาวของสายน้ำ... ไม่ได้เกาะกินไปถึงหัวใจ
ไม่ช้าจึงกลายเป็นความชาชิน
หิมะสีขาวบริสุทธิ์ของไวท์คริสตมาสที่ไม่อาจแตะต้องผิวกายของสายหมอกได้
กลับสร้างความเหน็บหนาวให้มากกว่านั้น
เมื่อเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่มองเห็นไกลๆ
จากทางหน้าต่างเดินห่างไปไกลราวกับจะหายไปในสีขาวโพลนของหิมะ
“โคลม...... โคลมครับ...... มาหาผมได้หรือเปล่า?”
“ค่ะ ท่านมุคุโร่”
บทสนทนาที่ไม่จำเป็นต้องเอื้อนเอ่ยเป็นคำพูดเด็กสาวก็เข้าใจ และไม่ได้คิดว่าเป็นการรบกวนแม้ว่าเธอจะหลับไปแล้วก็ตามที เธอดีใจด้วยซ้ำที่ถูกเรียกหา
“ฉันว่าฉันไปให้เองดีกว่านะคะ ร่างกายของท่านมุคุโร่ไม่เหมาะจะออกไปข้างนอกตอนอากาศแบบนี้” โคลมค้านเมื่อรู้จุดประสงค์ของคนที่เรียกเธอมา
“ขอร้องล่ะครับโคลม” เขาแค่อยากจะรู้... ว่าหลังจากที่ส่งเขาเข้านอนแล้ว... วองโกเล่ออกไปที่ไหนตอนดึกดื่นอย่างนี้
แม้จะเคลื่อนไหวได้อย่างเชื่องช้าภายใต้การประคองของเด็กสาว แต่รอยเท้าที่ย่ำเหยียบทิ้งรอยไว้ที่ผืนหิมะที่ทับถมหนาจนมองไม่เห็นพื้นยังคอยเป็นเครื่องบอกทางให้ได้
บอส... เข้าไปในบาร์...... ปกติที่อย่างนี้บอสไม่ค่อยชอบนี่นา ทำไมถึงได้มาล่ะ?
โคลมพยุงมุคุโร่เพื่อจะแอบตามเข้าไป แต่ถูกห้ามเอาไว้จากคนเฝ้าเสียก่อน
“ขอโทษครับ ที่นี่เราไม่อนุญาตให้เด็กเข้านะครับคุณหนู”
คนถูกห้ามจากยามเฝ้าหน้าประตูไม่พูดค้าน เพียงแค่แสดงวองโกเล่ริงแห่งสายหมอกเท่านั้น
“ขอประทานอภัยโทษครับ กระผมไม่ทราบว่าท่านคือผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกของวองโกเล่” ระดับความนอบน้อมเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อเห็นแหวนที่แสดงถึงตำแหน่งของผู้พิทักษ์
“ฉันกับท่านมุคุโร่เข้าไปได้สินะคะ” โคลมถาม
“แน่นอนครับ” คนเฝ้าประตูเปิดทางให้ทันที
“ขอโทษนะคะท่านมุคุโร่ ที่ใช้อำนาจของมาเฟียที่ท่านเกลียดอย่างนี้” โคลมเอ่ยเมื่อหาที่นั่งพักให้เจ้าของแหวนสายหมอกตัวจริงได้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้ว่าเพราะคุณเป็นห่วงผม” ข้างนอกอากาศเย็น แล้วร่างกายเขาไม่ค่อยดีด้วย
“…จากตรงนี้บอสคงมองไม่เห็นพวกเรา” ผู้คนในบาร์คับคั่งและมีคนเข้าออกตลอดเวลาอยู่แล้ว จึงไม่มีใครสนใจคนที่เพิ่งเข้ามา
สีขาว... สีของหิมะ
สีขาว... สีที่สว่างไสว
สีขาว... สีที่แสดงถึงความพิสุทธิ์
ทว่า สีที่เขาได้เห็น คือความอันธการที่มีไร้สีสันใดๆ นอกจากสีขาวนั้น
ความมืด... ที่ไม่ใช่สีดำ
“พวกคุณนี่แปลกจริงๆ เลยนะครับ ทั้งที่มาบาร์เหล้าแต่กลับสั่งเครื่องดื่มเป็นนมอุ่นอย่างนี้น่ะ” บาร์เทนเดอร์พยายามสร้างความสนิทสนมกับลูกค้า
“ผมไม่ชอบเหล้า” สึนะตอบสั้นๆ ดื่มในงานสังสรรค์บ้าง แต่ไม่เคยชื่นชอบรสชาติของมันสักนิด
“ฉันก็ชอบแต่ของหวานๆ เท่านั้นน่ะ” เบียคุรันดื่มนมร้อนเข้าไปแล้วยิ้มหวานให้บาร์เทนเดอร์
ทำไมคุณถึงมาพบคนคนนี้ครับ วองโกเล่?!
-tbc-
ความคิดเห็น