ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rockman X {x} Zero no Tsukaima : โลกใบใหม่

    ลำดับตอนที่ #77 : End Tale Pt.2: Tales of the Savior

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 225
      4
      24 ส.ค. 60

    เวลาผ่านไปหนึ่งปีนับแต่ประกาศสิ้นสุดสงครามอิเร็กกุล่าร์อย่างเป็นทางการ ไม่ได้หมายความว่าอิเร็กกุล่าร์หายไปโดยสิ้นเชิง แต่ปริมาณและอัตราการปรากฏก็ลดลงถึง 85%  ตอนนี้อิเร็กกุล่าร์ไม่ต่างจากอาชญากรทั่วไปที่ก่อเหตุด้วยเหตุผลทั่วๆ ไป
     
    ไม่มีไวรัส ไม่มีซิกม่า เรปลิลอยด์รุ่นใหม่ถูกผลิตโดยไม่มีชิปก็อปปี้ เนื่องจากความเสียหายส่งผลกระทบต่อทรัพยากรโลกและการป้องกันไวรัสไม่จำเป็นอีกต่อไป
     
    อิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ยังคงทำหน้าที่ตามปกติ แต่ด้วยปริมาณอิเร็กกุล่าร์ที่ลดลงและความรุนแรงที่ต่ำ ทำให้สามารถกระจายงานออกไปยังฮันเตอร์ใหม่หรือที่ไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้สูงนักได้
     
    ทว่าในข้อดีก็มีข้อเสีย อย่างที่เขากับแอ็กเซลกำลังประสบอยู่ในขณะนี้
     
    ว้าก!!~”
     
    เงียบแล้วทำงานไปแอ็กเซล เขาบอกแอ็กเซลที่ชูแขนขึ้นและร้องเสียงดังเป็นครั้งที่ห้าในสัปดาห์เดียว
     
    ช่วงที่ต้องออกภาคสนามทุกวันไม่ต้องทำก็เลยลืมไป แต่งานเอกสารนี่มันชั่วร้ายกว่าอิเร็กกุล่าร์ซะอีก...
     
    เพราะตอนนั้นศัตรูเยอะมากจนรายงานละเอียดไปก็ไม่มีประโยชน์ผู้บัญชาการซิกนัสถึงได้ให้นาวิเกเตอร์รองทำแทนเรา ตอนนี้ก็กลับสู่สภาวะปกติแล้ว
     
    ไม่อะ ไม่ปกติ...เพราะคราวนี้เราต้องทำของคนอื่นด้วย...
     
    เพื่อให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้มีประสบการณ์ แล้วให้เราพักผ่อนไปด้วยในตัว อีกอย่างนี่มันเป็นหน้าที่ของหัวหน้าหน่วยอยู่แล้ว
     
    ก็บอกแล้วว่าไม่อยากเป็นหัวหน้าไม่อยากมีลูกน้อง ชอบความคล่องตัว... แอ็กเซลฟุบลงไปกับโต๊ะ หันหน้ามาทางเขา
     
    ...นี่เอ็กซ์
     
    อะไรอีกล่ะ?
     
    ปลุกซีโร่ขึ้นมาช่วยเถอะ จะได้แบ่งงานไปบ้าง
     
    รัฐบาลตอบมาแล้วไงว่าให้รอไปก่อน จนกว่าจะควบคุมสถานการณ์ทั่วโลกได้ ...อีกอย่างถ้านายปลุกซีโร่ขึ้นมาด้วยเหตุผลนั้น ฉันก็ได้ทำงานเท่าเดิม งานก็ย้ายจากนายที่โดนฆ่าไปให้ซีโร่ที่เพิ่งตื่นแค่นั้น ถ้ามีเวลาจะร้องหาคนช่วยก็รีบทำให้เสร็จดีกว่า ระหว่างที่พูดกันฉันทำไปได้อีกสามเปอร์เซ็นต์แล้วนะ
     
    แอ็กเซลบ่นอุบอิบแล้วกลับไปจิ้มปุ่มบนโต๊ะด้วยความกระตือรือร้นเท่ากับแพนด้า
     
    ภัยของอิเร็กกุล่าร์ผ่านไปแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเรปลิลอยด์ก็เย็นลงพอสมควรในระหว่างที่มนุษย์ต้องหลบภัยและได้เรปลิลอยด์รุ่นเก่าคอยปกป้อง การที่ไม่มีไวรัสอิเร็กกุล่าร์แล้วทำให้ภาพลักษณ์ของเรปลิลอยด์โดยรวมดีขึ้นพร้อมๆ กับความสบายใจของมนุษย์
     
    หากสถานการณ์ยังดีขึ้นเรื่อยๆ คงอีกไม่นานก่อนที่จะปลุกซีโร่กลับมาได้ ตั้งแต่จบโปรเจค H0PE ร่างของซีโร่ก็เก็บรักษาไว้โดยไม่มีโครงการจะนำไปทำอะไรอีก
     
    เขารู้สึกว่าอะไรๆ กำลังจะดีขึ้น
     
    #ฮันเตอร์เอ็กซ์ รายงานตัวกับผู้บัญชาการ#
     
    คำประกาศดังสองครั้ง
     
    ได้เวลาแล้ว เขากดปุ่มบนโต๊ะปิดภาพโฮโลแกรมแล้วลุกขึ้น
     
    จะหนีเหรอเอ็กซ์?
     
    ฉันกับผู้บัญชาการต้องไปร่วมประชุมที่สหภาพตะวันตก นายทำงานไปอย่าอู้ล่ะ
     
    เอ็กซ์...ให้ฉันไปแทนแล้วนายเอา—
     
    เขาเดินออกมาจากห้องก่อนที่แอ็กเซลจะพูดจบ
     
    [...]
     
    [.....]
     
    เมื่อสัปดาห์ก่อนครบรอบหนึ่งปีที่มาเธอร์เอลฟ์ขจัดโปรแกรมอิเร็กกุล่าร์ออกไปจากเรปลิลอยด์ทั่วโลก ตัวแทนรัฐบาลสหภาพตะวันตกที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของโลกปัจจุบันจัดการประชุมหารือความมั่นคงขึ้นที่อาคารหลักของศูนย์กลางการปกครองประเทศ
     
    ห้องประชุมเป็นห้องกว้างโล่ง เว้นแต่โต๊ะยาวโค้งเป็นครึ่งวงกลมและเครื่องฉายภาพที่ใจกลาง เขากับซิกนัสนั่งลงที่เก้าอี้สองตัวปลายสุด ที่นั่งอื่นๆ อีกสิบสองที่นั่งเป็นตัวแทนรัฐบาลจากกลุ่มประเทศทั่วโลกและตัวแทนกลุ่มองค์กรหรือสมาพันธ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
     
    เมื่อทุกคนนั่งที่พร้อมแล้วประธานก็กล่าวเริ่มการประชุม
     
    เนื้อหาการประชุมมีหลายเรื่อง แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาคือการฟื้นฟูที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และเพื่อการนั้นอัตราการผลิตเรปลิลอยด์มีแต่เพิ่มขึ้น ขณะที่อิเร็กกุล่าร์ยังไม่ได้หมดไปเสียทีเดียว บางครั้งโปรแกรมเมคานิลอยด์ก็ขัดข้องจริงๆ  ดังนั้นจำนวนเรปลิลอยด์ที่เพิ่มขึ้นก็หมายถึงความเสี่ยงการเกิดเหตุที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
     
    ตอนนี้อิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์มีฐานปฏิบัติการเพียงสามแห่ง ศูนย์ใหญ่ที่นี่ สาขาตะวันออกไกล และสาขาตะวันตกไกลที่เพิ่งจะกลับมาทำงานได้ ซิกนัสตอบคำถาม
     
    ทางเราคิดว่าแทนที่จะตั้งสาขาขนาดกลางตามตำแหน่งเดิม กระจายกำลังออกเป็นศูนย์ควบคุมเล็กๆ ในระดับท้องถิ่นน่าจะเหมาะสมกว่ากับสถานการณ์ปัจจุบัน หนึ่งในตัวแทนจากรัฐบาลต่างประเทศเสนอ
     
    ผมก็คิดอยู่ แต่การจะตั้งศูนย์ขนาดเล็กจำนวนมากอาจต้องใช้เวลา หากได้รับความร่วมมือจากทางท้องถิ่นในการจัดหาสถานที่ก็จะทำได้ง่ายขึ้น
     
    เรื่องนั้นให้ทำเรื่องติดต่อกันหลังจากการประชุมน่าจะดี คิดว่าคนส่วนใหญ่ที่นี่น่าจะเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
     
    ส่วนเรื่องจัดหาอุปกรณ์ทางเราสามารถจัดการให้ได้ ฐานการผลิตในประเทศของเราส่วนใหญ่ปลอดภัยจากการรุกราน
     
    ผู้บัญชาการของเขาเจรจาเสร็จสรรพ เขาได้รายงานสั้นๆ แค่สามสี่ประโยคเท่านั้น ที่จริงไม่จำเป็นต้องให้เขามาก็ได้ แต่ซิกนัสยืนยันว่าเขาควรมา ให้เห็นหน้า ด้วย
     
    การประชุมดูจะเป็นไปอย่างราบรื่นดี มีข้อสงสัยหรือส่วนปลีกย่อยที่ยังตกลงกันไม่ได้แต่ไม่ใช่อะไรใหญ่โต
     
    ช่วงท้ายของการประชุมเป็นการเสนอโครงการจากศูนย์วิจัยโฮป ตามชื่อโปรเจค H0PE  และนำโดยนักวิจัยผู้ได้ชื่อว่าค้นพบมาเธอร์เอลฟ์
     
    ทางศูนย์วิจัยแจ้งมาว่าโครงการนี้จะเสริมการทำงานของอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ให้มีประสิทธิภาพขึ้น ช่วยชี้แจงต่อที่ประชุมด้วย
     
    ด้วยความยินดี
     
    ผู้ที่กล่าวเป็นชายสูงวัยผมและหนวดเคราสั้นสีขาวโพลน
     
    เขาไม่ใช่ประเภทที่ตัดสินคนจากภายนอก แต่ชายสูงวัยคนนี้ทำให้เขาอึดอัดโดยเฉพาะแววตากับรอยยิ้มนั้นทำให้เขานึกถึงซิกม่า
     
    เครื่องฉายภาพเปลี่ยนจากกราฟเส้นเป็นภาพของมาเธอร์เอลฟ์และหน้าต่างตัวหนังสือ
     
    อย่างที่ทราบกันดี ซิกม่าแอนติบอดี้โปรแกรม หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า มาเธอร์เอลฟ์ รักษาอิเร็กกุล่าร์ให้กลับเป็นปกติ กระบวนการนั้นทำได้โดยแยกส่วนโปรแกรม DNA ของเรปลิลอยด์ กำจัดส่วนที่เป็นอิเร็กกุล่าร์ แล้วประกอบคืนอย่างเดิม สรุปง่ายๆ ว่าเป็นการดัดแปลงโปรแกรม DNA”
     
    ข้อนั้นเขาซึ่งเป็นคนใช้รู้อยู่แล้ว แต่ก็จริงที่คนที่ไม่ได้ใส่ใจ(อย่างเช่นแอ็กเซล)อาจจะไม่รู้ แต่เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีที่ชายชราคนนี้ยกเอาเรื่องนั้นมาพูด
     
    ย้อนกลับไปวันที่ วีรบุรุษเอ็กซ์ ใช้มาเธอร์เอลฟ์ดัดแปลงโปรแกรม DNA ของเรปลิลอยด์ทุกตัวบนโลกจากตำแหน่งเดียว เป็นสิ่งที่เหนือความสามารถของมาเธอร์เอลฟ์ตามที่คาดคะเนไว้
     
    เขาผงะ ไม่คิดว่าจู่ๆ จะถูกกล่าวถึง
     
    หลังจากตรวจสอบบันทึกกิจกรรมของมาเธอร์เอลฟ์เราจึงพบว่าสาเหตุที่ทำอย่างนั้นได้เป็นเพราะเอ็กซ์รวมระบบของตัวเองเข้ากับมาเธอร์เอลฟ์ชั่วคราว พลังงานจากร่างของเอ็กซ์ทำให้ระดับความสามารถของมาเธอร์เอลฟ์เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ
     
    มิน่า เขาถึงรู้สึกเหนื่อยแทบขาดใจ
     
    โปรแกรม DNA คือสิ่งที่กำหนดพฤติกรรมของเรปลิลอยด์ รวมทั้งตัดสินว่าจะเป็นหรือไม่เป็นอิเร็กกุล่าร์เมื่อได้รับแรงกระตุ้นในระดับหนึ่ง จุดประสงค์ของโครงการใหม่นี้คือการใช้ความสามารถนี้ไม่ให้เรปลิลอยด์ตัวใดเป็นอันตรายต่อมนุษย์ หากเราควบคุมโปรแกรม DNA ของเรปลิลอยด์ไว้ตลอดเวลา อิเร็กกุล่าร์ก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น และหากใช้หลักการเดียวกับที่เอ็กซ์ทำ การควบคุม DNA ของเรปลิลอยด์ทั้งโลกจากจุดเดียวก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โลกใบนี้จะไม่ต้องพบกับภัยจากเรปลิลอยด์อีกเลย!”
     
    เสียงพูดคุยดังขึ้นในหมู่ผู้ประชุม คำอ้างว่า อิเร็กกุล่าร์เป็นศูนย์ นับว่ากล้าและต้องใช้ความมั่นใจสูงมากหลังเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป
     
    ...แต่ขณะเดียวกันมันก็ทรงพลัง ไม่ต้องสงสัยว่าทุกคนคิดอย่างเดียวกัน  ดูเพ้อฝัน...แต่ถ้าทำได้จริงจะดีขนาดไหน?
     
    อธิบายต่อสิ ด็อกเตอร์ ประธานเร่ง ซึ่งชายชราก็ปฏิบัติตามด้วยความยินดียิ่ง
     
    โครงการนี้ต้องการสองสิ่งด้วยกัน หนึ่งคือซิกม่าแอนติบอดี้โปรแกรม หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า มาเธอร์เอลฟ์  อีกหนึ่งคือเรปลิลอยด์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสซิกม่าซึ่งเป็นฐานของความสามารถนี้ เมื่อนำสองสิ่งมารวมกัน เราก็จะได้เรปลิลอยด์ที่ปกครองเหนือเรปลิลอยด์ทั้งหมดได้อย่างเด็ดขาด เราเพียงแต่ต้องควบคุมดูแลเรปลิลอยด์ตัวนั้นเพียงตัวเดียว ก็จะไม่ต้องเป็นห่วงเรปลิลอยด์ที่อยู่ทั่วโลก
     
    เสียงพูดคุยเบาลงกว่าครั้งที่แล้ว แต่ไม่ใช่เพราะความสนใจที่ลดลง หลายคนเริ่มโอนเอียงตามสัญญาของการ ปลอดอิเร็กกุล่าร์ตลอดกาล
     
    เขาปล่อยให้พูดมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว
     
    ขออภัยที่ต้องขัด ด็อกเตอร์ แต่ผมมีคำถามอยากจะถาม
     
    เชิญเลย วีรบุรุษ มีข้อสงสัยอะไรผมยินดีจะตอบ
     
    รอยยิ้มนั่น ชายสูงวัยคนนี้รู้อยู่แล้วว่าเขาจะพูดอะไรและเพราะอะไร
     
    โครงการที่คุณกล่าวถึงนี้ การควบคุมโปรแกรม DNA ของเรปลิลอยด์ สรุปแล้วก็คือการควบคุมพฤติกรรมของเรปลิลอยด์โดยเบ็ดเสร็จ สามารถออกคำสั่งกับใคร ที่ไหม เมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ
     
    ท่าทางจะเข้าใจดี
     
    นั่นมันไม่ต่างจากทาสเลยไม่ใช่รึไง?!” เขากลั้นเสียงตัวเองไม่ได้
     
    ก็ใช่น่ะสิ
     
    ตอบทันที ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความลังเล ซ้ำยังเลิกคิ้วราวกับถามว่า พูดอะไรผิดหรือ?  ทั้งที่เป็นแค่คำสั้นๆ แต่ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก
     
    เอ็กซ์ คุณต่อสู้กับอิเร็กกุล่าร์มาตั้งแต่การกบฏของซิกม่าครั้งแรก น่าจะรู้ดีกว่าใครที่สุด ภัยจากเรปลิลอยด์น่ะไม่มีวันหมดไปหรอก ตราบเท่าที่เรปลิลอยด์ยังถูกปล่อยให้ร่อนไปร่อนมาได้โดยไม่สวมปลอกคอไว้
     
    ชาย...ชายคนนี้พูดอะไร...
     
    ด็อกเตอร์ คิดว่าเรปลิลอยด์เกิดขึ้นมาแทนหุ่นยนต์รุ่นเก่าเพื่ออะไร?
     
    เพื่อรับใช้มนุษย์ให้ดีขึ้นน่ะสิ อีกแล้ว ตอบอย่างไม่ลังเล
     
    ไม่ใช่! สาเหตุที่เรปลิลอยด์ได้รับความสามารถในการคิดและตัดสินใจเองได้ ก็เพื่อที่จะตัดสินถูกผิดด้วยตัวเอง ไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของคนที่ชั่วร้ายได้ง่ายๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต!”
     
    แล้วดูซิว่า อิสระในการตัดสินใจ นั้นทำอะไรกับโลกบ้าง! บ้านเมืองวอดวาย! ผู้คนล้มตาย! ธรรมชาติเสียหาย! โลกทรุดโทรมจนรัฐบาลแต่ละประเทศต้องมาประชุมกันอยู่ที่นี่!”
     
    สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโปรแกรมอิเร็กกุล่าร์ต่างหาก! อัตราการเกิดอิเร็กกุล่าร์ที่ลดต่ำลงหลังมาเธอร์เอลฟ์ก็ชี้ชัดอยู่แล้ว!”
     
    แต่ก็ไม่ได้หมดสิ้น ตราบเท่าที่ยังมีอยู่ก็มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้ ถ้าวันดีคืนดีเรปลิลอยด์เกิดตัดสินใจลุกฮือขึ้นเหมือนครั้งล่าสุดอีกจะทำยังไง? ครั้งนี้ไม่มีโปรแกรมอิเร็กกุล่าร์ให้กำจัดแล้ว มีแต่โครงการนี้เท่านั้นที่จะหยุดได้
     
    ไม่มีประโยชน์...ชายคนนี้มองต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง ถึงพูดด้วยเหตุผลเรื่องข้อดีข้อเสียไปก็เท่านั้น
     
    ...คุณเข้าใจผิดแล้วด็อกเตอร์ โครงการของคุณต่างหากที่จะทำให้เกิดการจลาจล เรปลิลอยด์มีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกับมนุษย์ โครงการของคุณที่พยายามควบคุมเรปลิลอยด์เหมือนทาสเป็นความไร้มนุษยธรรม ไม่สมควรได้รับการยอมรับ
     
    ผมคิดว่าพวกเราได้รับบทเรียนเรื่องความสำคัญในการปิดข้อมูลเป็นความลับกันพอแล้วจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตราบที่ข้อมูลไม่รั่วไหล การจลาจลก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เมื่อโครงการเสร็จสิ้นถึงจะรู้ก็ไม่เป็นไร เราเพียงแต่ต้องควบคุมพฤติกรรมที่จะก่อจลาจลเท่านั้น นอกจากนั้นก็สามารถทำงานไปตามปกติได้ ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร หรือว่าจะมีใครเอาออกไปแพร่งพราย? ใครที่ทำแบบนั้นต้องมีเจตนาให้เกิดจลาจลเท่านั้นล่ะนะ
     
    ข้อกล่าวหาตอนท้ายนั้นแทบไม่ต่างจากพูดออกมาตรงตัว
     
    ...คุณเข้าใจผิดอีกแล้ว การต่อต้านที่ผมหมายถึงไม่ได้มาจากแต่เพียงเรปลิลอยด์ จากมนุษย์เองก็เช่นกัน
     
    ทำไมพวกเราจะต้องทำอย่างนั้นด้วย? มนุษย์อย่างพวกเราคือผู้ที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ที่สุด รองลงมาก็คือเรปลิลอยด์ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงว่าจู่ๆ จะโดนเพื่อนตัวเองแหกอกเอา
     
    ด็อกเตอร์ คุณที่เป็นมนุษย์ควรจะรู้ดีกว่าผม เขาจงใจใช้คำพูดแบบเดียวกับชายชรา
     
    มนุษย์ไม่ได้ต่อสู้เพียงเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่สามารถต่อสู้เพื่อสิ่งอื่นที่สำคัญ สิ่งที่ดีงาม ผมมั่นใจว่ามนุษย์จะต่อสู้เพื่อเรปลิลอยด์เช่นเดียวกับที่เรปลิลอยด์ต่อสู้เพื่อมนุษย์ นั่นเพราะในส่วนหนึ่งของจิตใจทุกคนต่างรู้ว่าการจะก้าวไปสู่อนาคตจำเป็นต้องมีทั้งมนุษย์และเรปลิลอยด์ จะขาดใครไปไม่ได้
     
    แม้กระทั่งตอนที่โต้เถียงกับเขาด้วยเสียงดังชายชราก็เพียงแต่แสดงใบหน้าขึงขัง แต่ตอนนี้ใบหน้าของชายชราแสดงอารมณ์โกรธเป็นครั้งแรก
     
    ความคิดอุดมคติเพ้อฝันพรรค์นั้นมีประโยชน์อะไร! กับพวกเลี้ยงไม่เชื่องมีแต่ต้องใช้พลังเด็ดขาดควบคุมให้อยู่หมัดเท่านั้น!”
     
    อย่างที่คาด ความคิดของเขากับชายชราคนนี้เข้ากันไม่ได้ยิ่งกว่าน้ำกับน้ำมัน
     
    ถ้าอย่างนั้นคุณต้องเริ่มจากผมคนเดียวให้ได้ก่อน เพราะนอกจากผมก็ไม่มีเรปลิลอยด์ที่ปลอดภัยต่อไวรัสอิเร็กกุล่าร์อีก แม้แต่แอ็กเซลที่เป็นต้นแบบของเรปลิลอยด์รุ่นใหม่ถ้ารวมระบบเข้ากับมาเธอร์เอลฟ์อย่างที่คุณว่า ชิปก็อปปี้ก็ต้องสัมผัสกับแก่นของมาเธอร์เอลฟ์โดยตรง แบบนั้นก็ไม่ปลอดภัยต่อไวรัสอีกต่อไป
     
    จริงๆ แล้วเขาไม่รู้แน่ เป็นการบลัฟเกินครึ่ง
     
    ชายชราเปลี่ยนจากความโกรธเป็นยิ้มเยาะ หรือจะจับได้ว่าเขาแกล้งขู่
     
    ท่าทางได้เป็น วีรบุรุษ แล้วจะสำคัญตัวผิดไปนะเอ็กซ์ เพิ่งจะผ่านไปแค่ห้าปีก็ลืมเพื่อนไปเสียแล้ว
     
    เพื่อน หมายถึงใคร—
     
    อย่าบอกนะว่า...!”
     
    จำได้สินะ! ใช่แล้ว ซีโร่ไง! อิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ในตำนานที่สละร่างกายของตัวเองเพื่อการวิจัย ไม่ใช่เพียงแต่ไม่ถูกครอบงำจากไวรัสซิกม่า แต่ยังมีพลังมากขึ้น! แถมตอนนี้ยังเป็นแค่ร่างกายเปล่าๆ  แค่ใส่บุคลิกให้ภักดีต่อมนุษย์อย่างไร้คำถามทำได้ง่ายนิดเดียว! เป็นสื่อกลางที่สมบูรณ์แบบที่สุด!”
     
    แก...! เห็นร่างกายซีโร่เป็นอะไร?!”
     
    เอ็กซ์ ใจเย็นก่อน ผู้บัญชาการยกมือขึ้นเตือนเขา
     
    โอ๊ะๆ  น้ำเสียงแบบนั้น เดี๋ยวจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นอิเร็กกุล่าร์เอานะ คงไม่อยากให้เสียชื่อวีรบุรุษใช่มั้ย
     
    เขากัดฟันกรอด มือสองข้างกำจนสั่นอยู่บนโต๊ะ นานแล้วที่เขาไม่ได้โกรธแค้นใครถึงขนาดนี้ ระหว่างนี้ชายชราก็หันไปพูดกับที่ประชุม
     
    ท่านผู้ทรงคุณวุฒิคงจะเข้าใจสิ่งที่ผมพูด  [โปรเจคเอลปิส] นี้คืออนาคตที่แท้จริงของโลก!”
     
    เขากลั้นใจไม่ให้พูดออกไป เมื่อชายชราพูดกับที่ประชุมก็ต้องให้ที่ประชุมเป็นผู้ตอบ ผู้บัญชาการซิกนัสกับเขาที่เป็นเรปลิลอยด์ไม่มีสิทธิ์
     
    โปรเจคเอลปิสนี้บ้าคลั่งสิ้นดี แต่ถ้าหาก...ถ้าหากที่ประชุมเห็นด้วยขึ้นมา ไม่สิ แม้โครงการจะไม่ผ่าน แต่หากตัวแทนแม้แต่คนเดียวแสดงการสนับสนุน มุมมองของคนที่นี่ต่อเรปลิลอยด์จะเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับได้
     
    ใบหน้าครุ่นคิดอย่างจริงจังของตัวแทนแต่ละคนไม่ช่วยอะไรเขาเลย เขาทำไม่ได้แม้แต่คาดเดาว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
     
    ทันใดนั้นประตูห้องประชุมก็เลื่อนเปิดขึ้น
     
    หยุดแค่นั้นล่ะค่ะ ด็อกเตอร์ไวล์
     
    เสียงพูดเป็นของหญิงสาว เสียงฝีเท้าและร่างที่ก้าวเข้ามาก็ใช่
     
    ดิฉันเป็นตัวแทนจากศูนย์วิจัยโฮป ต้องการจะเรียนให้ที่ประชุมทราบว่าโปรเจคเอลปิสนั้นไม่ใช่โครงการที่ทีมวิจัยของเราคิดขึ้น
     
    เสียงพูดดังขึ้นปนเปกัน
     
    หมายความว่ายังไง?” “เป็นตัวแทนไม่ใช่เหรอ? นี่ก็ตัวแทน นั่นก็ตัวแทน แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?” “มันยังไงกันแน่?
     
    เขาเองก็ไม่แน่ใจ แต่ใบหน้าที่ซีดเผือดของชายชราที่ชื่อด็อกเตอร์ไวล์นี้บอกให้รู้ว่าการปรากฏตัวของหญิงสาวคนนี้เป็นผลดีกับเขา
     
    ในที่สุดประธานที่ประชุมยกมือขึ้นให้ทุกคนเงียบ แล้วพูดกับหญิงสาวปริศนาเสียงเครียด
     
    ด็อกเตอร์ ช่วยชี้แจงต่อที่ประชุมด้วยว่าคุณเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร ทราบเนื้อหาการประชุมได้อย่างไร และคำพูดของคุณหมายความว่าอย่างไร
     
    หญิงสาวที่ท่าทางเป็นนักวิจัยเดินเข้ามาและหยุดต่อหน้าที่ประชุมโดยไร้ความกลัว
     
    ดิฉันขอเริ่มตั้งแต่ต้น ตามกำหนดการแล้วด็อกเตอร์ไวล์จะเป็นตัวแทนศูนย์วิจัยโฮปเสนอโครงการใหม่ที่จะช่วยในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งการเป็นตัวแทนนี้เป็นความประสงค์ของด็อกเตอร์ไวล์เอง
     
    ที่ประชุมตั้งใจฟังที่นักวิจัยหญิงพูด ด็อกเตอร์ไวล์ลนลานทำอะไรไม่ถูกยืนตัวแข็งอยู่กับที่
     
    ดิฉันกับสมาชิกทีมวิจัยส่วนหนึ่งรู้สึกสงสัยเจตนาของด็อกเตอร์ไวล์มาได้สักพักแล้ว ความคิดของเขามีแนวโน้มไปในทางสุดโต่งกว่าคนอื่น เขาเคยเสนอแนวคิดของโปรเจคเอลปิสนี้กับพวกเราแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทุกคนนอกจากเขาปฏิเสธ ดังนั้นเมื่อเขาอาสาเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุม ดิฉันจึงตัดสินใจมารอที่นี่และแฮ็กเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อฟังการประชุมและตรวจสอบเอกสาร ดิฉันต้องขออภัยอย่างสูง
     
    สมาชิกการประชุมบางคนแสดงอาการประหลาดใจ แต่ความสนใจสิ่งนักวิจัยหญิงพูดมีมากกว่าความระแวง
     
    เมื่อทราบแน่ชัดว่าเอกสารโครงการที่ยื่นต่อที่ประชุมถูกสับเปลี่ยน และเนื้อหาที่ด็อกเตอร์ไวล์นำเสนอไม่ใช่โครงการที่ถูกต้อง ดิฉันจึงแฮ็กรายชื่อการประชุมและใส่ชื่อดิฉันเข้าไปเพื่อที่จะเข้ามาแจ้งให้ที่ประชุมทราบความจริง เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้ค่ะ
     
    ประธานพยักหน้าว่ารับทราบ ขณะที่คนอื่นๆ เงียบและรอให้ประธานกล่าว
     
    คุณได้นำโครงการ จริงมาหรือเปล่า?
     
    อยู่นี่แล้วค่ะ
     
    นักวิจัยหญิงคลายนิ้วมือให้เห็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กบนฝ่ามือ ประธานพยักหน้าอีกครั้ง
     
    ด็อกเตอร์ คุณมีเจตนาดี แต่อย่างไรสิ่งที่คุณทำก็ถือเป็นความผิด ฉะนั้นผมจะทำเรื่องแจ้งโทษคุณภายหลัง ฐานเข้าประชุมสาย
     
    คำพูดของประธานที่ประชุมทำให้หลายคนรวมทั้งเขาประหลาดใจ ส่วนหญิงสาวเจ้าของเรื่องเองเพียงแค่ตอบรับสั้นๆ
     
    ส่วนด็อกเตอร์ไวล์ กรุณาออกไปรอข้างนอก ที่ประชุมจะพิจารณาโทษของคุณภายหลัง
     
    เมื่อถูกกล่าวกับตัวด็อกเตอร์ไวล์จึงได้สติคืนมาและเริ่มโวยวาย
     
    เดี๋ยวก่อน! สำคัญด้วยเหรอว่าโครงการมาจากใคร? โปรเจคเอลปิสของฉันสามารถกำจัดภัยจากเรปลิลอยด์ได้ดีกว่าอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์กับโครงการสั่วๆ นั่นเป็นไหนๆ!”
     
    สิ่งที่คุณพูดนั้นไม่ผิด แต่ขณะนี้โลกถือว่าได้อยู่ในยุคที่สงบสุขกว่าที่ผ่านมา ไม่มีความจำเป็นต้องใช้วิธีการของคุณ น้ำเสียงของประธานนอบน้อมแต่เด็ดขาด
     
    บ้าน่ะ! แค่ตอนนี้เท่านั้นล่ะ! คิดว่าพวกหุ่นยนต์จะอยู่สุขได้นานซักแค่ไหน?! ถ้าไม่เตรียมตัวไว้แต่ตอนนี้—
     
    ประธานกดปุ่มใต้โต๊ะ พลันเรปลิลอยด์รักษาความปลอดภัยสองตัวก็เข้ามาในห้องและนำตัวด็อกเตอร์ไวล์ที่ดิ้นรนขัดขืนออกไป
     
    จำไว้ให้ดี! พวกแกจะต้องเสียใจที่ไว้ใจหุ่นยนต์!”
     
    ประตูปิดลง ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร
     
    ส่วนเขาคิดว่าต้องได้เห็นชายชราคนนั้นอีกแน่ คนแบบนั้นมักไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
     
    ด็อกเตอร์ เชิญ ขอให้รวบรัดเท่าที่ทำได้ เราเสียเวลาไปมากแล้ว ผมมีนัดทานข้าวกับเลขาฯของผมค่ำวันนี้
     
    เลขาฯของประธานเป็นเรปลิลอยด์หญิงท่าทางเข้มงวดจนดูน่ากลัวนิดๆ  แม้จะไม่ได้น่าขำขันเป็นพิเศษ แต่หลายคนก็ยิ้มกับความพยายามผ่อนคลายบรรยากาศของประธาน
     
    ดิฉันจะพยายามค่ะ รวมทั้งนักวิจัยหญิงด้วย
     
    โครงการ(จริง)จากศูนย์วิจัยโฮปคือไซเบอร์เอลฟ์ชนิดใหม่ ตั้งชื่อว่า [แซทเทิลไลท์] ตามลักษณะที่สามารถผูกกับคอมพิวเตอร์ที่มีฐานพลังงาน ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่สูญสลายไปตราบเท่าที่ยังใช้พลังงานจากแหล่งภายนอก คอมพิวเตอร์ที่มีฐานพลังงานนั้นรวมถึงเรปลิลอยด์ด้วย หากแจกจ่ายในจำนวนจำกัดแก่สาขาต่างๆ ของอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ ฮันเตอร์จะสามารถนำออกปฏิบัติการด้วยได้ ซึ่งไซเบอร์เอลฟ์ที่กำลังเร่งพัฒนาคือประเภทที่มีความสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของเครื่องจักร ทำให้การควบคุมอิเร็กกุล่าร์และสถานการณ์ทำได้ง่ายขึ้นมาก
     
    ขณะนี้แซทเทิลไลท์เอลฟ์ยังมีพลังไม่มากนักเมื่อเทียบกับไซเบอร์เอลฟ์ดั้งเดิม ซึ่งเราใช้ชื่อใหม่ว่า [ฟิวชัน]  จึงยังส่งผลต่อเรปลิลอยด์โมเดลต่อสู้หรือที่มีพลังสูงกว่าได้ไม่มาก แต่เชื่อว่าภายในสองปีจะสามารถผลิตแซทเทิลไลท์เอลฟ์ที่มีพลังเทียบเท่ากับฟิวชันเอลฟ์ได้ หลังจากนั้นคาดว่าความสูญเสียจากเมคานิลอยด์และเรปลิลอยด์จะลดลงอย่างน้อย 40%”
     
    โครงการของศูนย์วิจัยโฮปผ่านฉลุย และประธานที่ประชุมก็ไม่ต้องไปทานข้าวกับเลขาฯสาย
     
    ตัวแทนจากต่างประเทศและองค์กรค่อยๆ ทยอยกันออกจากห้องประชุม เขากับซิกนัสรอเป็นสองคนสุดท้าย
     
    เขาประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อนักวิจัยสาวจากโฮปเดินเข้ามาหาเขา
     
    คุณคืออิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์เอ็กซ์ใช่ไหมคะ?
     
    ? ครับ ตั้งแต่สงครามอิเร็กกุล่าร์สิ้นสุดลงดูเหมือนใครๆ ก็รู้จักเขา
     
    หญิงสาวส่งมือขวาให้ เขาจับมือตอบแล้วเงยหน้าขึ้นจะกล่าวตามธรรมเนียม ในพริบตานั้น...
     
    เอเลีย
     
    เป็นเกียรติที่ได้พบวีรุบุรุษผู้จบสงครามอิเร็กกุล่าร์ ดิฉันชื่อเชล เป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยโฮปค่ะ
     
    สายตาเขาจับจ้องที่ใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้า เขาไม่เห็นหรือได้ยินอะไรอย่างอื่น นอกจากภาพของเอเลีย จนกระทั่งหลายวินาทีหลังจากคำแนะนำตัว เมื่อซิกนัสเรียกชื่อเขา เขาจึงได้สติและปล่อยมือจากด็อกเตอร์เชล
     
    เป็นเกียรติของผมเช่นกันครับ
     
    หากคุณสงสัย พวกเราเคยพบกันแล้วครั้งหนึ่ง ฉันคือนักวิจัยที่คุณช่วยออกมาจากศูนย์วิจัยโปรเจค H0PE แห่งแรก
     
    เขาไม่ได้สงสัยจนกระทั่งหญิงสาวคนนี้พูดขึ้น เขาพิจารณารูปลักษณ์ของเธออยู่ครู่สั้นๆ  และจำได้
     
    ห้าปีก่อนหญิงสาวยังเป็นเด็กสาวที่ตัวเล็กกว่านี้เล็กน้อย เส้นผมสีทองก็มัดรวบเข้าด้วยกันอย่างง่ายๆ  หญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และปล่อยผมลง...เหมือนเอเลีย แม้แต่สีของดวงตาก็เหมือนกัน เป็นสีน้ำเงินที่มีประกายของความเฉลียวฉลาด
     
    เมื่อกี้ขอโทษด้วยครับ ผมแค่ตกใจเพราะว่าคุณเหมือนเพื่อน...ของผม เขาไม่อยากพูดคำว่า เก่า
     
    ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องธรรมดา
     
    เขาคิดไปเอง หรือว่ารอยยิ้มนั้นซ่อนความหมายที่เขาไม่รู้เอาไว้ ...ท่าทางไม่น่าใช่เรื่องใหญ่โตอะไร อาจจะแค่กลั้นหัวเราะอาการเก้ๆ กังๆ ของเขาก็ได้
     
    คำพูดของคุณที่พูดกับด็อกเตอร์ไวล์
     
    จริงสิ ผู้หญิงคนนี้ได้ยินการประชุมตั้งแต่ก่อนเข้ามา
     
    คุณพูดจริงหรือคะ? คุณเชื่อจริงๆ ว่ามนุษย์จะต่อสู้เพื่อสิทธิของเรปลิลอยด์ หรือเพียงแค่ขู่ด็อกเตอร์ไวล์?
     
    ทีแรกเขาประหลาดใจกับคำถามเล็กน้อย แต่ความประหลาดใจผ่านไปก็เข้าใจว่าไม่ใช่คำถามแปลกอะไร
     
    ...ครึ่งต่อครึ่งล่ะมั้งครับ
     
    หมายความว่า?
     
    ผมแน่ใจว่าต้องมีการเรียกร้อง แต่ไม่ถึงขนาดมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะใหญ่โตพอจะส่งผลต่อการตัดสินใจของสภา เพียงแต่ผมอยากเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น เพื่อนของผม...ซีโร่ ตอนที่ผนึกตัวเองซีโร่บอกว่าเขาทำไปเพราะผมเชื่อในตัวมนุษย์ และเขาเชื่อผม ฉะนั้นผมก็จะเชื่อในตัวมนุษย์ต่อไป
     
    พูดจนจบแล้วเขาจึงนึกได้ว่าอีกฝ่ายอาจไม่ได้ต้องการคำตอบยาวถึงขนาดนี้ แต่ก่อนที่เขาจะขอโทษอีกฝ่ายก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน
     
    ดิฉันเชื่อในเรปลิลอยด์ทั้งหมดเหมือนอย่างคุณไม่ได้ แต่ก็มีบางตัวที่ดิฉันเชื่อมากกว่ามนุษย์ หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นคุณก็ได้นะคะ
     
    ขอบคุณครับ ผมจะพยายามไม่ให้ผิดหวัง
     
    ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวก่อน ต้องกลับไปรายงานการอนุมัติโครงการกับทีมของดิฉัน แล้วพบกันใหม่ค่ะ
     
    แล้วพบกันครับ
     
    นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้ทำความรู้จักกับมนุษย์นักวิจัยหญิงผู้ซึ่งทิ้งความประทับใจไว้กับเขาพอสมควร(อาจเพราะปรากฏตัวในสถานการณ์ที่บีบคั้นด้วย)
     
    ภายหลังเขามองย้อนกลับมา และอดคิดไม่ได้ว่าการพบพานที่ถูกชักนำโดยเพื่อนของเขาอีกคนหนึ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของชะตากรรมอันแสนเศร้า
     
    [...]
     
    [.....]
     
    นับแต่โปรเจคเอลปิสถูกปฏิเสธ ด็อกเตอร์ไวล์ก็ถูกขับไล่ออกจากศูนย์วิจัยและหายตัวไป ทิ้งท้ายไว้ด้วยความเกลียดชังว่าโลกจะต้องเสียใจที่ปฏิเสธตัวเอง
     
    ไม่นานหลังจากนั้นอัตราการเกิดอิเร็กกุล่าร์ก็เริ่มสูงขึ้น ในทีแรกไม่มีใครสนใจมากนัก เข้าใจว่าเป็นเพียงความแปรผันจากจำนวนเรปลิลอยด์ที่เพิ่มขึ้น แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งปีแล้วจำนวนยังเพิ่มขึ้นจนกระทั่งเป็นเท่าตัว ทางการก็หันมาให้ความสนใจและขอคำอธิบาย ซึ่งทางอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ไม่มีให้ อิเร็กกุล่าร์ทั้งหมดปราศจากไวรัส โปรแกรมแปลกปลอม หรือแม้แต่ความบกพร่องในวงจร
     
    ในสายตาของผู้ที่เกี่ยวข้อง หลักฐานเหล่านี้ไม่ต่างกับบอกว่าเรปลิลอยด์โดยแก่นเป็นศัตรูของมนุษย์ และกำลังค่อยๆ เผยธาตุแท้
     
    ห้าเดือนที่ผ่านมาการปรากฏตัวอิเร็กกุล่าร์เพิ่มขึ้นถึง 12% และยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มด้วยอัตราที่สูงขึ้นเรื่อยๆ  เอ็กซ์ แอ็กเซล พวกนายพบเห็นอะไรผิดปกติบ้างรึเปล่า?
     
    ไม่เลยครับ อิเร็กกุล่าร์ทั้งหมดมีสติดีในขณะก่อเหตุและหลังก่อเหตุ บางส่วนที่ไม่ถูกทำลายอ้างว่าเกิดจากโทสะและอารมณ์ชั่ววูบ ถ้าจะมีก็มีแต่คนรู้จักบางคนที่ให้การว่าเรปลิลอยด์เหล่านั้นไม่เคยแสดงพฤติกรรมบันดาลโทสะมาก่อน แต่คำให้การแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดปกติ
     
    ทางนี้ก็บ๋อแบ๋
     
    ผู้บัญชาการนิ่งคิดอยู่สักพัก ก่อนจะบอกให้พวกเขาออกมาได้ เขากับแอ็กเซลเดินไปที่ห้องควบคุม
     
    ดูพวกเราซิ เวลาว่างก็ไปนู่นตลอด เพราะรู้ว่าว่างได้ไม่นานเดี๋ยวก็มีเหตุเข้ามา ให้ตายเหอะ เดจาวูสุดๆ แอ็กเซลบ่น
     
    เขาได้แต่เงียบ หลายเดือนที่ผ่านมาเรื่องนี้รุมเร้าเขาจนไม่เป็นอันคิดอะไร ยิ่งหาสาเหตุเท่าไรก็หาไม่พบ บางครั้งเขาคิดว่าอาจเป็นฝีมือของชายชราเมื่อหนึ่งปีก่อนคนนั้น แต่เขาไม่มีหลักฐาน ไม่มีเบาะแสอะไรเลย
     
    วันนั้นก็เช่นเคย เขากับแอ็กเซลออกไปปฏิบัติภารกิจต่อเนื่องควบคุมอิเร็กกุล่าร์ บ้างก็ทำลาย จนพลังงานใกล้หมดก็กลับมาและให้เจ้าหน้าที่คนอื่นดูแลแทนไปก่อน แซทเทิลไลท์เอลฟ์ช่วยให้ความเสียหายและเวลาในการควบคุมสถานการณ์ลดลงพอสมควร แต่ไม่รู้ว่าจะต้านไปได้สักเท่าไร
     
    เลเยอร์ แอ็กเซลยังไม่กลับมาเหรอ?
     
    ค่ะ อยู่ระหว่างภารกิจ
     
    งานของเราจะไม่มีวันจบลงเลยรึไงนะ... เขาถอนใจ
     
    ...ถ้าได้คุณซีโร่กลับมาคงจะช่วยได้มากเลยนะคะ
     
    ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน...แต่สถานการณ์แบบนี้ทางรัฐบาลมีแต่ชะลอการปลุกซีโร่ออกไป
     
    พวกเขาต่อสู้กันมาเท่าไร เสียทั้งซีโร่ เอเลีย พาเล็ท และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ อีกมากมายที่เขาไม่รู้จักชื่อ แต่ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาคาดหวังก็ห่างออกไปอีกแล้ว
     
    [...]
     
    [.....]
     
    เลเยอร์หายตัวไป? หมายความว่ายังไงครับ?
     
    เขากับแอ็กเซลถูกเรียกไปที่ห้องควบคุมในวันถัดมา และตามที่ประโยคคำถามของเขาบอก เลเยอร์ไม่อยู่ในห้อง และผู้บัญชาการซิกนัสยืนมือไพล่หลังรอแจ้งข่าวพวกเขาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
     
    นั่นน่ะสิ เมื่อวานตอนผมกลับมาก็ยังเห็นนั่งอยู่เลย แอ็กเซลขมวดคิ้วด้วยความพิศวงและกังวล
     
    มีช่วงเวลาสองชั่วโมงก่อนรุ่งสางที่เลเยอร์ต้องเข้ามาทำงานเป็นคนแรกและอยู่คนเดียว คาดว่าจะหายไปในระหว่างนั้น
     
    แล้วมีเบาะแสรึเปล่าครับ? เขาถาม รู้สึกว่าความกังวลเริ่มเข้ามาเกาะกุม
     
    ในบันทึกการใช้เครื่องเทเลพอร์ตมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ถูกใช้ในช่วงเวลานั้น เป็นการใช้งานที่ไม่ทราบจุดประสงค์ รู้แค่ที่หมาย
     
    ถ้างั้นก็ให้ผมไปเถอะครับ
     
    ผมไปด้วย
     
    เขากับแอ็กเซลตอบติดๆ กัน
     
    ฉันก็ตั้งใจอย่างนั้น พวกนายระวังตัวด้วย...หลักฐานที่มีตอนนี้ชี้ไปที่เลเยอร์กลายเป็นอิเร็กกุล่าร์
     
    เขาสูดหายใจเข้า แม้ในใจจะรู้อยู่ แต่ก็ไม่พร้อมจะถูกพูดตรงๆ
     
    พิกัด 07BF42  เตรียมการพร้อมแล้วครับ หนึ่งในนาวิเกเตอร์แจ้งต่อซิกนัส
     
    ดี พวกนายสองคนไปสืบให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น และนำตัวเลเยอร์กลับมา จับเป็นถ้าเป็นไปได้
     
    สำหรับเขาไม่มีทางอื่น
     
    เขากับแอ็กเซลขึ้นไปยืนบนแท่นเคลื่อนย้าย ไม่กี่วินาทีต่อมาพวกเขาก็มายืนอยู่ที่หมาย
     
    เป็นเขตหุบเขารกร้าง หินและดินออกสีเหลืองคล้ายทราย และไม่ค่อยมีสีเขียวของต้นไม้
     
    ในนั้นน่าสงสัยสุด แอ็กเซลชี้ถ้ำในหุบเขาที่อยู่ข้างหน้า
     
    เขากับแอ็กเซลเข้ามาในถ้ำ ซึ่งยิ่งลึกเข้าก็ยิ่งมืดลงเรื่อยๆ  จนกระทั่งมืดสนิท พวกเขาเปลี่ยนไปใช้การมองที่มืด
     
    ทางตัน เขาพูดเมื่อมาถึงพื้นที่กว้างโล่ง แต่ไม่มีทางไปต่อ
     
    อาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ แต่แค่พวกเราตรวจสอบไม่ได้ แอ็กเซล ติดต่อศูนย์ให้ส่งทีมสำรวจมา
     
    ไม่จำเป็นๆ แอ็กเซลเดินเข้ามา เขาหันกลับไปถาม
     
    นายมีวิ—
     
    ข้างหน้าเขาคือปืนของแอ็กเซล ปลายของมันเกือบจะชิดดวงตาข้างขวาของเขา
     
    เดี๋ยวค่อยให้มาเก็บศพนายทีเดียว
     
    เขาเชื่อสัญชาตญาณถีบตัวออกมา กระสุนสีแดงถูกผนังถ้ำจนเป็นหลุมเล็กๆ
     
    แอ็กเซล! ทำอะไรของนาย?!”
     
    ฉันเบื่อเรื่องพวกนี้เต็มทีแล้ว ต่อสู้เพื่อให้มนุษย์สร้างความเจริญกลับมา แล้วก็ล่มไปใหม่ แล้วก็กลับมา แล้วก็ล่มไปใหม่ ไม่จบไม่สิ้น แอ็กเซลหันกลับมา ใบหน้าที่พูดกับเขาบอกว่าไม่ใช่การล้อเล่น
     
    แต่เราก็ต้องทำ! นายเป็นอะไรไป ทำไมถึงพูดอะไรแบบนี้?!”
     
    ไม่จริง เราไม่ต้องทำก็ได้ เป้าหมายของพวกอิเร็กกุล่าร์คือมนุษย์ ถ้าปกป้องแค่พวกเราเองทำได้สบายอยู่แล้ว พอมนุษย์ล่มสลายทุกอย่างก็จบ
     
    เขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่พูดอยู่ข้างหน้าเขานี้คือแอ็กเซล
     
    แอ็กเซล อย่าบอกนะว่านาย...
     
    คำเตือนของผู้บัญชาการซิกนัส ชิปก็อปปี้ของแอ็กเซลพัฒนาไปถึงระดับเดียวเรปลิลอยด์รุ่ใหม่ สิ่งที่เขาพูดขู่ด็อกเตอร์ไวล์...
     
    จะบอกว่าฉันเป็นอิเร็กกุล่าร์เหรอเอ็กซ์? ก็ไม่รู้สินะ ฉันแค่ทนไล่ตามความฝันของนายต่อไปไม่ได้แล้ว
     
    เขาพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
     
    เพื่อความฝันของนาย ซีโร่ผนึกตัวเองเชียวนะเอ็กซ์ เอเลียกับพาเล็ทก็ตาย แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรายังวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ  ต่อไปจะเป็นฉันกับเลเยอร์เหรอ? เอ็กซ์ ฉันทนไล่ตามเป้าหมายที่ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นจริงโดยที่รู้ว่าตัวเองต้องตายไปซักวันไม่ได้หรอก
     
    ...แต่มันเป็นทางที่ถูกต้อง แอ็กเซล นาย...ลืมสัญญาระหว่างพวกเราไปแล้วเหรอ? สัญญากับฉัน กับซีโร่!”
     
    ไม่ลืมหรอก ฉันรู้ว่านายพร้อมจะไล่ตามไปจนสุดขอบจักรวาล แต่ฉันไม่อยากไปด้วยแล้ว แล้วก็ไม่อยากให้คนอื่นต้องพลอยติดร่างแหไปกับนายด้วย ฉันรู้ว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์ ฉะนั้น เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์อีก จะมีนายต่อไปไม่ได้
     
    นี่มัน...เป็นเรื่องจริงใช่ไหม
     
    แอ็กเซล มนุษย์ก็เป็นผู้บริสุทธิ์เหมือนกัน! การปล่อยให้อิเร็กกุล่าร์ทำตามใจชอบมันก็คือการปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าอย่างไร้เหตุผล!”
     
    แอ็กเซลก้มหน้าแล้วถอนใจ
     
    เห็นมะ พูดกับนายไปก็ไร้ประโยชน์... เอ็กซ์ จะเดินไปข้างหน้าได้ ต้องมีการเสียสละ
     
    ไม่มีเวลาให้เขาเตรียมใจแม้แต่วินาทีเดียว การต่อสู้ชี้เป็นชี้ตายเริ่มขึ้น ระหว่างเขากับแอ็กเซล
     
    กระสุนสีแดงกระหน่ำยิงมาจากปืนคู่ของแอ็กเซล เขาวิ่งและม้วนตัวหลบไปอยู่หลังเสาหินธรรมชาติ มือขวาเปลี่ยนเป็นบัสเตอร์แต่เขายังทำใจยิงไม่ได้
     
    แอ็กเซล! ใจเย็นก่อน นายแค่ไม่อยากต้องสูญเสียเรปลิลอยด์อีก แต่ยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้!”
     
    ไม่มีแล้วเอ็กซ์ วิธีของนายไม่มีทางสำเร็จหรอก ตราบเท่าที่มนุษย์กับเรปลิลอยด์ยังอยู่ทั้งคู่ ปัญหาจะไม่มีวันจบสิ้น
     
    กระสุนคลื่นเสียงบีบอัดยิงผ่านเสาหินที่เขาหลบอยู่ไปที่ผนังถ้ำ แล้วสะท้อนกลับมา เขาแดชออกจากที่ซ่อนและหลบกระสุนสีแดงไปที่เสาอีกต้น
     
    พอได้แล้วแอ็กเซล ฉันไม่อยากสู้กับนาย!”
     
    หมดเวลาพูดแล้วเอ็กซ์ หมดเวลามานานมากแล้ว
     
    แสงจากการแปลงกายของแอ็กเซลสว่างจ้าในถ้ำที่ไม่มีแสงจากภายนอก
     
    ทันใดนั้นแท่งคริสตัลสีส้มก็ผุดขึ้นมานับสิบ ตามด้วยกระสุนคลื่นเสียงบีบอัดที่กระจายไปทั่วถ้ำ สะท้อนกับผนัง เสาหิน และแท่งคริสตัลไปทุกทิศทาง
     
    เขาออกจากที่ซ่อน และยิงกระสุนห้วงแรงดึงดูดที่กลืนกระสุนคลื่นเสียงทั้งหมดเข้าไป แท่งคริสตัลจำนวนมากบดบังสายตาทำให้เขาต้องเงี่ยหูฟังเสียง แต่ไม่ได้ยินอะไรเลย
     
    ทันใดนั้นข้อเท้าเขาก็ถูกยึดด้วยมือที่ผุดขึ้นมาจากพื้นและกระชากจนเขาล้มลง เรปลิลอยด์มดขุดตัวเองขึ้นมาจากพื้นและแปลงเป็นเรปลิลอยด์กอริลลา มือซ้ายยกดาบหินขึ้น เขากลิ้งหลบดาบที่ฝังลงกับพื้นได้อย่างหวุดหวิดและถอยออกมา
     
    ไม่มี...ทางเลือกแล้วจริงๆ ใช่ไหม?
     
    เรปลิลอยด์กอริลลาแปลงเป็นตั๊กแตนตัวและปีกสีดำกลืนไปกับความมืด กระโดดขึ้นเกาะผนังถ้ำ แล้วกระโดดไปมารอบห้องอย่างรวดเร็ว
     
    เขารอจังหวะที่เรปลิลอยด์ตั๊กแตนถีบตัวจากผนังตรงเข้าจู่โจม ยกบัสเตอร์ขึ้นและยิงกระสุนที่กระจายเป็นแสงเหมือนกับดอกไม้ไฟใส่หน้า ระบบการมองเห็นที่ออกแบบมาเพื่อมองในที่มืดโดยเฉพาะถูกแสงสว่างจ้ากะทันหันทำให้ระบบเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ เปิดช่องว่างให้เขายิงกระสุนบัสเตอร์เต็มกำลังใส่ในระยะประชิด
     
    ร่างของเรปลิลอยด์กระเด็นไปชนกับผนังและกลับเป็นแอ็กเซล เกราะป้องกันของแอ็กเซลเปราะบางกว่าทั้งเขาและซีโร่ ยิ่งหลังจากผ่านสงครามกับเรปลิลอยด์รุ่นใหม่มาความแตกต่างยิ่งมากขึ้น เพราะร่างกายเขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ร่างหลักของแอ็กเซลหยุดนิ่ง กระสุนบัสเตอร์เต็มกำลังครั้งเดียวก็สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงได้
     
    เขาวิ่งเข้าไปหยุดอยู่หน้าแอ็กเซลและจ่อบัสเตอร์
     
    แอ็กเซล กลับไปกับฉัน เรามีเรื่องต้องคุยกัน เขาพยายามทำเสียงให้มีแค่ความจริงจัง ซ่อนความเสียใจและความกังวล
     
    หึ...คุยเรื่องอะไรล่ะเอ็กซ์ ไม่มีอะไรให้คุยแล้ว หรือว่า...
     
    แอ็กเซลเงยหน้าขึ้น
     
    จะเป็นเรื่องที่เธอฆ่าฉันล่ะเอ็กซ์?
     
    ใบหน้าและเสียงของเอเลียพูดกับเขา เพียงแค่นั้นเขาก็ขยับตัวไม่ได้ แม้กระทั่งเมื่อถูกกระสุนบัสเตอร์จนกระเด็น
     
    เขาลุกขึ้น มองไปข้างหน้าด้วยความกลัว และเห็นร่างของพาเล็ท
     
    คุณเอ็กซ์ ทั้งที่ฉันก็ไม่ใช่อิเร็กกุล่าร์ ทำไมถึงไม่ช่วยฉันล่ะคะ ฉันอยู่แค่เอื้อมเองแท้ๆ
     
    พาเล็ทยกปืนสั้นในมือซ้ายขึ้นและยิงกระสุนออกมา เขาได้สติและก้าวหลบไปด้านข้างได้ในวินาทีสุดท้าย แต่กระสุนคลื่นเสียงสะท้อนผนังกลับมาชนกับหลังของเขาจนเซ
     
    เขาตั้งหลักได้และรีบเงยหน้าขึ้น แต่ไม่เห็นใคร
     
    รู้รึเปล่าคะว่าฉันรู้สึกอย่างไรตอนที่ซีโร่จากไป
     
    เสียงมาจากด้านข้าง
     
    วันแล้ววันเล่าที่ต้องกล้ำกลืนทนมองฮันเตอร์มากมายพบกับชะตากรรมเดียวกัน
     
    เลเยอร์... หรือว่า...
     
    เลเยอร์ยกปืนสั้นในมือซ้ายขึ้นและแทงไปที่ผนังข้างๆ  หินถล่มลงมาอย่างง่ายดายเพราะข้างในกลวง สุดท้ายสิ่งที่หลุดออกมาจากผนังก็คือร่างของเลเยอร์ ล้มลงคว่ำหน้า เส้นผมสีม่วงตกลงด้านข้าง เผยรอยไหม้จากกระสุนที่ท้ายทอย
     
    แอ็กเซล...นาย...
     
    ถ้าเลเยอร์ยังอยู่ฉันก็หาโอกาสไม่ได้ ยังไงก็ต้องโดนรู้เกือบจะทันทีแล้วก็จะมีตัวกวนมาแทรกก่อน นาวิเกเตอร์คนอื่นไม่ค่อยเท่าไหร่ จนป่านนี้คงยังไม่รู้เลยว่าสัญญาณที่เห็นน่ะของปลอม เสียงพูดกลับเป็นของแอ็กเซล
     
    แอ็กเซล...! นายทำอย่างนี้ได้ยังไง!? ไหนนายบอกว่าไม่อยากให้เลเยอร์ต้องเป็นเหมือนกับ...!” เขากัดฟัน
     
    พูดชื่อออกมาไม่ได้ ท่าทางจะยังเจ็บอยู่เยอะสินะ แต่ฉันก็บอกไปแล้ว ว่าจำเป็นต้องมีการเสียสละ
     
    เมื่อได้ยินถึงสองครั้งเขาก็แน่ใจ ประโยคนั้นเป็นของลูมิเน่และซิกม่า
     
    ฉันจะพานายกลับไป ไม่ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ก็จะทำให้นายกลับมาเข้าใจให้ได้
     
    ต้องเริ่มจากเอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนนะ
     
    เขาแดชตรงไปข้างหน้า สร้างโล่หินขึ้นกันกระสุนบัสเตอร์ คลายโล่ แล้วยิงตาข่ายเสริมกระแสไฟฟ้ารูปใยแมงมุมใส่ร่างของเลเยอร์ ซึ่งกลับเป็นแอ็กเซลอย่างรวดเร็ว
     
    ธ—โธ่เอ๊ย ย—ยังไงก็สู้ไม่ได้จริงๆ  น—ในโลกนี้คงไม่ม—มีใครที่ชนะนายด—ได้แล้วเอ็กซ์
     
    เขาพยายามติดต่อกับศูนย์บัญชาการ แต่สัญญาณส่งไปไม่ถึง เขาไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรแต่ที่แอ็กเซลพูดไว้ว่าไม่มีใครรู้ว่าสภาพของพวกเขาคงจะเป็นความจริง
     
    ม—ไม่ค่อยอยากทำเท่าไหร่ ต—แต่เหลือแค่ทางเดียวแล้ว...
     
    ปืนสั้นในมือแอ็กเซลเปลี่ยนเป็นปืนยิงจรวด
     
    แอ็กเซล! จะทำอะไร?
     
    ช—ช่วยโลกจากนายไงเล่า
     
    ถึงเขาจะทำอะไรตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ปืนของแอ็กเซลยิงกระสุนพลังงานขนาดใหญ่ เล็งไปที่เพดานถ้ำ หินจำนวนมากถล่มลงมาพร้อมกันนั้นทั่วทั้งถ้ำก็เริ่มสั่น
     
    เขาหยุดชะงักอึดใจหนึ่ง มองร่างของเลเยอร์ แล้วกลับมามองแอ็กเซลที่กำลังจะสลัดตาข่ายออกไปได้ อีกไม่กี่วินาทีถ้ำแห่งนี้ก็คงจะถล่มลงมา
     
    มีทางเลือกให้เขาแค่นี้หรือ หนีออกไปและทิ้งร่างของเพื่อนคนหนึ่งกับเพื่อนอีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือตายอยู่ในนี้ด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนอีกคนต้องการ
     
    มีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่ต้องตัดสินใจ ก่อนที่ทางเลือกจะถูกแย่งไปจากเขา
     
    เขาจุดบูสเตอร์ที่ใต้เท้า มุ่งหน้าไปยังทางออก
     
    เขาเอาชีวิตของตัวเองรอดออกมาได้หวุดหวิด แต่ได้ไม่สมประกอบ ส่วนหนึ่งของมันถูกกรีดทิ้งไว้ในถ้ำที่ถูกปิดตาย แผลนี้จะสร้างความทรมานต่อไปตราบเท่าที่ชีวิตของเขายังอยู่
     
    ศูนย์บัญชาการ...นี่เอ็กซ์...
     
    #เอ็กซ์! นี่ศูนย์บัญชาการ เกิดอะไรขึ้น? สัญญาณของพวกคุณแยกย้ายกันแล้วจู่ๆ ก็หายไป แอ็กเซลอยู่กับคุณด้วยหรือเปล่า?#
     
    ภารกิจที่พิกัด 07BF42 ล้มเหลว...ฮันเตอร์แอ็กเซลเสียชีวิต
     
    #แอ็กเซล—!? เกิดอะไรขึ้น?! รายงานด้วย เอ็กซ์!#
     
    ตอนที่ซีโร่ผนึกตัวเอง ครึ่งหนึ่งของเขาถูกผนึกไปพร้อมกับซีโร่ และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือตายไปพร้อมกับเอเลีย
     
    ตอนนี้เศษเสี้ยวใดๆ ที่หลงเหลืออยู่ก็แหลกละเอียดอยู่ใต้กองหิน
     
    [...]
     
    [.....]
     
    ร่างของนาวิเกเตอร์เลเยอร์และอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์แอ็กเซลที่ถูกเก็บกู้ไม่แสดงร่องรอยความผิดปกติของโปรแกรมแต่อย่างใด และถูกตัดสินโดยทางการว่าอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ขั้นเอสแอ็กเซลเลือกเป็นอิเร็กกุล่าร์ด้วยตัวเอง
     
    ข้อสรุปดังกล่าว ประกอบกับการที่อิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์บางส่วนเริ่มกลายเป็นอิเร็กกุล่าร์เสียเองและสร้างความเสียหายหนักขึ้นด้วยพลังของไซเบอร์เอลฟ์ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันของสหภาพตะวันตกผู้ให้การสนับสนุนอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์และปฏิเสธมาตรการรุนแรงต่ออิเร็กกุล่าร์ ส่วนใหญ่ถูกกดดันให้ลาออก
     
    รัฐบาลชุดใหม่ถูกจัดตั้งขึ้นและประกาศมาตรการขั้นเด็ดขาดกับอิเร็กกุล่าร์ ทั้งยังมีนโยบายจะออกข้อบังคับกับเรปลิลอยด์ต่างๆ มากมายซึ่งประเทศอื่นก็แสดงความสนใจจะนำไปปรับใช้ เช่น การติดเครื่องส่งสัญญาณเพื่อให้ทางการรู้ความเคลื่อนไหวตลอดเวลา การแยกเขตที่อยู่อาศัยของเรปลิลอยด์กับมนุษย์ ทำให้เกิดการต่อต้านจากเรปลิลอยด์และเพิ่มอัตราการเกิดอิเร็กกุล่าร์ ในทางกลับกันก็ยิ่งเป็นการสนับสนุนความจำเป็นของมาตรการรุนแรง เป็นวงจรที่ไร้ที่สิ้นสุด
     
    เมื่อต้องพบกับการต่อต้านที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากเรปลิลอยด์ รัฐบาลชุดใหม่ก็เริ่มค้นหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
     
    เอ็กซ์กดปุ่มบนโต๊ะส่งเอกสารชุดสุดท้ายบนหน้าต่างโฮโลแกรม
     
    เขานั่งอยู่ที่โต๊ะในห้องทำงานส่วนตัว มีแต่บุคลากรระดับหัวหน้าหน่วยจึงจะมีห้องส่วนตัว แต่การใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในศูนย์ไม่จำเป็นต้องทำที่นี่ก็ได้ แทบทุกที่ในศูนย์บัญชาการมีจุดที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ รวมทั้งที่โต๊ะทุกตัวไม่ว่าจะในห้องพักผ่อน ห้องรับรอง แม้แต่บนผนังกับบนพื้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานหรือเช็คข้อความได้ในหลากหลายสถานที่และอิริยาบถ
     
    เพื่อให้ปลอดเสียงรบกวนเขามักจะเลือกทำในห้องที่เป็นส่วนตัวและลากแอ็กเซลให้มาทำส่วนของตัวเองด้วย โต๊ะกับเก้าอี้อีกชุดที่เขาให้นำมาไว้ในห้องก็เพื่อการนั้น มันยังอยู่ที่เดิมแม้ตอนนี้จะไม่มีใครใช้แล้ว
     
    เขากำลังจะลงชื่อออกจากระบบ แต่ได้รับแจ้งว่ามีข้อความใหม่เข้ามา คงเป็นงาน เพราะสองร้อยกว่าฉบับที่ผ่านมาก็เป็นงาน
     
    ปรากฏว่าไม่ใช่ ชื่อผู้ส่งไม่ใช่ ‘IH.HQ’ ตามที่เขาคาด แต่เป็น ‘???’
     
    เขาขมวดคิ้ว ข้อความจากภายนอกต้องผ่านการกรองจากศูนย์ ชื่อผู้ส่งที่น่าสงสัยขนาดนี้ไม่น่าจะผ่านเข้ามาได้
     
      ~ถึงเอ็กซ์
      มีเรื่องสำคัญมากจะพูดด้วย ไปที่สวนสาธารณะชื่อพีซ เวลาบ่ายสี่โมงตรง ม้านั่งสีส้ม
      ติดกับน้ำพุ ข้อความนี้จะถูกลบโดยอัตโนมัติหลังเปิดอ่าน~
     
    ตัวข้อความเองก็น่าสงสัย อาจจะเป็นกับดักเหมือนครั้งแอ็กเซล แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้ และ เรื่องสำคัญ นี้อาจเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ
     
    สันนิษฐานไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาจะลองไปดู
     
    เขาออกมาสู่หน้ากล่องข้อความที่ว่างเปล่า ถูกลบไปจริงๆ ตามที่บอก แสดงว่าข้อความนี้ไม่ได้ผ่านการกรอง แต่ส่งมาที่บัญชีของเขาโดยตรง อย่างน้อยเขาก็รู้อย่างหนึ่งว่าผู้ส่งข้อความมีความสามารถทางคอมพิวเตอร์ที่สูงมาก
     
    เขาค้นหาตำแหน่งของสวนสาธารณะชื่อดังกล่าว และพบว่าอยู่ไม่ไกลจากศูนย์นัก ขณะนี้เวลาบ่ายสามโมงสามสิบนาที หากออกไปตอนนี้จะทันพอดีหรือเหลือเวลาเล็กน้อย
     
    เขาลงชื่อออกจากบัญชี และออกจากห้องทำงาน และลงลิฟต์ไป
     
    ผู้บัญชาการซิกนัสไปประชุมนานาชาติที่สหภาพตะวันตก ซึ่งมีแทบทุกสัปดาห์นับแต่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ โดยหลักดูเหมือนจะเป็นการรายงานสถานการณ์อิเร็กกุล่าร์ที่เลวร้ายลงทุกวัน เขาเคยไปร่วมสามสี่ครั้ง แต่เลิกไปเมื่อรู้ชัดว่าจุดประสงค์แอบแฝงเป็นการตอกย้ำความอันตรายของเรปลิลอยด์ รัฐบาลนี้ทำงานด้วยหลักการที่ตรงข้ามกับชุดที่แล้ว บงการการพิจารณาเพื่อชักนำไปสู่เป้าหมายเดียว เทียบกับตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมจากการพิจารณา
     
    ผู้บัญชาการซิกนัสไม่อยู่ ฉะนั้นเขาจึงต้องไปโดยไม่สามารถแจ้งให้ทราบได้ และเขาก็ไม่ไว้ใจให้คนอื่นเก็บความลับ หากเป็นกับดักเขาต้องพึ่งตัวเอง
     
    เขาไปที่ฝ่ายอุปกรณ์และขอเครื่องแปลงรูปร่าง เป็นอุปกรณ์ที่แปลงรูปลักษณ์ภายนอกของเรปลิลอยด์เป็นรูปลักษณ์ที่กำหนดด้วยวิทยาการ โซลิดโฮโลแกรม  สัมผัสได้ แต่เปราะบางกว่าของจริง มีข้อจำกัดที่ขนาดและลักษณะของร่างกายที่ต้องใกล้เคียง และแน่นอนว่าแปลงเป็นมนุษย์ไม่ได้ จุดประสงค์เพื่อกลืนไปกับฝูงชนสำหรับภารกิจที่ต้องปิดบังตัวตน
     
    สำหรับเขามีอีกจุดประสงค์หนึ่ง คือเพื่อไม่ให้คนจำได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ได้รับการรับรองอย่างไม่เป็นทางการภายในศูนย์(ผู้บัญชาการซิกนัสทำเป็นไม่เห็นไม่รู้เรื่อง)
     
    เขาแปลงเป็นเรปลิลอยด์พลเรือนที่สีและรูปร่างใกล้เคียงกับตัวเองและออกทางประตูหน้าของศูนย์ ขึ้นรถโดยสารประจำทางที่มาพอดี
     
    ประมาณสิบห้านาทีต่อมาเขาก็ก้าวลงจากรถพร้อมกับผู้โดยสารสามคน ซึ่งไม่ได้สนใจโมเดลพลเรือนที่มีอยู่ดาษดื่นแบบเขา เขาทวนแผนที่ของสวนสาธารณะแห่งนี้และเดินไปทางที่มีน้ำพุอยู่
     
    สวนสาธารณะอาจเรียกได้ว่าเป็นโอเอซิสความสวยงามท่ามกลางตึกระฟ้า พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหญ้าสังเคราะห์เตี้ยๆ  ลานกว้างและทางเดินปูด้วยแผ่นหินสีเทา ต้นไม้ประดิษฐ์ที่ตกแต่งรอบสวนก็ซ่อนกลไกภายในไว้อย่างมิดชิด มีม้านั่งตั้งอยู่ประปราย ถังขยะ และร้านค้าเล็กๆ  ไม่มีอาคารสูงกว่าสามชั้นภายในเขตประมาณสามตารางกิโลเมตรนี้
     
    แม้จะกำลังไปพบกับเจ้าของข้อความปริศนาที่อาจจะเป็นกับดัก แต่ทัศนียภาพที่เขาเดินผ่านก็ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย สหพันธรัฐหมู่เกาะทางตะวันออกเฉียงใต้นี้เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่ง(และที่ใหญ่ที่สุด)ที่ปลอดภัยจากอัตราการพุ่งสูงของอิเร็กกุล่าร์ ดังนั้นไม่ว่าจะบนรถโดยสารหรือในขณะนี้เขาก็ไม่ตกเป็นเป้าสายตาหวาดระแวงจากมนุษย์รอบข้างเหมือนอย่างในพื้นที่ที่เกิดเหตุบ่อยๆ หรือในเมืองศูนย์กลางการปกครองใหญ่ๆ ที่ผู้คนมีความคิดเห็นด้านการเมืองค่อนข้างรุนแรง
     
    บ่ายสีโมงตรงแล้ว เขามาถึงน้ำพุซึ่งอยู่เกือบกึ่งกลาง ม้านั่งรอบน้ำพุมีสี่ตัว มีตัวเดียวที่เป็นสีส้ม และมีมนุษย์คนหนึ่งนั่งอยู่ แต่แว่นกันแดด หมวกเบเล่ต์ และผ้าพันคอทำให้ระบุเพศได้ยาก
     
    ...ในสถานที่ที่ภูมิอากาศแบบนี้ แต่งตัวได้น่าสงสัยสุดๆ  แถมยังก้มหน้าเล็กน้อยพยายามไม่สบตากับใคร มองซ้ายขวาเหมือนกับรอใคร โอกาสเก้าในสิบเป็นเจ้าของข้อความนั้น
     
    ทีแรกเขาตั้งใจจะเดินเข้าไปหาทั้งอย่างนี้ แต่เปลี่ยนใจเมื่อเกิดความคิดใหม่ขึ้น เขาเดินไปที่ ดงต้นไม้ ซึ่งที่จริงเป็นบริเวณที่จัดเรียงต้นไม้อย่างสวยงาม แต่เขาเรียกชื่อนั้นเพราะมันสามารถบังเขาจากสายตารอบข้างได้หากหามุมซ่อนดีๆ
     
    อุปกรณ์เปลี่ยนรูปลักษณ์มาตรฐานมีให้เลือกสามรูปลักษณ์ในชิ้นเดียว เผื่อกรณีที่ต้องสะกดรอยตามเป้าหมาย รูปลักษณ์หนึ่งที่ชิ้นนี้มีและเขาเพิ่งจะกดเลือกก็คือเรปลิลอยด์ตำรวจ
     
    เมื่อพร้อมแล้วเขาก็ออกจากที่ซ่อนและตรงไปที่บุคคลปริศนา
     
    ขออนุญาตครับ
     
    บุคคลปริศนาก้มหน้าอยู่จึงไม่สังเกตจนกระทั่งเขาเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้า
     
    ...คะ? บุคคลปริศนาเงยหน้าขึ้นและตอบอย่างระวังตัว เขารู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงแน่นอน
     
    คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ? เขาสวมบทบาทตำรวจที่เห็นคนน่าสงสัยต่อไป
     
    ดิฉันแค่...กำลังรอคนอยู่ค่ะ
     
    คนที่อยู่ใกล้ๆ เริ่มหันมาให้ความสนใจ ทำให้หญิงสาวเริ่มตื่นตระหนก
     
    การแต่งกายของคุณเหมือนมีอะไรปิดบัง ขอทราบชื่อได้ด้วยครับ
     
    ช—ชื่อ...ชื่อของดิฉัน...เอเลียค่ะ! ดิฉันชื่อเอเลีย...เอเลีย หญิงสาวพยักหน้าประกอบ
     
    เขาเกือบเสียความเยือกเย็น แต่ควบคุมใบหน้าได้ทัน หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่สังเกตเห็น
     
    ทำไมต้องพูดถึงสามครั้งด้วยล่ะครับ? นี่น่าสงสัยนะครับ กรุณามากับผมด้วย
     
    เสียงของเขาดูคาดคั้นขึ้น ไม่ใช่การเล่นละครเสียทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชื่อ(ปลอมแน่นอน)ที่หญิงสาวคนนี้ใช้
     
    คือว่าดิฉัน...รอคนอยู่... หญิงสาวทั้งลำบากใจและร้อนรน ท่าทางจะไม่อยากถูกสอบสวนมาก
     
    ผมให้เวลาคุณสองนาทีส่งข้อความไปบอก ถ้าไม่มีอะไรผิดกฎหมายเกี่ยวกับคุณหลังจากปล่อยตัวผมจะเป็นพยานให้
     
    ...ไม่เป็นไรค่ะ
     
    เขาให้หญิงสาวเดินนำ ตัวเองประกบข้างขวาด้านหลัง ในระยะห่างที่เข้าขัดขวางได้ทันหากอีกฝ่ายทำอะไรไม่ชอบมาพากล
     
    หลังออกจากน้ำพุมาได้สักพักและไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เขาก็พูดขึ้น ควบคุมเสียงให้เบาเพื่อความปลอดภัย
     
    คุณใช่ไหมที่ส่งข้อความมา
     
    หญิงสาวเกือบหยุดเดิน แต่เขาใช้มือซ้ายดันหลังให้เดินต่อ
     
    คุณคือ...เอ็กซ์? หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่มั่นใจ
     
    ถูกต้อง ขออภัยที่ต้องทำแบบนี้ แต่จากการแต่งกายคุณเองก็อยากปิดเรื่องที่จะพูดและตัวตนของตัวเองเป็นความลับจากภายนอก คุณมีสถานที่ที่เป็นส่วนตัวกว่านี้รึเปล่า?
     
    ...ไม่มีค่ะ ดิฉันคิดว่าคุณน่าจะคุ้นเคยกับเมืองนี้มากกว่าดิฉัน...พอมีบ้างหรือเปล่าคะ?
     
    เรื่องนี้ บวกกับเซนส์การแต่งกายปิดบังตัวตน เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีความชำนาญในการสื่อสารอย่างเป็นความลับ
     
    ...ตามผมมา
     
    เขานำหญิงสาวไปที่ ดงต้นไม้ โดยไม่ให้ผิดสังเกต เปลี่ยนรูปร่างกลับเป็นโมเดลพลเรือน แล้วเดินต่อไปที่มุมหนึ่งของสวนสาธารณะ เป็นต้นไม้ต้นเดียวใกล้กับหนองน้ำ ไม่มีใครอยู่ใกล้พอจะได้ยิน
     
    พวกเขานั่งลงข้างกันใต้ร่มไม้ ให้เหมือนคนรู้จักคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไป
     
    เรื่องสำคัญที่คุณจะพูดด้วยคืออะไร? เขาเข้าเรื่อง
     
    ด็อกเตอร์ไวล์ได้รับอนุมัติให้ดำเนินโปรเจคเอลปิสแล้วค่ะ
     
    ในประโยคนั้นประโยคเดียวมีสิ่งที่เขาพิศวงและประหลาดใจอยู่มาก ด็อกเตอร์ไวล์ไม่ได้หายตัวไปแล้วหรอกหรือ? แล้วมีการประชุมกันเมื่อไรทำไมเขาไม่ทราบ? แต่ที่ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดก็คือความรู้สึกเย็นเฉียบเมื่อได้ยินว่าโครงการที่น่ากลัวนั้นอาจจะกลายเป็นจริง
     
    คุณคือ...ด็อกเตอร์เชลใช่มั้ยครับ?
     
    หญิงสาวท่าทางประหลาดใจ แต่ไม่ใช่เพราะเขาเดาถูกเสียทีเดียว
     
    ดิฉันนึกว่าทราบตั้งแต่เห็นดิฉันแล้ว จึงได้ทราบว่าดิฉันคือผู้ที่รอพบคุณ
     
    นั่นเพราะ...คุณปฏิบัติตัวได้น่าสงสัยมาก หากตำรวจจริงผ่านมาก็อาจจะเข้าไปสอบถามคุณอย่างนั้นจริงๆ
     
    อย่าง...นั้นหรือคะ... ท่าทางด็อกเตอร์เชลจะไม่รู้ว่าตัวเองปลอมตัวได้แย่แค่ไหน ไม่สิ ปลอมแปลงตัวตนได้ดี แต่สอบตกเรื่องทำตัวกลมกลืน
     
    กลับมาเรื่องโปรเจคเอลปิส ช่วยอธิบายด้วยครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องเลย?
     
    ด็อกเตอร์เชลเรียบเรียงคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง
     
    คุณคงจะทราบแล้วว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันของสหภาพตะวันตกสนับสนุนมาตรการที่เข้มงวดในการจัดการกับปัญหาอิเร็กกุล่าร์ หลังจากประชากรเรปลิลอยด์แสดงการต่อต้านทางรัฐบาลก็ตัดสินใจตามหาด็อกเตอร์ไวล์ ซึ่งไม่ได้ตั้งใจปกปิดที่อยู่ตัวเองมากนัก เพื่อเจรจาเรื่องโปรเจคเอลปิส และในที่สุดก็อนุมัติให้เริ่มโครงการได้ รัฐบาลปกปิดเรื่องนี้จากสาธารณะ มีเพียงบางส่วนในรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องกับโปรเจคเอลปิสที่ทราบเรื่องนี้ แม้แต่ผู้บัญชาการของคุณก็ไม่ทราบ
     
    เขาฟังและทำความเข้าใจตามการอธิบาย รัฐบาลตั้งใจจะแอบทำให้เสร็จก่อนที่เรปลิลอยด์จะมีโอกาสได้ต่อต้าน
     
    แล้วคุณรู้ได้ยังไง?
     
    โปรเจคเอลปิสจำเป็นต้องมีมาเธอร์เอลฟ์ นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกปิดเป็นความลับ แต่มาเธอร์เอลฟ์หายไปจากศูนย์วิจัยกลางของสหภาพตะวันตกซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาไว้หลังจากถูกใช้งานครั้งก่อน ทางการสันนิษฐานว่าถูกคนขโมยไป แต่ยังไม่มีผู้ต้องสงสัยหรือเบาะแสใดๆ ค่ะ
     
    มาเธอร์เอลฟ์ถูกขโมยไป มีเรื่องที่เขาไม่รู้อีกมากเพียงใดกัน
     
    เมื่อหนึ่งเดือนก่อนทางรัฐบาลติดต่อกับดิฉัน บอกเรื่องที่มาเธอร์เอลฟ์ถูกขโมยไปและขอให้ศูนย์วิจัยของดิฉันสร้างขึ้นใหม่ ดิฉันถามถึงสาเหตุ เพราะอิเร็กกุล่าร์ในปัจจุบันไม่มีโปรแกรมอิเร็กกุล่าร์ที่จำเป็นต้องรักษา ทางรัฐบาลบอกเพียงแต่เป็นความลับ ดิฉันรู้สึกสงสัยจึงบอกปฏิเสธไป และค้นหาความจริง จนกระทั่งได้ทราบเกี่ยวกับโปรเจคเอลปิสจากฐานข้อมูลลับของทางรัฐบาล
     
    ...การที่คุณนำเรื่องนี้มาบอกผมก็หมายความว่าคุณไม่เห็นด้วยกับโปรเจคเอลปิส ผมเข้าใจถูกรึเปล่าครับ? เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งเขาต้องถามก่อนอื่นใด
     
    โปรเจคเอลปิสมีความเสี่ยงมากเกินไปค่ะ เพียงแค่ดัดแปลงโปรแกรมของเรปลิลอยด์ที่เป็นแม่ข่ายเพียงตัวเดียวก็สามารถควบคุมเรปลิลอยด์ทั่วโลกได้ บุคคลเพียงคนหรือกลุ่มเดียวสามารถเป็นผู้ปกครองโลกได้อย่างง่ายดาย
     
    เขาก็หวังว่าหญิงสาวจะมีเหตุผลอื่น เช่นเพื่อปกป้องเรปลิลอยด์จากการเป็นทาส แต่แค่มีเป้าหมายเดียวกันก็ดีมากแล้ว เขาไม่ควรเอาแต่ใจ
     
    อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขาสงสัยว่าหญิงสาวมีเหตุผลอะไร เขานึกคำถามได้อีกข้อ
     
    แล้วการที่คุณนำเรื่องนี้มาบอกผม แทนที่จะเป็นคนอื่น เป็นเพราะเอเลียใช่รึเปล่า?
     
    ข้อนี้หญิงสาวมีท่าทีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ
     
    อาจจะ...ส่วนหนึ่ง เมื่อทราบว่าโปรเจคเอลปิสได้รับการอนุมัติดิฉันก็นึกถึงคำพูดของคุณในการประชุมเมื่อสองปีก่อนและคิดว่าคุณเองก็คงไม่ต้องการเช่นนั้น
     
    เขายังพอจำได้ว่าตัวเองพูดอะไรไปบ้างในการประชุมครั้งนั้น แต่ประหลาดใจเล็กน้อยที่หญิงสาวคนนี้ก็จำได้เช่นเดียวกัน
     
    ความสัมพันธ์กับเอเลีย เรื่องนั้นเขาจะเก็บไว้ถามทีหลัง ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่า
     
    โปรเจคเอลปิสดำเนินไปถึงขั้นไหนแล้วครับ?
     
    ขณะนี้สถานที่ ทรัพยากร และบุคลากรเตรียมการพร้อมแล้ว โครงการอยู่ในช่วงเริ่มต้น...ทรัพยากรนั้นรวมถึงร่างของเรปลิลอยด์ [ซีโร่] ด้วยค่ะ
     
    ประโยคนี้ทำให้เขานึกถึงเหตุผลที่เขารังเกียจโปรเจคเอลปิสได้อีกข้อหนึ่ง การล่วงเกินร่างของซีโร่
     
    สิ่งที่พอจะเรียกได้ว่ายังไม่พร้อมก็คงมีแต่มาเธอร์เอลฟ์...แต่หากศึกษาบันทึกการสร้างจากครั้งแรกก็คงให้ทีมนักวิจัยสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไม่ลำบากนัก นานที่สุดดิฉันคาดว่าไม่เกินสามปี
     
    ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรีบทำอะไรซักอย่างสินะครับ...จริงสิ อัตราการเพิ่มของอิเร็กกุล่าร์ที่สูงผิดปกติ ถ้ารู้สาเหตุและวิธีแก้ไขอาจจะโน้มน้าวรัฐบาลให้เลิกโปรเจคเอลปิสได้ คุณพอจะทราบสาเหตุบ้างมั้ยครับ?
     
    หากไม่มีข้อมูลโดยละเอียดดิฉันก็วิเคราะห์อะไรไม่ได้ค่ะ ดิฉันคิดว่าจะทำเรื่องขอย้ายเข้าทำงานตำแหน่งในหน่วยงานรัฐหรือหาหน่วยงานเอกชนที่สามารถติดต่อกับอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ได้สะดวกขึ้น แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ
     
    ถ้าได้ความร่วมมือของด็อกเตอร์เชลผู้สร้างมาเธอร์เอลฟ์ โอกาสแก้ไขสถานการณ์นี้จะเพิ่มขึ้นพอสมควร
     
    อืม...ถ้าจู่ๆ คุณทำแบบนั้นทางรัฐบาลและด็อกเตอร์ไวล์อาจจะระแคะระคายว่าคุณรู้เรื่องโปรเจคเอลปิสและกำลังหาทางยับยั้งร่วมกับอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ แบบนั้นเราคงถูกจับแยกกันแล้วจับตาดูอย่างใกล้ชิด
     
    จริงสินะคะ...ดิฉันไม่อยากให้ทางการทราบว่ามาติดต่อกับคุณจึงรอโอกาสที่ต้องมาทำธุระบริเวณใกล้เคียงก่อนมาพบคุณ ...คุณมีความคิดดีๆ มั้ยคะ?
     
    น่าจะนะครับ...ให้เป็นหน้าที่ของผมเอง ระหว่างนี้คุณปฏิบัติตัวตามปกติไปก่อน หากรัฐบาลมาขอให้สร้างมาเธอร์เอลฟ์ให้ใหม่อีกก็ปฏิเสธต่อไปนะครับ
     
    เข้าใจแล้วค่ะ ด็อกเตอร์เชลพยักหน้า
     
    พวกเขาแยกจากกันเท่านั้น โดยด็อกเตอร์เชลเป็นฝ่ายลุกไปก่อน หลังจากนั้นประมาณสิบห้านาทีเขาก็เดินทางกลับศูนย์บัญชาการเพื่อให้ทันเวลาทำงาน
     
    ในครั้งที่สองที่ได้พบกับนักวิจัยผู้สร้างมาเธอร์เอลฟ์เขาก็รู้ว่าหญิงสาวคนนี้จะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการแก้ไขวิกฤตใหม่ที่โลกกำลังเผชิญ แต่ไม่ได้คาดคิดว่าหญิงสาวคนนั้นจะกลายเป็นส่วนสำคัญกับชีวิตของเขาหลังจากนั้นด้วยเช่นกัน
     
    ทว่านั่นเป็นเรื่องในอนาคตอันยาวไกล
     
    [...]
     
    [.....]
     
    หนึ่งเดือนหลังจากการตกลงร่วมมือระหว่างเอ็กซ์และเชลอย่างไม่เป็นทางการในสวนสาธารณะ ทางรัฐบาลกลางก็ได้รับคำร้องจากอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ซึ่งขอผู้ที่เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมเรปลิลอยด์เพื่อช่วยอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์สืบสวนสาเหตุเบื้องหลังอัตราการเพิ่มของอิเร็กกุล่าร์
     
    ใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่รัฐบาลกลางจะส่งตัวด็อกเตอร์เชลจากศูนย์วิจัยโฮปไป อิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์เป็นองค์กรที่ประกอบด้วยเรปลิลอยด์ล้วน และได้แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับวิธีการรักษาความสงบของรัฐบาลกลางแล้วหลายครั้ง ส่วนด็อกเตอร์เชลก็ได้ปฏิเสธคำขอให้สร้างมาเธอร์เอลฟ์หลายต่อหลายครั้งเช่นกัน เมื่อได้รับคำร้องนั้นทางรัฐบาลกลางก็เห็นวิธีที่จะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
     
    ได้รับนักวิจัยที่กล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะอันดับต้นๆ ของยุคไปให้น่าจะทำให้อิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์พอใจและลดการต่อต้านลงบ้าง ขณะเดียวกันก็ทำให้ตำแหน่งของศูนย์วิจัยโฮปว่าง เพียงแต่บงการผู้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์คนใหม่ก็สามารถสั่งให้เริ่มการสร้างมาเธอร์เอลฟ์ตามที่ต้องการได้ และหากทั้งคู่เกิดค้นหาสาเหตุของความอลหม่านนี้ได้จริงก็ไม่มีอะไรเสียหาย
     
    ความคิดของรัฐบาลเป็นไปตามที่เอ็กซ์และซิกนัสคาดการณ์
     
    ดิฉันเชลค่ะ ยินดีที่ได้ร่วมงานกับอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์
     
    ซิกนัส ผู้บัญชาการอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ ยินดีเช่นกันที่ได้คุณมาร่วมงาน
     
    ผู้บัญชาการกับผู้ร่วมอุดมการณ์(ประมาณนั้น)ของเขาจับมือกันในห้องควบคุม
     
    ตามที่ด็อกเตอร์เชลขอ พวกเราได้เตรียมการให้คุณสามารถติดตามการทำงานภาคสนามของเรา พร้อมนะเอ็กซ์
     
    ครับ
     
    ในขณะนี้เหตุการณ์อิเร็กกุล่าร์มีแทบจะตลอดเวลาแล้ว เขาไม่อยากคิดว่าเป็นเรื่องดี แต่ก็ทำให้พวกเขาสามารถเริ่มการสืบสวนได้ทันที
     
    เขาก้าวขึ้นบนแท่นเทเลพอร์ตขณะที่ด็อกเตอร์เชลนั่งลงหน้าแผงควบคุมล็อกที่เตรียมไว้ให้
     
    เขาถูกส่งมายังสถานที่ของปฏิบัติการคราวนี้ เป็นหมู่บ้านแถบชนบทบริเวณทางเหนือของกลุ่มประเทศตะวันออก อยู่ในเขตอากาศหนาวเย็น ขณะนี้ก็อยู่ท่ามกลางพายุหิมะ
     
    #พลเรือนถูกอพยพออกไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว ที่เหลืออยู่มีแต่อิเร็กกุล่าร์#
     
    เสียงซิกนัสบอกเขา หมายความว่าทั้งหมดคือเป้าหมายที่ต้องกำจัด เป็นภารกิจที่ไม่ซับซ้อน
     
    ด็อกเตอร์เชล มองเห็นรึเปล่าครับ?
     
    #ค่ะ มองเห็นชัดเจนทีเดียว#
     
    กล้องสองตัวที่ติดบนไหล่ซ้ายและขวาใกล้กับคอของเขาจับภาพตัวละร้อยแปดสิบองศา ทำให้มองเห็นรอบด้าน กว้างกว่าที่เขาเห็นเอง ซ้ำยังทำงานได้ดีแม้ในอุณหภูมิที่ต่ำติดลบและทัศนวิสัยแย่
     
    ไม่ใช่ทุกการปฏิบัติการที่ทำเช่นนี้ แทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ นั่นเพราะโอกาสที่กล้องจะถูกทำลายในการต่อสู้นั้นมีมากกว่า ดังนั้นจึงให้เขาเป็นคนรับหน้าที่นี้ ถ้าพูดอย่างไม่อ้อมค้อมก็คือเขามีฝีมือสูง ดังนั้นกล้องอยู่กับเขามีโอกาสที่จะได้รับความเสียหายต่ำที่สุด
     
    เริ่มปฏิบัติการ เขาเดินย่ำหิมะที่หนาประมาณห้าสิบเซนติเมตรไปข้างหน้า เขาน่าจะเดินอยู่บนถนน ซ้ายและขวาเป็นบ้านเรือนร้านค้าที่ปกคลุมด้วยหิมะจนขาวโพลน ความเสียหายดูด้วยตาไม่มากนัก ดูเหมือนถูกทิ้งร้างมากกว่าถูกทำลาย
     
    อิเร็กกุล่าร์อาจอยู่ได้ทุกที่
     
    #คุณเอ็กซ์คะ ช่วยพยายามอย่าให้ถูกพบตัวได้มั้ยคะ ดิฉันมีข้อสันนิษฐานที่ต้องการจะทดสอบ#
     
    เสียงจากเชล เขาไม่ตั้งคำถามว่าทำไมและเข้าไปซ่อนในเขตบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนที่กำบังไปเรื่อยๆ อย่างระแวดระวัง
     
    ในที่สุดเขาก็มองเห็นการเคลื่อนไหว เป็นเรปลิลอยด์พลเรือนที่เดินไปมานอกตัวบ้านหลังหนึ่ง คำชี้แจงตอนเริ่มภารกิจกับพฤติกรรมราวกับละเมอทำให้ค่อนข้างแน่นอนว่าเป็นอิเร็กกุล่าร์
     
    เขาก้มหลบข้างรั้วบ้านและยกบัสเตอร์ขึ้นเล็ง เป้าหมายหันมาและทำท่าเหมือนเห็นเขา แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีต่อมากระสุนบัสเตอร์ของเขาก็ปะทะเข้ากับศีรษะ ทำลายเปลือกนอกและวงจรภายใน เรปลิลอยด์ตัวนั้นไม่ลุกขึ้นมาอีก
     
    เกือบไปแล้ว หากเขาช้ากว่านี้สักนิดและศัตรูมีอุปกรณ์สื่อสารอิเร็กกุล่าร์ที่เหลือคงจะรู้หมดว่าเขาอยู่ที่นี่
     
    เขาสังเกตจนแน่ใจว่าไม่มีสายตามองอยู่ รีบกระโดดข้ามรั้วและเข้าไปนำร่างของอิเร็กกุล่าร์ที่หยุดทำงานแล้วมาซ่อนไว้กับกองหิมะข้างบ้าน ก่อนจะเคลื่อนไหวต่อไป
     
    เขามาถึงบ้านหลังที่สี่และพบเรปลิลอยด์อีกตัวหนึ่งตระเวนไปมาเหมือนกับตัวแรก เขาเล็งแล้วยิง ครั้งนี้ไม่มีการเกือบถูกเห็น
     
    #คุณเอ็กซ์! จากทางขวาค่ะ!#
     
    คำเตือนของเชลมาได้ทันเวลา เขาหันไปทางขวาและเห็นเรปลิลอยด์โมเดลพลเรือนสองตัววิ่งข้ามถนนเข้ามาทางเขา จากสีหน้ารู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้แน่นอน
     
    เขารอจนทั้งสองตัวเข้ามาในเขตบ้านที่เขาอยู่แล้วจึงใช้บัสเตอร์ยิงที่ส่วนหัวของทั้งสองตัว เขาหวังว่านอกจากสองตัวนี้แล้วจะไม่มีตัวไหนที่เห็นเขาอีก กระทั่งเรปลิลอยด์อีกห้าตัวกระโดดเข้ารั้วเข้ามาจากทั้งทางซ้ายและขวาของเขา
     
    เมื่อรู้ว่าซ่อนตัวต่อไปก็ไม่มีประโยชน์เขาจึงกระโดดเข้าที่กำบังใหม่ข้างผนังบ้าน กระสุนพลังงานสามสี่นัดผ่านเขาไป
     
    เรื่องแปลกอีกข้อหนึ่งของเหตุการณ์อิเร็กกุล่าร์ครั้งใหม่นี้ก็คือเรปลิลอยด์หลายตัวมีความสามารถหลายอย่างที่ไม่น่าจะมี(เช่นโมเดลพลเรือนที่ไม่ควรมีอาวุธติดร่างกายก็มี อย่างตอนนี้) ทางการตัดสินว่าเรปลิลอยด์เหล่านั้นแอบติดอาวุธให้ตัวเองเพื่อเตรียมการก่อการร้ายล่วงหน้า ซึ่งเขาคิดว่าเหลวไหลในหลายกรณี
     
    เขาสะสมพลังงานบัสเตอร์ แล้วยิงใส่ด้านที่มาสามตัว กำจัดไปทั้งหมดในคราวเดียว เขากลิ้งออกจากผนังบ้านพร้อมทั้งหันไปในทิศตรงข้าม และยิงส่วนหัวของอีกสองตัวติดๆ กัน
     
    เขานิ่งฟังอยู่ครู่หนึ่งจนมั่นใจว่าไม่มีเสียงอื่นนอกจากเสียงลมจึงออกสำรวจรอบบริเวณ แต่ก็ไม่พบอิเร็กกุล่าร์มากกว่านั้น มีแค่เก้าตัวตามที่คาดการณ์ ทั้งหมดเป็นโมเดลพลเรือนและเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ก่อนจะกลายเป็นอิเร็กกุล่าร์
     
    #กลับมาได้แล้วเอ็กซ์#
     
    สัมผัสของการเคลื่อนย้ายที่คุ้นเคย แล้วเขาก็มาอยู่ที่ห้องควบคุมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ทุกคนผูกสัญญาณกับศูนย์บัญชาการทำให้สามารถเทเลพอร์ตเขากลับมาได้อย่างแม่นยำชนิดที่ไม่มีหิมะติดมาด้วยแม้แต่เกล็ดเดียว
     
    ภารกิจเสร็จสิ้น เขารายงานกับผู้บัญชาการ แล้วหันไปพูดกับด็อกเตอร์เชล เป็นยังไงบ้างครับ?
     
    ด็อกเตอร์เชลนั่งดูภาพที่บันทึกไว้และพูดด้วยสีหน้าที่ดูประหลาดใจเล็กน้อย
     
    น่าทึ่งมาก...ค่าความสามารถของคุณที่บันทึกไว้ในทะเบียนไม่ได้สูงกว่าเรปลิลอยด์โมเดลต่อสู้ทั่วไปนัก ดิฉันคาดไว้ว่าผลงานที่ล่ำลือของคุณเป็นเพราะค่าความสามารถครั้งหนึ่งเคยสูงกว่าเรปลิลอยด์ทั่วไปมาก แต่ตอนนี้เมื่อมาตรฐานโดยรวมตามมาทันแล้วผลงานที่น่าทึ่งเช่นนั้นจะไม่มีอีก แต่ประสบการณ์สร้างความแตกต่างมากเท่ากับในมนุษย์จริงๆ
     
    เขาประหลาดใจที่จู่ๆ ก็ถูกชมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกซาบซึ้ง เพียงแต่ไม่ทันตั้งตัว
     
    ขอบคุณครับ แต่ผมหมายถึงว่าได้เบาะแสอะไรบ้างรึเปล่า
     
    ด็อกเตอร์เชลท่าทางจะเพิ่งรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด มือที่กดปุ่มแผงควบคุมหยุดชะงัก แก้มมีสีแดงระเรื่อ
     
    ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าเขาจะนึกขึ้นได้ว่าอาการ แก้มแดง ซึ่งมีสาเหตุจากความเขินอาย นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีเรปลิลอยด์ตัวใดที่มีฟังก์ชันนี้ ซีโร่แซวเป็นครั้งคราวว่าทำให้เขาเป็นคนที่เข้าใจง่ายกว่าเรปลิลอยด์ส่วนใหญ่มาก ได้เห็นเกิดขึ้นกับคนอื่นเป็นครั้งแรกใน...ตั้งแต่ด็อกเตอร์เคนทำให้เขารู้สึกแปลกตาเล็กน้อย
     
    อาการเขินอายค้างอยู่ประมาณห้าวินาทีก่อนที่ด็อกเตอร์เชลจะลุกขึ้น
     
    รายละเอียดไปคุยกันที่ห้องทำงานของผู้บัญชาการซิกนัสจะดีกว่าค่ะ ดิฉันส่งบันทึกภาพไปที่บัญชีของผู้บัญชาการแล้ว
     
    เขาถอดกล้องทั้งสองตัวและส่งให้ใครสักคนในห้องควบคุม จากนั้นพวกเขาสามคนก็ออกจากห้องควบคุมและไปที่ห้องของผู้บัญชาการซิกนัส ระหว่างอยู่ในลิฟต์ซิกนัสก็กล่าวขึ้นโดยไม่ได้มองใครราวกับกล่าวลอยๆ
     
    ครั้งหน้าจะทำอะไรช่วยขออนุญาตหรืออย่างน้อยก็แจ้งฉันก่อนนะ
     
    มีเจ้าหน้าที่แค่บางฝ่ายไม่กี่นายที่สามารถติดต่อกับบัญชีของผู้บัญชาการได้ และแผงควบคุมล็อกนั้นก็ไม่ได้ให้สิทธินั้น หากเพียงแค่ใช้งานตามปกติ
     
    ขออภัยด้วยค่ะ... อาการเขินอายกลับมาอีกประมาณสิบวินาที
     
    พวกเขามาถึงและเข้ามาในห้องทำงานของซิกนัส เจ้าของห้องเข้าไปเปิดใช้งานบัญชีของตัวเองและเปิดบันทึกภาพที่ส่งเข้ามา(จริงๆ)ทันที ภาพฉายลงบนจอบนผนังด้านขวาของโต๊ะ ด็อกเตอร์เชลเข้าไปยืนข้างโต๊ะทำงานและ(คราวนี้)ขออนุญาตควบคุม
     
    ภาพจากกล้องสนับสนุนข้อสันนิษฐานที่ดิฉันมีอยู่แล้วจากการศึกษารายงานของพวกคุณ นั่นคือมีอิเร็กกุล่าร์อย่างน้อยบางกลุ่มที่ถูกควบคุม
     
    เขาจินตนาการความเป็นไปได้ไว้หลายอย่าง อะไรบางอย่างควบคุมเป็นหนึ่งในนั้น แต่เขาประหลาดใจที่ใครอีกคนคิดอย่างเดียวกันโดยมีเหตุผลสนับสนุน
     
    ไม่ใช่ด้วยโปรแกรมอิเร็กกุล่าร์นะครับ ที่ผ่านมาไม่เคยตรวจพบเลย
     
    ไม่ใช่ด้วยไวรัสหรือโปรแกรมที่เป็นเอกเทศจากกันค่ะ ดิฉันคิดว่าเป็นประเภทจิตเครือข่าย(Hive Mind)ที่มียูนิตแม่ควบคุมเรปลิลอยด์หลายตัว จากรายงานของพวกคุณ หลังจากกำจัดอิเร็กกุล่าร์ตัวหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งได้ เจ้าหน้าที่ของคุณมักจะถูกจู่โจมโดยอิเร็กกุล่าร์กลุ่มใหญ่หลังจากนั้นไม่นาน
     
    ฉันได้อ่านรายงานทุกฉบับและสังเกตเห็นเหมือนกัน แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่เป็นเหตุบังเอิญ ศัตรูอาจจะเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มอยู่แล้ว เสียงต่อสู้ทำให้ศัตรูรู้ตัว หรือศัตรูอาจมีอุปกรณ์สื่อสาร ผู้บัญชาการซิกนัสกล่าวความเห็นของตัวเอง
     
    จริงค่ะ เพียงเท่านั้นไม่สามารถสรุปได้ ดิฉันจึงต้องการจะสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามด้วยตัวเอง และดิฉันก็เห็น...ตรงนี้ค่ะ
     
    ด็อกเตอร์เชลหยุดภาพก่อนที่เขาจะกำจัดเป้าหมายที่สอง กล้องฝั่งขวาจับภาพของเรปลิลอยด์อีกสองตัวไว้ได้ ทั้งคู่หันหลังให้เขา
     
    ขณะที่เจ้าหน้าที่เอ็กซ์กำลังเล็งเป้าหมายที่สอง อิเร็กกุล่าร์สองตัวนี้เพียงแต่เดินไปรอบๆ โดยไม่สนใจทางนี้ ด็อกเตอร์เชลเดินภาพต่อ
     
    แต่ทันทีที่เป้าหมายที่สองถูกทำลาย ทั้งสองตัวก็หันมาทางเจ้าหน้าที่เอ็กซ์และตรงเข้ามาทันที
     
    ไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงเหรอ? เขาถาม ตอนอยู่ในสนามก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น
     
    ท่ามกลางสภาพอากาศเช่นนั้น แม้แต่เรปลิลอยด์ประสิทธิภาพสูงยังยากจะได้ยินเสียงของกระสุนพลังงานขนาดเล็กเพียงนัดเดียวหากไม่ได้ถูกสร้างมาด้วยอุปกรณ์รับเสียงชนิดพิเศษ หากสังเกตอย่างใกล้ชิดจะเห็นว่าเมื่อกระสุนพลังงานถูกยิงออกจากบัสเตอร์ อิเร็กกุล่าร์ทั้งสองตัวไม่แสดงพฤติกรรมที่สื่อว่าได้ยินเสียงใดๆ  แต่ทันทีที่เป้าหมายถูกทำลาย ทั้งสองก็ตรงเข้ามายังจุดที่เจ้าหน้าที่เอ็กซ์อยู่พร้อมกัน ราวกับรู้ทันทีว่าเจ้าหน้าที่เอ็กซ์อยู่ตำแหน่งนั้นมากกว่าแค่ได้ยินเสียง จะลืมไม่ได้ว่าอิเร็กกุล่าร์ในปัจจุบันมิได้มีสติปัญญาที่ต่ำลง พฤติกรรมตอบสนองต่อเสียงทันทีราวกับสัตว์เช่นนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
     
    คำอธิบายของด็อกเตอร์เชลสมเหตุสมผล แต่ไม่ถึงกับเด็ดขาด
     
    แต่เราไม่พบร่องรอยของการบงการจากภายนอกเลย ซิกนัสขมวดคิ้ว
     
    มีอยู่วิธีหนึ่งที่สามารถควบคุมพฤติกรรมของเครื่องจักรได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้
     
    คำว่า ควบคุมพฤติกรรม ทำให้เขานึกอะไรบางอย่างออก
     
    หรือว่า...จะเป็นมาเธอร์เอลฟ์
     
    มีความเป็นไปได้สูง...หรืออาจต้องบอกว่าไม่น่ามีความเป็นไปได้อื่นค่ะ
     
    ถ้าใช่...มีทางยืนยันรึเปล่า? ซิกนัสถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
     
    มีค่ะ สามารถจับสัญญาณได้หากมีอุปกรณ์ หากมีชิ้นส่วนพร้อมคาดว่าจะใช้เวลาประมาณสามสัปดาห์หากดิฉันทำคนเดียว สองสัปดาห์หากมีทีม
     
    เดี๋ยวฉันจะจัดทีมผู้ช่วยให้ ยิ่งได้คำตอบเร็วก็ยิ่งดี
     
    ขอบคุณมากค่ะ
     
    เขารู้สึกใจชื้นขึ้นด้วยความหวัง เพิ่งวันแรกที่ได้ด็อกเตอร์เชลมาร่วมงานก็มีทีท่าว่าการสืบสวนจะก้าวหน้าขึ้น ไม่แน่ว่าเหตุการณ์คราวนี้อาจคลี่คลายได้เร็วกว่าที่คาดไว้
     
    [...]
     
    [.....]
     
    ด็อกเตอร์เชลซึ่งเป็นผู้นำในการสร้างซิกม่าแอนติบอดี้โปรแกรมรู้กลไกของมาเธอร์เอลฟ์อย่างทะลุปรุโปร่งและสามารถสร้างอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณของมาเธอร์เอลฟ์โดยเฉพาะได้ แม้รัศมีการค้นหาจะจำกัดที่ประมาณห้ากิโลเมตร ด้วยอุปกรณ์ชิ้นนั้นอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์จึงได้พบคำตอบแรกของเหตุการณ์คราวนี้
     
    สิ่งนั้นได้รับชื่อเรียกรวม [เบบี้เอลฟ์]  เป็นไซเบอร์เอลฟ์ที่เลียนแบบมาเธอร์เอลฟ์แต่โปรแกรมถูกครอบงำโดยไวรัสอิเร็กกุล่าร์ที่เป็นแก่น ดังที่ผู้สร้างกลัวและเป็นเหตุให้วางข้อจำกัดบนบุคลิกของมาเธอร์เอลฟ์ ทว่าเบบี้เอลฟ์เหล่านี้ไม่มีข้อจำกัดนั้น แต่มีบุคลิกและออกสร้างความวุ่นวายได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องได้รับคำสั่ง
     
    โชคยังไม่ร้ายนักที่เบบี้เอลฟ์มีระดับความสามารถที่ต่ำกว่ามาเธอร์เอลฟ์มาก ทำให้ขอบเขตการควบคุมเรปลิลอยด์แรกเริ่มอยู่ที่รัศมีเพียงแค่ 100 เมตรถึง 400 เมตรแล้วแต่ระดับพลังของแต่ละตัว หลังจากนั้นเรปลิลอยด์ที่ถูกควบคุมสามารถเคลื่อนไหวออกไปได้ 500 เมตรถึง 1.2 กิโลเมตรโดยไม่หลุดการควบคุม
     
    ปัญหาคือจำนวน ซึ่งแม้จะกำจัดไปหลายร้อยตัวแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ที่แย่ไปกว่านั้นคือเอ็กซ์เป็นเรปลิลอยด์ตัวเดียวที่สามารถเข้าไปถึงตัวได้โดยไม่ถูกควบคุมเสียก่อน นอกจากเขาแล้ววิธีที่จะกำจัดเบบี้เอลฟ์ได้คือต้องใช้อาวุธระยะไกลจาก 1.5 กิโลเมตรขึ้นไปซึ่งอัตราสำเร็จต่ำ ส่วนมากจะทำได้แค่สกัดให้ถอยกลับไป
     
    รัฐบาลกลางรับรายงานถึงการค้นพบนี้ แต่ก็ยังแอบดำเนินโปรเจคเอลปิสต่อไป เนื่องจากเพียงแค่การค้นพบไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น และด็อกเตอร์ไวล์ที่ยืนยันว่าโปรเจคเอลปิสของตัวเองมีพลังเหนือเบบี้เอลฟ์ ทำให้การดำเนินการสร้าง สุดยอดเรปลิลอยด์ โอเมก้า เร่งความเร็วยิ่งขึ้น
     
    เอ็กซ์รู้ในตอนนั้นว่าสงครามครั้งนี้ไม่จบลงง่ายๆ จึงได้สละเวลาจากแนวหน้าไปก่อตั้ง มูลนิธิผู้ลี้ภัย [เนโออาร์คาเดีย] โดยขอความร่วมมือจากผู้ที่มีสินทรัพย์ สิ่งของ หรือบริการอื่นๆ ที่สามารถสนับสนุนความเป็นอยู่ของผู้อพยพได้
     
    เอ็กซ์ลงจากไรด์เชสเซอร์และทักทายเรปลิลอยด์ตัวหนึ่งที่กำลังขนกระเป๋า มนุษย์ที่เดินตามหลังมองมาที่เขาอย่างประหลาดใจเล็กน้อย
     
    เขาเดินผ่านเรปลิลอยด์และมนุษย์ที่ทักทายเขาอีกหลายคน กวาดตามองเคาน์เตอร์ที่มีทั้งมนุษย์และเรปลิลอยด์ต่อแถว เก้าอี้ที่คนที่เหลือนั่งรอคิว
     
    อาคารที่มีลักษณะคล้ายสถานีขนส่งนี้ที่จริงคือสถานที่ลงทะเบียนผู้เข้ามาในศูนย์อพยพแห่งนี้ ไม่ว่ามนุษย์หรือเรปลิลอยด์ก็ผ่านกระบวนการเดียวกัน ในสถานที่เดียวกัน
     
    ทั้งเรปลิลอยด์และมนุษย์มีสถานะเป็นพลเมืองที่เท่าเทียมกันใช้ระบบทะเบียนที่ใกล้เคียงกัน การแยกลงทะเบียนนอกจากจะไม่ทำให้เร็วขึ้นนักแล้วยังจะสร้างความแบ่งแยกอย่างเปล่าประโยชน์ อย่างไรภายในศูนย์อพยพแห่งนี้ก็ไม่ได้มีการแบ่งฝั่งระหว่างมนุษย์และเรปลิลอยด์อยู่แล้ว
     
    แน่นอนว่ามีมนุษย์ที่คัดค้านการถูกปฏิบัติเท่ากับเรปลิลอยด์แสดงตัวออกมาทุกวัน
     
    ทำไมพวกเราต้องมาต่อแถวกับหุ่นยนต์พวกนี้ด้วย?! ถ้าตัวข้างหลังเกิดคลั่งบีบคอลูกฉันขึ้นมาจะทำยังไง!”
     
    มนุษย์เพศหญิงวัยราวสามสิบคนหนึ่งตวาดเสียงดังกับเจ้าหน้าที่ชายที่บังเอิญผ่านมา
     
    ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอกครับคุณนาย ตั้งแต่ตั้งศูนย์อพยพแห่งนี้มาได้หนึ่งปียังไม่เคยมีเหตุเรปลิลอยด์กลายเป็นอิเร็กกุล่าร์เลย ผมทำงานอยู่ที่นี่ทุกวันไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเรปลิลอยด์ เจ้าหน้าที่หนุ่มพยายามอธิบาย
     
    อ๋อ ต้องให้มีใครโดนขึ้นมาก่อนใช่มั้ย? งั้นคนที่โดนฆ่าก็โชคร้ายไปเหรอยะ?! ใครอยากเสี่ยงก็เสี่ยงไปแต่ฉันไม่เอาด้วยหรอกย่ะ! พาพวกเราไปที่ที่ไม่มีหุ่นยนต์บ้าพวกนี้แล้วจะให้ลงทะเบียนอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”
     
    มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าอเล็กซ์? เขาได้ยินทั้งหมด แต่ทำทีเดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ชาย เขารู้จักชื่อและใบหน้าของทุกคนที่ทำงานมานานกว่าหนึ่งเดือน
     
    อ๊ะ คุณเอ็กซ์ครับ ไม่มีปัญหาอะไรครับ ผมดูแลได้ คุณเอ็กซ์ไปทำธุระของคุณเอ็กซ์เถอะครับ
     
    ไม่เป็นไร นี่ก็เป็นหน้าที่ของฉันเหมือนกัน
     
    เขาหันไปทางผู้หญิงที่มองเขาด้วยสายตากึ่งระแวงกึ่งไม่พอใจ เด็กผู้ชายอายุประมาณสามขวบยืนมองเขาด้วยความสนอกสนใจราวกับเพิ่งเคยเห็นเรปลิลอยด์ใกล้ๆ เป็นครั้งแรก
     
    คุณผู้หญิงไม่ทราบมีปัญหาอะไรที่ผมช่วยได้รึเปล่าครับ?
     
    อ้อ คุณเองสินะคือ เอ็กซ์ ที่คนเขาพูดกัน คุณใช่มั้ยที่เป็นต้นคิดให้จัดพวกเรากับหุ่นยนต์ไว้ในที่เดียวกัน ทำงานประสาอะไร?! จะมีประโยชน์อะไรถ้าหนีหุ่นยนต์จากที่นึงมาแล้วต้องมาอยู่ใกล้จนแทบจะหายใจรดต้นคอกันเหมือนเดิม!”
     
    คุณผู้หญิงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอกครับ ที่เกาะนี้โดยเฉพาะบริเวณนี้ไม่มีเหตุการณ์เรปลิลอยด์ถูกควบคุมแบบที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก มากที่สุดก็มีแต่เหตุทะเลาะวิวาทธรรมดาที่ไม่เคยมีผู้เสียชีวิต
     
    สหพันธรัฐหมู่เกาะทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นสถานที่ที่มีเบบี้เอลฟ์ปรากฏตัวขึ้นน้อยมาก และมีก็เพียงแต่บริเวณชายฝั่ง ซึ่งหลังจากมีอุปกรณ์ที่ตรวจพบสัญญาณได้แล้วก็สามารถป้องกันได้ง่ายขึ้น
     
    ศูนย์อพยพของเนโออาร์คาเดียตั้งอยู่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหลัก รอบลิฟต์อวกาศบาเบลที่ได้รับความเสียหายจากการต่อสู้กับเรดิปส์และเลิกใช้งาน เขาทยอยใช้ทรัพย์สินส่วนตัวซื้อที่ดินแถบนี้มาตั้งแต่เริ่มโครงการลิฟต์อวกาสยาคอบ ผู้ที่ต้องการจะรีบจับจองการอพยพไปดวงจันทร์และพร้อมจะขายในราคาไม่สูงนักมีอยู่มากในตอนนั้น เขาสังหรณ์ใจว่าอาจมีความจำเป็นต้องใช้สถานที่ทำอะไรแบบนี้จึงเริ่มเตรียมการตั้งแต่ตอนนั้น เขาไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าโปรเจคยาคอบจะล้มเหลว ดังนั้นขออย่าว่าเขาเอาเปรียบ
     
    อนึ่ง หากใครสงสัยว่าอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์มีเงินค่าตอบแทนด้วยหรือ หรือว่าเรปลิลอยด์มีเงินค่าตอบแทนในการทำงานด้วยหรือ ขอย้ำอีกครั้งว่าเรปลิลอยด์มีสถานะทางพลเรือนเท่าเทียมกับมนุษย์ หากไม่มีก็ถือว่าผิดหลักการข้อนั้น ที่สำคัญไม่ใช่ทุกคนจะอยากทำงานเสี่ยงตายไปตลอดชีวิต บางคนก็ลาออกและใช้ทรัพย์สินที่สะสมไปทำอย่างอื่นก็มี(เช่นออสทรีคที่ลาออกจากหน่วยจู่โจมเร็วอากาศหลังจากสูญเสียความสามารถในการบิน)
     
    นี่ คุณเป็นทหารที่สู้กับหุ่นยนต์มานานแล้วไม่ใช่รึไง? ขนาดฉันยังรู้เลยว่าหุ่นยนต์พวกนี้มันอันตรายขนาดไหน คุณอย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง จะปกป้องพวกเดียวกันเหรอยะ?
     
    เทียบกับที่ตวาดอเล็กซ์เมื่อกี้นี้แล้วผู้หญิงคนนี้ควบคุมเสียงและกิริยาของตัวเองกว่ามาก อาจเพราะเขาเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์อพยพแห่งนี้ เพราะเขาเป็นคนดัง หรือแค่เพราะเขาเป็นเรปลิลอยด์ซึ่งเป็นตัวอันตรายที่ว่าจึงไม่กล้าทำให้เขาไม่พอใจ
     
    น่าจะเป็นอย่างหลัง ดูจากการที่แอบดันลูกไปหลบข้างหลัง
     
    เนโออาร์คาเดียมีหลักการว่าจะไม่มีการแบ่งแยกระหว่างมนุษย์และเรปลิลอยด์ครับ เหตุร้ายไม่ว่าครั้งนี้หรือครั้งไหนเรปลิลอยด์เองก็สูญเสียไม่ต่างจากมนุษย์ เรปลิลอยด์เองก็มีเพื่อน มีกระทั่งผู้ที่สามารถเรียกได้ว่าครอบครัว
     
    ผู้หญิงข้างหน้าเขาทำท่าจะค้าน แต่เขาไม่ยอมให้ทำได้จนกว่าเขาจะพูดจบ
     
    พวกเขาไม่ได้มีความสุขที่ต้องกลายเป็นอิเร็กกุล่าร์ หากเป็นตัวของตัวเองพวกเขาจะไม่ทำเช่นนั้นนอกจากจะถูกโลกต้อนจนมุม ผมตั้งเนโออาร์คาเดียขึ้นก็เพื่อให้พวกเขารู้ว่าบนโลกนี้ยังมีที่ของพวกเขา และที่นี่ก็ต้อนรับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ยอมรับเรปลิลอยด์ได้หรือผู้ที่ยังไม่ไว้ใจเรปลิลอยด์เช่นคุณ แต่เราจะไม่ทำสิ่งที่สวนทางกับจุดประสงค์ของที่นี่ เนโออาร์คาเดียมิได้มีเพื่อให้หลบภัยจากหุ่นยนต์ แต่เพื่อรักษาโลกที่มนุษย์และเรปลิลอยด์อาศัยอยู่ร่วมกันเอาไว้
     
    ผู้หญิงข้างหน้าเขาอ้าปากในสีหน้าที่ตกลงกับตัวเองไม่ได้ว่าจะตะลึงหรือจะโกรธ เขาอาศัยช่องว่างนี้พูดต่อจนจบ
     
    คุณผู้หญิงครับ สหภาพตะวันตกซึ่งเป็นที่เดียวที่ปลอดภัยที่สุดนอกจากที่นี่ปฏิเสธการรับเรปลิลอยด์ หากคุณไม่คิดจะไปที่นั่นแต่ยังไม่สามารถยอมรับเรปลิลอยด์ได้ก็ขอให้คุณให้โอกาสสถานที่แห่งนี้เถอะครับ ที่นี่มีมนุษย์ที่ไม่พอใจเรปลิลอยด์อยู่เช่นกัน แต่ตอนนี้พวกเขาก็สามารถอาศัยอยู่ได้แม้อาจจะยังไม่ได้เห็นตรงกับเรา เราไม่บังคับให้คุณต้องผูกมิตรกับใคร
     
    ท่าทางจะใจเย็นลงบ้าง แม้จะไม่มาก
     
    ไม่ต้องมาทำเป็นสั่งสอนฉันหรอกย่ะ เรื่องแค่นั้นฉันรู้อยู่แล้ว ...เอ้า ยืนเซ่ออยู่ทำไม ยังไม่พาฉันกับลูกไปหาที่นั่งอีก!”
     
    อ๋า? ค—ครับ เชิญทางนี้ครับ อเล็กซ์ตกใจที่ถูกพูดด้วยกะทันหัน แต่ก็รีบทำหน้าที่ ไม่ลืมหันมาส่งสัญญาณขอบคุณและลาเขา
     
    ฮ่า... เขาถอนใจ พยายามไม่ให้ใครเห็นหรือได้ยิน
     
    ต้องไม่ลืมว่าเขามาที่นี่เพื่อตรวจสอบความเรียบ มีเวลาว่างมาได้แค่เดือนละสองครั้งเท่านั้น ต้องใช้เวลาให้คุ้ม
     
    คิดแล้วเขาก็เดินตรงไปทางเข้าพนักงาน
     
    นับแต่ค้นพบเบบี้เอลฟ์การต่อสู้ก็มีแต่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากไซเบอร์เอลฟ์จำนวนมากทยอยตกไปอยู่ในมือของอิเร็กกุล่าร์โดยไม่ทราบสาเหตุ ขอบเขตความเสียหายและการสูญเสียขยายเป็นวงกว้าง ทำให้มีผู้ลี้ภัยเข้าเมืองหลวงของสหภาพตะวันตกซึ่งเป็นที่เดียวที่ยังปลอดภัยด้วยการป้องกันที่เข้มแข็ง แต่ส่วนใหญ่ซึ่งไม่ได้มีทรัพย์สินมากมาย หรือแค่เป็นเรปลิลอยด์ ต้องหันมาพึ่งมูลนิธิเนโออาร์คาเดีย ซึ่งทำให้ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นตามไปด้วยในฐานะมูลนิธิผู้ลี้ภัยแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่บนโลก
     
    เวลาผ่านไป เข้าสู่ปีที่สี่ของภัยเบบี้เอลฟ์ โลกถูกทำลายด้วยพลังของอาวุธที่รุนแรง ทั้งจากอิเร็กกุล่าร์ที่มีจำนวนมหาศาล และจากฝ่ายมนุษย์ที่นำอาวุธทำลายล้างสูง(WMD)ออกมาใช้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามศตวรรษ ทว่าสิ่งที่เสียหายก็มีเพียงพื้นโลกที่สูญเสียและกลายเป็นแดนร้างมากขึ้นเรื่อยๆ
     
    รวมกับสงครามเรปลิลอยด์รุ่นใหม่ครั้งก่อน กว่า 70% ของโลกสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่รวมทั้งมนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เพราะกัมมันตรังสีหรือเพราะธรรมชาติที่ถูกทำลาย ประชากรมนุษย์ลดลงเหลือเพียง 65% ของหลังการใช้มาเธอร์เอลฟ์ ขณะเดียวกันประการเรปลิลอยด์ที่ไม่ได้ถูกทำลายและไม่ได้ตกอยู่ใต้การควบคุมของเบบี้เอลฟ์เหลือเพียง 20%
     
    แม้เอ็กซ์และอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์จะพยายามอย่างหนักในการต่อสู้กับเบบี้เอลฟ์ แต่สถานการณ์ก็มีแต่เลวร้ายลง โปรเจคเอลปิสใกล้ถึงขั้นสุดท้าย เรปลิลอยด์ [โอเมก้า] ซึ่งใช้ร่างของซีโร่เสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงมาเธอร์เอลฟ์ซึ่งก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์เช่นกัน
     
    เวลาของเอ็กซ์เหลือเพียงสามเดือน ความหวังริบหรี่ลงไปทุกที
     
    ทว่าในสามเดือนสุดท้ายนั้นเองที่การเปลี่ยนแปลงมาถึงในรูปของเรปลิลอยด์สี่ตัว
     
    เขาก้าวลงจากแท่นเคลื่อนย้าย พยายามฝืนอาการซวนเซไม่ให้ในห้องควบคุมเห็น แต่ร่องรอยความเสียหายที่ปรากฏอยู่ทั่วร่างก็ทำให้ความพยายามของเขาไร้ผล
     
    การต่อสู้รุนแรงขึ้นจนจวนเจียนขีดจำกัดของร่างกายของเขาแทบทุกครั้งที่ออกไป ร่างกายของเขาพัฒนาขึ้นทุกครั้งที่พบกับอุปสรรค แต่ก็ยังไม่เท่ากับเบบี้เอลฟ์ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างทวีคูณ
     
    ในเวลาอย่างนี้เขาอยากจะค้นพบแคปซูลของชายชราชุดขาวคนนั้นอีกสักสี่เครื่องจริงๆ  แต่ตั้งแต่ซีโร่ผนึกตัวเองเขาก็ไม่เคยพบอีกเลย ถึงตอนนี้เขาก็ไม่คาดหวังแล้ว
     
    เขาเดินไปที่แผนกซ่อมแซม ปฏิเสธความช่วยเหลือระหว่างทาง เมื่อก่อนเขาจะได้ยินจากแทบทุกคนที่เดินผ่าน แต่หลังจากปฏิเสธบ่อยครั้งเข้าก็ไม่ค่อยมีแล้ว
     
    ท่าทางเหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่แล้วนี่ ให้ช่วยมั้ย?
     
    เสียงมาจากข้างหลัง เขายกมือขึ้นขวาบอกไม่ต้องโดยไม่หันกลับไปตามความเคยชิน
     
    ไม่เป็นไร เราต่างคนต่างก็มีงาน
     
    น่า ตอนนี้ยังว่างอยู่ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่กัน
     
    เขาหยุดเดิน และมองข้ามไหล่กลับไป คำพูดและเสียงนั้นเขาเคยได้ยิน
     
    พวกนาย...!”
     
    ฮ้าย~ หนุ่มน้อยไม่ได้เจอกันนาน ท่าทางไม่ต้องถามว่าสบายดีรึเปล่า มาริโน่ชูสองนิ้วทักทาย มาสซิโม่ยืนอยู่ข้างหลัง
     
    เขาหันหลังกลับไปทั้งตัว แต่ลืมว่าบาดเจ็บอยู่ทำให้เสียหลักล้มไปข้างหลัง มาริโน่อ้อมเข้ามายันหลังเขาไว้ ด้วยความเร็วที่สมกับเคยประกาศตัวว่าเป็นยอดหัวขโมย
     
    เอ้า ดีใจที่ได้เจอพวกเราถึงขนาดเข่าอ่อนเลยเหรอ
     
    ฮะๆ  ก็คงยังงั้น ว่าแต่พวกเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
     
    งานยุ่งจนไม่ได้สนใจข่าวสารบ้านเมืองเลยเหรอ ...แล้วรูปร่างนายเปลี่ยนไปนะเนี่ย ไม่ชอบผ้าพันคอแล้วเหรอ? เอาเหอะ เดินไปคุยไปก็ได้ เอ้า นายตัวใหญ่
     
    มาริโน่ส่งเขาให้มาสซิโม่ประคอง ด้วยพละกำลังของผู้ที่มีสมญานามว่า [เหล็กไหล] ตัวเขาคงเบาไม่ต่างจากนุ่น
     
    สวัสดี เอ็กซ์
     
    สบายดีนะ มาสซิโม่ เขายิ้มให้เพื่อนเก่าพลางใช้แขนที่ใหญ่เกือบเท่าลำตัวของเขาเป็นที่พยุง
     
    พวกเราไม่เป็นไรมาก นายล่ะ บาดเจ็บอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอ?
     
    อา ชินแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ขีดจำกัดของตัวเอง
     
    มาสซิโม่มีลักษณะที่เรียกรวมได้ว่า ยักษ์ใหญ่ใจดี มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาดีใจที่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
     
    ระหว่างทางช่วยเขาไปที่แผนกซ่อมแซมมาริโน่และมาสซิโม่ก็บอกเขาว่าเบบี้เอลฟ์ปรากฏตัวขี้นเป็นจำนวนมากที่กิกันทิสและควบคุมเรปลิลอยด์กว่า 70% ก่อความเสียหายจนกระทั่งกิกันทิสจมสู่ก้นมหาสมุทร มนุษย์และเรปลิลอยด์ที่ยังปลอดภัยต่างอพยพไปที่เมืองหลวงของสหภาพตะวันตกและศูนย์อพยพเนโออาร์คาเดีย มาริโน่กับมาสซิโม่เป็นเรปลิลอยด์ดังนั้นจึงมีทางเลือกแค่ข้อหลัง
     
    แล้ว...ซินนามอนกับนานะล่ะ? เขากลั้นใจถาม
     
    ไม่ต้องเป็นห่วงสองคนนั้น นานะเข้าพบผู้บัญชาการของนายอยู่ ส่วนซินนามอนก็อยู่นั่นแล้ว มาริโน่พยักเพยิดให้เขามองข้างหน้า
     
    ในแผนกอพยพ ร่างที่กลมกลืนเข้ากับสีขาวของพื้นและอุปกรณ์แต่สะดุดตาของเขาทันทีเป็นของเรปลิลอยด์เด็กผู้หญิงสวมหมวกพยาบาลซึ่งกำลังง่วนกับการซ่อมแซมเจ้าหน้าที่ที่แขนขวาเสียหาย
     
    พวกเราสองคนก็กะจะมาช่วยงานอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์จนกว่าจะมีอย่างอื่นทำ ก็อย่างนั้น ฝากตัวด้วยละกันนะคะ รุ่นพี่เอ็กซ์~”
     
    เรียกเหมือนเดิมเถอะ เขาถอนใจ ส่วนนี้ของมาริโน่ก็ยังไม่เปลี่ยนไปเช่นกัน เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี
     
    แต่สหายที่เคยร่วมรบด้วยกันมาช่วยพวกเขา ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกยินดีมากเท่าที่ควร ทั้งคู่เป็นเรปลิลอยด์ที่มีฝีมือในการต่อสู้ สามารถเป็นกำลังให้กับแนวหน้าได้มาก เขาบอกตัวเองแบบนั้นระหว่างที่รับการซ่อมแซม
     
    มาริโน่กับมาสซิโม่ไปที่ฝ่ายบุคคลเช่นเดียวกับอาสาสมัครคนอื่นๆ ที่ต้องการจะช่วยเหลือในการต่อสู้กับอิเร็กกุล่าร์
     
    เขารับการซ่อมแซมไปพลางทักทายซินนามอน หลังจากนั้นก็ไปที่ห้องผู้บัญชาการตามเสียงประกาศ
     
    เอ็กซ์รายงานตัวครับ เขากล่าวกับผู้บัญชาการที่อยู่หลังโต๊ะทำงาน
     
    มาก็ดีแล้วเอ็กซ์ นานะมีสิ่งที่อยากให้นายดู
     
    เขาหันไปสบตากับนานะซึ่งพยักหน้าให้เขา ก่อนจะขออนุญาตซิกนัสควบคุมการฉายภาพ
     
    ภาพฉายบนจอ เป็นอาคารปิดทึบ จากบุคลากรและอุปกรณ์แล้วคาดว่าเป็นศูนย์วิจัยพัฒนาอะไรบางอย่าง ร่างขนาดใหญ่ลำตัวสีดำตัดกับแขนขาสีขาวยืนอยู่ใจกลาง
     
    นั่นมัน...เมคานิลอยด์ยักษ์เหรอ? เขาไม่แน่ใจ
     
    นั่นคือ [โอเมก้า] ค่ะ
     
    โอเมก้า เขาได้ยินจากข้อมูลที่ด็อกเตอร์เชลแฮ็กมาว่านั่นเป็นชื่อเรียกของเรปลิลอยด์ที่จะรวมกับมาเธอร์เอลฟ์
     
    เดี๋ยวสิ เธอรู้เรื่องโปรเจคเอลปิสด้วยเหรอ?
     
    เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองค่ะ ฉันสงสัยที่รัฐบาลกลางไม่มีท่าทีใส่ใจจะรักษาความนิยมจากเรปลิลอยด์เลยจึงพยายามหาสาเหตุ จนกระทั่งพบเข้า ฉันไม่คาดคิดว่าพวกคุณเองก็ทราบแล้วเช่นกัน
     
    แววตาของนานะเหมือนจะถามเขาว่า ทำไมไม่บอก ไม่ไว้ใจกันหรือ  เขาพยายามเปลี่ยนเรื่อง
     
    อา ว่าแต่ นี่คือโอเมก้า...ร่างของซีโร่ถูกดัดแปลงถึงขนาดนี้เลยเหรอ...
     
    เรื่องนั้นฉันไม่ทราบค่ะ แต่ส่วนสำคัญที่อยากให้คุณฟังคือบทสนทนาของด็อกเตอร์ไวล์และตัวแทนของรัฐบาลกลางที่กล้องจับไว้ได้เมื่อสองวันก่อน
     
    ระหว่างที่นานะซูมภาพเข้าไปที่คนสามคน เขาก็คิดในใจว่ารัฐบาลกลางจะทำหน้าอย่างไรหากรู้ว่า ข้อมูลลับสุดยอด ของตัวเองถูกแฮ็กจนพรุนไปหมดแล้ว
     
    #โอเมก้าเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแค่มาเธอร์เอลฟ์ในอีกสามเดือนโปรเจคเอลปิสก็จะเสร็จสมบูรณ์ โลกจะเข้าสู่ความสงบสุขด้วยมือของรัฐบาลกลางอย่างเรา ต้องขอบคุณด็อกเตอร์ไวล์มาก คุณจะได้รับการยกย่องเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเหนือกว่าผู้สร้างเรปลิลอยด์ตัวแรกบนโลก เราให้สัญญา# ชายวัยกลางคนที่ท่าทางจะเป็นตัวแทนรัฐบาลเป็นผู้พูด
     
    #จะฉลองตอนนี้ยังเร็วไป ถึงโปรเจคเอลปิสจะเสร็จสมบูรณ์ แต่การจะนำออกใช้ยังมีอุปสรรคอยู่ เจาะจงคือมีอุปสรรคสองอย่างด้วยกัน หากไม่กำจัดอุปสรรคสองอย่างนี้ โปรเจคเอลปิสมีโอกาสจะถูกขัดขวางกลางคันได้ ถึงจะเป็นโอกาสแค่น้อยนิด แต่ก็ควรจะขจัดความเสี่ยงออกไปให้หมด เห็นด้วยรึเปล่า?# ผู้พูดคนที่สองคือด็อกเตอร์ไวล์ ทั้งที่นับแต่เขาเห็นหน้าครั้งแรกเพิ่งจะผ่านไปแค่ห้าปี แต่ดูราวกับแก่ขึ้นอีกยี่สิบปี
     
    #อุปสรรคที่ว่าคืออะไร ด็อกเตอร์ไวล์ เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดหรือควบคุมให้ได้# ชายอีกคนที่เป็นตัวแทนรัฐบาลเช่นกันกล่าวอย่างมั่นใจ ท่าทางจะยังกระตือรือร้นจากการเสร็จสิ้นของโอเมก้า
     
    #ก็เพราะควบคุมไม่ได้จึงเป็นอุปสรรค เป็นอุปสรรรคที่ต้องกำจัดเท่านั้น อุปสรรคก็คือเรปลิลอยด์เพียงสองตัวในโลกที่แม้แต่โอเมก้ากับมาเธอร์เอลฟ์ก็ไม่อาจควบคุมได้ ถึงผมไม่บอกชื่อพวกคุณก็คงจะเดาได้ เอ็กซ์ แล้วก็ซีโร่#
     
    #เอ็กซ์กับซีโร่...แต่ซีโร่ตอนนี้เหลือแต่ข้อมูลแล้ว#
     
    #ถูกต้อง ฉะนั้นต้องรีบกำจัดทิ้งซะ ถึงจะเหลือแต่ข้อมูลก็จะเสี่ยงไม่ได้#
     
    #แล้ว...เอ็กซ์ล่ะ?#
     
    #ถ้ากำจัดซีโร่ไปแล้วเอ็กซ์ก็ไม่ยากเย็นนัก เพียงแต่ต้องล่อให้ไปที่ที่เราจะส่งโอเมก้าออกไปเป็นครั้งแรก ถึงจะเป็นอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ในตำนาน ต่อหน้าโอเมก้ากับกองทัพเรปลิลอยด์ใต้ความควบคุมของเราก็ไม่ต่างจากแมลงตัวหนึ่ง#
     
    #จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? ถ้าโอเมก้าแข็งแกร่งขนาดนั้นถึงปล่อยไว้ก็ไม่ต้องเป็นห่วงก็ได้ไม่ใช่เหรอ? เอ็กซ์ตอนนี้ได้รับความนิยมจากประชากรที่เหลืออยู่กระทั่งมนุษย์พอๆ กับพวกเรา ถ้าปิดเรื่องไว้ไม่ดีความจริงเกิดรั่วไหลออกไป...#
     
    #ไม่ได้ ความคิดของเจ้านั่นอันตรายเกินไป เป็นศัตรูของมนุษย์ เป็นอิเร็กกุล่าร์ตัวจริงเสียงจริง หากปล่อยไว้มีโอกาสที่จะทำลายโปรเจคเอลปิสได้ ต้องกำจัดก่อนเท่านั้น#
     
    #...เราเข้าใจแล้วด็อกเตอร์ไวล์ หลังจากมาเธอร์เอลฟ์เสร็จสมบูรณ์เราจะตกลงรายละเอียดกันอีกครั้ง#
     
    #ยินดีที่พวกคุณเข้าใจ#
     
    ภาพถูกหยุดไว้เพียงเท่านั้น
     
    ...ซีโร่มีอันตราย เขาพูดขึ้นเป็นอย่างแรก
     
    เอ็กซ์ คุณเองก็เหมือนกัน นานะเตือน
     
    ฉันรู้แล้ว แต่ซีโร่อยู่ในมือของฝ่ายนั้น ถ้าไม่รีบช่วยออกมาเสียแต่ตอนนี้...
     
    แต่จะทำอย่างไร ไม่มีทางที่พวกเขาจะขอยูนิตที่เก็บข้อมูลของซีโร่ไว้มาได้แน่ ไม่ว่าจะมีเหตุผลดีเพียงใดก็ตาม ซ้ำยังเสี่ยงจะทำให้อีกฝ่ายจับได้ว่าพวกเขาล่วงรู้ความลับอีก
     
    ฉันรู้ว่าคุณต้องพูดแบบนั้น ดังนั้นฉันกับมาริโน่จึงตกลงกันไว้แล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถอะค่ะ
     
    เธอกับมาริโน่...? เขาพอเดาได้ว่าแผนนั้นคืออะไร
     
    พวกเราจะเริ่มดำเนินการทันที ขอตัวนะคะ
     
    นานะลาเขากับซิกนัสและออกจากห้องไป
     
    เขามองประตูปิดลง แล้วหันกลับมาพูดกับผู้บัญชาการ
     
    ขอโทษด้วยนะครับ ต้องให้มาเกี่ยวข้องแต่กับเรื่องแบบนี้
     
    เขารู้ว่าผู้บัญชาการซิกนัสยึดกฎระเบียบและความถูกต้องเพียงใด ที่ผ่านมาการลอบต่อต้านรัฐบาลกลางอย่างลับๆ ร่วมกับด็อกเตอร์เชลก็ทำให้รู้สึกอึดอัดใจไม่ใช่น้อย
     
    ซิกนัสลุกขึ้นจากเก้าอี้และหันหลังให้เขา มือไพล่หลังในท่าประจำตัว
     
    ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก...ฉันเป็นผู้บัญชาการของอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์มานานกว่าห้าสิบปีแล้ว มองเห็นเจ้าหน้าที่ดีๆ ต้องจากไป ทั้งซีโร่ เอเลีย พาเล็ท เลเยอร์ แอ็กเซล และอีกมากมาย ฉันถึงได้เข้าใจอย่างหนึ่ง การรักษาคนดีๆ แบบนั้นเอาไว้ก็เป็นหน้าที่ของฉันเช่นกัน เอ็กซ์ นายกับซีโร่คือคนแบบนั้น
     
    เขารอ แต่ซิกนัสไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น
     
    ขอบคุณครับผู้บัญชาการซิกนัส ผมมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ภูมิใจในผู้บัญชาการเช่นกัน เขาทำความเคารพ แม้อีกฝ่ายจะหันหลังให้ แล้วออกมาจากห้อง
     
    ที่หมายต่อไปของเขาคือห้องทดลองของด็อกเตอร์เชล
     
    เขาผ่านประตูเข้าไปในห้องขนาดกลางที่มีโต๊ะยาว เก้าอี้ อุปกรณ์ที่เขารู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างวางระเกะระกะอยู่ตามความสะดวกของเจ้าของห้อง ชั้นวางของที่เก็บสารพัดเอกสารและชิ้นส่วนไว้อย่างลวกๆ
     
    ผู้ที่เขาตามหานั่งอยู่กับโต๊ะ มือควบคุมเพิ่มลดภาพโฮโลแกรมหกเจ็ดภาพและหยีตาจ้องมองแต่ละภาพ ขอบตาที่ดำคล้ำ เส้นผมที่รวบเข้าที่ท้ายทอยอย่างลวกๆ แล้วก็ยังยุ่งเหยิง และเสื้อคลุมสีขาวที่ข้างหนึ่งหล่นจากไหล่ลงไปกองที่ต้นแขนโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้หรือใส่ใจ รวมกันเป็นภาพของคนที่อดหลับอดนอนมาไม่ใช่แค่คืนหรือสองคืน
     
    เพ่งสมาธิมากจนไม่ได้ยินเสียงประตู
     
    เชล เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วเรียกชือ ใช้เสียงไม่ดังมากเพื่อไม่ทำลายสมาธิ
     
    เอ็กซ์เองเหรอ เชลหันกลับมายิ้มให้เขาด้วยใบหน้าอิดโรย
     
    แม้พวกเขาจะเริ่มจากความสัมพันธ์ที่เป็นการเป็นงานและรักษาความเคารพต่อกันด้วยการใช้ภาษาสุภาพ แต่ในสถานการณ์ที่บางครั้งต้องการความรวบรัด ความเป็นทางการก็ค่อยๆ หายไปเองโดยที่พวกเขาไม่ทันสังเกต เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เจตนาแต่ก็ช่วยลดเวลาการสื่อสารลงได้พอสมควร นอกจากนั้นยังมีผลข้างเคียงแถมมาเป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นจนพอจะเรียกว่า เพื่อน ได้
     
    เชล เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้นอนอีกแล้วใช่มั้ย ไม่เชิงเป็นคำถาม
     
    นอนสิ ครั้งนึง
     
    สามสิบนาที ไม่เชิงเป็นคำถาม
     
    ...อืม เชลหลบตา ตอบเสียงเบาอย่างคนที่รู้ตัวว่าผิด แต่เขารู้ว่าอย่างไรเสียก็ต้องทำอีก เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยหยุด ลดก็ได้แค่ชั่วคราว
     
    เสียงหาวตามมา
     
    ฮ่า... เขาถอนใจ ฉันรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางกลับไปที่ห้อง ถึงได้ให้เอาเตียงมาให้ถึงที่
     
    วางอยู่ชิดผนังมุมนั้นของห้องมาตั้งแต่ปีที่แล้วเมื่อเชลเริ่มขลุกอยู่แต่ในห้องทดลองส่วนตัวเมื่อไม่ได้ทำการวิจัยเป็นทีมหรือมีธุระอื่น ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าเขาจะทำให้เชลยอมได้(เหตุผลที่ไม่ยอมคือ เกะกะ  เขาได้ยินแล้วก็มองอุปกรณ์ที่วางไม่เป็นที่เป็นทางอยู่รอบห้อง)
     
    ฉันมีเรื่องที่ตรวจสอบอยู่ ถึงไปนอนก็นอนไม่หลับ ขอฉันทำให้เสร็จก่อน ถึงไม่เสร็จตอนบ่ายฉันก็จะไปนอนแน่ๆ
     
    ตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว
     
    เชลเลื่อนภาพโฮโลแกรมดูนาฬิกา
     
    อ้อ...มิน่า ทำไมถึงรู้สึก...
     
    หิว เขาต่อให้ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
     
    เขาติดต่อฝ่ายเสบียง(ปกติดูแลแต่ผลึกเอเนอร์เจน)ให้นำอาหารมา  อาหาร ในที่นี้ไม่ได้เป็นความหมายปกติที่มนุษย์จะนึกถึง ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนอาหารนักบินอวกาศยุคแรกๆ ที่เน้นความสะดวกและรวดเร็วมากกว่ารสชาติและหน้าตา
     
    ...ถึงอย่างนั้นการให้เชลรับประทานให้สม่ำเสมอก็ทำได้ยากเหลือเกิน เขาจะตั้งคิวให้นำมาส่งตามเวลาเป็นการกึ่งบังคับเชลก็ไม่ยอมเด็ดขาด อ้างว่าตารางเวลาของตัวเองไม่ได้คงที่ มีออกไปไหนมาไหน ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ไม่เห็นว่าเป็นความจริง ส่วนตัวเขาคิดว่าเหตุผลที่แท้จริงคือเชลแค่ ดื้อ  ดำเนินวิถีชีวิตที่เห็นกิจวัตรจำเป็นในการดำรงชีวิตของมนุษย์(อาหาร พักผ่อน ฯลฯ)เป็นสิ่งรบกวนและพยายามหลีกเลี่ยงเท่าที่ทำได้
     
    อีกเหตุผลหนึ่งคือความรู้สึกเกรงใจที่องค์กรที่เป็นเรปลิลอยด์ล้วนต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อตัวเองคนเดียว ทั้งที่เขาก็บอกแล้วว่าเขาเพียงแค่ขอแบ่งมาจากศูนย์อพยพซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่เขารู้จักเชลดีพอว่าเหตุผลเหล่านั้นไม่ได้ช่วยอะไร
     
    ว่าแต่ดูอะไรอยู่? เขาถามระหว่างรอ
     
    รายงานการปรากฏตัวของเบบี้เอลฟ์ ถึงจะพยายามศึกษาตัวที่จับมาได้แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ก็เลยลองเปลี่ยนวิธีดู คิดว่าถ้าตรวจสอบตำแหน่งและเวลาของการปรากฏตัวของเบบี้เอลฟ์อาจจะจับทางหรือรูปแบบที่ทำให้คาดคะเนตำแหน่งต้นกำเนิดของมันได้
     
    เชลหาวอีกครั้งแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แขนปล่อยลงข้างตัวขณะที่ตากึ่งปิดกึ่งเปิดพยายามมองภาพโฮโลแกรมหกภาพที่เรียงอยู่ข้างหน้า
     
    หืม... เขาเข้าไปชิดหลังเชลที่นั่งอยู่และมองดูบ้าง
     
    เชลไม่มีทีท่าว่าจะเอื้อมไปกดอะไรอีก เขาจึงโน้มตัวเอื้อมแขนข้ามไหล่ไปกดเอง เป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการพัฒนาความสัมพันธ์ คือไม่ต้องเสียเวลาขออนุญาต
     
    เขาเปิดปิดแผนที่รายงานแต่ละฉบับ ดูคู่กัน ดูสลับกันบ้าง และรู้สึกว่าอาจจะมีรูปแบบอย่างที่ว่าจริง แต่ตัวเขาเองคงหาไม่พบง่ายๆ  ถ้าให้นานะเป็นคนดูน่าจะเร็วกว่า
     
    ฉันว่าให้เพื่อนฉันเป็นคนดูดีกว่า ส่วนเธอ—
     
    หลับไปแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับคนที่ทำงานจนแทบไม่ดูแลตัวเอง ที่จริงต้องบอกว่าการสมัครใจพักผ่อนด้วยตัวเองนั้นเป็นส่วนน้อย ส่วนมากจะเป็นการบังคับของร่างกายเช่นตอนนี้
     
    เขาหยิบเสื้อที่หล่นลงไปกองถึงข้อศอกขึ้นมาคลุมไหล่ดังเดิม สอดแขนขวาใต้เข่าและยกตัวขึ้น ปล่อยให้ศีรษะพิงกับไหล่ของเขาและใช้มือซ้ายเก็บแขนประคองตัวอีกด้านไม่ให้หล่น เป็นสิ่งที่ทำบ่อยจนแทบจะอัตโนมัติ
     
    เขาวางเชลลงกับเตียง ศีรษะหนุนหมอน และดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม
     
    การจ้องใบหน้าของคนที่กำลังหลับถือเป็นการกระทำที่ไม่น่าชื่นชม แต่เขาก็อดรำพึงกับตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่ด็อกเตอร์เคน เชลเป็นมนุษย์คนแรกที่เขารู้สึกใกล้ชิดพอจะเรียกว่าเพื่อนได้
     
    ...ที่จริงแล้ว ตั้งแต่ด็อกเตอร์เคนจากโลกนี้ไปเขาก็คิดว่าคงไม่มีวันที่เขาจะรู้สึกใกล้ชิดกับมนุษย์คนใดได้อีก ทั้งที่บอกว่าความฝันคือโลกที่มนุษย์กับเรปลิลอยด์อยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม
     
    หากเทียบกับหุ่นยนต์ มนุษย์นับว่าเปราะบาง อาการบาดเจ็บที่เรปลิลอยด์สามารถทนหรือฟื้นตัวด้วยการเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ได้สามารถทำให้มนุษย์ตายได้อย่างง่ายดาย สารพัดอาการป่วยไม่สามารถรักษาได้ง่ายเพียงแค่เปลี่ยนอะไหล่หรือแก้ไขโปรแกรม แม้จะรอดจากภัยทั้งหลายเหล่านั้นมาได้ ที่สุดแล้วเวลาก็ถูกจำกัดด้วยความเสื่อมของร่างกาย
     
    เหตุผลเดียวกับที่เขาไม่สามารถคิดกับฮันเตอร์คนอื่นนอกจากซีโร่เป็นเพื่อนได้ กับมนุษย์ยิ่งทวีคูณ มันเป็นเหมือนตราบาปในจิตใจของเขา เขาไม่เคยและไม่คิดจะยอมให้ใครรู้ แม้แต่ซีโร่ โดยเฉพาะซิกม่า ซึ่งต้องนำมาโจมตีเขาทางปรัชญาแน่นอน
     
    แต่กว่าเขาจะรู้ตัวหญิงสาวคนนี้ก็กลายมาเป็น เพื่อน ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นเพื่อนที่สำคัญกับเขาไม่แพ้ซีโร่หรือเอเลีย เป็นเพื่อนที่เขาอยากจะปกป้อง
     
    ที่จริงเขามาที่นี่เพราะมีเรื่องที่อยากจะขอให้ช่วย เป็นเรื่องสำคัญที่เมื่อรู้ว่าต้องให้ใครสักคนทำก็นึกถึงเธอทันที
     
    แต่เอาไว้ทีหลังก็ได้ ตอนนี้ให้เพื่อนของเขาได้พักผ่อนเสียก่อน
     
    [...]
     
    [.....]
     
    ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ช่วยสร้างร่างกายใหม่ให้กับซีโร่
     
    เชลทำหน้าเหมือนเขาพูดภาษาต่างดาว
     
    เขารอจนตื่นเต็มตาให้และทานอาหารเช้าก่อนจึงค่อยนำขึ้นมาพูด แต่ท่าทางจะไม่ได้ช่วยสักเท่าไร
     
    เราได้ข้อมูลมาว่าทางรัฐบาลกลางจะทำลายข้อมูลของซีโร่เพื่อไม่ให้เหลือปัจจัยเสี่ยงที่จะต่อต้านโปรเจคเอลปิสได้ เพื่อนของฉันกำลังหาทางนำข้อมูลของซีโร่ออกมาก่อนจะถูกทำลาย หลังจากได้มาแล้วฉันอยากให้มีร่างกายเตรียมไว้สำหรับซีโร่ ฉันคิดว่ากำลังของซีโร่อาจจะจำเป็นในเร็วๆ นี้
     
    เชลใช้เวลาครู่หนึ่งในการประมวลผลสารพัดสิ่งเหลือเชื่อที่เขาเล่าให้ฟัง
     
    ...ฉันมีแบบแปลนของร่างกายซีโร่ เก็บไว้ตั้งแต่โปรเจค H0PE  ฉันคิดว่าน่าจะสร้างได้...แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง
     
    เขาพยักหน้าให้พูดต่อ
     
    ฉันไม่ได้เข้าใจระบบภายในทั้งหมด เท่าที่ฉันรู้ไม่มีใครที่ทำความเข้าใจกับร่างกายของซีโร่ได้เต็มร้อย ถึงแม้จะสร้างได้ ก็ทำได้แค่เลียนแบบทั้งหมด เหมือนการคัดลอก ดัดแปลงอะไรไม่ได้ หมายความว่าหากในร่างกายมีส่วนที่ตอบสนองต่อโปรแกรมไวรัสอิเร็กกุล่าร์ในเบบี้เอลฟ์และมาเธอร์เอลฟ์ในทางอันตราย ฉันก็นำออกไปไม่ได้
     
    งั้นเหรอ... เขาครุ่นคิด แต่ก็ได้คำตอบอย่างรวดเร็ว แต่ยังไงก็ต้องขอให้เธอช่วย ยังไงเราก็คงไม่ปลุกซีโร่ขึ้นมาหากไม่จำเป็น เพราะจะเป็นการยอมรับทางอ้อมว่าเราเป็นคนร้ายที่ขโมยข้อมูลของซีโร่ออกมา แต่ถ้ามีความจำเป็นที่ต้องทำ ความเสี่ยงจะนี้จะมีหรือไม่ก็คงไม่แตกต่าง
     
    เข้าใจแล้ว ถ้ามีอุปกรณ์ให้ครบก็ลงมือได้เลย แต่ถ้าให้ฉันทำคนเดียวต้องใช้เวลาเป็นปี
     
    ฉันพูดกับผู้บัญชาการแล้ว ผู้บัญชาการจะจัดคนที่ไว้ใจได้มาช่วย รายละเอียดต้องคุยกันอีกที
     
    ความคิดที่จะสร้างร่างให้กับซีโร่เกิดขึ้นจากลางสังหรณ์ของเขาเท่านั้น ซึ่งการทำตามลางสังหรณ์นั้นกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการจบสงครามที่จะถูกเรียกว่า 'สงครามเอลฟ์ ในภายหลังนี้ลง
     
    [...]
     
    [.....]
     
    ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ที่นับว่าอยู่บนจุดสูงสุดในศตวรรษที่ยี่สิบสองของนานะประสานกับความสามารถในฐานะยอดหัวขโมยของมาริโน่สามารถนำข้อมูลของซีโร่ออกมาจากการรักษาความปลอดภัยของศูนย์วิจัยกลางได้สำเร็จ
     
    หลังจากนั้นนานะที่ได้รับรายงานการปรากฏตัวของเบบี้เอลฟ์ก็สามารถคำนวณบริเวณที่คาดว่าเป็นแหล่งกำเนิดของเบบี้เอลฟ์ได้ ทว่าบริเวณนั้นอยู่ลึกเข้าไปในแดนของศัตรู ในสถานที่ที่แม้จะเป็นเอ็กซ์ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และกำลังเสริมใดๆ ก็ไร้ค่าในดงของเบบี้เอลฟ์ ในตอนนั้นสิ่งที่เป็นแผนสำรองของเอ็กซ์ก็กลายเป็นสิ่งจำเป็น
     
    กองทัพอิเร็กกุล่าร์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลกรวมตัวกันเป็นกองทัพขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเข้ารุกรานสถานที่ปลอดภัยที่เหลืออยู่ไม่กี่แห่งในโลก ผู้คนที่รอดชีวิตต่างต้องอพยพเข้าไปในเมืองหลวงของสหภาพตะวันตกและศูนย์อพยพอันเป็นที่ปลอดภัยเพียงสองแห่งสุดท้ายบนโลก เนโออาร์คาเดียขยายตัวเพื่อรองรับผู้อพยพชุดใหม่และกลายเป็นศูนย์อพยพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา
     
    การจู่โจมของกองทัพเบบี้เอลฟ์เพิ่มความรุนแรงขึ้น พาหนะทางน้ำและทางอากาศรวมนับหมื่นลำปรากฏบนเหนือมหาสมุทรเข้าล้อมรอบสหพันธรัฐหมู่เกาะตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งหมดบรรทุกเบบี้เอลฟ์และกองทัพเรปลิลอยด์ที่ถูกควบคุม กองกำลังป้องกันตนเองและอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ทุ่มกำลังทั้งหมดป้องกันการรุกราน ทำลายอากาศยานทั้งหมดของศัตรู
     
    ทว่าในที่สุดก็ไม่อาจต้านทานกำลังของอิเร็กกุล่าร์ที่เหนือกว่าได้ เกาะย่อยทั้งหมดตกเป็นพื้นที่ของอิเร็กกุล่าร์อย่างรวดเร็ว เรือนับพันลำเข้าเทียบท่าและปล่อยเบบี้เอลฟ์กับอิเร็กกุล่าร์นับแสนขึ้นฝั่งทุกด้านของเกาะหลัก เว้นแต่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเอ็กซ์สามารถกำจัดอิเร็กกุล่าร์กับเบบี้เอลฟ์ทั้งหมดและปกป้องศูนย์อพยพซึ่งมีผู้อยู่อาศัยหนาแน่นที่สุดเอาไว้ได้
     
    การต่อสู้ภายในเกาะหลักอันเป็นที่ปลอดภัยแห่งสุดท้ายนอกจากเมืองหลวงของสหภาพตะวันตกเป็นไปอย่างดุเดือดทั้งวันทั้งคืน ฝ่ายอิเร็กกุล่าร์ซึ่งได้รับกำลังเสริมจากภายนอกค่อยๆ รุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ  ศูนย์อพยพขยายตัวรองรับผู้อพยพจากภายในเกาะ ขณะเดียวกันกองทัพของอิเร็กกุล่าร์ก็รุกคืบเข้ามาไม่ถึงสามสิบกิโลเมตรก่อนถึงศูนย์บัญชาการหลักอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ซึ่งเป็นเสมือนปราการด่านสุดท้าย
     
    ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาสองเดือน และเพียงไม่กี่วันก่อนที่ศูนย์บัญชาการจะพ่ายแพ้ต่อกำลังของอิเร็กกุล่าร์ ร่างกายใหม่ของซีโร่ก็เสร็จสิ้น หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด ในที่สุดก็ถึงเวลาถ่ายโอนข้อมูลของซีโร่เข้าไปในร่างใหม่นี้
     
    ...การถ่ายโอนเสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ
     
    เขา ผู้บัญชาการซินัส เชล และทีมวิจัยอีกสามคนจ้องมองร่างสีแดงที่นอนอยู่บนโต๊ะ แม้แต่ผู้ที่เคยเห็นร่างเดิมอย่างเขากับซิกนัสก็แยกความแตกต่างไม่ออก หากไม่รู้อยู่แล้วไม่มีทางบอกได้ว่าไม่ใช่ร่างเดิม
     
    เปลือกตาเปิดขึ้น ดวงตาสีน้ำเงินกวาดมองใบหน้าของเรปลิลอยด์ทีมวิจัยทีละคน เชล แล้วมาหยุดที่เขากับผู้บัญชาการ
     
    ...เอ็กซ์เองเหรอ ฉันคิดแล้วว่าตื่นมาต้องเห็นนาย
     
    ประโยคเดียวนั้นเป็นสัญญาณให้พวกเขาส่งเสียงยินดีกับความสำเร็จ ซีโร่ทำหน้าราวกับจะสื่อว่า ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้  ซึ่งยิ่งทำให้เขาฉีกยิ้มกว้างขึ้น
     
    ความยินดีอยู่ได้ไม่นาน เพราะหลังจากนั้นเขากับผู้บัญชาการต้องอธิบายเหตุการณ์ระหว่างที่ซีโร่หลับอยู่ รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
     
    ขอโทษนะซีโร่...ทั้งที่ฉันสัญญาไว้แล้วแท้ๆ  แต่กลับต้องปลุกนายขึ้นมาเห็นโลกในสภาพนี้
     
    ไม่ใช่ความผิดของนายเลยเอ็กซ์ นายคิดถูกแล้วที่ปลุกฉันขึ้นมา ถึงจะถือวิสาสะเปลี่ยนร่างกายของฉันตามใจชอบ ส่วนท้ายซีโร่ยิ้มบางๆ ให้เขารู้ว่าเป็นการหยอก
     
    ว่าแต่ใครเป็นคนสร้าง? ทำได้ไม่เลวเลย
     
    คนที่ยืนตรงนั้นน่ะ เชล นี่ซีโร่ เพื่อนของฉันเอง
     
    เชลสบตากับซีโร่อย่างเกร็งนิดๆ ก่อนจะแนะนำตัว
     
    ดิฉันเชลค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณซีโร่
     
    หืม? ชื่อนั้น เธอเองสินะที่สร้าง มาเธอร์เอลฟ์ ที่รักษาอิเร็กกุล่าร์ได้ แล้วยังสร้างร่างกายใหม่ให้ฉันได้อีก ไม่เลวเลยนี่
     
    ขอบคุณค่ะ แต่ดิฉันไม่ได้ทำด้วยตัวคนเดียว นักวิจัยคนอื่นๆ ก็มีส่วนเท่าๆ กับดิฉันค่ะ
     
    ความเกรงใจนั้นเขาเกือบลืมไปแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เขากับเชลยังเป็นแค่คนแปลกหน้า
     
    ยังไงก็ขอบใจ ถึงจะรู้สึกโล่งๆ หน่อย แต่น่าจะเป็นเพราะเป็นของใหม่เลยไม่มีข้อมูลตกค้าง
     
    จริงสิ อย่างนี้จะสู้ไหวรึเปล่าเนี่ย? เขาแสร้งทำเป็นสงสัยจริงๆ  แต่รู้ว่าซีโร่จะตอบอย่างไร
     
    ฉันไม่อยู่แค่แป๊บเดียวนายก็ลืมซะแล้วเหรอ อิเร็กกุล่าร์ที่ถามคำถามแบบนั้นกับฉันตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน?
     
    เขากับซีโร่ยิ้ม แขนขวาของเขายกขึ้นโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับซีโร่ ราวกับพวกเขาไม่เคยจากกันเลย สัมผัสแขนของเพื่อนทำให้ความรู้สึกเดิมๆ ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง
     
    พวกเขาทำได้แน่ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรก็ตาม
     
    [...]
     
    [.....]
     
    เอ็กซ์กับซีโร่ถูกส่งไปที่บริเวณที่คาดว่าเป็นแหล่งกำเนิดของเบบี้เอลฟ์ ที่นั่นมีเบบี้เอลฟ์และเรปลิลอยด์ที่ถูกควบคุมรออยู่นับไม่ถ้วน แต่กำลังใจของเอ็กซ์และซีโร่ที่ได้กลับมาสู้ร่วมกันอีกครั้งกลายเป็นพลังที่ไม่มีอะไรหยุดได้ ทั้งคู่กำจัดศัตรูที่ขวางทาง สำรวจพื้นที่ที่กำหนด จนกระทั่งพบห้องทดลองลับในหุบเขา
     
    ในห้องทดลองลับเป็นเครื่องจักรผลิตเบบี้เอลฟ์ จากบันทึกพวกเขารู้ว่าเครื่องนี้ถูกทิ้งให้ทำงานไว้ตั้งแต่สามปีก่อน และสิ่งที่เป็นแบบให้การผลิตก็คือมาเธอร์เอลฟ์ที่ถูกขโมยไป ผู้ที่ขโมยนำมาขังไว้ในห้องทดลอง บังคับป้อนไวรัสอิเร็กกุล่าร์จนโอเวอร์โหลดระบบหลักของมาเธอร์เอลฟ์ เปลี่ยนจากซิกม่าแอนติบอดี้โปรแกรมเป็นตัวตนที่เปลี่ยนเรปลิลอยด์ให้เป็นอิเร็กกุล่าร์เช่นเดียวกับไวรัสซิกม่า
     
    มาเธอร์เอลฟ์ซึ่งถูกครอบงำโดยโปรแกรมไวรัสกับเอ็กซ์ที่มีการป้องกันการเขียนทับโปรแกรมอย่างสมบูรณ์แบบไม่สามารถเข้ากันได้ แต่ในทางกลับกันสามารถเข้ากับซีโร่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซีโร่ปลอดภัยต่อการควบคุมของไวรัส ซ้ำยังนำมาเป็นพลังได้ กับมาเธอร์เอลฟ์เองก็เช่นกัน ซีโร่ควบคุมมาเธอร์เอลฟ์ให้ใช้พลังตามที่ต้องการ
     
    ทว่ามาเธอร์เอลฟ์ในตอนนั้นเป็นเสมือนด้านมืดของมาเธอร์เอลฟ์เดิม แทนที่จะดึงโปรแกรมอิเร็กกุล่าร์ในตัวของเรปลิลอยด์ออกมาและเปลี่ยนเป็นพลังงาน มาเธอร์เอลฟ์ที่เต็มไปด้วยไวรัสจนล้นออกมาเหมือนน้ำล้นจากแก้วทำได้เพียงใส่โปรแกรมอิเร็กกุล่าร์เพิ่มเข้าไปเท่านั้น
     
    ด้วยพลังของมาเธอร์เอลฟ์ที่ต้องคำสาป ซีโร่บังคับโปรแกรมอิเร็กกุล่าร์เข้าไปภายในเรปลิลอยด์ทุกตัวที่ตกอยู่ในการควบคุมของเบบี้เอลฟ์และให้ทำลายตัวเอง กำจัดกองทัพอิเร็กกุล่าร์ภายในเกาะหลักจนหมดสิ้นในสองวัน น่าเสียดายที่ไม่สามารถทำเป็นวงกว้างทั่วโลกในคราวเดียวได้เนื่องจากจะเป็นอันตรายต่อเรปลิลอยด์ที่ยังเป็นปกติอยู่ด้วย แต่ด้วยเวลาเพียงสองสัปดาห์ในการตระเวนไปรอบโลกด้วยกันกับเอ็กซ์ ทั้งคู่ก็สามารถกำจัดเบบี้เอลฟ์และเรปลิลอยด์ที่ถูกควบคุมลงได้อย่างรวดเร็ว
     
    ในระหว่างนั้นข้อมูลจากห้องทดลองลับที่ถูกแกะโดยเชลก็เผยออกมาว่าด็อกเตอร์ไวล์เป็นเจ้าของห้องทดลองนั้น ซึ่งหมายความว่าเป็นผู้ขโมยมาเธอร์เอลฟ์ สร้างเบบี้เอลฟ์ และเริ่มหายนะครั้งนี้ จุดประสงค์คาดว่าเพื่อให้รัฐบาลกลางสนับสนุนโปรเจคเอลปิส
     
    เอ็กซ์กับอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์เตรียมยื่นหลักฐานทั้งหมดต่อรัฐบาลกลางเพื่อกำจัดโปรเจคเอลปิสและต้นตอของสงครามครั้งนี้ลงเสียที
     
    ทว่า...
     
    พร้อมนะ เอ็กซ์ ซีโร่ เชล ผู้บัญชาการซิกนัสถามพวกเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกเดินทางไปที่สหภาพตะวันตก
     
    ครับ ครับ ค่ะ
     
    ในที่สุดก็ใกล้จะมาถึงแล้ว จุดจบของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เพียงสัปดาห์เดียวก่อนมาเธอร์เอลฟ์ที่สองจะเสร็จสิ้น
     
    ฮึ่ม คนที่มันเอาร่างกายของฉันไปทำตามใจชอบ แค่ปล่อยให้กฎหมายลงโทษรู้สึกไม่พอใจยังไงก็ไม่รู้
     
    เอาน่าซีโร่ ตอนนี้นายก็มีร่างกายใหม่แล้ว แถมดีเหมือนเดิมด้วย
     
    อา ฝีมือดีจริงๆ  ไม่แน่ว่าอาจจะทำร่างใหม่ให้นายได้ด้วย ใช่มั้ย? ซีโร่ยิ้มที่มุมปาก ตอนท้ายยังหันไปถามเชล ซึ่งก็เล่นด้วย
     
    ถ้ามีแบบแปลนให้ก็ทำได้ค่ะ แต่ครั้งแรกนับว่าดวงดีมากที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ครั้งที่สองอาจจะไม่โชคดีอย่างนั้น เช่น ตอนสร้างส่วนใบหน้าและเอวอาจจะเผลอเลือกสัดส่วนเพศผิดก็ได้นะคะ หรือว่าตอนสร้างส่วนลำตัวอาจจะเผลอสลับด้านหน้ากับด้านหลัง หรือ—
     
    ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดแล้ว ขอผ่าน ร่างนี้ใช้มานานมีคุณค่าทางจิตใจ
     
    กำลังใจของพวกเขาเต็มเปี่ยม
     
    เหตุฉุกเฉินครับ! เมคานิลอยด์ทั้งหมดในสหภาพตะวันตกหลุดการควบคุมและเริ่มอาละวาด เกิดความเสียหายในทุกพื้นที่ของเมืองหลวงครับ!”
     
    เช่นเคย เหตุฉุกเฉินมาในเวลาที่พวกเขาไม่คาดคิดเสมอ และไม่ว่ากี่ครั้งพวกเขาก็ไม่เคยชินเสียที
     
    สาเหตุล่ะ ผู้บัญชาการถามอย่างเยือกเย็น
     
    ไม่ทราบครับ จู่ๆ ก็เกิดขึ้นเอง เป็นไปได้ว่าเป็นไวรัสที่ถูกวางไว้ในระบบของแต่ละตัวโดยที่ไม่มีใครทราบ เมคานิลอยด์ยักษ์ที่เพิ่งจะผลิตขึ้นมามีกว่าสองหมื่นตัว ทั้งหมดไม่สามารถควบคุมได้
     
    ...ด็อกเตอร์ไวล์ เขาพูดชื่อเพียงชื่อเดียวทุกคนก็เข้าใจ
     
    เจ้านั่นคงเตรียมการไว้เผื่อเรามีหลักฐานจะใช้เอาผิดตัวเองได้ แผนเยอะจริงๆ ซีโร่พูดเสียงต่ำ
     
    ใช้มาเธอร์เอลฟ์ควบคุมให้หยุดก็ไม่ได้สินะ...
     
    อา จะโดนเรปลิลอยด์ที่ยังปกติดีในนั้นซะเปล่าๆ  ต้องรอให้อพยพเสร็จก่อน
     
    เราต้องอพยพพลเมืองทันที ให้ทุกหน่วยเตรียมตัวให้พร้อม เราจะนำกำลังทั้งหมดไปที่เมืองหลวง!”
     
    ครับ!”
     
    ผู้บัญชาการซิกนัสสั่งนาวิเกเตอร์ แล้วหันมาพูดกับพวกเขา
     
    เอ็กซ์ ซีโร่ พวกนายสองคนจะล่วงหน้าไปก่อน พยายามควบคุมสถานการณ์เท่าที่ทำได้ ...ส่วนด็อกเตอร์ไวล์อาจจะยังอยู่ในศูนย์วิจัยกลางใกล้กับสภาปกครองที่ใจกลางเมือง
     
    ไปหาตัวหัวโจกเลยสินะ อย่างที่ต้องการเลย
     
    รอยยิ้มมั่นใจของซีโร่ เขาไม่รู้เลยจนกระทั่งตอนนี้ว่าจำเป็นกับเขาเพียงใด ในสถานการณ์ที่โลกกำลังสับสนวุ่นวาย ซีโร่มุ่งไปที่ศัตรูที่ต้องกำจัดด้วยรอยยิ้มนั้นเสมอ ตัวเขาที่มักจะคร่ำครวญกับความสูญเสียได้รอยยิ้มนั้นเตือนสติไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
     
    ฮันเตอร์บางส่วนจะเทเลพอร์ตไปก่อนล่วงหน้าเพื่อเริ่มการอพยพ กำลังส่วนใหญ่จะตามไปทีหลัง เอ็กซ์กับซีโร่เป็นกลุ่มแรกที่จะไปควบคุมสถานการณ์
     
    เอ็กซ์... เชลมองเขาอย่างเป็นห่วง
     
    ไม่ต้องห่วง ฉันกับซีโร่อยู่ด้วยกันยังไม่เคยมีศัตรูที่ชนะไม่ได้ เขายิ้มให้ความมั่นใจ คำพูดอาจฟังดูโอ้อวด แต่จุดประสงค์สำคัญกว่า
     
    ที่จริงแค่ฉันคนเดียวก็พอแล้ว ร่างกายของฉันใครจะรู้ดีใช้ได้ดีกว่าฉัน ซีโร่กล่าวด้วยความมั่นใจในความเยือกเย็น
     
    ความกังวลของเชลไม่ได้หายไปเสียเลยทีเดียว แต่ลดลงเพียงเล็กน้อยก็ยังดี
     
    พวกคุณต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ...
     
    วางใจได้
     
    เขากับซีโร่ก้าวขึ้นบนแท่นเคลื่อนย้าย นาวิเกเตอร์ป้อนพิกัด จากนั้นพวกเขาก็หายไปจากห้องควบคุม
     
    เมื่อมาถึงที่หมาย เขาแทบไม่เชื่อว่านี่คือเมืองหลวงของสหภาพตะวันตกอันเป็นศูนย์กลางความมั่นคงของโลก
     
    แถวตึกสูงระฟ้าที่เคยบดบังท้องฟ้าเหลือเพียงแค่เศษคอนกรีตและโลหะ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันดำ ผู้คนนับหมื่นนับแสนวิ่งหนีความพินาศส่งเสียงกรีดร้องมาจากทุกทิศทาง ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย เมคานิลอยด์ขนาดยักษ์ทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ด้วยร่างกายอันใหญ่โตแข็งแรง ด้วยลำแสงพลังงานจากส่วนศีรษะ
     
    ชิ ท่าทางต้องเก็บกวาดพวกลิ่วล้อตัวใหญ่ก่อนสินะ ไปกันเลยเอ็กซ์!”
     
    เขากับซีโร่กระโดดเข้าสู่เมืองใหญ่ที่กลายเป็นสนามรบ ทำลายเมคานิลอยด์ยักษ์ตัวแล้วตัวเล่า ช่วยคนที่ติดอยู่ใต้ซากตึก ชี้ทางอพยพให้คนที่หลงทาง ค่อยๆ รุกคืบเข้าไปยังใจกลางเมือง
     
    ทางศูนย์บัญชาการรายงานมาว่ากำลังหลักเข้าถึงจุดปฏิบัติการทุกจุดแล้ว มาริโน่กับมาสซิโม่อยู่ในกำลังหลักที่นำโดยผู้บัญชาการซิกนัสเข้าปะทะกับกองทัพเมคานิลอยด์ยักษ์ที่บริเวณตัวเมืองชั้นนอก
     
    เป็นครั้งแรกสำหรับอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ที่นำกำลังออกปฏิบัติการเต็มที่ เป็นสงครามเต็มรูป
     
    ต้องรีบแล้วซีโร่
     
    พอดีเลย มาถึงแล้ว
     
    พวกเขามาถึงสภาปกครองซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารของสหภาพตะวันตก ศูนย์วิจัยกลางอยู่แค่ขวามือ บัดนี้เหลือทั้งสองเพียงซากปรักหักพังที่มีควันขโมง
     
    คิดว่ายังมีคนเหลืออยู่อีกมั้ย? ซีโร่ถาม
     
    มีทางหนีเผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินเตรียมไว้เยอะ น่าจะอพยพไปหมดแล้ว เขาตอบจากความน่าจะเป็นและจากที่ไม่เห็นการเคลื่อนไหว
     
    หมายความว่าสู้ได้เต็มที่ล่ะสินะ ดี เพราะมาโน่นแล้ว
     
    สิ่งที่ก้าวออกมาจากหลังควันที่ปกคลุมซากปรักหักพังเป็นร่างสีขาวสูงห้าเมตรพร้อมกับเมคานิลอยด์ยักษ์แบบเดียวกับในเมืองอีกหลายสิบตัว
     
    โอเมก้า... เขาพึมพำชื่อของเรปลิลอยด์ร่างยักษ์
     
    นั่นน่ะเหรอโอเมก้า? เอาร่างของฉันไปทำยังไงให้ได้ตัวใหญ่เทอะทะแบบนั้น ซีโร่วิจารณ์ฝีมือของด็อกเตอร์ไวล์
     
    #ข้าดึงความสามารถของร่างกายแกออกมาถึงขีดสุดยังไงล่ะ ซีโร่#
     
    เสียงของชายแก่ดังมากจากตัวโอเมก้า
     
    ไวล์!”
     
    ไปอยู่ในนั้นไม่กลัวโดนลูกหลงไปด้วยรึไง?
     
    #โดนลูกหลง? การโจมตีกระจอกงอกง่อยของพวกแกทำอะไรโอเมก้าไม่ได้หรอก ถึงจะยังไม่ได้รวมกับดาร์คเอลฟ์ แต่แค่พลังของโอเมก้ากับกองทัพโกเลมพวกนี้พวกแกไม่มีทางรอดไปได้แล้ว!#
     
    มั่นใจเหลือเกินนะ จะลองดูมั้ยล่ะ? ซีโร่ดึงแซดเซเบอร์ออกมา
     
    ไวล์! ความชั่วร้ายของแกจบลงแค่นี้ล่ะ!” เขาเปลี่ยนแขนขวาเป็นบัสเตอร์แล้วสะสมพลังงาน
     
    #ดิ้นรนไปเถอะ! เดี๋ยวพวกแกก็จะได้รู้ ว่าต่อหน้าสุดยอดเรปลิลอยด์ที่จะเป็นผู้ปกครองของโลกใหม่พวกแกก็เป็นแค่แมลงสองตัวเท่านั้น! ขยี้พวกมันซะโอเมก้า!#
     
    เรปลิลอยด์ยักษ์ส่งเสียงร้องที่ไม่เป็นคำ ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ ดาบสีชมพูเล่มยักษ์ฟาดลงมา พวกเขาถอยออกมาได้ทันหวุดหวิด
     
    ตัวใหญ่แล้วยังเร็วอีกเหรอ เมื่อกี้ดูถูกไปโทษทีละกัน
     
    ซีโร่แดชสวนกลับเข้าไป หลบโกเลมตัวแรกที่เข้ามาขวาง กระโดดขึ้นฟันศีรษะโกเลมตัวที่สองและทำลายวงจรมันในครั้งเดียว กระโดดต่อไปยังตัวที่สามและใช้ร่างมันเป็นแท่นเหยียบส่งตัวเองผ่านฝูงโกเลมไปอย่างรวดเร็ว
     
    เขายิงบัสเตอร์ที่สะสมพลังงานเอาไว้ใส่โกเลมตัวแรกที่ซีโร่หลบ แดชตามหลังซีโร่ไป แต่เหยียบร่างโกเลมตัวที่สองที่กำลังล้มใช้เป็นฐานกระโดดขึ้นไปเกือบชิดโกเลมตัวที่สาม แล้วยิงสายฟ้าความแรงสูงที่กระโดดจากศีรษะตัวหนึ่งไปยังตัวถัด ๆไป ทำลายวงจรภายในโดยที่เกราะภายนอกอันแข็งแกร่งไม่สามารถป้องกันใดๆ ได้
     
    เขากับซีโร่กลับเข้าไปถึงตัวโอเมก้าอีกครั้ง คราวนี้ไม่ประมาทความเร็วของศัตรู
     
    ดาบเล่มยักษ์ฟันมาในแนวนอน เขากับซีโร่แดชและก้มหลบ ดาบฟันถูกโกเลมสองตัวสุดท้ายที่ตามมาข้างหลังพวกเขาจนขาดเป็นสองท่อน
     
    จะโดนไม่ได้แม้แต่ทีเดียวสินะ เขาพูด แม้จะไม่จำเป็น เพียงแค่ดูด้วยตาก็เข้าใจ
     
    ของแบบนั้นก็เจอมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วไม่ใช่เหรอ
     
    เขากับซีโร่อ้อมไปสองฝั่งของโอเมก้าและทำการโจมตี เริ่มจากเขายิงบัสเตอร์พลังเต็มที่ไปที่ส่วนศีรษะ ตามด้วยซีโร่กระโดดเข้าไปทุ่มแรงฟันส่วนลำตัวหนึ่งครั้ง ก่อนจะถอยหลบแขนขนาดยักษ์ที่พยายามฟาดใส่พวกเขา
     
    รู้สึกจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เขาพูดสิ่งที่เพียงแค่ดูด้วยตาก็เข้าใจ
     
    เรื่องความอึดนี่ต้องยกให้เลยสินะ
     
    #ทีนี้เข้าใจรึยังว่าพลังของพวกแกมันด้อยค่าแค่ไหน!?#
     
    ซีโร่ยกดาบขี้นชี้ไวล์ที่อยู่ข้างในโอเมก้า สีหน้าไม่ยิ้มมั่นใจอย่างที่ผ่านมา แต่เป็นอารมณ์โกรธ
     
    หุบปากซะ ที่ฉันตัดสินใจผนึกตัวเองก็เพราะไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้ แต่แกก็ต้องไปเอามาทำโครงการบ้าบอนี่จนได้ โลกก็สงบสุขไปแล้วยังจะต้องการอะไรอีก?
     
    #หึหึหึ...ฮ่าๆๆๆ!! พวกแกคิดว่าเป้าหมายของข้าเป็นอุดมคติเหลวไหลพรรค์นั้นเหรอ? เป้าหมายของข้าคือให้โลกใบนี้อยู่ในกำมือของข้า ความทะเยอะทะยานที่จะเป็นผู้ปกครองโลก ความปรารถนาที่จะเห็นมนุษย์และเรปลิลอยด์คุกเข่าอยู่แทบเท้าข้า ในโลกใบนี้จะไม่มีที่ปลอดภัย นอกจากใต้อำนาจของข้าเพียงผู้เดียว ความรู้สึกที่ได้ปกครองทุกสรรพสิ่ง นั่นล่ะคือเป้าหมายของข้า! เอ็กซ์! ข้ากับโอเมก้าจะขอรับเนโออาร์คาเดียของเจ้าไปล่ะ!#
     
    เขากัดฟันกรอด ผู้คนมากมาย เลเยอร์กับแอ็กเซล ต้องพบชะตากรรมที่น่าเศร้า เพราะความละโมบเห็นแก่ตัวของคนเพียงคนเดียว
     
    พวกเราเสียสละไปมากแค่ไหนเพื่อให้มนุษย์กับเรปลิลอยด์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข แต่แล้วแกก็ทำลายจนไม่เหลือ สร้างบาดแผลให้กับโลกยิ่งกว่าอิเร็กกุล่าร์ตัวไหนๆ! ไวล์! แกมันก็แค่อิเร็กกุล่าร์!”
     
    #ฮ่าๆๆ!  อิเร็กกุล่าร์งั้นเหรอ? น่าขำสิ้นดี! พวกแกถือสิทธิ์อะไรเรียกข้าที่เป็นมนุษย์ว่า อิเร็กกุล่าร์? พวกแกเป็นแค่หุ่นยนต์! เป็นแค่ทาสของมนุษย์ คุกเข่าลงให้สมกับเป็นทาสซะ!#
     
    เขากับซีโร่หลับตาพร้อมกัน แม้ไม่ต้องสื่อสารพวกเขาก็เข้าใจกัน
     
    เข้าใจผิดแล้ว ไวล์ ถึงจะเป็นมนุษย์แกก็ไม่มีสิทธิ์เรียกพวกเราว่าเป็นแค่ หุ่นยนต์...
     
    ...พวกเราเป็นมากกว่านั้น พวกเราสามารถเป็นได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้ ต่อหน้าศัตรูของสันติสุขอย่างแก...
     
    เขากับซีโร่ลืมตาขึ้น
     

     
    พวกเราคือ [อิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์]”
     
    #งั้นก็เข้ามาเลย ข้าจะสอนให้พวกแกรู้ว่าอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์ไม่มีประโยชน์กับโลกใหม่ของข้า!#
     
    เขากับซีโร่รวบรวมกำลัง กับศัตรูที่มีความทนทานสูงแบบนี้ต้องตัดสินชี้ขาดรวดเดียว พวกเขาสบตากันเพียงแค่ชั่วพริบตา
     
    ซีโร่แดชตรงเข้าไป โอเมก้าตอบโต้ด้วยลำแสงวงแหวนจากมือซ้าย ซีโร่หลบไปด้านข้างและกระโดดขึ้นฟันต้นขาซ้ายของโอเมก้า เขายกบัสเตอร์ขึ้นและยิงกระสุนเต็มกำลังซ้ำจุดเดิม
     
    โอเมก้าใช้มือซ้ายปัดซีโร่แต่พลาด ซีโร่ไต่ขึ้นหลังและตวัดดาบฟันส่วนหัว โอเมก้าก้มหลบลงมาถูกกระสุนบัสเตอร์เต็มกำลังของเขาและออกอาการชะงัก ซีโร่ที่หันปลายเซเบอร์ลงและอาศัยน้ำหนักตัวปักมันลงไปกลางหลังของโอเมก้า ปลายดาบทะลุออกมาจนถึงด้านหน้า
     
    โอเมก้าลุกขึ้นเอื้อมมือซ้ายไปจับตัวซีโร่แต่ทำได้แค่สะกิด การจู่โจมต่อเนื่องของพวกเขาทำให้การเคลื่อนไหวเริ่มติดขัดช้าลง หมายความว่าเป็นโอกาสของพวกเขาแล้ว
     
    #บ้าน่ะ! โอเมก้าเสียท่าให้กับแค่หุ่นยนต์โบราณสองตัวงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้! ร่างกายนี้ถูกเลือกให้เป็นพระเจ้า! ให้เป็นเทพแห่งการทำลายล้าง ชำระโลกเก่าเพื่อสร้างโลกใหม่ของข้า!#
     
    เขากับซีโร่สะสมพลังงานสำหรับการโจมตีครั้งสุดท้าย
     
    #ซีโร่! ทำไมแกถึงต่อต้านชะตากรรมของตัวเอง!? นี่คือตัวจริงของแก ไม่เห็นเหรอ? แกมีพลังจะเป็นผู้ปกครองโลกทั้งใบได้ ทำไมถึงไปอยู่ข้างหุ่นยนต์ที่พล่ามเรื่องอุดมคติเพ้อฝันพรรค์นั้น!? หุ่นยนต์จอมเสแสร้งที่อ้างสันติสุขใช้พลังอำนาจบังคับคนที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของตัวเอง!#
     
    ฉัน...พวกเราไม่ได้ต่อสู้เพื่อบังคับใครให้อยู่ใต้อำนาจ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อทำร้ายใคร พวกเราแค่ต้องการสร้างโลกที่ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน!”
     
    โอเมก้า...หลังจากได้ต่อสู้กับตัวเองฉันก็เข้าใจ การต่อสู้ที่ผ่านมาของฉันคืออะไร สิ่งที่ฉันลังเลมาตลอด ตอนนี้สามารถพูดออกมาได้เต็มปากแล้ว ว่าพลังของฉันไม่ได้มีไว้เพื่อทำลาย แต่เพื่อปกป้องเพื่อนที่เชื่อใจฉัน!”
     
    ซีโร่จุดบูสเตอร์พร้อมกับกระโดดตรงเข้าไปหาโอเมก้า เขายกบัสเตอร์ที่สะสมพลังงานไว้เต็มเปี่ยมขึ้น
     
    ผลึกที่หน้าผากของเขากับซีโร่เปล่งแสง พลังเอ่อล้นขึ้นในร่างกายของเขา
     
    หายไปซะ! ฝันร้ายของฉัน!”
     
    สิ้นไปซะ ชะตากรรมของพวกเรา!”
     
    ไฟนอลสไตรค์!!”
     
    [...]
     
    [.....]
     
    การกบฏของไวล์กินเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายที่ไม่อาจเยียวยาได้ เมืองหลวงอันเป็นสถานที่ที่รวมพลเมืองที่เหลืออยู่กว่าครึ่งของโลกเอาไว้ถูกกองทัพเมคานิลอยด์ทำลายย่อยยับภายในคราวเดียว โรงผลิตพลังงานที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์แต่ละมุมของเมืองมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบไม่ว่าจากการขัดข้องของเครื่องจักรหรือบุคคล เมื่อถูกจู่โจมโดยตรงก็ปล่อยสารกัมมันตรังสีรั่วไหลจนปกคลุมกว่า 80% ของเมือง
     
    พื้นที่อื่นๆ บนโลกต่างถูกทำให้มนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้โดยฝีมืออิเร็กกุล่าร์ใต้การควบคุมของเบบี้เอลฟ์ ซึ่งดำเนินตามโปรแกรมที่ด็อกเตอร์ไวล์วางไว้เพื่อเป้าหมายในการรวมพลเมืองทั้งหมดของโลกมาไว้ในสถานที่เดียวที่ตนเองสามารถปกครองได้ ซึ่งในที่สุดมันก็สำเร็จ เหลือเพียงศูนย์อพยพเนโออาร์คาเดียและพื้นที่ใกล้เคียงที่สามารถรองรับชีวิตของมนุษย์ได้
     
    นักปกครองจากทั่วโลกรวมตัวกันที่ศูนย์อพยพและตั้งสภาปกครองชั่วคราวขึ้นด้วยความสนับสนุนจากผู้อาศัย ร่วมกันตัดสินชะตาของของด็อกเตอร์ไวล์และโอเมก้า ทั้งคู่ได้รับความเสียหายสาหัสจากการโจมตีของเอ็กซ์กับซีโร่
     
    ชุดเกราะของเรปลิลอยด์ยักษ์โอเมก้ามีระบบฟื้นตัวที่น่าทึ่ง การจะทำลายจนสิ้นซากต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งโลกในขณะนั้นไม่อาจเสียสละได้ โอเมก้าจึงถูกตัดสินให้ถูกส่งขึ้นไปพร้อมกับยานอวกาศซึ่งแต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อจะใช้เป็นแหล่งควบคุมเรปลิลอยด์ทั่วโลก โดยคาดหวังว่ามันจะไม่มีวันกลับสู่พื้นโลกอีก
     
    ในกรณีของไวล์ซึ่งบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีอุปกรณ์ยื้อชีวิต แม้ไม่ต้องทำอะไรก็เท่ากับโทษประหาร แต่ความเคียดแค้นของมนุษย์เผยตัวออกมาในตอนนั้น คำตัดสินของไวล์คือการถ่ายโอนจิตสำนึกไปสู่ร่างกายที่มีพลังฟื้นฟูตัวเองจากความเสื่อม เท่ากับสามารถมีชีวิตอยู่ได้แทบจะชั่วนิรันดร์  เป็นร่างกายที่ไวล์เตรียมไว้เพื่อตัวเองจะได้เป็นผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียวตลอดชั่วกัลปาวสาน บัดนี้กลายเป็นกรงขัง ต้องใช้ชีวิตที่ไม่มีวันตาย ไม่มีวันลืม คืบคลานอยู่ในแดนร้างที่ตัวเองเป็นผู้สร้างตลอดกาล
     
    ดาร์คเอลฟ์ถูกขังไว้ในอาคารหลังใหญ่ที่ปิดกั้นด้วยกำแพงแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูง ไม่สามารถทะลุผ่านออกมาได้ ไม่สามารถส่งสัญญาณควบคุมผู้ที่อยู่ภายนอกได้ และจะถูกจองจำไว้เช่นนี้จนกว่าจะมีวิธีกำจัดหรือรักษาให้กลับเป็นมาเธอร์เอลฟ์ตามเดิม
     
    ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์สูญเสียกำลังไปกว่า 70%  ผู้บัญชาการซิกนัสเสี่ยงอันตรายนำตัวเองเข้าสู่แนวหน้าเพื่อสังเกตสถานการณ์อย่างใกล้ชิดที่สุด ความเร็วในการสั่งการที่เพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยนั้นทำให้กำลังฝ่ายใต้ของอิเร็กกุล่าร์ฮันเตอร์สามารถรักษาแนวรบและยันเมคานิลอยด์ยักษ์ไว้ได้นานขึ้น กระทั่งกำลังฝ่ายอื่นและเอ็กซ์กับซีโร่กลับมาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ทว่าต้องแลกมาด้วยชีวิตของตัวเอง
     
    ส่วนซีโร่...
     
    ทำไมถึงเป็นแบบนี้อีกแล้วล่ะซีโร่? ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะนายโลกคงตกเป็นของด็อกเตอร์ไวล์
     
    นายก็รู้ว่าทำไม เอ็กซ์
     
    พวกเขาอยู่ในห้องทดลองลับใต้ดินที่ทีมวิจัยของเชลสร้างร่างกายของซีโร่ สถานที่แห่งนี้มีเพียงเขาและทีมวิจัยที่รู้ที่อยู่ของมัน ใต้ผืนป่าแห่งหนึ่งนอกเขตศูนย์อพยพ
     
    เชลกับสมาชิกทีมวิจัยอีกสามกำลังดำเนินการผนึกแคปซูลที่ซีโร่ยืนอยู่ข้างใน
     
    แต่ว่า...นายอุตส่าห์...
     
    ร่างกายปัจจุบันของซีโร่เหมือนกับร่างกายเดิมทุกประการ รวมถึงส่วนที่รับเอาไวรัสอิเร็กกุล่าร์เข้ามา ทั้งเพื่อเป็นพลังและเพื่อกระจายมันต่อไป ในทีแรกผลการตรวจเป็นลบ พวกเขาคิดว่าโปรแกรมอิเร็กกุล่าร์จากดาร์คเอลฟ์(มาเธอร์เอลฟ์)คงเป็นข้อยกเว้น แต่ไม่กี่วันหลังจากตัดสินโทษของไวล์และโอเมก้า ผลการตรวจก็แสดงออกมา ขณะนี้พวกเขาไม่มีมาเธอร์เอลฟ์ ตัวที่อยู่ระหว่างการสร้างก็ถูกทำลาย(เชลตรวจด้วยตัวเองและบอกว่ามันบกพร่องตั้งแต่แรกแล้ว) และไม่มีทรัพยากรหรือวิทยาการที่จะสร้างใหม่ได้
     
    ไม่มีทางอื่น นั่นคือเหตุผลของซีโร่
     
    อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิเอ็กซ์ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่นายก็ทำได้ดีแล้ว คนอย่างไวล์คงไม่ปรากฏตัวออกมาได้บ่อยๆ หรอก
     
    ฉันรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยมากกว่า โลกถึงได้เป็นอย่างนี้...
     
    เนโออาร์คาเดียนายก็เป็นคนตั้งไม่ใช่เหรอ นั่นน่ะฉันทำไม่ได้หรอก แอ็กเซล เอเลีย เลเยอร์ พาเล็ท ผู้บัญชาการซิกนัสก็ทำไม่ได้ มีแต่นายเท่านั้น เนโออาร์คาเดียปกป้องผู้คนจากทั่วโลกไว้ ไม่ว่ามนุษย์หรือเรปลิลอยด์ เป็นความหวังของโลกในความฝันของพวกเรา...พวกฉันจะฝากไว้กับนาย
     
    ทีมวิจัยแจ้งว่ากระบวนการผนึกเริ่มต้นแล้ว
     
    ซีโร่ ฉันจะไม่ให้นายอยู่อย่างนี้ตลอดไปหรอก ฉันกับเนโออาร์คาเดียจะชิงโลกนี้กลับมาจากไวล์ กลับมาจากบาดแผลที่สงครามที่ไวล์สร้างไว้ จนถึงวันที่เราสามารถปลุกนายกลับมาได้อีกครั้ง ครั้งหน้านายจะได้ตื่นขึ้นมาเห็นโลกในความฝันของพวกเรา ฉันสัญญา
     
    นายทำได้อยู่แล้ว...
     
    ...ฉันสัญญา
     
    [...]
     
    [.....]
     
    สามปีหลังสงครามเอลฟ์สิ้นสุดลง เนโออาร์คาเดียซึ่งเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่ยังอาศัยอยู่ได้เปลี่ยนสถานะจากศูนย์อพยพเป็นมหานครและถือชื่อเป็นอาณาจักร เอกสารที่จำเป็นอยู่ในระหว่างการพิจารณาขั้นสุดท้าย ผู้ที่จะมาเป็นสมาชิกในรัฐบาลยังต้องผ่านการเลือกตั้ง แต่คนส่วนใหญ่ได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาซึ่งได้รับการยกย่องว่าไม่เพียงแต่จบสงครามเอลฟ์ลง แต่ยังเป็นผู้ที่ยื่นมือช่วยเหลือมนุษย์และเรปลิลอยด์ทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ สมควรที่จะเป็นผู้นำ
     
    เขารู้ว่าหากซีโร่อยู่ที่นี่จะพูดว่าอย่างไร และตอบไปตามนั้น ตำแหน่งผู้นำนี้ที่สุดแล้วจะเป็นเพียงเชิงสัญลักษณ์หรือจะเป็นเชิงปฏิบัติ มากน้อยเพียงใดตอนนี้เขายังไม่รู้ แต่เขาตั้งใจจะรักษาอาณาจักรแห่งนี้ให้ดีที่สุด
     
    ยืนอยู่บนลิฟต์อวกาศบาเบลที่กำลังซ่อมแซมนี้ มองลงไปยังเบื้องล่าง เห็นมนุษย์และเรปลิลอยด์เคียงข้างกัน เขารำลึกความสุขและความเศร้าที่ได้ผ่านไป
     
    ท่ามกลางซากปรักหักพังของโลกใบเก่า ความฝันของพวกเขากลายเป็นความจริงในมุมเล็กๆ มุมหนึ่ง
     
    --
     
    PBW:“ขอสาบานว่าการเลือกใช้ชื่อเชลไม่ได้มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ต่อเชลที่ทุกคนรู้จักใดๆ ทั้งสิ้น สาเหตุที่เลือกชื่อนี้ก็เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเป็นตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องกับเชล(ที่ทุกคนรู้จัก) ถ้าใช้ชื่อที่ไม่คุ้นอาจไม่รู้สึกถึงความเชื่อมต่อ เป็นเทคนิคอย่างนึง(คิดว่านะ) ส่วนถ้าใครสงสัยเรื่องเอ็กซ์มองเชล(ในตอน)ผิดเป็นเอเลีย ก็ลองไปดูภาพหันเฉียงของเอเลียใน X8 ดู ตั้งใจมองผมที่หน้าผาก ต้องให้เข้าใจตรงกันว่าเชล(ในตอน)รูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับเชลที่ทุกคนรู้จักอย่างกับแกะ แน่นอนว่ามีสาเหตุ
     
    (*หมายเหตุ: Credit ของรูปนั้น ...อยากจะให้นะ แต่แหล่งมันเยอะเหลือเกิน(มีทั้งเว็บจีน/เกาหลี) ไม่รู้ต้นแหล่งอยู่ไหนกันแน่ เอาเป็นว่า kazucrash.tumblr จาก pinterest ละกัน...)

    (*เวรกรรม ลงช้าไป  1 นาที กลายเป็นวันที่ 31 จ้อย)

    --
     
    ด็อกเตอร์เชล คุณจะให้ความร่วมมือกับโครงการเพื่อถ่ายทอดอัจฉริยภาพของคุณสู่รุ่นต่อไปหรือไม่?
     
    แล้ว เธอคิดชื่อลูกไว้รึยัง?
     
    เพราะฉันเป็นเรปลิลอยด์ใช่มั้ย?
     
    ก็มะม้ารักปะป๊า ก็เลยต้องเป็นปะป๊า!”
     
    การผนึกดาร์คเอลฟ์ครั้งที่ 18...ล้มเหลวครับ...
     
    สันติสุข...
     
    มันก็เป็นได้แค่ความฝัน
     
    Next Chapter - End Tale Pt.3: Tales of Peace and Dream
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×