ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reborn : Fierce Demon & Little Cute Pineapple [1896]

    ลำดับตอนที่ #21 : นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : บางทีแผนการชั้นเลิศมันก็ไม่ได้ผลเอาดื้อๆ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 54


    Ch.19
     
    ความเดิมตอนที่แล้ว : ซาวาดะสึนะโยชิและพรรคพวกได้บุกเข้าไปในฐานทัพของสโตลโตแฟมิลี่ และได้รู้ความจริงว่าสามขุนพลสโตลโตได้มุ่งหน้าไปที่นามิโมริเพื่อจัดการกับเหล่าผู้พิทักษ์ที่นั่น
     
    “สามขุนพลของสโตลโต ฝีมือถือว่าสูงมาก ลูกกระจ๊อกที่อยู่ที่นี่เทียบไม่ติด” ทารกชุดดำเอ่ยตามที่ได้ยินมา
     
    “สมเป็นบอสของสโตลโตแฟมิลี่ อย่างที่ได้ยินมาเลยจริงๆ”
     
    ชายวัยกลางคนลูบคางที่เกลี้ยงเกลาพร้อมทั้งยกศีรษะที่ไร้เส้นผมขึ้นหัวเราะเสียงดังด้วยความภูมิใจ
     
    “...บอสของสโตลโต โง่สมชื่อ...” เสียงหัวเราะหยุดไปในทันที
     
    “ว่าไงนะ!”
     
    “สมาชิกมีคุณภาพ แต่บอสไม่มีสมอง ส่งสามขุนพลออกไปห่างตัวเองทั้งที่รู้ว่าที่นี่จะถูกโจมตี ไม่เรียกว่าโง่แล้วจะเรียกว่าอะไร” ทารกชุดดำขยับปีกหมวกลงบังตาครึ่งหนึ่งพร้อมทั้งชำเลืองมองเด็กหนุ่มผมฟูที่อยู่ในโหมดไฮเปอร์เรียบร้อย
     
    สึนะพ่นไฟจากถุงมือเร่งความเร็วพุ่งเข้าหาบอสของสโตลโตที่นั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิก นอกจากนิ้วชี้ขวาที่กดปุ่มสีเขียวข้างใต้โต๊ะ
     
    แสงสีเขียวพุ่งออกจากผนังเป็นเส้นคล้ายกระแสไฟฟ้าทั้งสี่ด้านเข้าจับตัวกันเป็นกำแพง
     
    เปรี๊ยะ!
     
    เด็กหนุ่มซึ่งเคลื่อนที่อยู่ด้วยความเร็วสูงกระเด็นกลับมาด้วยความเร็วที่สูงไม่แพ้กัน
     
    “กำแพงอัสนี...” ทารกชุดดำจำได้ว่า [แกมม่า] สามารถใช้ไฟธาตุอัสนีที่มีคุณสมบัติ ‘การแข็งตัว’ เป็นโล่ป้องกันได้แม้แต่ดาบของยามาโมโตะ
     
    “รู้ดีนี่ อัลโกบาเลโน่รีบอร์น! เราใช้ความรู้ที่ได้มาจากเจ้าเด็กจันทร์เสี้ยวนั่นดัดแปลงเป็นสิ่งประดิษฐ์มากมาย ด้วยความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ในแก๊งเรา แค่นี้เป็นเรื่องขี้ประติ๋ว!” ชายหัวโล้นเอ่ยเยาะเย้ยอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า
     
    ‘ความจริงจะให้สึนะยิงเอ็กซ์-เบิร์นเนอร์ถล่มไปเลยก็ได้ แต่ถ้าไฟแรงเกินไปบ้านเรือนแถวนี้คงพังพินาศ’
     
    ทารกชุดดำมัวแต่ครุ่นคิด ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าอุปกรณ์รูปร่างประหลาดโผล่ขึ้นที่เพดานเหนือหัวตัวเอง และฉายรังสีที่คุ้นเคยกันออกมา แม้จะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ความรู้สึกมันชัดแจ้งมาก ‘รังสีนอน-ทรินิเซตเต้’ ที่เป็นอันตรายต่ออัลโกบาเลโน่อย่างเขานั่นเอง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ขยับไม่ได้ เขารู้สึกหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด
     
    ‘รังสีนี่...เข้มข้นไม่เบา...’
     
    “รีบอร์น! เป็นอะไรไป!?” สึนะเห็นทารกชุดดำทรุดลงกับพื้นก็รีบเข้ามาดูอาการ แต่ตัวเองก็พลอยหมดเรี่ยวแรงไปด้วย เป็นเพราะไอของเปลวไฟธาตุพิรุณที่ถูกพ่นพรวดออกมาจากกำแพงสองด้าน ‘ระงับ’ การทำงานของกล้ามเนื้อเขาจนอ่อนแรง
     
    “วองโกเล่เอ๋ย! จงยอมจำนนซะแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นอัลโกบาเลโน่ตายแน่!!” ชายหัวโล้นยิ้มอย่างมีชัย
     
    ในขณะที่สึนะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีอยู่นั่นเอง ประตูห้องก็เปิดผางออก ร่างของเด็กหนุ่มผมเงินและทารกหญิงในผ้าคลุมแดงกระเด็นล้มเข้ามาด้านใน ก่อนที่เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มจะเดินเข้ามาพร้อมกับมาเฟียนับสิบ
     
    “ทำได้ดีมาก! อาเชียเร่ จับวองโกเล่เอาไว้!!”
     
    เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลก้าวเข้าไปหาทั้งสองที่คุกเข่าอยู่กับพื้นอย่างช้าๆ ดวงตาสีเขียวมรกตชำเลืองมองวองโกเล่ผู้ติดกับทั้งสองคนอย่างไร้ความรู้สึก ก่อนจะเดินผ่านคนทั้งคู่ไปที่หน้ากำแพงอัสนี
     
    “อาเชียเร่? จะทำอะไรน่ะ?”
     
    มือซ้ายในถุงมือหนังสีน้ำตาลยืนออกไปสัมผัสกับกำแพงที่ส่งเสียงดังเป็นประกายไฟอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่กระแสไฟฟ้าสีเขียวจะถูกดูดข้าไปในผลึกหลังถุงมือหนังจนหมด อักขระรูปจันทร์เสี้ยวที่แก้มซ้ายของเด็กหนุ่มส่องแสงสีเขียวแว้บหนึ่งก่อนจะกลับเป็นสีเงินดังเดิม
     
    เมื่อสิ่งกีดขวางหายไปแล้ว เมซซาลูน่าก็เดินตรงเข้าไปหา ‘บอส’ ของเขาด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อย
     
    “นี่แก! หักหลังฉันงั้นเหรอ!?” ชายหัวโล้นโวยเสียงดัง ก่อนจะหยิบปืนสั้นจากใต้โต๊ะมายิงใส่
     
    แน่นอนว่าเด็กหนุ่มหลบได้ แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายไปถึงกลุ่มลูกน้องตัวเองได้อย่างไม่ยากเย็น
     
    “ฆ่าพวกมันให้หมด!” บอสออกคำสั่ง ...แต่เหล่าลิ่วล้อก็หาได้ขยับไม่
     
    หมับ!
     
    มือข้างหนึ่งจับไหล่ของชายหัวโล้น ใบหน้าเด็กหนุ่มผมเงินที่ฉายแววจริงจังอยู่ด้านหลังทำให้บอสสโตลโตตกใจกลัว
     
    ร่างของทารกหญิงที่คว่ำหน้าอยู่สลายกลายเป็นควันเช่นเดียวกับกลุ่มชายชุดดำคนอื่นๆ มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากภาพลวงตายอย่างง่ายที่ถูกสร้างโดยเด็กหนุ่มที่ยืนหน้าตายอยู่ใกล้ๆ นั้น
     
    ทั้งสี่พาตัวประกันออกจากห้องที่เต็มไปด้วยรังสีไม่พึงประสงค์ ภายนอกเป็นทารกหญิงตัวจริงยืนอยู่ท่ามกลางร่างไร้สติของลิ่วล้อมาเฟียที่กองพะเนิน
     
    “เสร็จเร็วดีนี่ ก็นะ บอสสมองตุ่นแบบนี้คงไม่ต้องเสียเวลาจัดการนานนักหรอก” ปากที่ไม่ค่อยจะดีของรัลทำงานทันทีที่เห็นทั้งสี่คนออกมาจากห้องพร้อมกับเชลย
     
    “พวกแกอย่าคิดว่าชนะแล้วนะ! ป่านนี้ผู้พิทักษ์ของพวกแกที่ญี่ปุ่นหมดลมหายใจไปแล้ว!” บอสผู้ดื้อด้านยังคงยิ้มเยาะเย้ยให้เห็นว่าตัวเองเป็นต่อ แต่ทารกชุดดำไม่คิดอย่างนั้น
     
    “ถึงได้บอกไงว่าแกมันโง่ ที่แกส่งสามขุนพลไปตลบหลังเราได้ก็ถือว่าไม่เลว แต่แผนนั่นจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อฝีมือของสามขุนพลเหนือกว่าผู้พิทักษ์ของวองโกเล่”
     
    “แล้วเด็กอมมืออย่างพวกแกจะสู้อะไรกับสามคนนั้นได้!?”
     
    --
     
    ผัวะ!!
     
    หมัดใต้นวมสีแดงกระแทกปลายคางของชายผมทองอย่างจังจนร่างกระเด็นถอยหลังชนเข้ากับเชือกกั้นเวที ก่อนจะล้มฟุบลงกับพื้นไม่ไหวติง
     
    “เป็นไงล่ะ! [ขวาตรงสุดหูรูด] ของฉัน!!” ประธานฯชมรมมวยผมขาวชูมือทั้งสองขึ้นแสดงถึงความมีชัยเหนือชาวต่างชาติ
     
    ‘บ้าน่า... ฉันคนนี้ที่เคยเป็นถึงแชมป์มวยสากล... แพ้เด็กม.ต้น...’ แล้วสติของสามขุนพลคนแรกก็ดับไป
     
    --
     
    นักดาบหนุ่มจากต่างแดนเห็นนักดาบเจ้าถิ่นพุ่งเข้าฟันแนวเฉียงก็รู้ได้ด้วยประสบการณ์ว่าดีเลย์หลังวงฟันจะเป็นจุดอ่อนเขาจึงถอยกลับหนึ่งก้าวอย่างรวดเร็ว
     
    ควับ!
     
    แต่ที่ผ่านไปมีเพียงมือขวาเปล่าๆ
     
    ‘อะไรกัน!?’
     
    “นายเนี่ยไม่เบาเลยนะ”
     
    มือซ้ายของยามาโมโตะคว้าดาบทื่มือขวาทิ้งเอาไว้กลางอากาศพร้อมทั้งตวัดฟันท้องของอีกฝ่ายในคราวเดียว
     
    [เพลงดาบชิงุเระ โซเอน กระบวนท่ารุกท่าที่ห้า : ฝนเดือนห้า(ซามิดาเระ)]
     
    นักดาบจากต่างแดนล้มลงพร้อมกับความพ่ายแพ้
     
    “ถ้าได้เห็นนายสู้กับสควอโล่คงจะสนุกน่าดูเลยล่ะ ^ ^”
     
    --
     
    มีดอันคมกริบตวัดผ่านต้นคอของเด็กสาวผมม่วงจนเลือดกระเซ็น...เป็นหมอก?
     
    “อะไรกัน!?” หญิงสาวผมแดงประหลาดใจเป็นที่สุด
     
    พื้นใต้เท้าเธอเริ่มสั่นสะเทือน ก่อนที่ลาวาจากใต้ผิวโลกจะปะทุออกมาเป็นสาย
     
    “อ๊าก!!~” ความร้อนที่แผดเผาร่างของเธอนั้นเกินจะทานทน สติของเธอจึงดับลงพร้อมกับอาการบอบช้ำทางใจอย่างรุนแรง
     
    ลาวาที่พุ่งออกมาเป็นสายสลายหายไปอย่างไม่มีตัวตน เด็กสาวผมม่วงปรากฏตัวขึ้นที่มุมห้องจ้องมองร่างไร้สติของผู้บุกรุก เธอฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ควรใช้ภาพลวงตาใส่ใครโดยไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนาม
     
    “...เพื่อนของท่านเคียวยะรึเปล่านะ?...”
     
    --
     
    “เอาล่ะ ทีนี้ก็ต้องคุมตัวไอ้หัวโล้นนี่ไปที่ปราสาทสินะ” อัลโกบาเลโน่หญิงเรียกชื่อบอสสโตลโตแบบแทงใจดำสุดๆ
     
    “ไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันมีอะไรจะคุยกับเจ้านี่นิดหน่อย” ทารกชุดดำให้คนอื่นๆ กลับออกไปก่อน เหลือแค่ตัวเองกับลูกจ้างที่กำลังจะหมดสัญญา(?)
     
    “นายทำงานได้ไม่เลว ตามสัญญา นายเป็นอิสระจากวองโกเล่”
     
    เด็กหนุ่มผู้มีอักขระที่แก้มพยักหน้าบอกว่าเข้าใจ แม้แต่เขาก็ไม่อาจรู้ถึงการเคลื่อนไหวอย่างลับๆ ด้านหลังทารกชุดดำได้ กิ้งก่าตัวเขียวไม่ได้อยู่บนปีกหมวกสีดำอย่างทุกที แต่แปลงเป็นปืนที่เจ้านายซ่อนเอาไว้ด้านหลัง
     
    ‘ที่จริงก็ไม่อยากทำแบบนี้เท่าไร ถ้าสึนะรู้เข้าคงจะต้องโกรธมากแน่ๆ แต่ถ้าปล่อยเจ้านี่ไปก็อาจจะแว้งกัดเราอีกก็ได้’
     
    ทารกชุดดำเคยประกาศเอาไว้ว่าตัวเองอ่านใจคนได้ เรื่องนั้นอาจจะไม่จริง แต่ที่แน่ๆ คือเขาอ่านนิสัยของเด็กหนุ่มตรงหน้าออก เมซซาลูน่าหนุ่มคนนี้ไม่มีศักดิ์ศรี ความมุ่งมั่น ความฝัน หรือความทะเยอทะยานใดๆ ทั้งนั้น ไม่รู้จักบุญคุณหรือความแค้น มีชีวิตอยู่ด้วยหลักการและเหตุผลราวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้ามีเหตุผลพอ เด็กหนุ่มคนนี้จะต้องกลับมาเล่นงานพวกเขาอีกแน่
     
    ด้วยความเร็วที่ไม่มีใครอีกแล้วในโลกนี้ที่จะมองได้ทัน ทารกชุดดำชักปืนเล็งที่หัวของเป้าหมายและกดไกอย่างไม่ลังเล
     
    ปัง!
     
    --
     
    R:”ตอนจบนั่นเป็นไอเดียที่ผุดขึ้นมาเฉยๆ เลย คิดว่าถ้าเป็นรีบอร์นก็อาจจะทำอย่างนี้ก็ได้”
     
    DX:”ก็นักฆ่าอันดับหนึ่ง แถมยังเป็นผู้ภักดีของวองโกเล่ ไอ้อย่างนั้นคงถือเป็นหน้าที่ล่ะมั้ง?”
     
    M:”และหน้าที่ของพวกคุณก็คือทำให้ฟิคเรื่องนี้ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นไงครับ ตอนนี้ผมอยากออกโรงเต็มทีแล้วครับ ^ ^+”
     
    R:”อ้อ อยากออกโรงเหรอ อันนั้นมันเรื่องของแก ไม่เกี่ยวกับฉัน”
     
    M:”แต่คุณเป็นคนเขียนนะครับ! ให้ความยุติธรรมหน่อยสิ เขียนให้มันเท่าเทียมกันด้วย!”
     
    R:”อันนี้มันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับแก!”
     
    M:”อ้าว =[ ]=!?”
     
    --
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×