ตอนที่ 13 : Be Inconsistent :: 12
-12-
#จาง อี้ชิง#
ผมมองดูสองคนนั้นยืนล่ำลากันอยู่หน้าประตูอย่างหมั่นไส้ คนนึงกำลังจะไปแต่อีกคนห้ามไม่ให้ไป เฮ้อ! หลังจากที่ผมยืนดูภาพบาดตานั้นไม่ได้ก็เดินออกมาที่ระเบียง
ผมเอามือเท้ากับราวระเบียงไว้ปล่อยให้สายลมพัดผ่านทำให้เส้นผมของผมปลิวไปตามแรงลมผมมองเหม่อออกไปวิวทิวทัศน์ด้านหน้า แต่จู่ๆความคิดบางอย่างได้ผุดขึ้นมา พอคิดได้ดังนั้นผมจึงล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาใครอีกคน
“ฮัลโหล ...อาจินหรอ” ผมถามปลายสายทันทีเมื่อเขากดรับ
“ไง~ นายมีเรื่องอะไรถึงได้โทรมาหาฉันล่ะ?” คนปลายสายถามผมอย่างรู้ทัน
“พรุ่งนี้ฉันมีเรื่องให้นายทำ ว่างไหม?” เมื่อปลายสายรู้จุดประสงค์ผม ผมจึงไม่ลังเลเลยเริ่มพูดเข้าเรื่อง
“คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีล่ะสิท่า” เสียงปลายสายยังคงถามผมอย่างรู้ทัน
“ใช่...จัดการเรื่องบางเรื่องให้ฉันที แล้วอย่าให้อี๋ฟานรู่ล่ะว่าเป็นใครทำ” ผมกดวางสาย พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากยังยิ้มไม่หยุด
“ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมลู่หานว่าฉันไม่อยากให้ใครมายุ่งกับอี๋ฟาน!” ผมกำโทรศัพท์ที่มือแน่นเพื่อมันจะระบายอารมณ์อยู่ตอนนี้ให้ลดลง
#หวง จื่อเทา#
กริ๊ง~!
เสียงกดกริ๊งหน้าประตูบ้านดังขึ้นทำให้ผมชะโงกหน้าไปดูว่าใครมา แต่ก็ต้องตกใจเมื่อข้างกลับเป็นพวกผู้ชายชุดดำประมาณสามสี่คน
“พวกนั้นมาทำอะไรกัน?” ผมพึมพำกับตัวเองแต่ก็ไปเปิดประตูบ้านให้
แต่พอผมเปิดประตูให้แค่นั้นแหละพวกนั้นก็ตรงเข้ามาผลักผมให้หลีกออกจากประตูที่ผมยืนอยู่ แล้วพวกนั้นก็เดินเข้ามาสำรวจภายในบ้านผมอย่างถือวิสาสะ
“ฉันบ้านนี้แหละ” ผมเห็นพวกมันซุบซิบอะไรกันสักอย่าง แล้วหลังจากนั้นพวกมันก็เริ่มลงมือทำร้ายข้าวของบ้านผม
โครม! เพล้ง !
“เฮ้ย หยุดนะโว้ยพวกแกทำบ้าอะไร” ผมเข้าไปห้ามพวกมันแต่ก็โดนชกกลับมา และหลังจากนั้นพวกมันก็เข้ามารุมผม โดยที่ผมอย่างคงงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เพล้งง!
พ่อผมที่ดูเหมือนจะได้ยินเสียงดังเอ๊ะอ๊ะโวยวายเลยลงมาดู
“พ่ออย่าลงมา” ผมตะโกนบอกพ่อให้ขึ้นไปบนบ้านเพื่อหลบพวกมันแต่ ท่านกับไม่ทำตมที่ผมบอก แถมยังเข้าไปอ้อนวอนพวกนั้นไม่ให้ทำลายข้าวของไปมากกว่านี้ ตอนนี้ข้าวของภายในบ้านกระจัดกระจาย กระจกตู้แตก
“นี้มันเรื่องอะไรกัน” พี่ลู่ที่เพิ่งมาถามขึ้นแล้ววิ่งไปประคองพ่อที่ถูกพวกมันผลักจนกระเด็น
“ไงนายสินะลู่หานอ่ะ?” พวกเดินตรงเข้าไปหาพี่ลู่แล้วถามด้วยสีหน้าระรื่น
“นายมาทำร้ายข้าวของบ้านฉันทำไม?” พี่ลู่ตะโกนถามพวกมันด้วยเสียงโกรธๆ
“นี้เป็นแค่การเตือน! ถ้านายยังอยู่ใกล้ๆอี๋ฟาน ทั้งนายและครอบครัวของนายเละยิ่งกว่านี้แน่!” มันประกาศเสียงดัง แล้วพากันเดินออกไป
“พ่อเป็นไงมั่ง?” พี่ลู่หันไปถามพ่อด้วยน้ำตาที่นองหน้า
“พ่อไม่เป็นไรหรอกลู่หาน” พ่อบอกแล้วหันมาทางผม พี่ลู่หันมามองสภาพผมตอนนี้ก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ไม่เป็นไรนะฮะพี่?” ผมเดินเข้ามาไปหาพี่ลู่แล้วกอดปลอบอย่างเป็นห่วงทั้งทีสภาพของผมตอนนี้น่าเป็นห่วงกว่าใครเพื่อนเลย พี่ลู่ผมกอดตอบพลางร้องไห้โห้
หลังจากที่พวกมันกลับไปผมก็เก็บกวาดข้าวของในบ้าน แต่ผมยังงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นพี่ลู่ก็ถามผมว่าพวกนั้นเป็นใคร ตอนแรกๆผมเองก็คิดว่าเป็นพวกที่เคยติดพนันเอาไว้ แต่พอเห็นหน้าแล้วผมเองก็ยังไม่รู้จัก จนกระทั่งพี่ลู่มาถึงบ้านถึงได้รู้ว่าคนที่มันอยากจะเจอตั้งแต่ที่แรกก็คือพี่ลู่
“พี่ไปมีเรื่องผิดใจกับใครหรือเปล่าฮะ?” ผมถามพี่ลู่ด้วยเสียงเป็นห่วง
“ฉันไม่เคยไปมีเรื่องกับใครหรอกนายก็รู้” พี่ลู่ตอบแทบทันที อ่า~ก็จริงพี่ลู่ไม่เคยไปมีเรื่องกับใครเลย ถ้าเป็นผมยังว่าไปอย่าง
“ถ้างั้นมันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดละมั่งฮะ” ผมพูดขึ้น แต่พอผมพูดประโยคเมื่อกี้ไปพี่ลู่ถึงกับชะงักผมมองดูอาการพี่ลู่อย่างสงสัยมันต้องมีอะไรแน่ๆ
“เฮ้ย...ลู่หานหวัดดี” เสียงของพี่ซิ่วหมินดังขึ้นทำให้ผมหันไปมอง
“เกิดไรขึ้นลู่หานทำไมบ้านเป็นสภาพแบบนี้?” พี่ซิ่วหมินถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“มีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยฮะ” ผมตอบแบบเลี่ยงๆ
“เข้าใจผิดหรอ? ดูสภาพนายสิไอ้จื่อเทาดิดูได้ที่ไหน ฉันว่าคงไม่ใช่แค่เข้าใจผิดแล้วแหละ” พี่ซิ่วหมิ่นยังคงสงสัยกับสถานการณ์
“ผมก็ว่างั้นฮะ” ผมตอบ
“เดี๋ยวฉันสืบเรื่องนี้เอง” พี่ซิ่วหมิ่นเสนอความคิดขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอกช่างมันเถอะ” แต่พี่ลู่กลับบอกปัดไป คงไม่อยากให้เรื่องราวมันดูใหญ่โตละมั่ง
“ช่างมันได้ไงฉันไม่ยอมหรอกนะลู่หาน!นายรู้ไหมมันมากันกี่คนจื่อเทา?”พี่ซิ่วหมินหันมาถามผม เมื่อเห็นพี่ลู่ไม่ตอบ
“เออ...มากันสี่คนฮะ” ผมตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้
“นายรู้ไหมว่าพวกไหน?” พี่ซิ่วหมิ่นยังคงถามผมต่อ
“ไม่รู้เหมือนกันครับฮะผมก็ไม่เคยเห็นหน้า”
“เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องนี้ให้ ฉันไปล่ะ” พี่ซิ่วหมินลุกขึ้นเดินออกไปอย่างเร็ว ผมเห็นเหมือนพี่ลู่จะเข้าไปห้ามไปก็เลือกที่จะนั่งอยู่ที่เดิม และคิดวิตกกังวลอยู่คนเดียว
ผมว่าเรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ แต่เป็นใครกันนะที่ส่งคนมาทำแบบนี้! ถ้าผมรู้ผมไม่ปล่อยไว้แน่! ใครที่ทำกับครอบครัวผมแบบนี้พวกนั้นจะต้องชดใช้มากกว่าร้อยเท่า!!
#จาง อี้ชิง#
“รีบร้อยครับคุณอี้ชิง” เสียงปลายสายรายงานความเคลื่อนไหวให้กับผมทราบ
“ดีมาก” ผมตอบแล้วกดวางสาย ยกแก้วสีอำพันดื่มจนหมดแก้ว
“นายนะไม่คู่ควรกับอี๋ฟานหรอกลู่หาน” รอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้นที่มุมปากผม
..................................................................
เขาทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่? ( จื่อเทา )
ยกนี้ :: LAY ♥ TAO
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

21 ความคิดเห็น
-
#11 เจ้าชายแห่งความมืด (จากตอนที่ 13)วันที่ 25 มกราคม 2557 / 21:52ร้ายกาจที่สุด ทำไมอาอี้ถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้#110