คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [OS Project] สัมผัสทั้งห้า: Voice
คุณอาจจะว่าผมหัวแข็งก็ได้...แต่ผมไม่เชื่อหรอกนะของพรรค์นี้น่ะ
‘สถานีต่อไป...ทงแดมุน Next Station Tongdaemun’
“อ่า ถึงแล้วหรอเนี่ย”ผมเงยหน้าขึ้นจากจอมือถือ ก่อนจะจัดแจงเก็บกระเป๋าลุกขึ้นเตรียมออกจากรถไฟเมื่อถึงสถานีที่ต้องลง ผมเบียดตัวผ่านกลุ่มคนแออัดไปยังประตูทันทีที่มันเปิดออกและเดินจ้ำออกจากตัวรถเต็มสปีดเพราะอีกแค่ห้านาทีคลาสเรียนพิเศษก็จะเริ่มแล้ว
‘ปั่ก’
“โอ๊ย! / อ๊ะ!”แต่ด้วยเพราะมัวแต่มองจอมือถือผมเลยเดินชนเข้ากับคนที่เดินสวนมาเข้าอย่างจัง ของในมือเราทั้งสองคนหล่นระเนระนาดเต็มพื้นไปหมด
“ขอโทษนะครับ.. เอ่อ..นี่ครับของๆคุณ”คนตัวเล็กหยิบของทั้งหมดขึ้นมาและยื่นของๆผมมาให้ ก่อนจะวิ่งขึ้นรถขบวนที่ผมเพิ่งลงมาไปอย่างรวดเร็ว...อย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ดูๆไป...คนเมื่อกี๊น่ารักชิบ=.,=
‘แว อีร็อคเค ดูกึน ดูกึน ดูกึน ดวีนี แซงกัก มัล แฮโด’เสียงเพลงหวานแหววดังขึ้นมาจากมือถือใครซักคน
“ใครวะ เข้ามาเรียนไม่ปิดเสียงมือถือ แถมเพลงยังตุ๊ดชิบหาย”ผมบ่นเบาๆก่อนเสียงเรียกเข้านั้นจะหยุดไป
‘แว อีร็อคเค ดูกึน ดูกึน..’
“นี่ดูจุน รับโทรศัพท์สิมันรบกวนคนอื่นเค้ารู้มั้ย”ชอนดุงหันมาสะกิดผมแล้วกระซิบเบาๆ
“บ้าป่ะวะ เสียงเรียกเข้าแบบนี้คิดว่าฉันจะใช้เรอะ”
“เออฉันรู้ แต่เสียงมันมาจากกระเป๋าเป้นายแล้วมันจะเป็นของใครได้อีกล่ะ”
“หื๊มมมม?”ว่าแล้วผมก็หันไปคว้ากระเป๋าเป้ตัวเองที่พื้นขึ้นมาทันที
“จริงด้วยว่ะ..เฮ้ยเกิดอะไรขึ้นทำไมเสียงรอสายกรูเปลี่ยนเอง??”
“รับๆไปก่อนเหอะน่า ถ้าไม่อยากโดนดักฆ่าหมกทางแยกตอนเดินกลับบ้านล่ะก็”
“อืมๆ”ผมพยักหน้าให้ชอนดุงก่อนจะหยิบไอโฟนในกระเป๋าขึ้นมาก่อนจะเดินออกมารับสายข้างนอกห้อง
“สวัสดีครับ”
(สวัสดีครับ คือ..เอ่อ)
“นี่ใครพูดอยู่ครับ?”ผมถามกลับเมื่อปลายสายเงียบไป น่าจะโทรผิดล่ะมั้ง
(ผม..ยังโยซอบครับ)เสียงใสๆตอบกลับมาหลังจากเงียบไปซักพัก นั่นไงชื่อใครก็ไม่รู้ คงจะโทรผิดจริงๆแหละนะ
“ผม่วาคุณน่าจะโทรผิดนะครับ...แค่นี้นะ”
(เดี๋ยวๆๆๆๆ เดี๋ยวครับอย่างเพิ่งวาง)ปลายสายขัดขึ้นมาเสียงดังซะผมเอาหูออกจากโทรศัพท์ไม่ทัน
(คือจำได้ไม่ครับ..คือเราเดินชนกันเมื่อตอนเย็น...หน้ารถไฟฟ้า) อ้อ! คนน่ารักคนนั้นน่ะเอง หรือว่าเค้าโทรมาจีบเรา??
“อ่อ..ครับ แล้วคุณมีเบอร์ผมได้ไงอ่ะ?”
(เรื่องมันก็คืออย่างนี้ล่ะครับ ผมว่าเราสลับมือถือกันซะแล้วล่ะ บังเอิญเราใช้มือถือรุ่นเดียวกันแถมเคสยังเหมือนกัน แถมตอนนั้นผมก็รีบๆเลยยื่นมือถือให้คุณผิดเครื่อง)
“อ่า...เลยว่าเสียงเรียกเข้าแบ๊วชิบหาย”
(อะไรนะครับ?)
“อ๋อ เปล่าครับๆ แล้วเราจะนัดเอาโทรศัพท์คืนกันยังไงดีล่ะ”
(คุณว่างวันไหนบ้างล่ะครับ นัดมาเลย)
“ก็...ผมเลิกเรียนตอนสี่โมงแล้วก็มีเรียนพิเศษตั้งแต่ห้าโมงถึงสองทุ่มทุกวันที่ทงแดมุนนี่แหละ คุณมาที่สยามซักสี่โมงสี่ห้าห้าสิบได้มั้ยครับ ที่สถานีรถไฟฟ้าก็ได้”
(อ่า...ผมเริ่มเรียนพิเศษสี่โมงครึ่งถึงทุ่มเนี่ยสิ)
“แต่วันนี้เราเจอกันตอนห้าโมงเย็นนี่นา”
(พอดีวันนี้ผมมีธุระด่วนน่ะครับเลยกลับเร็ว..อ่า..ทำไงดีล่ะเราว่างไม่ตรงกันเลย)
“งั้น...เอางี้ละกันจนกว่าเราจะมีเวลาตรงกันคุณก็โทรเข้าเครื่องนี้วันละครั้ง จะได้เป็นการยืนยันว่าเราทั้งสองคนยังเก็บมือถือของเราไว้ดีอยู่”
(ก็ได้ครับ...งั้นผมจะโทรไปซักสามทุ่มแล้วกันนะ)
“ครับ แค่นี้นะครับผมมีเรียน”
(ครับๆ)
งงล่ะสิว่าทำไมผมถึงให้เค้าทำแบบนั้น
.
.
.
ลองคิดสิ เค้ากำลังรู้สึกผิดเพราะฉะนั้นคงไม่เบี้ยวใช่มะ
.
.
.
แปลว่าเค้าก็จะโทรมาทุกวัน
.
.
.
ผมก็จะใช้โอกาสนี้...ตีสนิทเค้าซะเลยไง โฮะๆๆๆ
.
.
.
เฮ้ยเดี๋ยว!
.
.
.
ถ้าฝ่ายนู้นโทรมา...
.
.
.
กรูก็ต้องจ่ายค่าโทรอ่ะดี๊!!!!!!!
‘อูริน ทออีซัง นุนอึล มาจู ฮาจีอันนึลกา~’เสียงเรียกเข้าที่ผมแอบเจ้าของเปลี่ยน(ก็หน้าอย่างผมใช้เพลงแบ๊วๆอย่างงั้นคนอื่นมองผมเป็นกระเทยควายกันหมดแน่=..=)
“ฮัลโหล”
(สวัสดีครับ..ผมโยซอบที่โทรมาเมื่อวานนะ)
“อ่อ ครับๆ”โอ้โห สามทุ่มเป๊ะเลยเว้ย
(แล้วนี่คุณชื่ออะไรหรอครับ? ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย)
“ยุนดูจุนครับ”
(อ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักแล้วกันนะครับฮะๆ งั้น..ผมวางก่อนนะ)
“ด..เดี๋ยวๆ ไหนๆคนจ่ายค่าโทรก็เป็นผมแล้ว...”
.
.
.
“คุยกันซักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง”
เดือนนึงละ...มือถือกรูหายไปเดือนนึงละ...แต่ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรเลยแฮะ= =”
อย่างที่คิด โยซอบไม่เคยเบี้ยวนัดเลยซักวัน โทรมาสามทุ่มเป๊ะๆตลอด
จากที่คุยกันทุกวัน จากคนไม่รู้จักตอนนี้เราเหมือนจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปซะแล้ว ถึงผมจะแทบลืมหน้าเจ้าตัวไปแล้วถ้าไม่มีรูปเซลคาในมือถือก็เถอะ
โยซอบเป็นคนคุยสนุก แบบว่าคุยด้วยแล้วไม่อยากจะวางสายเลยล่ะถ้าไม่ติดที่ว่าวันต่อไปมีเรียนและค่าโทรที่พุ่งลิ่วก็นะ... ถึงจะไม่เคยเจอตัวจริง แต่บุคลิกน่ารักๆของเจ้าตัวก็ทำให้ใครๆที่ได้คุยด้วยตกหลุมรักได้ง่ายๆ...และผมก็คงเป็นหนึ่งในนั้น
‘อูริน ทออีซัง นุนอึล มาจู ฮาจีอันนึลกา~’ พูดถึงก็โทรมาพอดีเลย
“โย่”
(โย่ ว็อทส์ซัพ)
“ไอ แอม ไฟน์ แต๊งกิ้ว”
(ฮะๆๆๆ นี่รู้ป่ะดูจุนนา ฉันนั่งมองนาฬิกามาทั้งวันเลยนะเนี่ยรอให้ถึงสามทุ่มซะทีจะได้คุยกะนาย)
โอย...ประโยคนี้ทำใจเต้นจังแฮะ =///////=
“แปลว่าฉันคุยสนุกอ่ะดิ”
(อืม ฉันอยากเจอนายจังเลยอ่ะ ที่โรงเรียนมีแต่พวกลูกคุณหนู ทุกคนเลยเอาแต่เก๊กขรึมกันไปหมด..เฮ้อ~กลุ้ม)
อ้อใช่ ลืมบอกไปเลย โยซอบเค้าเรียนที่โรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังเลยล่ะ ที่นั่นมีแจ่พวกลูกคนรวยเท่านั้นแหบะที่เรียนไหว ตอนแรกที่รู้ผมก็ตกใจมากเลยนะ แต่โยซอบบอกว่าที่ได้เรียนก็เพราะเป็นนักเรียนทุน เรียนได้เอบวกทุกวิชา...คนอะไรเก๊งเก่ง=w=
“ฉันก็อยากเจอนายเหมือนกันน่ะแหละ นี่ๆ วันเสาร์อาทิตย์นี้วันหยุดราชการนี่ว่างมั้ย?”
(วันเสาร์อาทิตย์....มีนัดกับฮยองงอาไว้นี่นา)ปลายสายพึมพำเบาๆแบบที่คิดว่าผมคงไม่ได้ยิน..แต่ทำไงได้หูมันดี
“นัดกับแฟนหรอ?”
(ม..ม..ไม่ใช่นะ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว)
.
.
.
แปลก...แปลกจริงๆ
.
.
.
ทำไมพอรู้ว่าเค้ามีคนที่ชอบแล้ว..มันถึงได้เจ็บใจแปลกๆอย่างงี้วะ?
(ดูจุน..ดูจุนนา เป็นอะไรรึเปล่า)
“อ..อ่อ ไม่มีอะไรหรอกพอดีเมื่อกี๊จะจามแต่มันจามไม่ออกน่ะ”
(อ้อออ ฮ่าๆๆๆ)
“นายนี่ขำง่ายจังเนอะ”
(ปกติฉันก็ไม่ได้เส้นตื้นหรอกนะ แต่นายพูดอะไรมันก็ฮาไปหมดตะหาก รู้ตัวป่ะ)
“จะถือว่าเป็นคำชมละกันนะ ว่าแต่..นายอยากเล่ามั้ยเรื่องคนที่นายชอบอ่ะ”
(เหอะ อยากเป็นที่ปรึกษาหรือแค่อยากรู้ว่าฉันชอบใครกันแน่ล่ะ)
“รู้ดีนะรู้ดี~”
(ฮ่าๆๆ อืมมมม เล่าก็ได้มั้ง)
“อ่าฮะ”
(ก็..คนที่ฉันชอบก็เป็นเพื่อนฉันคนนึง แต่เราไม่ค่อยสนิทกันหรอก ก็รู้จักกันแค่ผิวเผินได้คุยกันวันละไม่กี่ประโยคเอง แต่ว่าเค้าเป็นคนใจดีแล้วก็อารมณ์ดี แถมยังรับฟังเวลาฉันรู้สึกแย่)
“โอ้ว...คุณสมบัติพระเอกหนังเกาหลีโดยแท้ แล้วหน้าตาเป็นไงอ่ะ หล่อมะๆ”
(หล่อมั้ยหรอ...เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้แฮะ)
“งั้น..นายกะจะบอกเค้าไปเมื่อไหร่ล่ะ?”
(ไม่รู้นะ ปกติก็คุยกันแทบจะนับประโยคได้ ถ้าบอกไปแล้วเขาไม่ได้ชอบฉันขึ้นมา เขาไม่ตัดขาดกับฉันเลยรึไง)
“ก็ต้องลองเสี่ยงดู..ถ้านายมั่นใจพอว่านายชอบคนๆนั้นจริงๆล่ะก็”
(มั่นใจมั้ย...อันนี้ก็ไม่ค่อย..แล้วต้องทำไงถึงจะมั่นใจได้ล่ะ?)
“ก็ถ้านายคิดถึงเขาบ่อยๆเวลาไม่ได้เจอกัน แล้วเวลาคิดถึงขึ้นมาใจก็จะเต้นแรงจนอึดอัด...อะไรประมาณนี้”
(อืม...รู้ดีจังนะนายน่ะ)
“แน่นอน..” เพราะเวลาคิดถึงนายฉันก็เป็นไง...
(โอเค งั้นพรุ่งนี้ฉันจะมาบอกผลแล้วกันนะ ไปนอนล่ะบ๊ายบายยยยย)
“กู๊ดไนท์แล้วก็สูงไวๆนะ ฮ่าๆๆ”
(ไปนอนเลยไป๊....ติ๊ด)
‘ฟุ่บ’ผมวางโทรศัพท์ลงข้างตัวก่อนจะทิ้งตัวลงนอน แล้วยกแขนก่ายหน้าผากเผื่อว่าเรื่องที่คิดมันจะเบาลงไปซักนิด
“สงสัย...ฉันจะชอบนายเข้าจริงๆแฮะยังโยซอบ”
‘ตึก’ สองเท้าหยุดลงหน้าประตูเลื่อนสีเหลือง
ไม่รู้ว่าได้ยังไง แต่ตอนนี้ผมโดดเรียนพิเศษมาที่โรงเรียนที่โยซอบมาเรียนทุกเย็นซะแล้ว...ทำไมน่ะเหรอ?
อาทิตย์ก่อน
‘อูริน ทออีซัง นุนอึล มาจู ฮาจีอันนึลกา~’
“ยอโบเซโย”
(ดูจุนนา...ฉันว่า..ฉันมั่นใจแล้วล่ะ)
“หืม?”
(ที่ว่า...ฉันชอบเขาจริงๆ...ฉันว่าฉันชอบเค้าเข้าจริงๆแล้วแล้วล่ะ)ปลายสายพูดเสียงสั่น ใจผมเองก็สั่นไม่ต่างกันเท่าไหร่...อาจจะลั่สกว่านั้นก็ได้ล่ะมั้ง
“อ..อืม ดีใจด้วยนะ แล้วนี่ จะบอกเขามั้ยล่ะ”
(อาจจะมั้ง...แต่ฉันอยากให้ตัวเองพร้อมกว่านี้ก่อน...ความรักระหว่างฉันกับเค้ามัน..ดูเป็นไปไม่ได้เลย)
“ทำไมล่ะ?”
(นายคิดว่าความรักระหว่างคนที่แทบจะไม่ได้คุยกัน แทบจะไม่รู้จักกัน หน้าฉันเขาก็แทบจะจำไม่ได้...มันเป็นไปได้รึไงล่ะ)
“พูดตรงๆคือโอกาสน่ะแทบจะไม่มีหรอกนะ...”
(...)
“แต่ก็อย่างที่บอกไปไงว่าก็ต้องลองเสี่ยงดู..ไม่งั้นก็ไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายคิดยังไงจริงมั้ย?”
(อ..อืม ดูจุนนาพูดเหมือน..ดูจุนนาก็มีคนที่แอบชอบเหมือนกันเลยนะ)
“อืม...สถานการณ์ของฉัน..ก็ไม่ต่างกับนายเท่าไหร่หรอก หึๆ”
(ง...งั้นหรอ?)
“อืม...”
(....)
“....”เราทั้งสองคนต่างคนต่างเงียบกันไปอย่างไร้สาเหตุ มีแต่เสียงหายใจเบาๆเท่านั้น
(งั้น..ฉันไปนอนแล้วนะ)
“ฉันว่าฉันจะลองเสี่ยงดู...”
(หืม อะไรนะ?)
“เปล่าหรอก...ฝันดีนะ”
(บาย)
หลังจากวันนั้นเราก็คุยกันสั้นลงเรื่อยๆ สุดท้ายผมก็บอกเค้าว่าไม่ต้องโทรมาแล้วก็ได้ ส่วนมือถือไว้คืนตอนปิดเทอม
แต่ถึงปากจะพูดอย่างนั้น อาทิตย์นึงที่ผ่านมาที่ไม่ได้คุยกับโยซอบ...มันกระวนกระวายแปลกๆ สุดท้ายก็เลยต้องมาหาเจ้าตัวถึงที่เรียนพิเศษในที่สุด
“เฮ่อ...”ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนผมจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกหาเบอร์ตัวเอง จะว่าไป...ผมก็ไม่เคยเป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อนเลยแฮะ
(ตรู๊ด...ตรู๊ด...)
“รับหน่อยเถอะนะ...”
(ฮัลโหลครับ?)ปลายสายกระซิบมา แสดงว่าเรียนอยู่ในห้องนี้จริงๆสินะ
“นายออกมาข้างนอกได้มั้ย”
(ต..แต่ฉันเรียนอยู่นะ)
“แป๊บเดียวน่า...ฉันอยู่หน้าประตูนี่เอง”
(ฮ..ฮะ? งั้นเดี๋ยวออกไปนะ)โยซอบวางสายไป ก่อนประตูสีเหลืองข้างหน้าผมจะค่อยๆเปิดออกพร้อมเด็กหนุ่มตัวเล็กหน้าตาน่ารักคนนึงยื่นหน้าออกมาช้าๆพลางมองผมตาปริบๆ
“ดูจุนนาหรอ?”คนตัวเล็กถาม ผมยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าตอบ เจ้าตัวเบิ่งตาอย่างตกใจก่อนจะออกจากห้องมาและหันไปเลื่อนประตูปิด
“ดูจุนนาตัวจริง..หล่อกว่าที่คิดเนอะ ฮะๆๆ”โยซอบเงยหน้าสำรวจหน้าผมไปทั่วก่อนจะยกยิ้มน่ารักเผยลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง
“นายเองก็...น่ารักกว่าในรูปตั้งเยอะ”ผมตอบกลับยิ้มๆแล้วยกมือขึ้นลูบผมนุ่มๆของโยซอบเบาๆ ไม่รู้ว่าผมคคิดไปเองรึเปล่า แต่แก้มขาวๆของร่างเล็กกำลังขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อยด้วยล่ะ...
“ล..แล้วนายคิดยังไงถึงมาหาฉันที่นี่ล่ะ?”
“ฉันคิดถึงนาย...”
“...”โยซอบไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่มองตาผมด้วยแววตาตกใจปนสงสัย ผมก็ได้แต่มองตากลมใสของเขาเงียบๆเท่านั้น
“น..นี่ เล่นอะไรเนี่ยฉันไม่ตลกนะ เพื่อนกันเค้าไม่ควรเล่นอย่างงี้นะรู้มั้ย ล..แล้วนายก็บอกเองว่าฉันไม่ต้องโทรไปแล้ว”หลังจากสู้สายตาผมอยู่ซักพักโยซอบก็เป็นฝ่ายหลุบตาลงมองพื้นก่อนจะพูดขึ้นเสียงตะกุกตะกัก
“ฉันไม่ได้เล่นนี่...ฉันบอกแล้วไม่ใช่รึไง..ว่าฉันจะลองเสี่ยงดู...”
“ฮ..ฮะ? อย่างบอกนะว่า คนที่ดูจุนนาชอบ ค..คือ”
“อืม ถึงเราจะไม่เคยได้เจอหน้ากัน ถึงฉันจะได้ยินเสียงนายแค่วันละไม่กี่นาที...ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว...”ผมยื่นมือไปประคองใบหน้าเล็กๆของโยซอบให้เงยหน้าขึ้นสบตาผมก่อนจะพูดความในใจออกไปเต็มปากเต็มคำ
“ฉันชอบนาย...”
“.....”โยซอบมองตาผมนิ่ง แววตาใสๆเริ่มสั่นและมีน้ำใสๆคลอที่ขอบเล็กน้อย
“แค่ฉันบอกว่าชอบนาย...ถึงขนาดต้องร้องไห้เลยหรอ? เฮิร์ทนะเนี่ย...”
“.....”ผมปล่อยมือทั้งสองข้างออกมายืนล้วงกระเป๋าเหมือนเดิม ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยแล้วหัวเราะให้ดูเป็นปกติที่สุด
“ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ...งั้น..นี่มือถือนาย”ผมจับมือนิ่มๆของโยซอบขึ้นมาข้างหนึ่งและวางมือถือของเจ้าตัวคืนไป ก่อนจะจับมืออีกข้างที่กำเครื่องของผมไว้แน่นขึ้นมาแกะออกเบาๆและหยิบมันเก็บใส่กระเป๋ากางเกง
“ไปล่ะนะ..โชคดี”ผมยกมือลูบหัวโยซอบอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินออกมา
.
.
.
.
.
“งั้น..ฉันก็จะลองเสี่ยงดูเหมือนกัน”เสียงเล็กๆที่คุ้นหูดังขึ้นจากข้างหลังเรียกให้ผมหยุดเดินและหันกลับไป ก่อนจะเจอคนตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าเดินตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ยืนอยู่ข้างหลัง
“หืม?”
“ก็ที่บอกว่าให้ลองเสี่ยงบอกรักคนที่ชอบ...ฉันก็จะลองเสี่ยงดูบ้าง”โยซอบพูดพลางมองตาผมนิ่ง
“อืม...ดีแล้วล่ะ สู้ๆนะ”ผมชูกำปั้นให้กำลังใจคนตัวเล็กอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินต่อ
“อย่าเพิ่งไปสิดูจุนนา...”
.
.
.
.
.
“ดูจุนไป..แล้วจะให้ฉันไปบอกรักใครล่ะ?”
เค้าว่ากันว่าความรัก..เป็นสิ่งที่คนเราควบคุมไม่ได้... แม้จะไม่เคยได้เจอกัน แม้จะเคยได้ยินแค่เสียง แม้จะจำหน้ากันแทบไม่ได้...ความรักก็เกิดขึ้นได้เสมอ
ผมเองก็เคยไม่เชื่อ...แต่ตอนนี้...ผมเชื่อแล้วล่ะครับ^^
THE END
กลับมาแล้วค่ากับโปรเจ็คต์สัมผัสทั้งห้าของเรา หายไปนานคิดถึงกันมั้ยเอ่ย?
ขอโทษนะคะ พอดีเพิ่งึ้นม.ปลายอะไรๆมันเลยแปลกๆไปแล้วปรับตัวไม่ได้
อยู่ในภาวะมึนรุนแรง = =
พอวันเสาร์แล้วเลยโยนเรื่องเครียดๆทิ้งแล้วมาอัพฟิค 555
โปรเจ็คต์นี้ยังเหลืออีกสามนะ รอเราด้วยน้าาาา(วิบัติเพื่อเสียง)
แถมๆๆๆ
ความคิดเห็น