ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dooseob's House!!!

    ลำดับตอนที่ #7 : [OS Project] สัมผัสทั้งห้า: Scent

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 868
      3
      30 ก.ค. 55

    © Tenpoints !

    กลับมาเร็วอีกแล้ววววววว

    วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่จะได้ลงฟิคต่อเนื่องแบบนี้เพราะจันทร์นี้เราเปิดเทอมTT^TT

    แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะดองนะ อาจจะแค่ไม่ถี่เหมือนที่ผ่านๆมา

    ยิ่งเพิ่งขึ้นม.ปลายด้วย คงมีอะไรสับสนมากขึ้น

     

    ***เรื่องนี้อธิบายเยอะแล้วก็ตัวอักษรอัดแน่นมาก แนะนำให้ค่อยๆอ่านไปนะเดี๋ยวไม่ได้ฟีล 55***

     

     

     

     

    “เฮ้อ....”ปลายนิ้วเรียวชูบไปตามขอบแก้วไวน์อย่างเบื่อๆ ก่อนจะทอดสายตาไปยังกลุ่มคนมากมายบนฟลอร์เต้นรำไม่ห่างจากโต๊ะของเขานัก

    .

    .

    .

    “นี่กูคิดยังไงถึงได้มาวะเนี่ย?”

     

     

    สิบชั่งโมงก่อน

    “ปาร์ตี้หน้ากาก ฉลองครบรอบห้าปี เรดมูนไลท์คลับ... อะไรวะเนี่ย?”

    “อ่าว ก็อ่านออกนี่ งานครบรอบห้าปีคลับของเมียกูไง”

    “แล้ว?”

    “ก็บัตรมันเหลือฉันก็เลยเอามาให้แกไง ไม่ดีหรอได้ไปงานฟรีเลยนะเว่ย แถมนี่น่ะไม่ใช่งานครบรอบธรรมดานะ มันตั้งห้าปีเชียวนะพี่น้อง ชีวิตนึงมีครั้งเดียว”

    “จะงานอะไรมันก็เหมือนๆกันหมดน่ะแหละ ถามจริงเถอะงานนี้มันพิเศษกว่างานอื่นตรงไหนวะตื๊อจริง”

    “จะไม่พิเศษได้ไงวะ เดี๋ยวปีหน้าไปมันก็ครบหกปี อีกห้าปีไปมันก็ครบสิบปี ชีวิตนี้มึงไม่ได้เจอวันอะไรอย่างนี้แล้วนะเว้ยเฮ้ย”

    “แต่กูมีงานต้องทำเข้าใจป่ะจุนฮยอง งานเลี้ยงดึกขนาดนี้แถมยังมีเหล้าดื่ม พรุ่งนี้ตื่นมาทำงานไม่ทันเอาไง”

    “อ๊ะๆ ไม่ต้องห่วง ในเมื่อคุณมึงเป็นพนักงานดีเด่นที่ชูหน้าชูตาให้บริษัทเราขนาดนี้ ฉันไปขอปะป๊าให้คุณมึงได้ไปเปิดหูเปิดตาซักวันก็ได้ แถมที่งานปาร์ตี้นั่นก็มีแต่พวกนักธุรกิจใหญ่ๆทั้งนั้น ถ้าบอกปะป๊าว่าไปเจรจาธุรกิจด้วย ปะป๊าฉันไม่ว่าหรอก”

    “เออๆ ไปก็ได้ๆถ้าแกจะอยากให้ฉันไปขนาดนี้”

    “ดีมากเพื่อนรัก งั้นนี่บัตรเข้างาน แล้วก็หน้ากาก งานเริ่มสองทุ่มเป๊ะอย่าลืมมาล่ะคุณมึง”

    “เออๆ”

     

     

     

    “อึกๆๆ”คิดถึงเรื่องเมื่อตอนเช้าก่อนจะยกค็อกเทลสีฟ้าสวยขึ้นดื่มรวดเดียวหมด นึกแล้วก็นึกโกรธไอ้เพื่อนรักขึ้นมาตะหงิดๆ เล่นบอกคุณสมบัติงานมาซะน่าตื่นเต้น เขาเลยตกลงจะมาเมื่อเพื่อนรักบอกว่าจะขอวันหยุดให้ แต่มีอยู่สิ่งนึงที่คุณเพื่อนรักไม่ได้บอกเขาไว้ก่อน

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ที่นี่มันบาร์เกย์ชัดชัด!!!!!!!

     

     

     

    ก็รู้อยู่ล่ะนะว่าเพื่อนตัวเองเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันและมีแฟนเป็นเพศผู้เหมือนกัน แถมยังรู้ว่าแฟนของเพื่อนรักเปิดคลับ แต่ทำไมก่อนตอบตกลงรับบัตรนั้นมาถึงไม่คิดให้ได้ก่อนก็ไม่รู้ สุดท้ายเลยต้องมานั่งเหี่ยวเฉากระดกเหล้าเป็นน้ำออร่าอยู่อย่างนี้

    ถึงจะมีชาวสีม่วงรุมล้อมรอบตัวตลอดเวลาในที่ทำงานอยู่แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบผู้ชายไปด้วยอีกคนล่ะนะ ขอยืนยันอีกร้อยล้านครั้งว่ายุนดูจุนสุดหล่อเลือกได้คนนี้แมนทั้งแท่งตั้งแต่คลานออกจากท้องแม้และจะไม่เบี่งเบนจนมุดเข้าโลงแน่นอน!!!

     

     

     

    “มาคนเดียวหรอครับ?”เสียงใสติดจะแหบเล็กน้อยที่แฝงไปด้วยสเน่ห์ยั่วยวนอย่างประหลาดทั้งๆที่เป็นผู้ชายด้วยกันดึงความสนใจของร่างสูงไปจากแก้วเปล่า ดวงตาคมค้างไปเล็กน้อยเมื่อเห็นหนุ่มน้อยผิวขาวเนียนที่ยืนยิ้มหวานให้เขาอยู่ข้างโต๊ะ

    “อ่า...ครับ คุณล่ะ?”

    “ก็เห็นๆอยู่นะครับ”ร่างบางในสูทตัวเล็กกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มยกยิ้มบางๆก่อนจะนั่งลงบนโซฟาข้างร่างสูงเจ้าของโต๊ะโดยไม่พูดอะไร

    “นั่งด้วยนะครับ”

    “ถึงไม่ได้ขอคุณก็นั่งไปแล้วไม่ใช่หรอครับ”

    “ผมจะไปนั่งตรงอื่นก็ได้นะ”

     “แต่ผมก็ไม่ได้บอกนะว่าคุณนั่งตรงนี้ไม่ได้”ร่างสูงยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมาลอยๆ ตาคมยังงคงมองไปยังกลุ่มคนบนฟลอร์นิ่ง

    “ฮะๆ คุณนี่ เล่นลิ้นเก่งนะครับ”

    “อยากลองมากกว่านี้รึเปล่าล่ะครับ? ผมไม่ได้เก่งแค่เล่นลิ้นเวลาพูดอย่างเดียวหรอกนะ...”ใบหน้าหล่อเหลาหันไปสบตากลมสวยภายใต้หน้ากากสีดำประดับขนนกตรงๆ ก่อนจะยักคิ้วท้าทายคนข้างหน้าอย่างเจ้าเล่ห์ มือหนาลูบคางมนของร่างบางเบาๆและดึงใบหน้าเล็กเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน

    ร่างบางมองคนข้างหน้าตาโตอึ้งๆ   อย่าว่าแต่เขาเลย ร่างสูงเองก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่เหมือนกัน ทั้งๆที่ชีวิตนี้เขาไม่เคยรู้สึกสนใจเพศเดียวกันมาก่อนเมื่อก้ก็ยังขืนขันอยู่เลยว่าตัวเองไม่ใช่เกย์ แต่พอได้เจอคนข้างหน้าเขากลับรู้สึกต้องการครอบครองร่างบางอย่างบอกไม่ถูก แม้จะยังไม่ได้เห็นใบหน้าจริงหลังหน้ากากขนนกหรูหรานั่น แต่เขากลับรู้ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้พลาสติกบางๆแผ่นนี้ จะต้องเป็นอะไรที่น่าหลงไหลมากแน่ๆ

    “จะดีเหรอครับ? ผมกลัวว่าถ้าได้ลองแล้วคุณเก่งอย่างที่ว่า...ผมจะติดใจ..จนถอนตัวไม่ขึ้นน่ะสิ”มือนิ่มยกขึ้นลูบตามสันกรามของอีกคนอย่างไม่เกรงกลัวพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองเล็กน้อยอย่างยั่วยวน

    “แต่ลองดูซักหน่อยก็ไม่เสียหายนี่เนอะ...”มุมปากอิ่มยกขึ้นเล็กน้อยก่อนร่างบางจะหลับตาลงช้าๆและโน้มหน้าลงแตะริมฝีปากกับร่างสูงโดยไม่รอให้อีกคนพูดอะไร ร่างสูงผงะไปซักพักเมื่อโดนรุกมาก่อน แต่พอตั้งสติได้ก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์และจับคางมนให้เข้ามาชิดกับใบหน้าตัวเองมากขึ้น เขาบดริมฝีปากลงกับร่างเล็กอย่างร้อนแรง ลิ้นอุ่นเกี่ยวเล่นไปมากับอีกคน ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมาและกดจูบลงไปอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้เบื่อ

     

    “เป็นยังไงครับ...ผมเก่งพอรึเปล่า?”ร่างสูงผละออกมาช้าๆก่อนจะถามคนข้างหน้าที่ยังคงหลับตาพริ้มไปกับสัมผัสร้องแรงที่เขามอบให้เมื่อซักครู่ มือหนายกขึ้นเช็ดคราบน้ำใสๆที่มุมปากอิ่มสีชมพูเข้มออกจะแดงนั่นเบาๆ

    “ปฏิเสธไม่ได้เลยนะครับ...ว่าเก่งจริงๆ”ร่างเล็กมองตาร่างสูงตอบตาฉ่ำ ก่อนจะหัวเราะเสียงเบาและหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์

    “เหมือนว่า...ผมคงจะนั่งตรงนี้ไปอีกนาน...คุณคงไม่ว่านะครับ”

    “ตามสบายเถอะครับ โซฟาก็ตัวใหญ่เบ้อเร่อ ถ้าจะมีคนมานั่งข้างๆ...มันก็อบอุ่นดี”

    “แต่ถ้าอยากอบอุ่นกว่าเดิม...ไหล่สองข้างของผมยังว่างนะครับ...”ร่างสูงยกยิ้มทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบไหล่บางให้เข้ามาชิดเขามากขึ้น

    “แต่ผมกลัวว่าถ้าผมนั่งใกล้คุณมากเกินไปผมจะเหงื่อแตกเอาได้น่ะสิ...คุณออกจะ...ฮอตขนาดนี้”ไม่ว่าเปล่า นิ้วเรียวก็ลูบไปตามแก้มเนียนใต้หน้ากากสีเข้มที่ขับผิวขาวๆของเจ้าตัวให้เด่นขึ้นราวกับสะท้อนแสงเบาๆก่อนจะไปหยุดที่ริมฝีปากอิ่มที่เขาเพิ่งจะได้ลองลิ้มความหวานไปเมื่อกี๊

    “ชมกันขนาดนี้... ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าจะมานั่งหงอยอยู่คนเดียวได้ตั้งนาน หนุ่มน่ารักๆแบบผมก็มีเยอะแยะไป บางคนน่ะฮอตกว่าผมตั้งเยอะนะรู้มั้ย”

    “จริงๆผมไม่ได้เป็นเกย์หรอกนะ แล้วผมก็มาที่นี่เพราะโดนเพื่อนหลอก”รอยยิ้มที่มุมปากร่างบางหุบไปเล็กน้อยก่อนจะถูกยกขึ้นกว้างกว่าเดิมพร้อมแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อเมื่อร่างสูงพูดประโยคถัดไปออกมา

    .

    .

    .

    “แต่พอเจอคุณ...ผมเริ่มอยาก...เป็นกับเค้าขึ้นมาซะแล้วสิ”

     

     

     

    เอาล่ะถึงตรงนี้อยากอ่านต่อให้ได้ฟีลจิ้มจ้า => http://www.youtube.com/watch?v=UslqIyPZsic

     

     

     

     

    “อ๊ะ นี่เพลงโปรดผมล่ะ ไปเต้นกันนะครับ”ร่างบางผละตัวออกจากร่างสูงเมื่อได้ยินเสียงไวโอลินจากเพลงที่ตนชอบมองไปยังฟลอร์เต้นรำ และหันมายิ้มให้ร่างสูงอย่างเชื้อเชิญ...(แต่เสียดาย...แค่เชิญไปเต้นเฉยๆ //ลุง)(เอ๊อะ =[]= //ไรเตอร์)

    “ถ้าคุณอยาก...”ร่างบางยิ้มกับคำตอบของคนข้างๆก่อนจะดึงแขนแกร่งให้ลุกขึ้นและเดินตามเขาไปยังฟลอร์ข้างหน้า

    “ผมเต้นไม่เก่งหรอกนะ”ร่างสูงกระซิบที่ข้างหูคู่เต้นเบาๆ ร่างเล็กกระตุกยิ้มและยกมือเกี่ยวคอคนตัวสูงกว่าไว้

    “ก็แค่...ปล่อยตัวไปกับเพลง...แล้วก็ผม...เท่านั้นเอง”เขย่งขึ้นกระซิบข้างหูร่างสูงบ้างและไม่ลืมงับใบหูอีกคนให้ตกใจเล่น ก่อนจะจับมือร่างสูงมาวางไว้ที่เอวคอดเล็กของตัวเอง

     

    ร่างบางเริ่มส่ายเอวไปตามจังหวะเพลงอย่างพลิ้วไหว ตากลมทั้งสองข้างที่กรีดอายไลน์เนอร์สีเดียวกับหน้ากากไว้ก็จ้องตาตอบกับร่างสูงยิ้มๆไปพลาง ยิ่งคนบนฟลอร์ที่เยอะขึ้นกว่าเดิมทำให้ทั้งสองคนโดนดันจนยืดตัวชิดกัน พอร่างเล็กขยับตัวทีนึงมันก็โดนตัวร่างสูงข้างหน้าไปหมด แถมมือเล็กทั้งสองข้างก็ย้ายจากที่คอของเขาไปลูบตามแผ่นหลังกว้างช้าๆ  สำหรับร่างสูงแล้วมันเป็นท่าทางที่ยั่วไม่น้อย...ไม่สิ...ยั่วจนจะบ้าอยู่แล้วต่างหาก

     

     

    타란 탈레그라 즐겨봐 
    Tarantallegra ปลดปล่อยตัวเองสิ
    타란 탈레그라 음악에 취해 
    Tarantallegra ลุ่มหลงมัวเมาไปกับเสียงเพลง 
    타란 탈레그라 뭐어때 
    Tarantallegra จะเอายังไงต่อล่ะ?
    타란 탈레그라 망설이지마 
    Tarantallegra อย่าลังเลเลย 
    타란 탈레그라 음악은 
    Tarantallegra ท่วงทำนองนี้ 
    타란 탈레그라 느끼는거야 
    Tarantallegra เธอจะรู้สึกถึงมัน 
    타란 탈레그라 이순간을 
    Tarantallegra ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ 
    타란 탈레그라 다던져봐 
    Tarantallegra ลองทิ้งมันไปให้หมด

     

     

     “Tarantallegra…”ร่างบางซบหัวลงกับต้นคอร่างสูงและพูดออกมาเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน

    “ทารันแทเลกรา...แปลว่าอะไรหรอครับ?”

    “เป็นคาถาที่ทำให้คนที่โดนสาปเต้นน่ะครับ”

    “งั้น...คุณกำลังพยายามสาปผมอยู่หรือไง?”

    “แต่มันติดอยู่ที่ว่า...คำสาปมันจะได้ผลรึเปล่าเนี่ยสิ”พูดพลางมองร่างสูงด้วยแววตายั่วยวนและยักยิ้มท้าทายเล็กน้อย

    “ผมบอกว่าเต้นไม่เก่ง...แต่ไม่ได้บอกว่าเต้นไม่เป็นนี่นะ”ร่างสูงตอบคำเชื้อเชิญของร่างเล็ก ก่อนจะดึงเอวบางให้เข้ามาแนบชิดกับเขามากขึ้น

    “งั้นแปลว่ามนตร์ของผมใช้ได้สินะ ฮิๆ”ร่างบางยิ้มเจ้าเล่ห์ มือนิ่มทั้งสองข้างลูบจากกลางแผ่นหลังผ่านอกกว้างไปยังไหล่และคล้องคอร่างสูงไว้หลวมๆ ทำเอาคนตัวสูงขนลุกซู่ไปทั้งตัว

    “ว่าแต่...เรายังไม่รู้ชื่อกันเลยนะครับ”

    “อ๊ะๆ”นิ้วเรียวยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากหนาไว้และส่ายหน้าเบาๆ

    “หืม?”

    “ในเมื่องานปาร์ตี้นี่มันเป็นปาร์ตี้หน้ากาก ก็แปลว่าคนจัดเค้าต้องการให้เราเจอกัน..ในฐานะคนแปลกหน้า”

    .

    .

    “ดังนั้นเราก็ควรจะทำตามจุดประสงค์ของเขาจริงมั้ยครับ”

    “ถ้าคุณต้องการแบบนั้นก็ได้ครับ...แต่ถ้าผมอยากเจอคุณอีกล่ะ”

    “อันนี้...ก็ต้องอาศัยพระเจ้าแล้วล่ะครับ ว่าท่านจะอยากให้เราได้เจอกันอีกมั้ย”

    “งั้นผมก็เชื่อ...ว่าเราจะได้เจอกันอีกแน่ๆ”ร่างสูงยิ้มบางและวางคางลงบนไหล่ร่างเล็กและสูดกลิ่นหอมจางๆจากน้ำหอมของร่างเล็ก

    Ungaro iii

    “ครับ?”


    “น้ำหอมที่คุณใช้ไง”


    “ฮะๆ คิดว่าอะไร รู้จักกลิ่นนี้ด้วยหรอครับ?”


    “อืม ผมเคยลองอยู่..แต่ไม่ได้ซื้อ”


    “ไม่ชอบหรอครับ?”


    “เปล่าหรอก..กลิ่นมันยั่วจะตาย ให้ใช้กลิ่นนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่สำหรับคุณ...มันเข้ากันได้ดีจนได้กลิ่นแล้ว...หลงเลยล่ะ”ก้มลงจนหน้ากากบนใบหน้าทั้งสองแตะกันและกระซิบประโยคสุดท้ายแผ่วเบาพลางลูบที่เอวเล็กน่าจับนั้นเบาๆไปตามจังหวะเพลง


    “อ่า...ชมอย่างงี้ผมเขินนะครับ แต่หลงแล้ว...ก็อย่าลืมกันแล้วกันนะ”ตากลมสบกับตาคมของอีกคนและยิ้มออกมา อีกครังที่แก้มขาวใต้หน้ากากพลาสติกขึ้นสีชมพูระเรื่อ


    “ไหนๆเราก็ไม่รู้ชื่อคุณ... ผมจะจำกลิ่นน้ำหอมที่คุณใช้ไว้แล้วกัน จนกว่าเราจะได้เจอกันอีก...อย่าเพิ่งเปลี่ยนรุ่นแล้วกันนะครับ”


    “แหม แผนสูงจังนะครับ ฮะๆ”


    “ก็ผมอยากเจอคุณอีกนี่นา...แบบไม่มีหน้ากากปิดหน้าน่ะ”


    “ถ้าคุณต้องการแบบนั้นล่ะก็....งั้น...”ร่างเล็กยิ้มมุมปาก ก่อนจะเขย่งเล็กน้อยและซุกหน้าเข้ากับซอกคอของอีกคน


    Acqua Di Gio...สินะครับ”


    “อื้ม...อ๊ะ”ร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อคนตัวเล็กในอ้อมกอดทายถูก ก่อนจะร้องออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นแฉะๆที่ต้นคอและลากไปยังใบหู


    “กลิ่นที่คุณใช้...ก็ยั่วผมเหมือนกันน่ะแหละ”กระซิบแผ่วเบาก่อนจะผละออกมายักคิ้วท้าทายให้ร่างสูงก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน


    “คุณจะทำให้ผมหลงไปถึงไหนกันนะ?"


    “ผมเองก็ไม่ต่างจากคุณหรอกนะครับ...อยากเจอคุณอีกจัง...หลังจากคืนนี้ผ่านไป”


    “ก็บอกผมมาสิครับ..ว่าผมจะเจอคุณได้ที่ไหน”


    “ผมก็อยากอยู่...แต่เดี๋ยวมันจะไม่สนุกน่ะสิครับ อาศัยโชคชะตาให้เรากลับมาเจอกันซักวันนึง..ถ้าวันนั้นเรายังจำกันได้...”ร่างเล็กหยุดพูดไปก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบที่ริมฝีปากหยักของร่างสูงเบาๆ


    “ค่อยคุยกันอีกทีละกันเนอะ”นิ้วเรียวลูบไปตามซีกใบหน้าหล่อคมของร่างสูงเบา ก่อนจะลากปลายนิ้วไปหยุดที่หน้าอกข้างซ้ายของคนข้างหน้าและลากวนไปมา


    “คุณกำลังทำให้ผมคลั่งนะ...เดี๋ยวผมทนไม่ไหวขึ้นมาไม่รู้ด้วยล่ะ”









    “ถ้าทนไม่ไหว...ก็ไม่ต้องทนสิครับ...”ไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ อ้อมแขนแกร่งคว้าท้ายทอยของร่างบางเข้ามาใกล้ และครอบครองริมฝีปากอวบอิ่มยั่วยวนนั้นอย่างเร่าร้อน มือหนาย้ายจากเอวบางลงไบยังบั้นท้ายกลมกลึงที่ถูกปิดไว้ด้วยกางเกงเนื้อผ้าชั้นดีตัวฟิตและถูไปมาเบาๆ ร่างเล็กไม่ได้ขัดขืนอะไรแต่กลับเลื่อนมือขึ้นกำที่กลุ่มผมดำสนิทของร่างสูงอย่างคละเคลิ้ม


    “กว่าจะถึงวันที่เราเจอกันอีก...ผมคงตายเพราะคิดถึงคุณซะก่อนล่ะมั้งเนี่ย”ร่างสูงถอนจูบออกช้าๆและจ้องลงไปในแววตาใสของร่างเล็กที่ทำให้เขาหลงตั้งแต่แรกเจออีกครั้ง


    “ก็ขอให้พระเจ้าทำให้เราเจอกันเร็วๆสิครับ...ผมเองก็อาจจะตาย...เพราะคิดถึงจูบของคุณเหมือนกัน”ร่างสูงยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะกดจูบไปอีก...ครั้งแล้ว...ครั้งเล่า

     

     

     

     

    ________________________________________________________

     

     

     

     

     

     

     

     

    “สรุปคือมึงเป็นเกย์”


    “ฉันไม่ใช่เกย์ว้อยยยยยยย”


    “อ้าวแต่คุณมึงบอกเองว่าปิ๊งหนุ่มน้อยคนนั้น ผู้ชายชอบผู้ชายไม่เรียกว่าเกย์มึงจะเรียกว่าเลสเบี้ยนรึไงวะไอ้ฟาย?”


    “ก็ใช่อยู่ว่าคนที่กูชอบเป็นผู้ชาย แต่หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่เคยรู้สึกอะไรกับผู้ชายที่ไหนนะเว่ย”


    “แต่ยังไงคุณมึงก็ชอบผู้ชายอยู่ดี...ยองรับเห๊อะว่าตัวเองเป็นเกย์ แค่เป็นเกย์ซื่อสัตย์= =


    “ถ..ถึงอย่างนั้นเถอะ ถ้าแกบอกฉันตั้งแต่แรกว่าที่นั่นเป็นบาร์เกย์ฉันอาจจะไม่กลายเพศแบบนี๊!!


    “อ่ะเลือกดิ๊ว่าจะเอาคนๆนั้น หรือจะรักษาความศักดิศีความแมนไร้ประโยชน์ของคุณมึง”


    “เออะ...ก..ก็ได้ กูเป็นเกย์พอใจยัง!!!

     





    “อ..เอ่อ คุณยุนคะ ลูกค้าที่ติดต่อซื้อที่ไว้มาถึงแล้วนะคะ ให้เข้ามาเลยมั้ยคะ?”


    “อ..อือ ให้เข้ามาได้เลยครับ”ร่างสูงหันไปพยักหน้าให้เลขาสาวสวยก่อนจะกลับมาคุยกับเพื่อนปากห้อยของตัวเองต่อ (จะอะไรกับปมด้วยหนู
    นักหน๊าาาา
    TT3TT // โจ๊ก)


    “นี่แกบอกให้แฟนสุดสวยของแกจัดงานนั่นอีกรอบไม่ได้หรอวะ เผื่อคนนั้นเค้าจะโผล่มาอีกไรงี้”


    “ถ้าอยากเจอเค้านัก ทำไมคุณมึงไม่ไปจ้างคนหาเลยวะว่ามีคนซื้อน้ำหอมยี่ห้อนั่นไปกี่คน แล้วก็ไปตามทีละคนๆเลย”


    “เออว่ะ ความคิดเข้าท่า...”


    “โอ๊ยยย กรูประช๊ดดด”

     

     








    “อ..เอ่อ ขอโทษนะครับ ที่นัดคุยเรื่องซื้อที่ไว้”เสียงใสติดแหบเล็กน้อยดังขึ้นจากหน้าประตูห้องที่แง้มไว้ขัดบทสนทนาของร่างสูงทั้งสองไว้เสียก่อน


    “ครับ เชิญนั่งก่อนได้เลยครับ เฮ้ยไอ้ห้อยรับแขกให้แป๊บดิ”ร่างสูงผิวเข้มทักทายผู้เข้ามาใหม่อย่างสุภาพก่อนโดยไม่ได้หันไปมอง ก่อนจะเรียกเพื่อนสนิทให้ทำหน้าที่แทนไปก่อนระหว่างตัวเองค้นเอกสาร แต่ในหัวก็คิดถึงเรื่องอีกเรื่อง

     

     

     

     

     

     

    เสียงเหมือนกันเลย...

     

     

     

     

     

     

    “คุณยังโยซอบสินะครับ”ร่างสูงถามขึ้นระหว่างอ่านข้อมูลต่างๆของโครงการ


    “ครับ ส่วนคุณก็..ยุน...ดู...จุน... อ่า ตอนที่เดินเข้ามาผมคิดว่าคุณชื่อมึงซะอีก เห็นคุณจุนฮยองเรียกคุณว่าคุณมึง ฮะๆ ยัไงก็...ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”


    “อ๊ยย่ะ!! มุกโดนมากครับคุณโยซอบ”


    “เช่นกันครับ...นั่น”ร่างสูงเงยหน้าขึ้นยิ้งตอบให้ลูกค้าแต่กลับไปสะดุดตาเข้ากับเสื้อผ้าของร่างเล็กบนเก้าอี้รับแขกเข้า

     

     

     

     

     

     

    สูทตัวเดียวกันด้วย...

     

    สูทกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มรุ่นหายากที่ผลิตออกมาเพียงไม่กี่ตัว และยังตัดตามขนาดที่สั่งเท่านั้น...ไม่น่าจะบังเอิญได้ขนาดนั้นหรอกมั้ง...

     

     

     

     

     

     

    “ค..ครับ? มีอะไรติดหน้าผมหรือเปล่า มีอะไรรึเปล่าครับคุณจุนฮยอง”ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันชี้หน้าตัวเองกับจุนฮยองงงๆ


    “ไม่นี่ครับ หน้าคุณก็ยังน่ารักเหมือนเดิม”


    “พูดไปเถอะครับ เดี๋ยวฮยอนซึงมาได้ยินเข้าผมไม่รู้ด้วยนะ แล้ว...เมื่อกี๊คุณดูจุนเป็นอะไรรึเปล่าครับ?”


    “อ๋อ เปล่าหรอกครับ สูท...สวยดีนะครับ”


    “ขอบคุณครับ ตัวโปรดผมเลยล่ะ”


    “แล้วนี่..คูณโยซอบกับไอ้จุนรู้จักกันด้วนหรอครับ?”


    “อ๋อ... พอดีว่า”


    “ชื่อโยซอบรึไงมึงอ่ะ”ร่างสูงหันไปค้อนใส่เพื่อนรักพลางส่งสายตาชิ้งๆ จนเพื่อนปากห้อยเงียบไป


    “ฮะๆ คุณดูจุนนี่ตลกดีจังนะครับ.. คือว่าผมเป็นเพื่อนสนิทกับฮยอนซึงตั้งแต่ประถมแล้วล่ะครับ ก็เลยรู้จักกับคุณจุนฮยองตั้งแต่เริ่มมาตามจีบฮยอนซึงใหม่ๆแล้ว”


    “อ้อ... ผมว่าเรามาเริ่มคุยเรื่องงานกันเลยดีมั้ยครับ”


    “นั่นสินะครับ”ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปนั่งยังโซฟาตรงข้างกับร่างบางพร้อมกับกางเอกสารงานลงบนโต๊ะ


    “งั้นผมไปก่อนแล้วกันนะครับคุณโยซอบ เอ้ยคุณมึงฉันไปก่อนนะ”


    “ก็ควรจะไปได้ตั้งนานแล้วล่ะ”หันไปยิ้มกวนส้นทรีนให้เพื่อนรัก ก่อนสุดหล่อปากห้อยจะเดินสะบัดบ๊อบออกไปจากห้องทำงาน


    “คุณก็ไม่น่าไปแกล้งเค้าเลยนะครับ”


    “เราก็เล่นกันอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะครับ ไม่โกรธกันหรอก”


    “ถ้าคุณพูดอย่างนั้นก็โอเคครับ”


    “เอ่อ...งั้นผมเริ่มอธิบายให้คุณฟังเรื่องพื้นที่ที่คุณจะซื้อเลยดีกว่า”


    “อ้อ ครับ”ว่าแล้วทั้งคู่ก็เริ่มกลับมาเอาจริงเรื่องงาน แต่ร่างเล็กคงไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่เขาก้มลงมองเอกสารบนโต๊ะ ดวงตาคมจะคอยแอบมอง
    เขาอยู่ตลอด

     

     

     

     





    ถึงจะไม่ได้เห็นใบหน้าจริงๆใต้หน้ากากในวันนั้น









    ถึงผมที่ถูกเซ็ทชี้เปิดหน้าผากขึ้นในวันนั้นตอนนี้จะถูกไดร์ตรงให้เป็นผมซอยประบ่าและหน้าม้าตรงจนเปลี่ยนลุคจากเซ็กซี่เป็นน่ารักไปทันตา










    ถึงที่ขอบตาทั้งสองจะไม่ได้มีอายไลน์เนอร์สีดำหนากรีดทับอยู่ แต่แววตากลมใสแฝงแววเชื้อเชิญให้เข้าหานั้น คงไม่ได้มีเหมือนกันทั่วไปหรอกนะ

    .

    .

    .








    ไม่ผิดแน่ๆ ต้องเป็นคนนี้ไม่ผิดแน่ๆ



     

     

     








     

    “ขอโทษนะครับคุณดูจุน ผมสงสัยตรงนี้นิดหน่อย”ร่างบางถามขึ้นโดยที่ยังไม่ละสายตาออกจากปึกกระดาษตรงหน้า ถ้าเขาเงยหน้าขึ้นมาอีกซักนิดก็คงสบตากับร่างสูงเข้าเต็มๆ


    “ครับ ตรงไหนเอ่ย”


    “ตรงนี้น่ะครับ...เรื่องสัญญาที่บอกว่าจะต้องให้ทางคุณเป็นหุ้นส่วนสี่สิบเปอร์เซ็นต์”


    “ต..ตรงไหนนะครับ”ร่างสูงหรี่ตาเล็กน้อยและเพ่งลงไปยังจุดที่ร่างบางชี้แต่เพราะอ่านกลับหัวเลยมองไม่ออกซักที


    “คุณมานั่งตรงนี้ก็ได้นะครับเพ่งอย่างนั้นเดี๋ยวหน้าผากย่นหมด”ร่างเล็กพูดยิ้มๆพลางยื่นมือมาคลายปมขมวดตรงหว่างคิ้วของอีกคนเบาๆ


    “อีกอย่าง โซฟานี่ก็ออกจะเบ้อเร่อ มีคนมานั่งด้วยมันก็อบอุ่นดี”ส่งยิ้มหวานมาอีกครั้งก่อนจะพูดประโยคคุ้นหู


    “อ่า...ครับ”ว่าแล้วก็ย้ายก้นไปยังที่นั่งว่างบนโซฟาทันที


    “ตรงนี้ครับ ที่ผมไม่เข้าใจ”


    “ครับ....คืออย่างนี้”ร่างสูงเริ่มอธิบายข้อตกลงต่างๆอีกครั้ง ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่ทุกครั้งที่เขาเงยหน้าขึ้น ร่างเล็กจะเขยิบเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ


    “อ๊ะ!”ทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันเมื่ออยู่ดีๆากกาแท่งหนึ่งก็กลิ้งตกจากโต๊ะ ร่างสูงก้มลงเก็บมันขึ้นมาแตะก่อนจะกลับมานั่งก็ต้อง
    ชะงักไปเมื่อใบหน้าของร่างเล็กที่ก้มลงเก็บปากกาพร้อมกันอยู่ห่างจากเขาไปเพียงไม่กี่เซ็น



    ทั้งสองจ้องตากันนิ่งราวกับเห็นเดจาวู กลิ่นอ่อนๆของว็อดก้า บุหรี่และกุหลาบที่ผสมกันอย่างลงตัวในน้ำหอมกลิ่นคุ้นเคยจากคนตัวเล็กตรงหน้าลอยเข้ามาแตะที่ปลายจมูกร่างสูงเล็กน้อย

     

     

     

     

     

    Ungaro iii…

    Acqua Di Gio…

    ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน ร่างเล็กมองตาอีกคนอย่างตกใจนิดๆ ทำให้ร่างสูงยิ่งยกยิ้มสูงขึ้น

     












    “คุณจริงๆด้วย”


    “ค..ครับ?”


    “ผมบอกแล้วไง...ว่าพระเจ้า...ต้องพาเรามาเจอกันอีกแน่ๆ”







    “อ..อย่าบอกนะว่า..คุณ???”









    “ครับผมเอง...ผมคิดถึงคุณแทบบ้า...คุณยังโยซอบ”ร่างสูงยิ้มมุมปากก่อนจะโอบเอวบางเข้ามาใกล้เบาๆ


    “เช่นกันครับ...คุณดูจุน”ร่างบางยิ้มบางๆก่อนจะกระเถิบขึ้นนั่งบนตักร่างสูงและโอบคออีกคนไว้หลวมๆ


    “คิดถึงผม...หรือคิดถึงแค่จูบของผมกันแน่ครับหืม?”


    “เอาง่ายๆเลยนะครับ...อะไรที่เป็นคุณ...ผมก็คิดถึงมั้งนั้นน่ะแหละ”


    “งั้นผม...ขอชดเชยเวลาที่คุณทำให้ผมคิดถึงหน่อยแล้วกันนะ”ร่างเล็กยกยิ้มยั่วยวนแทนคำตอบ ก่อนคนตัวสูงจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นและโน้มใบหน้าลงลิ้มรสความหวานจากริมฝีปากอวบอิ่มที่ห่างหายมานานอย่างโหยหา ลิ้นร้อนความหาความหวานซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างกระหาย ซึ่งร่างบางตรงหน้าก็ดูจะตอบรับจูบของเขาได้ดีเหลือเกิน ดีเสียจนไม่อยากถอนริมฝีปากออกมาเลย

     












    แกร่ก


    “เฮ้ย คุณมึงกูมือเรื่องจะ...เอ่อ ตามสบาย...”ร่างสูงผู้มาใหม่เปิดประตูเข้ามาแต่ก็ต้องหมุนตัวกลับออกไปทันทีที่เห็นภาพทั้งสอง


    “เสร็จวันนี้ไปคูณมึงมีเรื่องต้องคุยกับผมอีกยาวนะครับ ฮ่าๆๆ”คุณเพื่อนรักทิ้งท้ายไว้เล็กน้อยก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าออกไปชิลๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...แถงยังไม่ลืมล็อคประตูให้อีกต่างหาก



















    “อ...เอ่อ คุณดูจุนครับ”ร่างเล็กซบลงกับอกกว้างพลางหอบหายใจเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตาอีกคนตาเยิ้ม


    “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ไอ้จุนฮยองมันไม่บอกใครหรอก”พูดยิ้มๆ พลางลูบหัวคนบนตักเบาๆอย่างเอ็นดู


    “ผมก็ไม่ได้กลัวเรื่องนั้นหนอกครับ...ผมแค่จะถามว่า...”

     


























    “เมื่อกี๊...เรา...ถึงไหนกันแล้วนะครับ?”

     

     

     

     

     

     

    จบจ้ะ

     

     

    เอาล่ะ เป็นยังไงกันบ้างกับลุคใหม่ของย้วย ชอบกันมั้นทุกคนนนนนนน?

    คือเราก็พยายามจะเขียนเอ็นซีอ่ะนะแต่มันไม่ได้จริงๆ 555

    ตอนนี้เอาแค่จูบไปก่อนแล้วกันเนอะ เราอาจจะบรรยายป่วงๆแปร่งๆหน่อยนะคะ

    ต้องขอโทษด้วย แต่หวังว่าทุกคนจะชอบนะ

     

     

     

     

    ปล. อยากเห็นโยหรือลุงแบบไหนกันอีกมั้ยเอ่ย ถ้ามีคาแร็คเตอร์แบบไหนจะแนะนำหรือรีเควสก็เม้นไว้นะเรากลับมาอ่านทุกวัน



    แอบเอาหน้ากากของยังโยมาแปะ มันคือแรงยันดาลใจในการแต่งฟิคอันนี้ของเราเลย><

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×