ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สิทธิ์รักเทพบุตรร้าย (อีบุ๊ก)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 2-2 คู่หมั้นที่ไม่เคยต้องการ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.62K
      18
      11 ก.ค. 63

    Thumbnail Seller Link
    สิทธิ์รักเทพบุตรร้าย
    วรินทร์นารี
    www.mebmarket.com
    เจคอบ มอร์แกน นักฟุตบอลหนุ่มรูปหล่อตำแหน่งกองกลางของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอนต้องหัวเสีย เมื่อถูกมารดาบังเกิดเกล้าบีบบังคับให้แต่งงานกับคู่หมั้นที่...
    Get it now
    จัดโปรลดราคา 10 วันค่ะ จาก 279 บาท เหลือ 159 บาทค่ะ

    รถยนต์สมรรถนะสูงสีดำมันปลาบค่อยๆ ชะลอตัวเมื่อเห็นรถยนต์มินิคูเปอร์สีฟ้าขาวคันคุ้นตาขับสวนไปบนถนนหลัก มองปราดเดียวก็จำได้ไม่ผิดแน่
    “ยายเด็กแสบ”
    เจคอบสบถเบาๆ ก่อนจะรีบเลี้ยวรถแล้วขับตามรถของอลิซไป อารมณ์ทั้งโมโหทั้งห่วงใยผสมปนเปกันไปหมด จนไม่แน่ใจว่าอารมณ์ไหนที่มีมากกว่ากัน 
    ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้ง ก่อนจะเหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มระดับความเร็ว จนกระทั่งตามทัน ร่างสูงไม่รอช้า ขับรถปาดหน้าและจอดขวางรถของเธอเอาไว้ อลิซแทบเหยียบเบรกเอาไว้ไม่ทัน ด้วยความที่ไม่ทันได้มองว่าเป็นรถของใคร ร่างเล็กจึงรีบพรวดพราดออกจากรถ เตรียมจะเอาเรื่องคนขับรถไร้มารยาท
    ร่างสูงที่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ตรงหน้าเธอ ทำให้อลิซแทบลืมหายใจ ก่อนจะรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงก่อนหน้านี้ให้กลับคืนมา ร่างบางถอยหลังกรูดเตรียมจะหนีเข้าไปในรถ แต่ไม่ทันเมื่อร่างสูงก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้าถึงตัวเธอ คว้าหมับเอามือเล็กไว้ในอุ้งมือใหญ่กระตุกเพียงนิดร่างบางก็เสถลาเข้าหาแผ่นอกกว้างอย่างไม่เป็นท่า
    “ทำไมไม่กลับบ้าน ไปไหนมา”
    เจคอบเค้นถามเสียงหนัก หน้าตาก็ดูบึ้งตึงจนน่าหวาดกลัว แต่ด้วยความที่กำลังน้อยอกน้อยใจที่อีกฝ่ายโยนข้อเสนออันแสนโหดร้ายใส่หน้า อลิซจึงแสร้งใจกล้าตอบออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
    “มันเรื่องของอลิซ พี่เจคจะมายุ่งอะไรด้วย”
    ใบหน้าเรียวสวยเชิดขึ้นนิดๆ ยามที่โต้ตอบอีกฝ่าย โดยไม่รู้ตัวเลยว่าไปกระตุ้นให้คนที่กำลังอารมณ์ขุ่นมัวอารมณ์เสียเข้าไปกันใหญ่
    “พี่ก็ไม่อยากยุ่งหรอก ถ้าอาข้าวหอมไม่โทร.หาพี่ แล้วบอกว่าลูกสาวหายไป พี่ก็จะไม่ออกมาตามแบบนี้หรอก”
    ร่างบางชาดิกกับคำตอบกลับของอีกฝ่าย ในใจหวังว่าที่เขาตามมาเพราะจะห่วงใยเธอบ้าง สักนิดก็ยังดี แต่นี่เปล่าเลย ที่เขามาตามก็เพราะมารดาของเธอคงโทร.ไปรบกวน เขาจึงยอมเป็นธุระออกมาตามหาเธออย่างไม่เต็มใจเพราะไม่อาจปฏิเสธได้ก็เท่านั้นเอง
    “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์มาตามหาอลิซแทนคุณแม่ แต่ทีหลังถ้าคุณแม่โทร.ไปรบกวนพี่เจคก็ปฏิเสธได้เลยค่ะ คุณแม่จะได้ไม่กล้ารบกวนอีก”
    “พี่มีมารยาทพอที่จะไม่ปฏิเสธผู้ใหญ่ และก็เลิกเล่นแง่เสียที”
    เจคอบบอกเสียงกระด้าง ความเย่อหยิ่งทำให้เขาไม่ยอมพูดว่าที่ออกมาตามก็เพราะห่วงเธอด้วย ไม่อย่างนั้นเด็กแสบจะยิ่งได้ใจ เขาจึงบอกในสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึกออกไป
    อลิซตวัดสายตาขุ่นเคืองมองคนตัวโต เฮอะ ทำเป็นบอกว่าตัวเองมีมารยาท อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก มีมารยาทกับทุกคนยกเว้นกับเธอล่ะสินะ
    “ถ้าอย่างนั้นพี่เจคก็ปล่อยอลิซสิคะ อลิซจะได้กลับบ้านเสียที”
    อลิซพยายามกระชากข้อมือเล็กออกจากอุ้งมือแข็งแรง แต่เธอไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิด นอกจากเขาจะไม่ยอมปล่อยแล้วยังกระชับให้แน่นมากยิ่งขึ้น
    “พี่ปล่อยแน่ แต่อลิซต้องตอบพี่มาก่อนว่าหายไปไหนมา”
    “นั่นมันเรื่องของอลิซ อลิซจะไปไหนก็ได้ อลิซโตแล้วนะคะ”
    “หึ โตแล้ว โตแล้วแต่ทำให้คนอื่นเป็นห่วงเนี่ยนะ”
    น้ำเสียงกึ่งเยาะกึ่งตำหนิ ทำให้อลิซอารมณ์กรุ่น ความน้อยอกน้อยใจที่อีกฝ่ายไม่ใส่ใจไยดีในตัวเธอ ทำให้อลิซดื้อแพ่งโต้แย้งกลับไป
    “คนอื่นเป็นห่วง แต่พี่เจคไม่ได้ห่วง พี่เจคจะมาเดือดร้อนอะไรด้วยคะ”
    “อลิซ!”
    เจคอบเพิ่มน้ำหนักในการบีบรัดข้อมือเล็กโดยไม่รู้ตัว อารมณ์ขุ่นมัวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเพราะความดื้อดึงของอีกฝ่าย ถึงแม้จะเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด แต่อลิซก็ไม่ปริปากบ่นแม้แต่นิดเดียว
    “ปล่อยค่ะ อลิซจะกลับบ้าน”
    อลิซบอกเสียงขมขื่น ไม่มีสักครั้งเลยที่เขาจะพูดจาดีๆ กับเธอ ซ้ำเวลาที่เห็นหน้าเธอเขาก็ทำทีท่าเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดา แต่ก็เอาเถอะ เธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก ยังพอมีเวลาอีกตั้งสามเดือนที่จะพิชิตใจเขาได้ แต่ตอนนี้เธออ่อนแอเกินกว่าจะรับมือเขาไหว เขาควรปล่อยให้เธอไปตั้งหลักบ้าง ไม่ใช่ยื้อยุดฉุดกระชากเธอเอาไว้แบบนี้
    “ไม่ปล่อย ถ้าไม่บอกว่าหายไปไหนมาก็อยู่กันแบบนี้แหละ เลิกเล่นแง่เสียที บอกพี่มาเดี๋ยวนี้ว่าหายไปไหนมา”
    อลิซส่งค้อนวงใหญ่ไปให้เขา แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกรู้สา ยังคงทำสีหน้าบึ้งตึงได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนเจคอบนั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาขุ่นเขียว เสียงทุ้มต่ำจึงถามย้ำอีกครั้ง
    “ตอบพี่มาเดี๋ยวนี้”
    อลิซตวัดสายตาขุ่นมองเขาอีกครั้ง ก่อนจะตอบออกไปอย่างกระแทกกระทั้น
    “ไปนั่งชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอายมาค่ะ”
    “ไปกับใคร”
    เจคอบเค้นถามเสียงหนัก อารมณ์กรุ่นๆ เริ่มปะทุขึ้นมาอีกรอบ ถ้าคำตอบที่ได้รับไม่เป็นที่พอใจแล้วละก็ เขาจะจัดการเด็กแสบนี่ให้อยู่หมัดเลยคอยดู
    “ไปกับใครก็ได้ค่ะที่ไม่ใช่พี่เจค”
    อลิซตอบอย่างรวนๆ แต่ทำเอาคนฟังเดือดปุด แต่เขาก็ใจดีพอที่จะให้โอกาสเธอได้พูดแก้ตัวอีกสักครั้ง
    “ตอบดีๆ อลิซ อย่าให้พี่ต้องโมโหมากไปกว่านี้”
    “ก็ได้ค่ะ อลิซไปกับเพื่อน เพื่อนผู้ชายค่ะ พี่เจคพอใจกับคำตอบหรือยังคะ”
    “อลิซไม่มีสิทธิ์ทำตัวเหลวไหลแบบนั้น ในเมื่ออลิซยังเป็นคู่หมั้นของพี่อยู่”
    “คู่หมั้นอย่างนั้นหรือคะ? คู่หมั้นที่พี่เจคไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยแยแส และไม่เคยต้องการมาตั้งแต่ทีแรกแล้วนี่คะ”
    “จะอะไรก็ช่าง อลิซไม่มีสิทธิ์ทำตัวเหลวไหล ยังไงซะตอนนี้อลิซก็ยังอยู่ในสถานะคู่หมั้นของพี่ เพราะฉะนั้นอย่าทำตัวเหลวไหลแบบนั้นอีกเป็นอันขาดเพราะจะเสื่อมเสียมาถึงพี่”
    “งั้นหรือคะ ก็ได้ค่ะ ต่อไปนี้เราไม่ใช่คู่หมั้นกันแล้ว เอาแหวนของพี่เจคคืนไปเลยค่ะ อลิซไม่ต้องการ”
    มือเล็กอีกข้างที่ไม่ได้ถูกเขาพันธนาการเอาไว้ คว้าหมับตรงตำแหน่งแหวนหมั้นที่สวมบนนิ้วนางข้างซ้าย ก่อนจะกระชากออกสุดแรงอย่างไม่สนใจไยดีว่าผิวหนังบริเวณนั้นจะถลอกหรือเป็นรอยแดงหรือไม่ เธอจับแหวนวงนั้นยัดใส่มือเขาก่อนจะกระชากมือเล็กอีกข้างที่ถูกอุ้งมือใหญ่พันธนาการเอาไว้ออกด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี และคราวนี้เธอก็ทำสำเร็จ มือเล็กเป็นอิสระ ตวัดสายตาขุ่นมองเขาอีกครั้งแล้วหันหลังเตรียมเข้าไปในตัวรถ แต่เธอไม่สามารถเปิดประตูรถได้ เมื่อร่างสูงเข้าประชิดตัวเธอจากทางด้านหลัง ใช้มือหนาข้างหนึ่งค้ำยันประตูไว้ อลิซถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนจะค่อยๆ เอี้ยวตัวกลับมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
    “มีอะไรอีกคะ”
    เจคอบไม่ตอบ ร่างสูงยกยิ้มมุมปากจนคนที่แสร้งทำใจกล้าเกิดอาการหวาดหวั่น นัยน์ตาสีเทาอมฟ้ากำลังฉายแววบางอย่างที่บ่งบอกได้ว่าเธอกำลังจะไม่ปลอดภัย
    “จะ...จะทำอะไรคะ”
    อลิซเกิดอาการลมหายใจสะดุดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อใบหน้าคมคายโน้มลงต่ำจนลมหายใจร้อนผ่าวปะทะเข้ากับใบหน้าเนียนใสจนแทบไหม้
    “หึๆ แล้วอลิซคิดว่าพี่จะทำอะไรล่ะ”
    เจคอบจงใจกระซิบชิดกลีบปากนุ่ม อลิซพยายามเอนตัวหลบแต่ทางหนีไม่มีให้เธอเลย เมื่อแผ่นหลังบอบบางชิดกับประตูรถจนเธอหลบเลี่ยงไปไม่ได้อีก
    “อย่าทำอะไรอลิซนะคะ ถะ...ถ้าพี่เจคทำ อลิซจะ...อลิซจะเกาะติดชีวิตพี่เจคและพี่เจคจะไม่มีทางสลัดอลิซออกจากชีวิตได้อีกเลยนะคะ จะลองดูก็ได้”
    อลิซข่มขู่ทั้งที่ตนเองก็ตกเป็นรอง คนถูกขู่ทำเพียงยิ้มยั่ว เลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างกวนอารมณ์ ก่อนจะตอกกลับจนคนขู่หน้าเจื่อน
    “งั้นเหรอ น่ากลัวจัง”
    ร่างสูงไม่ยี่หระทั้งยังไหวไหล่เบาๆ อย่างกวนประสาท ก่อนที่อลิซจะได้โต้ตอบกลับไป มือบางข้างซ้ายก็ถูกอุ้งมือใหญ่ครอบครองเอาไว้แล้วสวมแหวนวงที่เธอยัดใส่มือของเขาก่อนหน้านี้ลงบนนิ้วนางข้างซ้ายดังเดิม
    “อย่าให้พี่เห็นอีกว่าถอดแหวนวงนี้ออก ไม่งั้นเราได้เห็นดีกันแน่ จะลองดูก็ได้”
    เจคอบยอกย้อนกลับจนน่าหมั่นไส้ ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาออกห่าง ปรับสีหน้าให้เรียบเฉยตามเดิมอีกครั้ง มือหนากระชากประตูรถออกแล้วผลักร่างเล็กเข้าไปด้านในพร้อมคาดเข็มนิรภัยให้อย่างเสร็จสรรพ
    “ขับรถกลับบ้านดีๆ เดี๋ยวพี่จะขับตามไปส่ง เข้าใจไหม”
    “...” อลิซแสร้งทำเฉย ไม่ยินดียินร้ายในสิ่งที่อีกฝ่ายถาม ใบหน้าเรียวสวยงอง้ำเพราะขัดใจ
    “พี่ถาม ได้ยินไหม” เจคอบโน้มใบหน้าลงต่ำจนปลายจมูกโด่งสัมผัสเข้ากับแก้มใส อลิซสะดุ้งเฮือก ใบหน้าเนียนใสเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ความร้อนวูบวาบแล่นไปตามรูขุมขน จนเจ้าตัวต้องรีบเบนหน้าออกจากใบหน้าคมคาย
    “ทราบแล้วค่ะ”
    เจคอบกระตุกยิ้มมุมปาก โดนนิดโดนหน่อยก็สะดุ้งไปทั้งตัว แล้วริอยากจะแต่งงาน เด็กหนอเด็ก
    เจคอบขับรถตามหลังอลิซไปพร้อมๆ กับต่อสายหาปรียาภัทรมารดาของอลิซเพื่อแจ้งว่าพบตัวแล้วและกำลังจะพาไปส่งบ้าน จะได้คลายกังวลใจ

    กว่าทั้งคู่จะมาถึงคฤหาสน์เรมี่ซึ่งเป็นบ้านของอลิซก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าเนื่องจากเห็นว่าดึกแล้วเจ้าบ้านอย่างปรียาภัทรและอารอนมารดาและบิดาของหญิงสาวจึงเชื้อเชิญให้เจคอบค้างคืน ด้วยเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายถ้าต้องเดินทางดึกๆ ดื่นๆ ใจจริงเจคอบอยากจะปฏิเสธแต่เขาก็มิอาจเสียมารยาทเมื่อผู้ใหญ่ให้ความเมตตา และเขาก็เคยค้างคืนที่คฤหาสน์เรมี่แล้วหลายครั้ง แต่ทุกๆ ครั้งบิดาและมารดาของเขาก็จะมาพักด้วยตามประสาครอบครัวที่สนิทสนมกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องฉายเดี่ยว
    หวังว่าเด็กแสบคงไม่คิดอะไรแผลงๆ เป็นต้นว่าย่องเข้าห้องเขากลางดึกหรอกนะ
    เจคอบพักที่ห้องรับรองแขกที่อยู่ทางปีกซ้ายของตึก ส่วนห้องของเจ้าของบ้านจะอยู่ทางปีกขวาของตึกทั้งหมด ร่างสูงรื้อเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเป้ที่หยิบขึ้นมาจากรถเพราะเขาต้องมีเสื้อผ้าสำรองติดรถไว้ตลอดเอาไว้เปลี่ยนหลังซ้อมบอล หลังจากที่จัดการชำระร่างกายเรียบร้อยแล้วก็สวมใส่เสื้อผ้าเหล่านั้นลงบนเรือนกายกำยำ ร่างสูงเอนตัวลงนอน แผ่นหลังกว้างสัมผัสที่นอนหนานุ่มไม่ทันถึงนาทีด้วยซ้ำ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นอย่างขัดจังหวะเสียก่อน
    “ยายเด็กแสบ”
    เจคอบทำสีหน้าเบื่อหน่าย แต่ร่างสูงก็ยอมลุกจากเตียงกว้างไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายแบบไม่เต็มใจนัก
    “มีอะไร”
    เขาคิดผิดเสียที่ไหน เป็นยายเด็กแสบจริงๆ แถมยังยืนฉีกยิ้มกว้าง ไม่สะทกสะท้านกับใบหน้าหล่อเหลาที่ดูบึ้งตึง ทั้งยังถือวิสาสะแทรกตัวเข้ามาด้านในโดยที่เจ้าของห้องชั่วคราวอย่างเขาไม่ได้เชื้อเชิญ
    อลิซทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียง ร่างสูงรีบสาวเท้าตามมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าหล่อเหลายังคงบึ้งตึงอย่างคงเส้นคงวา แต่อลิซก็ไม่ได้สะทกสะท้าน ใบหน้าเรียวเล็กก็ยังคงฉีกยิ้มกว้างอย่างคงเส้นคงวาเช่นกัน
    “พี่ถามว่ามีอะไร แล้วดึกดื่นแบบนี้มันสมควรแล้วหรือที่ย่องเข้าห้องคนอื่นแบบนี้”
    “คนอื่นที่ไหนกันคะ ย่องเข้าห้องคู่หมั้นตัวเอง ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่คะ”
    “อลิซ!”
    เจคอบอยากจะบ้าตายกับคำตอบของเธอ เอาเถอะ ในเมื่ออยากจะใช้สิทธิ์คู่หมั้นมากขนาดนั้น เขาก็จะเปิดโอกาสให้เธอได้ใช้อย่างเต็มที่ ก่อนที่สิทธิ์นั้นจะหมดลง ซึ่งไม่น่าจะเกินสามเดือน
    ร่างสูงพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะถามคำถามเดิมอีกครั้ง
    “ตกลงมาหาพี่มีอะไร”
    “อลิซจะมานอนด้วยค่ะ”
    ‘ยายเด็กแก่แดด’
    เจคอบต่อว่าในใจ มองใบหน้าเล็กที่กำลังฉีกยิ้มหวานอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ที่วางบนเตียงขึ้นมา แล้วกลับมาหยุดตรงหน้าอลิซ
    “พี่เจคไม่ต้องเสียสละนอนที่พื้นหรอกค่ะ นอนด้วยกันบนเตียงก็ได้นะคะ อลิซไม่ถือ”
    ร่างสูงไม่ตอบเธอ เขายื่นผ้าห่มมาให้ อลิซรับเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างงงๆ
    “คนที่ต้องนอนพื้นคืออลิซ ไม่ใช่พี่ ลงไปนอนได้แล้ว พี่จะนอน เกะกะ”
    ว่าจบร่างสูงก็ทิ้งตัวลงนอนพร้อมค่อยๆ ขยับตัวเบียดจนร่างเล็กร่วงไปกองอยู่ที่พื้นข้างเตียงพร้อมผ้าห่มผืนใหญ่ในอ้อมแขน
    “พี่เจคน่ะ”
    อลิซตวัดสายตาขุ่นคืองมองเขา ใบหน้าเล็กยู่อย่างแสนงอน ถลึงตาโตใส่ร่างสูงที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง เธอตั้งใจจะมานอนซุกอกอุ่นเหมือนตอนที่เธอและเขายังเป็นเด็ก ไม่ใช่บากหน้ามาเพื่อถูกเขาเขี่ยลงเตียงแบบนี้
    เฮอะ คิดว่าเธอจะยอมง่ายๆ หรือไง
    อลิซปูผ้าผืนใหญ่ลงบนพื้นอย่างกระแทกกระทั้น ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแล้วตวัดผ้าที่ใหญ่จนเกินตัวคลุมร่างเล็กของตัวเองเอาไว้ ดูเผินๆ ลักษณะคล้ายหนอนดักแด้ไม่มีผิด
    จากที่ตั้งใจว่าจะรอให้ร่างสูงหลับสนิทเสียก่อน เธอจะได้ถือวิสาสะไปนอนซุกซบอ้อมอกอุ่นๆ แต่เปลือกตาบางปิดลงไม่ทันถึงห้านาทีด้วยซ้ำ เจ้าตัวก็เข้าสู่ห้วงนิทราก่อนที่จะได้ทำอย่างที่ตั้งใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×