ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -FanFic บารามอส- เวลากับสายลม

    ลำดับตอนที่ #18 : [#18] Meal

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 50



               
    เสียงนาฬิกาเดินเป็นจังหวะช้าๆ เที่ยงตรง ผิดกับเสียงย่ำเท้าหนักดังถี่จากทางเดินที่ทอดยาว ก่อนจะค่อยๆ ช้าลงจนหยุดลงพร้อมกับเสียงปิดประตูแผ่วเบา เสื้อคลุมสีขาวถูกถอดแขวนไว้กับราวแขวนข้างประตูบ้านใหญ่นั้น เพราะอากาศที่เริ่มเย็นขึ้นทุกวัน ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนแม้จะเป็นภายในอาคารก็ต้องสวมเสื้อคลุมเพื่อให้ความอบอุ่น แต่กับห้องที่จุดเตาผิงให้อบอุ่นอยู่แล้ว เสื้อคลุมที่ว่าก็ดูจะกลายเป็นส่วนเกินไป


               
    ตาสีฟ้าคมมองกองงานบนโต๊ะที่ยังค้างคาแล้วแอบถอนหายใจเฮือกอย่างที่ไม่ค่อยจะได้ทำให้คนอื่นเห็น ยังดีที่เขาสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามารบกวนในระหว่างเขาจัดการงานที่ค้างไว้ ไม่อย่างนั้นก็คงมีงานใหม่เข้ามาเรื่อยๆ จนสุดท้ายเวลาทั้งหมดก็ใช้หมดไปกับการดูเอกสารพวกนี้


               
    หนึ่งอาทิตย์...


               
    ยาวนานเหมือนสิบปี


               
    ทั้งหมด...คือบทลงโทษไม่ใช่หรือไง?


               
    คาโลเผลอกระตุกยิ้มเหยียดลืมตัว


               
    เปลวไฟเต้นไหวสะท้อนกับนัยน์ตาคมไร้อารมณ์นั้นราวกับจะหยอกล้อถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีเขาเป็นต้นเหตุ เพราะในตอนนี้เรื่องไม่ได้จบแค่เฟรินหายตัวไป แต่กลายเป็นความแตกแยกภายในที่แบ่งเป็นสองฝ่าย


               
    ฝ่ายที่ยังจงรักภักดีต่อราชินีแห่งคาโนวาล


               
    กับฝ่ายที่พร้อมใจจะยกพระสนมขึ้นเป็นราชินี


               
    ตัวแปร...คือเด็กที่กำลังจะเกิดมา


               
    ซ้ำประชาชนเองก็เริ่มเสื่อมความเชื่อถือต่อกษัตริย์ที่ไม่สามารถแม้กระทั่งจะปกป้องราชินีของตัวเอง


               
    คาโลถอนหายใจหนักก้าวยาวไปหยุดหน้าเตาผิงใหญ่เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมา


               
    หากหัวใจ...กลับเย็นเยือกขึ้นเรื่อยๆ


               
    เหล่าประเทศเพื่อนบ้านเองก็ไม่น่าไว้ใจเหมือนกัน พอเห็นความแตกแยกในประเทศข้างเคียงเมื่อไหร่ก็พร้อมจะเข้ามาแทรกแซงด้วยคำว่า "ความเห็นใจ" แต่ยังดีที่เวนอลกับบารามอสไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร ไม่อย่างนั้นคาโนวาลจะลำบาก


               
    คาโลกัดฟันกรอดกับความคิดอันอ่อนแอ และความผิดของตนเองที่พาลลุกลามไปถึงประเทศชาติ


               
    ก๊อกๆ


               
    "
    ใคร" เสียงทุ้มกระชากห้วน ตาสีฟ้าคมตวัดมองประตูราวกับต้องการจะมองทะลุว่าใครหน้าไหนที่กล้าขัดคำสั่งมาเคาะประตูในตอนนี้ ผู้ที่อยู่หลังประตูเงียบไปเหมือนจะชั่งใจ ไม่นานนักน้ำเสียงหวานใสไม่ค่อยคุ้นหูก็ดังตอบกลับมา


               
    "
    หม่อมฉันมีเดียเพคะฝ่าบาท" คิ้วเข้มเลิกสูง


               
    มีเดีย...ใคร?


               
    "
    หม่อมฉันเห็นว่าฝ่าบาทเพิ่งจะเสด็จกลับ น่าจะทรงหิวก็เลยให้คนจัดอาหารมาให้เพคะ" เสียงนั้นยังคงดังต่อ ขณะที่คาโลกำลังนึกไปเรื่อยๆ


               
    ...
    มีเดีย...


               
    ตาสีฟ้าไหวเล็กน้อยเมื่อนึกออกว่าเจ้าของชื่อนั้นคือใคร คาโลสั่นศีรษะเล็กน้อยเมื่อตัวเองเผลอลืมหญิงสาวอีกคนที่โดนลากเข้ามาร่วมกับเรื่องวุ่นวายนี่ เพราะงานหนักกับเรื่องหลายๆ เรื่องปะดังประเดเข้ามา หรือบางทีเขาจะแก่เกินไปแล้วก็เป็นได้ ชายหนุ่มสาวเท้าไปเปิดประตูบานใหญ่ออกกว้าง มีเดียที่ยืนรอย่อตัวทำความเคารพ


               
    "
    เข้ามาสิ" คำสั่งอนุญาตเรียบง่ายตามประสาคนพูดน้อยอย่างคิงน้ำแข็งแห่งคาโนวาลเรียกรอยยิ้มจากมีเดีย เพราะตัวหล่อนเองก็ยังหวั่นใจว่าการขัดคำสั่งครั้งนี้จะทำให้หัวหล่อนหลุดออกจากบ่ารึไม่ เพราะในครั้งก่อนเรื่องทั้งหมดยังไม่วุ่นวายเท่าปัจจุบัน


               
    แต่ก็นั่นล่ะ...ถ้าไม่เสี่ยงก็ไม่รู้


               
    นางกำนัลสองคนยกสำรับวางลงบนโต๊ะ ย่อตัวแล้วเดินออกไปทันทีที่หน้าที่ของตนเสร็จสิ้น มีเดียจึงก้าวเข้ามาจัดเตรียมอาหารบนโต๊ะ ตาสีฟ้ามองร่างบางในชุดคลุมสีอ่อนนั้นนิ่ง เป็นเพราะท้องแรกรึเปล่านะร่างตรงหน้าถึงดูไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่นัก


               
    "
    ฝ่าบาท.." เสียงใสเอ่ยเรียก คาโลดึงความคิดของตัวเองกลับมาสบนัยน์ตาสีเขียวนั้น มีเดียก้มมองต่ำเหมือนกับพยายามตัดสินใจอะไรบางอย่าง


               
    "
    ถ้า..." มีเดียเปรยขึ้น หยุดคิดแล้วพูดต่อ "ถ้าฝ่าบาทจะทรงเมตตาและไม่เห็นว่าเป็นการละลาบละล้วงเกินไป หม่อมฉันขอถามอะไรฝ่าบาทซักข้อได้ไหมเพคะ"


               
    คนถูกถามปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมราวกับว่ามันคือคำตอบของคำถาม มีเดียเม้มปากแน่น หากเป็นอย่างนี้การที่หล่อนยอมเสี่ยงก็สัมฤทธิ์ผลแค่ครึ่งเดียว เอาเถอะ..ไหนๆ ก็เสี่ยงแล้ว....


               
    "
    หม่อมฉัน...เป็นห่วงราชินีเพคะ" ตาสีฟ้าไหววูบอย่างควบคุมไม่อยู่เมื่อได้ยินอย่างนั้นแต่คาโลก็ยังไม่พูดอะไร หญิงสาวจึงรุกต่อ "หากเป็นไปได้..หม่อมฉันก็อยากช่วยฝ่าบาทตามหาราชินี"


               
    คาโลมองคนพูดนิ่งราวกับขบคิดอะไรบางอย่าง แต่มีเดียที่ก้มหน้าพูดจึงไม่ได้สังเกต


               
    "
    ไม่จำเป็น" มีเดียเผลอกำมือแน่นก่อนจะรีบคลายลงให้ดูเป็นความหวาดกลัวต่อคำพูดเย็นชานั่น และเพราะเป็นคนที่ไม่เคยถูกขัดใจจึงไม่รู้เลยว่าน้ำเสียงที่พูดนั่นไม่ใช่การตำหนิ แต่เป็นความห่วงใยในแบบฉบับของคิงน้ำแข็ง(ที่มีอยู่ไม่ถึงสิบคนที่รู้) หล่อนเงยหน้าขึ้นมายิ้มฝืดย่อตัวต่ำก่อนเอ่ย


               
    "
    หม่อมฉันขอพระราชทานอภัยโทษด้วยเพคะที่บังอาจรบกวนฝ่าบาท ทั้งพูดล่วงเกินไปแบบนั้น" คาโลเงียบอีกครั้ง นัยน์ตาสีเขียวเริ่มทอประกายวิบวับด้วยความขัดใจ


               
    ถามไม่ตอบ ขอโทษก็ยังไม่สนใจ


               
    ให้ตายสิ!!


               
    "
    ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันทูลลา"


               
    "
    มีเดีย" คาโลเอ่ยขัดก่อนที่อีกฝ่ายจะหมุนตัวกลับ หญิงสาวหมุนตัวกลับมาย่อตัวก้มหน้าต่ำ พยายามนับหนึ่งถึงร้อยด้วยแน่ใจว่าคงถูกตำหนิกับการกระทำเมื่อครู่ หากสัมผัสหนักที่ตกลงมาบนไหล่ทั้งสองข้างพร้อมความอบอุ่นทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ


               
    เสื้อคลุมสีขาวหนานุ่มอันเป็นเสื้อคลุมประจำตัวของคิงแห่งคาโนวาลถูกห่มให้หล่อน?


               
    "
    ข้างนอกหนาว" คาโลพูดสั้นๆ แล้วหันหลังผละออกมา ไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มกว้างสดใสของพระสนมแห่งคาโนวาลที่ดีใจกับการกระทำดังกล่าว


               
    อย่างน้อย...หัวใจก็คงไม่ได้เป็นน้ำแข็ง


               
    "
    ขอบพระทัยเพคะ" มีเดียพูดพลางย่อตัวต่ำแต่เพราะท้องอยู่จึงก้มได้ไม่ได้มากดังที่ใจหวัง มือขาวกระชับเสื้อคลุมเข้ากับตัวมากขึ้น สองขาเตรียมจะก้าวออกจากห้อง


               
    "
    เอ่อ อาหาร...ทานตอนร้อนๆ จะอร่อยกว่านะเพคะ" มีเดียพูดประโยคสุดท้ายแล้วเดินออกจากห้องไป


               
    คาโลละสายตาจากประตูบานใหญ่ที่เพิ่งจะปิดลงมามองถาดอาหารที่ส่งกลิ่นหอมพร้อมควันสีขาวลอยวนในอากาศ


               
    คุ้นตา...อย่างประหลาด


               
    ขายาวก้าวช้าๆ หยุดลงเหนือโต๊ะ

               


               
    "
    เฮ้! คาโล ฉันลองทำอาหารดูลองกินดูไหม" นัยน์ตาสีน้ำตาลเป็นประกายวิบวับขณะที่มือถือภาชนะที่บรรจุอะไรบางอย่างเหนียวข้นสีน้ำตาลดูน่ากลัวมากกว่าน่าทาน ผู้ที่อยู่หลังโต๊ะทำเพียงแค่เงยหน้าเล็กน้อยแล้วก้มหน้าลงทำงานต่อ


               
    "
    จะไม่ลองหน่อยรึไง รับรองอร่อยเหาะ" ถ้วยอาหารตรงหน้ากระแทกลงบนโต๊ะจนของเหลวนั้นกระเฉาะออกมาเปื้อนเอกสาร เฟรินสะดุ้งเฮือก


               
    "
    ขอโทษๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจ" มือบางรีบหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาเช็ด แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งเปื้อนหนัก สุดท้าย...ก็ไม่ต่างจากกระดาษที่โดนหมึกราดซ้ำยังเหนวเหนอะอีกด้วย นัยน์ตาสีฟ้าคมตวัดขึ้นมามองดุ พร้อมดึงกระดาษแผ่นนั้นไปขยำและโยนลงถังขยะไป


               
    "
    นายออกไปได้แล้ว" คำสั่งเรียบและเย็นชาหากไม่มีผลกับเฟรินที่ฉีกยิ้มกว้างโบกมือไปมา "กระดาษแค่แผ่นเดียวแกจะอะไรนักหนา"


               
    "
    คงไม่มีอะไรถ้ากระดาษแผ่นนั้นมันไม่ใช่จดหมายร้องเรียนของชาวบ้าน" คนฟังสะดุ้งกลืนน้ำลายดังเอื้อก แต่ก็ยังยิ้มออกมาได้ ถึงมันจะฝืดเต็มทีก็ตาม


               
    "
    เอาน่าๆ นี่แกลองชิมดูสิ ฉันลองฝึกกับแม่ครัว กว่าจะขอร้องได้นะแกเอ๋ย แทบจะลงไปกราบเท้า ปากแม่คุณก็พร่ำแต่ 'ไม่เหมาะเพคะ' 'หม่อมฉันทำเองดีกว่า' บ้างล่ะ แล้วนี่แกรู้ไหม..."


               
    "
    เฟริน" คาโลตัดสินใจวางปากกาลง สมาธิในการทำงานหดหายไปหมดกับเสียงพูดฉอดๆ ของอีกฝ่าย เฟรินหุบปากเงียบสบตาสีฟ้าที่เริ่มมีแววของโทสะขึ้นมา


               
    "
    ถ้านายว่างมากพอที่จะเล่นทำอาหาร เอาเวลาพวกนี้ไปทำตัวให้สมกับตำแหน่งของตัวเองจะดีกว่าไหม" คำถามน้ำเสียงเรียบแต่แทงใจคนฟังเต็มที่ คาโลที่เห็นเฟรินเงียบไปนานจึงหยิบปากกาขึ้นมาทำงานต่อ


               
    "
    ฉันยังมีงาน..."


               
    "...
    ต้องทำอีกเยอะ" เสียงหวานใสขัดขึ้นให้เขาต้องเงยหน้าสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่เป็นประกายหยอกล้อ เฟรินฉีกยิ้มกว้าง หากตานั้นกลับไหวระริกประหลาด ก่อนเอ่ยประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงสดใสกึ่งประชด


               
    "
    เชิญนายจมกองงานตายไปเลยนะคาโล"

     


               
    ช้อนเงินสลักลายงดงามบ่งบอกราคาค่างวดอย่างที่ยัยตัวดีเคยประมาณราคาไว้เมื่อครั้งที่เพิ่งเข้าวังมาใหม่ๆ ถูกยกขึ้นตักซุปข้นขาวขึ้นแตะริมฝีปากของชายหนุ่ม


               
    ...
    อร่อย...


               
    สมเป็นแม่ครัวหลวงแห่งคาโนวาล


               
    หากน่าแปลก...ที่ใจเขากลับโหยหาซุปเหลวข้นสีน้ำตาลน่ากลัวนั่นมากกว่าซุปข้นชั้นดีถ้วยนี้


               
    รสชาด...จะเป็นยังไงกันนะ


               
    รอยยิ้มเหยียดกระตุกขึ้นอีกครั้ง


               
    เขาคงไม่มีทางรู้ ในเมื่อ...


               
    ...
    คนทำคนนั้นได้หายไปจากชีวิตของเขาเสียแล้ว...


    ***************************************TBC...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×