ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -FanFic บารามอส- เวลากับสายลม

    ลำดับตอนที่ #15 : [#15] Work

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 50



               
    ผ่านไปสองอาทิตย์แล้ว...

                ร่างสูงหลังกองเอกสารท่วมหัวนั่งนึกอย่างที่นานๆ ครั้งจะทำ ยิ่งในเวลาทำงานแบบนี้ด้วยแล้วถือว่าหายากยิ่ง คาโลพ่นลมหายใจช้ายืดตัวพิงพนักเก้าอี้สูง ตาสีฟ้ามองไปยังประตูห้องที่ยังคงปิดสนิทด้วยคำสั่งห้ามรบกวนของเขาบวกกับเวลาปัจจุบัน ณ ตอนนี้คือเวลากลางคืนที่ใครต่อใครพากันพักผ่อน คงไม่มีไอ้บ้าหน้าไหนกล้าบุกรุกห้องทำงานของคิงแห่งคาโนวาล

                อันที่จริงเขาแอบคาดหวังอะไรบางอย่าง

                บางอย่างที่เคยรู้สึกเมื่อนานมาแล้ว

                คาโลตัดสินใจวางปากกาเมื่อรู้ตัวว่าสมาธิตอนนี้หลุดลอยไม่สามารถเรียกกลับให้มาจดจ่อยอยู่กับงานได้เป็นแน่

                สองอาทิตย์นับตั้งแต่งานเลี้ยงฉลองของมีเดียที่ไม่ได้เห็นราชินีของเขา

                จะว่านานก็นาน จะว่าสั้นก็สั้น

                ยาวนานเพราะความใกล้ชิดที่เคยมีกลับห่างหาย สั้นเพราะงานที่มากมายไม่รู้จักหมดสิ้นทำให้เขาแทบไม่มีเวลาปลีกตัว เวลาจะนอนแทบจะยังไม่มี

                มหาดเล็กต้นห้องเคาะประตูก่อนเปิดเข้ามารายงาน

                "พระสนมมีเดียขอเข้าเฝ้าพระเจ้าค่ะ" คิ้วเข้มขมวดกันแทบจะทันที "ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ใครมารบกวนเวลาทำงาน"

                "ตะ..แต่" มหาดเล็กอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ คาโลถอนหายใจอีกครั้ง พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายก็คงยกตำแหน่งหรืออะไรซักอย่างที่สำคัญพอจะทำให้มหาดเล็กคนนี้ยอมเสี่ยงตายเข้ามา

                "เอาเถอะ ให้เขาเข้ามา" มหาดเล็กรีบก้มตัวรับคำถอยหลังออกไป ไม่กี่วินาทีต่อมา ร่างบอบบางในชุดคลุมสีชมพูอ่อนก็ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมนางกำนัลที่ยกชามข้าวต้มร้อนๆ เข้ามาวางไว้บนโต๊ะที่ว่างอยู่และกลับออกไปทันที

                "หม่อมฉันไปหาที่ห้องบรรทม แต่มหาดเล็กบอกว่าฝ่าบาทอยู่ที่นี่" มีเดียพูดขึ้นหลังจากทำความเคารพเรียบร้อยแล้ว คาโลพยักหน้าเล็กน้อย

                "งานยังไม่เสร็จ"

                ตอบสั้นๆ ง่ายๆ ให้หญิงสาวยิ้มเล็กน้อย

                "หม่อมฉันเลยสั่งให้ครัวทำข้าวต้มร้อนๆ มาถวายเพคะ เพราะยังไงฝ่าบาทก็คงต้องอยู่ทำงานจนเสร็จ" เอ่ยเหมือนรู้ทันนิสัยของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ตาสีฟ้าคมมองร่างบอบบางนั้นนิ่ง

                "ขอบใจ" คาโลตอบแล้วจับปากกาเตรียมทำงานต่อ แต่มีเดียก็ยังไม่มีทีท่าจะยอมออกจากห้องให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมามอง พระสนมยิ้มแห้งก่อนย่อตัวช้า

                "หม่อมฉันทูลลาเพคะ"

                "เดี๋ยวก่อน" หัวใจดวงน้อยลิงโลดขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงห้ามนั้น มีเดียหันกลับมาก้มต่ำแม้จะดีใจแค่ไหนแต่มารยาทในการเข้าเฝ้าก็ยังคงรักษาไว้

                "ช่วงนี้...เห็นเฟรินบ้างไหม" ความยินดีเหือดหายไปแทบจะทันทีที่ได้ยินชื่อสตรีอื่นจากริมฝีปากนั้น หากมีเดียก็ยังคงยิ้มได้ปกติ "ไม่เห็นเลยเพคะ ราชินีคงอ่านหนังสืออยู่ในห้องบรรทมอย่างที่ทรงโปรดล่ะมั้งเพคะ"

                ใช่...ควรจะเป็นอย่างนั้น

                แต่ความกังวลใจบางอย่างทำให้คาโลไม่คิดเช่นนั้น อย่างน้อยเขาก็น่าจะสวนกับเฟรินบ้างช่วงเวลาอาหาร แต่นี่ไม่มีแม้วี่แวว คาโลพยักหน้ารับรู้ก่อนเอ่ยอนุญาตให้มีเดียออกไปได้

                เสียงประตูปิดลงแผ่วเบาและสนิทเช่นเดิม

                คาโลถอนหายใจอีกครั้ง

                "ถ้าใครมาเห็นคิงถอนหายใจเฮือกๆ อย่างนี้จะมีใครนับถือไหมนะ" เสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมานานไม่ได้สร้างความแปลกใจให้คนฟังซักเท่าไหร่นัก คาโลหันไปมองแขกไม่ได้รับเชิญที่นั่งอาบแสงจันทร์อยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ สบกับตาสีม่วงประกายระยิบระยับที่มองมาทางตนตั้งแต่แรก

                "มาทำไม" คิลไหวไหล่เท้าแขนเข้ากับขอบหน้าต่างพลางยิ้ม "ทำงานน่ะ แต่วางใจได้ ไม่ใช่สั่งฆ่านายแน่นอน"

                มุขตลกที่ไม่น่าขำซักเท่าไหร่กับสถานะของเขาทั้งสองในปัจจุบัน

                "แม่นั่น...สนมคนใหม่ที่เขาลือกันน่ะเหรอ" เปรยไปถึงผู้ที่เพิ่งจะออกจากห้องไปได้ไม่นาน คาโลมองใบหน้าคมคายนั้นอย่างตำหนิเล็กน้อยกับสรรพนามเรียกมีเดีย

                "เลือกสนมแบบนี้ เบื่อไอ้เฟรินมันแล้วรึไง" ถามต่อยิ้มๆ แต่ประกายตากลับวาววับไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย คิงแห่งคาโนวาลมองหน้าคนถามนิ่ง "ไม่ใช่เรื่องของนาย"

                คิลหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะสามปีที่ผ่านมาบทสนทนาของเพื่อนคิงคนนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ตาสีฟ้ามองคนที่กำลังพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่ เพราะรู้ดีว่ามันคงไม่ได้มาหาเขาแค่เพราะ 'คิดถึงเพื่อนเก่า' แน่ๆ

                "ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องของฉันน่ะนะ" คิลว่าพลางปาดน้ำตา คำตอบที่ทำให้ความเครียดของคนฟังเครียดขึงขึ้นมาทันที มันบอกว่าไม่ได้มีคนสั่งฆ่าเขา...แต่กับเฟรินไม่แน่!

                เหมือนจะเดาใจจากอาการเคร่งเครียดที่ส่งผ่านแววตาเย็นชานั่นได้ คิลยิ้มกว้าง

                "อย่างที่นายคิดนั่นล่ะ วันก่อนฉันได้งานมาสองงาน งานแรกสังหารราชินีแห่งคาโนวาล งานที่สองสังหารพระสนมที่กำลังตั้งครรภ์รัชทายาท ไอ้ฉันมันเลือกไม่ถูกก็เลยมาถามแกดูว่าจะให้ฆ่าใครดี"

                คาโลขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมพร้อมส่งสายตาดุเป็นคำเตือนว่าไอ้ที่พูดมาน่ะไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดเล่นได้ แต่คนยั่วโมโหกลับยังคงยิ้มละไมให้เขายิ่งใจเสีย

                "ใคร...เป็นคนจ้าง" คำถามที่หลุดออกมาอย่างยากลำบากเต็มที

                "พระสนมมีเดีย กับ ราชินีเฟลิโอน่า ตามลำดับ" คิลตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด มือใหญ่กำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว อีกมือหนึ่งปรากฏคทาสีดำประจำตัวให้ตาสีม่วงเบิกกว้างแต่ยังไม่คลายรอยยิ้ม

                "ล้อเล่นน่ะ" คิลว่าแล้วก็หัวเราะก๊ากใหญ่เมื่อเห็นใบหน้าหลากอารมณ์ของผู้ที่ได้ชื่อว่าคิงน้ำแข็งแห่งคาโนวาล คทาพิพากษาหายกลับไปอยู่ในที่ที่ของมัน

                "แต่ก็นะ ถ้าเกิดกรณีแบบนี้จริงๆ นายจะทำยังไง" คาโลนิ่งอึ้งไปพักใหญ่กับคำถามนั้น

                "เฟรินไม่ใช่คนที่แบบนั้น" คิลยิ้มกว้างพยักหน้าหงึกหงักดูกวนอารมณ์มากกว่าการรับรู้ "แต่นายก็รู้ ผู้หญิงน่ะเข้าใจยาก ตอนนี้อาจจะดี ห้านาทีต่อมาคุณเธออาจจะกลายเป็นฆาตกรเลือดเย็นขึ้นมาก็ได้"

                คาโลขมวดคิ้วหนัก เขายังสงสัยกับจุดประสงค์การมา 'เยี่ยม' ของเพื่อนคนนี้อยู่ ทั้งเวลาที่มันมา ทั้งคำถามวกวนนั่น

                "นายมาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่คิล" คำถามเต็มไปด้วยแววเครียดเรียกเอารอยยิ้มทั้งหมดบนใบหน้าของนักฆ่าแห่งซาเรสให้หายไป นัยน์ตาสีม่วงพราวระยับเล็กน้อย อันที่จริงเจ้าตัวก็เริ่มเบื่อที่จะต้องอ้อมไปอ้อมมาแบบนี้เหมือนกัน

                "ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ฉันว่าขึ้นมาจริงๆ แบบที่...เฟรินถูกฉันล็อกเอามีดจ่อ ส่วนพระสนมนั่นถูกฉันเหยียบคอไว้ นายจะทำยังไง" คาโลรู้สึกว่ามือของเขากำลังเย็น จะด้วยเพราะบทสนทนาที่เกินไปกว่าคำถามธรรมดา หรือเพราะรังสีฆ่าฟันของอีกฝ่ายก็ตาม

                หากช่วยเฟริน มีเดียต้องตาย...รวมถึงอีกชีวิตในท้องนั่น

                แต่หากช่วยมีเดีย คนที่เขารักก็ต้องตายแทน

                ทางเลือก...ที่ไม่มีทางออกที่ดี

                "แน่นอนว่านายช่วยพร้อมกันทั้งสองคนไม่ได้ ถ้านายช่วยเฟริน ฉันก็แค่ขยี้คอพระสนม แต่ถ้านายช่วยพระสนม ฉันก็ปาดคอเฟริน...เลือกมาสิคาโล" คิลพูดต่อราวกับพูดคุยเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป ความเครียดเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเงียบอันน่าอึดอัดปกคลุมรอบห้องทำงานนานกว่าหลายนาที จนในที่สุดคนยิงคำถามก็ขยับยิ้มขึ้นทำลายบรรยากาศเมื่อครู่

                "นายแต่งงานกับเฟรินเพราะรักมันไม่ใช่เหรอ แล้วลังเลอะไรกันนะคาโล" ใบหน้าขาวแดงวาบด้วยโทสะกับคำพูดนั่น

                "นายไม่มีสิทธิ์มาถามคิลมัส ฟิลมัส" กระแสเสียงเยียบเย็นให้เพื่อนนักฆ่าหันมามองสบตา "ฉันก็แค่ห่วงในฐานะเพื่อน" แสงจันทร์ด้านนอกสาดส่องให้เห็นความจริงจังบนใบหน้าคมคายนั่น

                "แต่ก็เอาเถอะ ฉันแค่แวะมาหานาย" คิลว่าพลางเตรียมกระโดดออกไปทางหน้าต่าง

                "ฉันไม่คิดว่าที่นายมาหาฉันเพราะคิดถึงหรอกนะ" คาโลเอ่ยขัดเครียด ยิ่งคิดหาคำตอบก็ยิ่งเครียดขึ้นทุกทีพร้อมกับความกังวลใจที่เพิ่มมากขึ้น คิลหันกลับมายิ้ม

                "ก็บอกแล้วไงว่ามาทำงาน พอดีงานเสร็จก็เลยแวะมา"

                "งานอะไรของนาย"

                คราวนี้คิลนิ่งเงียบไป คิ้วเข้มเลิกสูง

                "นายอยากรู้?"

                คาโลจ้องเพื่อนเก่าดุๆ ให้คนถูกจ้องหัวเราะออกมาเบาๆ

                "ฉันว่าแล้ว...ที่นายดูแก่ขึ้นเพราะชอบทำหน้าแบบนี้บ่อยๆ" คาโลไม่มีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงหรือพูดเล่นอะไรทั้งนั้น และความคิดทั้งหมดก็แสดงออกมาทางสีหน้า แววตาจนทำให้คิลต้องหยุดหัวเราะยืดตัวเต็มความสูงกระโดดขึ้นไปยืนบนขอบหน้าต่าง

                "เห็นแก่ที่เป็นเพื่อนกันมานาน จะยอมบอกให้ก็ได้ แต่แค่ครั้งเดียวนะ งานของฉันน่ะ"

                แสงจันทร์ที่เคยส่องสว่างเมื่อครู่บัดนี้เมฆสีดำได้เคลื่อนตัวเข้าบทบังแสงนวลนั้น ร่างของบุรุษตรงหน้าจึงเหลือเพียงเงาลางๆ และนัยน์ตาสีม่วงคมคู่นั้นที่จับจ้องมายังคิงแห่งคาโนวาล พร้อมกับประโยคคำตอบที่กระชากหัวใจคนฟังให้หยุดเต้นลงทันที

                "งานลักพาตัวราชินีเฟลิโอน่า วาเนบลี เดอะควีน ออฟคาโนวาล"


    **************************************TBC...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×