ตอนที่ 14 : ผีเสื้อตัวที่ 14
((คำเตือน))
มีการสปอยล์หนักมากๆจากทั้งสองเรื่อง มีคำหยาบคายที่อาจจะหลุดมาจากปากของตัวดำเนินเรื่อง(ชิโนบุ) เช่นไรแล้วก็ขอให้สนุก
*ตอนนี้อาจจะตาลายหน่อยๆ เมา และกาวมาก
________________________________
"ชิโนบุซัง ขอรบกวนหน่อยนะคะ/ครับ!"
เสียงเจื้อยแจ้วของนักเรียนหน่วยรบพิเศษห้อง 3-E ดังอยู่หน้าเรือนผีเสื้อที่ตั้งอยู่ ยามเช้าตรู่ชิโนบุยิ้ม และเปิดประตูต้อนรับ
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ มาเช้าจังเลยนะคะ กินข้าวกันรึยังคะ? ถ้ากินเพิ่งจะอิ่มล่ะก็ไปนั่งพักชมผีเสื้อก่อนได้นะคะ"ชิโนบุกล่าวทักทายยามเช้า ทุกคน
สาเหตุที่พวกเขามาอยู่นี่นั้น เป็นเพราะว่าตั้งแต่ฝึกกับชิโนบุประมาณวันนึง ชิโนบุก็เล่นการสาดน้ำชาจนเปียกปอนกลับบ้านกันเสียทุกคนยกเว้นชิโนบุ ชิโนบุจึงนัดมาที่เรือนผีเสื้อ เพราะคงสะดวกเตรียมของมากกว่า
นักเรียนที่ก้าวเข้ามา ต่างตกตะลึงกับความใหญ่ของตัวบ้าน พลางสังเกตุอย่างตื่นเต้น ไหนจะมีผีเสื้อหลากสีสันบินวนไปมา แต่ไม่ได้ทำให้รำคาญแต่อย่างใด กับต้นฟูจิสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่กลางสวน ที่เพิ่งจะมาลงเพราะชิโนบุเอาไว้ไล่โดมะ ถึงจะรู้ดีว่ามันไม่เป็นอะไรก็เถอะ
"งั้นหากจะเปลี่ยนชุดล่ะก็ ผู้หญิงไปเปลี่ยนที่ห้องดิฉันก็ได้ค่ะ ตรงระเบียงเปิดประตูเข้าไป และเลี้ยวไปทางซ้ายอีกที ดิฉันเขียนป้ายไว้ จะได้ง่ายนะคะ ส่วนผู้ชายตามดิฉันมาเลยค่ะ"ชิโนบุชี้ตรงจุดหมาย เมงุพยักหน้ารับน้อยๆ ส่วนชิโนบุแยกออกมาพร้อมพวกผู้ชาย ก่อนมาหยุดที่ห้องพักคนไข้ ถึงปัจจุบันจะไม่ได้ใช้ก็เถอะ
"งั้น พวกอิโซไกซัง เปลี่ยนชุดที่ห้องนี้แล้วกันนะคะ"ชิโนบุเปิดประตูห้องพักคนไข้ของตัวเอง ที่มีเตียงวางอยู่หลายสิบเตียง แถมผ้าปูหรือตัวที่นอนก็ดูเหมือนแม่บ้านล่องหนจะมาเปลี่ยนให้ใหม่ทุกๆวัน
"เห....บ้านชิโนบุจังเคยเป็นเรือนพักฟื้นทหารเหรอ?"คารุมะเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ค่ะ แต่คุณปู่สั่งเสียไว้น่ะค่ะ ว่าไม่อยากให้รื้อทิ้ง เป็นเครื่องระลึก คุณพ่อเลยไม่รื้อ"ชิโนบุพยักหน้าน้อย เธอเปล่าโกหกเสียหน่อยเรื่องเคยเป็นเรือนพักฟื้นทหาร หน่วยนักล่าอสูรก็เปรียบเหมือนเหล่าทหารในเงา ที่กำจัดและทำสงครามกับอสูรโดยให้คนอื่นเกี่ยวข้องน้อยที่สุด แต่ใส่สีเข้าไปหน่อยจะเป็นอะไร
"แล้ว...พ่อแม่ของโคโจวล่ะ?" จิบะ ริวโนะซุเกะ เอ่ยถามขึ้นมา
"ตายหมดแล้วล่ะค่ะ ทั้งพ่อแม่ รวมถึงพี่สาวก็เพิ่งตายได้ไม่กี่ปีเพราะอุบัติเหตุ ตอนนี้ตัวฉันดูแลที่นี่แค่คนเดียวค่ะ"ชิโนบุเอ่ยตอบ พลางคลี่ยิ้ม ผิดกับทุกคนที่เบิกตากว้างอย่างตกใจ
จิบะก้มหัวขอโทษ ชิโนบุส่ายหน้าเล็กน้อยๆว่าไม่เป็นไร ก่อนปล่อยทุกคนเปลี่ยนชุด และไปรวมกันตรงลานที่ระเบียง
ทุกคนเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็มายืนตรงลาน พลางสอดสายตามองไปรอบๆ รวมถึงมีผีเสื้อเข้ามาบินหยอกล้อด้วย แต่ที่ตามหาตอนนี้คือครูฝึกของพวกตนที่ไปอยู่ไหนนี่แหละ
"ขออภัยที่ช้านะคะ พอดีไปดูของที่โรงฝึกนิดหน่อยน่ะค่ะ"ชิโนบุที่โผล่มาข้างหลังเอ่ยขึ้น ทุกคนสะดุ้งโหยงกับการปรากฏตัว ก่อนที่ชิโนบุจะบอกให้ตามมา ซึ่งตอนนี้ชุดชิโนบุเป็นเสื้อวอร์มแขนยาวขายาวทับด้วยฮาโอริผีเสื้อ เวลาเดิน ฮาโอริก็จะขยับคล้ายปีกผีเสื้อเสียด้วย เข้ากับบรรยากาศดีแท้
ณ โรงฝึกนั้น ทั้งใหญ่และกว้างพอจะจุคนได้พอประมาณ ทุกคนมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น
"งั้นทุกคนช่วยยืนขาเดียวให้ดูได้มั้ยคะ ดิฉันจะดูการทรงตัวน่ะค่ะ"ชิโนบุบอกทุกคน เหล่าเพื่อนๆที่ยืนอยู่ก็ยกขาข้างหนึ่งขึ้น เมื่อชิโนบุสังเกตุ ก็พบว่าบางคนก็ทุลักทุเลที่จะยืนได้นานขนาดนั้น แต่ส่วนมากก็ทำได้ ชิโนบุพยักหน้าและให้ทุกคนยืนปกติ ก่อนจับคางคิด
"ต่อไปเรามาวอร์มร่างกายก่อนนะคะ วันนี้อาจจะออกแรงมากกว่าสาดน้ำชาแล้วล่ะค่ะ"ชิโนบุพูด ก่อนจะเริ่มวอร์มนำทุกคน ถึงส่วนมากจะเป็นท่าวอร์มปกติ แต่มีบ้างที่ชิโนบุเผลอสอดเอาท่าที่ตัวเองฝึกคนเดียวมาใส่ด้วย แต่ท่าเฉพาะของชิโนบุค่อนข้างยากเพราะอาศัยความยืดหยุ่นและทรงตัวสูง
"อื้ม...หากมีผู้ช่วยเสียหน่อยคงจะช่วยได้มากเลยนะคะ"ชิโนบุพยักหน้าเมื่อทุกคนวอร์มเสร็จ
"ขออภัยที่เข้ามาโดยพลการนะคะ ท่านโคโจว"เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลัง ทำเอาทุกคนหันไปมอง โดยเฉพาะชิโนบุที่คุ้นเสียงนั้นเป็นพิเศษ
เมื่อหันไปมอง พบเด็กสาวสองคน คนหนึ่งนั้นมัดผมทวินเทล ท่าทางเป็นคนเข้มงวด ส่วนอีกคนมักมีรอยยิ้มประดับที่ใบหน้าเช่นเดียวกันกับชิโนบุ มัดหางม้าข้างๆ ท่าทางดูใจเย็น
ชิโนบุเบิกตากว้าง เพราะไม่คิดว่าต้องมาเจอลูกศิษย์ตัวเองอย่าง คันซากิ อาโออิ และ สึยูริ คานาโอะ เช่นนี้ ก่อนจะคลี่ยิ้มและหัวเราะเล็กน้อย
"แหม ผู้ช่วยของดิฉันมาแล้วนะคะ ดีจริงๆ"ชิโนบุยิ้ม ก่อนเดินเข้าไปหาสองลูกศิษย์ของตัวเองและกระซิบเบาๆ อาโออิเมื่อฟังจบก็พยักหน้ารับคำ
"ฉันชื่อว่า คันซากิ อาโออิค่ะ ส่วนคนที่ยืนข้างๆนี้คือ สึยูริ คานาโอะ พวกเราจะรับหน้าที่ฝึกทุกคนเองค่ะ"อาโออิกล่าวแนะนำตัว ส่วนคานาโอะก็พยักหน้าน้อยๆ
"ระวังกันด้วยนะคะ~ คานาโอะน่ะเก่งกว่าดิฉันไปมากเลย เช่นนั้นคุณโอคุดะช่วยตามมาทีนะคะ"โอคุดะเมื่อถูกเรียกชื่อก็สะดุ้งโหยง ก่อนเดินไปหาชิโนบุ ส่วนคนที่เหลือก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขนาดชิโนบุที่ว่าเก่งยังบอกว่าคนที่ชื่อคานาโอะเก่งกว่า เช่นนี้พวกเขาจะรอดหรือ
"เอาล่ะ ท่านโคโจวบอกว่าอย่าหนักมากซึ่งเช่นนั้น พวกเราก็มาเล่นวิ่งไล่จับกันค่ะ"อาโออิชี้แจง เมื่อเห็นชิโนบุกับโอคุดะเดินออกไปแล้ว ก่อนที่นักเรียนห้อง E จะงงตาแตก อยู่ดีๆมาพาเล่นไล่จับกันเนี่ยนะ?
"มันเป็นการฝึกความคล่องแคล่วร่างกายค่ะ"คานาโอะพูดมาสั้นๆ ก่อนหันไปทางอาโออิให้ชี้แจงต่อ
"ตามที่คานาโอะพูดไปค่ะ จริงๆแล้วมันฝึกไหวพริบด้วย โดยคนที่จะฝึกพวกคุณคือคานาโอะ ส่วนคนที่มีปัญหาด้านความยืดหยุ่น มาหาดิฉันค่ะ"ทุกคนเริ่มเดินเรียงแถวแบ่งสองแถวชัดเจน ทางฝั่งคานาโอะเสียส่วนใหญ่ จากนั้นก็อาโออิก็แบ่งพื้นที่กับคานาโอะ ก่อนจะเริ่มฝึกของใครของมัน
"เห...งั้นสึยูริซังสินะ จะเริ่มฝึกจากเล่นไล่จับเหรอ?"คารุมะเอ่ยถามขึ้นมา คานาโอะก็พยักหน้ารับ
"อาจารย์บอกว่าให้เริ่มจากทีละคนก่อน งั้นก็...อาคาบาเนะซัง ช่วยมาเป็นแรกด้วยค่ะ"คานาโอะพูดขึ้น คารุมะก็ยักไหล่เล็กน้อย ก่อนก้าวออกมา ส่วนอาโออิแยกจากฝึกความยืดหยุ่นมาเป็นกรรมการ
"ทันทีที่อาคาบาเนะซังจับคานาโอะได้ก่อนหมดเวลาจะเป็นฝ่ายชนะ เวลา 15 นาที พร้อม! เริ่ม!"
ทันทีที่ได้สัญญาณ คารุมะก็พุ่งตัวไปหาคานาโอะที่ยืนนิ่งๆไม่ได้ตั้งท่าอันใดทันที เมื่อปลายนิ้วกำลังจะคว้าข้อมือได้ ร่างของคานาโอะก็หายวับไปไกลกว่าเดิม คารุมะเริ่มยิ้มแสยะ ก่อนวิ่งตาม ส่วนคานาโอะก็วิ่งเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย คารุมะในหัวเริ่มร่างแผนไว้ร้อยแปด แต่เมื่อจะทำตามแผนสักแผน คานาโอะก็หายไปเสียก่อน เป็นอย่างนี้วนลูป จนหมดเวลายังไม่ทันได้แตะผ้าคลุมไหล่หรือชายกระโปรงอีกฝ่ายด้วยซ้ำ!!
"หมดเวลา!"อาโออิประกาศ คารุมะได้แต่นั่งหอบ ส่วนคานาโอะเหงื่อยังไม่ทันจะออกสักหยด ทุกคนต่างตะลึงกับสมรรถภาพทางกายของคานาโอะทั้งสิ้น
ก่อนอาโออิจะประกาศให้ตั้งแถว เพื่อทดสอบการไล่จับดู แต่ผลปรากฏคือยังมีแต่คนคว้าอากาศร่ำไป
อาโออิส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวให้พักเสีย ก่อนเปลี่ยนไปเล่นสาดน้ำชาตัวร้ายกันแทน
"นี่น้ำเกลือแร่กับผ้าเย็นค่ะ ลืมไปว่าทุกคนเป็นนักเรียนธรรมดากัน ถึงทางกายจะต่างจากนักเรียนทั่วไป ดังนั้น สาดน้ำชาเดี๋ยวฉันจะบอกคานาโอะให้ค่ะ"อาโออิยกลังน้ำเกลือแร่มาให้ทุกคน ส่วนคานาโอะยกลังผ้าเย็นมา ทุกคนได้แต่ท้อใจและสงสัยว่าก่อนหน้านี้พวกหล่อนฝึกมนุษย์ต่างดาวมาหรือยังไง
"งั้นก่อนหน้านี้เคยฝึกใครมาเหรอคะ?"คายาโนะเอ่ยถาม พลางนอนแผ่
"เอ่อ...พวกที่ค่อนข้างจะมีทักษะค่ะ ก่อนนั้นพวกเขาบาดเจ็บพวกเราก็ฝึกแบบนี้"อาโออิอึกอักเล็กน้อย ก่อนกล่าวออกไป
ส่วนนักเรียนที่นั่งฟัง ได้แต่คิดว่าทำไมแม่นางถึงฝึกกับคนป่วยงี้ล่ะ!!
เมื่อพักกันได้สักครู่ จึงมาล้อมกันที่โต๊ะน้ำชาเล็กๆที่ตั้งอยู่ มีแก้วชาวางอยู่ประมาณสิบกว่าแก้วได้ คนที่ทดสอบคนแรกก็คือคารุมะ เหมือนจะแค้นจากการไล่จับ
"เห็นว่าทุกคนเคยฝึกกับท่านโคโจวมาก่อน คงจะรู้กติกานะคะ ดังนั้น เตรียมพร้อม! จำไว้คานาโอะ ออมมือ!"อาโออิกล่าวย้ำกับคานาโอะ คานาโอะก็พยักหน้าน้อยๆ
"เริ่ม!"
เมื่อได้สัญญาณ มือของคารุมะก็เอื้อมไปคว้าแก้วชาที่อยู่ริมสุด แต่แน่นอนว่าถูกสกัดไว้ และโดนชาสาดหน้าเต็มๆ
"นั่นออมมือใช่มั้ยน่ะ"มาเอฮาระพูด ก่อนเหงื่อจะเริ่มตก ถามจริงว่าไปฝึกจากใครมา!
"ถ้าไม่ออมคงโดนสาดตั้งแต่ยังไม่ได้จับแก้วมั้งเนี่ย"ซึกิโนะกล่าวอย่างหวาดๆ
"คนต่อไปค่ะ"อาโออิกล่าวเสียงเรียบ คารุมะจึงได้แต่เดินจากโต๊ะไปอย่างหงุดหงิด และเดินไปต่อท้ายแถว
การฝึกดำเนินไปเรื่อยๆ กับสภาพของทุกคนที่เริ่มเปียกปอน ก่อนอาโออิจะสลับตัวกับคานาโอะ เพราะหากฝึกกับคานาโอะเรื่อยๆชาตินี้สาดยังไงก็ไม่โดน
แม้จะเปลี่ยนเป็นอาโออิ แต่ก็ใช่ว่าจะมีคนสาดโดน แม้ไม่ได้มีสายตาพิเศษแบบคานาโอะ แต่ร่างกายคนในหน่วยนักล่าอสูร เรื่องประสาทสัมผัสนั้นดีกว่าเยอะ
ฝึกยาวจนถึงตอนบ่ายแก่ๆ หากฝึกนานกว่านี้คงจะร้อนตาย อาโออิจึงให้ทุกคนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน พวกผู้ชายอาโออินำไปที่ห้องอาบน้ำด้านนอก ส่วนผู้หญิงคงต้องไปอาบที่ห้องอาบน้ำอีกห้องที่อยู่ใกล้ๆกับห้องพยาบาล
"แหม เหมือนจะฝึกกันหนักเลยนะคะ"ชิโนบุที่เดินออกมาพร้อมโอคุดะเอ่ยออกมา มองสภาพแต่ละคนที่เปียกจนไม่รู้จะเปียกยังไง
"ก็นะ ซึยูริซังโหดสุดๆไปเลย"อิโซไกหัวเราะแห้งๆ
"งั้นเหรอคะ...อืม คงต้องฝึกกับอาจารย์คาราซึมะเป็นหลักๆ แล้วค่อยมาฝึกเสริมที่นี่เอานะคะ"ชิโนบุพยักหน้า ก่อนจะเขียนแบบร่างแผนฝึกเอาไว้ ก่อนชวนทุกคนไปกินข้าวจากการเหนื่อยยาก
"โคตรอร่อยเลยยยยยยยย!!!"
"เทมปุระธรรมดาแท้ๆ ทำไมอร่อยขนาดนี้เนี่ยย!!!"
"รสมือพระเจ้าชัดๆ!"
"เติมข้าวคร้าบบบบ อาโออิซ้างงงงง!!"
ทุกคนกินข้าวไปก็น้ำหูน้ำตาไหลกันไป ชิโนบุขบขันกับภาพตรงหน้าไม่น้อย
"คนเหนื่อย กินอะไรก็อร่อยทั้งนั้นแหละเนอะ"คารุมะหันมาพูดกับชิโนบุ ก่อนชิโนบุจะยิ้มและคีบเทมปุระให้อันหนึ่ง
"นั่นสินะคะ แต่คารุมะคุงก็อย่าโมโหที่แพ้คานาโอะเลยนะคะ นานๆทีฉันก็แพ้เหมือนกัน แต่ฝึกบ่อยๆก็ได้อยู่นะคะ"ชิโนบุยิ้ม ก่อนคีบข้าวเข้าปาก
"นั่นสิน้า~ งั้นมีใครที่ชนะได้มั้ย"คารุมะเอ่ยถามคนข้างตัวอย่างชิโนบุ
"มีสิคะ ทำไมจะไม่มี เขาชื่อว่าทันจิโร่คุงค่ะ อาจจะเป็นหนึ่งในพันที่ชนะได้เลยล่ะค่ะ ตอนแรกก็ทุลักทุเลแบบทุกคน แต่ฝึกไม่กี่เดือนเขาก็ทำได้ค่ะ เอาไว้รอบหน้าจะสอนเคล็ดให้นะคะ"ชิโนบุแววตาอ่อนโยนยามพูดถึงทันจิโร่จนคารุมะสังเกตุได้ แต่แววตานั้นก็หายวับยามหันมาพูดกับตัวเขาเอง
"เห...งั้นรอบหน้าฉันจะมาแล้วกันนะ อยากฝึกส่วนตัวนิดหน่อยน่ะ"คารุมะเมื่อพูดจบใบหน้าก็ขึ้นริ้วแดง เมื่อเผลอพูดอะไรที่มันสองแง่สองง่ามไป
"หืม...ก็ได้หรอกนะคะ แต่โทรนัดกันหน่อยก็ดี"คารุมะเมื่อได้ยินดังนั้นหน้าแดงกว่าเดิม ทำไมต้องตอบรับเขาง่ายๆให้ใจเต้นเล่นกันนะ?
หลังจากทุกคนกลับบ้านไปตอนเย็น คานาโอะและอาโออิก็ขอกลับไป และยังบอกอีกว่านานๆจะแวะมาที เพื่อที่จะถามไถ่สาระทุกข์สุกดิบกัน รวมไปถึงเรื่องการเกิดใหม่นี้ด้วย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีที่อย่างน้อยเธอก็เจอคนหน้าประจำยกเว้นเจ้าอสูรโรคจิตนั่น
เมื่อรอจนพระอาทิตย์ตก ชิโนบุจึงออกมาตรวจตราในเมืองอย่างปกติทุกๆวัน ก็ไม่พบอันใด จนแอบสงสัยว่าเจ้าโดมะมันสั่งพวกอสูรไม่ให้มารึเปล่า
ทำได้แค่คิดข้อสันนิฐาน ชิโนบุจึงเลยไปตรวจเมืองข้างๆ เผื่อมีอสูร เพราะว่าเขตการรับผิดชอบมันนักล่าอสูรคนหนึ่งต่อหน่วย แต่ไม่มีกฏสั่งว่าห้ามช่วยเหลือกัน รับผิดชอบงานเป็นพอ
ชิโนบุมาสอดส่องตรอกมืดๆที่มักจะเป็นสถานที่พบอสูรมากที่สุด จนมาเจอตรอกหนึ่งที่เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้น
"ปราณวารีรูปแบบที่ 11 ผิวน้ำสงบนิ่ง"
มันคุ้นจริงๆ ทั้งน้ำเสียงและฮาโอริครึ่งๆ คุ้นๆเหมือนคนไม่มีเพื่อนเลย
"อุ้ยแหม แม้แต่เกิดใหม่ก็ยังไม่มีเพื่อนคบเลยสินะคะ โทมิโอกะซัง"
※เฮ้ยยยยยย ไรท์เพิ่งจะตื่น เพราะหลับไปตั้งแต่หนึ่งทุ่ม ฮื้อ5555555 ขอโทษที่อัพช้านะคะะะะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ในที่สุด! 😆~
ยูริ/ คายากับชิโนะ~
เจอคนไร้เพื่อน1ea รอต่อปายยยยยยยย~~~~~~ ชอมมากเลย
กรี้เเดดดดดดดดด กิยูชิโนะบุชั้นนนนนนน
ในที่สุด!เค้าคนนี้ก็มา...เรารอนายมาตลอดเลยนะกิยูซัง
ชาตินี้เค้าจะมีเพื่อนไหมนะคะ~
พระเอกกกก(?)มาาาาา
ไม่มีถูกไม่มีผิดเนอะ แหะๆ
เย้ๆๆๆพระเอกมาแล้วววววววว
คุณพี่กิยูซังงงง