ตอนที่ 12 : ผีเสื้อตัวที่ 12
((คำเตือน))
มีการสปอยล์หนักมากๆจากทั้งสองเรื่อง มีคำหยาบคายที่อาจจะหลุดมาจากปากของตัวดำเนินเรื่อง(ชิโนบุ) เช่นไรแล้วก็ขอให้สนุก
*ตอนนี้อาจจะตาลายหน่อยๆ
________________________________
"หื้ม~~ ชิโนบุจังล่ะก็~ ข้าแค่มาบอกข้อมูลตามที่สัญญาไว้ไงเล่า~ แล้วอีกอย่างชิโนบุจังฆ่าข้าไม่ได้หรอกนะ~"โดมะกล่าว ด้วยเสียงที่ดูสะดีดสะดิ้งเกินเบอร์ ทำให้ชิโนบุต้องพยายามหายใจเข้าหายใจออกอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ตัวเองจะพุ่งไปฆ่าไอ้อสูรโรคจิตนี่
โดมะที่เห็นว่าชิโนบุใจเย็น ก็พาชิโนบุมาห้องอ่านหนังสือ เพื่อมานั่งคุยทันที ก่อนที่ตัวของโดมะวิ่งไปเอาชามา แต่ชิโนบุก็ไม่ได้ดื่มแม้แต่น้อย
"เอาๆล่ะ เริ่มที่เรื่องของเจ้าของจดหมายก่อนดีมั้ย~"โดมะดื่มชา ก่อนจะหันมาบอกชิโนบุ ชิโนบุจึงพยักหน้าเฉยๆ ไม่อยากพูด เพราะถ้าเธอพูดขึ้นมา เจ้าอสูรตรงหน้าคงได้พาเธอออกทะเลพูดนอกเรื่องแน่
"ตอนที่ชิโนบุจังตายน่ะ~ คงจะถูกส่งมาที่นี่ ข้าก็เหมือนกัน~ แต่ที่ข้าก็เพิ่งจะรู้ได้ไม่นาน ว่าทุกคนมีพันธะที่ผูกไว้กับคนใดคนหนึ่งที่ถูกส่งมาเช่นกัน~"
"เช่นของข้า...ผูกอยู่กับชิโนบุจังล่ะ~ มันจะถูกสลักชื่อคู่พันธะเอาไว้ตรงข้างหลังชิโนบุจังน่ะ~ พันธะของแต่ละคู่มันไม่เหมือนกัน ของพวกเราคือห้ามฆ่าหรือทำร้ายกันยังไงล่ะ~"โดมะรอดูปฏิกริยาของชิโนบุ ซึ่งนัยน์ตาสีม่วงสวยของอีกฝ่ายเบิกโพลงขึ้นเล็กน้อย ก่อนกลับไปเป็นปกติ
"แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ...รู้ได้ยังไงกันคะว่ามันอยู่ตรงหลังดิฉัน ดิฉันว่าไม่เคยเปิดให้อสูรบัดซบเช่นคุณดูนะคะ แล้วอีกอย่างคุณเคยพยายามฆ่าฉันเหรอคะ ถึงรู้พันธะ"ชิโนบุเริ่มดวงตากร้าวขึ้นอีกครั้ง แต่โดมะยังยิ้มระรื่นเช่นเดิม
"หื้ม~ ก็ตั้งแต่รู้ว่ามีที่นี่ ข้าก็มาดูบ่อยๆ จนไปจ๊ะเอ๋ตอนที่ชิโนบุจังถอดชุดน่ะ~ ขาวจั๊วะเลยล่ะ~ ส่วนที่พยายามฆ่า ก็แน่นอนสิ~ ข้าน่ะอยากจะกลืนกินชิโนบุจังไปอีกรอบล่ะ เลยวางยาพิษใส่แก้วชาตอนชิโนบุจังไปเปลี่ยนชุด และดื่มเข้าไป แต่ไม่เป็นอะไร ข้าก็ลองหลายๆรอบจนเอาไปใส่แก้วคนอื่นด้วยตอนชิโนบุจังไปร้านกาแฟ แต่คนนั้นม่องเท่งไปแล้ว"โดมะพูดทั้งรอยยิ้ม
ชิโนบุอยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปข้าง ถ้าไม่ติดว่าตัวเองตายไม่ได้ล่ะก็นะ ได้แต่กำแก้วชาในมือจนแหลกละเอียด
โดมะไม่ได้พูดอะไร อธิบายต่อเรื่องต่างๆต่อ จนเธอจับใจความได้ดังนี้
1)เธอมีคู่พันธะกับโดมะ และพันธะคือห้ามฆ่าหรือทำร้ายกัน
2)ทุกคนมีภารกิจของตนเอง โดมะคือดูแลชิโนบุดั่งสามี แต่ของชิโนบุยังไม่แน่ชัด แต่จะรับรู้เมื่อเผลอทำสิ่งนั้นไป
3)ฆ่าตัวตายมิได้
4)มีแม่บ้านคอยดูแลผู้เกิดใหม่ทุกคนแต่ไม่สามารถมองเห็นได้
ส่วนอย่างอื่นนั้นก็เป็นการเพ้ออะไรของเจ้าอสูรก็ไม่รู้ แต่ไอ้ข้อ 2 นั่นมันอะไร? สรุปแล้วคือที่เธอมาที่นี่ เจ้าบัดซบที่ส่งจดหมายนั่นพยายามจะทรมานเธอจริงๆใช่มั้ย
"ดิฉันเพิ่งจะเตะคุณไปนะคะ นั่นไม่ถือว่าเป็นการทำร้ายเหรอคะ"ชิโนบุถามโดมะไป
"อ้อ อันนั้น ข้ารู้นั่นแหละว่าชิโนบุจังต้องเตะ แต่ข้าชอบนี่นา และนั่นมันไม่ถือว่าถึงตายเลยไม่เป็นไร"โดมะส่งยิ้มให้เธอดั่งทุกครั้ง
ชิโนบุอยากจะเป็นลม โดมะถามอย่างเป็นห่วงตามเรื่องราว พลางจะอุ้มเธอกลับห้องแถมอาบน้ำให้เธอ แน่นอนชิโนบุอยากจะไล่มันตั้งแต่พูดจบ แต่ต่อให้ไล่มันก็คงจะกลับเข้าบ้านเธอมาอยู่ดี
หอบเสื้อผ้าไปนอนที่โรงเรียนดีมั้ยนะ?
ชิโนบุทำได้เพียงคิดเท่านั้นแล
"เห~ จะถึงเวลาทำงานแล้ว เดี๋ยวข้าไปก่อนนะชิโนบุจัง~ ฝันดีนะ~"
จุ้บ!
โดมะไม่ว่าเปล่า ก่อนออกไปก้มลงประทับริมฝีปากบนหน้าผากของชิโนบุ ชิโนบุได้แต่เบิกตาโพลง อยากคว้าคอเจ้าอสูรนั่นเหลือเกิน แต่มันดันไปเสียแล้ว ชิโนบุพลางเอาผ้ามาเช็ดที่ๆถูกจูบเมื่อครู่ ก่อนโยนผ้านั้นลงเตาไฟ
ในเช้าวันถัดมา ชิโนบุที่เมื่อคืนแทบจะนอนไม่หลับ แม้ว่าปกติแล้ว เธอไปตรวจรอบเมืองและอาบน้ำเสร็จก็จะทำการบ้านแล้วนอน แต่วันนี้พอจะหลับดันนึกถึงเสียงเจ้าอสูรโรคจิตจนสะดุ้งตื่น เธอจึงต้องก้มอ่านหนังสือไป 4 เล่มหนาๆ แต่ดันไม่ง่วงเลยสักนิด ถึงแม้สุดท้ายจะผล็อยหลับตอน ตี 3 ครึ่ง และตื่นมาในสภาพงัวเงียแบบสุดๆ ซ้ำยังต้องไปโรงเรียนอีกด้วย แค่คิดก็ถอนหายใจยาวๆแล้ว
"ไปก่อนนะคะ..."ชิโนบุหยิบของทุกอย่สงที่ต้องเอาไป และเช็ครอบเรือนผีเสื้อเรียบร้อยเดินออกมาพบกับโดมะยืนกางร่มอยู่หน้าบ้าน
"อ้าว~ ชิโนบุจัง~ อรุณสวัสดิ์นะ"เสียงโดมะแสนสดใสขัดกับเธออย่างยิ่งเอ่ยออกมา
แน่นอนชิโนบุเลือกที่จะไม่สนใจ และเดินตรงไปที่โรงเรียนทันที แต่โดมะยังเดินตามมาตื้อติดๆ จนชิโนบุต้องกำกระโปรงนึกสภาพ หากนั่นเป็นคอมนุษย์คงจะหักไปแล้ว
"ชิโนบุจัง~ สนใจข้าหน่อยสิ~"โดมะโน้มตัวลงมาทำปากจู๋ อาจดูน่ารักในสายตาคนอื่น แต่ตอนนี้ชิโนบุอยากจะชกหน้ามันเหลือเกิน
"ไม่มีการมีงานทำเหรอคะ?"ชิโนบุถามเสียงนิ่ง
"ชิโนบุจังเป็นห่วงข้าเหรอ~ อื้มๆ ช่วงเช้าน่ะไม่มีหรอก ไปส่งชิโนบุจังที่โรงเรียนได้~"โดมะยิ้มก่อนตอบคำถาม ชิโนบุได้แต่ถอนหายใจ และรูดซิบปากก้าวยาวที่สุดเท่าที่จะก้าวได้เพื่อให้ถึงเร็วๆ แต่คนส่วนสูง 151 เซนติเมตรแค่นี้หรือจะขายาวเท่าคนสูง 190 เซนติเมตร เพราะยังไงโดมะก็ตามทันอยู่ดี
จนสุดท้ายมาถึงโรงเรียนจนได้ ชิโนบุอยากจะหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด แต่ก่อนจะหลั่งไม่รู้ด้วยเหตุผลใด ตัวปัญหาอันยิ่งใหญ่ทั้ง 4 ของชิโนบุอันประกอบด้วย โดมะ คารุมะ กาคุโฮ และการคุชูมายืนรวมกันที่หน้าโรงเรียน โดยมิได้นัดหมาย ก็ได้เจอหน้ากันแถมยังจ้องไปที่อสูรหัวเงินตาเขม็ง
"เห~ ชิโนบุจัง~ พาตาแก่หัวหงอกที่ไหนมาล่ะเนี่ย คนหลงเหรอ?"เริ่มด้วยสกิลปากคอเราะร้ายของคารุมะ ที่เอาปมด้อยหัวสีเงินของโดมะมาเล่นก่อน
"อาคาบาเนะคุง...ไม่พูดอย่างนั้นสิ แต่ถึงอย่างนั้น หากเป็นคนหลงจริงๆ ผมจะให้ประธานนักเรียนไปส่งดีมั้ยครับ? อย่าลำบากเด็กนักเรียนห้อง E เลย"ผู้อำนวยการกาคุโฮเริ่มพูด พลางส่งรอยยิ้มการค้าอันแสนเย็นชาให้โดมะ ก่อนจับไหล่ชิโนบุเบาๆ
"ถูกอย่างที่ผู้อำนวยการบอกครับ ผมยินดีจะมาร์คจุดหมายใส่ GPS ให้ ถ้าเปิดเครื่องไม่เป็นหรือไม่มีล่ะก็ ผมไปส่งได้ครับ"กาคุชูค้อมหัวรับคำเล็กน้อย แต่ชิโนบุนั้นเหนื่อยจะพูดแล้วจะฟัง ยืนหัวเราะเบาๆจนโดมะมองด้วยน้ำตาคลอ ตอแหลเยี่ยงที่ทำกับพวกสาวก
"อ้อ งั้นเหรอ จริงๆจะขึ้นรถมาได้อยู่หรอก แต่...คุณ เมีย ดันเดินมานี่นา จะไม่มาส่งได้ยังไงล่ะ เนอะ~ ชิโนบุจัง~~ งั้นข้าไปก่อนน้า~"โดมะกล่าวจบก้มลงไปหอมแก้มชิโนบุหนึ่งที ก่อนเดินไป ทิ้งให้ทั้งสี่ตกตะลึง รวมชิโนบุด้วย สามชายหนุ่มมองเจ้าคนหัวเงินตาค้าง ก่อนหันมาหาชิโนบุ พบว่าชิโนบุนั้นขึ้นเขาไปแล้ว
วันนั้นทั้งวัน คารุมะ กาคุชู และผู้อำนวยการกาคุโฮก็อารมณ์ไม่จอยแบบสุดๆ แต่ดีหน่อยที่สองพ่อลูกนั้นเขาเก็บสีหน้า แต่คารุมะนี่เล่นพองแก้มพองลม ฟุบหน้าลงโต๊ะ ซ้ำยังดึงแขนเสื้อชิโนบุอย่างกับเด็กๆ จนคนทั้งห้องสงสัยแต่ไม่กล้าถาม
ในคาบภาษาอังกฤษสื่อสารของอาจารย์อิรีน่า ตัวคนสอนได้แต่สงสัยว่าทำไมเด็กหลังห้องสองคน หนึ่งลูกศิษย์คนโปรดกับหนึ่งอันธพาลถึงทำท่างอนกัน ประหนึ่งคู่รักวัยใส แต่ชิโนบุก็บอกไม่ต้องสน อาจารย์อิรีน่าจึงพยักหน้าและสอนประโยคชวนสยิวแฝงบทเรียน(?)ต่อ
"ชิโนบุจัง...กลับบ้านด้วยกัน...นะ?"คารุมะจับแขนชิโนบุพลางช้อนตามอง ในยามนี้ดวงอาทิตย์เริ่มจะกลายเป็นสีส้ม ก็ไม่เหลือใครนอกจากครูที่ห้องพักครู ชิโนบุงงเล็กน้อยกับการกระทำของคนหัวแดง แต่ไม่ได้ว่าอะไร พยักหน้าไป ทำให้คารุมะยิ้มขึ้นเล็กน้อย
พอเปิดประตูห้องเรียน พบกับชายคนหนึ่งท่าทางน่ากลัวแถมดูจริงจัง ดูแล้วเป็นคนต่างชาติอย่างไม่ต้องสงสัย สวมเสื้อโค้ทสีน้ำตาล ผมสีดำถูกเซ็ทเป็นระเบียบ เดินผ่านห้องเรียน พลางหันชำเลืองมองชิโนบุเล็กน้อย ชิโนบุไม่ได้ทำอะไร ยิ้มแล้วก้มหน้าน้อยๆเป็นการทักทาย ชายคนนั้นพยักหน้า ก่อนมีกระดาษแข็งๆลอยมาข้างใบหน้า ชิโนบุจึงใช้สองนิ้วคีบไว้ทัน พบว่าเป็นนามบัตรสีดำ
ลอฟ...โลฟโร ?
ชิโนบุอ่านชื่อชายคนนั้น ก่อนยิ้มทักทายอีกรอบ และเดินกลับบ้านพร้อมคารุมะ ถึงจะสงสัยก็เถอะว่ามาทำไม แต่นี่เป็นห้องเรียนลอบสังหารนี่ แถมยังมีเป้าหมายค่าหัวเป็นหมื่นล้าน จะมีนักฆ่ามาแวะคงจะไม่แปลกจริงมั้ย?
เช้านี้สดสัยกว่าเมื่อวาน เนื่องจากอสูรโรคจิตไปต่างประเทศ กว่าจะกลับก็อีกสามวัน แถมวางบัตรเครดิตสีดำไว้บนโต๊ะกินข้าวของเธอด้วย แต่ชิโนบุไม่ได้จับมันเพราะกลัวเสนียดขึ้นมือ
หน้าเรือนผีเสื้อเจอกับพ่อลูกอาซาโนะคู่เดิม จนเธอชินไปแล้ว ถอนหายใจน้อยๆและเดินขึ้นรถไป อย่างน้อยเจอผู้อำนวยการก็ดีกว่าเจอไอ้อสูรหัวหงอกนั่นแหละนะ
ขึ้นมาบรรยากาศค่อนข้างจะตึงๆเล็กน้อย เพราะสองพ่อลูกจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับเธอเป็นปลากัด มีชิโนบุที่ต้องยิ้มอยู่เช่นเดิมราวคนบ้า
ก่อนคนลูกจะตัดสอนใจเอ่ยปากถามเรื่องของโดมะ ชิโนบุจึงต้องตอบไปตามเรื่องตามราว ใส่สีตีไข่เพิ่มไป จนบรรยากาศมันเริ่มดีขึ้นมา พร้อมผู้อำนวยการที่ยื่นแซนด์วิชและนมกล่องให้ทานเล่นจนถึงโรงเรียน(?)
คาบพละในยามเช้า อาจารย์คาราซึมะได้ชี้แจงว่าจะมีคนมาสังหารตน(?) เพื่อที่จะมีคนหนึ่งได้อยู่ต่อระหว่างอาจารย์อิรีน่าและครูฝึกของเจ้าหล่อน ดูจะบันเทิงน่าดูชม
จนกระทั่งคนถูกพูดถึงเข้ามาในซีนราวตัวละครที่ถูกวางไว้ แถมใช้มารยาเล่ห์กล ที่มันโป๊ะไปตั้งแต่อาจารย์อิรีน่าแกเข้ามาเป็นอาจารย์แล้วอีก อาจารย์คาราซึมะจึงไม่เป็นอะไรเลยสักนิด นักเรียนห้อง E ที่นั่งชมการลอบสังหารได้แต่หัวเราะแห้ง เป็นกำลังใจให้ครูสาวผมทองต่อไป
"ชิโนะจังๆ มาดูสิ"คายาโนะลากแขนเธอมามองที่หน้าต่าง พบอาจารย์อิรีน่าและอาจารย์คาราซึมะกำลังคุยอะไรสักอย่าง ก่อนอาจารย์อิรีน่าจะใช้กับดักเส้นลวดขึ้นคร่อมอาจารย์คาราซึมะได้ในที่สุด แต่อาจารย์คาราซึมะก็ป้องกันได้ก่อนจะถูกมีดยางแทง
แรงหญิงจะสู้แรงชาย ไม่มีทาง
ชิโนบุคิดเช่นนั้น แต่อาจารย์คาราซึมะก็ยอมแพ้ ยอมให้อาจารย์อิรีน่าแทงในที่สุด คนทั้งห้องก็เฮลั่น ส่วนชิโนบุก็เก็บเรื่องนี้ไว้แกล้งอาจารย์คาราซึมะเงียบๆในใจ ภายใต้รอยยิ้มแสดงความยินดีเช่นคนอื่นๆ
อีกด้าน
"จะว่าไปนะ...อาจารย์โคโระ" โลฟโร ครูฝึกนักฆ่าเลื่องชื่อ หลังจากดูการลอบสังหารเสร็จ และตนเป็นฝ่ายแพ้ลูกศิษย์ดื้อด้านอย่างอาจารย์อิรีน่า กล่าวขึ้นมา เรียกความสนใจจากอาจารย์โคโระ
"ครับผม?"อาจารย์โคโระตอบรับ
"เด็กผู้หญิง...ที่ตัวเล็กๆผมสีดำที่ห้องนี้น่ะ"บอกแค่นี้อาจารย์โคโระก็ร้องอ๋อ เพราะมีเพียงผู้เดียวเท่านั้น
"หืม? หมายถึงโคโจวซังเหรอครับ?"โลฟโรพยักหน้าเบาๆ
"เป็นเด็กที่ดูอันตรายมาก...ทำไมยังฆ่านายไม่ได้อีกกัน? หรือแค่ยังไม่มีโอกาสเหมาะๆ?"โลฟโรกล่าวเสียงเรียบ อาจารย์โคโระจึงยิ้มก่อนจะตอบคำถามของอีกฝ่าย
"นิรุฟุฟุ ไม่หรอกครับ โอกาสมีทุกเวลาถ้าโคโจวซังจะฆ่าผม แต่เธอคงยังอยากเล่นกับทุกคนมากกว่านี้กระมังครับ"อาจารย์โคโระตอบ สร้างความสงสัยให้โลฟโรไม่น้อย
ไม่ยอมฆ่าเพราะอยากเล่นอยู่?! ช่างเป็นเด็กที่น่าสนใจจริงๆ
โลฟโรคิด พลางโบกมือลาอาจารย์โคโระไปหาลูกศิษย์ของตน พลางล้วงกระเป๋า ก็ต้องแปลกใจเมื่อมันมีกระดาษโน๊ตอยู่ข้างใน
ยินดีที่รู้จักนะคะ ดิฉันโคโจว ชิโนบุ ค่ะ
ประโยคสั้นๆกับกระดาษเล็กๆทำให้โลฟโรทึ่ง เนื่องจากเขาไม่รู้สึกหรือจำไม่ได้เสียด้วยซ้ำว่าเด็กคนนั้นเฉียดใกล้เขาตอนไหน!? ช่างเป็นเด็กที่อันตรายกว่าที่คิด ดั่งผีเสื้อที่งดงามแต่กลับเคลือบพิษร้ายเอาไว้เสีย
เวลาเลิกเรียนมาถึงแล้ว เธอพบกับอาจารย์โคโระ นางิสะและคารุมะอยู่หน้าอาคาร ชิโนบุเลิกคิ้วเล๋กน้อย ก่อนเดินไปถาม
"หืม? จะไปไหนกันเหรอคะ?"ชิโนบุยิ้มก่อนเอ่ยถามเยี่ยงทุกๆครั้ง
"อ๊ะ! ชิโนบุซัง พวกเรากำลังจะไปดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ฮาวายน่ะ!"นางิสะตอบอย่างตื่นเต้น เพราะเป็นการไปดูหนังที่ต่างประเทศครั้งแรก แถมยังจะได้ไปด้วยความเร็วมัคอีก!
"จะไปด้วยรึเปล่าชิโนบุจัง"คารุมะเอ่ยถาม ถึงชิโนบุจะแอบสงสัยว่าคนอย่างคารุมะจะชอบหนังประเภทนี้ด้วยก็เถอะ
"นิรุฟุฟุ ถ้าจะไปล่ะก็มีที่ว่างนะครับ"อาจารย์โคโระโชว์พื้นที่เสื้อที่ยังเหลือตรงกลางให้ดู
(แน่นอนค่ะ! สนุกแน่เลย!)เสียงของริทสึเอ่ยออกมาจากโทรศัพท์ของนางิสะ
แต่ชิโนบุก็เอ่ยปฏิเสธไป เพราะหากไปกลัวจะกลับค่ำ จึงอวยพรให้ทั้งสี่ไปดูหนังอย่างสนุกก็เพียงพอ และเดินกลับบ้านทันที
หลังจากกลับบ้านมา และไปตรวจรอบเมืองเสร็จเรียบร้อยดีทุกอย่าง ชิโนบุก็กดหาสายหนึ่งทันที
(อ๊ะ! ชิโนบุซัง โทรมาแล้ว! เวลาเดิมเลยนะครับ)เสียงจากปลายสาย ชิโอตะ นางิสะ เอ่ยขึ้น
"ค่ะนางิสะคุง เอ...งั้นช่วยเล่าเรื่องที่ไปฮาวายไป ทำการบ้านไปเนอะคะ"ชิโนบุเอ่ยก่อนหยิบสมุดการบ้านออกมาทำ
(อื้อ! คือหลังจากแยกกัน.....)ได้ยินเสียงเปิดสมุดการบ้านของปลายสาย พร้อมกับเสียงคุยสบายๆของนางิสะช่างผ่อนคลายดีจริงๆ
จริงๆตั้งแต่รู้จักกัน ชิโนบุกับนางิสะก็มักจะโทรคุยกันเช่นนี้บ่อยๆ มันผ่อนคลายดีสำหรับชิโนบุ แถมนางิสะที่ที่บ้านนั้น คุณแม่มักจะไม่ค่อยได้ฟังอะไร นางิสะกลัวที่จะเล่า ก็เลยมาเล่ากับเธอแทน แม้มันจะเป็นการบ่นกระปอดกระแปด แต่ยังไงก็ตั้งใจฟัง จนกว่าคนใดคนหนึ่งจะผล็อยหลับ แถมยังทำการบ้านเสร็จทุกวิชาด้วย
"ราตรีสวัสดิ์นะคะ...นางิสะคุง"ชิโนบุกล่าวเบาๆราวกระซิบ เมื่อได้ยินคนปลายสายนั้นนอนลงบนเตียง
(อื้ม...ราตรีสวัสดิ์ ชิโนบุซัง)ปลายสายพูดอย่างงัวเงีย และลงสู่ห้วงนิทรา
※เรือดีเขาไม่ออกสื่อแรงๆกันหรอกนะ!!!! อาจมีคำผิดเยอะหน่อยนะคะ ถามว่าตอนนี้เมามั้ย ก็เมานะ55555 จริงๆถ้าว่างๆก็ว่าจะวาดรูปมาใส่ด้วยค่ะ แต่ดันลงก่อน แถมยังมีโปรเจ็คเรื่อง bungou stray dog ,My hero กับปรมาจารย์ลัทธิมารที่จะแต่งต่อจากเรื่องนี้ด้วยค่ะ รอเรื่องนี้จบก่อนเนอะ ยังไงก็ราตรีสวัสดิ์นะคะ รีดเดอร์ที่น่ารักของไรท์
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อยากให้มีกิยูด้วยง่าาา
แต่เสียดายไม่มีกิยูงั้นลงเรื่อโดมะก็แล้วกัน
ชอบอ๊า~~~ รออยู่นะคะ อิโตนะกับชิโร่ อยากรู้จังว่าฉากต่อไปจะเป็นยังไงกันแน่
อือหือออ เยี่ยมมากจ้ะนางิสะ!! ดับเครื่องชนไปเลยยัย!! เชียร์ฮาเร็มค่าาาา
#ฮันแน่~ซึนๆกันทั้งน๊านนน
คารุมะคุง ชอบชิโนบุซังใช้ไหมค่ะ~