ตอนที่ 86 : รัก
แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่การมาเยือนของอาเธอร์เปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง ภาพที่เคยกระจ่างใสกลับดูราวกับเหมือนตกอยู่ในม่านหมอกปกคลุม รสอาหารจืดชืดลง เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะแทบจางหายไปสิ้น
ค่ำคืนหนึ่งที่อากาศหนาวเย็นลงกว่าปกติผ่านเข้ามาอย่างเชื่องช้า จีแอลยืนอยู่ที่ระเบียงเล็กแคบของอาคาร ปล่อยให้เส้นผมยาวของตัวเองถูกสายลมพัดปลิวจนยุ่งเหยิง
“นายกำลังคิดอะไรอยู่?” อีธานก้าวไปหา แล้วสวมกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง
“ก็เรื่องที่ผ่านมา”
“เรื่องที่ผ่านมา?”
“ทำไม มีอะไรแปลกตรงไหนเหรอ?” ดวงตาสีเงินเหลือบมองคนถาม
“ก็นิดหน่อย อย่างนายน่าจะเป็นพวกมองไปข้างหน้า ไม่ย้อนคิดถึงอดีตที่แก้ไขไม่ได้อะไรแบบนั้น”
จีแอลอมยิ้ม พลางทิ้งน้ำหนักของตัวเองพิงลงบนแผ่นอกของชายที่แนบชิดอยู่ทางด้านหลัง “ตลอดมา ฉันจะคิดถึงแต่สิ่งที่ฉันต้องการ สิ่งที่ฉันต้องทำเพื่อให้ได้มันมา ทุกอย่างถูกคำนวญเอาไว้ในหัว แล้วฉันก็เกลียดความผิดพลาด”
“เรื่องผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้เสมอนั่นแหละ” อีธานกล่าวพลางสูดกลิ่นของเส้นผมที่ปลิวมาสัมผัสใบหน้า
“สำหรับฉันทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้อย่างดี มันราบรื่นมาตลอด จนกระทั่งได้เจอสิ่งหนึ่ง แล้วสิ่งนั้นก็ทำให้หลายอย่างมันผิดเพี้ยน ระบบความคิดของฉันถูกกวนจนรวนไปหมด”
“มันคืออะไรล่ะ?”
“สิ่งนั้นก็คือ...นาย”
อีธานเลิกคิ้วเข้มขึ้นเล็กน้อย ขณะมองหน้าคนพูด
“อันที่จริง...คนแห่งโชคชะตาของฉันน่าจะเป็นพวกหนอนหนังสืออยู่กับตำรา วันๆ เอาแต่ค้นคว้าวิจัยเรื่องการผลิตยาแก้โรคติดต่อ หรือไม่ก็ผลิตคิดค้นพืชพันธ์ชนิดใหม่...”
“ถึงจะไม่เคยผลิตอะไร...แต่ข้อดีของฉันก็คือ ‘เร้าใจมาก’ ไม่ใช่เหรอ?”
จีแอลหัวเราะ จากนั้นก็หมุนตัวกลับมา ใช้ดวงตาคู่สวยจ้องมองเข้ามาในนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มของอีธาน
“หลายสิ่งหลายอย่างในตัวฉันเปลี่ยนไปก็เพราะนาย...ฉันดีใจที่ได้มาเจอนาย ดีใจที่นายยังมีชีวิตอยู่จนคิดว่าถ้าพระเจ้ามีจริงๆ ฉันคงอยากจะขอบคุณเขาเลยล่ะ”
“ฉันก็เหมือนกัน” อีธานว่า ก่อนจะก้มศีรษะลงเล็กน้อย จุมพิตลงบนริมฝีปากได้รูปที่เชิญชวนอยู่ตรงหน้า
ช่องว่างระหว่างทั้งคู่ลดลงจากอ้อมกอดแนบแน่นที่สร้างความรู้สึกอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ริมฝีปากที่แตะสัมผัสกันอ่อนหวาน เนิบนาบ ปลายลิ้นที่เกาะเกี่ยวกันก็อ่อยอิ่งราวกับต้องการเก็บเกี่ยวทุกการเคลื่อนไหวในช่องปากของกันและกันเอาไว้
สัมผัสแผ่วเบานุ่มนวล แทบจะเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับทั้งคู่ เพราะส่วนใหญ่แล้วมันจะถูกถูกสัญชาตญาณผลักดันให้ทุกอย่างเคลื่อนที่ด้วยความเร่าร้อนรุนแรงเหมือนพายุ หลังจากจูบอย่างเชื่องช้าอ่อนโยนสิ้นสุดลงพวกเขาจึงยังพิงซบกันอยู่อย่างนั้นอีกครู่ใหญ่ ฟังเสียงเต้นจากหัวใจของกันและกัน
“ฉันง่วงแล้วสิ” จีแอลเงยหน้าขึ้น ยกสองแขนขึ้นคล้องคออีธาน “อุ้มไปนอนหน่อยสิ”
พอได้ฟังชายหนุ่มก็สอดแขนลงใต้ข้อพับเข่า แล้วรวบร่างของอีกฝ่ายขึ้นอุ้ม แล้วเดินกลับเข้ามาในบ้านทันที
“ไหวไหมเนี่ย?” เสียงถามนั้นเจือมาด้วยอารมณ์ขบขัน
“ไม่รู้สิ...นี่นายหนักขึ้นหรือเปล่า?” อีธานแกล้งทำหน้าเคร่งเครียดตอบกลับไป
“เพราะอาหารที่นายทำน่ะสิ”
“มันอร่อยใช่ไหมล่ะ?”
“ธรรมดา”
“แค่ธรรมดา ก็พอแล้วนี่” ชายหนุ่มใช้หน้าผากโขกอีกฝ่ายเบาๆ ขณะที่อีกฝ่ายส่งหัวเราะตอบกลับ
พอถึงเตียงนอนอีธานก็วางร่างในอ้อมแขนลงบนที่นอนแล้วทิ้งตัวตามลงไปนอนเคียงข้าง พวกเขาเกลือกกลิ้งหยอกล้อไปมาอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาแนบชิดหาไออุ่นซึ่งกันและกัน
จีแอลยกมือขึ้นลูบใบหน้าของชายหนุ่มเลือดน้ำเงินอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วเย็นชื้นลากผ่านหน้าผาก หางตา ไล่ไปถึงปลายคาง สัมผัสอ่อนโยนนั้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมที่แปลกไปจากปกติ ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
ผ่านไปไม่นานอีธานก็เริ่มบังคับเปลือกตาให้เปิดขึ้นแทบไม่ไหว ทั้งที่ตัวเขาไม่ได้เป็นคนพูดว่าง่วงนอนเลยแท้ๆ อีธานพยายามมองใบหน้าของคนข้างกายด้วยประสาทการรับรู้ที่เริ่มพร่าเลือนลงช้าๆ
“จี...แอล...” ในที่สุดร่างสูงก็ฝืนทนไม่ไหว ปล่อยให้ดวงตาปิดลงท่ามกลางสัมผัสของอีกฝ่าย
“เป้าหมายในชีวิตของฉันมีสองอย่าง...อย่างแรกมันสูญเสียไปแล้ว เพราะอย่างนั้นฉันจะไม่ยอมเสียอย่างที่สองไปอีก...” เสียงของจีแอลกระซิบที่ข้างหู แต่สมองของอีธานในตอนนี้ฟังไม่เข้าใจ
“ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก”
อีธานหลับไปจนกระทั่งรุ่งเช้ามาเยือน เขาตื่นขึ้นอีกครั้งท่ามกลางความเงียบเชียบหนาวเหน็บ ก่อนจะพ้นพบว่าภายในบ้านว่างเปล่าเหลือเพียงตัวเขาลำพัง
...คนที่เขารักได้จากไปแล้ว
===+++===+++===+++
ตอนนี้สั้นไปหน่อย T-T
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณที่ติดตามจ้า