ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องของต้นเหมย ` ✿ (end. สนพ.sensebook)

    ลำดับตอนที่ #14 : 13 ✿ ไม่เป็นไร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.5K
      671
      13 พ.ย. 64


    13

    ไม่เป็นไร , ต้นเหมย

     

                    ขอบคุณครับเหมยยกมือขึ้นไหว้คนอายุมากกว่าซึ่งยืนกอดอกทำหน้าคิดวิตกอยู่ตรงหน้า ผมอาจจะรบกวนสักสองสามวัน...

    สองสามวันอะไร อยู่นี่ไปก่อนได้เลย จะได้ไม่ต้องไปลำบากหาที่อยู่ ออกมากันแต่ตัวไม่ใช่หรือไงครามถามเสียงต่ำก่อนหันไปมองฝาแฝดอีกหนึ่งคนซึ่งนั่งจมปุ๊กอยู่ตรงโซฟาข้างพู่กัน พู่บอกกูแล้ว ไม่ต้องคิดว่าจะมารบกวนหรอก เดี๋ยวนี้กูไม่ค่อยได้อยู่บ้าน น้ำก็ไปนอนบ้านไอ้ศา

    ผมเกรงใจครับหลังออกมาจากบ้านตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเปิดห้องนอนสักคืนแล้วค่อยคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอย่างไรต่อ ทว่าพู่กันกลับโทรเข้ามาหาหมิงเสียก่อน พอได้ยินเสียงน้องชายเขาร้องไห้เท่านั้นเลยสั่งให้ขับรถมาหาที่บ้านของพี่คราม

    ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า มึงมีเงินติดตัวมากันคนละกี่บาท ถ้าไปเช่าห้องอยู่จะได้สักกี่วัน ไหนต้องกินแต่ละมื้ออีกพู่กันว่าพลางมองหน้าหมิงกับเหมยสลับกัน ก่อนเบนสายตาไปหาแฟนรุ่นพี่เชิงขออนุญาตอีกครั้ง คราแรกเขาตั้งใจให้สองแฝดไปอยู่บ้านตัวเอง แต่ครามกลับบอกให้มาที่นี่แทน อย่างที่พี่ครามบอกแหละ ช่วงนี้ไม่มีใครได้กลับบ้าน พี่ครามมันติดนอนบ้านกู ส่วนไอ้เงินก็ติดพี่ศา

    แต่ว่ามัน...หมิงแทรกขึ้นมาแต่กลับต้องเงียบลงเมื่อได้ยินเสียงออดดัง เดี๋ยวผมไปดูให้ครับ

    เดี๋ยวกูไปดูให้ น่าจะไอ้ศาครามอดสงสารแฝดไม่ได้หลังจากฟังพู่กันเล่า อาจเพราะพ่อกับแม่เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องการคบผู้หญิงหรือชาย พอเห็นน้องมันมีปัญหาก็อยากจะช่วยแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร อย่างน้อยอยากให้มันอุ่นใจว่ายังมีพวกเขาอยู่

    แล้วนี่ม้าโทรหาพวกมึงบ้างยังพู่กันถามต่อเมื่อครามเดินพ้นไปจากตรงนี้แล้ว ทว่าสองแฝดกลับส่ายหน้าเบาๆ เป็นคำตอบ ...อ่า กูไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่แบบเขาคงโกรธพวกมึงได้ไม่นานหรอก

    ถ้าเป็นเรื่องอื่นคงพอไหวว่ะ แต่เรื่องนี้กูยังไม่เห็นทางเลย จริงๆหมิงพูดเสียงเหนื่อยอ่อน กว่าจะมาถึงบ้านพี่ครามได้ก็นั่งร้องไห้มาบนรถตลอดทาง เป็นเกย์มันผิดอะไรนักหนาวะ เขาบอกพวกกูทำให้เขาผิดหวัง

    ไม่ผิดหรอกครับหนนี้เป็นองศาผู้ซึ่งมาใหม่พร้อมกับเจ้าของบ้านอีกคนอย่างน้ำเงิน เขาผิดหวังเพราะเขาเป็นคนตั้งความหวัง แต่ไม่ใช่เพราะว่าเราเป็นคนผิด

    สวัสดีครับหมิงยกมือขึ้นไหว้องศาตามด้วยเหมย

    ครับองศาพยักหน้าให้แล้วยิ้มจางๆ

    ตกลงว่าอยู่บ้านเรานะน้ำเงินพูดขึ้นแกมบังคับ อยู่ที่นี่ก่อนได้ จริงๆ นะ เฮียไม่ว่าหรอก

    แต่กูกับเหมยเกรงใจอะดิแฝดน้องสวนขึ้นมา มั่นใจว่าเหมยเองต้องพูดแบบนี้เช่นกัน แค่คืนนี้ก็รบกวนมากพอแล้ว ...มากันหมดเลย

    ครามกับองศาหลุดขำให้กับน้ำเสียงคล้ายจะร้องไห้ของหมิง ยิ่งเห็นว่าเอามือขึ้นมาปาดน้ำตาลวกๆ แล้วยิ่งเอ็นดูเข้าไปใหญ่

    กูพูดจริงๆ เลยแฝด อยู่นี่แหละ ถือว่าดูบ้านให้กูด้วยไงเจ้าของบ้านย้ำเพราะอยากให้ทั้งสองคนวางใจ

    ขอบคุณอีกครั้งครับเหมยเอ่ยปากก่อนยกมือไหว้รุ่นพี่อีกหน ผมกับหมิงอาจจะรบกวนสักพัก

    เออ แล้วคิดกันยังว่าจะทำยังไงต่อครามถาม

    ยังเลยพี่ ไม่รู้ว่าจะกลับเข้าบ้านได้ตอนไหน ป๊าโกรธพวกผมมาก ถ้าฆ่าให้ตายได้คงทำไปแล้วหมิงว่าด้วยน้ำเสียงตัดพ้อยามนึกไปถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อน

    มึงก็พูดเข้า ไม่ขนาดนั้นหรอกพู่กันผ่อนลมหายใจเล็กน้อย พวกเขาเคยไปนอนบ้านแฝดอยู่ไม่กี่ครั้งเนื่องจากเกรงใจป๊ากับม้า แต่เวลาไปก็ได้การต้อนรับอย่างดี แถมยังมองออกด้วยว่าป๊ารักสองแฝดมากทว่าไม่ใช่พวกชอบพูด เรียกง่ายๆ ว่าปากไม่ตรงกับใจเขาแค่อาจจะตั้งรับไม่ทันไงมึง ...แบบเขาวางมาว่าจะให้พวกมึงแต่งงานแล้วมีหลานให้เขางี้

    กูรู้นะว่ามันยอมรับลำบากเพราะป๊ากูหัวโบราณ แต่จะให้กูทำไงก็กูชอบผู้ชายอะ

    ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ แม้ความสัมพันธ์ระหว่างเพลิงและหมิงจะไม่มีใครถามถึงมานานแล้ว แต่รู้กันดีว่าสองคนรักกันแบบไหน ...ทว่าวันนี้ที่แปลกไปเพราะแฝดน้องพูดออกมาเต็มปากเต็มคำว่ารัก

    อาจจะต้องใช้เวลาแล้วกลับไปคุยอีกสักรอบน้ำเงินได้ยินมาบ้างแล้วว่าสองแฝดโดนอะไรมาจากพู่กัน อย่างน้อยเราคิดว่าม้าเข้าใจนะ ถ้าได้พูดให้ฟัง

    กูขอให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน

    เหมยหันมองแฝดน้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากแต่ภายในสมองกลับคิดนั่นนี่หลายตลบเพียงแค่ไม่ได้แสดงออกให้หมิงต้องเครียด\มากกว่าเดิม เขาปล่อยให้อีกฝ่ายคุยอยู่กับเพื่อนแล้วตัวเองขอออกมารับลมข้างนอก อ้างว่าจะมาโทรศัพท์หาญี่ปุ่น

    แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ เขาคิดว่าเจ้าตัวยุ่งอาจจะหลับไปแล้วเพราะไม่ได้ตอบข้อความกลับเช่นนั้นจึงไม่โทรหา อีกอย่างตอนนี้ไม่รู้ว่าหากโทรไปแล้วจะพูดว่าอะไรถ้าญี่ปุ่นถามถึงผลลัพธ์ เขาไม่อยากโกหกแต่ก็ไม่อยากให้รู้ว่าทางบ้านเขาไม่ยอมรับ

    ...มันดูยากไปหมด

    เขายืนถอนหายใจอยู่พักหนึ่ง กระทั่งมีใครบางคนในบ้านเดินออกมา ดวงตาช้อนมองก่อนพบว่าเป็นองศา บุคคลผู้เคยคิดว่าจะเป็นคู่แข่งกับเขาตอนชอบน้ำเงิน แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับกลายเป็นรุ่นพี่ที่คอยให้คำปรึกษาเสมอ

    ไหวไหมองศาไม่ได้รู้ดีแต่คิดว่ารุ่นน้องต้องแบกไว้หลายอย่างจึงออกมาดูอาการสักหน่อย

    ไม่ครับเหมยตอบตามความจริง พูดได้แค่กับองศาเท่านั้นล่ะ ขืนไปพูดให้หมิงได้ยินมีหวังร้องไห้เป็นเขื่อนแตกอีก ผมยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงต่อ

    ญี่ปุ่นล่ะองศาถามไถ่ถึงเด็กผู้ชายคนนั้น เขาเคยเจออยู่หลายครั้งเพราะเวลากลับมาไทยแล้วยิ้มชอบพามาเดินตลาด บอกหรือยัง

    ยังครับ ผมลังเล ไม่รู้ว่าควรจะบอกดีไหม ไม่อยากให้เขารู้ว่าทางบ้านผมไม่ยอมรับ แต่ไม่อยากโกหกเขาเป็นห่วงความรู้สึกของญี่ปุ่นมาก มีหรือว่าถ้าบอกไปแล้วจะไม่คิดอะไร ใครจะไม่คิดหนักใจหากทางบ้านแฟนไม่ยอมรับในตัว อีกทั้งยังทะเลาะกันบ้านแตกขนาดนี้ ผมกลัวญี่ปุ่นจะคิดว่าเป็นเพราะตัวเอง ...ถ้าเป็นพี่ พี่จะบอกไหม

    พี่ไม่รู้ว่านิสัยของญี่ปุ่นเป็นยังไง แต่ถ้าเป็นพี่ก็จะบอกครับคนอายุมากกว่าตอบเสียงชัดเจน

    มันจะไม่เป็นการเอาปัญหาของผมไปให้เขาเหรอ

    ไม่สิ เรื่องแบบนี้พี่คิดว่าเหมยไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้คนเดียว ญี่ปุ่นเองควรได้รู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง มันไม่ใช่การผลักปัญหา ถ้าญี่ปุ่นยืนยันจะอยู่กับเหมยจะกลายเป็นที่ปรึกษาร่วมกัน

    ...

    ในเมื่อจะคบกันระยะยาวแล้ว ต่อให้ปิดบังแต่ยังไงเขาก็ต้องรู้ สู้บอกตอนนี้ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ”

    “ผม...” เหมยสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าจะเริ่มคิดอะไรจากตรงไหน “ผมไม่รู้จะทำยังไงให้ป๊ายอมรับ รู้สึกผิดที่ทำให้ป๊าผิดหวัง แต่ผมทำไม่ได้ถ้าจะต้องเลือกทำตามใจป๊าแล้วผมต้องเสียใจไปตลอด”

    “...”

    “ผมขอป๊าแค่เรื่องนี้ แต่ป๊าไม่เห็นด้วย เขายอมรับไม่ได้”

    “การที่เหมยชอบผู้ชายมันไม่ได้เป็นเรื่องผิดจนรับไม่ได้ แต่อย่างที่น้ำเงินบอกต้องให้เวลา ตอนนี้เขาอาจจะคิดเหมือนกันว่าจะทำแบบไหน ทั้งเรื่องที่รับปากกับฝ่ายนั้นไปแล้วและต้องคิดปฏิเสธ มันคงยากทั้งเหมยและเขา”

    “ครับ”

    “เขาคงไม่ได้คิดว่าจะพลิกขนาดนี้เลยตั้งตัวไม่ถูก บวกกับที่คาดหวังเอาไว้ว่าอนาคตลูกต้องเป็นไปตามแผน แต่พอไม่เป็นไปตามนั้นเขาเลยโกรธ คำพูดอาจจะทำร้ายแฝดไปบ้าง แต่พี่อยากให้รู้ไว้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเรา” น้ำเสียงทุ้มต่ำพูดในประโยคยาวเหยียด “รักคนที่ตัวเองอยากรักต่อไปเถอะครับ ไม่ได้บอกว่าไม่ให้สนใจความรู้สึกครอบครัวนะ แต่เราเลือกเป็นตัวเองดีที่สุดแล้ว”

    “ขอบคุณครับพี่ศา”

    “ไม่ต้องขอบคุณหรอก เท่าที่พี่ฟังจากน้ำเงินมา ป๊ากับม้าเขารักแฝด” เหมยนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่ปฏิเสธหรอกว่าป๊าม้ารักพวกเขาสองคนมากแค่ไหน แต่สิ่งที่พวกเขาเป็นกำลังทำให้ท่านตีตราไปว่าเป็นความผิดหวัง “ให้เวลาเขาหน่อยนะ”

    “ถ้าสุดท้ายให้เวลาแล้วแต่เขายังยอมรับไม่ได้ล่ะครับ ผมควรจะทำยังไง”

    “อ่า มันก็ตอบยากเหมือนกันองศาไม่อยากโกหกในสิ่งที่ตัวเองคิด แต่พี่ว่ามันต้องมีสักวิธี

    ...

    ที่จะรักคนในครอบครัวกับคนที่ตัวเองรักไปพร้อมกัน

     

     


    ผ่านมาเกือบอาทิตย์หลังจากทะเลาะกับป๊าในวันนั้น เหมยและหมิงยังไม่ได้กลับเข้าบ้านแต่ได้มีการพูดคุยกับม้าบ้างแล้ว คราแรกคิดว่าจะโดนม้าดุเหมือนกันเรื่องความรัก ทว่ากลับไม่เป็นไปตามนั้นเพราะม้าเป็นคนเดียวที่พยายามจะเข้าใจ ไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวแถมยังโอนเงินมาให้ใช้ส่วนหนึ่ง

    แม้จะอยากกลับไปคุยกับป๊าอีกครั้ง แต่ม้าบอกว่ารอให้ผ่านไปอีกสักระยะจะดีกว่าเพราะตอนนี้ป๊ายังโกรธหนักอยู่ หากเข้าไปตอนนี้มีแต่จะทำให้มันแย่ไปกว่าเดิม

    ตะเกียบไปไหนเสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อน้องชายเดินมานั่งลงตรงหน้าพร้อมกับบะหมี่สองถ้วยและไม่มีตะเกียบสักคู่

    ลืมหยิบอะดิ แป๊บพูดเพียงเท่านั้นก็ลุกขึ้นไปในครัวอีกครั้ง พวกเขาอยู่บ้านพี่ครามเหมือนเป็นบ้านของตัวเองเพราะเจ้าบ้านไม่แม้แต่จะโผล่หน้ามาให้เห็น เรียกได้ว่าทั้งอาทิตย์นี้เจอพี่ครามได้ที่มหาลัยตอนไปรับพู่กัน ส่วนน้ำเงินน่ะ...เลิกเรียนก็ไปอยู่ร้านเสื้อกับพี่องศาแล้วอะ กูไม่เอานะ

    แล้วจะใช้อะไร

    ช้อนส้อมไงหมิงย่นจมูกพลางชูขึ้นมาให้ดู เขาไม่ถนัดใช้ตะเกียบคีบอาหารไม่ว่าจะเป็นเมนูไหน แม้จะโดนสอนหลายครั้งแล้วก็ตาม เออ เดี๋ยววันนี้พวกพี่ครามจะมานั่งกินเหล้าที่นี่กันมั้ง

    อือ

    ไปซื้อของกันไหม เอามาติดไว้เผื่อพวกพี่มันจะทำอะไรกินกัน

    ได้ งั้นรีบกินเข้า

    มากันหมดเลยนะเหมยขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อน้องชายทวนซ้ำ แบบกลุ่มเรากับกลุ่มพี่ศา

    เก้าคนแฝดน้องพยักหน้าหงกๆ ก่อนจะม้วนเส้นบะหมี่ด้วยส้อมแล้วตักเข้าปาก อยากกินอะไรหรือเปล่า

    อยากกินเบียร์

    กินอยู่ทุกวันหมิงชะงักตอนเขาส่งเสียงตอบ แม้จะไม่ได้ไปดื่มตามร้านเหล้าอย่างที่ควรจะเป็น แต่หมิงน่ะซื้อกลับบ้านมาวันละขวดสองขวดตลอด พักบ้างเถอะ

    กูเครียดนี่หว่าแม้จะพยายามพูดติดหัวเราะแต่พวกเขารู้กันว่ามันอึดอัดแค่ไหน กูอิ่มอะ เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อตัวหนึ่ง มึงกินไปก่อนละกัน

    เหมยพยักหน้าให้แทนคำตอบ มองตามหลังน้องก่อนอีกฝ่ายจะหายขึ้นไปชั้นบน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนกดเข้าแอปแชต มองดูข้อความที่ยังไม่ได้รับการตอบกลับตั้งแต่เมื่อคืน ญี่ปุ่นทิ้งเอาไว้ว่าจะอ่านหนังสือเตรียมสอบอะไรสักอย่างวันนี้ก็หายไปทั้งวัน

    เขากดพิมพ์ข้อความบอกคิดถึง ไม่ได้ถามซ้ำว่าหายไปไหนเพราะไม่อยากจุกจิกมากเกินไปนัก แถมเรื่องที่ทะเลาะกับป๊าก็ยังไม่ได้เล่าให้ฟัง เพียงแค่บอกว่ายังเคลียร์ไม่รู้เรื่องเอาไว้พร้อมแล้วจะเล่าเท่านั้น แน่นอนว่าญี่ปุ่นบอกเพียงแค่เป็นกำลังใจให้

    เจ้าของร่างสูงกินบะหมี่ไปแค่ไม่กี่คำแล้วจำต้องเอาชามทั้งสองไปล้างทั้งที่ยังเหลืออยู่โดยไม่เสียดาย ไม่ใช่ว่าอิ่มแต่มันเป็นความรู้สึกไม่อยากกิน เมื่อหมิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วพวกเขาเลยพากันขับรถออกมาร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ

    หยิบเบียร์ไปสามสี่ขวด ขนมอีกเล็กน้อยเพราะคิดว่าหากพวกรุ่นพี่มาคงมีติดไม้ติดมือกันมาเยอะ เดี๋ยวจะเหลือทิ้งเสียดายเปล่า เหมยแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ใช้เวลาออกไปข้างนอกนานนักแต่พอกลับมาถึงกลับเห็นรถของพวกรุ่นพี่จอดเทียบอยู่หน้าบ้านแล้ว

    พี่เข็มมาด้วยเหรอวะหมิงหันมาท้วงด้วยน้ำเสียงสงสัย

    ทำไม

    ตัดมึงกับกู จากเก้าต้องเหลือเจ็ดดิ แต่นี่รองเท้ามีแปด ฉิบหายแล้วไม่ได้ซื้ออะไรมาเผื่อเขาเลยแฝดน้องลุกลนจนเขาหลุดหัวเราะ ขำไรวะ กูจริงจังนะเว้ย ...พี่เข็มโคตรนิ่ง ดูดุกว่าพี่องศาตั้งเยอะ

    รู้จักเขาจริงๆ แล้วหรือไงถึงได้ไปตัดสินแบบนั้น เขาอาจจะใจดีก็ได้เหมยว่าก่อนหยิบถุงมาถือเอาไว้แล้วเดินเข้ามาในบ้านตามด้วยหมิงที่ยังไม่หายแคลงใจ เสียงพูดคุยดังออกมาจากห้องนั่งเล่นเขาจึงเดินเข้าไปเพื่อเตรียมทักทาย แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรแฝดน้องก็ถามขึ้นมาก่อน

    มากันแค่นี้เหรอครับ?สิ้นสุดเสียงหมิง เพื่อนสนิทที่รู้ใจอย่างเพลิงถึงกับทำหน้าฉงน ในห้องนั่งเล่นตอนนี้มีเพียงพี่นับเงินกับเพลิงสองคน ส่วนคนที่เหลือไปไหนไม่รู้

    ปกติก็มีกันแค่นี้ปะวะ... หรือมึงเห็นผี

    ผีเหี้ยอะไรล่ะ กูแค่เห็นรองเท้ามีแปดคู่ ก็นึกว่าพี่นับพาพี่เข็มมาด้วยเขาว่าก่อนหันหน้าไปทางนับเงินที่นั่งอยู่บนพนักพิงโซฟา ที่ประจำเลยแหละเบาะนั่งดีๆ มีให้นั่งดันไม่ชอบนั่ง

    จะเจอพี่เข็มได้ก็แค่ห้องทำงานเท่านั้นแหละครับนับเงินหัวเราะแล้วยกมือโบกปัดพี่ไม่ได้พามา รองเท้าไอ้ครามมันเอามาเก็บ

    โธ่ ผมก็ตกใจหมิงหัวเราะก่อนหันไปมองหน้าพี่ชาย เดี๋ยวกูเอาเบียร์ไปแช่ให้ มึงไปนั่งเหอะ

    ไม่เป็นไร เดี๋ยวแช่เอง พี่จะเอาหรือยังครับเขาคว้าถุงจากร้านสะดวกซื้อมาจากมือแฝด โดยไม่ลืมหันไปถามรุ่นพี่ด้วยว่าสนใจจะดื่มเลยไหมทว่านับเงินกลับส่ายหน้า

    ยังๆ ไว้ก่อน ไปแช่รวมไว้กับของพวกพี่เลย เขาเดินมาเก็บของในครัว เปิดตู้เย็นหยิบเอาขวดเบียร์วางเรียงกันไว้ เป็นไปตามที่คิดเลยคือรุ่นพี่ซื้อมาไว้อีกรวมกับของเขาแล้วน่าจะประมาณสิบขวดได้

    ในจังหวะที่กำลังจะหมุนตัวกลับ เขาดันถลาไปข้างหน้าจนเกือบติดตู้เย็นเพราะมีใครบางคนกระโดดเกาะหัวไหล่โดยไม่ทันตั้งตัว มีอยู่ไม่กี่คนที่เคยกระทำอย่างนี้ หัวใจของเขาสั่นไหวรุนแรง ก่อนจับข้อมือนั้นแล้วยกขึ้นมาพรมจูบหลังฝ่ามือแบบไม่ต้องหันไปมอง

    กลิ่นน้ำหอมคุ้นชินและเพียงแค่สัมผัส

    กลับมาทำไมไม่บอก

    “…”

    จะได้ไปรับ

    ถ้าเราบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์ซี่! …ต้นเหมยรู้ได้ไงว่าเป็นเราอะ เนี่ย เที่ยวจูบมือใครมั่วเลยเหรอ ไม่น่ารักเลยน้ำเสียงของคนขี้หึงบ่นอุบอิบอยู่ข้างหลัง คงจะเป็นเพียงไม่กี่คนที่ทำให้เขามีรอยยิ้มได้ คนตัวสูงหมุนตัวกลับมาก่อนกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเจ้าตัวยุ่งทำหน้างอ

    จำกลิ่นน้ำหอมได้ครับ

    จริงอะ

    ครับ เหมยไม่จูบใครมั่วหรอก

    อื้มพอโดนจ้องตาเข้าหน่อยกลายเป็นเขานี่แหละที่ทำตัวไม่ถูก ญี่ปุ่นเม้มปากแล้วเบนสายตาไปทางอื่น แล้ว...

    คิดถึง

    เหมือนอื้อตอบยังไม่ทันสุดเสียงกลับโดนช่วงชิงริมฝีปาก ไม่ได้เกรงว่าใครจะเข้ามาเห็นเลยสักนิด แขนแกร่งโอบรอบเอวคอดแล้วดึงเข้ามาประชิดตัว ลมหายใจผ่อนผสานกันเชื่องช้า ปลายลิ้นเกี่ยวเย้าตรึงทุกสัมผัส ตอกย้ำว่าความคิดถึงนั้นมีมากเกินกว่าจะพูดเพียงอย่างเดียวกระทั่งเหมยเป็นฝ่ายถอนริมฝีปาก

    คิดถึงครับ

    คิดถึงเหมือน... ด...เดี๋ยวต้นเหมย!” เจ้าตัวยุ่งเบิกตาโพลงพลางยกสองแขนขึ้นดันอกเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายทำทีจะโน้มมาประทับอีกครั้ง พอก่อน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าหรอกน่า

    เห็นก็เห็นสิ

    ต้นเหมย!” คนถูกเรียกชื่อเสียงเขียวหลุดยิ้ม ก่อนยกมือขึ้นบีบจมูกแฟนตัวเองเบาๆ ฮื่อ ไม่ต้องมาบีบเลย

    อย่าเสียงดัง

    ก็...

    ก็อะไร

    เปล่า... เราไปหาพี่ยิ้มดีกว่าแม้จะพูดอย่างนั้นแต่มีหรือที่จะหลุดออกจากอ้อมแขนแกร่งได้ ปล่อยเราเดี๋ยวนี้เลย

    ไม่ปล่อย

    ต้นเหมย

    ขอกอดห้านาทีเหมยพูดเชิงออดอ้อน แต่ญี่ปุ่นกลับทำทีเหมือนไม่ได้ยิน นะครับ

    “…”

    ไอจัง

    ฮึ่ย เรารู้แล้วญี่ปุ่นเม้มปากกลั้นรอยยิ้ม สำหรับคนอื่นมันคงไม่นานเท่าไหร่... แต่สำหรับญี่ปุ่นยอมรับเลยว่าเพียงแค่วันเดียวก็รู้สึกว่ามันนานเอาเสียมากๆ แล้ว กว่าจะเคลียร์งานมาได้จนหมดเล่นเอาเหนื่อยไปหลายวัน

    อยู่นานแค่ไหน

    พรุ่งนี้เราก็กลับแล้ว

    หืมเหมยขมวดคิ้วยุ่ง มองหน้าคนแสบด้วยความสงสัย พอเห็นรอยยิ้มดื้อๆ แล้วนั่นทำให้รู้ว่าตัวเองโดนแกล้งเข้าแล้ว อยากโดนตีเหรอ

    ทำไมต้องตีเราด้วยเล่า

    ปุ่นโกหก

    แกล้งนิดเดียวเองน่าเจ้าของเสียงหวานหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหลุดพ้นจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย เราอยู่ประมาณสามอาทิตย์ แต่เดี๋ยวดูอีกที เห็นโต้ซังบอกว่าจะมาหาน้าแก้ว ถ้าเกิดว่ามาเราคงได้อยู่ต่ออีกหลายวันแหละ

    เมื่อพูดถึงคนเป็นพ่อเหมยถึงกับชะงักไปครู่หนึ่งจนญี่ปุ่นเอะใจแต่ไม่ได้พูดอะไร ความเป็นจริงเขากลับมาเมืองไทยเพราะเป็นห่วงต้นเหมยแถมยังเป็นช่วงสิ้นปีแล้วจึงถือโอกาสมาเยี่ยมแม่พี่ยิ้มตามสัญญาด้วยเลย แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ได้พูดอะไรให้ฟังแต่เขารู้ว่ามันต้องไม่ราบรื่น

    ไอจัง

    หือ

    เหมย...เสียงทุ้มขาดห้วงไปเมื่อญี่ปุ่นเอื้อมมือขึ้นมาปิดปาก

    ไม่เป็นไรคนตัวเล็กกว่าพูดก่อนเผยรอยยิ้มพอให้อุ่นใจ ยังไม่ต้องพูดอะไรให้เราฟังหรอก

    “…”

    เราไม่ได้จะมาเร่งให้ต้นเหมยเล่าอะไรให้ฟังนะ เราตั้งใจมาไม่บอกเพราะอยากเซอร์ไพรส์ อยากเจอต้นเหมยเฉยๆ

    ...

    เราแค่...ญี่ปุ่นสูดลมหายใจเล็กน้อยเพราะคิดว่าคำที่จะพูดออกไปมันชวนเลี่ยนอยู่ไม่น้อย แต่เขาไม่รู้ว่าถ้าไม่พูดแบบนี้แล้วจะพูดอย่างไรได้อีก แค่อยากมาอยู่ด้วย

    “…” พอพูดมาถึงตรงนี้คนตัวสูงก็จับมือเขาทันที ทว่าญี่ปุ่นน่ะอยากให้ได้ฟังก่อนว่าเขาคิดอะไรอยู่ สุดท้ายจำต้องพูดในสิ่งที่คิดทบทวนอยู่หลายวันออกไป

    เรารู้ว่าทางบ้านต้นเหมยคงไม่โอเค เพราะถ้าเป็นเรา... ถ้าเกิดทุกอย่างไม่มีปัญหา เราคงจะเล่าให้ต้นเหมยฟังไปแล้วว่าผู้ใหญ่เขาพูดว่าอะไรบ้างเหมยลอบกลืนน้ำลายลงคอ ส่วนตัวเขาเองรู้ว่าญี่ปุ่นจะต้องคิดแบบนี้และเขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามันเป็นความจริง แต่เราอยากให้ต้นเหมยรู้นะว่าเราไม่เป็นอะไร เราไม่ได้จะทำตัวไม่สนใจนะ แต่เรา...

    ไม่ต้องพูดแล้ว

    “…”

    เหมยจะทำให้ป๊ายอมรับเรื่องของเราให้ได้ครับ

     

     tbc.

    มีเด็กแอบมาเซอร์ไพรส์ต้นเหมย แอแง ยัยจี้ปุ่งของหม่าม้า /ลูบหัว

    #เรื่องของต้นเหมย

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×