ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหมือน(ไม่)​รัก

    ลำดับตอนที่ #45 : ปั่น 1 : ช่วงจบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 174
      6
      30 ธ.ค. 62


    ชะงักเท้า เหมือนจะนึกได้ว่าลืม ๆ อะไร​ไป เอี้ยวตัวกลับมาหาเขาอีก​ "เรื่องหลายเรื่อง​ ถ้าทำให้มันง่าย​ มันก็ง่าย​ ยิ่งจะซ่อมแซมส่วนสึกหรอ​ อะไหล่ไหนไร้ประโยชน์ สนิมเกาะ ทิ้ง​ ๆ​ ไปผมว่ามันจะเวิร์กกว่านะครับ"

    เวิร์กกว่าอยู่แล้วละ​ หากปรารถนาแรงกล้าของบุปผชาติจะไม่เยอะจนล้น​ คนอะไรตั้งมั่นตั้งท่าจะผลักไสท่าเดียว​ นับจากมาคราวก่อนจนถึงตอนนี้​กี่ครั้งกี่หนเข้าไปแล้ว เขาเองเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา​ ใช่หุ่นปั้นอิฐหินดินปูนเสียเมื่อไหร่​ ยิ่งซอกลึกมีสิ่งตงิดสะกิดใจ​ เรื่องแกว่งไกววอกแวกแทบเสียศูนย์​เลยเกิดขึ้นง่าย​ ๆ​ เหมือนไฟมีเชื้ออยู่ก่อนโดนแรงลมโหมเสียงปะทุ​เปรี๊ยะปร๊ะก็ดังขึ้น 

    ประหนึ่งจะเข้าใจทะลุปรุโปร่ง หลังจากรอคอยถ้อยสนทนาตอบกลับทว่าไม่มี​ อีกฝ่ายจึงส่ายหน้าเบา​ ๆ​ ก่อนจะผละห่าง นับจากนั้นเขา​ หม่อมราชวงศ์ปาริวรรต​ รวิพร​ ก็กลายสภาพมาเป็นคนล้างตัวเด็กขั้นทดลองงานแบบปราศจากพี่เลี้ยง อยู่ตรงซุ้มหินแกรนิตรูปทรงพระจันทร์เสี้ยวที่มีต้นเค​รือออนแนบซบข้างหลังบ้าน

    "ตรงนี้ค่ะ​ ตรงนี้ค่ะ" เจื้อยแจ้วเด็กหญิงเอียงตัว​ ตะแคงศีรษะให้เขาได้ใช้ขันตักน้ำในโอ่งราดตัวได้สะดวก 

    "ฮิฮิ​ เย็นจัง​ ปรืด​ดดดดด ปรื้ด​ ๆ​ ปรื้ด​ ​ๆ​ ปรืด​ ๆ" เสียงน้ำตูม​ ๆ​ ผสานเสียงหัวเราะร่า​ เคล้าเสียงพ่นปาก​ปล่อยละอองฝอยเย้าอากาศระอุผ่าวเป็นบางจังหวะ​ ฑิฆัมพร​ไม่หวงแหนความชอบใจ​ หันไปกวักมือน้อง​ที่กำลังยืนนิ่ง​ ​ๆ​ ปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวติดผนังรินรดชำระล้าง​ "​ลมมานี่มา​ น้ำนี่เย็นกว่า​ ฮิฮิ" 

    แม้ขยลจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในการปฏิสัมพันธ์​ ทว่าเด็กชายยังคงรักษาระยะห่าง​ ตอนเดินด้วยกัน​ก็มุ่งมั่นให้มีฑิฆัมพร​คั่นกลาง​ ทว่ากระนั้นดวงตาไร้เดียงสากลับคอยแอบเหลือบมองเขาเป็นช่วง​ ๆ​ 

    มาถึงนี่​ วิ่งปรู๊ดไปยืนอยู่ใต้ฝักบัวสายฝน​ ราวกับจะเข้าใจว่านั่นเป็นเกราะชั้นดี​ ซึ่งแนวโน้มก็ตามนั้น หลังจากหมุนบิดก๊อกแล้ว​ ชายหนุ่มเลือกจะยืนห่าง​ ๆ​ ปล่อยให้เด็กทั้งคู่จัดการกันเอง​ ทว่าไม่นานนักเขาเปียก​ เปียกเหมือนคนกระโดดพุ่งหลาวลงน้ำทีเดียว​ จะฝีมือใคร​ถ้าไม่ใช่


    ฑิฆัมพร​ล้างเนื้อล้างตัวตามประสาอยู่พักหนึ่ง​ หยุดยืน​ ใช้สายตามีเสน่ห์​ พลางยกมือขึ้นกระดิกนิ้วเรียกเหมือนเรียกสุนัข​ 

    ก็สุนัข​น่ะนะ

    'สุนัขจิ้งจอก​ขาช่วยหนูหน่อย'​ 

    ​ 'ช่วยอะไรคะหนูฟ้า' ว่ามาอย่างนั้นคนเป็นพ่อเช่นเขามีหรือจะดูดาย​

    'ตักน้ำค่ะ​ ตักน้ำในโอ่งนี่'​ วางมาดลูกคุณหนูเอาแต่ใจ​ ชี้นิ้วยังโอ่งดินเผาขนาดย่อม​ ความสูงประมาณช่วงเอวของเด็กหญิง ในความคิดของเขามันน่าจะถูกจัดวางไว้รองรับน้ำสำหรับใช้ล้างเท้า​ หากไม่คิดขัด​ ปฏิบัติตามคำนั้น​ ครั้นแล้วเมื่อได้น้ำเต็มขัน​ อีกฝ่ายก็แผลงฤทธิ์

    แต่แค่ผลักขัน​จนคว่ำจะไปพออะไร ฑิฆัมพร​แกล้ง​ต่อ​ ทั้งวักน้ำในโอ่ง​ ทั้งออกแรงตบสายน้ำจากฝักบัว​ เขามีฮึ่ม​ ๆ​ แต่ไม่เป็นไปอย่างจริงจัง​ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม​ทุกห้วงจังหวะ​ ขณะเล่นกัน​ขยลขยับตัวหลีกทางตลอด​ ทว่าถึงแม้จะไม่ร่วมด้วยแต่เสียงหัวเราะของเด็กชายก็เป็นเหมือนเสียงกระดิ่ง​ไพเราะอยู่ในหัวใจของเขา...


    ไม่ช้าไม่นานหรอก​ มองลูกชายด้วยความรู้สึกอ่อนโยนรักเอ็นดูไม่ต่างอะไรกับสายตาที่ใช้มองลูกสาวพลางหย่อนมือจ้วงขันตักน้ำอีก​ 

    นี่ดีนะค่าน้ำไม่ต้องจ่าย​ ถ้าจ่ายก็คงจะผมตั้ง​ กี่ปริมาตรไปแล้วในชั่วระยะไม่เท่าไหร่​ ทั้งสายน้ำจากฝักบัวสายฝนไหลซ่า​ ๆ​ ทั้งสายน้ำจากก๊อกเหนือโอ่งทิ้งตัวตูม​ ๆ​ บริเวณพื้น​ บริเวณทางน้ำชุ่มฉ่ำเกินกว่าจะชุ่มฉ่ำ  หวังว่าจะไม่โดนตำหนิถ้าเกิดใครมาเห็น... 

    แต่เอ​ บรรยากาศ​แบบนี้มันสงบเงียบเกินไปไหมนะ​ ต่อให้เจ้าบ้านไม่อยู่​ คนเป็นลูกสาวง่วนอยู่บนห้อง​ คนอาศัยก็มีนี่... 

    กำลังจะยกตัวยืดหลัง​ พลันสายตาได้ไล่ตามเด็กชายร่างจ้ำม่ำเพื่อจะพบว่าตรงประตูหลังบ้านมีบุปผชาติยืนถือผ้าขนหนูทำหน้าเรียบเฉยอยู่​ แต่เขาไม่ได้คิดจะสนใจหล่อนในตอนนี้​ ที่นึกถึงคือ... 

    "หญิงรัตนาวดีล่ะบุปผชาติ" 

    "คุณหญิงรัตนาวดี​เข้าไปในเมือง​ค่ะ​ เธอไม่ได้แจ้งคุณชายไว้หรือคะ​" พูดพลางย่อตัวถอดเสื้อกางเกงเด็กชายออก​ 

    เห็นดังนั้นชายหนุ่มรีบขยับก้าวปิดก๊อกทั้งสองจุด​ ฟากฑิฆัมพร​โน่น ไวอย่างกับปรอท วิ่งไปตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้ความอับอายขวยเขินของเด็กหญิงหายหมดกำลังพยายามถอดเสื้อผ้าพัลวันทีเดียว​ ยุ่งอยู่กับเปิดเปลือยผิวเนื้อตัวเองให้มวลอากาศได้โอบรัดร่างยังไม่พอ​ กลีบปากจิ้มลิ้มสีเกือบเขียวซีด​ ๆ​ ยังขยับขึ้นลงสั่น​ ๆ​ 

    "คุณยายบอกว่าให้ชวนสุนัขจิ้งจอกจอกเล่น​ แต่ตอนที่เล่นกับทองกวาว​ ทองกวาวไม่ชอบสุนัขจิ้งจอก​ หนูก็เลยชวนสุนัขจิ้งจอกเล่นตรงนี้" 

    "เล่นกันนานหรือยังคะ" ถามพลางคลี่ผ้าเช็ดตัวผืนสีฟ้าห่อร่างเด็กชายไว้​ ก่อนจะจัดแจงคลี่ผ้าเช็ดตัวผืนสีชมพูด้วย​ ขณะเดียวกันก็ปรายตามาสบชั่วขณะหนึ่ง​ ตอนนี้เขาเริ่มตระหนักถึงเค้าลางไม่ค่อยดีอะไรบางอย่าง

    " แป๊บเดียวค่ะมามี๊ แป๊บเดียวใช่ไหมคะสุนัขจิ้งจอกขา" 

    นั่นว่าแล้ว ยิ่งเห็นสายตาบีบบังคับของลูกสาว​ ยิ่งอย่าเลยอย่าตามน้ำเสียทีเดียว​ "ประมาณหนึ่งน่ะบุปผชาติ​ แต่ไม่นานเท่าไหร่หรอก" 

    "ไม่นานก็ดีแล้วค่ะ​ ดิฉันเกรงลูกจะเป็นหวัด​เอา คุณชายก็ด้วย​ รอตรงนี้สักครู่นะคะ​​"

    "ครับ" พยักหน้ารับราวกับเด็กว่าง่าย​​ ก็หัวใจมันกำลังอุ่นซ่านยกกำลังสามอย่างปัจจุบันทันด่วนนี่​ ต่อให้อีกฝ่ายลุกยืน​ จูงมือชวนลูก​ ค่อย​ ๆ​ หายลับเข้าไปในบ้านแล้ว​ ทว่าวูบหนึ่ง เพียงวูบเดียวเปล่งประกายฉายแววในอำพันคู่สวยของบุปผชาติยังติดตรึงอยู่ในห้วงความรู้สึกของเขา 

    แย่​ แย่ยิ่งกว่าแย่ แย่​ ๆ​ แน่​ ๆ​ เกิดอนาคต... 


    ส่งท้ายปีเก่า เจอกันหลังปีใหม่ค่ะ ❤️❤️❤️❤️❤️

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×