คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ชลณนาถ มนวรรธ
หลังจากพักร้อนฉัตรวารินก็กลับเข้าทำงานต่อ มีหลายสิ่งหลายอย่างต้องจัดการ ถึงวันนี้ก็ยังยุ่งเหยิงอยู่ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปเนอะ โชคดีบทนี้เขียนฉบับร่างไว้ แต่ก็ยังมาอัปช้าไปจากที่ได้แจ้งไว้ เลยลงให้อ่านเต็มตอนกัน แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องขออภัยนักอ่านทุกคนด้วยนะคะ
นอกจากนำตอนใหม่มาเสิร์ฟ ขออนุญาตฝากลิงค์อีบุ๊กนิยายเรื่อง 'ริ้วลายเมฆ' ด้วยน้า สนับสนุนนักเขียนโนเนมโหลดซื้อกันได้ ฉัตรวารินจะได้หยอดกระปุกให้ลูก ช่วงนี้จัดโปรโมชั่นอยู่นะคะ ชักจะยาวเกิน เอาเป็นว่า เช่นเคยขอให้แฟน ๆ บุปผชาติกับคุณชายปาริวรรตสนุกกับการอ่านนะคะ❤️❤️❤️❤️❤️
++++++++++++
ซุกซบซ่อนกายอยู่ในอ้อมกอดเหล่าพันธุ์พืช ทั้งยืนต้น พันเลื้อย งามดอก สวยใบภายในเนื้อที่มีรั้วปูนโอบล้อมกว่าสองไร่ คือบ้านเรือนไทยทรงปั้นหยาอายุกว่าร้อยปี มองเห็นหลังคารูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดเรียงซ้อนตัวต่อเนื่องลดหลั่นเป็นระเบียบแนวทแยงมุมสีแดงเม็ดทรายรำไรเหนือทิวไม้
ชะลอความเร็วของรถจนหยุดนิ่งใต้โรงจอดโครงสร้างเหล็กแข็งแรงฉาบสีขาวทาบทับ หม่อมราชวงศ์ปาริวรรต รวิพร หันไปทางผู้เป็นน้องสาวกล่าวเสียงเคร่งขรึม “พี่จะไปหาท่านตา รบกวนรัตนาวดีช่วยเป็นธุระจัดการเรื่องข้าวของในรถและกระเป๋าของพี่ด้วย”
“ได้ค่ะพี่ชาย เดี๋ยวรัตนาวดีจะจัดการเอง ฝากหอมแก้มท่านตาด้วยนะคะ”
พยักหน้าเนิบ จัดแจงเปิดประตูขยับตัวหย่อนขาพาร่างออกมารับอากาศชื้นชุ่มภายนอก ยืนเต็มความสูงหันไปยิ้มอ่อนกับชายหนึ่งหญิงสองแต่งกายสุภาพ ซึ่งกำลังกุลีกุจอกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาปฏิบัติตามหน้าที่ เหลือบตามองไปทางตึกสองชั้นผสมสานสถาปัตยกรรมเก่าดั้งเดิมถิ่นตะวันออกกับตะวันตกอย่างกลมกลืนสวยงาม สองเท้าก้าวยาว ๆ
บุปผชาติมาที่นี่ ถึงก่อนเขา และเพิ่งกลับออกไปได้ไม่นาน พี่หญิงวารัตดาบอกด้วยกังวานเสียงนุ่มนวลเรียบเรื่อยทว่าแฝงไว้ด้วยความเคร่งเครียดผ่านทางโทรศัพท์
ทักทายคนในบ้านเท่าที่พบ หล่อนแสดงเจตจำนงตรงไปตรงมา และใช้เวลาครู่ใหญ่อยู่ที่เรือนพักส่วนตัวของหม่อมเจ้าพรหมพิริยะ ชลณนาถ
ถ้าเพียงแต่จะไม่ เขาก็คงไม่รุมร้อนพลุ่งพล่าน ขึงเครียด ทุรนทุรายกระวนกระวายแทบคุ้มคลั่งภายใต้ท่าทีเรียบขรึมอะไรทั้งนั้น
จริงหรือปาริวรรต...
ชะงักเท้าหน้าอุโมงค์สร้อยอินทนิลออกดอกสะพรั่งเพิ่งรับฝน ทางเชื่อมต่อระหว่างสองตัวเรือนความยาวร่วมห้าเมตร ระบายลมหายใจแผ่ว
ดวงตาของบุปผชาติใสแจ๋วแหวว ไม่ต่างอะไรกับหยาดฝนวาวฉ่ำ เกาะติดช่อดอกสีฟ้าอมม่วงเจ้าเสน่ห์ระริกไหวเย้าหยอกสายลมรำเพยนั่น มีเงาของเขาสะท้อนอยู่ ทว่าเร้นลึกความรู้สึกเต็มไปด้วยปริศนา ไม่สิ ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรง
อำพันสวยคู่นั้นยามประสานสบฉายแววสื่อนัยร้ายกาจกว่านั้น
นานนับปี ๆ ทีเดียวที่พยายามสลัด หมอกหลากสีบาง ๆ รูปคนในห้วงคำนึงมีหายไปบ้าง แต่ท้ายสุดก็ย้อนหวนคืนดังเดิม และนับตั้งแต่วันประจักษ์แก่ใจแน่ชัด เงาร่างสีขาวพิสุทธิ์ซ้อนเงาร่างสีชมพูสว่างไสวทาบทับด้วยเงาสีเทาเข้มเผยยิ้มแสยะชัด
...ขณะหล่อนกำลังใช้ชีวิตอิสระยิ่งกว่านกน้อยโบยบิน เขาเหมือนยืนเคว้ง ร่างทั้งร่างถูกไม้เถาเหนียวหนึบพาดพันรัดเกี่ยวจนจมมิดกลางลานประหาร
ยิ่งย้อนไล่ตาอ่านทั้งข้อความ ทั้งตัวเลขเรื่อยลงจนถึงสรุปบนแผ่นกระดาษในมือยิ่งตาพร่าหูอื้ออึง
‘ชายปาริวรรต’ เสียงอ่อนโยนแผ่วนั้น เป็นเสียงพี่สาวของเขาที่จำยอมเสี่ยง กล้าแหกกฏทั้งรู้ดีว่า หากการกระทำหนนี้มีเล็ดลอดล่วงรู้ถึงใครอื่น ทั้งหน้าที่การงาน ชื่อเสียงทางสังคม อิสระภาพทั้งกายและใจอาจไม่มีเหลือก็ยังทำ
เพื่อเขา น้องชายผู้ไม่เคยเอ่ยปากขอร้องอะไรแม้สักครั้งในชีวิต
‘ผมจะทูลท่านตา’...
หล่อนตัดเขาเหมือนตัดบัวแถมเด็ดซ้ำจนขาดใย บุปผชาติหาญกล้าเห็น ๆ อยู่ เพราะถ้าไม่ เหตุการณ์ค่ำคืนนั้นคงไม่เกิด แรกคิดว่าลืม ทว่าครั้นแผลเก่าล่อนสะเก็ดโดนสะกิดมันก็เจ็บ ใจหนึ่งอยากเพิกเฉยเช่นผ่านมา หากอีกใจร่ำร้องยอมไม่ได้ ถอนใจหน่วงร่างสูงสมส่วนก้าวเท้าต่อ
ทางร่มรื่นสบาย ๆ ด้วยช่องเหลี่ยมให้สายลมได้พัดผ่านทั้งสองฟากของอุโมงค์สีเขียว ที่มีช่อดอกแทรกอยู่ตามข้อตามซอกใบรูบไข่ โค้งเว้าตรงโคนละม้ายรูปหัวใจเฉกเช่นใบพลูกินกับหมาก ยาวห้อยระย้าลงมาเสมือนปราการม่านดอกไม้สีฟ้าอมม่วงซับซ้อน อันเกิดจากไอเดียนำซุ้มเหล็กโค้งมาฝังดินเรียงรายโบกปูนซิเมนต์ทับตรงฐาน ใช้เหล็กเส้นเชื่อมต่อเสริมความแข็งแรงเว้นระยะห่างเท่ากัน ตลอดเส้นทางเท้าปูด้วยอิฐแดงเก่าแก่ แล้วนำสร้อยอินทนิลมาปลูก ปล่อยให้พันเลื้อย จนความนุ่มนวลอ่อนโยนกลบปิดความแข็งกระด้างเสียสิ้น ของหม่อมเจ้าพรหมพิริยะผู้หลงใหลพันธ์ุไม้ ยิ่งฉ่ำชื่นเข้าไปอีกหลังฝนตก ทว่าใจของเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับมันด้วย
ต่อให้หยดน้ำเย็นเยือกทิ้งตัวร่วงแปะแตะหนังศีรษะ หรือชอนไชเส้นใยด้ายโดนผิวเนื้อก็ไม่สะดุ้งสะท้าน ฝีเท้าเนิบนาบ ท่วงท่าสง่าผ่าเผย หน้าเชิดหลังตรง เช่นคนได้รับอมรมบ่มสอนมานับตั้งแต่รู้ความ ดำเนินไปเรื่อยจนกระทั่งถึงชานบ้านยกสูงจากพื้นหนึ่งฟุตจึงชะงักหยุด
บานประตูเกร็ดไม้ความสูงร่วมสองเมตรสีลูกพีชเปิดอยู่ทั้งสองบาน อีกทั้งหน้าต่างเพรียวสูงก็ด้วย ถ้อยสำเนียงกังวานเสียงนั่น พาหวนรำลึกถึงห้วงเวลาหลังจากความนิ่งเงียบกลืนกินบทสนทนาระหว่างเขากับบุรุษชราภาพเจ้าของเรือนไปชั่วขณะ
...‘วิมลเลขาหนีความใจร้ายของตาไปเสียไกล กลับมาอีกครั้งเป็นแต่เพียงฝุ่นผงสีขี้เถ้า พี่สาวของเธอ กนกเลขาไม่เปิดโอกาสให้ตาได้คุกเข่าขออโหสิกรรม อังคารพาไปลอยที่ไหนไม่ยอมบอก จวบจนทุกวันนี้สาวสวยสะคราญคล่องแคล่วคนนั้นที่กลายเป็นหญิงชราโรยแรงรอวันลมหายใจขาดห้วงก็ยังไม่ยอมบอก’
คิ้วของชายหนุ่มเลิกสูง เมื่อรับรู้ว่าสายสัมพันธ์ระหว่างหม่อมเจ้าพรหมพิริยะ ชลณนาถ กับหม่อมเจ้าหญิงกนกเลขา มนวรรธ พระนามเดิมของอดีตผู้พิพากษากนกเลขาก่อนกราบบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไม่ใช่สีสันสว่างตา เผยอกลีบปากตั้งใจจะถามสิ่งสงสัยทว่าไม่ทันได้หลุดถ้อยคำ เจ้าของพระเกศาขาวโพลนรับสั่งต่อขึ้นมาก่อนราวกับรู้ใจว่า
‘แต่ถึงแม้จะเย่อหยิ่งถือดีเต็มไปด้วยความจงชังที่มีต่อตามากแค่ไหน ทว่ากนกเลขาก็ยังต้องการจะเกี่ยวดองกับชลณนาถดังความประสงค์ของท่านพ่อของหล่อนและท่านทวดของหลาน’ แย้มพระสรวลเย้ยหยันนิดหนึ่ง พระเนตรฝ้าฟางตามกาลผ่านประสบการณ์ชีวิต ทว่ายังดูคมลึกเหมือนในพระรูปครั้งเมื่อเป็นหนุ่มทอแสงอ่อน
‘ตาเชื่ออยู่ในใจเสมอว่าพีรภาสไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของกนกเลขา ยิ่งได้เพ่งพิศบุปผชาติ ตายิ่งเห็นภาพวิมลเลขาเด่นชัด’ พระโอฐษ์บางเฉียบเม้มเป็นเส้นตรงเข้มขรึม ขณะขยับพระวรกายเชื่องช้า ก้าวกระย่องกระแย่งไปยืนทอดพระเนตรออกไปนอกหน้าต่าง
นิ่งและสงบ ประหนึ่งผนังแนวรั้วเสริมออกซิเจนกลางกรุงเต็มไปด้วยมลภาวะเป็นพิษ เขียวใบแซมเหลืองละมุนของดอกเหลืองชัชวาลย์คือผืนผ้าใบฉายเหตุการณ์ในอดีต เป็นเวลากว่าชั่วครู่ใหญ่ทีเดียวกว่าท่านตาของเขาจะทรงถอนพระทัย แล้วรับสั่งอีก
‘ไม่ว่าบุปผชาติจะมีเหตุผลกลใดกับสิ่งที่เธอกระทำ และไม่ว่าหลานจะรู้สึกโกรธขึงเพียงไรที่ตกเป็นหยื่อถูกทิ้งให้หลงวนอยู่กลางป่าไม้สีดำไร้ใบตามกิ่งก้าน ปราศจากแสงลอดส่องผ่านเมฆสีทึมเทา ทว่าเด็กสองคนที่กำลังเล่นกับแม่ของเขาในคลิปวีดีโอ ยังไง ๆ ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ยิ่งกว่าหยาดน้ำค้างยามเช้า หลานเข้าใจความหมายของตาใช่ไหมชายปาริวรรต’
‘กระหม่อม’ ค้อมศีรษะ พลิกตัวกลับไปทอดสายตามองภาพเคลื่อนไหวในหน้าจอสี่เหลี่ยมเผยยิ้มอ่อน
ใช่ พวกเขาสดใสบริสุทธิ์เหลือเกิน เด็กแฝดชายหญิงเปื้อนโคลนตมสีชาเย็นเห็นแต่ลูกตากับริมฝีปากจิ้มลิ้มสีสดอ้ากว้างโชว์ฟันขาวนั่น...
เสียงหัวเราะ เสียงตะโกนโหวกเหวกกึ่งดุกึ่งเย้ายังคงดังลอดช่องว่าง ทะลุผ่านลูกไม้บางเบาสีขาวฟองนม ขณะเขายกเท้าขวาขึ้น เมื่อพาร่างเข้าไปอยู่ในตัวเรือนปั้นหยาสีฟ้าอมเทา ยอบตัวลง ค่อย ๆ เดินด้วยเข่าตรงไปยังบุรุษครึ่งนั่งครึ่งนอนบนเก้าอี้โยกไม้สักตัวเก่า ครั้นนั่งพับเพียบเรียบร้อยอาจารย์หนุ่มก้มกราบ
“มาถึงแล้วหรือชายปาริวรรต”
“กระหม่อม” ผงกศีรษะ ยกตัวยืดหลังตรง
“ขึ้นมานั่งเสียบนเก้าอี้สิ” รับสั่งพลางโบกพระหัตถ์ไปทางเก้าอี้ไม้มีเบาะหนานุ่มหุ้มด้วยปลอกผ้าลายดอกไม้กลีบซ้อนสีหวาน “หญิงวารัตดาคงบอกหลานทุกอย่างแล้ว”
“กระหม่อม” ลุกยืนเนิบนาบ ก้าวไปนั่งตรงข้ามผู้เป็นตา คุณชายปาริวรรตเหลือบมองกล่องขนาดจิ๋วบุด้วยหนังบนโต๊ะ
“บุปผชาติเร่งรีบมาที่นี่ถึงขนาดใช้บริการแมลงปอเหล็ก นับได้ว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ สำหรับกรองผกา ตาเลยจำเป็นต้องรับคืน ไม่อยากให้เกิดการกีดกันขึ้น” พระหัตถ์เหี่ยวย่นหยิบรีโมทคอนโทลชี้ตรงไปยังเครื่องเล่นดีวีดี ส่วนเขานั่งนิ่งนึกเท้าความก่อนกระตุกยิ้ม ภาพเฮลิคอปเตอร์กลางท้องฟ้าส่งเสียงคำรามกระหึ่มผุดขึ้น จังหวะเดียวกับภาพเคลื่อนไหวหน้าจอถอยกลับรวดเร็ว เมื่อย้อนจนสุดทางศรชี้ให้เล่นก็ปรากฏ ชั่วอึดใจความทรงจำบันทึกไว้โลดแล่นอีกครั้ง
“เธอว่าวีดีโอชุดนี้ตั้งใจตัดต่อให้ย่ากับพ่อของเธอดู แต่เมื่อหลานไปหาแล้วทำตัวดื้อ เธอจึงก้อปปี้เอามาให้ตาด้วย” แย้มพระสรวลอารมณ์ดีพระสุรเสียงแหบสั่นนิด ๆ ทอดพระเนตรมาทางเขา “หลานจะทำยังไงต่อ”
“หลานจะไปใช้ชีวิตที่ไร่ทิพย์วารี”
“แล้วงานของหลาน” พระขนงสีดอกเลาเลิกขึ้น
“หลานยื่นจดหมายลาออกกับทางมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว รอเพียงคำเซ็นอนุมัติเท่านั้นกระหม่อม”
“แล้วหลานจะเข้าไปอยู่ที่บ้านนั้นในฐานะอะไร”
“หม่อมราชวงศ์ ปาริวรรต รวิพร คนขับรถส่วนตัวของบุปผชาติกระหม่อม แต่ท่านตาต้องช่วยหลาน”
“ช่วยน่ะช่วยได้ แต่กรองผกาแม่ของบุปผชาติจะยอมหรือ”
“เพราะเหตุนี้หลานจึงต้องขอให้ท่านตาออกหน้า”
“แล้วหลานจะให้กรองผการู้มากรู้น้อยแค่ไหน”
“ไม่ต้องรู้อะไรทั้งนั้นกระหม่อม ขอแค่คุณน้ากรองผกาไม่ประดักประเดิดที่จะใช้งานหลานเช่นคนขับรถทั่วไปก็เพียงพอ”
“เหมือนจะง่ายแต่กรองผกาจะกล้าหรือ รายนั้นยิ่งขี้เกรงอกเกรงใจอยู่ด้วย”
ชายหนุ่มหัวเราะนิดหนึ่ง และไม่ยากเกินกว่าจะเข้าใจความหมาย อีกฝ่ายแย้มพระสรวลขบขันด้วย ชั่วอึดใจพระสุรเสียงแหบสั่นเปล่งกังวานขึ้น
“หลานเพิ่งไปเจอกรองผกามา เอาเป็นว่า ตาจะบอกกับกรองผกาว่าทางเราไม่ถือเรื่องบุปชาติมีลูกติด ตอนนี้เรามาดูวีดีโอที่บุปผชาติเพิ่งนำมามอบให้ตาสบาย ๆ ทั้งเสียงและภาพคมชัดกว่าต้นฉบับที่เราเคยดูกันดีกว่า”
ความคิดเห็น