ลำดับตอนที่ #36
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : ชายที่ตอบแทนความดีด้วยความชั่วร้าย
นี่คือเรื่องราวจากสิบห้าปีก่อน ตอนที่เขายังอายุสิบสามขวบ Rudolph ถูกขายเป็นทาสในประเทศแห่งการค้าบนทะเลฝั่งตะวันออก
เขาเกิดมาเป็นลูกคนที่สามที่มีฐานะครอบครัวที่ดี แต่เมื่อบ้านตกสู่สภาวะล้มละลาย เขาก็ถูกขายโดยจับมัดเอาไว้เพื่อใช้หนี้และบังคับให้ทำงานเป็นจับกัง
เงินคือตัวทำให้โลกขับเคลื่อนไปได้ ในประเทศแห่งการค้าที่ความมั่งคั่งมีค่าเหนือสิ่งใด แม้กระทั่งคนก็ยังถูกเอามาทำเป็นสินค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นสูงหรือสามัญชนก็ตาม จึงมีแต่คนที่มีและคนที่ไม่มีเท่านั้น
――――อ๊าา ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้กับฉันด้วย?
ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม แรงงานทาสก็เป็นพวกที่ต้องเจ็บปวดอยู่ตลอด ได้รับแต่อาหารแย่ๆและค่าแรงที่พวกเขาได้มาก็ไม่เพียงพอต่อการย้าไส้จากการทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
และพอพูดถึงเจ้าของทาสแล้ว พวกนั้นก็ต้องมีพวกที่ต้องมาดูแลทรัพย์สินเหมือนกับสมบัติและพวกนั้นก็ดูแลพวกนี้เหมือนอย่างกับหนูทดลองที่เอามาทำการทดลองอย่างดิบดีเลย
ผู้ค้าที่เป็นเจ้าของเรือที่ Rudolph ที่ถูกกดขี่โดยก่อนหน้านั้น แต่ก็ยังมีช่วงเวลาอันโหดร้ายสำหรับเด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่อย่างสุขสบายมาก่อน
เขาเกลียดพ่อแม่ของตัวเองที่ทิ้งลูกชายเพียงเพื่อเงิน เขาได้เก็บความขุ่นเคืองอย่างเบื้องลึกต่อเจ้านายที่เฆี่ยนตีเขาอย่างไร้ความปราณี
แต่ สิ่งที่เขาภาวนาเอาไว้มากที่สุดก็คือจะได้ใช้ชีวิตที่เขาได้รับการดูแลเหมือนอย่างมนุษย์ที่เป็น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถกลับไปยังชีวิตอันรุ่งโรจน์ได้ก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะต้องทำงานหนักอยู่ทุกวัน นั่นก็น่าจะดีต่อเขาแล้ว
แต่แล้ว ความฝันของ Rudolph ก็กลายเป็นจริงขึ้นมา เขาน่าจะมีอะไรสักอย่างที่จะได้ปลดปล่อยออกมา
ราวกับว่าคำภาวนาจะได้ยินไปถึงหูของเทพีที่อยู่เบื้องบน เรือค้าทาสที่ Rudolph อยู่นั้นก็เจอเข้ากับพายุพัดถล่มจนเรือแตกเป็นเสี่ยงๆ
สภาพร่างกายโทรมจากการถูกทำร้ายบนเรือ เด็กสิบสามขวบร่วงตกลงกลางทะเลเดือด แต่เดชะบุญที่ถูกเกยขึ้นฝั่งได้โดยที่ไม่ถูกมอนสเตอร์ที่ซุ่มตัวอยู่ใต้คลื่นทะเลกิน
“ไม่เป็นไรนะ?”
ไม่เพียงแต่แผลที่อยู่ตามร่างกายจะหายไปและเชื่อว่านั่นไม่ใช่ประตูสู่ความตาย Rudolph ก็ได้พบกับผู้หญิงที่เขาเข้าใจผิดว่าเป็นนางฟ้าอย่างกะทันหัน
ถือว่าเป็นโชคชะตาที่ได้พบกับคู่หมั้นของมกุฎราชกุมาร Albert ลูกสาวของดยุคที่ทรงอำนาจที่สุดในจักรวรรดิ ดยุคแห่ง Earlgrey, Shirley Earlgrey คนที่ตอนนี้ได้ออกไปตรวจตรายังบริเวณหัวเมืองทางตะวันออก
เธอได้ฟังเรื่องราวของ Rudolph เกี่ยวกับเขามายังทวีปนี้ได้อย่างไร… หลังจากนั้นไม่นาน Shirley ก็ได้รับเขาเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้
หลังจากที่ประสบเคราะห์มาหลายครั้งหลายหนจนพลิกชะตาไปมา ในที่สุดเขาก็พบกับผู้มีพระคุณอันเปี่ยมล้นในตัว Shirley ผู้ที่ได้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้แล้วเขาก็ตัดสินใจมารับใช้เธอ
อดีตทาสที่มีผมดำซึ่งหาได้ยากในทวีปจากการเดินทางกับพวกพ่อค้าจากการข้ามทะเล พวกชนชั้นสูงต่างก็พิจารณา Rudolph อย่างน่าสงสัย แต่มีเพียง Shirley เท่านั้นที่ตัดสินเขาบนความจงรักภักดีและการทำงาน
“ทาสยังคงถูกกฎหมายในประเทศนี้ และก็ยังมีจรรยาบรรณที่แต่งต่างกับเทพศักดิ์สิทธิ์, ราชอาณาจักรและก็ดินแดนแห่งปีศาจ ฉันเชื่อว่าอนาคตนี้จักรวรรดิจะแข็งแกร่ง เราต้องฟื้นฟูความเชื่อใจกับประเทศเหล่านั้นโดยการยกเลิกประเพณีนั้นเสีย”
คำสั่งนี้มีอิทธิพลกับผู้คนในประเทศ ที่ชักนำโดยจักรพรรดิในขณะนั้น Shirley ได้พยายามที่จะปลูกฝังเอาไว้ในรากฐานของจักรวรรดิที่เอาแต่เอาเปรียบอยู่
หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือความทนทุกข์ทรมานของตัวเธอที่ผ่านมา เพราะถึงแม้ว่าเธอจะเกิดมาเป็นลูกสาวของดยุคก็ตาม เธอก็ยังตกอยู่ในความโหดร้ายจากผลของสภาพตอนที่เธอเกิดมานั่นแหละ
ความปรารถนาของ Shirley ที่จะเลิกทาสได้ประสานกันอย่างลึกซึ้งกับ Rudolph ที่เข้าใจความเจ็บปวดที่ถูกล่ามโซ่ไว้เป็นทาส แต่เขาก็ได้เริ่มสร้างความรู้สึกที่ไม่อาจยอมรับระหว่างเจ้านายกับคนรับใช้ไปแล้ว
“ต้องขอบคุณท่าน Albert ที่ทำให้ฉันช่วยเหลือประเทศกับผู้คนอย่างนี้ได้ เขาเองก็ช่วยฉันจากช่วงเวลาที่มืดมนในชีวิตฉันเหมือนกัน… นั่นคือทำไมฉันถึงอยากที่จะอยู่เคียงข้างเขาเมื่อเขาได้มาเป็นจักรพรรดิคนต่อไปนะ”
แต่นั่นเป็นความรักที่ไม่น่าจะสมหวังได้เลย เธอเป็นคู่หมั้นของมกุฎราชกุมาร Albert และก็ยังรักเขาถึงเบื้องลึกในหัวใจอีกด้วย
เธอจะยิ้มอย่างเบิกบานที่สุดก็ตอนที่อยู่กับ Albert เท่านั้น แต่ทำไมถึงได้เก็บไว้เพียงแค่คู่หมั้นเท่านั้นล่ะ? ทำไมเธอถึงไม่หันมามองดูเขาบ้างเลย นี่เขาได้หลงรักเธอตั้งแต่เมื่อไรกัน? วันแล้ววันเล่า เขาได้โตขึ้นและก็หดหู่และอ่อนแอยิ่งกว่าเดิม
“โอ้ นายไม่ใช่ไอ้หนุ่มที่คอยรับใช้พี่สาวของฉันใช่มั้ยเนี่ย? ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันเป็นน้องสาวของ Shirley ชื่อ Alice Earlgrey”
เป็นช่วงเวลาที่ Rudolph อยู่ในความเศร้าหมองและสับสนในความรู้สึก แล้วเมื่อเขาได้พบกับ Alice ผู้หญิงที่จะได้มาเป็นจักรพรรดินีนั่นเอง
น้องสาวของเจ้านายที่รู้จักกันเป็นคนที่ใจดีเปี่ยมล้นที่คอยยืนอยู่กับเหล่าชนชั้นสูงคนอื่นๆอีกหลายคนในทวีปนี้ เธอเป็นที่รู้จักในความซื่อสัตย์และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โดยไม่สนใจฐานะทางสังคมด้วย
Shirley ที่สงบเสงี่ยมและสุขุมกับ Alice ที่ร่าเริงและเป็นมิตร ดูเหมือนว่าจะเป็นพี่น้องที่ใกล้ชิดกัน โดยที่ไม่ได้รู้ถึงเบื้องลึกที่แท้จริงของอคติของพวกชนชั้นสูงเลย นั่นเป็นอุดมคติที่ Rudolph ยึดมั่นในตระกูล Earlgrey แต่ความจริงแล้วมันแตกต่าง
“ท่าน Shirley กระผมได้พบกับน้องสาวของท่านเป็นครั้งแรกในวันนี้ เธอดูเหมือนเป็นคนที่น่ารักเอ็นดูเลยนะขอรับ”
“อ๋อ… Alice หือ…?”
Rudolph ไม่เข้าใจคำพูดที่น่ามืดมนของ Shirley ในขณะที่เธอพึมพำถึงชื่อน้องสาวเธอด้วยท่าทางอันหดหู่
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวจากสาวใช้ที่ทำงานรับใช้ Shirley ไป Rudolph จึงได้รู้ความจริงที่โหดร้ายนั้นตรงกันข้ามจากที่เขาได้คาดคิดเอาไว้เสียอีก ได้ยินว่า Alice นั้นเป็นคนทำให้ Shirley ต้องมาทนทุกข์ทรมานที่สุดในตระกูลปีศาจนี้
สาวใช้ที่ได้บอกเขาไปนั้นเธอก็อยู่ภายใต้คำสั่งให้จับตามองการกระทำใดๆของตระกูล Earlgrey ที่จะเข้ามาก่อกวนหรือปั่นป่วน Shirley จากจักรพรรดินีในตอนนั้น Elizabeth
Rudolph เองก็เริ่มที่จะระแวงในตัว Alice ด้วย แต่ Alice ก็ยังพยายามที่จะเข้าใกล้กับ Rudolph ในแต่ละวัน
“ฉันขอร้องนะ ฉันหวังว่าจะได้ไปขอโทษพี่สาวของฉันก่อนที่จะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก จะไม่ขอให้คุณช่วยให้ฉันได้เห็นเธอหน่อยหรือ?”
“เธอบอกว่าเธอจะไปขอโทษ… ฉันรู้ว่าเป็นการพูดกับฉันอย่างอ้อมค้อม แต่ฉันได้ยินเรื่องราวมาว่าตระกูลดยุค Earlgrey นั้นได้ดูแลท่าน Shirley มาตั้งแต่เกิดยังไง ถึงแม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้นไปฉันก็ไม่มีทางที่จะเชื่อเธอพอที่จะให้ไปพบกับท่าน Shirley ได้หรอกนะ”
“น-นั่นมัน…”
เมื่อใดก็ตามที่เขาได้ตำหนิเธอแบบนั้น Alice ก็ดูเหมือนว่าเธอจะปริน้ำตาออกมา เพราะตัว Shirley ไม่เคยพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับพ่อแม่ของเธอเลย มุมมองความจริงของ Rudolph ก็ได้บิดเบี้ยวในขณะที่เขารู้สึกเห็นใจกับ Alice มากขึ้นและก็มากยิ่งขึ้น จนเริ่มที่จะใช้เวลาอยู่กับเธอด้วยกันแล้ว
“คุณเป็นคนที่ซื่อตรงจริงๆเลยนะ ฉันหวังว่าฉันจะได้มีใครสักคนอย่างคุณมาอยู่เคียงข้างฉันบ้าง… พี่สาวฉันนี่โชคดีจัง”
“เปล่านี่ ผมก็แค่มีความสุขที่ได้รับใช้เธอ…”
“คุณนี่ถ่อมตนจริงๆ เพราะคุณมาจากประเทศการค้าหรือ? คุณถึงได้สุดยอดไปเลยนะ!”
ด้วยความใกล้ชิดอย่างกะทันหันที่เขาไม่ได้คาดไว้ Alice ก็เข้าไปกอดแขนเขาและก็คอยประจบเขาอย่างสุดตัว
เมื่อไรก็ตามที่คนที่มีความสุขและความสดใสร่าเริงได้สัมผัสเขา เมื่อไรก็ตามที่เขาได้กลิ่นอันหอมหวานจากเส้นผมของเธอตอนที่เธอกอดตัวเขา… ทีละเล็กทีละน้อย จิตใจของ Rudolph ก็เริ่มหันเหไปยัง Alice
แต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้ว Rudolph ก็เข้าสู่สิบหกปี เขาได้สงสัยจริงๆว่าถ้า Alice นั้นเป็นผู้หญิงที่ชั่วร้ายตามที่ผู้คนได้ซุบซิบเอาไว้ แทนที่จะเป็นแค่เด็กสาวใส่ซื่ออันบริสุทธิ์ที่อยากจะคืนดีกับ Shirley
เป็นลูกสาวคนน้องสุดของตระกูลชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด บางทีเธอน่าจะเป็นน้องสาวโชคร้ายที่ไม่อาจจะปกป้องพี่สาวเธอได้ ใครเกิดมาพร้อมกับลักษณะที่น่าเกลียดแบบนี้กัน?
“Rudolph! ช่วยจับตัว Shirley ซะ! ยัยนั่น เธอหลอกฉัน… หลอกลวงพวกเราทุกคนเลย!”
ในวันนั้น Albert ได้ขอร้อง Rudolph ในสภาพที่โกรธเดือดดาลจนสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเลย ขณะที่เขาถือ Alice ที่มีใบหน้าย้อมไปด้วยคราบน้ำตาบนอกเขา
เขาบอกว่าผู้หญิงคนที่เขารักดั่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามอุดมคติของเขานั้น เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด ความจริงก็คือ Shirley นั้นถูกดยุคแห่งตระกูล Earlgrey ข่มขู่ด้วยพลังที่หายากที่สาปเธอมาตั้งแต่เกิด เธอถูกยัยเจ้าหญิงนั่นใช้เป็นตุ๊กตา และก็ยังจัดการเขาด้วยคำสาปที่ทรงพลังและก็ยังใช้มารยากับคนที่ถูกกระทำอย่างโหดร้ายป่าเถือนจากเงานั่นต่างหาก
แน่นอนว่า เขาไม่มีทางเชื่อในข้อกล่าวหาบ้าๆตั้งแต่เริ่มหรอก แต่เมื่อพยานของมกุฎราชกุมารถูกย้อมไปด้วยน้ำตาของ Alice เขาก็เริ่มที่จะเชื่อมัน
――――ยัยผู้หญิงนั่น! เธอมันแย่ยิ่งกว่านักค้าทาสและพ่อแม่ที่ดูแลฉันเหมือนกับว่าฉันไม่มีตัวตนเสียอีก!
เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะเชื่อในตอนแรก แต่ก็เริ่มรู้สึกตัวตอนที่เขารู้ว่า Shirley นั้นไม่เคยมองตาไปยังผู้ชายหรือผู้หญิงคนอื่นใดๆเลยนอกจาก Albert
ความไม่พอใจนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาจากผลของการไม่มีความรู้สึกใดๆแม้แต่จะรู้ตัวว่าเธอได้ระเบิดในใจเขาเลย คนที่เขาได้รักก็รู้สึกเดือดดาลจนกลายเป็นความเกลียดชัง
หลังจากนั้น Shirley ก็ถูกตัดสินโทษ ตอนที่เธออยู่ในสภาพสิ้นหวังมองดูรอบๆห้องด้วยน้ำตาที่ไหลจากดวงตาที่มีสีแตกต่างกัน เขาก็ได้เลี่ยงสายตาไป
…พยายามที่จะกลั้นความเจ็บปวดที่อยู่ในใจที่เขาไม่อาจจะเข้าใจได้
หนึ่งเดือนต่อมา Shirley ก็ได้หลบหนีออกจากห้องขัง แล้ว Rudolph ก็กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ค้นหา เขาค้นหาทุกที่สำหรับผู้หญิงแสนชั่วร้ายที่ดึงขนตายด้วยคำพูดแสนหวานและอ่อนโยน แต่สุดท้ายแล้ว ก็หาตัวเธอไม่พบและหน่วยไล่ล่าก็ยุติการค้นหา
“ก็ดี บางทีมันก็ดีที่สุดแล้วถ้าพี่สาวจะไปอยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างเงียบๆนะ จะได้สำนึกสักทีว่าเธอได้ทำอะไรไปบ้าง”
“ท่าน Alice เธอนี่มันใจดีเกินไปแล้วนะ”
“ถึงแม้ว่าเธอจะยังเป็นที่รักในครอบครัวอยู่ ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ครอบครัวทำเอาไว้จะให้อภัยกันได้หรือ?”
“คุณนี่มัน… จริงๆเลย คุณเป็นคนที่ควรจะรับใช้มาตั้งแต่เริ่มแล้ว…”
เขาได้ประทับจูบลงบนฝ่ามือของเธออย่างจงรักภักดี
ราวกับว่าเธอได้มองลงไปยังตัวเขาที่เคยเป็นทาสมาก่อน Shirley ไม่เคยเปิดใจกับเขาแม้กระทั่งได้เข้าไปนอนกับผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆเลย Alice ได้แสดงผู้ชายคนอื่นๆที่เธอชื่นชอบจากที่อื่นๆมาทั้งหมด รวมถึง Albert กับ Rudolph
“ช่วยเก็บเป็นความลับจากท่าน Albert นะ โอเค? ฉันมั่นใจว่าเขาจะต้องอิจฉาร้อนรนแหงๆถ้าหากเขาจับได้นะ หืม?”
Alice ยิ้มอย่างชั่วร้าย ส่วนเขาก็ไม่อาจต่อต้านเสน่ห์อันเย้ายวนของเธอได้ขณะที่พวกนั้นนอนด้วยกัน
เขาได้ลืมเรื่อง Shirley ไปนานแล้ว จมปลักอยู่กับความหวานหอมและความฝันอันพึงพอใจมาถึงสิบเอ็ดปี แต่แล้ววันหนึ่ง Rudolph ก็ได้รับความจริงอันแสนช็อค
“ข้อกล่าวหาเท็จ…!? ท่านบอกว่าได้ต่อต้าน Shirley Earlgrey เอาไว้หรือ!?”
จักรพรรดิและจักรพรรดินีคนปัจจุบันบอกเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวดราวกับเขารู้สึกสั่นไหวไปทั้งโลก
“มันก็จริงที่ Shirley ยังอยู่นั้นโกหก แต่หนึ่งในจอมเวทหลวงที่มีความอยากรู้และศึกษาในกรณีได้พบว่ายังมีบุคคลทรงปัญญาที่คอยคุกคามและได้จัดการเธอในช่วงเวลานั้นแหละ”
“ง-งั้นมันเป็นใครกันล่ะ!? ใครที่มาบังอาจทำแบบนั้นกับเธอ!?”
“แม่มดสีทอง Canary”
ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดนั้น มันก็ทำให้ Rudolph รู้สึกตัว จอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดบนทวีปนี้และก็เป็นศัตรูเก่าของจักรวรรดิ มันไม่ได้อยู่เหนือเธอในการจัดการกับคนที่อยู่ในที่สูงและนำพาหายนะสู่ประเทศ
ชื่อเสียงของเธอรู้จักในตัวร้ายโรคจิตสุดป่วนที่เพียงแค่พูดล่อใจไปไม่กี่คำ หรือพูดอีกอย่างก็คือ Shirley ต้องถูกขโมยอิสรภาพแล้วก็บังคับให้กระทำการอันชั่วร้ายหรือ?
“ฉันได้ส่งคนไปสืบหาและปรากฏว่าเธอได้อยู่กับเด็กที่เกิดมากับฉัน ในเมืองชายแดนของราชอาณาจักรนั่นแหละ”
“นี่มัน… ไม่สิ… ฉันจะ… ฉันจะไปขอโทษท่าน Shirley ยังไงดีล่ะ…!?”
“อย่าต้องให้หมดหวังสิ!”
ขณะที่ Rudolph ยืนอยู่บนขอบของหลุมดำในหัว Alice ก็เอามือกุมไว้แล้วก็มองตาเขาไปตรงๆ Rudolph จึงพอที่จะสงบใจได้บ้างตอนที่เขาได้กลิ่นที่คุ้นเคย
“เราก็ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่สาวฉันได้ทำอะไรที่น่ากลัวกับเธอมาตลอดหรอก แต่ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ บาดแผลทั้งหมดก็รักษาได้! ดังนั้น ทำไมถึงไม่ไปพบกับเธอแล้วก็ขอโทษเธอจากเบื้องลึกในใจเสียล่ะ? ก็โอเค พี่สาวฉันเป็นคนดี ฉันมั่นใจว่าเธอจะยกโทษให้คุณแน่”
ด้วยคำพูดของ Alice นั้น Rudolph ก็รู้สึกเหมือนเขาจะได้เห็นแสงสว่าง เขาน่าจะเชื่อมั่นได้ เพราะ Shirley เป็นแม่ของความเมตตาทั้งปวง บุคคลที่คอยช่วยชีวิตเขาออกจากความดีของจิตใจเธอมาตลอดหลายปีก่อน
“อย่างที่พูดมา Shirley อาจจะระแวงถ้าคุณเข้าไปหาเธอตรงๆ ฉันรู้ว่ามันดูขี้ขลาด แต่ที่ดีที่สุดที่ทำได้ก็คือไปเอาลูกสาวฉันกลับมายังจักรวรรดิก่อน แล้ว Shirley ก็จะกลับมาเอง แล้วเราก็จะได้จับเข่านั่งคุยกับเธอด้วยความจริงใจไง”
“เข้าใจแล้ว เพื่อชีวิต กระผมจะทำตามที่ท่านขอมาเลยพะยะค่ะ”
“แล้วก็อย่าได้ทำร้ายใดๆกับลูกสาวฉันด้วย พวกเธอเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์นี้นะ”
—
Rudolph ไม่อาจจะรู้ได้ เจ้านายที่เขาเคยเคารพและได้รักมาครั้งหนึ่ง ได้กลายมาเป็นคนที่โกรธเคืองอย่างโหดร้ายได้อย่างไร?
กลิ่นหอมหวานตามธรรมชาติที่เขาได้ใช้มาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนจริงๆแล้วเป็นเวทมนตร์อย่างหนึ่งที่คอยรบกวนจิตใจที่บอบบาง จนไม่มีประโยชน์ที่จะต่อกรกับผู้ที่มั่นใจแบบนั้นได้
และที่แย่ที่สุด เขาได้พรากจากราชอาณาจักรโดยไม่รู้ว่าแม่จะโหดร้ายขนาดไหนตอนที่ลูกของเธอตกอยู่ในอันตราย
“นรกอันน่าหลงใหล 《ความหวาดกลัวของใต้ผืนโลก》”
เธอปักดาบที่เรียกว่า Ipetam ไว้บนพื้นข้างหน้าเธอ แล้วก็เอาดาบแดงกับน้ำเงินออกมาแล้วก็เริ่มร่าย
“《นับจากนี้ไป สู่ดินแดนแห่งความตาย》”
ผมขาวอันนุ่มสลวยปลิวไสวขณะที่ดาบเวทมนตร์ถูกย้อมไปด้วยพลัง
เธอปั่นบทร่ายเหมือนกับร้องเพลงกับคนที่ต่อสู้เคียงข้างเธอระหว่างสงครามมังกรที่รู้ว่ามันฉับพลันทันใด นี่เป็นคำร่ายที่แตกต่างจากอันที่พวกเขาเคยได้ยินมาก่อนหน้านั้นมากๆ
Kyle ได้วางโล่ให้กับเด็กสาวของคนจากลมกรรโชกที่ดูเหมือนจะพัดเข้าไปในซอย เป็นสิ่งที่เขาพอจะทำได้โดยการมองไปยังแผ่นหลังของนักดาบหญิง
“《จุดสิ้นสุดใกล้ๆ ・ข้าจะถือดาบนั้นตัดวงจรของการกลับมาเกิดใหม่เสีย》”
“《หยุดลมหายใจ、มองอย่างไร้ความหวัง》”
คราบเลือดเก่าๆที่กระจายติดคานของที่ผูกแขวนคอที่ว่างเปล่าที่อยู่ใกล้ๆกับอาการร้อนรนที่ตะลุมบอนตัวเขาเมื่อคาถาถูกทำงานทำให้เขาถึงกับเสียวเย็นวาบไปจนถึงกระดูก
“ที่ไหน… ที่นี่มันที่ไหนกัน…!?”
เมื่อดาบเวทมนตร์ Ig-Alima กับ Sul-Sagana ถูกใช้ตามกัน มันจะใช้เวทสร้างโลกด้วย 《สวนของเผด็จการ》
ต่างโลกที่สามารถสร้างขึ้นมาด้วยภูมิประเทศและกฎเกณฑ์ที่ได้เปรียบสำหรับผู้ร่ายเท่าที่สามารถที่จะทำให้เป็นได้ โดยปิดกั้นการแทรกแซงจากโลกภายนอกและเวทมนตร์หลบหนีเฉพาะด้าน เมื่อดาบอสูรสีขาวได้ใช้ใจเธอในการสร้างกรงขังสำหรับสำหรับศัตรูที่อยู่หน้าเธอ นี่คือฉากที่ปรากฏออกมาโดยมีพื้นฐานบนภาพที่อยู่ในหัวของเธอ
โลกนี้สร้างด้วยจินตนาการของ Shirley ที่แบ่งออกเป็นเจ็ดส่วน ช่วงสงครามมังกรเธอก็แสดงส่วนแรก เกาะลอยฟ้าที่สวยงามตระการตาที่เต็มไปด้วยซากโบราณสถานที่ออกแบบมาใช้ต่อกรกับกองทัพ 《สวนของพระเจ้า》
“เราคุยกันตรงนี้ได้โดยที่ไม่มีใครมาเห็นแล้ว”
“ท่าน Shirley?”
สันนิษฐานว่า Shirley นั่นได้วาง Ig-Alima กับ Sul-Sagana ลงบนพื้นเพราะเธอไม่ได้เจตนาจะทำร้ายเขา Rudolph จึงโล่งใจและก็โค้งคำนับต่อหน้าเธอ
“มันก็นานมากแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นหน้ากันนะขอรับ ท่าน Shirley ไม่เพียงสิบเอ็ดปีก่อน… ท่านไม่ได้เปลี่ยนไปในตอนนั้นเลย… ไม่สิ นอกจากเสียว่าท่านได้สวยขึ้นกว่าเดิมอีก”
ถึงแม้จะหลังจากตอนนี้ เธอก็ดูอ่อนเยาว์อยู่ ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างามกับบรรยากาศอันแสนสุภาพก็โตขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม
ราวกับว่าเธอจะอยู่คนละขั้วกับ Alice และก็ไม่มีอายุเลย… ที่จริงแล้วเพราะเธอได้เปลี่ยนไปบ้างแล้ว… ผิวพรรณของเธอยังสมบูรณ์ ใครเห็นก็ต้องเข้าใจผิดว่าเป็นสาววัยรุ่นแน่
“…แล้วไง? นายวางแผนจะทำอะไรกันล่ะหึ?”
แต่ คำสรรเสริญที่เขาให้เธอกลับถูกเมินเฉยราวกับเขาไม่ได้พูดถึงมันเลย Rudolph ถึงกับแข็งทื่อไปชั่วขณะตอนที่จ้องไปยังดวงตาสีน้ำเงินและสีแดงที่เย็นชาพอๆกับน้ำแข็งขณะที่เธอจ้องหน้ากลับ แต่แล้วเขาก็นึกคำพูดที่เขาอยากจะพูดออกได้
“ท่าน Shirley… สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนนั้น กระผมต้องขอโทษเป็นอย่างยิ่งเลย กระผมผิดเองที่ไปสงสัยท่านและได้ทำอะไรที่ไม่อาจจะให้อภัยตอนที่ผมควรที่จะอยู่ข้างท่านได้เลย แต่ตอนนี้ความเข้าใจผิดได้กระจ่างชัดแล้ว ไม่ต้องกลัวพลังของความเกลียดชังของแม่มดสีทองอีกต่อไปแล้ว กระผมจะทำทุกอย่างที่จะปกป้องท่านให้เองขอรับ”
“……..ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี แต่ Canary นั่นได้ไปทำอะไรหรือ?”
“ไม่ใช่ว่าเป็นอุบายของแม่มดนั่นที่ทำให้ท่านต้องถูกบังคับให้อยู่ในสถานที่โหดร้ายป่าเถื่อนเหมือนอย่างนักผจญภัยหรือขอรับ? แน่นอนว่าเธอนั้นน่าจะจับตัวลูกสุดที่รักเอาไว้เป็นตัวประกันในทางหนึ่งด้วย? ไม่เช่นนั้น ท่านก็ไม่ต้องมาเป็นนักผจญภัยแล้ว โหดร้ายชะมัด… ต้องส่งคุณผู้หญิงเข้าสนามรบแบบนี้… มันเลวร้ายสิ้นดีเลย…!”
สิ่งที่ Rudolph เห็นนั้น Canary ก็แค่ถือลูกที่เกิดมาจาก Shirley กับรักลวงๆของ Albert เองแหละ บังคับ Shirley ให้ไปแกว่งดาบจนได้รับบาดเจ็บเพื่อประโยชน์ของลูกสาวเธออยู่ทุกวัน
ถ้าใครที่มาจากกิลด์ได้ยินเรื่องนั้นเข้า พวกนั้นถึงกับปากค้างแน่ ความจริงคือ Shirley เป็นคนที่จัดการกับราชามังกรด้วยตัวคนเดียวโดยไม่ได้รับอันตรายและก็เริ่มหาความสุขที่แท้จริงในการผจญภัยหลังจากนั้นต่างหาก แต่ที่ถูกหลอกเข้าเต็มเปาน่ะคือ Rudolph ที่เขาเชื่อว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของ Shirley ต่างหาก
“……..เอาตรงๆเลยนะ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก สิ่งที่ฉันอยากรู้จริงๆก็คือทำไมแกถึงพยายามจะลักพาตัวลูกสาวฉันกันล่ะ?”
หัวเรื่องถูกบังคับเปลี่ยนมายังจุดประสงค์จริงๆ เธอได้ยินเรื่องนั้นมาจาก Philia แล้ว แต่เธอก็ยังไม่เชื่อใจเธอจริงๆ ดังนั้นเธอจึงอยากได้ยินโดยตรงจากแหล่งที่มานั่นแหละ
“อ๊า… ยกโทษให้กับความผิดพลาดที่โหดร้ายในอดีตด้วย อย่างที่จักรพรรดินีพูดมา… ท่านเป็นผู้ที่เมตตาแท้ๆเลยขอรับ”
“…….”
Shirley แทบจะฆ่าเขาตรงนี้และก็ตอนนี้แล้ว แต่เธอก็ได้ยั้งตัวเองเอาไว้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
“ว่ามา”
สิ่งที่เธอได้ยินจาก Rudolph นั้นเหมือนกับที่ได้ยินจาก Philia
“ดังนั้นขอร้องเถอะขอรับ ท่าน Shirley กระผมได้ส่งคนมาคอยคุ้มกันเจ้าหญิง Sophilea กับเจ้าหญิง Tionissia กลับไปยังที่จักรวรรดิอย่างปลอดภัยด้วย แผนเดิมจริงๆก็คือจะให้ท่าน Shirley ตามมาทีหลัง แต่เนื่องจากท่านมาอยู่ตรงนี้แล้ว ทำไมถึงไม่กลับไปยังจักรวรรดิด้วยกันกับกระผมด้วยล่ะขอรับ? กระผมมั่นใจว่าฝ่าบาทจะต้องโล่งใจมากๆเลยขอรับ”
เธอสมมติฐานว่า Sophilea กับ Tionissia นั่นต้องมาจาก Sophie กับ Tio ซึ่งมีชื่อที่คล้ายๆกันแน่
Shirley อยากจะบอกเขาไปว่าอย่ามาเรียกชื่อลูกสาวของเธอด้วยชื่อแปลกๆแบบนี้ แต่เรื่องไร้สาระที่เขาได้พูดออกมาทำให้เธอต้องหุบปากลง
“ขอฉันยืนยันสักสองอย่างนะ… เหตุผลที่นายได้กล่าวหาเท็จใส่ฉันและก็ถูกตราหน้าว่าฉันถูกควบคุมโดย Canary ที่คอยหลอกลวงคนและก็กระทำการอันชั่วร้ายภายใต้อิทธิพลของเธอสินะ? และนายก็ตั้งใจจะเอาลูกฉันกลับไปยังจักรวรรดิเพื่อผลประโยชน์ของการสืบทอดราชบัลลังก์ด้วยใช่มั้ย?”
“อันหลังนี้ถูกต้องเลยขอรับ… แต่อันก่อนหน้านั้นพูดได้โหดร้ายจริงๆเลยขอรับ เราจะไม่ปล่อยให้มันแล้วไปแล้วเหมือนอย่างน้ำที่อยู่ใต้สะพานได้หรือขอรับ?”
“ตอนนี้ เราจะกลับจักรวรรดิด้วยกันแล้ว ท่าน Shirley ความสุขที่ปฏิเสธตัวท่านตลอดสิบเอ็ดปีที่ผ่านมากำลังรอท่านอยู่นะขอรับ”
ใช่ เขาได้ตัดสินใจไปแล้ว คราวนี้ Rudolph จะเป็นคนที่ทำให้ Shirley มีความสุข Albert ก็เอาแต่รัก Alice อย่างบ้าคลั่ง และถึงแม้ว่า Rudolph ก็รัก Alice เช่นกัน เขาก็ดีใจที่ Shirley จะได้มาขึ้นครองแล้ว
ความงามราวกับจะถูกมอบโดยเทพี แขนขาที่นุ่มนวลและหน้าอกที่สะบึ้มที่ทำให้เธอดูกระชับขึ้นมา มองไปยังดวงตาที่ส่องประกายราวกับพลอยและผมขาวดั่งหิมะแล้ว หัวใจของเขากับตะโพกก็ถูกแผดเผาผ่านไปทั้งตัว
แน่นอนว่า Rudolph เชื่อว่า Shirley นั้นน่าจะยอมรับ แต่สิ่งที่ออกมาจากปากของเธอนั้นกลับเย็นชาจนทำให้เขาเสียวสันหลังวาบไป
“ใช่ ฉันเข้าใจแล้ว แต่แย่หน่อยนะที่จักรวรรดินั้นได้ดูถูกเรานะ”
สายตาของ Rudolph ไม่อาจจะมองเห็นที่ความเร็วขนาดนี้ได้ ดาบที่น่ารังเกียจถูกดึงออกมาจากพื้นแล้วก็ฟันใส่เขาเพียงกระพริบตา
หัว Rudolph ปลิวกลางอากาศก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวที่ถูกดาบนั้นฟันออกไป เขายังมีสติพอที่รู้ตัวว่าสิ่งที่เขาได้มองไปนั้นก็คือร่างกายที่หัวขาดที่มีเลือดพุ่งออกมากระเด็นติดก้อนหิน
(ฮี้…. อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!?!?)
มองดูศพของตัวเองที่มีเลือดพุ่งเหมือนน้ำพุ ความเจ็บปวดทันทีก็เริ่มทรมานขึ้นมาและปากที่บิดเบี้ยวจากการแหกปากที่ไร้เสียง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น