ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #35 : ความกราดเกรี้ยวของดาบอสูร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.1K
      206
      10 มิ.ย. 63

    ย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านั้น

    “…นี่มันแย่ที่สุดเลย”

    “…ฉันอยากร้องไห้แล้ว”

    “…ฉันอยากจะกลับไปอาบน้ำตอนนี้แล้ว”

    Cudd, Kyle และ Leia ต่างก็ดูเหมือนกับผ่านนรกมาขณะที่พวกเขาเดินโซซัดโซเซผ่านเข้าประตูเมืองด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูน่าหวาดกลัว

    ปาร์ตี้นักผจญภัยมือใหม่ได้รับเอาคำร้องแรกในการปราบมอนสเตอร์ด้วยกันโดยไม่มีนักผจญภัยมือเก๋ามาอยู่เคียงข้าง แต่กลับมีเรื่องที่น่าสยดสยองรอพวกเขาอยู่

    “อ๊าาาา นี่มันนรกชัดๆ! ฉันไม่คิดว่าการฆ่าแมลงยักษ์มันจะยากขนาดนี้เลย!”

    “นายอยู่แนวหลังใช่มั้ย? เราต้องสู้กับพวกมันตัวเปล่าๆเนี่ย มันแย่กับ Kyle ในแนวหน้าที่ดูเหมือนว่าเขาจะเสียสติไปแล้ว”

    “เปล่านี่ ฉันยังอยู่ตรงนี้หรือ? ฉันกะจะไปยังที่อื่นแล้วนะเนี่ย”

    พวกเขารับคำร้องจากเมืองกลางทางระหว่างเมืองที่ห่างไกลกับเมืองหลวงเพื่อกำจัดแมลงยักษ์ที่มันทำรังอยู่ในระบบท่อระบายน้ำ

    แต่ พอพวกเขาเข้าไปยังท่อระบายน้ำที่มืดๆ โดยใช้เวทสองแสง 《Flash》 มาช่วย ปรากฏว่าพวกเขาก็เจอกับมอนสเตอร์ที่อยู่ในรูปของแมลงสาบที่มีขนาดตัวเท่าคนอีกเป็นกลุ่มใหญ่เลย

    “อ๊ากกก… หยุดสักทีเหอะ ฉันต้องมาปิดตาทุกครั้งที่เห็นไอ้ตัวหนวดเสาอากาศยั้วเยี้ยเนี่ย…”

    “หนวกหูน่า เธอทำให้ฉันนึกออกเลย… อืยยยย ขนลุกชะมัด…!”

    ทั้งสองคนที่ทะเลาะกันวันแล้ววันเล่าดูท่าจะเงียบลงกว่าเดิม

    พวกเขาได้ฝึกในทีมเวิร์คเพื่อเตรียมตัวสำหรับคำร้องนี้ แต่ก็ไม่ได้ลงเอยเช่นนี้ นักผจญภัยแรงค์ E ทั้งสามคนนั้นต่างก็ไปเห็นนรกในท่อระบายน้ำเข้า

    Leia เป็นคนที่ตะโกนแหกปากร้องขึ้นออกมาก่อนใครที่เห็นแมลงสาบยั้วเยี้ยบนพื้น กำแพง และเพดานต่อหน้าพวกเขา

    “สุดท้ายแล้วคุณ Shirley ก็เป็นคุณ Shirley จริงๆ อย่างน้อยเธอน่าจะบอกอะไรสักอย่างสิ”

    “นี่ ไม่ใช่ว่าคุณ Shirley เป็นเพื่อนหรือ?”

    “ต้องขอบคุณเธอเลยที่ทำให้เราต้องมาเปื้อนคราบแมลงสาบเนี่ย”

    ในสถานที่ๆคนธรรมดาน่าจะร้องไห้และก็หนีสุดชีวิตนี้ สามคนนี้มีความอดทนในด้านนี้ พวกเขามองหนทางอื่นที่จะได้เป็นนักผจญภัยที่เต็มตัวเสียที

    แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคาอันหนักอึ้ง ก่อนที่จะสู้ Kyle ใช้เวทมนตร์《Fire Ball》ส่วนลูกธนูรูนของ Leia ก็หมดไปกับการจัดการกับพวกแมลงสาบแล้ว และเวทมนตร์ของ Cudd ก็ใช้ไปกับการสร้างบาเรียดินอยู่ พวกเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะดื่มโพชั่นเลย ขณะที่พวกแมลงต่างก็กรูกันเข้ามาหาพวกเขา…

    “ฉันไม่คิดจริงๆเลยว่าจะต้องมาซัดกับแมลงสาบยักษ์ด้วยมือเปล่าเนี่ย”

    “รู้แล้วน่า… แล้วเห็นตอนที่ฉันได้ฉีกหัวตัวหนึ่งมั้ย?”

    “หยุดเลยน้าาาาา! ช่วยหยุดพูดถึงเรื่องนี้สักทีได้มั้ย!?”

    พวกเขาน่าจะเริ่มเสียสติเพราะความอ่อนล้า ขณะที่ Leia หันไปตะโกนใส่ทั้งสองที่ไปนึกเรื่องเลวร้ายขณะที่หัวเราะบ้าๆออกมา

    ความรู้สึกสะอิดสะเอียนของสิ่งที่พวกเขาต้องซัดและก็ฟันผ่านอาวุธพวกเขา คราบเลือดและของเหลวกระจายไปทุกที่ เพราะเลือดได้ไหลจากอาวุธลงสู่มือพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะต้องไปสู้กันตรงๆกับสิ่งมีชีวิตก็ตาม ความรู้สึกที่สุดแสนรังเกียจยังคงรู้สึกสดชื่นชะมัด

    ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพยายามเว้นช่องว่างเพื่อเสริมเวทด้วยโพชั่นก็แล้ว มันก็มีศัตรูมากเกินไปและไม่อาจที่จะเลี่ยงการต่อสู้โดยไม่พักได้เลย

    มันยากที่จะตัดสินว่าจะโชคดีอย่างไรที่พวกเขามาเป็นปาร์ตี้เพียงเพราะแมลงพวกนั้นไม่มีเกราะป้องกันดีๆ และก็ยังแทงทะลุด้วยอาวุธง่ายๆ แต่กลายเป็นว่า พวกเขาต้องมาเปื้อนคราบเหลวหนืดๆราวกับของที่หมดอายุล่ะเนี่ย

    “ยังไงก็เหอะ ฉันจะกลับบ้านไปอาบน้ำแล้ว! ฉันจะไม่ออกมาจนกว่าฉันจะเช็ดสบู่จากหัวจรดเท้านะ!”

    ขณะที่ Leia ร้องไห้อย่างเจ็บปวด Cudd กับ Kyle พยักหน้าเห็นด้วยกันอย่างเงียบๆ

    แน่นอนว่า ทั้งสามนั้นต้องการที่จะล้างตัวในห้วยที่อยู่ข้างๆถนน แต่ก็ไม่มีที่ไหนที่ใกล้พอ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คืออาบน้ำ

    “เอาล่ะ ฉันจะไปล่ะ”

    “เจอกัน…”

    “แล้วเจอกันในวันพรุ่งนี้”

    Kyle แยกตัวจากทั้งสองในทางกลับบ้าน ขณะที่เขาย่ำเท้ากลับไปยังสถานสงเคราะห์ที่เขาอาศัยอยู่นั้น เขาก็มองผ่านกระจกของร้านขายอุปกรณ์และอาวุธบนทางที่เขาได้เตร่ไปว่าจะต้องเติมมันมากแค่ไหน เขาก็ไปเห็นชายร่างใหญ่ทั้งห้าคนที่เป็นพวกจิ๊กโก๋

    (นักผจญภัย…? ไม่ใช่ พวกนั้นดูสะอาดเกินไป…)

    เขารู้สึกไม่ดีเลย… ถ้าเขาบอกคนอื่นแบบนี้ไปล่ะก็ พวกเขาก็คงจะสงสัยว่าเขากังวลเรื่องอะไรกัน

    แต่มีภาพอันหนึ่งที่ทำให้ดึงความสนใจของ Kyle เพราะเขารู้ว่าจิ๊กโก๋นั้นไม่ได้มีอยู่ทุกที่

    (มีอะไรสักอย่างอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า…?)

    เป็นความอยากรู้เท่านั้นที่จะขับดันเท้าของ Kyle ไป ขณะที่เขาได้ก้าวเข้าไปในซอย เขาก็ได้ยินบางอย่างที่อยู่ในตัวของนักผจญภัยดังลั่นขึ้นมา

    “ม-ม่ายยย! ปล่อยฉันนะ!”

    “คุ…!”

    เป็นเสียงร้องไห้ของเด็กสาวที่คุ้นหู ความรู้สึกที่โหดร้ายกัดหน้าอกเขาแล้วก็มุ่งหน้าไปยังเสียงของพวกเธอ ขณะที่เขาได้เข้าใกล้ เขาก็เห็นเด็กสาวผมขาวสองคนที่ถูกจับลอยกลางอากาศโดยสองคนในพวกผู้ชายทั้งห้า ขณะที่ชายคนที่หกซึ่งเขายังไม่ได้เห็นในชุดสูทก่อนที่จะร่ายเวทมนตร์บางอย่างใส่พวกเธอ

    เหตุผลของเขาได้หายไปแล้วก็ถูกสัญชาตญาตขับเคลื่อน บางอย่างที่เจ็บแปล๊บภายใน Kyle และเขาก็ได้รู้ตัวว่าเขาได้เอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อช่วยพวกเธอสองคนนั่น… เขาไปพุ่งตัวเข้าไปยังไอ้สองคนที่จับตัว Sophie กับ Tio แล้วก็อัดมันด้วยหมัดที่เสริมความแกร่งด้วย 《Physical Boost》

    “เอิ่ม พวกเธอเป็นลูกสาวของคุณ Shirley ใช่มั้ย? พวกนี้ดูเหมือนกับคนไม่ดี ฉันก็เพิ่งจะเข้ามา แต่นี่มันอะไรกันนิ?”

    แล้วก็กลับเข้ามาสู่เรื่อง

    ถึงแม้เขาจะโดดเข้ามาระหว่างเด็กสาวกับชายที่น่าสงสัยทั้งหกที่ล้อมรอบพวกเธออยู่ โดยที่ซัดหมัดเข้าไปด้วย เขาก็ไม่ได้คิดหรอกว่ามันจะมีเรื่องอะไรทั้งนั้น

    “แกเป็นใครกันวะ? คนภายนอกที่ไม่ได้รู้อะไรเลยก็อย่ามาเสือก ยิ่งกว่านั้น แกกล้าทำร้ายอัศวินที่คอยรับใช้จักรพรรดิด้วย… ฉันเชื่อว่าแกจะต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสมแน่?”

    “เอ๋? จ-จักรพรรดิหรือ?”

    นี่เขาเข้าใจเรื่องที่เขาได้พูดไปหรือเปล่าเนี่ย? Rudolph Leblanc จ้องไปยังเด็กหนุ่มผู้โง่เขลาที่อยู่ต่อหน้าเขา

    Kyle ที่อยู่อีกด้านหนึ่งที่ยังไม่ได้รู้อะไร เขาน่าจะเดาได้ว่าต้องทำอะไรสักอย่างกับพวกต่างด้าวที่อยู่ตรงนั้นที่มีความตึงเครียดมาไม่นาน แต่เขากลับไม่มีความคิดว่าจะต้องทำยังไงกับฝาแฝดเนี่ยสิ

    “…ฉันว่า พวกนายไม่ได้มาลักพาตัวหรือไง?”

    “สามหาว! กล้าวดียังไงถึงได้ดูหมิ่นอัศวินของจักรพรรดิ?”

    “เอ๋? อา เอิ่ม ท-โทษที”

    เขาเผลอพูดขณะที่กำลังคิด… แล้วก็รีบเอามือปิดปากทันที ตอนนี้เขาเริ่มสงบตัวลงจากที่เขากลัวพวกผู้ชายที่ล้อมตัวเขา แต่แล้วเขาก็รู้ว่าพวกเธอที่อยู่ในอ้อมแขนของเขานั้นต่างก็กลัวจนตัวสั่น

    ถึงแม้พวกเธอจะเป็นลูกของดาบอสูรสีขาว พวกเธอก็เป็นแค่เด็กหญิงสิบขวบเอง เหมือนกับตัวเขาที่ต้องยืนตลอดเพื่อเด็กที่อ่อนกว่าที่สถานสงเคราะห์นั่นแหละ Kyle ตัดสินใจเป็นโล่ให้กับทั้งสองคนนั้น คอยสาปเขาเพื่อให้รู้สึกหวาดกลัว

    มองเห็นเด็กหนุ่มที่จ้องเขาแบบนั้นไป Rudolph ก็ถอนหายใจราวกับจะต้องมาต่อกรกับเด็กที่ดื้อด้านแล้วก็โบกมือให้กับพวกอัศวินให้ถอยออกไปสักพักหนึ่ง

    “แกแน่ใจแล้วหรือ? สองคนนี่ควรจะมากับเราตามคำสั่งของท่านจักรพรรดิ Albert และท่านจักรพรรดินี Alice นะ แกรู้ถึงอาชญากรรมที่สามัญชนจากประเทศน้ำเน่าที่เข้ามาแทรกแซงว่ามันร้ายแรงแค่ไหนหรือเปล่า?”

    “ร-เราไม่ใช่เจ้าหญิงของจักรวรรดินะ! ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรก็ตาม เมืองนี้ก็คือบ้านของเรา!”

    “จ-เจ้าหญิงหรือ!?”

    คำพูดที่น่าขันถูกปล่อยออกมาแล้ว Kyle ก็กลับมายังจุดเริ่มต้นอีกรอบ Sophie กับ Tio เป็นเจ้าหญิงหรือ? แล้วก็จักรพรรดินั่นก็อยากจะมาเอาตัวพวกเธอไปหรือ? นั่นเป็นสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นแล้วโดยตัดสินจากคำสนทนานั้น แต่ Kyle ก็ยังไม่เข้าใจทั้งหมด

    “ฉันแนะนำว่าแกควรจะปล่อยเจ้าหญิงให้กลับไปยังประเทศบ้านเกิดซะ ฉันจะไม่ลังเลที่จะเล่นงานแกที่ชั่วช้าที่บังอาจเข้ามายุ่งกว่านี้ได้แล้วนะ ถ้าแกเข้าใจก็ไปซะ ฉันจะได้ทำเป็นมองข้ามการทำร้ายหนึ่งในอัศวินผู้ทรงเกียรติของฉันด้วยความ ‘เข้าใจผิด’ นะ”

    “อึก…”

    Sophie มองดู Kyle ด้วยความหงุดหงิด ขณะที่ Tio มองดูรอบๆข้างหลังที่ปกป้องพวกเธอที่ขำเลืองไปยัง Rudolph

    แต่ไอ้คำพูดที่ว่า ‘ฉันจะลงโทษไอ้พวกนี้เอง’ เป็นสิ่งแรกที่ออกมาจากในหัวของ Kyle ถ้าสิ่งที่พวกนั้นว่ามันถูกต้องแล้วนี่เป็นเรื่องระดับประเทศ แล้วนั่นจะไม่มากเกินกว่าที่ Kyle จะทำได้ด้วยตัวนักผจญภัยคนเดียวแน่ๆ ถ้าเขาขัดขืน เขาอาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรได้

    เมื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตแท้จริง ความเป็นคนคือการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นความกล้าหาญที่จะคว้าอนาคตตัวเอง จะยอมก้าวไปต่อข้างหน้าหรือไม่?

    เด็กหนุ่มที่ไร้ประสบการณ์ได้ลุกขึ้น ก้าวเท้าถอยบิดไปข้างหลังหนึ่งก้าวราวกับจะเตรียมตัวหนี

    “….《บาเรีย・ขยายออก》”

    ถึงกระนั้น แม้เขาจะแขนสั่นไปหมด คำตอบของคำถามนี้ก็คือวางบาเรียไว้ระหว่างพวกเธอกับชายที่คุกคามพวกเธอ

    มันคือ 《Force Field》 เป็นเวทบาเรียชนิดแรกที่เขาได้เรียนมาจาก Asterios ถึงแม้ว่าบาเรียนี้จะอ่อนจนทำให้ครูถึงกับถอนหายใจในความมัวหมองก็ตาม ตอนนี้ก็เป็นลักษณะวิธีแก้ไขของ Kyle

    “นี่มันหมายความว่าอะไรกัน? ฉันไม่ได้บอกหรือไงว่าการแทรกแซงใดๆที่แกได้ทำไปนั้นเป็นอาชญากรรมน่ะ?”

    “เปล่า ก็เข้าใจ มันก็แค่หลังจากที่ได้ยินมาทั้งหมดนั่นแหละ ฉันอาจจะกลัว แต่ฉันก็ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ”

    Kyle เพิ่งจะผ่านนรกมาในวันนี้ อย่างแรกก็แมลงยักษ์ ตอนนี้ก็สถานการณ์บ้าๆนี่อีก

    แล้วจะมีคำไหนที่เขาจะพูดได้ถูกต้องล่ะเนี่ย? เขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรแล้ว เสียงของเขาก็สั่นอย่างไม่สม่ำเสมอ ตรงจุดที่เขาได้พรวดเข้าไป ตรงจุดที่เขาจะต้องเสี่ยงอันตรายด้วย

    “แต่… ฉันก็กลัวที่จะเห็นคนที่ฉันรักร้องไห้มากกว่า… อ๊ะ พูดไปแล้ว…”

    ถ้าเขาหนีจากตรงนี้ เขาอาจจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก ไม่มีแม้แต่ที่จะได้ตอบแทนเธอที่ช่วยชีวิตเขา นั่นเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความทรงจำที่น่าหวาดกลัวในรังก็อบลินที่เธอช่วยเขาในครั้งแรกเสียอีก

    ขาของเขาหยุดงอส่วนแขนของเขาก็หยุดสั่น ตอนนี้เขาโกรธเพราะเขาทำลายความเท่ด้วยความอับอาย ซึ่งก็คือตัวตนปัจจุบันของ Kyle

    เขาจะไม่โกหกตัวเองอีกต่อไป เขารู้สึกใหญ่กว่าชีวิตแล้วก็เติมพลังงานลงไปยังบาเรียที่คอยแยกฝาแฝดกับพวกผู้ชายที่อยู่ในซอย

    “ทั้งสองคน! รีบหนีออกไ-!”

    “อย่าปล่อยให้พวกนั้นหนีไปได้! ทำลายบาเรียนั่นแล้วก็เอาตัวเจ้าหญิงนั่นมาให้ได้!”

    “《ลม・จงสร้างคมอากาศเข้าไปตัดผ่านศัตรูข้า》!”

    “《น้ำ・จงยิงกระสุนผ่านศัตรูข้า》!”

    “《ไฟนรก・จงเผาศัตรูข้าให้เป็นถ่าน》!”

    “《ดิน・จงสร้างหอกไปแทงศัตรูข้า》!”

    “《สายฟ้า・จงผ่าศัตรูข้า》!”

    เวทมนตร์ทั้งห้าที่แตกต่างกันถูกปล่อยไปยังบาเรียอย่างรุนแรง

    “อั้ก อึก… อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!!”

    การต้านทานเวทแบบนั้น Asterios น่าจะขัดขวางได้ยากนิดหน่อย บาเรียของ Kyle นั้นเกือบจะพังทลายลงมาแล้ว

    เขาได้เติมพลังเวทลงไปทั้งหมดเท่าที่จะซ่อมได้ แต่กับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้มันไม่น่าจะทันในอีกสิบวินาทีสุดท้าย

    (ด้วยสิ่งที่มันเกิดขึ้นแบบนี้แล้วก็ไม่มีใครเข้ามาดูด้วย…!? พวกนั้นใช้อะไรที่มันเป็น《Silent Field》ขั้นสูงหรือ…!?)

    ถ้ามีคนเข้ามาสืบสวนตอนที่ฝาแฝดได้ตะโกนร้องออกมาล่ะก็ มันน่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากได้ ถ้าหากไม่แน่ใจพอล่ะก็ ใช้เวทปิดเสียงเพื่อกั้นไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไปยังนอกซอย พวกนี้มันต้องมีอะไรที่สมบูรณ์แหงะ Kyle ที่เข้าใจได้ดีต้องขอบคุณสัญชาตญาณเลย แต่โดยที่ไม่อาจจะมีเวลามาวิเคราะห์สถานการณ์ใดๆได้อีกต่อไปแล้ว เขาหันคอมาตะโกนบอกให้ทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา

    “หนีไปหาคุณ Shirley เลย! เร็วเข้า!!”

    ไม่ว่าเขาจะเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็จะอยู่ในฝั่งของ Shirley ตลอด

    ในทางนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทำได้ก็คือคอยสะกัดกั้นพวกศัตรูเพื่อให้ทั้งสองคนหนีไปได้

    “เอิ่ม อ๊ะ หม่าม้าได้… ใช่แล้ว! Tio ใช้อันนั้นเลย!”

    “อืม….! เข้าใจล่ะ…!”

    ขณะที่ Kyle หันความสนใจกลับมายังบาเรียอยู่นั้น Sophie กับ Tio ก็เอานาฬิกาพกออกมาจากกระเป๋าของพวกเธอ

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”

    ในเวลาเดียวกัน บาเรียของ Kyle ก็แตกกระจุยแล้วเวทมนตร์ทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่ตัวเขาในคราวเดียวกัน แล้วก็เหยียบย่ำตัวเขาทันทีที่ร่วงลงไปนอน อัศวินคนหนึ่งได้วิ่งเข้าไปหาพวกเธอและขณะที่มันกำลังจะเอื้อมมือเข้าไปหาตัวเธอนั้น Tio ก็กดเม็ดมะยมที่อยู่บนนาฬิกาพก

    “หายไปซะ”

    ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงผมขาวก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกผู้ชายราวกับจะอัญเชิญจากกลีบเมฆ ขณะที่พวกนั้นต่างก็ตกตะลึงที่จู่ๆก็มีปีศาจปรากฏตัวต่อหน้าพวกมัน… Shirley ดูเหมือนจะพุ่งเข้าไปหาโดยทันทีทันใด

    “…เอ๋?”

    Rudolph ถึงกับอึ้งที่จู่ๆเธอก็ปรากฏตัวออกมาและก็สับสนยิ่งกว่านั้นเมื่ออัศวินทั้งห้าคนก็หายวับไปจากสายตา

    สิ่งที่เขาได้ยินถัดมาก็คือเสียงที่ดังเปรี้ยงที่ตามมาหลังจากนั้น เขาได้ยินอะไรสักอย่างที่ร่วงตกกระแทกอย่างแรงบนกระเบื้องหลังคาที่อยู่เหนือมัน

    มองไปยัง Shirley เขาก็เห็นฝักดาบที่จับในมือเธอเอาไว้ Rudolph ไม่อาจจะคิดได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ Kyle ที่เริ่มหัดใช้ความเร็วของ Shirley จากการฝึกนั้นเข้าใจ

    (เธอจัดการกับพวกนั้นด้วยฝักดาบของเธอ… เร็วยิ่งกว่าเสียงเสียอีก…!)

    เป็นความเร็วระดับเทพเลยล่ะ หลังจากจัดการโจมตีเฉพาะแบบแล้ว Shirley ก็หันกลับมาแล้วก็ย่อเข่าลงต่อหน้าลูกสาวด้วยสีหน้าของแม่ที่เป็นห่วง

    “Sophie, Tio ไม่เป็นไรนะ?”

    “อืออ… ม-หม่าม้า!”

    “…อืออ!”

    พวกเธอมีความกล้าหาญที่ไม่น่าเชื่อสำหรับเด็กหญิงวัยสิบขวบ แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ยังเป็นบาดแผลในใจได้ ขณะที่พวกเธอพยายามที่จะกลั้นน้ำตาที่อยู่ในดวงตาสีแดงและสีน้ำเงินนั้น พวกเธอก็เข้าไปกอดแม่เอาไว้แน่น แล้ว Shirley ก็ได้ลูบหลังพวกเธออย่างอ่อนโยน

    “อ๊ะ… โอ้… ถ้าหากว่านั่นไม่ใช่ท่าน Shirley หรือขอรับ!? กระผม Rudolph ผู้เป็นเกียรติที่ได้รับใช้ท่านเมื่อนานมาแล้ว! จะว่าไป พวกอัศวินที่ติดตามกระผมไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะขอรับ…?”

    แต่ก็ยังมีอยู่คนหนึ่งที่อ่านสถานการณ์ไม่ออก Shirley ลุกขึ้นและก็ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองไปยัง Rudolph เลย ขณะที่เธอได้มองลงไปขอโทษ Kyle ที่นอนอยู่บนพื้น

    “ขอโทษนะ… นั่นนายได้ตามมาด้วยหรือ”

    “โอ๊ยๆๆๆ ผม… ผมยังสบายดีอยู่จริงๆ แต่…”

    “นายไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นแหละ… ฉันรู้ว่าฉันได้บังคับนายไป แต่นายช่วยดูลูกสาวฉันสักพักหน่อยได้มั้ย?”

    ขณะที่ Kyle พยายามจะลุกขึ้นอย่างช้าๆ Shirley ก็เดินผ่านเขาและก็ชักดาบที่ทรงพลังที่สุดที่เธอมีจากกล่องเครื่องมือของผู้กล้า

    ดาบสีน้ำเงินที่สลักด้วยสัญลักษณ์ของราชาสัตว์ป่า 《ฐานที่มั่นสีน้ำเงินแห่งชาติ》Ig-Alima กับดาบสีแดงที่มีสัญลักษณ์ของราชาแห่งวิหค 《ป้อมปราการแดงแห่งความศรัทธา》Sul-Sagana

    ดาบสองเล่มนั้นที่เป็นสัญลักษณ์ของดาบอสูรสีขาวเนื่องจากเธอได้ปกป้องเมืองจากราชามังกร ส่องแสงอย่างรุนแรงยิ่งกว่าที่เคยมีก่อนหน้านั้น

    “ฉันมี… คำถามบางอย่าง… ที่จะถามไอ้หมอนี่สักหน่อย…!”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×