ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #33 : การพบปะกับราชวงศ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.08K
      210
      27 พ.ค. 63

    ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในบริเวณนอกตัวเมืองของราชอาณาจักร

    ใช้กล้องส่องทางไกล ชายคนนั้นมองไปยังเมืองของผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งได้ช่วยเขาไว้ตอนที่เขาเคยอาศัยอยู่ แต่บุญคุณที่เขามีก็ได้เปลี่ยนไปเป็นหลังมือก่อนที่จะเจอกับเรื่องเลวร้ายกับตัวเธอ

    ผู้หญิงที่งดงามเช่นนั้น เขาอาจจะไม่ได้เห็นเธออีกไปตลอดชีวิต ผมขาวดั่งหิมะ สองตาที่ประกายเหมือนอัญมณีและมีร่างกายอันมหัศจรรย์ เขายอมรับได้ทั้งหมด

    ถึงแม้ว่าความรู้สึกแท้จริงของเขาจะไม่เคยเจอมาก่อน มันก็เป็นเพียงแค่ความสุขในชีวิตเขาที่ได้รับใช้ผู้หญิงเช่นนี้

    นานแค่ไหนแล้ว? ที่เขาเก็บความรู้สึกต่อผู้มีบุญคุณของเขาถึงแม้เธอจะไม่สนใจมานานแค่ไหนกัน?

    อุดมคติของเธอที่เขายึดมั่นก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อถูกกล่าวหาว่าทำร้ายน้องสาวที่นำพาแสงสว่างมาให้ ในตอนนั้นเขาก็ไม่อาจจะได้เห็นเธอในทางที่เขามีมาก่อน

    เมื่อเธอได้หลบหนีออกจากห้องขังในเวลาต่อมา เขาก็กลายเป็นหนึ่งในคนแรกที่เข้าร่วมกลุ่มค้นหา เขาตัดสินใจที่จะตามจับเธอแล้วก็จบทุกอย่าง แต่ถึงเขาจะมีตั้งใจที่แน่วแน่ก็ตาม ก็ตามหาเธอไม่พบและในที่สุดก็เลิกค้นหา

    “ตอนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดซึ่งเป็นความเข้าใจผิด ข้าก็ตกอยู่ในความสิ้นหวังเลย”

    นั่นต้องเป็นความเข้าใจผิดขนานใหญ่เลยล่ะ ทั้งเธอและน้องสาวของเธอต่างก็เป็นเหยื่อทั้งคู่ ปล่อยให้อยู่ในชะตากรรมอันโหดร้าย เขาเริ่มรังเกียจตัวเองที่สูญเสียความเชื่อใจเธอไป แต่โชคดีที่เธอยังมีชีวิตอยู่

    ถ้าเขาได้ทำตามคำสั่งจากราชาคนปัจจุบัน เธอก็น่าจะปรากฏตัวต่อหน้าเขา เขาอาจจะได้กลับมาอยู่เคียงข้างเธออีกครั้ง

    เขาต้องแก้ความเข้าใจผิดทั้งหมดแล้วจะได้อยู่ด้วยกันสองคนในห้วงรัก นั่นเป็นความหวังที่เหลือของชายคนนั้น

    “กรุณารออีกสักหน่อยนะ ท่าน Shirley ข้าจะไปหาเธอเร็วๆนี้แหละ”

    ในขณะที่ยึดมั่นความปรารถนาส่วนตัวในหัวใจ ชายคนนั้นก็จ้องไปยังอาคารที่มีเด็กจำนวนหนึ่งที่เล่นกันอยู่บนสนามหญ้า


    ในช่วงสิ้นเดือน ตอนบ่ายของฤดูใบไม้ผลิ Shirley มองเห็นท้องฟ้าปลอดโปร่งและเสียงจักจั่นกรีดร้องผ่านหน้าต่างของกิลด์นักผจญภัยในห้องต้อนรับที่เปิดเอาไว้

    ตามที่ Canary บอก มีบุคคลระดับสูงสี่คนที่เข้ามาเยี่ยมเธอ อย่างที่คาดไว้เลย เธอได้ยินเรื่องของเวทมนตร์ระบุตัวตนผู้ร่ายจาก Grania และก็คุยถึงเรื่อง Sophie กับ Tio ด้วย

    “………..”

    “…คุณ Shirley คะ จะเอาน้ำชาสักหน่อยมั้ยคะ?”

    “ไม่ล่ะ ขอบคุณ”

    “ข-เข้าใจแล้ว…”

    แย่จริงๆ ความรู้สึกนั้นเติมเข้าในใจ Yumina

    ความกดดันอย่างรุนแรงไหลมาจากตัวนักดาบหญิงที่มาถึงเมื่อ 15 นาทีก่อนที่จะถึงเวลานัดพบที่มาอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้โกรธอะไรออกมา เธอทราบว่าเธอกำลังจะไปพบกับราชวงศ์ สายเลือดของคนที่ Shirley ไม่ได้คิดว่าชอบสักเท่าไรนักโดยพิจารณาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอ

    โดยเฉพาะตอนที่เธอต้องมาคิดถึงคนที่คุ้นเคยก่อนหน้าที่อยู่ในจักรวรรดินั้นแหละ

    โดยปกติ จดหมายใดๆที่เธอได้รับจาก Yumina มักจะมาด้วยความโชคร้ายตลอด แต่เนื่องจากสิ่งนี้ถูกจัดโดย Canary เธอก็เลยยิ่งไม่ไว้วางใจมากกว่าปกติ

    “โห? มาถึงแล้วสินะ”

    ‘ช่วยโผล่มาเร็วๆสักทีเถอะ ยาย’ เป็นอะไรที่ Yumina ภาวนาเอาไว้ในใจลึกๆ ราวกับจะอ่านใจของเธอได้ Canary ก็ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับผมสีทองที่ปลิวหลังเธอ

    “เห็นแล้วเป็นไงบ้าง… นั่นคือสิ่งที่พวกหนุ่มสาวเค้าว่ากันแบบนั้นใช่มั้ย? ดูดีเลยล่ะ”

    “นั่นก็ดีพอเลยล่ะ เธอดูแย่กว่าจากที่สวมเสียอีก”

    “เธอว่างั้นหรือ? ถ้าฉันยังไม่ดีสุดๆจริง งั้นก็คงจะเป็นอวสานของโลกแล้วล่ะ”

    ขณะที่ Canary พูดด้วยน้ำเสียงอย่างมีเลศนัยนั้น Yumina กับ Shirley ก็จ้องมาด้วยสายตาเย็นชา

    ( (ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นโลกวิมานที่เอาแต่อยู่ติดเตียงไปตลอดหรือ?) )

    การสร้างเรื่องร้ายๆของ Canary ยังคงเสมอต้นเสมอปลายตลอด ทั้งสองต่างก็ได้ยินเรื่องนั้นเมื่อสามอาทิตย์ก่อน หลังจากที่ถูกพระคาร์ดินัลจากเทพศักดิ์สิทธิ์เหยียดหยามเข้าไป เธอก็ทำลายคฤหาสน์ที่เขาเก็บของหรูๆทั้งหมดและทำลายหน้าต่างกระจกสีของโบสถ์แตกออกเป็นเสี่ยงๆนับพันชิ้นเลย

    ยิ่งกว่านั้น พวกนั้นไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีการอะไร แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เทพศักดิ์สิทธิ์กลับไม่ได้ตราหน้าอาชญากรกับตัว Canary เลย มีการขู่บังคับเบื้องหลังด้วยหรือ…? ไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม เธอก็หนีไปทั้งอย่างนั้น

    “น่าๆ อย่ามองฉันแบบนั้นสิ”

    “เข้าใจล่ะ โดยส่วนตัวเลย ข้าสนุกที่ได้ยินเรื่องราวที่นอกลู่นอกทางของ Canary อยู่แล้ว มันก็เป็นนิยายทั้งนั้นแหละ”

    ผู้ที่ตามหลัง Canary ที่เป็นคนที่มีความสำคัญของชีวิตเขา ด้วยหน้าตาหล่อเหลาอันสง่าสงามอย่างลึกลับที่มีผมและหนวดเคราสีดำที่ดกพอๆกับแผงคอของสิงโต ด้านหลังเขาก็มีผู้หญิงที่มีเส้นผมสีเงินที่ไม่ได้บดบังรัศมีของเขาไปทั้งหมด

    หลังของ Yumina ถึงกับยืดตรงแข็งทื่อขณะที่เธอเห็นเขาส่วน Shirley ก็ลุกขึ้นจากโซฟา แต่เธอก็ถูกโบกมือเรียกโดยมือของผู้ชาย

    “ไม่เป็นไร ข้ามาที่นี่อย่างลับๆในวันหยุดนะ เจ้าไม่ต้องยืนเป็นพิธีก็ได้ ข้าก็แค่เป็นแขกเองแหละ”

    “ใช่แล้วค่ะ ยิ่งกว่านั้น ฉันยินดีที่ได้รู้จักกับเธอนะ คุณผู้กล้าแห่งราชอาณาจักรของเรา”

    พวกที่มาที่นี่ก็มาในฐานะพลเมืองธรรมดาเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากที่จะทำให้มันเอิกเกริกมากนัก หลังจากที่อธิบายให้กับ Shirley ไป ราชาและราชินีของประเทศ Edward กับ Alicia Pendragon ก็นั่งบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับเธอแล้วก็ยิ้ม

    “Yumina นี่เป็นเรื่องอ่อนไหวที่จะคุยกันนะ”

    “อ๊ะ… งั้นฉันจะขอตัวไปล่ะนะ”

    Canary กระซิบไปยังหู Yumina ส่วน Shirley ก็รอจนกระทั่งเธอออกจากห้องไปก่อนที่จะพูดขึ้นมา

    “นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่อยากให้คนอื่นได้ยินหรือ?”

    “ก็ว่างั้นแหละ”

    การพัวพันกับจักรวรรดิเริ่มปรากฏต่อราชวงศ์อย่างเห็นได้ชัด การสนทนากันตรงนี้น่าจะเป็นเรื่องต่อความมั่นคงของชาติ ก็ยังดีกว่าที่จะมีบางคนที่จะได้ยินด้วย ด้วยเหตุนี้เองที่ทำไม Yumina จึงขอออกจากห้องไป

    “…น่า มันก็เห็นแก่เวลานะ ข้าได้ยินเกี่ยวกับความกล้าหาญของเจ้า เจ้าได้ส่งมอบเราจากที่สังหารมาตอนที่เจ้าจัดการกับราชามังกรไป ในฐานะทั้งกษัตริย์และประชาชน ข้าขอยกย่องเชิดชูจนชีวิตก็หาไม่”

    “ฉันได้รับความกรุณาจนมากเกินพอแล้ว ที่จริง… ฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะมีโอกาสที่จะพบท่านอีกครั้งตอนที่มานะ”

    “…ใช่แล้วล่ะ ข้ายอมรับว่าข้าเองก็ไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งเลยนะ”

    ตั้งแต่ทุกคนรู้ถึงการกระทำของ Shirley ต่างก็พูดกันต่อๆกันมา

    “ฉันยินดีที่ได้เห็นท่านฝ่าบาทยังคงแข็งแรงดี มันก็นานมากแล้วตั้งแต่การเจอกันครั้งสุดท้ายนะคะ”

    “ข้าดีใจที่ได้เห็นเจ้าด้วย ข้าได้ยินจาก Canary ว่าเจ้าเริ่มที่จะกลายเป็นกึ่งอมตะตั้งแต่ที่เราพบกันครั้งสุดท้าย และเหมือนกับว่าเจ้าไม่มีอายุเลย… นอกจากนี้ เจ้าก็ยังเริ่มสวยงามกว่าเดิมอีก”

    จากเริ่มต้น Shirley ก็ไม่เคยแสดงท่าทางดีๆโดยที่ไม่พูดอะไรเลย ถึงเธอจะยังคอยระมัดระวังอยู่กับตัว ราชากับราชินีต่างก็ดีใจที่ได้กลับมาพบกันอย่างมีความสุขที่ไร้กังวล

    “ฉันยังจำได้อยู่ ตอนที่ข้าไปเยี่ยมจักรวรรดินั้น จักรพรรดินี Elizabeth และตัวเจ้ามักจะคอยจัดเตรียมปาร์ตี้น้ำชาเลยนะ”

    “เห… คุๆๆ ความคิดของ Shirley นี่น่าสนใจดี งั้นก็ขอร่วมปาร์ตี้น้ำชาที่แสนจะเฮฮ-แอ้ก!?”

    เปรี้ยง! เสียงที่ดังลั่นนั้น เป็นเสียงที่ซัดเข้าไปยังท้ายทอยของ Canary

    Shirley รู้ว่าเธอสร้างภาพของดาบอสูรที่ปล่อยเบื้องหลังทิ้งไว้โดยไม่มีอะไรนอกจากหมอกแดงบนสหรภูมิที่เธอต่อสู้ ด้วยวันของปาร์ตี้น้ำชาอันรื่นเริงในอดีตที่ผ่านมานาน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอก็ยังเจอเสียงหัวเราะที่กวนประสาทของ Canary อยู่

    “ไม่ใช่เรื่องที่น่าหัวเราะเลย Canary ถ้าเอาเธอมาตกแต่งให้ละเอียดยิบอีกครั้ง เธอจะไม่ต้องมาระวังตัวในงานรื่นเริงใดๆแม้แต่วันนี้เลยหรือ?”

    “ใช่แล้วล่ะ แล้วเธอจะเข้าร่วมปาร์ตี้น้ำชาของฉันมั้ย? ฉันว่าน่าจะสนุกดีนะถ้าเธอได้เข้าร่วมด้วยนะ”

    “ไม่ล่ะ… เพราะสภาพของฉัน ฉันขอปฏิเสธล่ะกัน”

    Alicia เข้าใจและก็ยอมเก็บข้อเสนอเข้ากรุด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่า Shirley จะเปลี่ยนไปมาก ราชินีก็ยังคงทำตัวเหมือนกับที่เธอทำในวันเก่าๆ

    นึกย้อนกลับไป คู่รักคู่นี้ค่อนข้างยากที่จะจับคุยกัน เธอมักจะฝืนรักษาระยะห่างตามความเหมาะสมเพาะพวกนั้นทำดีกับเธอยังไง

    ราชินีก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ แต่มันค่อนข้างยากที่จะติดต่อกับราชวงศ์ที่เชิญคนธรรมดามาร่วมปาร์ตี้น้ำชากับสังคมชั้นสูงเอาดื้อๆแบบนี้ ขอบอกตรงๆเลยว่าเธอนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

    ยิ่งกว่านั้น ถึงแม้ว่า Edward จะสุขุมและก็มีอายุก็ตาม ทำไมเวลารอบๆ Alicia คนเดียวถึงได้แช่เอาไว้ล่ะ?

    เธอน่าจะมีอายุอย่างน้อยก็สักสี่สิบปีแล้ว แต่กลับดูเหมือนอย่างกับยี่สิบ มันแปลกเกินไป ต่อให้เธอใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามจาก Canary ที่ร่วงลงไปนอนหลังจากโดนซัดเข้าหลังคอจากผู้หญิงที่นั่งข้างๆเธอก็ตามเถอะ

    “แล้วอีกสองคนล่ะ? ยังไม่มาหรือ?”

    เธอรู้สึกว่าจะไม่ได้เปลี่ยนเรื่องสักเท่าไรเลย เธอไม่น่าจะหยุดตัวเองหลังจากที่ถามความลับของราชินีได้เลย นี่ก็อีก 5 ก็จะบ่ายสองแล้ว ใกล้จะถึงเวลาที่นัดหมายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณว่าทั้งสองจะมาถึงเลย

    “อ๊า ขออภัยด้วย ฉันมัวแต่คุยกันเพลินไปหน่อย Canary”

    “เข้าใจแล้ว… โอย คอฉัน”

    เธอเอามือลูบหลังคอเธอด้วยนิ้ว แล้วก็ดีดนิ้วด้วยมืออีกข้าง เป็นสิ่งที่ถนัดของแม่มดสีทองเลย เวทช่องว่าง

    “ฉันน่าจะบอกเธอแล้ว แต่กรุณาอย่าได้โวยวายเมื่อได้เห็นแขกของเรานะ มันอาจจะเป็นอันตราย… ในหลายๆเหตุผลนะ”

    ขณะที่วงเวทสีทองปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง ก็มีสองสาวงามที่ดูเหมือนจะก้าวออกมาจากอากาศ ทั้งคู่ต่างก็เป็นสาววัยรุ่นที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจาก Shirley กับ Canary อัศวินผมแดงที่มีท่าทางอยากรู้อยากเห็นกับองค์หญิงผมบลอนด์กับดวงตาสีฟ้าที่ดูคุ้นๆตา

    “เธอ…”

    “…ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ ท่าน Shirley”

    เป็นองค์หญิงจักรพรรดิ Philia Ragdoll นั่นเอง เธอไม่ได้พูดชื่อเสียงดัง เหตุผลที่เธอไม่ได้ชักดาบไม่ใช่คุมตัวเอง แต่เป็นเพราะเธอยังช็อคอยู่



    ขณะที่ Sophie กับ Tio ที่ตกอยู่ในการคุกคามลักพาตัวจากจักรวรรดินั้น คนของราชวงศ์ก็ปรากฏออกมาต่อหน้าเธอทันที มันน่าจะแปลกถ้าเธอไม่ช็อค

    “…ฉันว่าอยากเธอก็น่าจะได้ยินที่ฉันพูดนะ”

    พยายามระงับความรู้สึกที่คิดถึงและความรู้สึกแย่ๆที่หลังไหลออกมาตอนที่เธอมอง Shirley ไป Philia ก็นั่งบนที่นั่งที่เตรียมไว้ให้เธอโดยมี Lumiliana ยืนอยู่ข้างหลัง

    “เอาตรงๆนะ ฉันรู้ว่าฉันเกลียดที่จะตอบไป แต่… ทำไมลูกสาวฉันถึงต้องตกเป็นเป้าหมายโดยจอมเวทจักรพรรดิด้วยล่ะ?”

    สีหน้าของ Philia ดูท่าจะเศร้าขณะที่ Shirley ชำเลืองมองเธอ แต่เธอก็รวบรวมความกล้าและก็ตอบอย่างหนักแน่น

    “เอาตรงๆเลยนะ ท่านฝ่าบาทจักรพรรดิ Albert Ragdoll รู้ว่ามีลูกสาวของเขาอยู่จึงได้วางแผนที่จะพากลับไปยังจักรวรรดิเพื่อสร้างรัชทายาทนะ”

    “…ทำไมเขาถึงต้องทำแบบนั้นล่ะ? จากมุมมองของจักรวรรดิแล้ว มันไม่แปลกไปหน่อยหรือสำหรับลูกของอาชญากรที่จะมาเป็นผู้สืบทอดบัลลงก์จักรพรรดิน่ะ?”

    ขณะที่ Shirley ซึ่งได้พาดพิงตัวเองว่าเป็นอาชญากรไปแล้ว น้ำตาก็ไหลออกมาจากตา Philia มาสักพักหนึ่ง แต่เธอก็กระพริบตากลับแล้วก็มองไปยังดวงตาที่สีแตกต่างกันที่อยู่หน้าเธอ

    “ตามที่ยืนยันมา จักรพรรดิมีลูกสองคนเท่านั้น ยัยนั่น… หมายถึงจักรพรรดินี Alice อยู่ในสภาพที่ไม่อาจตั้งครรภ์ได้นะ”

    “Alice… งั้นยัยนั่นก็เป็นจักรพรรดินีไปแล้วสินะ?”

    เธอจำน้องสาวที่ทำให้แต่ละวันของเธออยู่เยี่ยงนรกได้ เมื่อคราวที่ Shirley เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองและกิลด์ ความสัมพันธ์ระหว่างจักรวรรดิกับราชอาณาจักรก็ได้บิดเบี้ยวจนนำไปสู่การขาดแคลนการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการค้าระหว่างสองประเทศนี้ แต่ Shirley ก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไรที่ Alice ได้แต่งงานกับ Albert

    “เขาไปมีอะไรกับพวกผู้หญิงชั้นสูงคนอื่นไม่ได้หรือไง? ถึงแม้จะเป็นแค่นางสนม มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาตราบที่เธอจะอุ้มครรภ์ให้เป็นรัชทายาทได้ ใช่มั้ยล่ะ?”

    “นั่นก็… ถึงจะเอาเรื่องนั้นมาให้จักรพรรดิ เขาก็ไม่ฟังและก็ยังประกาศว่าเขารัก Alice อย่างจริงใจ ถึงขนาดปฏิเสธที่จะนอนกับผู้หญิงคนอื่นเลยนะ”

    นี่เขาพูดถึงแต่รักที่จริงใจและภักดีหลังจากที่นอกใจคู่หมั้นของตัวเองไปอยู่กับน้องสาวเนี่ยนะ? นอกจาก Canary แล้ว ทุกคนต่างก็ทำท่าพูดอะไรไม่ออกเลย Philia ยังคงรู้สึกแย่ในใจต่อไป

    “พอเขารู้ว่ามีลูกของเธออยู่ เขาก็ตัดสินใจเอาพวกเธอมาเพื่อลบล้างคำนินทาให้กับจักรพรรดินี Alice”

    “…เพื่อเรื่องบ้าๆแล้ว เขาถึงได้ขโมยลูกสาวที่เป็นอนาคตของฉันเนี่ยนะ?”

    เสียงที่ต่ำจนดูเหมือนจะดังจากก้นเหวลึกสุดกู่ Philia ถึงกับสะดุ้งส่วน Lumiliana ก็เริ่มที่จะชักดาบออกมาแต่ก็ถูกหยุดตอนที่ Edward ยกแขนขึ้นมา

    “ข้าขอรับประกันว่าคำพูดของเธอนั่นเป็นความจริง แน่นอนว่าข้าได้รับคำพูดจากแหล่งที่มาในจักรวรรดิเองเลยล่ะ ยิ่งกว่านั้น ตัวประเทศเองก็ตกอยู่ในความตึงเครียดสุดขีดจนไม่มีซอกไหนเลย ต้องขอบคุณกับตัวจักรพรรดินีนั่นเลยนะ”

    “นั่นก็ไม่น่าแปลกเท่าไรที่มันจะเกิดขึ้นนะ ทำไมเธอถึงได้มายังที่นี่ล่ะ…? เว้นแต่จะมีอะไรที่เธอตอบไม่ได้หรือ”

    เอาตรงๆเลย Shirley ก็ไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไรนัก สิ่งเดียวที่มันเกิดขึ้นกับเธอก็คือคนที่อยู่ต่อหน้าเธอตั้งใจจะทำยังไงกับข้อมูลนี้ต่างหากล่ะ

    “ฉัน… ฉันจะกลับไปยังเมืองหลวงและก็ไปเกลี้ยกล่อมให้ฝ่าบาทหยุดเอง อาชญากรรมไม่อาจที่จะหยุดได้ แต่อย่างน้อยฉันก็หวังว่าจะหยุดเขาก่อนที่มันจะสายเกินไป”

    “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงว่าลูกสาวของเจ้าจะเข้าไปพัวพันเป็นเครื่องมือทางการเมืองสินะ แต่ข้าก็ไม่ได้กะจะไปยุ่งกับธุระครอบครัวของคนที่ทำเพื่อประเทศชาติมากนักหรอก กรุณาสงบตัวเอาไว้”

    ก็อย่างที่เขาว่านั่นแหละ แต่เป็นในฝั่งของ Edward นะ Shirley ไม่ได้เชื่อใจ Philia ง่ายๆ เนื่องจากเขามีความใกล้ชิดกับ Canary และมันก็เป็นคำพูดของเธอในที่ประชุมนี้ถูกตัดสินว่าเขานั้นเหมือนจะบอกความจริงไป แต่กับจักรวรรดิแล้ว… เธอก็ไม่ได้จะเชื่อใจพวกราชวงศ์สักเท่าไรนัก

    “ฉันไม่ได้ถือตัวที่จะคิดว่าจะโน้มน้าวใจเธอในวันนี้ได้หรอกนะ แต่ฉันได้หวังว่าจะบอกไว้อีกอย่างหนึ่ง”

    ไม่ว่าเธอจะรู้หรือไม่ว่าสายตาของ Shirley จะมองด้วยความสงสัยยังไง องค์หญิงก็พูดไปอย่างชัดเจนโดยไม่มองไปทางอื่น

    “มันเผยให้เห็นถึงความไม่เอาไหนของบ้านนี้ แต่ถึงแม้ว่าพี่ชายอาจจะโง่เขลาก็จริง ยัยจักรพรรดินีนั่นแหละคือปรสิตตัวจริงที่สูบเลือดสูบเนื้อของประเทศนะ”

    “โหๆ พูดออกมาได้อย่างโจ่งแจ้งเลยนะเนี่ย”

    Canary ร้องอย่างเบิกบาน สำหรับ Shirley แล้ว การมองผู้หญิงที่เธอเห็นครั้งสุดท้ายตอนที่เธอเป็นเด็กสาวที่ประณามครอบครัวเธอแบบนั้นทำให้ความรู้สึกแปลกๆหลั่งไหลเข้าในใจเธอ

    “ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ได้ตัดสินใจด้วยวิธีใดก็ตาม ฉันจะรวบรวมหาหลักฐานที่จ้างจอมเวทมา บางทีอาจจะเป็นไปได้ที่สอบปากคำตัวผู้ร่ายและทำให้พวกนั้นสารภาพออกมา แต่ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยดูแลให้ดีๆด้วย”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×