ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : วันหยุดของสามแม่ลูก - ส่วนที่ 2
สายตาของผู้ใช้บริการของกิลด์ผจญภัยถึงกับเบิกกว้างเมื่อพวกเขาเห็นแม่กับลูกสาวสองคนเดินผ่านประตู
มีเพียงแต่นักผจญภัยที่อยู่ในเรือนทาโอเร่เท่านั้นที่ตาไม่ได้โถลนออกมาด้วย ทุกคนต่างก็หันหัวและยืดคอมามองดูครอบครัวที่มีผมขาวนวลดั่งหิมะอันโดดเด่น
“เฮ้ย อสูรดาบนั่นมีน้องสาวด้วยหรือ?”
“ไม่หรอก ฉันได้ยินมาว่า จริงๆแล้วเป็นลูกสาวของหล่อนนะ”
“ดูคล้ายคลึงเลยนะเนี่ย… จะว่าไป นอกจากภายนอกแล้ว ไม่ใช่ว่าเธออ่อนเกินไปที่จะมีลูกสาวอายุเท่านี้หรือ?”
แวบแรก ครอบครัวนี้ดูเหมือนกับพี่สาวน้องสาว ส่วนนักผจญภัยก็จ้องมองพวกเธอขณะที่พวกเธอกำลังหาทางไปยังที่กระดานคำร้อง
ไม่เหมือนกับ Shirley ที่ดูเหมือนจะไม่สนใจโดยสิ้นเชิง Sophie กับ Tio ไม่ได้มายังตรงนี้และก็ดูเหมือนจะกระวนกระวายที่ตกเป็นเป้าสายตามาก
“พวกเขากำลังมองเราอยู่…”
“อูว… นี่เป็นครั้งแรกในกิลด์เลย เขาไม่อนุญาตให้เด็กเข้ามาหรือ…?”
นั่นก็ไม่จริงเสมอไป พวกนั้นเขาเห็นมาตั้งหลายครั้งแล้วตอนที่พวกเธอยังเป็นทารก แต่ในตอนนี้เด็กสาวสองคนนั้นต่างก็รู้สึกถึงสัมผัสที่ครอบคลุมโดยฝีเท้าและฝีเท้าของกิลด์นั้นแตกต่างจากของเรือนทาโอเร่
แต่สองคนนั้นต้องการที่จะเป็นนักผจญภัยอย่างลับๆ พวกเธอจึงพยายามที่จะไม่สนใจสายตาของพวกนั้นแล้วก็ทำท่ากล้าหาญ
“แม่คะ นี่อะไรหรือ?”
“กระดานคำร้องนะ… เป็นกระดานที่แสดงถึงรายละเอียดของคำร้องทั้งหมดที่ส่งมายังกิลด์นะ วันนี้แม่หวังว่าจะเจอคำร้องดีๆที่จะทำในวันพรุ่งนี้นะ”
เมื่อนักผจญภัยรับคำร้องมา พวกเขาไม่จำเป็นต้องออกไปยังข้างนอกทันทีเพื่อทำให้เสร็จ ขึ้นอยู่กับกรณี อาจจะต้องเตรียมการบ้าง จึงเป็นปกติในการรับเอาคำร้องที่ต้องใช้เวลาหลายวัน
การมุ่งหน้าสังหารมังกรที่เธอจัดการไปเมื่อวันก่อนนั้นเป็นยิ่งกว่ากรณีพิเศษ นอกจากพวกโบโนโบเลวแล้ว Shirley ก็เป็นคนเดียวในเมืองชายแดนเท่านั้นที่สามารถวิเคราะห์การผจญภัยไปยังที่ซ่อนตัวของมังกรด้วยการเตรียมตัวเพียงเล็กน้อย
“หืม… ตรงนั้นมีคำร้องเยอะแยะเลย เอิ่ม… ล่ารอยยิ้มและก็สัง… สังหารกองโจรหรือ?” และก็รวบรวมขนสัตว์จากนกสีรุ้ง”
“อืม Sophie ดูสิ”
ขณะที่เธอกำลังมองหาคำร้องอันหนึ่งที่อยู่ขอบกระดานที่ไม่ไปขวางนักผจญภัยคนอื่นนั้น Tio ก็ชี้ไปยังคำร้องเก็บสมุนไพรที่ถูกมือใหม่เอาไปอยู่บ่อยๆ
“สงสัยว่าถ้าเราทำนี่ได้ล่ะ?”
“เธอพูดถูก มันก็แค่ออกไปหาพืชเอง…”
“มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ”
Shirley วัดมะเหงกหัวทั้งสองเบาๆ
“เหตุผลที่นักผจญภัยถูกขอมาให้ทำแบบนี้ก็คือมันอันตรายนะ สมุนไพรงอกอยู่นอกเมือง… ลูกคงคิดไม่ออกหรอกว่าจะมีมอนสเตอร์ประเภทไหนที่ลูกจะเจอ แม่ไม่อยากให้ลูกทั้งสองเอาอย่างแม่หรอก พูดชัดมั้ย?”
“อ-อย่าห่วงเลย! หม่าม้า เป็นห่วงมากไปแล้วนะ!”
“…ฉันไม่ออกไปทำอะไรที่มันอันตรายอย่างนั้นหรอก”
พวกเธอโกหก อันที่จริงพวกนั้นก็แค่อยากจะเป็นอย่างเธอสักวัน ถึงแม้เธอจะบอกว่าโลกภายนอกเต็มไปด้วยมอนสเตอร์อันตราย พวกนั้นก็ไม่เสียจิตใจไป
พวกนักผจญภัยหยาบช้าถึงกับหยุดซุบซิบทันทีจากความกลัวต่ออสูรดาบสีขาวที่ดูเหมือนจะแผ่รังสีที่น่ากลัวออกมา ถึงแม้ว่าแม่นักผจญภัยจะเอาคำร้องออกจากกระดานราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม
“หม่าม้า คำร้องนั่นมันอะไรหรือคะ?”
“ดูเหมือนว่าหมีจะดักซุ่มอยู่ใกล้ๆฟาร์มนะ แม่จะไปจัดการกับมันในวันพรุ่งนี้นะ”
เธอเลือกคำร้องแบบนี้เพราะเธอสามารถเสร็จได้เพียงวันเดียว ความจริงก็คือหมีนั้นจริงๆแล้วเป็นมอนสเตอร์มีเขาที่เรียกกันว่าปีศาจหมี แต่นั่นทำให้ Shirley เข้าใจไปเป็นอย่างอื่น
คิดว่าเธอน่าจะทำคำร้องได้ไวปานสายฟ้าแลบได้ถ้าเธอไปยืมเอามังกร Rangitz จากกิลด์มาขี่ เธอจึงได้เอาคำร้องนี้ไปยัง Yumina ที่แผนกต้อนรับที่จ้องมองเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง
“กวาดล้างมอนสเตอร์ที่ฟาร์ม… เธอจะทำในวันพรุ่งนี้ ฉันขอได้มั้ย?”
“มีปัญหาหรือ?”
“ก็ไม่เฉพาะหรอก ฉันไม่อยากตระหนี่เรื่องนักผจญภัยที่จะเอาคำร้องไหนหรอก แต่คำร้องที่มีรางวัลสูงกว่านี่ก็มีแล้วล่ะ”
Yumina เอียงไปหา Shirley แล้วกระซิบเข้าที่หู
“คำร้องระดับภัยพิบัติไงล่ะ… ปีศาจชั้นสูงปรากฏตัวในราชอาณาจักรแล้วล่ะ”
“โอเค”
“…ปาร์ตี้แรงค์ S ได้ส่งไปแล้ว แต่พวกเขาก็เจอเรื่องเดือดร้อนอย่างหนักเลย”
“เข้าใจแล้ว”
“…ดังนั้น ฉันจึงอยากจะขอให้คุณ Shirley นะ ถ้าหากบางทีเธอน่าจะเข้าร่วมปาร์ตี้ชั่วคราวเพื่อช่วยพวกเขาจัดการกับ…”
“ขอปฏิเสธ”
ตอบกลับมาสั้นๆโดยไม่มีเจตนามุ่งร้าย แต่ก็ไม่สนใจใยดีด้วย
“ฉันมั่นใจว่าปาร์ตี้นั่นสุดท้ายน่าจะเอาชนะได้ และฉันก็สัญญาว่าจะช่วยลูกสาวทำการบ้านวันนี้ด้วย”
“…ใช่ แต่… ฉันคิดว่านี่มันน่าจะสำคัญกว่าเอาเวลาไปใช้กับลูกสาวอีกนะ…”
พนักงานต้อนรับกลืนน้ำลายแล้วคอตก Sophie กับ Tio ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ยังรู้สึกสงสารเธอ
Yumina รู้ว่า Shirley หลงใหลลูกสาวเธออย่างหนัก แต่เธอก็เชื่อว่ามีอย่างอื่นที่น่าจะสำคัญสูงกว่าเธออยู่
“…อ๊ะ พวกหนูทั้งสองไม่อยากเห็นคุณ Shirley ทำอะไรที่มันสุดยอดจริงๆหรือ?”
“ช่วยหยุดพยายามเข้าใกล้ลูกสาวฉันได้มั้ย?”
Yumina เดาะลิ้นด้วยความแห้ว เห็นได้ชัดเลยว่าแรงกดดันต่อเธอจากที่สูงกว่าในกิลด์ยังคงหนักอยู่
“ก็นะ บางทีน่าจะเป็นโอกาสดีต่อเธอที่จะเข้าปาร์ตี้อีกครั้งนะ?”
“ฉันเติมเต็มด้วยข้อผูกพันนั่นแล้วล่ะ”
ไม่มีแม้แต่คำพูดเลือนลางที่จะให้ความหวังที่ริบหรี่พอที่จะสยบการจัดการได้เลย Yumina ถึงกับถอนหายใจอย่างหนักขณะที่เธอยอมรับชะตากรรมของคำพูดจี้ใจดำไป
ด้วยความอยากรู้ของพวกเธอ จึงไม่มีทางที่แฝดจะไม่ทำให้เกิดเสียงไม้กับดาบเหล็กปะทะกัน
ในกิลด์นั้น จะมีลานฝึกประลองด้วย ถึงแม้สิ่งอำนวยความสะดวกจะถูกสร้างบางครั้งในปีต่อมา ตอนนี้ลานฝึกก็เต็มไปด้วยนักผจญภัยฝึกหัดจากพวกมือใหม่ยันไปถึงมือเก่าในระหว่างคำร้อง
“ฮ่า!”
“หวาาาา!?”
“อะไรกัน!? นี่คุณกะจะฟันพวกเราเลยหรือ!?”
ขณะที่ Shirley พาไปเหลือบมองกับลูกสาวเธอ เธอก็เห็น Asterios กำลังนำปาร์ตี้มือใหม่ไปฝึกฝนอยู่
มิโนทอร์ไม่ปล่อยให้พวกนั้นทำได้ง่ายๆ… จัดการเหวี่ยงแล้วฟันซ้ายและขวาไปยัง Kyle กับ Cudd สองคนนั้นถึงกับบิดตัวแล้วหันไปทางนี้แล้วก็พยายามหลบการโจมตีของเขาอย่างไม่คิดชีวิตเลย
“พ-พวกเขาจะโอเคมั้ย!? เขาโจมตีด้วยขวานใหญ่เลยนะ!?”
“ไม่มีปัญหา พวกเขาไม่มีทางถูกฆ่าหรอก”
“…ชักไม่แน่ใจแล้วล่ะ…”
จากมุมมองของ Shirley การเหวี่ยงนั้นไม่เร็วพอที่จะฆ่าได้ พวกนั้นกะการโจมตีไว้… แต่สำหรับสายตามือใหม่แล้ว มันดูเหมือนกับเขาพยายามจะเข้าไปฆ่าทั้งสองคน
ต่อให้ไม่ถึงกับชีวิตหรือต้องตาย การฝึกแบบนี้น่าจะช่วยเตรียมตัวทั้งสองเมื่อต้องเผชิญหน้ากัน
มันยากที่จะพูดว่าไม่น่าจะใช่การฝึกที่จะปล่อยให้พวกเขาอยู่ได้ แต่ถ้าพวกเขาเพิ่มอะไรจากมันได้ล่ะก็ มันก็ไม่น่าจะสูญเปล่าสักเท่าไรหรอก
“ตรงนั้นนะ วางเท้าผิดแล้วนะ”
“อั้ก!?”
ดูท่าจะช้าเกินไปบนเท้าสำหรับพวกสอดแนม Cudd ถึงกับล้มคะม่ำลงกับพื้นหลังจากที่ขาขัดกันเอง และขณะที่เขากลิ้งตลบไป เข็มขัดที่ยึดกางเกงก็หลวมจนกางเกงหลุดออกมา
“ฮ่าๆๆ! เฮ้ย ไอ้บ้า! หยุดโชว์กางเกงในสักทีเซ่! ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
“แม่คะ? หนูมองอะไรไม่เห็นเลย?”
“อ-อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“ลูกไม่ควรที่จะเห็นนะ”
Leia หัวเราะจนน้ำตาแทบจะเล็ดขณะที่ชี้ไปที่ Cudd ขณะเดียวกัน Shirley ก็เอามือปิดตาของ Tio และ Sophie ขณะที่หันตาเธอออกไปจากฉากเช่นนั้นด้วย
“น่าๆ ท่าน Leia เจ้าดูเหมือนจะว่างสินะ? ทำไมถึงไม่เข้าไปร่วมด้วยล่ะ?”
“เอ๋!? ไม่นิ ฉันเป็นนักธนูนะ ฉันจึงไม่ต้องไปฝึกต่อสู้ในทัพหน้าหรอก?”
“ฮะๆๆ พูดอะไรของเจ้านะ? บางคนที่อยู่แนวหลังก็มีเหตุผลมากพอที่จะเรียนรู้คนที่ต่อสู้ในแนวหน้านะ ในศึกนั้นพวกแนวหลังก็สามารถกลายเป็นแนวหน้าได้ในพริบตานะ”
เสียงร้อง Leia ปนเสียงขรมไปทั้งลานฝึก Tio มองนักผจญภัยมือเก๋าแรงค์ A และนักผจญภัยแรงค์ E ฝึกด้วยกันและพึมพำเงียบๆ
“…ฉันเพิ่งรู้ว่ามิโนทอร์นั่นสุดยอดจริงๆ เหวี่ยงขวานได้เร็วมาก แต่หยุดได้ก่อนที่จะโดนพวกเขาอีก”
“เอ๋? จริงหรือ?”
ขณะที่ Sophie มองเธอนั้น เธอก็พยักหน้าตอบ
เธอไม่ได้ฝึกตัวเองใดๆ แต่เธอ็รู้ว่าความสามารถที่เขาเหวี่ยงอาวุธหนักอย่างขวานโดยที่ไม่ทำร้ายหน้าใหม่นั้นมันไม่ธรรมดาแค่ไหน
Shirley ช่วยไม่ได้นอกจากต้องนับถือ Tio ที่เรียนรู้ได้เยอะจากการมองในเวลาสั้นๆ
ถึงแม้ว่าลึกๆแล้ว เธอเป็นห่วงถึงเธอเข้าใจบางอย่างได้รวดเร็วที่อันตรายพอๆกับการต่อสู้
“โอ้? นี่ๆ นั่นไม่ใช่ท่าน Shirley หรือ?”
“…สวัสดี”
Asterios ที่ไม่เสียแม้แต่เหงื่อสักหยดต่างจากลูกศิษย์ที่ชุ่มกว่าสองเท่า เห็นตัว Shirley
“เด็กสาวน่ารักนี่เป็นลูกสาวเธอหรือ?”
“ใช่แล้ว ทั้งสองคน สวัสดีเขาสิ”
“ย-ยินดีที่ได้รู้จักค่า! หนูชื่อ Sophie!”
“…ฉันชื่อ Tio”
Asterios คุกเข่ามองดูทั้งสองแล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ข้าชื่อ Asterios แม่เธอกับข้าได้ออกผจญภัยร่วมกันในคราวที่แล้ว… ข้าอยากจะพูด พวกเจ้าทั้งสองโตขึ้นจริงๆ”
“หา?”
“เอิ่ม… เราเคยพบกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?”
“ใช่ ก็เมื่อสิบปีก่อน ตอนที่ท่าน Shirley เข้าร่วมกิลด์เป็นครั้งแรกนั่นแหละ…”
ถึงแม้พวกเธอจะจำไม่ได้ว่าเคยพบเขา ดอกไม้ก็ดูท่าจะเบ่งบานไม่เหมือนกลับมาพบกัน ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่เข้ากันอย่างแรงระหว่างมิโนทอร์ที่มีกล้ามมัดบึกบึนสูงใหญ่ที่ยิ้มให้กับเด็กสาวผู้งดงามทั้งสองก็ตาม
“จะว่าไปแล้ว ท่าน Shirley นี่ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยล่ะ ทำไมเธอถึงไม่เข้าร่วมฝึกด้วยล่ะ? เด็กพวกนี้จะได้เรียนรู้นิสัยแปลกๆถ้าพวกเขาฝึกกับข้าอย่างเดียวนะ”
เธอมองไปยัง Kyle ที่ตาเหลือกขณะที่เขาส่ายหัวอย่างแรง
“ไม่หรอก ฉัน…”
เธออยากจะบอกว่าเธอกำลังใช้เวลาอยู่กับลูกสาว แต่กลับพูดไม่ออก
เธอรู้สึกถูกจ้องจากด้านล่าง แล้วเธอก็มองลงไปเห็นสีหน้าตื่นเต้นของลูกสาวที่แสนรักทำตาประกายราวกับพวกเธอตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง
Shirley ถอนหายใจออกมาบอกกับตัวเองว่าไม่มีทางเลือกแล้ว แล้วดาบสองเล่มก็ปรากฏอยู่ในมือเธอเป็นคำตอบให้ Asterios
เธอรู้ว่าเธอควรจะปล่อยผ่านให้พวกเขาไปง่ายๆเนื่องจากเป็นแค่การฝึก แต่เนื่องจากเธออยากให้ดูดีต่อหน้าลูกสาว เธอจึงได้พยายามให้หนักกว่าที่เธอควรจะทำ
หลังจากนั้น เสียงร้องของหน้าใหม่ก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า แต่เรื่องแบบนั้นก็คงจะไม่ต้องเล่าถึงมันหรอกนะ
ในวันที่สงบสุข… ถึงแม้ Shirley จะรับคำร้องไปแล้ว สำหรับส่วนใหญ่เธออยู่อย่างเงียบๆ
ในเวลาเดียวกัน Sophie กับ Tio ก็ได้รับแจ้งเกี่ยวกับเทศกาลที่อาจจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
สำหรับครั้งแรกในสามปีของโรงเรียน ผู้ใหญ่น่าจะได้เห็นลูกของพวกเขาในวันที่ส่งไปโรงเรียนครั้งแรก… วันที่เด็กๆน่าจะตั้งใจจดจ่ออย่างหนักเพราะความตึงเครียด… เทศกาลสุดแสนจะมืดมนที่เรียกว่าวันเยี่ยมโรงเรียนของเหล่าผู้ปกครอง
มีเพียงแต่นักผจญภัยที่อยู่ในเรือนทาโอเร่เท่านั้นที่ตาไม่ได้โถลนออกมาด้วย ทุกคนต่างก็หันหัวและยืดคอมามองดูครอบครัวที่มีผมขาวนวลดั่งหิมะอันโดดเด่น
“เฮ้ย อสูรดาบนั่นมีน้องสาวด้วยหรือ?”
“ไม่หรอก ฉันได้ยินมาว่า จริงๆแล้วเป็นลูกสาวของหล่อนนะ”
“ดูคล้ายคลึงเลยนะเนี่ย… จะว่าไป นอกจากภายนอกแล้ว ไม่ใช่ว่าเธออ่อนเกินไปที่จะมีลูกสาวอายุเท่านี้หรือ?”
แวบแรก ครอบครัวนี้ดูเหมือนกับพี่สาวน้องสาว ส่วนนักผจญภัยก็จ้องมองพวกเธอขณะที่พวกเธอกำลังหาทางไปยังที่กระดานคำร้อง
ไม่เหมือนกับ Shirley ที่ดูเหมือนจะไม่สนใจโดยสิ้นเชิง Sophie กับ Tio ไม่ได้มายังตรงนี้และก็ดูเหมือนจะกระวนกระวายที่ตกเป็นเป้าสายตามาก
“พวกเขากำลังมองเราอยู่…”
“อูว… นี่เป็นครั้งแรกในกิลด์เลย เขาไม่อนุญาตให้เด็กเข้ามาหรือ…?”
นั่นก็ไม่จริงเสมอไป พวกนั้นเขาเห็นมาตั้งหลายครั้งแล้วตอนที่พวกเธอยังเป็นทารก แต่ในตอนนี้เด็กสาวสองคนนั้นต่างก็รู้สึกถึงสัมผัสที่ครอบคลุมโดยฝีเท้าและฝีเท้าของกิลด์นั้นแตกต่างจากของเรือนทาโอเร่
แต่สองคนนั้นต้องการที่จะเป็นนักผจญภัยอย่างลับๆ พวกเธอจึงพยายามที่จะไม่สนใจสายตาของพวกนั้นแล้วก็ทำท่ากล้าหาญ
“แม่คะ นี่อะไรหรือ?”
“กระดานคำร้องนะ… เป็นกระดานที่แสดงถึงรายละเอียดของคำร้องทั้งหมดที่ส่งมายังกิลด์นะ วันนี้แม่หวังว่าจะเจอคำร้องดีๆที่จะทำในวันพรุ่งนี้นะ”
เมื่อนักผจญภัยรับคำร้องมา พวกเขาไม่จำเป็นต้องออกไปยังข้างนอกทันทีเพื่อทำให้เสร็จ ขึ้นอยู่กับกรณี อาจจะต้องเตรียมการบ้าง จึงเป็นปกติในการรับเอาคำร้องที่ต้องใช้เวลาหลายวัน
การมุ่งหน้าสังหารมังกรที่เธอจัดการไปเมื่อวันก่อนนั้นเป็นยิ่งกว่ากรณีพิเศษ นอกจากพวกโบโนโบเลวแล้ว Shirley ก็เป็นคนเดียวในเมืองชายแดนเท่านั้นที่สามารถวิเคราะห์การผจญภัยไปยังที่ซ่อนตัวของมังกรด้วยการเตรียมตัวเพียงเล็กน้อย
“หืม… ตรงนั้นมีคำร้องเยอะแยะเลย เอิ่ม… ล่ารอยยิ้มและก็สัง… สังหารกองโจรหรือ?” และก็รวบรวมขนสัตว์จากนกสีรุ้ง”
“อืม Sophie ดูสิ”
ขณะที่เธอกำลังมองหาคำร้องอันหนึ่งที่อยู่ขอบกระดานที่ไม่ไปขวางนักผจญภัยคนอื่นนั้น Tio ก็ชี้ไปยังคำร้องเก็บสมุนไพรที่ถูกมือใหม่เอาไปอยู่บ่อยๆ
“สงสัยว่าถ้าเราทำนี่ได้ล่ะ?”
“เธอพูดถูก มันก็แค่ออกไปหาพืชเอง…”
“มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ”
Shirley วัดมะเหงกหัวทั้งสองเบาๆ
“เหตุผลที่นักผจญภัยถูกขอมาให้ทำแบบนี้ก็คือมันอันตรายนะ สมุนไพรงอกอยู่นอกเมือง… ลูกคงคิดไม่ออกหรอกว่าจะมีมอนสเตอร์ประเภทไหนที่ลูกจะเจอ แม่ไม่อยากให้ลูกทั้งสองเอาอย่างแม่หรอก พูดชัดมั้ย?”
“อ-อย่าห่วงเลย! หม่าม้า เป็นห่วงมากไปแล้วนะ!”
“…ฉันไม่ออกไปทำอะไรที่มันอันตรายอย่างนั้นหรอก”
พวกเธอโกหก อันที่จริงพวกนั้นก็แค่อยากจะเป็นอย่างเธอสักวัน ถึงแม้เธอจะบอกว่าโลกภายนอกเต็มไปด้วยมอนสเตอร์อันตราย พวกนั้นก็ไม่เสียจิตใจไป
พวกนักผจญภัยหยาบช้าถึงกับหยุดซุบซิบทันทีจากความกลัวต่ออสูรดาบสีขาวที่ดูเหมือนจะแผ่รังสีที่น่ากลัวออกมา ถึงแม้ว่าแม่นักผจญภัยจะเอาคำร้องออกจากกระดานราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม
“หม่าม้า คำร้องนั่นมันอะไรหรือคะ?”
“ดูเหมือนว่าหมีจะดักซุ่มอยู่ใกล้ๆฟาร์มนะ แม่จะไปจัดการกับมันในวันพรุ่งนี้นะ”
เธอเลือกคำร้องแบบนี้เพราะเธอสามารถเสร็จได้เพียงวันเดียว ความจริงก็คือหมีนั้นจริงๆแล้วเป็นมอนสเตอร์มีเขาที่เรียกกันว่าปีศาจหมี แต่นั่นทำให้ Shirley เข้าใจไปเป็นอย่างอื่น
คิดว่าเธอน่าจะทำคำร้องได้ไวปานสายฟ้าแลบได้ถ้าเธอไปยืมเอามังกร Rangitz จากกิลด์มาขี่ เธอจึงได้เอาคำร้องนี้ไปยัง Yumina ที่แผนกต้อนรับที่จ้องมองเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง
“กวาดล้างมอนสเตอร์ที่ฟาร์ม… เธอจะทำในวันพรุ่งนี้ ฉันขอได้มั้ย?”
“มีปัญหาหรือ?”
“ก็ไม่เฉพาะหรอก ฉันไม่อยากตระหนี่เรื่องนักผจญภัยที่จะเอาคำร้องไหนหรอก แต่คำร้องที่มีรางวัลสูงกว่านี่ก็มีแล้วล่ะ”
Yumina เอียงไปหา Shirley แล้วกระซิบเข้าที่หู
“คำร้องระดับภัยพิบัติไงล่ะ… ปีศาจชั้นสูงปรากฏตัวในราชอาณาจักรแล้วล่ะ”
“โอเค”
“…ปาร์ตี้แรงค์ S ได้ส่งไปแล้ว แต่พวกเขาก็เจอเรื่องเดือดร้อนอย่างหนักเลย”
“เข้าใจแล้ว”
“…ดังนั้น ฉันจึงอยากจะขอให้คุณ Shirley นะ ถ้าหากบางทีเธอน่าจะเข้าร่วมปาร์ตี้ชั่วคราวเพื่อช่วยพวกเขาจัดการกับ…”
“ขอปฏิเสธ”
ตอบกลับมาสั้นๆโดยไม่มีเจตนามุ่งร้าย แต่ก็ไม่สนใจใยดีด้วย
“ฉันมั่นใจว่าปาร์ตี้นั่นสุดท้ายน่าจะเอาชนะได้ และฉันก็สัญญาว่าจะช่วยลูกสาวทำการบ้านวันนี้ด้วย”
“…ใช่ แต่… ฉันคิดว่านี่มันน่าจะสำคัญกว่าเอาเวลาไปใช้กับลูกสาวอีกนะ…”
พนักงานต้อนรับกลืนน้ำลายแล้วคอตก Sophie กับ Tio ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ยังรู้สึกสงสารเธอ
Yumina รู้ว่า Shirley หลงใหลลูกสาวเธออย่างหนัก แต่เธอก็เชื่อว่ามีอย่างอื่นที่น่าจะสำคัญสูงกว่าเธออยู่
“…อ๊ะ พวกหนูทั้งสองไม่อยากเห็นคุณ Shirley ทำอะไรที่มันสุดยอดจริงๆหรือ?”
“ช่วยหยุดพยายามเข้าใกล้ลูกสาวฉันได้มั้ย?”
Yumina เดาะลิ้นด้วยความแห้ว เห็นได้ชัดเลยว่าแรงกดดันต่อเธอจากที่สูงกว่าในกิลด์ยังคงหนักอยู่
“ก็นะ บางทีน่าจะเป็นโอกาสดีต่อเธอที่จะเข้าปาร์ตี้อีกครั้งนะ?”
“ฉันเติมเต็มด้วยข้อผูกพันนั่นแล้วล่ะ”
ไม่มีแม้แต่คำพูดเลือนลางที่จะให้ความหวังที่ริบหรี่พอที่จะสยบการจัดการได้เลย Yumina ถึงกับถอนหายใจอย่างหนักขณะที่เธอยอมรับชะตากรรมของคำพูดจี้ใจดำไป
ด้วยความอยากรู้ของพวกเธอ จึงไม่มีทางที่แฝดจะไม่ทำให้เกิดเสียงไม้กับดาบเหล็กปะทะกัน
ในกิลด์นั้น จะมีลานฝึกประลองด้วย ถึงแม้สิ่งอำนวยความสะดวกจะถูกสร้างบางครั้งในปีต่อมา ตอนนี้ลานฝึกก็เต็มไปด้วยนักผจญภัยฝึกหัดจากพวกมือใหม่ยันไปถึงมือเก่าในระหว่างคำร้อง
“ฮ่า!”
“หวาาาา!?”
“อะไรกัน!? นี่คุณกะจะฟันพวกเราเลยหรือ!?”
ขณะที่ Shirley พาไปเหลือบมองกับลูกสาวเธอ เธอก็เห็น Asterios กำลังนำปาร์ตี้มือใหม่ไปฝึกฝนอยู่
มิโนทอร์ไม่ปล่อยให้พวกนั้นทำได้ง่ายๆ… จัดการเหวี่ยงแล้วฟันซ้ายและขวาไปยัง Kyle กับ Cudd สองคนนั้นถึงกับบิดตัวแล้วหันไปทางนี้แล้วก็พยายามหลบการโจมตีของเขาอย่างไม่คิดชีวิตเลย
“พ-พวกเขาจะโอเคมั้ย!? เขาโจมตีด้วยขวานใหญ่เลยนะ!?”
“ไม่มีปัญหา พวกเขาไม่มีทางถูกฆ่าหรอก”
“…ชักไม่แน่ใจแล้วล่ะ…”
จากมุมมองของ Shirley การเหวี่ยงนั้นไม่เร็วพอที่จะฆ่าได้ พวกนั้นกะการโจมตีไว้… แต่สำหรับสายตามือใหม่แล้ว มันดูเหมือนกับเขาพยายามจะเข้าไปฆ่าทั้งสองคน
ต่อให้ไม่ถึงกับชีวิตหรือต้องตาย การฝึกแบบนี้น่าจะช่วยเตรียมตัวทั้งสองเมื่อต้องเผชิญหน้ากัน
มันยากที่จะพูดว่าไม่น่าจะใช่การฝึกที่จะปล่อยให้พวกเขาอยู่ได้ แต่ถ้าพวกเขาเพิ่มอะไรจากมันได้ล่ะก็ มันก็ไม่น่าจะสูญเปล่าสักเท่าไรหรอก
“ตรงนั้นนะ วางเท้าผิดแล้วนะ”
“อั้ก!?”
ดูท่าจะช้าเกินไปบนเท้าสำหรับพวกสอดแนม Cudd ถึงกับล้มคะม่ำลงกับพื้นหลังจากที่ขาขัดกันเอง และขณะที่เขากลิ้งตลบไป เข็มขัดที่ยึดกางเกงก็หลวมจนกางเกงหลุดออกมา
“ฮ่าๆๆ! เฮ้ย ไอ้บ้า! หยุดโชว์กางเกงในสักทีเซ่! ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
“แม่คะ? หนูมองอะไรไม่เห็นเลย?”
“อ-อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“ลูกไม่ควรที่จะเห็นนะ”
Leia หัวเราะจนน้ำตาแทบจะเล็ดขณะที่ชี้ไปที่ Cudd ขณะเดียวกัน Shirley ก็เอามือปิดตาของ Tio และ Sophie ขณะที่หันตาเธอออกไปจากฉากเช่นนั้นด้วย
“น่าๆ ท่าน Leia เจ้าดูเหมือนจะว่างสินะ? ทำไมถึงไม่เข้าไปร่วมด้วยล่ะ?”
“เอ๋!? ไม่นิ ฉันเป็นนักธนูนะ ฉันจึงไม่ต้องไปฝึกต่อสู้ในทัพหน้าหรอก?”
“ฮะๆๆ พูดอะไรของเจ้านะ? บางคนที่อยู่แนวหลังก็มีเหตุผลมากพอที่จะเรียนรู้คนที่ต่อสู้ในแนวหน้านะ ในศึกนั้นพวกแนวหลังก็สามารถกลายเป็นแนวหน้าได้ในพริบตานะ”
เสียงร้อง Leia ปนเสียงขรมไปทั้งลานฝึก Tio มองนักผจญภัยมือเก๋าแรงค์ A และนักผจญภัยแรงค์ E ฝึกด้วยกันและพึมพำเงียบๆ
“…ฉันเพิ่งรู้ว่ามิโนทอร์นั่นสุดยอดจริงๆ เหวี่ยงขวานได้เร็วมาก แต่หยุดได้ก่อนที่จะโดนพวกเขาอีก”
“เอ๋? จริงหรือ?”
ขณะที่ Sophie มองเธอนั้น เธอก็พยักหน้าตอบ
เธอไม่ได้ฝึกตัวเองใดๆ แต่เธอ็รู้ว่าความสามารถที่เขาเหวี่ยงอาวุธหนักอย่างขวานโดยที่ไม่ทำร้ายหน้าใหม่นั้นมันไม่ธรรมดาแค่ไหน
Shirley ช่วยไม่ได้นอกจากต้องนับถือ Tio ที่เรียนรู้ได้เยอะจากการมองในเวลาสั้นๆ
ถึงแม้ว่าลึกๆแล้ว เธอเป็นห่วงถึงเธอเข้าใจบางอย่างได้รวดเร็วที่อันตรายพอๆกับการต่อสู้
“โอ้? นี่ๆ นั่นไม่ใช่ท่าน Shirley หรือ?”
“…สวัสดี”
Asterios ที่ไม่เสียแม้แต่เหงื่อสักหยดต่างจากลูกศิษย์ที่ชุ่มกว่าสองเท่า เห็นตัว Shirley
“เด็กสาวน่ารักนี่เป็นลูกสาวเธอหรือ?”
“ใช่แล้ว ทั้งสองคน สวัสดีเขาสิ”
“ย-ยินดีที่ได้รู้จักค่า! หนูชื่อ Sophie!”
“…ฉันชื่อ Tio”
Asterios คุกเข่ามองดูทั้งสองแล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ข้าชื่อ Asterios แม่เธอกับข้าได้ออกผจญภัยร่วมกันในคราวที่แล้ว… ข้าอยากจะพูด พวกเจ้าทั้งสองโตขึ้นจริงๆ”
“หา?”
“เอิ่ม… เราเคยพบกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?”
“ใช่ ก็เมื่อสิบปีก่อน ตอนที่ท่าน Shirley เข้าร่วมกิลด์เป็นครั้งแรกนั่นแหละ…”
ถึงแม้พวกเธอจะจำไม่ได้ว่าเคยพบเขา ดอกไม้ก็ดูท่าจะเบ่งบานไม่เหมือนกลับมาพบกัน ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่เข้ากันอย่างแรงระหว่างมิโนทอร์ที่มีกล้ามมัดบึกบึนสูงใหญ่ที่ยิ้มให้กับเด็กสาวผู้งดงามทั้งสองก็ตาม
“จะว่าไปแล้ว ท่าน Shirley นี่ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยล่ะ ทำไมเธอถึงไม่เข้าร่วมฝึกด้วยล่ะ? เด็กพวกนี้จะได้เรียนรู้นิสัยแปลกๆถ้าพวกเขาฝึกกับข้าอย่างเดียวนะ”
เธอมองไปยัง Kyle ที่ตาเหลือกขณะที่เขาส่ายหัวอย่างแรง
“ไม่หรอก ฉัน…”
เธออยากจะบอกว่าเธอกำลังใช้เวลาอยู่กับลูกสาว แต่กลับพูดไม่ออก
เธอรู้สึกถูกจ้องจากด้านล่าง แล้วเธอก็มองลงไปเห็นสีหน้าตื่นเต้นของลูกสาวที่แสนรักทำตาประกายราวกับพวกเธอตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง
Shirley ถอนหายใจออกมาบอกกับตัวเองว่าไม่มีทางเลือกแล้ว แล้วดาบสองเล่มก็ปรากฏอยู่ในมือเธอเป็นคำตอบให้ Asterios
เธอรู้ว่าเธอควรจะปล่อยผ่านให้พวกเขาไปง่ายๆเนื่องจากเป็นแค่การฝึก แต่เนื่องจากเธออยากให้ดูดีต่อหน้าลูกสาว เธอจึงได้พยายามให้หนักกว่าที่เธอควรจะทำ
หลังจากนั้น เสียงร้องของหน้าใหม่ก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า แต่เรื่องแบบนั้นก็คงจะไม่ต้องเล่าถึงมันหรอกนะ
ในวันที่สงบสุข… ถึงแม้ Shirley จะรับคำร้องไปแล้ว สำหรับส่วนใหญ่เธออยู่อย่างเงียบๆ
ในเวลาเดียวกัน Sophie กับ Tio ก็ได้รับแจ้งเกี่ยวกับเทศกาลที่อาจจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
สำหรับครั้งแรกในสามปีของโรงเรียน ผู้ใหญ่น่าจะได้เห็นลูกของพวกเขาในวันที่ส่งไปโรงเรียนครั้งแรก… วันที่เด็กๆน่าจะตั้งใจจดจ่ออย่างหนักเพราะความตึงเครียด… เทศกาลสุดแสนจะมืดมนที่เรียกว่าวันเยี่ยมโรงเรียนของเหล่าผู้ปกครอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น