ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : คน 2 บุคลิก
“  เอ่อ...ผมขออยู่ด้วยคนได้ไหมครับ”  เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบาที่ด้านหลังของไคท์  พวกของไคท์หันไปมองและพบกับหนุ่มผมสีน้ำตาลแดง  นัยน์ตาสีม่วงเข้มกำลังมองพวกเขาอยู่  ขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่อง  พรรณไม้รักษาพิษในวิชาพฤกษาศาสตร์
    “  ทำไมล่ะ”  ลีพูดกลับแบบห้วน ๆ เขาตัวสั่นเล็กน้อย
    “  ก็อาจารย์เชบอกว่าให้จับกลุ่ม  4  คน แต่ไม่มีใครอยู่กับผมเลย  เพราะงั้น...”  เขาพูดตะกุกตะกัก  ราเดนมองด้วยสายตาเฉยชา
    “  ก็อยู่ไปสิ  ไม่ได้ว่าอะไรนี่”  ไคท์พูดขึ้น 
    “  อ๊ะ...ขอบคุณครับ”  เขาโค้งคำนับ  90  องศา  แล้วนั่งลงข้างไคท์
    “  ไคท์  ทำไมนายถึงเอาหมอนี่เข้ากลุ่มน่ะ”  ลีพูดขึ้นมาดื้อ ๆ  แล้วปรายตามองชายหนุ่มคนนั้นอย่างไม่ชอบใจ
    “  เหอะน่า  กลุ่มเราก็ขาดอยู่คนนึงพอดี  เพราะงั้นก็รับเข้ามาเลยสิ”
    “  นายชื่ออะไร”  ราเดนถามด้วยน้ำเสียงปกติ  แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วมันเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเยือกเย็นพิกล
    “  ผมยีนส์  อาร์โคเวอดอร์  คนที่ชนคุณเมื่อวันนั้นไงครับ”  ยีนส์หันไปทางไคท์
    “  อ้อ  นายนี่เอง”  ไคท์ตอบ  ยีนส์ยิ้มด้วยความดีใจ
    “  แล้วนายว่า...”  ลีหันไปพูดกับไคท์  “  เจ้าต้นดอกแดงใบน้ำตาลนี่แก้พิษได้มั้ย” 
    “  นั่นมันยาพิษขนานเอกเลยนะครับ  เพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้นก็ถึงตายเลย”  ยีนส์พูดตัดหน้าไคท์ไป  เขาหันไปมองอย่างอึ้ง ๆ ทำให้ลีดูไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก
    “  ฉันไม่ได้ถามนาย”  ยีนส์หน้าถอดสี
    “  ไม่เอาน่ะลี  ว่าแต่นายเนี่ยก็เก่งนะ”  ไคท์หันไปปรามลีก่อนที่จะชมยีนส์
    “  แหะ  แหะ  ขอบคุณครับ” 
    “  ว่าแต่ครบรึยัง”  ราเดนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
    “  อืม...ขาดอีก  3  ชนิด”  ไคท์ตอบแล้วทำหน้าครุ่นคิด  “  ไม่ใช่วิชาถนัดของฉันซะด้วย”
    “  เอ๋  3  ชนิดเหรอครับ  ลองดูของผมไหม  เผื่อว่าจะมีไม่ซ้ำกันบ้าง”  ยีนส์ยื่นสมุดโน๊ตให้ไคท์  ลีชักจะรำคาญกับคำพูดที่เสนอตัวอยู่ตลอดเวลา  แต่ราเดนมองเขาอย่างสนใจ
    “  ขอบใจ...”  ไคท์ค่อย ๆ สำรวจดูทีละหน้าแล้วจดลงไปด้วย  ไม่นานนักเขาก็คืนสมุดให้
    “  ครบไหมครับ”  ยีนส์ถามขึ้นแผ่วเบา
    “  อืม  ครบถ้วนสมบูรณ์  คงส่งได้แล้วล่ะ  ขอบใจนะ”  ยีนส์ยิ้มหน้าบาน
    “  ด้วยความยินดีครับ”  ไคท์เดินไปส่งงานที่อาจารย์มีล  ทิ้งให้ยีนส์อยู่กับลีตามลำพัง
    “  นี่นาย”  ลีพูดห้วน ๆ กับยีนส์  เขาหันมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
    “  คะ...ครับ  มีอะไรครับ” 
    “  นึกไงมาอยู่กลุ่มนี้  มีจุดประสงค์อะไรรึเปล่า”  ลีตัดสินใจถามขึ้น  ราเดนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่จึงเงยหน้าขึ้นมามอง
    “  ปะ...เปล่าครับ  ผมแค่ไม่มีกลุ่มอยู่ก็เลย...”  เขาสั่นเล็กน้อย  ลีจ้องเขาตาไม่กระพริบ
    “  งั้นแล้วไป  ถ้านายมีจุดประสงค์อย่างอื่นล่ะก้อ...”  ลีขู่  ส่วนยีนส์หลับตาปี๋
    “  นายทำอะไรอยู่น่ะ  ลี”  ไคท์ที่กลับมาแล้วถามขึ้น
    “  เปล่า  แค่กระชับสัมพันธไมตรีกันก็แค่นั้น  ใช่มั้ย  ยีนส์”  ลีหันไปแยกเขี้ยวใส่ยีนส์
    “  ครับ  มะ...ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ”  ยีนส์พยักหน้าหงึกหงัก
    “  อืม  นี่งานเสร็จแล้ว  กลับปราการกันเถอะ”  ไคท์ชวน
    “  หือ  กลับได้เลยเรอะ”  ลีทำตาลุกวาว
    “  อือ  ไปกันรึยัง”  ไคท์ถามอีกครั้ง  ลีกระโดดผลุงแล้วหยิบกระเป๋า  ราเดนลุกขึ้นยืนแต่ตายังดูหนังสืออยู่  เมื่อพวกเขาเดินออกไปแล้ว  ยีนส์ก็ค่อย ๆ เดินตามมา
    “  ตามมาทำไม”  ลีหันไปแหวใส่  ยีนส์หยุดชะงักก้มหน้าต่ำ   
    “  เฮ้  อย่าเกเรสิลี”  ไคท์ดุลี  เขาจึงหันหน้ากลับ
    “  อย่า...อย่าไปว่าเขาเลยครับ  งั้น...งั้นผมไปนะครับ”  ยีนส์จัดแจงหันหลังเตรียมออกวิ่ง  แต่ไคท์คว้าคอเสื้อเขาไว้ได้ทัน
    “  ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ไปด้วยกันก็ได้  ไปกันแค่  3  คน  เหงาแย่”  ไคท์พูดยิ้ม ๆ ยีนส์หันมายิ้มตอบ  ในขณะที่ลีเริ่มไม่ชอบยีนส์มากขึ้นทุกขณะ  แต่ราเดนก็ยังไม่สนใจ  ได้แต่อ่านหนังสือของเขาต่อ  แต่สายตาของเขาก็เหลือบมามองอยู่บ้างเป็นระยะ
    “  ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”  ไคท์กอดคอยีนส์ไปด้วย  เขายิ้มแหย ๆ เพราะสายตาอาฆาตของลีที่สาดส่องมาจนน่าขนลุก
    “  อะ...คะ...ครับ”  เขาเดินไปกับไคท์  เมื่อลับสายตาของลีแล้ว  ราเดนเริ่มมองเขาเขม็ง
    “  นี่ ๆ สะกดอารมณ์ซักนิดนะ”  ว่าแล้วเขาก็เดินไป  แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็...
    ตึง !!!  โครม !!!
    เขาหันหลังกลับไป  ลีก็เดินออกมาด้วยหน้าตาเรียบเฉยและมองราเดนด้วยสายตาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้วเดินจากไป  ราเดนตัดสินใจไปดูที่ ๆ ลีออกมาก็ต้องกุมขมับ  เพราะเขาเล่นชกต้นไม้โค่นไปหนึ่งต้น
    “  ให้ตายสิ  อุตสาห์บอกให้ใจเย็น ๆ แล้วนะ” 
    ที่ห้องอาหารของปราการนักรบมีเพียงพวกเขา  4  คนเท่านั้นที่อยู่ในห้อง  เนื่องจากยังไม่มีใครเรียนเสร็จ  ไคท์นั่งกินอาหารไปด้วยคุยกับยีนส์ไปด้วยทิ้งให้ลีนั่งเงียบแข่งกับราเดนที่ไม่พูดไม่จาซักคำ 
    “  พูดถึงว่านายก็เรียนเก่งนี่นา  ทำไมไม่มีใครเอานายเข้ากลุ่มล่ะ”  ไคท์ถามยีนส์ที่กำลังนั่งกินอาหารของเขาอย่างมีมารยาท
    “  คือ...เขาว่าผมเป็นส่วนเกินของปราการเพราะไม่เอาไหนด้านการรบน่ะครับ”  ยีนส์หน้าจ๋อยไป  แต่ไคท์ตบหลังยีนส์เบา ๆ ในเชิงปลอบใจ  ตอนนี้ช้อมส้อมในมือของลีกำลังสั่นด้วยความโกรธ  ราเดนเริ่มมองลีด้วยสายตาหวาด ๆ
    “  แล้วจะเอายังไงต่อ  ไม่ต้องเรียนตั้ง  2  วิชา”  ราเดนเอ่ยขึ้นเพื่อไม่ให้ไคท์และยีนส์คุยกันมากไปกว่านี้
    “  ไปห้องสมุดมั้ย  ฉันกะจะไปหาอะไรอ่านเล่น”  ไคท์เสนอ
    “  ผมไปด้วยได้มั้ย...ครับ”  ยีนส์ค่อย ๆ พูดแล้วเหลือบมองลีที่ส่งสายตาหงุดหงิดมาให้
    “  ก็ไปด้วยกันสิ”  ไคท์ยิ้มนิด ๆ
    ปึ้ง !!!!  ลีทุบโต๊ะก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องอาหาร  ไคท์จึงรีบถามขึ้น
    “  เฮ้ ! ลีไปไหนน่ะ  ไม่ไปห้องสมุดด้วยกันรึ” 
    “  ไม่เอา  ฉันจะไปเดินเล่นข้างนอก  ราเดนนายไปกับฉันหน่อยสิ”  ลีหันไปชวนราเดน
    “  ...ก็ได้”  ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นและเดินตามลีออกไปข้างนอก
    “  อะไรของเขานะ  เอ้า ! ยีนส์จะไปด้วยกันรึยัง”
    “  อ้ะ  ครับ”  ว่าแล้วเขาก็รีบลุกพรวดตามไคท์ไปยังห้องสมุด
    ที่ห้องสมุดมีนักเรียนของแต่ละปราการบางส่วนกำลังนั่งอ่านหนังสือด้วยความเงียบ  เมื่อพวกเขาเข้าไปกลับเป็นเป้าสายตาของทุกคนในห้อง  พร้อมกับเสียงซุบซิบที่เกิดขึ้นอย่างแผ่วเบา
    “ เฮ้  งวดนี้เพื่อนเขาหายไปไหนกันหมดน่ะ”
    “  ไม่รู้สิ  แต่หมอนั่นคือไอ้อ่อนประจำปราการนักรบนี่หว่า”
    “  เออใช่  ทำไมมันถึงมาอยู่กับไคท์ได้วะ”  ไคท์เริ่มมองไปทั่วห้องสมุดแล้วก็ไม่เห็นอาจารย์บรรณารักษ์ซักทีเลยตะคอกออกไปเพื่อให้ได้ยินกันทุกคน
    “  ห้องสมุดมีไว้อ่านหนังสือ  ไม่ใช่มานั่งจับผิดชาวบ้านที่เข้ามากัน  ใครที่มีหนังสืออยู่อ่านไปเลยนะ  ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมาถ้ายังอ่านไม่จบ  ส่วนพวกที่กำลังหาหนังสือก็รีบ ๆ หาซะ  แล้วไปอ่าน”  เมื่อสิ้นคำสั่งทุกคนก็ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือของตนเองไป  บางคนเหงื่อแตกพลั่ก ๆ ส่วนยีนส์กำลังมองไคท์อย่างทึ่ง ๆ ก่อนที่จะเดินตามเขาไป
    “  นายหาอะไรอ่านน่ะ”  ไคท์ถามยีนส์ที่กำลังเลือกหนังสืออย่างหนักใจ
    “  ผมหาหนังสือเกี่ยวกับการสงครามไม่เจอเลยครับ”  ยีนส์ถอนหายใจ
    “  เหรอ  อ๊ะ  นี่ไง”  ไคท์เอื้อมมือออกไปหยิบหนังสือวิชาสงครามล้างอาณาจักร  แต่ทันทีที่เขาจับหนังสือกลับรู้สึกปวดหัว  เขาเอามือกุมหน้าผาก
    “  เป็นอะไรรึเปล่าครับ”  ยีนส์หน้าซีด  เมื่อรู้สึกค่อยยังชั่วแล้วเขาจึงตอบยีนส์
    “  อืม  แค่ปวดหัวนิดหน่อย”
    “  ไปห้องพยาบาลไหมครับ”  ยีนส์ถามด้วยสายตาที่ราวกับว่าจะร้องไห้ออกมา
    “  ไม่ต้องหรอก  หายแล้วล่ะ  ไปนั่งตรงนั้นกันนะ”  ไคท์เดินนำยีนส์ออกไปนั่งที่ม้านั่งด้านหลังสุดซึ่งไม่มีคนนั่งอยู่เลย
    “  อ้าว  ไคท์มาอยู่นี่เอง”  ไคท์หันขวับ
    “  เอรีน  ไงเลิกเรียนแล้วเหรอ”  ยีนส์มองหน้าของทั้ง 2 คน สลับกันไปมา
    “  เอ่อ...สวัสดีครับ” เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ เอรีนหันมายิ้มละไม
    “  อืม  สวัสดีจ้ะ  ไคท์เพื่อนใหม่เหรอ”
    “  ใช่  เขาชื่อว่ายีนส์  อาร์โคเวอดอร์”  ไคท์แนะนำยีนส์ให้เอรีนรับรู้  เธอจึงพยักหน้ารับ
    “  อ่านหนังสืออะไรกันอยู่น่ะ”
    “  อ๋อ  รูนน่ะ”  ไคท์ตอบ
    “  แล้วของเธอล่ะจ้ะ”  เอรีนหันไปถามยีนส์
    “  เอ่อ...เรื่องสงครามล้างอาณาจักรน่ะครับ”  เขาตอบตะกุกตะกัก
    “  เธอชอบเหรอ”  เอรีนนั่งลงข้างไคท์แล้วถามยีนส์ต่อ
    “  อ่า...ครับ”  ยีนส์ตอบด้วยความเก้อเขิน
    “  แล้วเธออ่านหนังสืออะไรน่ะ”  ไคท์ถามเอรีน
    “  อ๋อ  ฉันมาจัดหนังสือน่ะ  วันนี้เป็นเวรพอดี”  เธอยิ้มและคุยกับไคท์อย่างสนุกสนาน  ยีนส์มองดูพวกเขาทั้งคู่ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
    “  อ้าว  จะกลับแล้วเหรอ”  ไคท์ทักยีนส์ที่กำลังลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ
    “  ครับ  ผมมีธุระต่อน่ะครับ”  ยีนส์ตอบเบาๆ แต่ความจริงแล้วเขาไม่อยากเป็นก้างขวางคอของไคท์และเอรีน
    “  จะให้ไปส่งไหม”  ไคท์ถามขึ้นอีก  ยีนส์ส่ายหน้า
    “  ไม่ต้องหรอกครับ  ไปก่อนนะครับ”  ว่าแล้วเขาก็รีบเดินออกจากห้องสมุดไป
    “  นี่ ๆ ดูไปแล้วยีนส์นี่น่าจะขี้อายนะ”  เอรีนออกความเห็น
    “  อืม  รู้สึกว่าจะนั่งนานแล้วสิ  กลับกันรึยัง” 
    “  ไปสิ”  เอรีนลุกขึ้นมาแล้วเดินตามไคท์ไป
    เมื่อเดินกันไปเรื่อย ๆ ตามปราการกลาง  ไคท์ก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังออกมาเบาๆ เขาจึงหยุดเดินแล้วตั้งใจฟัง
    “  มีอะไรเหรอ”  เอรีนถามขึ้น  แต่ไคท์เอานิ้วชี้แตะปากเป็นเชิงให้เงียบ
    “  เธอกลับปราการไปก่อนนะ”  ว่าแล้วเขาก็ฝากหนังสือให้เอรีนแล้วเดินตามเสียงไป  เอรีนรู้สึกว่าท่าไม่ดีเธอเลยไปหาพวกของลีแทน  ทางด้านไคท์ที่กำลังเดินไปตามเสียงก็ได้มาพบกับต้นตอของเสียง  และพบกับยีนส์ที่อยู่ในวงล้อมของคนในชุดดำที่มีกันอยู่ราว ๆ 5-6 คน
    “  เฮ้ย  นับวันมันชักจะทำตัวน่ารำคาญขึ้นทุกวันแล้วนะนาย”  หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
    “  ผม...ไปทำอะไรให้พวกขึ้นเหรอครับ”  ยีนส์ค่อย ๆ ถามขึ้น
    “  เหอะ  ตลกว่ะ  อย่ามาทำไม่รู้เรื่อง  นายเป็นคนแพร่งพรายข่าวเรื่องที่เราจะลอบทำร้ายลี  เคลน๊อตใช่มั้ยล่ะ”
    “  ผมไม่รู้อะไรเลยนะครับ”  ยีนส์เริ่มโต้ขึ้น  แต่เขากลับคิดผิดเพราะเขากลับได้รับหมัดกลับมาแทนคำพูด
    “  เงียบไปเหอะ  อย่าปากดีให้มันมากนัก”  คนที่ชกเขาพูดขึ้น
    “  ก็ผมไม่รู้จริง ๆ นี่ครับ”  ยีนส์พูดขึ้นอีกครั้ง  แต่เสียงดังกว่าเดิม
    “  ไอ้หมอนี่มันน่านัก  เฮ้ย  พวกเราจัดการ”  ว่าแล้วคนชุดดำทุกคนก็เริ่มรุมยีนส์  ไคท์ที่เห็นดังนั้นก็ออกมาจากที่ซ่อนแล้วเข้าไปกระชากคนชุดดำออกมาคนนึง
    “  อย่าทำแบบนี้นะ”  ไคท์ห้าม  แต่พวกนั้นกลับไม่ฟังและเถียงกลับมา
    “  ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”  ว่าแล้วก็หันไปรุมต่อ  ไคท์จึงชกหน้าคนพูดไปหนึ่งหมัด  ทำเอาหมอนั่นถึงกับสลบในหมัดเดียว
    “  มันจะมากไปหน่อยนะ”  ยีนส์มองไคท์ด้วยสายตาเป็นกังวลที่สุด
    “  คุณไคท์ครับ  เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ  กรุณาไปเถอะครับ”  แต่ไคท์ไม่ขยับไปไหน
    “  เฮ้ย ! ไอ้พวกชอบใช้กฎหมู่ถ้าคิดว่าแน่จริงกันนักล่ะก็  ดาหน้ากันเข้ามาเลย”  ไคท์ท้า  เขายืนกันยีนส์ไว้ข้างหน้าแล้วสู้กับบุคคลชุดดำเหล่านั้นแทน
    ทางด้านลีที่กำลังระบายอารมณ์กับน้ำแข็งของราเดนอย่างหนักและบ้าคลั่ง  ก็ต้องชะงักกับเสียงเรียกของเอรีนเข้า
    “  เอ่อ...คุณลี  คุณราเดนคะ  คือว่า...”  ลีหันหน้ามาช้าๆ พร้อมกับราเดนที่ยืนขึ้นมา
    “  มีอะไรเหรอ”  ราเดนถามเบา ๆ
    “  เอ่อ...คุณไคท์เขาไปไหนของเขาก็ไม่รู้น่ะค่ะ”  เอรีนพูดอย่างระมัดระวัง  แต่ลีหัวเราะ
    “  ช่างมันเหอะ  พวกมันคงไปไหนต่อไหนด้วยกัน  2  คน ล่ะมั้ง”
    “  ลี...”  ราเดนปราม
    “  เอ่อ...แต่ฉันว่าคงไม่ใช่  เพราะว่ายีนส์เขาได้กลับไปก่อนที่คุณไคท์จะกลับน่ะค่ะ  แล้ว...”  เธออ้ำอึ้ง  ลีจึงหันหน้ามาทางเอรีน
    “  อะไร...เกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่นรึ”  ตอนนี้ราเดนเตรียมไม้เท้าของเขาไว้แล้ว
    “  รู้สึกว่า...จะมีเรื่องกันน่ะค่ะ  แล้วคุณไคท์ก็เข้าไปจัดการคนเดียว”  เอรีนพูดจบ  ลีจึงสบถขึ้นมา
    “  บ้าเอ๊ย !  ราเดน  ไปกันเหอะ” 
    “  หมอนั่นอยู่ทางทิศไหน”  ราเดนถามเอรีน
    “  เอ่อ...เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่ทราบเพราะอยู่ ๆ คุณไคท์ก็วิ่งออกไปเลย”
    “  นายใช้วาร์ปไม่ได้รึไง”
    “  ต้องรู้ทิศ...”  ราเดนตอบเสียงเย็น
    “  ให้ตายสิ  หมอนั่นวิ่งไปทางไหนของห้องสมุด”  ลีถามเอรีนเสียงเครียด
    “  น่าจะเป็นทางทิศใต้ค่ะ”  เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วลีและราเดนก็รีบวิ่งเข้าไปในปราการกลางทันที  ลีวิ่งด้วยความเร็วสูงปานพายุ  ในขณะที่ราเดนก็กำลังตามมาติด ๆ
    “  คุณไคท์ !!  ไม่เป็นไรนะ”  ยีนส์ตะโกนเมื่อไคท์พลาดท่าถูกซัดเข้าไปหนึ่งหมัด
    “  ไม่เป็นไร  นายล่ะ”  ไคท์หันไปถามยีนส์ 
    “  ผมไม่เป็นไร  คุณไคท์  ข้างหน้า !!!”  ไคท์รีบหันไปตั้งการ์ดทันที  แต่เขากลับรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง  คราวนี้หนักกว่าเดิมมาก
    “  บ้าชิบ  มาปวดอะไรตอนนี้เนี่ย”  เขาพึมพัมขึ้นมา 
    “  คุณไคท์  พอเถอะครับ  ผมโดนเอง”  ยีนส์เตรียมที่จะลุกขึ้นมาลากไคท์ออกมา
    “  ไม่ต้อง  นายอยู่นั่นแหละ”  ไคท์หันไปตอบกลับ  เขาพยายามจะสู้ต่อ  แต่ก็ต้องลงไปทรุดนั่งอีกครั้ง
    แปล๊บ ! แปล๊บ !
    “  บ้าเอ๊ย  มันหนักขึ้นเรื่อย ๆ นี่มันอะไรน่ะ”  เขาพึมพัมขึ้นมาเพราะตอนนี้ในหัวเขามีภาพต่าง ๆ วิ่งเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว  ยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งปวดมากขึ้น  เขาพยายามฝืนแต่สติของเขามันเริ่มเรือนรางเสียแล้ว
    “  คุณไคท์  ระวัง !!!”  ยีนส์ตะโกนก้องเมื่อหนึ่งในบุคคลชุดดำใช้ท่อนไม้ท่อนหนึ่งฟาดเข้ามาที่ท้ายทอยของเขา  ไคท์กำลังจะตั้งการ์ด  แต่ไม่ทันเสียแล้ว  เขาโดนเข้าไปเต็ม ๆ
    “  หนี...ไป...ซะ...”  เมื่อสิ้นสุดคำพูดไคท์ก็ล้มลงไป  พวกคนชุดดำพากันหัวเราะ
    “  เฮ้ย  ไม่เท่าไหร่นี่หว่า  กระจอกกว่าที่คิดไว้นี่”
    “  อย่า...ดูถูกเขานะ”  ยีนส์พูดพลางก้มหน้า
    “  อ้อ  ไม่ได้เรื่องด้วย  ไม่รู้ว่าได้รับตำแหน่งได้ยังไง”  อีกคนหนึ่งพูดขึ้นเพื่อยั่วโทสะ
    “  ฉัน...บอกว่า...อย่า...ไง” 
    “  เหอะ  งี่เง่า”  หนึ่งในนั้นพูดแล้วเอาเท้าข้างหนึ่งวางไว้บนตัวของไคท์
    “  มันจะมากเกินไปแล้วนะ !!!”
    วูบ !!!  เสียงของลมที่ดูเหมือนจะถูกแทรกด้วยบางสิ่งบางอย่างที่เร็วเหนือลม  ลีได้วิ่งตามเสียงของยีนส์  จนมาถึงด้านหลังของปราการและเขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพข้างหน้าของเขา  ราเดนที่วิ่งตามมาติด ๆ ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนก้มหน้าอยู่กลางวงของเหล่าคนชุดดำที่ลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น  บางคนถึงกับสลบไปกับพื้น  ชายหนุ่มคนนั้นกำลังค่อย ๆ เอื้อมมือไปพยุงไคท์ให้ลุกขึ้นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีดเล่มหนึ่งบินผ่านหน้าของเขาไป
    เฟี้ยว !!!  ฉึก !!!
    “  อย่าขยับจะดีกว่านะ  ถอยออกมาเดี๋ยวนี้”  ลีกล่าวเตือน  ในมือของเขามีมีดสั้นไม่ต่ำกว่า  5  เล่ม  ในมือของเขา
    “  มาแล้วหรือ”  ชายหนุ่มพูดขึ้นแล้วหันหน้ามาช้า ๆ ลีและราเดนก็ต้องอึ้งกันไปอีกครั้ง
    “  นาย...”  ราเดนพึมพัมขึ้นมา
    “  ยีนส์  นายทำอะไรกับเจ้าพวกนั้นน่ะ”  ลีตะโกนออกมา  ยีนส์กำลังจับแขนของไคท์ข้างหนึ่งเพื่อให้เขาลุกขึ้น  เขาหน้าเหมือนยีนส์มาก  เพียงแต่มีนัยน์ตาสีดำสนิท
    “  ไม่ใช่...”  เขาเปิดปากพูดกับลี
    “  หมายความว่าไง”  ลีถามขึ้นอีก  ตอนนี้ชายหนุ่มในร่างยีนส์ได้เอาแขนของไคท์มาพาดไว้บนบ่าเรียบร้อยแล้ว
    “  ฉัน...ไม่ใช่ยีนส์...”
    “  แล้วนายเป็นใครกันแน่”  ราเดนพูดออกมาด้วยสายตาเคร่งเครียด  เพราะฟังจากคำพูดที่ออกมาจากปากของเขาแล้ว  มันต่างกันคนละขั้ว
    “  ฉันคือ  มาร์ติน  อาร์โคเวอดอร์  อีกตัวตนหนึ่งของยีนส์  อาร์โคเวอดอร์”  ลีถึงกับอ้าปากค้างกับคำตอบของชายที่ชื่อมาร์ติน
    “  นาย...เป็นอีกบุคลิกหนึ่งของหมอนี่ยังงั้นรึ”  มาร์ตินส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเดินมาทางลีและราเดนอย่างช้า ๆ
    “  ไม่เชิง  เพราะทั้งฉันและเขาสามารถรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้  แม้ว่าจะหลับอยู่”
    “  จิตสัมพันธ์...”  ราเดนเอ่ยขึ้นเบา ๆ
    “  ทำนองนั้น  นี่  พวกนายช่วยพาเขาไปที่ห้องพักได้มั้ย”  มาร์ตินนำร่างของไคท์ส่งให้ลี  เขารับอย่างแผ่วเบา
    “  จะกลับปราการด้วยกันรึเปล่า”  ลีชวนมาร์ตินที่กำลังหันหลังกลับ
    “  ถ้าฉันกลับไปในสภาพนี้  ความแตกแน่”
    “  ไปกับพวกฉันสิ  อีกอย่างฉันมีอะไรหลาย ๆ อย่างจะถามนาย”  มาร์ตินหันมามองหน้าลี  เป็นเชิงหยั่งใจ  ก่อนที่จะเดินเข้าไปในวงเวทย์มนต์ของราเดน 
    “  วาร์ป  ทู  เวท”  ราเดนร่ายเวทย์  สักพักพวกเขาก็มาอยู่ที่ปราการนักรบที่ไม่มีใครอยู่ในห้องโถงอีกแล้ว  พวกเขาจึงไปที่ห้องแล้วนำร่างของไคท์นอนลงบนเตียง  และไปยืนคุยกันที่ระเบียง
    “  นี่นายกำลังจะบอกว่า  เป็นพวก  2  บุคลิกรึไง”  ลีตัดสินใจพูดขึ้นก่อน
    “  ก็คงใช่  ฉันไม่มั่นใจนักหรอก”  มาร์ตินเอ่ยขึ้นเบา ๆ
    “  เป็นมานานเท่าไหร่แล้ว”  ราเดนถามขึ้นอีก
    “  ประมาณ  10  ขวบ  ฉันเริ่มรู้ตัวว่าหลับใหลอยู่ในจิตใจของหมอนี่”
    “  แล้วมีใครรู้ความลับนี้นอกจากพวกเราบ้าง”
    “  มีแค่ยีนส์คนเดียว”
    “  งั้นไคท์ก็ยังไม่รู้น่ะสิ”
    “  เขาสลบไปก่อน”  ลีถอนหายใจยาว
    “  ความลับสุดยอดเลยล่ะมั้งเนี่ย”
    “  แน่ล่ะ  แล้วคิดจะบอกไคท์รึเปล่า”  ราเดนหันไปปรึกษาลี
    “  คงต้องบอก  แต่ต้องให้หมอนั่นฟื้นก่อน”  มาร์ตินมองออกไปข้างนอก  แล้วประสานสายตากับเหยี่ยวตัวหนึ่ง
    “  นั่น...อันตรายรึเปล่า”  เขาชี้ไปทางอีเกิ้ลที่มองอยู่ห่าง ๆ ลีและราเดนจึงหันไปมอง
    “  ไม่หรอก  นั่นอีเกิ้ล  นกของไคท์”  ลีอธิบายให้มาร์ตินฟัง  เขาพยักหน้าหงึกหงัก
    “  แล้วเจ้าพวกนั้นฝีมือนายรึเปล่า”  ราเดนหันไปคุยกับมาร์ตินต่อ
    “  อืม  ใช่  ฉันเปลี่ยนจิตกันตอนที่ไคท์หลับไปแล้ว”
    “  งั้นรึ”
    “  แสดงว่านายเก่งทางด้านการรบไม่เบาน่ะสิ”  ลีเริ่มพูดขึ้นอีกครั้ง
    “  คงงั้น”
    “  แล้วทำไมไม่เปลี่ยนร่างกันตอนที่เรียนวิชาการรบ”
    “  ยีนส์ไม่อนุญาต”  มาร์ตินตอบง่าย ๆ
    “  โฮ่  ต้องอนุญาตกันด้วย”  ลีเกาหัวแกรก ๆ
    “  ฉันว่านายกลับห้องไปก่อนดีกว่า  พรุ่งนี้ค่อยมาบอกไคท์”  ราเดนพยักหน้าให้มาร์ตินกลับห้องไปก่อน  เขาจึงเดินออกจากห้องไป
    “  นายว่าไง”  ลีถามความเห็นจากราเดน
    “  ไม่มีประสงค์ร้าย  อีกอย่างหมอนั่นท่าทางอยากจะปกป้องไคท์ซะด้วย”
    “  อืม  งั้นฉันไปเดินเล่นก่อนนะ”  ลีเดินออกจากห้องไปอีกคน  ราเดนมองไปที่เตียงของไคท์ซักพักก่อนที่จะเดินตามลีออกไป  อีเกิ้ลจึงบินเข้ามาในห้องอีกครั้ง  มันเกาะอยู่บนหัวเตียงของไคท์แล้วมองนายของมันด้วยนัยน์ตาที่คมกริบ
    “  อดทนอีกนิดเดียวนะครับ  นายท่าน”  และมันก็บินออกไปสู่ท้องนภา
    “  ทำไมล่ะ”  ลีพูดกลับแบบห้วน ๆ เขาตัวสั่นเล็กน้อย
    “  ก็อาจารย์เชบอกว่าให้จับกลุ่ม  4  คน แต่ไม่มีใครอยู่กับผมเลย  เพราะงั้น...”  เขาพูดตะกุกตะกัก  ราเดนมองด้วยสายตาเฉยชา
    “  ก็อยู่ไปสิ  ไม่ได้ว่าอะไรนี่”  ไคท์พูดขึ้น 
    “  อ๊ะ...ขอบคุณครับ”  เขาโค้งคำนับ  90  องศา  แล้วนั่งลงข้างไคท์
    “  ไคท์  ทำไมนายถึงเอาหมอนี่เข้ากลุ่มน่ะ”  ลีพูดขึ้นมาดื้อ ๆ  แล้วปรายตามองชายหนุ่มคนนั้นอย่างไม่ชอบใจ
    “  เหอะน่า  กลุ่มเราก็ขาดอยู่คนนึงพอดี  เพราะงั้นก็รับเข้ามาเลยสิ”
    “  นายชื่ออะไร”  ราเดนถามด้วยน้ำเสียงปกติ  แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วมันเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเยือกเย็นพิกล
    “  ผมยีนส์  อาร์โคเวอดอร์  คนที่ชนคุณเมื่อวันนั้นไงครับ”  ยีนส์หันไปทางไคท์
    “  อ้อ  นายนี่เอง”  ไคท์ตอบ  ยีนส์ยิ้มด้วยความดีใจ
    “  แล้วนายว่า...”  ลีหันไปพูดกับไคท์  “  เจ้าต้นดอกแดงใบน้ำตาลนี่แก้พิษได้มั้ย” 
    “  นั่นมันยาพิษขนานเอกเลยนะครับ  เพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้นก็ถึงตายเลย”  ยีนส์พูดตัดหน้าไคท์ไป  เขาหันไปมองอย่างอึ้ง ๆ ทำให้ลีดูไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก
    “  ฉันไม่ได้ถามนาย”  ยีนส์หน้าถอดสี
    “  ไม่เอาน่ะลี  ว่าแต่นายเนี่ยก็เก่งนะ”  ไคท์หันไปปรามลีก่อนที่จะชมยีนส์
    “  แหะ  แหะ  ขอบคุณครับ” 
    “  ว่าแต่ครบรึยัง”  ราเดนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
    “  อืม...ขาดอีก  3  ชนิด”  ไคท์ตอบแล้วทำหน้าครุ่นคิด  “  ไม่ใช่วิชาถนัดของฉันซะด้วย”
    “  เอ๋  3  ชนิดเหรอครับ  ลองดูของผมไหม  เผื่อว่าจะมีไม่ซ้ำกันบ้าง”  ยีนส์ยื่นสมุดโน๊ตให้ไคท์  ลีชักจะรำคาญกับคำพูดที่เสนอตัวอยู่ตลอดเวลา  แต่ราเดนมองเขาอย่างสนใจ
    “  ขอบใจ...”  ไคท์ค่อย ๆ สำรวจดูทีละหน้าแล้วจดลงไปด้วย  ไม่นานนักเขาก็คืนสมุดให้
    “  ครบไหมครับ”  ยีนส์ถามขึ้นแผ่วเบา
    “  อืม  ครบถ้วนสมบูรณ์  คงส่งได้แล้วล่ะ  ขอบใจนะ”  ยีนส์ยิ้มหน้าบาน
    “  ด้วยความยินดีครับ”  ไคท์เดินไปส่งงานที่อาจารย์มีล  ทิ้งให้ยีนส์อยู่กับลีตามลำพัง
    “  นี่นาย”  ลีพูดห้วน ๆ กับยีนส์  เขาหันมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
    “  คะ...ครับ  มีอะไรครับ” 
    “  นึกไงมาอยู่กลุ่มนี้  มีจุดประสงค์อะไรรึเปล่า”  ลีตัดสินใจถามขึ้น  ราเดนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่จึงเงยหน้าขึ้นมามอง
    “  ปะ...เปล่าครับ  ผมแค่ไม่มีกลุ่มอยู่ก็เลย...”  เขาสั่นเล็กน้อย  ลีจ้องเขาตาไม่กระพริบ
    “  งั้นแล้วไป  ถ้านายมีจุดประสงค์อย่างอื่นล่ะก้อ...”  ลีขู่  ส่วนยีนส์หลับตาปี๋
    “  นายทำอะไรอยู่น่ะ  ลี”  ไคท์ที่กลับมาแล้วถามขึ้น
    “  เปล่า  แค่กระชับสัมพันธไมตรีกันก็แค่นั้น  ใช่มั้ย  ยีนส์”  ลีหันไปแยกเขี้ยวใส่ยีนส์
    “  ครับ  มะ...ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ”  ยีนส์พยักหน้าหงึกหงัก
    “  อืม  นี่งานเสร็จแล้ว  กลับปราการกันเถอะ”  ไคท์ชวน
    “  หือ  กลับได้เลยเรอะ”  ลีทำตาลุกวาว
    “  อือ  ไปกันรึยัง”  ไคท์ถามอีกครั้ง  ลีกระโดดผลุงแล้วหยิบกระเป๋า  ราเดนลุกขึ้นยืนแต่ตายังดูหนังสืออยู่  เมื่อพวกเขาเดินออกไปแล้ว  ยีนส์ก็ค่อย ๆ เดินตามมา
    “  ตามมาทำไม”  ลีหันไปแหวใส่  ยีนส์หยุดชะงักก้มหน้าต่ำ   
    “  เฮ้  อย่าเกเรสิลี”  ไคท์ดุลี  เขาจึงหันหน้ากลับ
    “  อย่า...อย่าไปว่าเขาเลยครับ  งั้น...งั้นผมไปนะครับ”  ยีนส์จัดแจงหันหลังเตรียมออกวิ่ง  แต่ไคท์คว้าคอเสื้อเขาไว้ได้ทัน
    “  ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ไปด้วยกันก็ได้  ไปกันแค่  3  คน  เหงาแย่”  ไคท์พูดยิ้ม ๆ ยีนส์หันมายิ้มตอบ  ในขณะที่ลีเริ่มไม่ชอบยีนส์มากขึ้นทุกขณะ  แต่ราเดนก็ยังไม่สนใจ  ได้แต่อ่านหนังสือของเขาต่อ  แต่สายตาของเขาก็เหลือบมามองอยู่บ้างเป็นระยะ
    “  ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”  ไคท์กอดคอยีนส์ไปด้วย  เขายิ้มแหย ๆ เพราะสายตาอาฆาตของลีที่สาดส่องมาจนน่าขนลุก
    “  อะ...คะ...ครับ”  เขาเดินไปกับไคท์  เมื่อลับสายตาของลีแล้ว  ราเดนเริ่มมองเขาเขม็ง
    “  นี่ ๆ สะกดอารมณ์ซักนิดนะ”  ว่าแล้วเขาก็เดินไป  แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็...
    ตึง !!!  โครม !!!
    เขาหันหลังกลับไป  ลีก็เดินออกมาด้วยหน้าตาเรียบเฉยและมองราเดนด้วยสายตาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้วเดินจากไป  ราเดนตัดสินใจไปดูที่ ๆ ลีออกมาก็ต้องกุมขมับ  เพราะเขาเล่นชกต้นไม้โค่นไปหนึ่งต้น
    “  ให้ตายสิ  อุตสาห์บอกให้ใจเย็น ๆ แล้วนะ” 
    ที่ห้องอาหารของปราการนักรบมีเพียงพวกเขา  4  คนเท่านั้นที่อยู่ในห้อง  เนื่องจากยังไม่มีใครเรียนเสร็จ  ไคท์นั่งกินอาหารไปด้วยคุยกับยีนส์ไปด้วยทิ้งให้ลีนั่งเงียบแข่งกับราเดนที่ไม่พูดไม่จาซักคำ 
    “  พูดถึงว่านายก็เรียนเก่งนี่นา  ทำไมไม่มีใครเอานายเข้ากลุ่มล่ะ”  ไคท์ถามยีนส์ที่กำลังนั่งกินอาหารของเขาอย่างมีมารยาท
    “  คือ...เขาว่าผมเป็นส่วนเกินของปราการเพราะไม่เอาไหนด้านการรบน่ะครับ”  ยีนส์หน้าจ๋อยไป  แต่ไคท์ตบหลังยีนส์เบา ๆ ในเชิงปลอบใจ  ตอนนี้ช้อมส้อมในมือของลีกำลังสั่นด้วยความโกรธ  ราเดนเริ่มมองลีด้วยสายตาหวาด ๆ
    “  แล้วจะเอายังไงต่อ  ไม่ต้องเรียนตั้ง  2  วิชา”  ราเดนเอ่ยขึ้นเพื่อไม่ให้ไคท์และยีนส์คุยกันมากไปกว่านี้
    “  ไปห้องสมุดมั้ย  ฉันกะจะไปหาอะไรอ่านเล่น”  ไคท์เสนอ
    “  ผมไปด้วยได้มั้ย...ครับ”  ยีนส์ค่อย ๆ พูดแล้วเหลือบมองลีที่ส่งสายตาหงุดหงิดมาให้
    “  ก็ไปด้วยกันสิ”  ไคท์ยิ้มนิด ๆ
    ปึ้ง !!!!  ลีทุบโต๊ะก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องอาหาร  ไคท์จึงรีบถามขึ้น
    “  เฮ้ ! ลีไปไหนน่ะ  ไม่ไปห้องสมุดด้วยกันรึ” 
    “  ไม่เอา  ฉันจะไปเดินเล่นข้างนอก  ราเดนนายไปกับฉันหน่อยสิ”  ลีหันไปชวนราเดน
    “  ...ก็ได้”  ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นและเดินตามลีออกไปข้างนอก
    “  อะไรของเขานะ  เอ้า ! ยีนส์จะไปด้วยกันรึยัง”
    “  อ้ะ  ครับ”  ว่าแล้วเขาก็รีบลุกพรวดตามไคท์ไปยังห้องสมุด
    ที่ห้องสมุดมีนักเรียนของแต่ละปราการบางส่วนกำลังนั่งอ่านหนังสือด้วยความเงียบ  เมื่อพวกเขาเข้าไปกลับเป็นเป้าสายตาของทุกคนในห้อง  พร้อมกับเสียงซุบซิบที่เกิดขึ้นอย่างแผ่วเบา
    “ เฮ้  งวดนี้เพื่อนเขาหายไปไหนกันหมดน่ะ”
    “  ไม่รู้สิ  แต่หมอนั่นคือไอ้อ่อนประจำปราการนักรบนี่หว่า”
    “  เออใช่  ทำไมมันถึงมาอยู่กับไคท์ได้วะ”  ไคท์เริ่มมองไปทั่วห้องสมุดแล้วก็ไม่เห็นอาจารย์บรรณารักษ์ซักทีเลยตะคอกออกไปเพื่อให้ได้ยินกันทุกคน
    “  ห้องสมุดมีไว้อ่านหนังสือ  ไม่ใช่มานั่งจับผิดชาวบ้านที่เข้ามากัน  ใครที่มีหนังสืออยู่อ่านไปเลยนะ  ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมาถ้ายังอ่านไม่จบ  ส่วนพวกที่กำลังหาหนังสือก็รีบ ๆ หาซะ  แล้วไปอ่าน”  เมื่อสิ้นคำสั่งทุกคนก็ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือของตนเองไป  บางคนเหงื่อแตกพลั่ก ๆ ส่วนยีนส์กำลังมองไคท์อย่างทึ่ง ๆ ก่อนที่จะเดินตามเขาไป
    “  นายหาอะไรอ่านน่ะ”  ไคท์ถามยีนส์ที่กำลังเลือกหนังสืออย่างหนักใจ
    “  ผมหาหนังสือเกี่ยวกับการสงครามไม่เจอเลยครับ”  ยีนส์ถอนหายใจ
    “  เหรอ  อ๊ะ  นี่ไง”  ไคท์เอื้อมมือออกไปหยิบหนังสือวิชาสงครามล้างอาณาจักร  แต่ทันทีที่เขาจับหนังสือกลับรู้สึกปวดหัว  เขาเอามือกุมหน้าผาก
    “  เป็นอะไรรึเปล่าครับ”  ยีนส์หน้าซีด  เมื่อรู้สึกค่อยยังชั่วแล้วเขาจึงตอบยีนส์
    “  อืม  แค่ปวดหัวนิดหน่อย”
    “  ไปห้องพยาบาลไหมครับ”  ยีนส์ถามด้วยสายตาที่ราวกับว่าจะร้องไห้ออกมา
    “  ไม่ต้องหรอก  หายแล้วล่ะ  ไปนั่งตรงนั้นกันนะ”  ไคท์เดินนำยีนส์ออกไปนั่งที่ม้านั่งด้านหลังสุดซึ่งไม่มีคนนั่งอยู่เลย
    “  อ้าว  ไคท์มาอยู่นี่เอง”  ไคท์หันขวับ
    “  เอรีน  ไงเลิกเรียนแล้วเหรอ”  ยีนส์มองหน้าของทั้ง 2 คน สลับกันไปมา
    “  เอ่อ...สวัสดีครับ” เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ เอรีนหันมายิ้มละไม
    “  อืม  สวัสดีจ้ะ  ไคท์เพื่อนใหม่เหรอ”
    “  ใช่  เขาชื่อว่ายีนส์  อาร์โคเวอดอร์”  ไคท์แนะนำยีนส์ให้เอรีนรับรู้  เธอจึงพยักหน้ารับ
    “  อ่านหนังสืออะไรกันอยู่น่ะ”
    “  อ๋อ  รูนน่ะ”  ไคท์ตอบ
    “  แล้วของเธอล่ะจ้ะ”  เอรีนหันไปถามยีนส์
    “  เอ่อ...เรื่องสงครามล้างอาณาจักรน่ะครับ”  เขาตอบตะกุกตะกัก
    “  เธอชอบเหรอ”  เอรีนนั่งลงข้างไคท์แล้วถามยีนส์ต่อ
    “  อ่า...ครับ”  ยีนส์ตอบด้วยความเก้อเขิน
    “  แล้วเธออ่านหนังสืออะไรน่ะ”  ไคท์ถามเอรีน
    “  อ๋อ  ฉันมาจัดหนังสือน่ะ  วันนี้เป็นเวรพอดี”  เธอยิ้มและคุยกับไคท์อย่างสนุกสนาน  ยีนส์มองดูพวกเขาทั้งคู่ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
    “  อ้าว  จะกลับแล้วเหรอ”  ไคท์ทักยีนส์ที่กำลังลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ
    “  ครับ  ผมมีธุระต่อน่ะครับ”  ยีนส์ตอบเบาๆ แต่ความจริงแล้วเขาไม่อยากเป็นก้างขวางคอของไคท์และเอรีน
    “  จะให้ไปส่งไหม”  ไคท์ถามขึ้นอีก  ยีนส์ส่ายหน้า
    “  ไม่ต้องหรอกครับ  ไปก่อนนะครับ”  ว่าแล้วเขาก็รีบเดินออกจากห้องสมุดไป
    “  นี่ ๆ ดูไปแล้วยีนส์นี่น่าจะขี้อายนะ”  เอรีนออกความเห็น
    “  อืม  รู้สึกว่าจะนั่งนานแล้วสิ  กลับกันรึยัง” 
    “  ไปสิ”  เอรีนลุกขึ้นมาแล้วเดินตามไคท์ไป
    เมื่อเดินกันไปเรื่อย ๆ ตามปราการกลาง  ไคท์ก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังออกมาเบาๆ เขาจึงหยุดเดินแล้วตั้งใจฟัง
    “  มีอะไรเหรอ”  เอรีนถามขึ้น  แต่ไคท์เอานิ้วชี้แตะปากเป็นเชิงให้เงียบ
    “  เธอกลับปราการไปก่อนนะ”  ว่าแล้วเขาก็ฝากหนังสือให้เอรีนแล้วเดินตามเสียงไป  เอรีนรู้สึกว่าท่าไม่ดีเธอเลยไปหาพวกของลีแทน  ทางด้านไคท์ที่กำลังเดินไปตามเสียงก็ได้มาพบกับต้นตอของเสียง  และพบกับยีนส์ที่อยู่ในวงล้อมของคนในชุดดำที่มีกันอยู่ราว ๆ 5-6 คน
    “  เฮ้ย  นับวันมันชักจะทำตัวน่ารำคาญขึ้นทุกวันแล้วนะนาย”  หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
    “  ผม...ไปทำอะไรให้พวกขึ้นเหรอครับ”  ยีนส์ค่อย ๆ ถามขึ้น
    “  เหอะ  ตลกว่ะ  อย่ามาทำไม่รู้เรื่อง  นายเป็นคนแพร่งพรายข่าวเรื่องที่เราจะลอบทำร้ายลี  เคลน๊อตใช่มั้ยล่ะ”
    “  ผมไม่รู้อะไรเลยนะครับ”  ยีนส์เริ่มโต้ขึ้น  แต่เขากลับคิดผิดเพราะเขากลับได้รับหมัดกลับมาแทนคำพูด
    “  เงียบไปเหอะ  อย่าปากดีให้มันมากนัก”  คนที่ชกเขาพูดขึ้น
    “  ก็ผมไม่รู้จริง ๆ นี่ครับ”  ยีนส์พูดขึ้นอีกครั้ง  แต่เสียงดังกว่าเดิม
    “  ไอ้หมอนี่มันน่านัก  เฮ้ย  พวกเราจัดการ”  ว่าแล้วคนชุดดำทุกคนก็เริ่มรุมยีนส์  ไคท์ที่เห็นดังนั้นก็ออกมาจากที่ซ่อนแล้วเข้าไปกระชากคนชุดดำออกมาคนนึง
    “  อย่าทำแบบนี้นะ”  ไคท์ห้าม  แต่พวกนั้นกลับไม่ฟังและเถียงกลับมา
    “  ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”  ว่าแล้วก็หันไปรุมต่อ  ไคท์จึงชกหน้าคนพูดไปหนึ่งหมัด  ทำเอาหมอนั่นถึงกับสลบในหมัดเดียว
    “  มันจะมากไปหน่อยนะ”  ยีนส์มองไคท์ด้วยสายตาเป็นกังวลที่สุด
    “  คุณไคท์ครับ  เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ  กรุณาไปเถอะครับ”  แต่ไคท์ไม่ขยับไปไหน
    “  เฮ้ย ! ไอ้พวกชอบใช้กฎหมู่ถ้าคิดว่าแน่จริงกันนักล่ะก็  ดาหน้ากันเข้ามาเลย”  ไคท์ท้า  เขายืนกันยีนส์ไว้ข้างหน้าแล้วสู้กับบุคคลชุดดำเหล่านั้นแทน
    ทางด้านลีที่กำลังระบายอารมณ์กับน้ำแข็งของราเดนอย่างหนักและบ้าคลั่ง  ก็ต้องชะงักกับเสียงเรียกของเอรีนเข้า
    “  เอ่อ...คุณลี  คุณราเดนคะ  คือว่า...”  ลีหันหน้ามาช้าๆ พร้อมกับราเดนที่ยืนขึ้นมา
    “  มีอะไรเหรอ”  ราเดนถามเบา ๆ
    “  เอ่อ...คุณไคท์เขาไปไหนของเขาก็ไม่รู้น่ะค่ะ”  เอรีนพูดอย่างระมัดระวัง  แต่ลีหัวเราะ
    “  ช่างมันเหอะ  พวกมันคงไปไหนต่อไหนด้วยกัน  2  คน ล่ะมั้ง”
    “  ลี...”  ราเดนปราม
    “  เอ่อ...แต่ฉันว่าคงไม่ใช่  เพราะว่ายีนส์เขาได้กลับไปก่อนที่คุณไคท์จะกลับน่ะค่ะ  แล้ว...”  เธออ้ำอึ้ง  ลีจึงหันหน้ามาทางเอรีน
    “  อะไร...เกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่นรึ”  ตอนนี้ราเดนเตรียมไม้เท้าของเขาไว้แล้ว
    “  รู้สึกว่า...จะมีเรื่องกันน่ะค่ะ  แล้วคุณไคท์ก็เข้าไปจัดการคนเดียว”  เอรีนพูดจบ  ลีจึงสบถขึ้นมา
    “  บ้าเอ๊ย !  ราเดน  ไปกันเหอะ” 
    “  หมอนั่นอยู่ทางทิศไหน”  ราเดนถามเอรีน
    “  เอ่อ...เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่ทราบเพราะอยู่ ๆ คุณไคท์ก็วิ่งออกไปเลย”
    “  นายใช้วาร์ปไม่ได้รึไง”
    “  ต้องรู้ทิศ...”  ราเดนตอบเสียงเย็น
    “  ให้ตายสิ  หมอนั่นวิ่งไปทางไหนของห้องสมุด”  ลีถามเอรีนเสียงเครียด
    “  น่าจะเป็นทางทิศใต้ค่ะ”  เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วลีและราเดนก็รีบวิ่งเข้าไปในปราการกลางทันที  ลีวิ่งด้วยความเร็วสูงปานพายุ  ในขณะที่ราเดนก็กำลังตามมาติด ๆ
    “  คุณไคท์ !!  ไม่เป็นไรนะ”  ยีนส์ตะโกนเมื่อไคท์พลาดท่าถูกซัดเข้าไปหนึ่งหมัด
    “  ไม่เป็นไร  นายล่ะ”  ไคท์หันไปถามยีนส์ 
    “  ผมไม่เป็นไร  คุณไคท์  ข้างหน้า !!!”  ไคท์รีบหันไปตั้งการ์ดทันที  แต่เขากลับรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง  คราวนี้หนักกว่าเดิมมาก
    “  บ้าชิบ  มาปวดอะไรตอนนี้เนี่ย”  เขาพึมพัมขึ้นมา 
    “  คุณไคท์  พอเถอะครับ  ผมโดนเอง”  ยีนส์เตรียมที่จะลุกขึ้นมาลากไคท์ออกมา
    “  ไม่ต้อง  นายอยู่นั่นแหละ”  ไคท์หันไปตอบกลับ  เขาพยายามจะสู้ต่อ  แต่ก็ต้องลงไปทรุดนั่งอีกครั้ง
    แปล๊บ ! แปล๊บ !
    “  บ้าเอ๊ย  มันหนักขึ้นเรื่อย ๆ นี่มันอะไรน่ะ”  เขาพึมพัมขึ้นมาเพราะตอนนี้ในหัวเขามีภาพต่าง ๆ วิ่งเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว  ยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งปวดมากขึ้น  เขาพยายามฝืนแต่สติของเขามันเริ่มเรือนรางเสียแล้ว
    “  คุณไคท์  ระวัง !!!”  ยีนส์ตะโกนก้องเมื่อหนึ่งในบุคคลชุดดำใช้ท่อนไม้ท่อนหนึ่งฟาดเข้ามาที่ท้ายทอยของเขา  ไคท์กำลังจะตั้งการ์ด  แต่ไม่ทันเสียแล้ว  เขาโดนเข้าไปเต็ม ๆ
    “  หนี...ไป...ซะ...”  เมื่อสิ้นสุดคำพูดไคท์ก็ล้มลงไป  พวกคนชุดดำพากันหัวเราะ
    “  เฮ้ย  ไม่เท่าไหร่นี่หว่า  กระจอกกว่าที่คิดไว้นี่”
    “  อย่า...ดูถูกเขานะ”  ยีนส์พูดพลางก้มหน้า
    “  อ้อ  ไม่ได้เรื่องด้วย  ไม่รู้ว่าได้รับตำแหน่งได้ยังไง”  อีกคนหนึ่งพูดขึ้นเพื่อยั่วโทสะ
    “  ฉัน...บอกว่า...อย่า...ไง” 
    “  เหอะ  งี่เง่า”  หนึ่งในนั้นพูดแล้วเอาเท้าข้างหนึ่งวางไว้บนตัวของไคท์
    “  มันจะมากเกินไปแล้วนะ !!!”
    วูบ !!!  เสียงของลมที่ดูเหมือนจะถูกแทรกด้วยบางสิ่งบางอย่างที่เร็วเหนือลม  ลีได้วิ่งตามเสียงของยีนส์  จนมาถึงด้านหลังของปราการและเขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพข้างหน้าของเขา  ราเดนที่วิ่งตามมาติด ๆ ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนก้มหน้าอยู่กลางวงของเหล่าคนชุดดำที่ลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น  บางคนถึงกับสลบไปกับพื้น  ชายหนุ่มคนนั้นกำลังค่อย ๆ เอื้อมมือไปพยุงไคท์ให้ลุกขึ้นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีดเล่มหนึ่งบินผ่านหน้าของเขาไป
    เฟี้ยว !!!  ฉึก !!!
    “  อย่าขยับจะดีกว่านะ  ถอยออกมาเดี๋ยวนี้”  ลีกล่าวเตือน  ในมือของเขามีมีดสั้นไม่ต่ำกว่า  5  เล่ม  ในมือของเขา
    “  มาแล้วหรือ”  ชายหนุ่มพูดขึ้นแล้วหันหน้ามาช้า ๆ ลีและราเดนก็ต้องอึ้งกันไปอีกครั้ง
    “  นาย...”  ราเดนพึมพัมขึ้นมา
    “  ยีนส์  นายทำอะไรกับเจ้าพวกนั้นน่ะ”  ลีตะโกนออกมา  ยีนส์กำลังจับแขนของไคท์ข้างหนึ่งเพื่อให้เขาลุกขึ้น  เขาหน้าเหมือนยีนส์มาก  เพียงแต่มีนัยน์ตาสีดำสนิท
    “  ไม่ใช่...”  เขาเปิดปากพูดกับลี
    “  หมายความว่าไง”  ลีถามขึ้นอีก  ตอนนี้ชายหนุ่มในร่างยีนส์ได้เอาแขนของไคท์มาพาดไว้บนบ่าเรียบร้อยแล้ว
    “  ฉัน...ไม่ใช่ยีนส์...”
    “  แล้วนายเป็นใครกันแน่”  ราเดนพูดออกมาด้วยสายตาเคร่งเครียด  เพราะฟังจากคำพูดที่ออกมาจากปากของเขาแล้ว  มันต่างกันคนละขั้ว
    “  ฉันคือ  มาร์ติน  อาร์โคเวอดอร์  อีกตัวตนหนึ่งของยีนส์  อาร์โคเวอดอร์”  ลีถึงกับอ้าปากค้างกับคำตอบของชายที่ชื่อมาร์ติน
    “  นาย...เป็นอีกบุคลิกหนึ่งของหมอนี่ยังงั้นรึ”  มาร์ตินส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเดินมาทางลีและราเดนอย่างช้า ๆ
    “  ไม่เชิง  เพราะทั้งฉันและเขาสามารถรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้  แม้ว่าจะหลับอยู่”
    “  จิตสัมพันธ์...”  ราเดนเอ่ยขึ้นเบา ๆ
    “  ทำนองนั้น  นี่  พวกนายช่วยพาเขาไปที่ห้องพักได้มั้ย”  มาร์ตินนำร่างของไคท์ส่งให้ลี  เขารับอย่างแผ่วเบา
    “  จะกลับปราการด้วยกันรึเปล่า”  ลีชวนมาร์ตินที่กำลังหันหลังกลับ
    “  ถ้าฉันกลับไปในสภาพนี้  ความแตกแน่”
    “  ไปกับพวกฉันสิ  อีกอย่างฉันมีอะไรหลาย ๆ อย่างจะถามนาย”  มาร์ตินหันมามองหน้าลี  เป็นเชิงหยั่งใจ  ก่อนที่จะเดินเข้าไปในวงเวทย์มนต์ของราเดน 
    “  วาร์ป  ทู  เวท”  ราเดนร่ายเวทย์  สักพักพวกเขาก็มาอยู่ที่ปราการนักรบที่ไม่มีใครอยู่ในห้องโถงอีกแล้ว  พวกเขาจึงไปที่ห้องแล้วนำร่างของไคท์นอนลงบนเตียง  และไปยืนคุยกันที่ระเบียง
    “  นี่นายกำลังจะบอกว่า  เป็นพวก  2  บุคลิกรึไง”  ลีตัดสินใจพูดขึ้นก่อน
    “  ก็คงใช่  ฉันไม่มั่นใจนักหรอก”  มาร์ตินเอ่ยขึ้นเบา ๆ
    “  เป็นมานานเท่าไหร่แล้ว”  ราเดนถามขึ้นอีก
    “  ประมาณ  10  ขวบ  ฉันเริ่มรู้ตัวว่าหลับใหลอยู่ในจิตใจของหมอนี่”
    “  แล้วมีใครรู้ความลับนี้นอกจากพวกเราบ้าง”
    “  มีแค่ยีนส์คนเดียว”
    “  งั้นไคท์ก็ยังไม่รู้น่ะสิ”
    “  เขาสลบไปก่อน”  ลีถอนหายใจยาว
    “  ความลับสุดยอดเลยล่ะมั้งเนี่ย”
    “  แน่ล่ะ  แล้วคิดจะบอกไคท์รึเปล่า”  ราเดนหันไปปรึกษาลี
    “  คงต้องบอก  แต่ต้องให้หมอนั่นฟื้นก่อน”  มาร์ตินมองออกไปข้างนอก  แล้วประสานสายตากับเหยี่ยวตัวหนึ่ง
    “  นั่น...อันตรายรึเปล่า”  เขาชี้ไปทางอีเกิ้ลที่มองอยู่ห่าง ๆ ลีและราเดนจึงหันไปมอง
    “  ไม่หรอก  นั่นอีเกิ้ล  นกของไคท์”  ลีอธิบายให้มาร์ตินฟัง  เขาพยักหน้าหงึกหงัก
    “  แล้วเจ้าพวกนั้นฝีมือนายรึเปล่า”  ราเดนหันไปคุยกับมาร์ตินต่อ
    “  อืม  ใช่  ฉันเปลี่ยนจิตกันตอนที่ไคท์หลับไปแล้ว”
    “  งั้นรึ”
    “  แสดงว่านายเก่งทางด้านการรบไม่เบาน่ะสิ”  ลีเริ่มพูดขึ้นอีกครั้ง
    “  คงงั้น”
    “  แล้วทำไมไม่เปลี่ยนร่างกันตอนที่เรียนวิชาการรบ”
    “  ยีนส์ไม่อนุญาต”  มาร์ตินตอบง่าย ๆ
    “  โฮ่  ต้องอนุญาตกันด้วย”  ลีเกาหัวแกรก ๆ
    “  ฉันว่านายกลับห้องไปก่อนดีกว่า  พรุ่งนี้ค่อยมาบอกไคท์”  ราเดนพยักหน้าให้มาร์ตินกลับห้องไปก่อน  เขาจึงเดินออกจากห้องไป
    “  นายว่าไง”  ลีถามความเห็นจากราเดน
    “  ไม่มีประสงค์ร้าย  อีกอย่างหมอนั่นท่าทางอยากจะปกป้องไคท์ซะด้วย”
    “  อืม  งั้นฉันไปเดินเล่นก่อนนะ”  ลีเดินออกจากห้องไปอีกคน  ราเดนมองไปที่เตียงของไคท์ซักพักก่อนที่จะเดินตามลีออกไป  อีเกิ้ลจึงบินเข้ามาในห้องอีกครั้ง  มันเกาะอยู่บนหัวเตียงของไคท์แล้วมองนายของมันด้วยนัยน์ตาที่คมกริบ
    “  อดทนอีกนิดเดียวนะครับ  นายท่าน”  และมันก็บินออกไปสู่ท้องนภา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น