ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Exo Fic] Before I Decay : KaiDo

    ลำดับตอนที่ #6 : ep.05

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 952
      2
      25 ม.ค. 56

    #มาพักสมองกัน









    5

     

     

     
     

     

    ถ้าเลือกได้......  คยองซูจะไม่มองไปที่จงอิน......

     

    ถ้าเลือกได้...  คยองซูจะรู้สึกกับจงอินแค่น้องของเพื่อน....

     

    ถ้าเลือกได้.......   ถ้าเลือกได้....................

     

     

    แต่ทุกอย่างมันเลือกไม่ได้....    เขาถึงต้องเจ็บช้ำถึงขนาดนี้...

    นอนร้องไห้ให้กับความโง่เง่าครั้งแล้วครั้งเล่ากับตัวเอง.....

     

     

     

    ผิดเองที่อ่อนแอเกินไป

    ผิดเองที่ใจง่ายเกินไป

    ผิดเองที่ดิ้นรนวิ่งเข้าไปในธารน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ ที่คอยกัดกินลมหายใจไปทีละน้อยอย่างไร้ความปราณี....

    .....

     

     

    บางทีคยองซูก็อยากจะไร้ความรู้สึกเหมือนตุ๊กตา เหมือนหุ่นเชิดที่ไม่มีชีวิต

     

    แต่คยองซูมีชีวิต...  มีจิตใจ....    จึงต้องเจ็บปวดปางตายเมื่อถูกทำร้ายอย่างเย็นชา

     

     

    ดวงตากลมนอนมองนาฬิกาติดพนังที่บอกเวลาห้าโมงเช้าของอีกวัน...

    สภาพเตียงยับยู่ยี่และคราบไคลทุกอย่างยังแสดงหลักฐานชัดเจนมาเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

     

     

    คยองซูยันกายที่อ่อนล้าขึ้นอย่างช้าๆ....    ถึงแม้จะปวดร้าวไปทั่วร่างโดยเฉพาะส่วนล่างของลำตัว

    เขาก็จะทำเหมือนไม่มีอะไร..  

     

     

    ยืนขึ้นสิคยองซู...  ชีวิตมันเลือกไม่ได้หรอกนะ...  ถ้าอยากโดนทำร้ายนักก็นอนรอเขาสิ

    อีกไม่นานจงอินก็กลับมา  กลับมาเหยียบเขาให้จมลึกลงไปถึงนรกชั้นล่างสุด

     

     

    แต่ก่อนที่จะตายทั้งเป็น  คยองซูขอชีวิตให้ตัวเอง.....

    อยากเข้มแข็ง    อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าไม่ได้ชนะเขาเสมอไป...

    แค่ให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงแม้จริงๆเขาจะพ่ายแพ้เสมอเมื่อต้องเจอกับอีกฝ่ายก็เถอะ

     

     

    ....

    ...

    .

     

     

    “เป็นไงมั้ง”  ทันทีประตูห้องของแบคฮยอนออก  คำถามแรกก็พุ่งออกมาจากปากเจ้าของทันที

    คยองซูยิ้มให้บางๆก่อนเดินตามเจ้าของห้องเข้าไป

     

     

    ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันธรรมดาแต่วันนี้ไม่มีเรียน คยองซูจึงมาทำรายงานที่ห้องแบคฮยอนแทน

    คยองซูหยิบหนังสือที่กระจายอยู่บนโซฟาไปวางไว้บนโต๊ะ

     

     

     

    “ชานยอลละ”   เอ่ยถามถึงเพื่อนอีกคน เพราะตั้งแต่ก้าวเดินเข้ามา

    เขายังไม่เห็นเพื่อนตัวสูงเลย

     

     

    “เหอะ  มันเพิ่งตื่นตอนแบคโทรไปปลุกเมื่อกี้” พูดพลางหอบหนังสืออีกกองมาจากห้องนอนตัวเอง

    คยองซูจึงลุกขึ้นไปรับหนังสือบางส่วนจากแบคฮยอน

     

    “ว่าแต่คยองซูกินข้าวมาหรือยัง” 

     

    “ยังเลย”  แบคฮยอนพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนกวักมือเรียกคยองซู

     

    “มากินข้าวก่อนดิ เดี๋ยวก็เป็นลมหรอก.... “ เดินนำคยองซูเข้าไปในห้องครัว ก่อนเปิดตู้เย็น

     

     

    “จะกินอันไหนอะ”  หันมาถามคยองซู

     

     

    “อันไหนก็ได้”   แบคฮยอนพยักหน้ารับก่อนจัดการนำอาหารแช่งแข็งเข้าไปในเวฟ

     

     

    “กินแต่อะไรแบบนี้หรือไงนะ  หัดทำอาหารใหม่ๆกินเองบ้างสิ” คยองซูพูดขึ้น

    เมื่อมองเข้าไปในตู้เย็นที่เต็มไปด้วยอาหารแช่แข็งของแบคฮยอน

     

    แบคฮยอนยักไหล่อย่างไม่แคร์  ก่อนเดินมานั่งตรงข้ามคยองซู

     

     

    “ย้ายมาอยู่กะแบคสิ    มาทำกับข้าวให้แบคกิน”

     

     

    “แบคฮยอนอ่า..........”   เอ่ยเสียงอ่อนเมื่อพูดไปมา แบคฮยอนก็ชวนให้มาอยู่ด้วยกัน

    มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว  แต่หลายครั้งแล้วที่แบคฮยอนพยายามชวนเขามาอยู่ด้วย

     แต่คยองซูไม่อยากรบกวนเพื่อน

    เลยต้องปฏิเสธไปทุกครั้ง.....   

     

     

    ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทกัน  แต่เขาก็คิดว่าทุกคนคงอยากมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง

    รวมทั้งเขาด้วย

     

     

    “คยองซู.........  “ 

     

     

    “อะไร?”

     

     

    “จะไม่ถามหรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น... แต่ถ้ามันถึงขีดสุดแล้วไม่ยอมบอก

    ... จะจัดการให้เองโดยที่คยองซูไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง”.........     

    เขาคิดว่าวันนี้เขาจะรอด.... แบคฮยอนไม่น่าจะรู้อะไร....

     

    ทำไมละ... วันนี้เขาอุตสาห์เข้มแข็งแล้วนะ   แบคฮยอนมองเห็นอะไรในตัวเขา..

    เขาไม่อยากให้ใครต้องมาลำบากเพื่อเขา...

    คยองซูอยากยืนด้วยขาตัวเอง   พาตัวเองผ่านเรื่องที่เลวร้ายนี้ไปให้ได้

    เพื่อเป็นคนใหม่ที่จะไม่อ่อนแออีก.......

     

     

    อ่า... พยอนแบคฮยอน  อย่าเป็นห่วงเราเลย..   เราทนได้

     

     

    ..

    .

     

     

     

    “ไอ้หูกาง... กูบอกให้แก้หน้านี้.  หน้านี้ๆๆ มึงเข้าใจม้ายยยยยย”  เสียงเอะอะโวยวายของแบคฮยอน

    ดังลั่นทั่วห้อง... เมื่อเห็นว่าชานยอลที่ไม่ยอมทำตามที่ตัวเองสั่ง

     

    คยองซูเอามือปิดหู ก่อนส่ายหน้าช้าๆ

     

     

    “โอ้ยยไอ้หมาบ้า!  จะตะโกนทำไมวะ หูจะแตก  แล้วทำไมมึงไม่บอกแต่แรก ปล่อยให้กูปริ๊นออกมาอยู่ได้”

    ไม่ยอมรับแถมยังมีโทษอีกฝ่ายกลับ   แบคฮยอนพอได้ยินก็ยิ่งโมโหใหญ่

     

     

    “กูบอกมึงแล้วนะ  แต่มึงทำเป็นหูทวนลม  พูดดีๆเนี่ยไม่ได้ยินใช่มั้ย?  ต้องให้แหกปาก ใช่ม้ายยยยย”

    ตะโกนประโยคสุดท้ายใส่หูชานยอล    จนชานยอลต้องเอามือมาปิดปาก

    ก่อนดึงร่างเพื่อนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด  ก่อนออกแรงรัดอีกฝ่ายไว้ในอ้อมแขนแน่น

     

     

    “ร้องเข้าไป  ตะโกนอีก  รัดเลยม่างงงง   ฮาๆ”   

     

     

    “เจ็บๆ  อ๊ากกกกก  ไอ้บ้าไอ้หูกางงง  กูเจ็บบบบบบบ”  ทั้งร้องทั้งดิ้น     อีกฝ่ายก็ใช้กำลังที่เหนือกว่า

    รัดซะแบคฮยอนแขนแทบหัก

     

    คยองซูได้แต่มองสองคนทะเลาะกันเป็นเด็กๆอย่างขำๆ..

     

    อยู่กับเพื่อนสองคนนี่ทีไร มีแต่เรื่องสนุกๆให้ดูทุกที

     

     

    “ยอมแพ้มั้ย  ยอมมั้ย?”  ยอมไม่ยอมก็ยังออกแรงรัดตัวอีกฝ่าย 

    จากที่ตอนแรกแบคฮยอนดิ้นไปมา ตอนนี้ได้แต่เอนตัวซบแผ่นอกของอีกฝ่ายอย่างหมดแรง

     

     

    “พอแล้วๆ  กูหมดแรงแล้ว..  ยอมก็ยอม” พอจบคำ ชานยอลก็คลายแรงรัด

     

     

    “ซะเมื่อไหร่”  พอชานยอลผ่อนแรง  แบคฮยอนก็อาศัยจังหวะผละออกมาจากอ้อมแขน

    แล้วใช้กำลังที่มีอยู่ทั้งหมดส่งที่ไปเท้า  ออกแรงถีบชานยอลแบบไม่ออมแรง

    จนคนตัวสูงล้มลงไปกองกับพื้น     ก่อนแบคฮยอนจะรีบวิ่งไปหลบหลังคยองซู

     

     

    “โอ้ยยย  ไอ้หมาลอบกัด    แกๆ”  ชานยอลได้แต่นอนกุมท้องอย่างเจ็บปวด

    โดยมีเสียงหัวเราะอย่างสะใจของแบคฮยอนเป็นBGประกอบ

     

     

    “โง่เองอะแก” แลบลิ้นเยาะเย้ยชานยอล..   โดยที่ชานยอลได้แต่ชี้หน้าคาดโทษ

     

     

    “รุนแรงกันจริงๆ”

     

     

    “ก็ไอ้บ้านั่นมันรุนแรงก่อนนี่หว่า...  รัดมาได้  แขนแทบหัก”แบคฮยอนบ่นพลางลูบแขนตัวเอง

    ที่เริ่มแดงขึ้นมาหน่อยๆ

     

     

    “ก็ตะโกนใส่ก่อนทำไมละวะ”  แม้จะนอนเจ็บแต่ปากก็ยังดีอยู่

     

     

    “หาเรื่องรึไง!” ตะโกนกลับไป

     

     

    “เอ้อ!   งานเราเสร็จยังนะ” อยู่ๆคยองซูก็พูดขึ้น   จนเพื่อนสองคนที่ทะเลาะกันอยู่หันมามองหน้าคยองซูพร้อมกัน

     

     

    “ยัง/ยัง”  แถมยังตอบพร้อมเพรียงกันอีกด้วย

     

     

    “ส่งมะรืนนี้ด้วยสิ   รีบๆทำให้เสร็จกันเถอะนะ จะได้ไปเลี้ยงฉลองกัน” จบคำคยองซู 

    ทั้งชานยอลและแบคฮยอนก็เข้าประจำจุดตัวเองในทันที...

    แล้วเริ่มทำงานเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

    .....

    .

    .

     

     

     

     

     

     

     

    โอเซฮุนหันไปมองจงอินที่กำลังเอานิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะตามเสียงเพลงในไอพอด

    หลายวันมานี้ ดูจงอินจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษจนเขารู้สึกแปลกใจ

    แต่ก็ขี้เกียจจะไล่ถามเรื่องราวจากจงอิน  

     

     

    แค่เรื่องตัวเองก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว

     

    “วันนี้กูไปนอนห้องมึงนะ”  จู่ๆก็หันมาบอกเซฮุน     จนเซฮุนทำหน้างงเล็กน้อย

    เพราะหลังจากวันที่ไปเลี้ยงพิซซ่าเขา  มันก็หายหัวไปจากห้องเขาหลายวัน

     

     

    “ไม่กลับไปนอนบ้านละมึง  กูขี้เกียจฟังพี่มึงด่า” แม้จะไม่ได้ฟังเสียงด่ามาหลายวัน

    แต่ก็ไม่อยากได้ยินอีก  เสียงพี่ชานยอลโคตรดุอะ  แค่พูดเฉยๆยังเสียงทุ้มใหญ่จนนึกว่าโดนด่าทุกที

     

     

    “ปิดเครื่องสิ”  พูดง่ายแต่ทำยากนะครับเพื่อน

     

     

    “เรื่องสิ....”

     

    “อะไร... แค่นี้ช่วยเพื่อนไม่ได้”  ยังมีหน้ามาทวงความเป็นเพื่อน...  ไอ้ตัวปัญหาเอ้ยยย

     

     

    “หรือมึงซุกหญิงไว้ที่ห้อง??”    ถ้ามีก็ดีดิ   อย่าพูดดิวะ กูจะร้องไห้แล้วนะ

     

     

    “จะไปก็ไป   แต่วันนี้กูไม่อยู่ห้อง เชิญมึงเสพสุขกะห้องกูไปเลย”   จบคำ จงอินมองหน้าเซฮุนอย่างสงสัย

     

     

    “แล้วมึงจะไปไหน?”     ถามคำถามตอบยากอีกละ

     

     

    “กูก็มีธุระของกูบ้างนะไรนะ  อย่าเสือกทุกเรื่องจะได้มั้ยครับคุณคิมจงอิน” จงอินจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ

     

     

    “มีความลับนะมึงๆ “  ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่จงอินก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ

    เซฮุนจึงสงบปากสงบคำ แล้วหยิบตำราเรียนวิชาต่อไปขึ้นมาดู..

     

     

     

    บางทีโลกเรามันก็วุ่นวายเกินไปจริงๆ  

    จนเซฮุนอยากพาร่างไปพักที่ไหนสักที่... ที่ๆผ่อนคลายแล้วได้พักผ่อนอย่างเต็มที่...

    แล้วที่ไหนละ?     ที่เขาจะไปได้.... ในเมื่อตอนนี้เขามีเรื่องยุ่งยากให้ตามแก้

     

     

    แค่คิดว่าเมื่อสองวันที่แล้วว่าตัวเองไปไหนมา...  ก็อยากสลายร่างขึ้นมาทันที

    ไม่น่าเลย.. ไม่น่าเลยจริงๆ   ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่ไปที่วุ่นวายแห่งนั้น

    ที่ๆทำให้ชีวิตเขาพลิกผันจนต้องปวดหัวแบบนี้..

    ..

     

     

    ว่าแต่..  ถ้าเลือกได้จะไม่ไปจริงๆเหรอ..

     

     

    คำนี้มันติดอยู่ลึกในจิตใจ แม้แต่ตัวเซฮุนเองก็ยังไม่รู้เลย..

    ...

    ..

    .

     

     

     

     

    TBC






    #สั้นเหรอ??  เอาน๊าาาา  นิดหน่อยๆนะ อย่าคิดว่า  เหอๆๆ   
    เนี่ยจะมีคู่อื่นอีกนะ  ไม่รู้จะชอบกันหรือเปล่า แต่เราอยากแต่ง...
    อยากผ่อนคลายบ้างไรบ้าง  เดี๋ยวมันจะหนักไป....

    ตอนที่แล้วจงอินโดนด่าจะเปิดเปิงเลยยย สงสารน้องกั้มตัวดำจัง อิอิ 
    แล้วที่มันเป็นแบบนั่นเพราะโดนคนช่วยพรู๊ฟคอมเมนต์มาอะ เลยแก้ไปมาได้แบบนั่นแหละ
    คยองซูเบเบ๋เลยโดนรังแกแบบนั้น...

    อ่านแล้วเมนต์กันได้นะ  ฟิกมันอาจจะไม่ดีมาก แต่คนแต่งก็อยากได้กำลังใจ
    กระซิกๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×