ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bungou Stray Dogs : G O A L (Fanfic : Male Character x Oc)

    ลำดับตอนที่ #4 : CH.3? 「ในฝันนั้นมีเงามืดร่างใหญ่ที่เหมือนจะเขมือบทุกสิ่ง」

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 762
      48
      6 ต.ค. 65

    เงานั้นไล่ล่าเขมือบทุกสิ่งที่ขวางทางมัน มันไล่ตามหญิงสาวที่พยายามดิ้นรนวิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย จนท้ายที่สุด เงานั้นกลายร่างเป็นเงาของมนุษย์ก่อนตาสีแดงฉานจะพุ่งเข้ามา

    "อึก!!!" 

    หญิงสาวนั้นได้ตื่นขึ้นมาพอดิบพอดีจากห้องและเตียงที่เธอคุ้นเคย

    (เมื่อวานนี้พวกดาไซซังจัดปาร์ตี้แล้วเราก็เผลอหลับที่นี่…..)

    “ตื่นแล้วงั้นหรอ?" หมอโยซาโนะหันเก้าอี้มามอง

     

    “คุณหมอโยซาโนะ….อรุณสวัสดิ์ค่ะ…”

     

    “สีหน้าดูไม่ดีเลยฝันร้ายอย่างงั้นหรอ?”

     

    “คงจะเป็นแบบนั้นน่ะค่ะ…แต่ว่าไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ”

     

    “อ่า งั้นหรอ ดูแลสุขภาพหน่อยก็แล้วกันนะ ทำงานที่นี่น่ะป่วนประสาทระดับนึงล่ะนะ…"

     

    “อา รุน สา หวาดดดดด” เสียงร่าเริงของชายผู้พันผ้าผันแผลไปทั่วดังมาจากอีกฟากของประตู

     

    “เอาล่ะ ได้เวลาทำหน้าที่ของเธอแล้ว วันนี้ก็พยายามเข้านะ”

     

    “ค่ะ ขอบคุณที่คอยเฝ้าดูแลอยู่ตลอดนะคะ” ยูซุรุก้มโค้งให้หมอโยซาโนะและเปิดประตูเดินเข้าไปในสำนักงาน

    .

    .

    .
    2 สัปดาห์ต่อมา…

    ยามสายของวันนั้นเองทุกคนต่างทำงานของตนอย่างขมักเขม้น ทางยูซุรุที่เข้ามาทำงานอย่างเป็นทางการในวันนี้เองก็ทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำเสิร์ฟขนมให้กับทุกคน รวมทั้งศึกษางานจากคุนิคิดะอย่างตั้งอกตั้งใจและจับตาดูรัมโปอย่างไม่ละสายตา

     

    “อ่าาา เบื่ออ่ะ ยูซุรุคุง หาเกมอะไรสนุกๆให้เล่นหน่อยสิ” รัมโบที่นั่งตรงโตีะแสดงท่าทีเบื่อหน่ายและเรียกหายูซุรุ

     

    “เอ๋…เอ่อ…งั้น…เล่นไพ่กันมั้ยคะ?” ยูซุรุหยิบกล่องไพ่จากปาร์ตี้เมื่อวานขึ้นมา

     

    “ไม่เอาอ่ะ เมื่อวานก็เล่นกันไปแล้ว”

     

    “งั้นหมากรุก”

     

    “อันนั้นก็เบื่อแล้ว เล่นยังไงฉันก็ชนะอยู่ดี ต้องเป็นเกมอะไรที่คาดเดาไม่ได้สิ เกมที่ไม่ต้องใช้ตรรกะอะไรน่ะ”

     

    (อ๊ะ) ทันใดนั้นยูซุรุก็เหมือนจะปิ๊งไอเดียอะไรบางอย่างขึ้นมา เธอเดินไปยังห้องอีกห้องนึงและกลับมาพร้อมกับกระบอกที่มีแท่งไม้ใส่เอาไว้หลายแท่ง

     

    “ถ้างั้น โอซามะเกม*ล่ะคะ” 

     

    *โอซามะเกม เป็นเกมที่เล่นโดยการสุ่มหยิบแท่งไม้ในกระบอกและจะมีเพียงไม้ 1 แท่งที่มีสัญลักษณ์มงกุฏอยู่ซึ่งคนนั้นจะได้เป็นราชาสามารถออกคำสั่งอะไรกับคนที่เหลือก็ได้ซึ่งจะมีหมายเลขระบุไว้ที่ไม้แต่ละแท่ง ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันอีกว่าราชาจะสุ่มเลือกเลขอะไรทำตามคำสั่งนั้น สามารถสั่งคำสั่งทีเดียวหลายคนได้ เมื่อสั่งเสร็จก็จะจับแท่งไม้สุ่มกันใหม่วนไปเรื่อยๆ เป็นเกมยอดฮิตที่เล่นกันในหมู่วัยรุ่น

     

    “อื้ม อันนี้น่าสนใจดี งั้นเล่นกันเถอะ!” รัมโปแสดงสีหน้าพอใจ

     

    “แต่ว่าจะเล่นตอนนี้เลยหรอคะ ท่านประธานจะไม่ว่าหรอคะ?”

     

    “ก็มันไม่มีอะไรทำนี่ เน่ อัตสึชิคุง ดาไซคุง คุนิคิดะคุง ทานิซากิคุง เคนจิคุง ก็มาเล่นด้วยกันสิ”

     

    (…ช….ชวนคุนิคิดะซังเนี่ยนะ รัมโปซังคนอย่างเขาไม่น่าจะมาเล่นอะไรในเวลางานนะคะ!!!)

     

    “เอางั้นหรอครับ ก็เอาสิครับ”

     

    (ตอบรับซะด้วย คนเอางานเอาการอย่างคุนิคิดะซังเนี่ยนะ?!) ยูซุรุยืนช็อคกับคำตอบรับของคุนิคิดะจนอัตสึชิต้องเข้ามาทัก

     

    “เดี๋ยวก็ชินครับ”

     

    “พวกนาโอมิจังมาเล่นด้วยกันสิคะ”

     

    “เอ๋ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จะเล่นกลางวันแสกๆมันไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่น่ะค่ะ"

     

    “นั่นสินะคะ งั้นเดี๋ยวฉันไปเตรียมขนมมาให้ก็แล้วกันนะคะ พวกรัมโปซังเล่นกันไปเล----”

     

    “ไม่ได้นะ โทโมเอะจัง”

     

    “คะ?”

     

    "ถ้าโทโมเอะจังไม่เล่นมันก็ไม่ท้าทายน่ะสิ"

     

    "เอ๋? ทำไมล่ะครับ" อัตสึชิที่ทำท่าจะไปช่วยยูซุรุเอียงคองุนงง

     

    "แบบนั้นก็อดสั่งอะไรที่มีเพียงผู้หญิงทำไม่ได้สิ" 

     

    ทันใดทุกคนที่อยู่ระแวกนั้นก็เหมือนดวงตาวิ๊งราวกับปิ๊งอะไรขึ้นมาได้อยู่แว๊บนึง

     

    “อะ แฮ่ม! ก็ถูกของนาย ครั้งนี้ฉันเห็นด้วย” คุนิคิดะขยับแว่นจนแสงสะท้อนดัง ควับ! จนแสบตา

     

    “เอ่อ…ถ้ายูซุรุซังไม่ได้เล่นมันก็ไม่สนุกนะครับ ลองมาผ่อนคลายดูสิครับ!” ทานิซากิชักชวนอย่างเคอะเขิน

     

    “ยูซุรุจังลองมาเล่นกันสิคร้าบ!” เคนจิกวักมือเรียกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

     

    “น่านะ ยูซุรุคุงงงง” รัมโปมองด้วยสายตา(ที่มองไม่เห็น------) ราวกับแมวที่กำลังอ้อนเจ้าของ

     

    (แบบนี้ใครจะกล้าปฏิเสธกันล่ะคะ!!!!)

     

    “เข้าใจแล้วค่ะ งั้นช่วยรอแป๊บนึงได้มั้ยคะ?”

     

    “คร้าบ" รัมโป ดาไซ และเคนจิพร้อมใจกันขานตอบ ในขณะที่คุนิคิดะและทานิซากิมีท่าทียึกยักน่าสงสัย

    .

    .

    .

    ซักพักยูซุรุกลับมาพร้อมกับเสิร์ฟขนมให้กับคนที่รวมตัวกันเล่นเกม

     

    “เอาล่ะถ้างั้น….” รัมโปกล่าว

     

    “ใครกันหนอ เป็นราชา!” ทุกคนกล่าวพร้อมกันพลางจับไม้ที่ตัวเองเลือก

     

    (โอ๊ะ เบอร์ 3 แฮะ) อัตสึชิมองเลขบนแท่งไม้และบังเลขจากคนอื่นๆ

     

    “โอ๊ะ ผมเป็นราชาล่ะ!” เคนจิกล่าวอย่างดีใจ

     

    “ถ้างั้นเบอร์ 4 หมุนตัวสามรอมแล้วก็เห่า โฮ่งๆ!”

     

    (ใครกันนะที่ได้เบอร์ 4 )

     

    ทันใดคนที่อยู่ข้างๆอัตสึชิก็ยืนขึ้นพร้อมกับหมุ่นตัวและส่งเสียงเห่า

     

    “โฮ่ง โฮ่ง!” คุนิคิดะทำด้วยสีหน้านิ่งๆของเขา

     

    อุ๊บ!

     

    ฝั่งตรงข้ามนั้นมียูซุรุและดาไซที่กลั้นขำสุดชีวิต

     

    “เฮ้ย…พวกแก!!!!” คุนิคิดะได้แต่กำหมัดและอดกลั้นไว้

     

    “รอบต่อไป…” ทุกคนนำไม้เก็บใส่กระบอกเดิมก่อนจะให้นาโอมิและเคียวกะสลับสับเปลี่ยนและเขย่าให้

     

    “ใครกันหนอ เป็นราชา!” 

     

    “อ๊ะ ฉันได้ล่ะค่ะ!”

     

    “นี่ๆโทโมเอะจังลองสั่งให้คนสองคน……"ดาไซกระซิบ

     

    “ถ้างั้นฉันขอสั่งเบอร์ 5 ให้กอดเบอร์ 1 ค่ะ”

     

    “!? ดาไซ!!! แกสอนอะไรให้ยูซุรุฟ้ะ!!!!” คุนิคิดะโวยวาย

     

    “เอ๋ อะไรกันแค่แนะนำเฉยๆเองน้า อย่าบอกนะว่านายเบอร์ 1 น่ะ ฮุๆๆ”

     

    “ชิ ….ใครเบอร์ 5 ก็รีบๆมา---” ทันใดคุนิคิดะก็ชะงักไปเมื่อรู้ว่าใครมีเบอร์ 5

     

    “แฮะๆ”เคนจิยิ้มก่อนที่หลังจากนั้นคุนิคิดะจะถูกกอดด้วยแรงอันมหาศาลจากเคนจิ

    .

    .

    .

    “เบอร์ 3 ช่วยลูบหัวและชมผมครับ!” ทานิซากิซึ่งได้เป็นราชาออกคำสั่ง

     

    “ฉันเองค่ะ!” ยูซุรุมองทานิซากิด้วยสายตาดีใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะขยับไปหาทานิซากิและลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยน

     

    “ทานิซากิคุงเก่งมากๆ”ยูซุรุชม

     

    “ทานิซากิคุงขี้โกง” ดาไซทำตัวงอแงหยังกับเด็ก ในขณะที่สีหน้าของทานิซากิเคลิบเคลิ้มไปกับการลูบหัวนั้น

     

    “โอ้ นี่ท่านพี่อยากเล่นเพราะแบบนี้เองอย่างงั้นหรอ” ด้านหลังกลุ่มที่เล่นกันอยู่นาโอมิมองพี่ชายอย่างหงุดหงิดส่วนทางทานิซากิก็เหมือนจะรับรู้เลยได้แต่เหงี่อตกและยิ้มแห้งส่งให้น้องสาวของตน

    .

    .

    .

    “ เบอร์ 2 ก้มขอโทษเบอร์ 6 ซะ!!!" คุนิคิดะออกคำสั่ง

     

    “เอ๋ คำสั่งน่าเบื่ออ่า” ดาไซโวยวาย ในขณะที่คนอื่นเองก็มองเลขตัวเองอยู่

     

    “แล้วจะให้สั่งว่าอะไรห้ะ!? ให้เบอร์ 2 เป็นแมวคลอเคลียเบอร์ 6 ก็ได้เอ้า!!!”

     

    “เน่ๆ ยูซุรุเนี้ยน เกาคางหน่อยสิ เหมียว” 

     

    “ค่าๆ” รัมโปคลอเคลีย ยูซุรุที่จับได้หมายเลข 6 จนทั้งคุนิคิดะและดาไซช็อคและได้รับรู้ถึงความอันตรายของการเล่นเกมในครั้งนี้เข้าจนได้

     

    ทุกคนต่างเล่นวนไปมาเรื่อยๆ มีทั้งคำสั่งทั่วๆไปจากทางเคนจิและอัตสึชิ คำสั่งที่จริงจังเกินไปจากคุนิคิดะ และคำสั่งที่ต้องการสนองความต้องการของตนเองหรือเพ่งเล็งไปยังยูซุรุโดยเฉพาะจาก รัมโป ดาไซ และทานิซากิ 

     

    “เอ้าๆ เล่นตานี้รอบสุดท้ายกันได้แล้ว!!” คุนิคิดะโวยวายแสดงความเบื่อหน่าย

     

    “นี่ๆ ถ้างั้นตานี้คนที่เป็นราชาสั่งอะไรก็ได้โดยไม่มีข้อแม้เลยดีมั้ย” รัมโปออกข้อเสนอ

     

    “อย่างเช่นให้ เบอร์ 4 เป็นทาส 1 สัปดาห์อะไรแบบนั้นน่ะ” รัมโปแนะนำตัวอย่าง

     

    (ถ้าอย่างงั้นก็สั่งให้ยูซุรุ/ยูซุรุซัง/โทโมเอะจัง ทำอะไรให้เพื่อเราก็ได้น่ะสิ?!) 

    นั่นเป็นความคิดของคุนิคิดะ ดาไซและทานิซากิ

     

    (ทำไมถึงรู้สึกว่ายูซุรุซังจะเป็นเป้าหมายของพวกดาไซซังเลยนะ…) อัตสึชิคิดในใจอย่างท้อใจ

     

    “เอาล่ะนะ!”

     

    “ใครกันหนอ เป็นราชา!”

     

    “สำเร็จ!!!"

     

    “ม่ายยยยยยยยยย” เสียงพวกดาไซโวยวายด้วยความเสียดาย

     

    “ไม่สิ รัมโปซังไม่รู้เบอร์ของแต่ละคนยังไงก็เดาไม่ได้หรอกใช่ม้า”

     

    “อื้ม…..งั้นขอให้เบอร์ 3 ไปเดทกับฉันก็แล้วกัน ซัก 1 อาทิตย์”

     

    “ห้ะ!?” นั่นไม่ใช่เสียงของกลุ่มที่เล่นกันอยู่เท่านั้น พวกนาโอมิเองก็ตกใจเช่นกัน

     

    “ใครกันได้เบอร์ 3 ?!”

     

    ทันใดนั้นคนที่เป็นเจ้าของเบอร์ก็ยกมือขึ้นอย่างช้าๆ

     

    “เอ่อ..ฉันค่ะ” และคนคนนั้นก็คือยูซุรุนั่นเอง

     

    “ว่ายังไงนะ!!!?? ย…ยูซุรุซังไปเดทกับรัม โป ซังงงง ง่าาาาาาาาา” ทานิซากิโวยวายด้วยความช็อค

     

    “ท่านพี่คะ…ใจเย็นๆ” นาโอมิปลอบใจพี่ชายของตนที่เสียสติ

     

    “ฮะๆ เดามั่วๆนะเนี่ย” รัมโปหัวเราะแห้งๆ ขณะที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

     

    “ร…รัมโปซังเอาจริงหรอครับ???” คุนิคิดะถามรัมโป

     

    “เอ๋ พูดขนาดนี้แล้วถ้าไม่ทำตามที่พูดมันก็เสียศักดิ์ศรีแย่สิ”

     

    “แต่ว่า…” คุนิคิดะหันไปมองยูซุรุที่มองพวกเขาพูดคุยและยิ้มตอบอย่างไร้เดียงสา

     

    “อ๊าาาาาาาาา อะไรจะเกิดก็เกิดวะ!! เอ้าๆ ทุกคนเลิกวุ่นวายแล้วทำงานต่อได้แล้ว!” คุนิคิดะโวยวายก่อนเจ้าตัวจะกลับมามาดนิ่งแล้วเรียกสติของทุกคนกลับมาเข้าสู่โหมดทำงานอย่างรวดเร็ว

     

    “คุนิคิดะซัง…สุดยอดไปเลย…” ยูซุรุทึ้งกับการเปลี่ยนบรรยากาศอย่างรวดเร็วของคุนิคิดะจนพึมพำออกมา

     

    “เนอะ” รัมโปซังเออออไปตามยูซุรุ

     

    “ถ้างั้นพวกเราเองก็ไปกันเถอะ”

     

    “เอ๋? ไปไหนล่ะคะ?”

     

    “เดทไง ไปกันตอนนี้เลย"

     

    “อ..เอ๋!!!!????” ยูซุรุถูกรัมโปลากออกมาจากสำนักงานและมุ่งหน้าตรงไปยังเมือง โดยที่ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้ถึงการมีอยู่ของเงาใครบางคนที่มีเสื้อปลิวไสวอยู่บนอาคารที่ทำงานของพวกเขา

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ยูซุรุที่ต้องทำตามคำสั่งของเกมพระราชา “เดทกับพระราชา(รัมโป) 1 สัปดาห์” ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นทันทีที่เล่นจบ ทั้งคู่เดินตะลอนไปตามเขตการค้าของโยโกฮาม่าอย่างเพลิดเพลิน

     

    “รัมโปซังคะ รอด้วยค่ะ”

     

    “นี่ๆ ยูซุรุคุง กินไอ้นี่กันเถอะ!”

     

    “พาเฟ่ต์? น่ากินจังนะคะไปกินกันเถอะค่ะ!”

     

    “อันนี้ก็ดูน่ากิน!”

     

    “จริงด้วยค่ะ!”

     

    “ว้าว……” ทั้งคู่เดินย่านของกินไปทั่วและแวะไปเรื่อยอย่างกับเด็กประถมที่พึ่งเลิกเรียนและเดินเที่ยวเล่นกัน จนคนที่เดินผ่านรู้สึกเอ็นดูทั้งคู่ที่เดินไปมาอย่างสนุกสนาน

    .

    .

    .

    .

    “ฮ่า! สนุกจังเลย”

     

    “สนุกมากๆเลยล่ะค่ะ นี่สินะคะที่เรียกว่าเดท”

     

    “เอ๋ ใครบอกว่าเดทเค้าทำกันแค่นั้นล่ะ เอ้า!” จู่ๆรัมโปแบมือยื่นออกมาหายูซุรุจนทำให้เธองุนงง

     

    “เอ่อ….จะเอาอะไรหรอคะ? ถ้าจะขอเงินไปซื้อเครปตรงนั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อ---”

     

    “ส่งมือมาให้ผมจับสิ”

     

    “เอ๋?”

    ทันใดนันรัมโปก็คว้ามือของยูซุรุไปจนทำเธอสะดุ้งด้วยความไม่คุ้นชินที่ถูกสัมผัส

     

    “เอ่อ…ค…คือว่า รัมโปซังคะ?!”

     

    “อะไรกัน คนที่เค้าเดทกันเค้าต้องจับมือกันนะ แบบนั้นก็ไม่ใช่เดทน่ะสิให้ผมเดินต้อยๆแล้วยูซุรุคุงออกเงินค่าขนมตลอดทางแบบนั้นมันใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ ผมอายุ 26 แล้วนะ เพราะงั้นผมต่างหากที่ต้องแสดงความเป็นผู้ชายที่เดทกับเธอสิ"

     

    พอเห็นรัมโปที่ปกติเอาแต่ทำตัวเหมือนเด็กพูดราวกับเขากำลังจริงจังมากเหมือนผู้ใหญ่ก็ทำให้ยูซุรุหลุดขำออกมา

     

    “นั่นสินะคะ รัมโปซัง พูดถูกแล้วล่ะค่ะ ฉันจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่กว่ารัมโปซังตลอดไปก็ไม่ได้”

     

    “ไม่ใช่อย่างงั้นซักหน่อย ที่ผมจะบอกน่ะ คือ ผมน่ะ ไม่ใช่เด็กนะครับจะอ้อนผมบ้างก็ไม่เป็นไรต่างหาก” รัมโปขยับหน้าเข้ามาใกล้จนยูซุรุขยับถอยหลังมาด้วยความตกใจ

     

    หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินวนอยู่ในสวนสาธารณะ และนั่งพักทานเครปกันอยู่ตรงม้านั่ง

     

    “อร่อย!” รัมโปอุทานขณะเขาทานเครปสองชิ้นในมือ 

     

    “……” ยูซุรุนั่งเหม่อราวกับยังสตั้นกับสิ่งที่รัมโปพูดอยู่จนเครปที่ตัวเธอถืออยู่วิปครีมเริ่มละลาย

     

    “ยูซุรุคุงงงง นี่ เครปละลายแล้ว”

     

    “อ….อ๊ะ ! ขอโทษค่ะ”

     

    “วันนี้ผมน่ะสนุกมากเลยนะ ได้เล่นเกมพระราชา ได้เดทกับยูซุรุคุงด้วย มีความสุขสุดๆเลยล่ะ ปกติไม่มีใครมาเที่ยวแบบนี้ด้วยกันกับผมเท่าไหร่”

     

    “ฉันดีใจที่ทำให้รัมโปซังมีความสุขนะคะ….จริงด้วยสิคะ ฉันมีเรื่องอยากจะถาม….”

     

    “อื้ม ถามมาสิ”

     

    “รัมโปซังจงใจออกคำสั่งนี้เพราะรู้เบอร์ของฉันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ ถ้าจากที่ฉันสังเกตการณ์มาตอนแรกรัมโปซังออกคำสั่งแต่ละอย่างราวกับรู้อยู่แล้วว่าใครได้เลขอะไรด้วยซ้ำ นั่นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ที่รัมโปซังเรียกว่าเป็น ‘พลังวิเศษ’ ของตัวเองใช่มั้ยคะ” รัมโปอึ้งกับคำถามของยูซุรุจนเขาเบิกตาสีเขียวมรกตจนเห็นชัด

     

    “ไม่นึกเลยว่าเธอจะสังเกตมากขนาดนี้นะเนี่ย ใช่! มันคือการวิเคราะห์หลักฐานสุดชาญฉาดของผมเองนั่นแหละ ”

     

    “มันไม่ใช่พลังวิเศษแต่เป็นความสามารถของตัวรัมโปซังเอง ถูกมั้ยล่ะคะ?” ยูซุรุใส่คำถามไม่หยุดรัมโปเองก็ยิ้มตอบ

     

    “นั่นสินะ ทำไมถึงคิดว่าเป็นแบบนั้นหรอ?” รัมโปสวนกลับเชิงอยากรู้ความคิดเห็นของอีกฝ่าย

     

    “จะบอกว่าเป็นลางสังกรณ์ของฉันก็ไม่น่าจะใช่ คงจะเป็นพลังวิเศษของฉันมากกว่าน่ะค่ะ”

     

    “เห……”

     

    “ตอนที่รัมโปซังจูงมือฉันไปตอนออกมาจากสำนักงาน ฉันรู้สึกค่ะ รู้สึกถึงสิ่งที่แปลกไปจากมือของพวกอัตสึชิคุง บางทีฉันอาจจะเริ่มควบคุมพลังของตัวเองได้จนสามารถรู้ว่าใครมีพลังจากการสัมผัสน่ะค่ะ…"

     

    รัมโปมองอย่างเงียบๆ….เพียงแว๊บหนึ่งยูซุรุเห็นเขาทำหน้าเหมือนเจ็บใจแต่ก็กลับมายิ้มอย่างเดิม

     

    “แต่ว่า….พลังของรัมโปซังฉันคิดว่ามันเป็น พลังพิเศษ ค่ะ ก็มันทำให้ฉันได้มาอยู่กับกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษเหมือนกัน มันต้องเป็นพลังพิเศษที่มีประโยชน์ต่อสำนักงานและทุกคนแน่นอนค่ะ เพราะงั้นอย่ารู้สึกเจ็บใจที่ตัวเองไม่มีพลังอะไรแบบคนอื่นเลยนะคะ เพราะว่าทุกคนเองถ้าไม่ได้ พลังวิเศษของรัมโปซัง ฉันคิดว่าทุกคนเองก็คงทำงานได้ไม่สำเร็จดีขนาดนี้หรอกค่ะ”

     

    “ทำไมเธอพูดเหมือนคอยสังเกตการณ์มานานจังเลยนะทั้งๆที่พึ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานแท้ๆ”

     

    “พลังพิเศษของฉันมันบอกมาแบบนั้นน่ะค่ะ” ยูซุรุยิ้มให้รัมโป จนเขากลับมาเบิกตาโพลงขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ดวงตาเท่านั้น พวงแก้มของเขาก็เริ่มแดงขึ้นมาท่ามกลางแสงยามเย็นเช่นกัน

     

    จังหวะที่ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสงบท่ามกลางสายลมพัดนั้นเอง กระแสลมพัดเปลี่ยนไปจนยูซุรุรู้สึกไม่สงบใจ

     

    “รัมโปซัง อันตราย!!”

     

    “!?”

    ทันใดก็มีเงาดำอะไรบางอย่างพุ่งมาจากข้างหลังรัมโปจนยูซุรุพุ่งตัวเขาไปผลักรัมโปจนทั้งคู่ล้มลงไป

     

    (นั่นมันอะไร?!)

     

    สิ่งแปลกประหลาดก่อตัวเป็นกลุ่มก้อนดำๆที่มีหน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาดเชื่อมกับเสื้อของชายที่ยืนอยู่ห่างจากทางยูซุรุ

     

    “แค่ก แค่ก! ” ชายปริศนารูปร่างและอายุคราวเดียวกับยูซุรุยืนไอเจ็บคอ

     

    “ให้ตายเถอะ พอร์ทมาเฟียหรอ”

     

    “พอร์ทมาเฟีย? งั้นก็คนรู้จักของชูซังหรอคะ…”

     

    “ถึงจะเป็นคนรู้จักของนายหมวกแฟนซีนั่น แต่เจ้านี่น่ะ ไม่เหมือนเขาที่รู้จักเธอมาก่อนนะ”

     

    “แค่ก! ส่งตัวผู้หญิงคนนั้นมาซะ ไม่งั้นกระผมจะกำจัดแกโดยที่ไม่มีใครมาช่วยแกหรือยัยผู้หญิงนี่ได้”

     

    “ขอโทษทีนะพ่อหนุ่มเสื้อคลุม แต่ว่าฉันคงยกยูซุรุคุงให้นายไม่ได้หรอกนะ” รัมโปตอบโต้

     

    “กระผมไม่ได้ต้องการความเห็นจากแก” ชายคนนั้นตอกกลับอย่างหงุดหงิด

     

    “นี่ถ้าเกิดพาตัวเธอไป ดาไซจะเกลียดนายเอาก็ได้นะ”

     

    ทันใดที่รัมโปเอ่ยชื่อของบุคคลที่สาม ชายคนดังกล่าวก็แอบชะงักไป

     

    (ดาไซซัง? เกี่ยวข้องอะไรกับคนคนนั้น….)

     

    “หุบปากไปน่า เพื่อจะให้เขายอมรับพลังของยัยผู้หญิงคนนี้ถึงจำเป็นยังไงล่ะ!!” ทันใดสิ่งมีชีวิตสีดำออกมาจากเสื้อคลุมของชายคนนั้นก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่รัมโปโดยไม่ทันตั้งตัว

     

    “อั่ก!” มันโจมตีรัมโปด้วยการพุ่งชนและเหวี่ยงตัวรัมโปไปชนกับน้ำพุ เขาโอดโอยด้วยความเจ็บปวดซึ่งโชกไปด้วยเลือดที่หัว

     

    “รัมโปซัง!!” ยูซุรุยืนตัวสั่นอยู่อย่างนั้น แม้เจ้าตัวจะพยายามขยับไปแต่ก็กลัวสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า

     

    ‘เลือด’ นั่นคือสิ่งนึงจากเศษเสี้ยวความทรงจำของยูซุรุทำให้เธอเกิดอาการหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับตัว

     

    (รัมโปซังบาดเจ็บหนัก …ล..เลือด…ต้องรีบโทรหาหมอ…ไม่สิหรือจะโทรหาอัตสึชิคุง….)

     

    “อั่ก !!  ยูซุรุคุง…. หนีไป!” รัมโปพยายามเปล่งเสียงขณะที่ร่างกายของเขาก็ถูกจับด้วยสัตว์ประหลาดสีดำ

     

    (ทำยังไงดี…..ทำยังไง….รัมโปซังเขา…..เป็นแบบนี้เพราะเรา……) 

     

    “ฉัน…จะ…ปกป้องรัมโปซังค่ะ” ยูซุรุเข้าไปยืนขวางทางสัตว์ประหลาดด้วยความหวาดหลัว

     

    (ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง!) 

     

    “อย่ามาขวาง! ราโชมอน” 

     

    “น..นี่!!!!” ยูซุรุขวางเครปที่ตกอยู่ใส่ชายชุดคลุมจนเจ้าตัวตกใจกับการโต้ตอบและครีมเหล่านั้นก็เลอะหน้าและเสื้อคลุมเขาไปหมด และทำให้สัตว์ประหลาดเคลื่อนที่ผิดไป

     

    “ถ้าเข้ามาอีกฉันจะปาของใส่อีกไม่เลี้ยงแน่!”

     

    “ย…ยูซุรุคุง พลังของหมอนั่นอันตรายนะ อย่าไปสู้ หนีไปซะ แค่กๆ”

    รัมโปไอสำลักเลือดออกมา ยูซุรุตกใจและยืนช็อคอยู่อย่างนั้น

     

    “แต่ว่า รัมโปซัง !?”

     

    “อึก!!!” รัมโปถูกสัตว์ประหลาดคาบตัวเอาไว้และแสดงสีหน้าบาดเจ็บจากบาดแผลอย่างทรมาน

     

    “ถ้าแกยอมตามมาซะดีๆ กระผมจะไม่ฆ่าไอ้หมอนี่”

     

    “ย…ยูซุรุคุง!”

     

    “ปล่อยรัมโปซังไปเถอะ ฉันขอร้องล่ะค่ะ!!!….ฉันจะไป….กับคุณ….” 

     

    ชายชุดคลุมปล่อยตัวรัมโปลงกับพื้นและเดินเข้ามาใกล้ยูซุรุ

     

    “ถ้าแกเล่นตุกติกคิดจะหนีล่ะก็ กระผมจะฆ่าทุกคนที่อยู่ในรัศมีทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ไอ้หมอนี่ด้วย”

     

    “ค่ะ….ฉันสู้อะไรคุณไม่ได้อยู่แล้ว…..พอได้แล้วค่ะ” ขณะเดียวกันนั้นยูซุรุเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากระโปรง ที่ก่อนหน้านี้เธอฉวยโอกาสส่งข้อความด่วนหาอัตสึชิหวังว่าอีกฝ่ายจะรีบเข้ามาช่วยเหลือรัมโปที่บาดเจ็บหนัก

     

    “ปล่อยไอ้หมอนั่นไว้แล้วลุกมานี่ซะ”

     

    “ยูซุรุคุง…หนีไปเถอะ” รัมโปขยับหน้ามองยูซุรุที่กำลังมองเขาอย่างเจ็บปวดหัวใจ

     

    “ร…รัมโปซัง….ขอโทษค่ะ ฉัน…จะทิ้งรัมโปซังไปเฉยๆไม่ได้ อดทนไว้นะคะ” ยูซุรุมือสั่นขณะพยายาม ใช้ผ้าที่ตนพกมาปิดปากแผลของรัมโป และมืออีกข้างเธอจับมือรัมโปไว้พยายามทำให้อีกฝ่ายสงบใจลงแม้สถานการณ์จะสงบใจลงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

     

    “มัวทำอะไรอยู่ ชักช้าอยู่ได้!!!”

     

    “อึก!” ยูซุรุถูกมือหนักๆของชายสวมเสื้อคลุมฟาดเข้าที่คอก่อนเถอะจะหมดสติไปอย่างรวดเร็ว และถูกชายคนดังกล่าวแบกร่างไปด้วยพลังวิเศษของเขา….

     

    “หยุดนะ!”

     

    “จงดีใจซะที่กระผมยังไว้ชีวิตแกอยู่ จงรอความช่วยเหลือไปซะเถอะ" 

     

    ชายคนดังกล่าวยกร่างยูซุรุและกระโดดหายไป ปล่อยให้รัมโปค่อยๆหมดสติลงไปอย่างช้าๆ

    .

    .

    .

    .

    .

    ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นเอง ณ ฐานหลักของพอร์ทมาเฟีย

     

    ชายผู้สวมหมวกตลอดเวลา นากาฮาระ ชูยะ ผู้ซึ่งเป็น 1 ในผู้บริการของพอร์ทมาเปียเดินอยู่บนโถงทางเดิน

     

    “โอ้ ชูยะซังๆ มีข่าวด่วนมาล่ะ” 

     

    “อะไร คาจิอิ” ชายสวมเสื้อกราวน์ นามว่า คาจิอิ โมโตจิโระ เดินตรงมาหาชูยะ

     

    “ตอนนี้หน่วยจู่โจม อาคุตางาว่า ออกปฏิบัติการ ภารกิจ แล้วล่ะนะ ได้ข่าวว่าตะกี้นี้ได้ตัว ‘เป้าหมาย’ มาแล้วล่ะ!”

     

    (!? เป้าหมาย อย่าบอกนะว่าโทโมเอะ!?) ชูยะชะงักและอึ้งไปซักพัก

     

    “สีหน้าแบบนี้อย่าบอกนะครับ ว่าไม่ใช่ฝีมือชูยะซังน่ะ แต่ว่าช่างเถอะ อย่างน้อยผมก็จะได้ทดลองกับ เป้าหมายแล้ว แค่คิดก็ตื่นเต้นไม่ไหวแล้วสิ!!!” คาจิอิตื่นเต้นตัวสั่นอย่างอารมณ์ดี ขณะที่ชูยะกลับแสดงท่าทีหงุดหงิด

     

    (ไอ้เจ้าดาไซ! ทำไมพวกแกไม่ปกป้องยัยนั่นให้ดีๆกันล่ะวะ!!!)

     

    ทางรัมโปนั้น ได้รับความช่วยเหลือจากอัตสึชิและคุนิคิดะที่มาตามเมลของยูซุรุที่ส่งไป เขาบาดเจ็บหนักจนสลบไปแต่อัตสึชิได้สอบถามจากคนที่เห็นเหตุการณ์จนเข้าก็รู้สึกโมโหตัวเองเหลือเกิน

     

    "อาคุตางาว่า…..คนอย่างนายนี่มัน…" 

     

    “อัตสึชิ ถึงนายจะโกรธไป ยูซุรุก็ไม่กลับมาหรอก รีบพารัมโปซังไปรักษาแล้วก็กลับไปวางแผนช่วยเหลือเธอกันเถอะ” คุนิคิดะเตือนสติอัตสึชิที่กำลังโกรธจัดจนเขาได้สติและรีบพารัมโปที่หมดสติไปรักษาตัว

     

    พวกอัตสึชิจะช่วยยูซุรุกลับมาอย่างไร ทำไมอาคุตางาว่าถึงต้องการพลังของยูซุรุ พอร์ทมาเฟียกำลังจะทำอะไรกับ พลังวิเศษ ของยูซุรุกันแน่ แล้วชูยะจะทำอย่างไรเมื่อยูซุรุถูกจับตัวมาแล้ว 

    ความชลมุน วุ่นวายของพอร์ทมาเฟียและสำนักงานนักสืบบุโชจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง……

     

    CH.4? 「เด็กผู้หญิงคนนั้นเรียกชายร่างสูงอย่างเริงร่า」

     

    ==============================================================

    มาแบบไม่ทันตั้งตัว แต่รู้สึกว่าตอนนี้มันสั้นยังไงก็ไม่รู้ค่ะ 55555 ตอนนี้ค่อนข้างเซอร์วิส รัมโป มากๆเลย ทั้งๆที่ชื่อตอนดูอวยอาคุตางาว่าเอามากๆ  แถมตอนคิดพล็อตเกมพระราชาก็ทำเอาผู้ชายแต่ละคนเล็งเป้าจะฉวยโอกาสยูซุรุอย่างเดียวเลย5555 อย่างดาไซยังพอว่า แต่คุนิคิดะกับทานิซากิคุงนี่คงผิดคาดกันอยู่เนาะ แต่สุดท้าย MVP ก็เป็นรัมโปซังอยู่ดี เจ้าเล่ห์กว่าทุกคนเยอะเลยค่ะ พอมโนสีหน้าตาที่เขาอ้อนยูซุรุก็รู้สึกเอ็นดูเลยล่ะค่ะ

    เอาเป็นว่าจะเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วล่ะค่ะ 

    ตอนหน้าเซอร์วิสพอร์ทมาเฟียเต็มเหนี่ยวกันไปเลย ช่วยรออ่านตอนต่อไปกันด้วยนะคะ ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×