ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bungou Stray Dogs : G O A L (Fanfic : Male Character x Oc)

    ลำดับตอนที่ #2 : CH.1? 「เช้าอันสงบสุขกับข้าวราดชา」

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.02K
      78
      20 พ.ย. 63

    "สวรรค์ชัดๆ~"หนุ่มน้อยผมสีเทาวางชามข้าวราดชาและนั่งอย่างสบายใจในที่พักของเขา

     

    "ไปสำนักงานกันเถอะ" สาวน้อยเสียงนุ่มลึกทำให้อีกฝ่ายตื่นจากภวังค์ ทั้งคู่ออกจากห้องพักและเดินทางไปยัง สำนักงาน

    .

    .

    .

    .

    ช่วงเวลา 7.00 น.

    "ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคดีอะไรเท่าไหร่เลยเนอะ เคียวกะจัง"

     

    "อื้ม" สาวนามว่า เคียวกะ พยักหน้าตอบ

     

    "อ๊ะอัตสึชิคุง เคียวกะจัง อรุณสวัสดิ์!" เสียงชายหนุ่มผมสีส้มทักทายหนุ่มผมเทา ที่มีนามว่า อัตสึชิ และเคียวกะ

     

    "ทานิซากิซัง นาโอมิซังอรุณสวัสดิ์ครับ"

     

    "วันนี้มาเช้าจังนะคะ!"

     

    "พอดีกะว่าจะไปเก็บกวาดทำความสะอาดโต๊ะทำงานซักหน่อยน่ะครับ"

     

    "อ..โอ๊ย จะเกาะอะไรนอกสำนักงานอีกเล่านาโอมิ!"

    ทานิซากิ นาโอมิ สาวน้อยผู้เป็นน้องสาวของทานิซากิ จุนอิจิโร่ยืนกอดรัดแขนพี่ชายของตัวเองไม่มีปล่อย

     

    "นี่ๆ ได้ยินข่าวกันรึเปล่าช่วงนี้น่ะนะ มีฆาตกรต่อเนื่องอยู่ในโยโกฮาม่านี้ด้วยล่ะค่ะ! เมื่อเช้านี้ได้ยินมาว่าเหยื่อเป็นรายที่ 5 แล้วด้วย"

     

    "เขาว่าฆาตกรต่อเนื่องเลียนแบบเป็น แจ็คเดอะริปเปอร์ ล่ะนะ เพราะเหยื่อมีแต่ผู้หญิงเท่านั้น แต่ว่าวิธีการฆ่าเนี่ยสิ.....เห็นว่ามีการใช้ปืนด้วย" ทานิซากิและนาโอมิอธิบายข่าว

     

    "แบบนี้ นาโอมิจังก็อันตรายนะครับเนี่ย"

     

    "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ นาโอมิน่ะอยู่กับท่านพี่ตลอดเพราะงั้นสบายหายห่วงเนอะ~"

     

    "อ๊าก เจ็บๆ พอแล้วนาโอมิ!!"

     

    ทั้งสี่คนเดินเข้าตึกที่มีสำนักงานของตัวเองและกดประตูลิฟต์จนกระทั่งประตูได้เปิดออกมา

     

    ติ๊ง!

     

    "นี่....นั่นน่ะ...." เคียวกะดึงเสื้ออัตสึชิที่ยืนคุยกับทานิซากิและนาโอมิอย่างสบายใจ จนทั้งหมดก็ต้องตกใจ

    เมื่อประตูลิฟต์ที่เปิดออกมามีร่างของใครบางคนนอนอยู่

     

    "ทำไมถึงมีคนมาอยู่ในนี้ได้!?" อัตสึชิพบร่างของหญิงสาวนอนสลบอยู่ในลิฟต์ที่เปิดออกมานั่นเอง

     

    "อัตสึชิคุงนั่นมัน เลือด!?" ทานิซากิยืนสั่นมองไปยังร่างของคนที่นอนสลบอยู่ เสื้อผ้าท่อนล่างและตรงขาของร่างนั้น มีรอยเปื้อนของเลือดท่วมอาบ

     

    "ต้องรีบพาไปหาหมอโยซาโนะ!" อัตสึชิรีบพุ่งตัวเข้าไปแบกร่างของหญิงสาวคนนั้นทันที

     

    "ยังหายใจอยู่!? รีบขึ้นไปเร็ว!"

    พวกทานิซากิรีบกดชั้น 4 ให้ลิฟต์พาไปยังสำนักงานทันที

    .

    ปัง!!

    เสียงประตูถูกผลักเปิดอย่างดัง เสียงนั้นดังพอจะทำให้ โยซาโนะ อากิโกะ หมอประจำสำนักงานรู้สึกตัวได้

     

    "เสียงดังอะไรกันน่ะ...เอ๋...ผู้หญิง?"

     

    "หมอโยซาโนะ ช่วยเธอด้วยครับ! จู่ๆเธอคนนี้ก็สลบอยู่ในลิฟต์มีเลือดด้วย!?" อัตสึชิตอบอย่างร้อนรน

     

    "ใจเย็นๆนะ ถึงมือหมอโยซาโนะแล้วเชื่อใจได้" ทานิซากิแตะไหล่และรับร่างสาวนั้นตรงไปยังห้องปฐมพยาบาลทันที

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ระยะเวลาผ่านไป 1 ชม. เวลา 8 โมงพอดีเสียงฝีเท้าหนึ่งได้ดังขึ้น ณ ทางเข้าของสำนักงาน ปรากฏเป็นร่างของชายตัวสูงสวมแว่น ขย้บแว่นเดินเข้ามา

     

    "เฮ้ย พวกนาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ!? ทำไมถึงมีเลือดเปื้อนอยู่ในลิฟต์กันเล่า!!"

     

    "ค..คุนิคิดะซัง...อรุณสวัสดิ์ครับ!" อัตสึชิและทานิซากิทักทายตอบชายที่มีนามว่า คุนิคิดะอย่างร้อนรน

     

    และนั่นเป็นจังหวะเดียวกันที่หมอโยซาโนะเดินออกมาจากห้องปฐมพยาบาล...

     

    "หมอโยซาโนะเป็นยังไงบ้างครับ!?"

     

    "มีคนบาดเจ็บหรอ?" คุนิคิดะถามอย่างใจเย็น

     

    "ครับ ตอนประตูลิฟต์เปิดมาก็มีร่างของผู้หญิงคนนึงสลบอยู่" ทานิซากิอธิบายเรื่องราวให้คุนิคิดะฟัง

     

    "ตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วล่ะ ดูเหมือนว่าที่สลบไปจะเป็นเพราะเหนื่อยล้าแล้วก็พิษยาสลบที่เคลือบกับของมีคมบางอย่างบาดเข้าน่ะ แต่เลือดออกขนาดนี้ยังวิ่งหนีมาได้เนี่ย โชคช่วยจริงๆเลยนะ เฉียดตายพอตัวเลยล่ะ ฉันแทบไม่ต้องทำให้แผลใหญ่ก็เลยรักษาได้ไวขึ้นเยอะ"

     

    "ตอนนี้ฟื้นรึยังครับ?"

     

    "คาดว่าอีกซักพักน่ะ ตอนนี้พวกนายไปทำงานซะก่อนเถอะดูเหมือนเธอคนนั้นน่าจะไปพัวพันกับอะไรที่พวกเราต้องออกโรงล่ะนะ"

     

    .

    .

    .

    เวลาผ่านไปอีกซักพักนึงนั่นเอง พวกอัตสึชิได้เล่าเรื่อง

    ให้ดาไซ สมาชิกหลักของสำนักงานนักสืบบุโช และคนอื่นๆฟัง

     

    "ว่ายังไงนะ มีคนทำร้ายสาวงามอย่างงั้นหรอ!? เธออยู่ที่ไหน ฉันคนนี้จะไปช่วยเธอเอง!!" ดาไซที่ได้ยินคำว่าผู้หญิงก็กระริกกระรี้รีบพุ่งพรวดไปยังห้องปฐมพยาบาลโดยไว

     

    "ดาไซหยุดเดี๋ยวนี้นะ !! เขายังไม่ฟื้นเลย ไอ้บ้า!!!"

     

    อัตสึชิและคุนิคิดะวิ่งไล่ตามเขาไปก่อนดาไซจะก่อนเรื่องวุ่นวาย

     

    พอเข้าไปในห้องนั้น เตียงหนึ่งที่มีร่างของสาวที่หลับอยู่ข้างๆกันนั้นก็มีดาไซที่ลูบไล้มือของอีกฝ่ายอย่างรักใคร่

     

    "โอ้ ใครกันที่ปองร้ายสาวน้อยแสนงดงามคนนี้ เธอช่างงดงามราวกลับเจ้าหญิงในเทพนิยายจริงๆ~ ถ้าได้เจ้าชายรูปงามแบบฉันคนนี้ปลุกด้วยจุมพิตละก็ เธอจะต้องฟื้นมาเพื่อฆ่าตัวตายแบบดับเบิ้ลคู่กับชั้นแน่นอน!"

     

    ดาไซเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ร่างที่นอนอยู่เรื่อยๆ

     

    "ดาไซซังพอแค่นั้นแหละครับ!!!"

     

    "เจ้าบ้าดาไซ อย่ามาทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงในสำนักงานนะเฟ้ย!!"

     

    คุนิคิดะและอัตสึชิโวยวายเข้าไปห้าม ทันใดนั้นเองก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เปลือกตาของหญิงสาวถูกเปิดขึ้นอย่างช้าๆ

     

    "ที่นี่....ที่ไหน...."

     

    "โอ๊ะ!?"

     

    "เห็นมั้ยฉันยังไม่ทันได้จุ๊บเธอเลยนะ พวกนายต่างหากส่งเสียงดังทำเธอตื่นเลย~"

     

    "รู้สึกตัวแล้วหรอ? ขยับตัวได้มั้ย?" หมอโยซาโนะเดินเข้ามาแทรกและถามหญิงสาวที่พึ่งลืมตาขึ้นมา

     

    "ที่นี่...ที่ไหนหรอคะ?"

     

    "สำนักงานนักสืบบุโชน่ะ เธอหนีมาและสลบในลิฟต์ของสำนักงานเรา พวกเรารักษาบาดแผลของเธอให้แล้วล่ะนะ"

     

    "อย่างงี้นี่เอง....ขอบคุณมากเลยนะคะ ฉันไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณยังไงเลยค่ะ...."

     

    "ถ้าเรื่องตอบแทนบุญคุณล่ะก็ ไปเดทกับฉัน 1 วันแล้วก็ไปฆ่าตัวตายด้วยกันกับฉันได้มั้--- อั๊ก!!" ดาไซถูกเขกหัวด้วยสมุดที่เขียนด้วยคำว่า "อุดมคติ" ของคุนิคิดะ

     

    "อย่าไปสนใจสิ่งที่ไอ้บ้านี่พูดเลยนะ แต่ว่าฉันปล่อยผ่านให้คนที่ถูกปองร้ายกลับไปเฉยๆไม่ได้หรอก ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น...เอ่อ...."

     

    "ยูซุรุ โทโมเอะ ชื่อของฉันค่ะ...."

    .

    .

    .

    .

    .

    หญิงสาวนามว่ายูซุรุเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พวกอัตสึชิฟัง [เรื่องราวเป็นอย่างไร อยู่ที่ CH.0 ค่ะ]

     

    "สรุปว่า โดนฆาตกรต่อเนื่องไล่ตามเพราะว่าดันไปพบตอนที่มันกำลังฆ่าศพที่ 5 อยู่สินะ" คุนิคิดะสรุปเรื่อง

     

    "ค่ะ ....แต่เพราะหมอกหนามากก็เลยมองไม่เห็นตัวฆาตกร...แต่คาดว่าอีกฝ่ายก็น่าจะมองไม่เห็นเหมือนกันค่ะ"

     

    "แจ็ค เดอะริปเปอร์ ที่กำลังมีข่าวอยู่สินะครับ"

     

    "แต่ยังไงก็ปล่อยให้คุณกลับไปใช้ชีวิตปกติไม่ได้แน่ๆตอนนี้คงต้องให้คุณอยู่ในความดูแลของพวกเราก่อน"

     

    "แต่ฉันต้องไปทำงาน..."

     

    "ถ้างานของเธอล่ะก็ทำที่นี่ก็ได้ไม่ใช่หรอ~ ดีไซน์เนอร์ซัง ยูซุรุ โทโมเอะ"

     

    "รัมโปซัง?"

     

    รัมโปหนุ่มตัวเล็กสวมหมวกลุคนักสืบชูสมุดเล่มนึงขึ้น

     

    "สมุดสเก็ตงานของฉัน น..นึกว่าหายไปเมื่อเช้าแล้วซะอีก!?"

     

    "ตอนนี้ผมกำลังทำคดีนี้อยู่แต่ว่า ข้อมูลมันดันน้อยเกินไปน่ะสิ สมุดนี่ตกอยู่ไม่ไกลจากหน้าสำนึกงานนัก เจ้าฆาตกรน่าจะรู้ทันว่าถ้าเอาสมุดไปต้องถูกตามล่าแนๆจึงทิ้งเอาไว้ ตอนนี้ฆาตกรนั่นน่าจะรู้แล้วว่าเธอเป็นดีไซน์เนอร์ล่ะนะ เพราะสมุดนี่มีงานสเก็ตชุดของเธอแถมจากที่ไปดูชุดที่เธอใส่มาเหมือนจะเป็นชุดที่ดีไซน์ไม่ธรรมดานั่นแหละ "

     

    "รัมโปซังสุดยอดไปเลย...."อัตสึชิอุทาน

     

    "ถ้ากลับไปที่ร้านของเธอล่ะก็ มีหวังได้โดนเชือดภายในพรุ่งนี้เช้าเนี่ยแหละ ทางที่ดีอยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะ"

     

    "ดูเหมือนคุณจะต้องอยู่กับพวกเราไปก่อนสินะถ้าแบบนั้น..."คุนิคิดะและอัตสึชิเหล่มองไปยังข้างๆเตียง

     

    "ฮื้ม~ ฮึ้ม~" ดาไซนั่งจ้องมองยูซุรุอย่างอารมณ์ดี

     

    "ไม่ใช่ที่พักของนายแน่นอน"

     

    "อะไรกัน คุนิคิดะคุงเนี่ย คิดจะเอาตัวเธอไปอยู่ห้องตัวเองใช่มั้ยล่ะ~"

     

    "ช...ใช่ที่ไหนกันเล่า อยู่กับนายมันไม่ปลอดภัยต่างหาก !!!" คุนิคิดะโวยวายใส่ดาไซ

     

    (แต่ก็แอบคิดอยู่สินะคุนิคิดะซัง...)

     

    "แต่ว่าวันนี้..ฉันมีลูกค้าที่ต้องเจอน่ะสิคะ...."

     

    "งั้นก็ต้องมีเบอร์โทรติดต่อกันสิ บอกให้มาวันหลังได้มั้ยล่ะ?"

     

    "ไม่มีค่ะ เพราะปกติเจ้าตัวเค้าไม่ชอบให้เบอร์ติดต่อ..แต่คิดว่าเขาน่าจะรู้น่ะค่ะเพราะงั้นคงไม่เป็นไร"

     

    "แต่จะให้ยูซุรุซังไปที่อื่นก็ไม่ได้สินะครับ..."

     

    "ให้อยู่กับดาไซคุงแล้วกัน" จู่ๆรัมโปก็พูดขึ้นมา

     

    "เอ๋!?" อัตสึชิกับคุนิคิดะตกใจกับการตัดสินใจของรัมโป

     

    "ว้าว!!!" ดาไซนั้นตาเปล่งประกาย อารมณ์ดีทันที

     

    "อัตสึชิคุงก็คงจะไม่ไหวอยู่แล้ว คุนิคิดะคุงก็คงจะประหม่า ให้ดาไซคุงดูแลแหละดีที่สุดแล้วล่ะ จนกว่าผมจะทำคดีเสร็จช่วยอยู่กับเขาไปก่อนแล้วกันนะ"

     

    "มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ฮะ ฮา ฮ่า!! ยูซุรุจังไม่สิ โทโมเอะจังไว้ใจฉันคนนี้ได้เลยนะจะปกป้องเธอสุดชีวิตเลย"

     

    "ถ้าคุณพูดอย่างงั้น ฉันก็ขอรบกวนหน่อยนะคะ" ยูซุรุยิ้มตอบ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    วันเวลาผ่านไป 3 วัน 'แจ็ค เดอะ ริปเปอร์' ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ รัมโปถึงกับครุ่นคิดหาวิธีค้นหาตัวคนร้ายจากเหตุการณ์นี้อย่างหนัก

     

    "แจ็คเดอะริปเปอร์ ยังไม่ฆ่าศพที่ 6 เลยสินะครับ....นี่ก็ผ่านมา 3 วันแล้ว..."

     

    "หรือว่าจะหนีไปเมืองอื่นแล้ว?"

     

    "อืม...ก็ไม่แน่ล่ะนะ~ เนอะ~ โทโมเอะจัง~"ดาไซเอ่ยทัก ยูซุรุที่ยกถาดชากับขนมเดินมาวางทีละโต๊ะอยู่

     

    "แบบนี้ฉันก็ค่อยมีกำลังใจออกแบบชุดใหม่ซักทีนะคะ เอโดงาวะซังนี่ค่ะ ชากับขนม"

     

    "บอกแล้วไงว่าเรียกรัมโปซังน่ะ แต่ก็ ขอบคุณมาก~"

     

    (ยูซุรุซังอยู่กับพวกเรามาซักพักก็กลายเป็นคุ้นเคยกับที่นี่อย่างรวดเร็วแถมยังสนิทกับทุกคนไวมากๆ)

     

    "วันนี้เราให้ยูซุรุคุงกลับได้แล้วล่ะนะ ถ้าไม่กลับร้านอีกไม่นานท่าจะแย่ละเนอะ" ระมโปกล่าว

     

    "ตอนแรกฉันยังหวั่นๆว่าจะถูกหมายหัวอยู่น่ะค่ะ...แต่ว่าถ้าบอกแบบนั้นฉันก็โล่งใจค่ะ ยูสุรุตอบอย่างสบายใจ

     

    "ถ้างั้น...อัตสึชิคุง นายว่างอยู่เพราะงั้นไปส่งยูซุรุคุงกลับบ้านทีนะ~" รัมโปลุกขึ้นชี้นิ้วสั่งอัตสึชิที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

     

    "ผมหรอครับ!? ให้ดาไซซังไปส่งแท---" อัตสึชิหันไปโต๊ะข้างๆที่เป็นโต๊ะของดาไซ แต่กลับไม่พบตัวดาไซเลย

     

    "บ้าน่า ดาไซซังหายไป ทั้งๆที่มีเรื่องผู้หญิงแท้ๆเนี่ยนะ โอกาสแท้ๆเนี่ยนะ!?"

     

    "เฮ้ยๆ นายนี่มองดาไซซังในแง่ลบเกินไปแล้วมั้งอัตสึชิคุง" ทานิซากิตอบ

     

    "ฉันอยากไปด้วยค่ะ.." เคียวกะ เดินมาใกล้ๆยูซุรุ

     

    "งั้นก่อนฉันกลับเราแวะร้านทาจิบานะโดดีกว่าเนอะ อิสุมิจังบอกว่าอยากไปใช่รึเปล่า?"

     

    "เต้าหู้ต้ม!"

     

    "เอ่อ....ยูซุรุซังร...ร้านนั้นมันออกจะ..."

     

    "ไม่ต้องห่วงนะนาคาจิมะคุง ฉันจะเป็นคนจ่ายเองตอบแทนที่ดูแลกันมาน่ะ!" ยูซุรุยืดอกอย่างภูมิใจ

     

    "มันแพง...นะครับ"

     

    "ฉันน่ะซื้อของกินแบบนั้นได้สบายหายห่วง นาคาจิมะคุงเองก็ไม่ต้องเกรงใจนะ"

     

    "คุนิคิดะคุงช่วยหน่อยสิ ยูซุรุคุงกลับบ้านดีๆล่ะพวกฉันมีงานต้องทำกันต่อล่ะ บ๊ายบาย" รัมโปซังโบกมือลาอย่างร่าเริงและสั่งงานคุนิคิดะอย่างสบายใจเฉิบ

     

    "ขอบคุณที่ดูแลกันมาตลอด หลายวันนี้นะคะ ไว้ฉันจะกลับมาตอบแทนทุกคนอย่างหนักเลยค่ะ" ยูซุรุก้มโค้งก่อนออกจากสำนักงานไปพร้อมกับพวกอัตสึชิ

    .

    .

    .

    .

    .

    ณ ร้านทาจิบานะโด ที่มีเต้าหู้ต้มชื่อดังนั้นเอง เคียวกะนั่งกินเต้าหู้ต้มนั้นอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่อัตสึชินั่งกินอย่างเกรงใจ

     

    "เอ่อ ยูซุระซังทำงานเป็นดีไซน์เนอร์มานานรึยังหรอครับ?"

     

    "จริงๆก็ตั้งแต่อายุ 15 น่ะ อ๊ะ! แต่ตอนนี้ฉันอายุ 19 เองนะไม่ต้องเรียก ยูซุรุ'ซัง' ก็ได้นะคะนาคาจิมะคุง"

     

    "ยังไงผมก็เกรงใจอยู่ดีล่ะครับ!? ขอเรียกแบบเดิมดีกว่า เพราะยังไงยูซุรุซังก็ดูมีวุฒิภาวะมากกว่าผมเยอะเลย ยูซุรุซังต่างหาก เรียกผมว่าอัตสึชิแบบคนอื่นก็ได้ครับ!....แต่ว่าสุดยอดเลยนะครับเป็นดีไซน์เนอร์ตั้งแต่อายุ 15 เนี่ยแสดงว่าไม่ได้เรียนโรงเรียนหรอครับ?"

     

    "อ่อ....ค่ะ..ปกติมีคนถูกจ้างมาสอนที่บ้าน....น่ะค่ะ...." ยูซุรุตอบอย่างกระอักกระอ่วนใจ อัตสึชิที่คงจะมองออกจึงไม่ถามต่อ

     

    "แต่ว่าฉันอยู่ด้วยคนเดียวมาตั้ง 4 ปีแล้วล่ะค่ะ แถมเป็นงานที่ฉันรักด้วยถึงอีกใจนึงก็อยากหาอะไรใหม่ๆทำก็เถอะค่ะ มีอะไรที่ฉันอยากทำอีกเยอะเลย " ยูซุรุพูดเสริม

     

    "ไม่รู้ตอนนี้ลูกค้าประจำคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะเนี่ย....หายไป 3 วันแบบนี้สงสัยจะโดนสวดหูชาแน่ๆเลย..."

     

    "ลำบากน่าดูเลยนะครับ"

     

    "ไม่หรอกจ่ะ ฉันจะเล่าให้ฟังนะ ลูกค้าคนนี้น่ะเป็นคนดีมากเลยล่ะ ถึงจะบ่นแต่ก็เพราะเป็นห่วงล่ะ บางทีก็เหมือนเป็นเพื่อนคุยเลยล่ะแวะมาร้านทุกวันเลย ที่ฉันเป็นดีไซนเนอร์ได้เพราะมีลูกค้าคนนี้สนับสนุนเลยนะ ชักอยากกลับไปเปิดร้านแล้วสิ...อยากกลับไปตัดชุดให้อัตสึชิคุง และพวกดาไซซังแล้วล่ะค่ะ"

     

    "อยากเห็นจังเลยนะครับร้านของยูซุรุซังตอนที่เปิดอย่างเต็มที่น่ะ"

     

    อัตสึชิและยูซุรุนั่งคุยกันอย่างเพลิดเพลินจนถึงเวลาเย็นของวันนั้น

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    "ขอบคุณค่ะ สำหรับเต้าหู้ต้ม" เคียวกะโค้งก้มให้ยูซุรุหลังจากที่ทั้งสามคนนั้นเดินมายังหน้าร้านของยูซุรุ

     

    "ยินดีจ่ะ ไว้วันหลังถ้าพวกอัตสึชิคุงออกมาทำงานก็แวะมาที่ร้านของฉันได้นะ ไว้จะพาไปกินของอร่อยล่ะ"

     

    "ค...ครับ ยูซุรุซังก็รักษาตัวด้วยนะครับ แล้วก็อันนี้ผมลืมให้เบอร์ไว้ถ้าเกิดมีเรื่องที่ต้องการให้ช่วยโทรมาหาได้เลยนะครับ" อัตสึชิยื่นกระดาษที่มีเบอร์ของเขาเอาไว้ให้ยูซุรุ

     

    "ขอบคุณจริงๆนะ" ยูซุรุยิ้ม และก้มโค้งให้พวกอัตสึชิคุง

    และในวันนั้นพวกอัตสึชิก็ได้กลับบ้านของตน

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เช้าวันรุ่งขึ้นนั้นเองเวลาประมาณตีห้า ฟ้าใกล้จะสว่าง

    ตรู๊ดดดด

    เสียงโทรศัพท์ของอัตสึชิได้ดังขึ้นขณะที่เขากำลังหลับอย่างสบายใจ เขาสลึมสลือเปิดรับสายโทรศัพท์นั้นอย่างช้าๆ

     

    "อา~ รุน~ สา~ หวาด~ อัตสึชิคุง~" เสียงสุดใสกิ๊งของดาไซอยู่ที่ปลายสาย

     

    "ถ้าจะมากวนผมแต่เช้า ขอวางสายก่อนนะครับ" อัตสึชินั้นตอบกลับอย่างใจดำ

     

    "มีงานต่างหากล่ะอัตสึชิคุง รีบตื่นเร็ว" ทันใดเสียงของดาไซก็ต่ำลงราวกลับกำลังจริงจังและนั่นก็ทำให้อัตสึชิกระตือรือร้นและออกไปทำงานทันที

    .

    .

    .

    .

    .

    ช่วงเวลาใกล้ๆกันนั้นเอง ยูซุรุนั้นได้ออกไปที่ท่าเรือเพื่อมองหาแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าใหม่ เธอลุกจากม้านั่งและเตรียมตัวกลับไปที่ร้านของตัวเอง

     

    "วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน....เอาล่ะกลับไปเตรียมตัวดีกว่า" ยูซุรุเดินกลับร้านของตัวเอง

     

    "ใน ที่ สุด ก็ เจอ ตัว แล้ว~" เสียงแหลมชวนขนลุกดังขึ้น จู่ๆหมอกก็ลงมาหนาต่างจากตอนแรก ยูซุรุชะงักตัวสั่นเทา แต่ก็ได้สติรีบวิ่งไปข้างหน้าทันที

     

    "เหยื่อ คน ที่ 6 ไม่ ให้หนีไปหรอกนะ ฮิฮิฮิฮิฮิฮิ" เสียงหัวเราะชวนขนลุกดังขึ้น

     

    ฉึก!!

     

    "โอ๊ย!" ยูซุรุถูกของมีคมบางอย่างเข้าที่ขาอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เพราะรอบนี้มันแทงเข้าไปที่ขาของเธอจนทำให้เจ็บจนแทบจะเดินต่อไม่ได้

     

    เธอลุกขึ้นและรีบวิ่งไปยังที่คนชุกชุมเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ว่าจะเดินมากเท่าไหร่ก็ไม่เจอซักที

     

    "หมอกหนามาก...หายใจไม่ออก"

    ยูซุรุหมดแรงจะเดินต่อเธอทรุดตัวลงอย่างไร้เรียวแรงในโกดังหนึ่งเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาใครบางคนที่ปลายสายนั้น

     

    "เสียใจด้วยนะ ถ้าเธอไม่มาเห็นตอนศพที่ 5 ตายก็คงไม่ตายเร็วขนาดนี้ ฉันปล่อยคนที่เห็นศพที่ไม่สมบูรณ์ของฉันไม่ได้หรอก ฮิฮิฮิฮิ ดีไซนเนอร์ซัง~" เงาฆาตกรโผล่มาพร้อมกับเสียงกระทบกันของสิ่งที่เป็นนกรรไกรเหมือนเล็บยาวที่มือฆาตกร

     

    "เฮ้ยแกเป็นใคร มาทำอะไรแถวนี้ ยิงมัน!!!"

     

    เสียงของอีกฟากหนึ่งของยูซุรุคือ กลุ่มผู้ชายใส่สูทดำ

    ยิงปืนกราดใส่เงาไม่หยุด

     

    "อ๊ากกกกก"

     

    เสียงชายกรีดร้องอย่างน่ากลัวเลือดกระฉูดพุ่งออกมาไหลโชกอย่างสยดสยอง

     

    ยูซุรุนั่งก้มหัวหลบอยู่ในโกดังนั้นอย่างหวาดกลัว

    เธอทำอะไรไม่ได้เพราะตกใจจึงทำให้โทรศัพท์นั้นหล่นกลางทางไปแล้ว

     

    หลังจากเสียงปืนหยุดไปซักพักยูซุรุรีบรุดหนีจากความชุลมุนนั้นไปยังโกดังอีกฝั่งและพยายามห้ามเลือดที่ขา

     

    "ทำยังไงดี...เดินต่อไปไม่ไหวแล้วนะ..."

     

    "คิกๆๆๆๆๆๆๆ"

    เสียงหัวเราะชวนให้ขนลุกดังเข้ามาเรื่อยๆอีกครั้ง

    เงานั้นทำให้ยูซุรุที่นั่งตัวสั่น หวาดกลัวจนกรีดร้องไม่ออก

     

    "เจอ ตัว แล้ว~ "

     

    "อึก! ป...ปล่อยนะ!" ยูซุรุถูกกระชากคอเสื้อและถูกจับบีบคอยกขึ้นมา

     

    "จะทำศพเธอให้สวยๆเลยนะ ชุดแบบไหนเหมาะที่สุดสำหรับดีไซน์เนอร์ตอนตายกันนะ~"

     

    ฉึก..แควก!!

     

    "กรี๊ด! อึก!"

     

    เสื้อผ้าของยูซุรุถูกฉีกออกด้วยแรงอันมหาศาล คมมีดที่ปาดเข้าที่กระโปรงและเสื้อ บาดที่ผิวใต้ผ้าพวกนั้นด้วยจนเกิดบาดแผลและเลือดไหลออกทีละนิด

     

    "เธอเนี่ยกรีดร้องน้อยกว่าเหยื่อรายก่อนๆอีกนะเนี่ย น่าสนใจดีนี่ แต่อีกไม่นานเธอก็จะไม่ได้กรีดร้องอีกแล้วล่ะ"

    หมอกเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆอย่างผิดปกติ

     

    (หรือว่าฆาตกรนี่จะเป็นผู้มีพลังพิเศษ!?....)

     

    "อัก! อึก ฮึก! " ร่างของยูซุรุถูกโยนลอยไปกระแทกกับคอนเทนเนอร์ของโกดัง

     

    "มีดที่แทงไปที่ขาตอนแรกของเธอน่ะมีพิษทำให้ชาอยู่ พออีกซักพักก็จะหลับไปไม่มีวันฟื้นอีกเลย หมอกนี่ก็เป็นพลังของฉัน มันจะทำให้เธอหลงทางไปไม่ถึงจุดหมายและหายใจไม่ออก ครั้งก่อนเธอโชคดีไปที่หนีฉันไปได้ แต่มันจะไม่มีครั้งที่สองอีกต่อไปแล้ว เพราะเธอจะตายยังไงล่ะ คิกๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ"

     

    ฆาตกรหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่สีหน้าของยูซุรุนั้น หวาดกลัวน้ำตาไหลออกมาด้วยความช็อค

     

    (เรากำลังจะตาย? ไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุ....แต่เป็นการฆาตกรรมอย่างงั้นหรอ?....เรายังไม่ได้ทำสิ่งที่อยากทำอีกตั้งเยอะแยะ....)

     

    "เอาล่ะเริ่มจากตรงนี้ก่อนดีมั้ยนะ~"

     

    (ยังไม่ได้ตอบแทนอัตสึชิคุงกับพวกดาไซซังทุกคนเลย......)

     

    "เริ่มจากตรงนี้ก่อนเลยแล้วกัน!!!!"

     

    ฆาตกรชูแขนซึ่งมีคมมีดเรียงตามนิ้วมือขึ้นและพุ่งตรงมาเพื่อแทงร่างของยูซุรุที่ไร้เรี่ยวแรงนั้น

     

    "พลังพิเศษ สัตว์ร้ายใต้แสงจันทร์!!"

     

    แกร๊ง!!

     

    " แกเป็นใครกัน!?"

     

    "ยูซุรุซัง!!!??" เสียงเรียกของใครบางคนเรียกสติที่ใกล้เลือนลางของยูซุรุขึ้น

     

    (เอ๋?...นี่มัน.....)

     

    "อ...อัตสึชิ...คุง?" เบืองหน้าของยูซุรุนั้นมีอัตสึชิซึ่งเข้ามากันคมมีดด้วยแขนที่กลายเป็นเสือนั้นอยู่

     

    "ไม่เป็นไรนะครับ !"

     

    "แก....เป็นใคร !? พวกมีพลังแบบฉันงั้นหรอ!?"

     

    (อัตสึชิคุง.....มีพลังนี่ด้วย....)

     

    "ผมจะปกป้องคุณเองครับ..จะพาคุณไปทำอะไรใหม่ๆมากกว่าตอนนี้ครับ!!"

     

    "เน่ๆ~ อัตสึชิคุงมองข้างหน้าให้ดีก่อนสิ"

     

    เสียงหนึ่งดังก่องมาจากที่ไหนซักแห่ง

     

    (เสียงนี้...ดาไซซัง)

     

    "อย่ามาขวางกันนะเว้ยถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็.....

     

    ฉันจะฆ่าแกและทุกคนที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมดเลย!!!"

     

    "ย..แย่แล้ว!?"

     

    ฆาตกรพุ่งตัวหลบไปในหมอกทันใดนั้นหมอกก็หนาขึ้นเรื่อยๆ ข้อมือของยูซุรุถูกจับกระชากจากหมอกนั้นไป

     

    "กรี๊ด!!"

     

    "อย่าแตะต้องเธอนะ!!!! อัก!!"

     

    "อัตสึชิคุง!?" ดาไซปรากฏตัวขึ้นหน้าโกดังและมองอย่างตกใจ

     

    เสียงอัตสึชิดังตามมาก่อนที่ตัวเขาจะกระเด็นออกไปเพราะถูกฟันเข้าอย่างจังที่ด้านหน้าและนอนล้มลงไป ข้างๆยูซุรุที่ถูกโยนไปทางเดียวกันเพื่อใช้ล่อ

     

    "ว่าแล้วเชียว พวกแกมันอ่อนหัดซะจริงๆ"

     

    ยูซุรุขยับเข้าไปใกล้อัตสึชิเรื่อยๆเธอมองบาดแผลลึกของอัตสึชิอย่างหวาดกลัว

     

    "อ...อัตสึชิคุง ฉัน..ขอโทษ ฮึก ฉันไม่น่าพาพวกอัตสึชิคุงมาเดือดร้อนเลย ฮึก.....ฮือ.."

     

    "ไม่ต้องห่วงครับ พวกผมจะปกป้องคุณเองครับเพราะฉะนั้น อย่าร้องไห้เลยครับ" อัตสึชิยิ้มตอบ

     

    (ทำไมกัน ทำไมฉันถึงอ่อนแอแบบนี้...ทำไมฉันถึงทำอะไรเพื่อคนอื่นไม่ได้ ฉันอยากจะทำอะไรเพื่อช่วยเหลือทุกคนบ้าง!!)

     

    "ผู้หญิงอย่างแกจะทำอะไรได้กัน ดวงวิญญาณของแกน่ะมีค่าแค่ถูกกลืนกินโดยฉันคนนี้เท่านั้นแหละคิกๆๆๆๆๆๆ"

     

    "วิญญาณของฉัน....มีค่าแค่นั้นอย่างงั้นหรอ..."

     

    "แกน่ะ เห็นค่าของมนุษย์เป็นเพียงแค่วิญญาณอย่างงั้นหรอ.....มนุษย์เป็นมากกว่าแค่วิญญาณเป็นชีวิตที่มีค่าเหนือกว่าความตายด้วยซ้ำ!!!.....จิตวิญญาณของฉัน....ไม่มีทางจะจบลงตรงนี้หรอก...ฉันจะต้องกลับไปพร้อมกับทุกคน..จะต้องไม่มีใครตายเพราะปีศาจอย่างแก!!!"

     

    วิ๊งงงง

     

    จังหวะเดียวกันนั้นเองแสงสว่างบางอย่างอาบไปทั่วร่างยูซุรุและอัตสึชิที่บาดเจ็บหนัก ดาไซและคุนิคิดะที่วิ่งตามมา ยืนชะงักอยู่กับที่

     

    (นี่มัน...อะไรกัน...)

     

    "พลังพิเศษ เหนือกว่าจิตวิญญาณ"

     

    ทันใดแสงก็อาบทั่วร่างอัตสึชิเมื่อยูซุรุสัมผัสที่ร่างของอัตสึชิเข้า บาดแผลของเขาหายอย่างรวดเร็วและกลับมาสู้ได้อีกครั้ง

     

    เขาพุ่งใส่ฆาตกรอย่างรวดเร็วพลังทำลายล้างรุนแรงจนพื้นแตก

     

    "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ...เหมือนร่างกายมันกำลังแข็งแกร่งขึ้น!?"

     

    "ดาไซนี่มันอะไร!?" คุนิคิดะมองเหตุการณ์อย่างประหลาดใจ

     

    "ดูเหมือนจะมีอะไรกระตุ้นให้เธอคนนั้นปลุกพลังพิเศษของตัวเองขึ้นมาน่ะสิ..."

     

    (พลังนั่นมัน....มีอยู่จริงๆด้วยสินะ...)

     

    ดาไซกล่าว

     

    "ผ..ผู้หญิงคนนั้นมีพลังแบบนั้นด้วย ฮะๆ...ฮะต้องเอามาเป็นของฉันให้ได้!!!"

     

    "อึก!"

     

    "พลังกำลังเพิ่มขึ้น คิกๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"

     

    จังหวะที่อัตสึชิพลาดนั้นเองฆาตกรจับยูซุรุที่ใช้พลังอยู่ขึ้นและพลังของมันก็เพิ่มขึ้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

     

    "แม่งเอ้ยมันจับเธอไปแล้ว!?"

     

    "แกน่ะหายไปซะ!!!!"

     

    "ยูซุรุซัง!!!"

     

    "พวกแกน่ะเป็นใครกัน!?" ทันใดนั้นกลุ่มมาเฟียเข้าล้อมรอบทางเข้าและมองอย่างตกใจ

     

    "อัก!" ฆาตกรจู่ๆก็หยุดชะงักและหมอกก็พุ่งเข้ารอบตัว

     

    "ทั้งๆที่พลังเพิ่มขึ้นแท้ๆ..ทำไมถึงควบคุมไม่อยู่ อ๊ากกกกกกกกก"

     

    ฟู่!....

    ทันใดนั้นร่างของฆาตกรก็สลายไปอย่างน่าสยดสยองเหลือเพียงแต่อาวุธและเสื้อผ้านั้น

     

    "เจ้าพวกนี้มัน จากสำนักงานนักสืบบุโชนี่!?"

     

    "ชิ..พวกพอร์ทมาเฟีย"

     

    "ดาไซซัง ยุซุรุซังเค้า!? อ๊ากกพลังผมมัน...เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ"

     

    อัตสึชิร้องอย่างเจ็บปวดในขณะที่ยูซุรุนั้นยังตกใจกับพลังของตน

     

    "หยุดสิ...ถ้าไม่หยุดอัตสึชิคุงก็!?"

     

    (พลังพิเศษนี่มัน ไม่ยอมหยุด!? ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!)

     

    "พลังพิเศษ สูญสิ้นความเป็นคน"

     

    ดาไซยื่นแขนไปสัมผัสยูซุรุและใช้พลังพิเศษนั้นลบพลังของเธอไปจนเธอหมดสติลงไปในอ้อมกอดของดาไซที่รับร่างของเธอไว้

     

    "โทโมเอะจัง ปลอดภัยแล้ว...พักผ่อนซะนะ"

     

    "ด...ดาไซซัง....อ..อัตสึชิคุงเค้า...."

     

    "เฮ้ยนั่นมันพลังอะไรกัน"

     

    "เพิ่มพลังให้พลังพิเศษหรอ!? น่ากลัว"

     

    "ชิ สตั้นบอมบ์" คุนิคิดะโยนระเบิดสตั้นใส่พวกมาเฟียก่อนที่พวกเขาและร่างของยูซุรุจะหายไปจากตรงนั้น

    .

    .

    .

    .

    พวกอัตสึชิหนีรอดออกมาอย่างปลอดภัย ยูซุรุที่บาดเจ็บหนักลืมตาอย่างช้าๆ

     

    "ฉัน...จะตายแล้ว..รึเปล่า..."

     

    "โทโมเอะจัง....ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว อัตสึชิคุงปลอดภัยนะ"

     

    "ด..ดาไซซัง...โล่งอกไปที....."

     

    (อัตสึชิคุง...ปลอดภัยสินะ.....)

     

    ยูซุรุหลับตาลงอย่างสงบ

     

    "ตอนนี้เธอก็พักผ่อนก่อนเถอะนะ หลังจากเธอตื่นมาอีกครั้ง คงต้องเจออีกหลายๆเรื่องเลยล่ะ...."

     

    แสงดวงอาทิตย์สาดส่องมายังจุดที่พวกอัตสึชิยืนอยู่อย่างเจิดจ้า เช้าวันรุ่งขึ้นจะเป็นอย่างไรการเผชิญหน้าครั้งใหม่และหญิงสาวที่ปลุกพลังพิเศษของตัวเองขึ้นมานั้นจะเกิดอะไรขึ้นกัน....

     

    CH.2? 「 สถานที่ครั้งแรกที่ลืมตาขึ้นมาจากตอนนั้น」

    ==============================

    ตอนแรกอ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคะเห็นภาพ กันรึเปล่าพึ่งแต่งแนวนี้ครั้งแรกก็งงๆหน่อยนะคะ แต่ว่าสนุกดีค่ะ ไว้ติดตามกันต่อไปนะคะ ตอนหน้าหนุ่มๆจากอีกฝั่ง(?)ก็จะมาแล้ว~ 

    ข้อมูลตัวละครใหม่ของแป้งจะแปะให้หลังจากแต่งจบนะคะเพราะ ข้อมูลจะกลายเป็นสปอยเอา 555

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×