ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 (ตอนแรก) จุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่
Chapter 1.
จุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่.
บางคนเชื่อว่าการข้อพรต่อพระเจ้าหรือการภาวนานั้นสามารถดลบันดาลสิ่งที่เราต้องการได้ บางคนหวังให้ตัวเองร่ำรวย หวังให้ตัวเองเป็นคนมีชื่อเสียง ต่างๆนานา
แต่สำหรับฉันแล้ว...ขอแค่ได้อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นแค่นั้นก็พอ...
แต่ว่า...
ต่อให้สิ่งที่ขอเป็นจริง...
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า...สิ่งที่เราขอนั้น...จะอยู่ตลอดไป...
ฉันโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แค่มีอยู่พอกิน ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นพนักงานออฟฟิต ส่วนฉันก็เป็นแค่เด็กตัวเล็กๆที่ซุกซนและกำลังเรียนรู้
พวกเราใช้ชีวิตเหมือนครอบครัวปกติทั่วไป...
แต่จู่ๆ... ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป...
คุณแม่เริ่มมีปัญหาที่ทำงานเพราะคุณแม่มักจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนร่วมงานตอนกลางคืนที่บาร์อยู่บ่อยๆ คุณแม่เริ่มละเลยงานหน้าที่ และสุดท้ายก็ถูกไล่ออก คุณแม่รู้สึกเสียใจแล้วเริ่มดื่มสุรา เสพสารเสพติด
ทางด้านคุณพ่อก็พยายามที่จะหางานทำเพิ่มเพื่อหาเงินดูแลครอบครัวและส่งฉันเรียน
แต่สุดท้าย...คุณพ่อก็ยอมแพ้และตัดสินใจทิ้งครอบครัวของเราแล้วจากไป... ทิ้งให้ฉันอยู่กับคุณแม่สองคน
ฉันพยายามคิดในแง่ดีไว้ว่า... อย่างน้อยฉันก็ยังมีคุณแม่
แต่สุดท้าย... ฉันก็เสียไปอีกคน...
อยู่มาวันหนึ่ง จู่ๆคุณแม่ก็ล้มลงหมดสติ ฉันที่ไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไรจึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนข้างบ้านที่ฉันรู้จัก และไม่นานก็มีรถพยาบาลมาจอดอยู่หน้าบ้านแล้วพาตัวคุณแม่ไป
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ฉันทำได้แค่นั่งรออยู่ข้างนอกห้อง ได้แต่ภาวนาว่าคุณแม่จะไม่เป็นอะไร... แต่ไม่นานก็มีนางพยาบาลเดินมาหาฉันและเรียกตำรวจ แล้วในเวลาต่อมา ก็มีคุณตำรวจมารับฉันกลับไปบ้าน...
พอกลับถึงบ้าน คุณตำรวจบอกให้ฉันเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋าเดินทาง เพื่อเตรียมตัวย้ายออกจากบ้านในเช้าวันถัดไป...
เช้าวันถัดมา ฉันที่รอคุณตำรวจมารับก็ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านซุบซิบกัน
"ได้ยินมั้ย... แม่ของเด็กคนนั้นน่ะ"
"น่าสงสารจริงๆ..."
"นี่! เห็นเด็กคนนั้นมั้ย ได้ยินว่าแม่ของเด็กคนนั้นหมดสติอยู่ในบ้านแล้วต้องรีบพาไปโรงพยาบาลละ ต้องดื่มหนักมากแน่ๆ"
"เพื่อนของฉันบอกว่าคุณหมอช่วยผู้หญิงคนนั้นไว้ไม่ทัน ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่านะ"
"ก็ดูสิ เด็กคนนั้นจะย้ายออกนิ ก็คงจะเป็นอย่างงั้นแหละ"
"แย่จริงๆผู้หญิงคนนั้น โดนสามีทิ้งแล้วทิ้งลูกตัวเองเนี่ยนะ ลูกตัวเองยังเด็กแท้ๆ ไม่นึกถึงลูกเลยรึไง"
ถึงแม้ฉันจะยังเป็นแค่เด็ก... แต่ฉันก็เข้าใจ
"คุณแม่ก็ทิ้งฉันไปอีกคน..."
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ฉันก็ไปอาศัยอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก
จนมาถึงตอนนี้...
3rd. POV.
ณ สถานรับเลี้ยงเด็ก ในห้องนอนห้องหนึ่งที่มีหญิงสาววัยรุ่น ผิวขาวนวล ผมสีบลอนด์ยาว ในชุดกระโปรงยาว ชื่อว่า สเลนน่า กำลังหลับอยู่บนเตียงของเธอ แล้วเธอก็กำลังฝันถึงอะไรบางอย่าง
"..."
"ตื่น..." ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งพูดขึ้นในฝันของสเลนน่า
"!อ-อืม..." สเลนน่านอนตัวเกรง เหมือนเธอกำลังฝันร้าย
"...สเลนน่า..." เสียงนั้นเรียกชื่อของเธอ ในฝันเริ่มปรากฏร่างของใครบางคนที่ไม่ชัด แต่เห็นรางๆว่าเป็นคนตัวสูงผิดมนุษย์
ในขณะเดียวกันสเลนน่าก็เริ่มอยู่ไม่นิ่ง นิ้วจิกลงบนหมอนข้างของเธอและเริ่มมีเหงื่อไหลออกมามาก
แต่แล้วภาพในฝันก็เริ่มที่จะเห็นชัดเจนมากขึ้น ปรากฏเป็นร่างผู้ชายตัวสูง ไม่มีหน้า ผิวซีดขาว สวมชุดสูทสีดำ ปรากฎขึ้นในฝันของเธอ
"ถึงเวลาตื่นแล้ว"
"หะ!" เมื่อเสียงนั้นพูดจบ สเลนน่าก็สดุ้งตื่นขึ้น เธอรีบมองไปรอบๆห้องดูว่าไม่มีใครอยู่ในห้องมั้ยนอกจากเธอ
เมื่อสเลนน่าเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง เธอถอนหายใจออกมาและนั่งบนเตียง นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เธอฝันแบบนั้น เธอพยายามตั้งสติแล้วบอกกับตัวเองว่าทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน
'ก็อกๆ'
มีเสียงคนมาเคาะที่ประตูห้องและเรียกชื่อสเลนน่า
"สเลนน่า...ตื่นรึยังจ๊ะ? " เสียงเรียกของผู้ดูแลของเธอเรียกและเปิดประตูเข้ามาอย่างช้าๆ
เธอเดินเข้ามาในห้องก็เห็นว่าสเลนน่าตื่นแล้ว แต่สภาพของเธอในตอนนี้คือเหมือนคนที่กำลังหลอนอะไรสักอย่าง ด้วยความเป็นห่วง ผู้ดูแลจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆและคุยกับเธอ
"สเลนน่า... เป็นอะไรรึเปล่า?" ผู้ดูแลถามแล้วยื่นมือไปลูบหลังสเลนน่าเบาๆ
เมื่อสเลนน่าตั้งสติได้แล้วจึงหันไปหาผู้ดูแลของเธอและส่งยิ้มให้
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่...ฝันร้าย..." เธอบอก
"ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่ต้องกลัวแล้ว..." ผู้ดูแลพูดพร้อมกับลูบหลังปลอบสเลนน่าและเอาผ้าเช็ดหน้าที่เธอมีติดตัวมาเช็ดเหงื่อบนหน้าให้
"รีบไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวนะ เดี๋ยวจะไปเรียนสาย" ผู้ดูแลบอกและลุกจากเตียง เดินออกจากห้องไป
สเลนน่าลุกจากเตียงแล้วเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำจนเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่งตัว ใส่เสื้อที่ถักจากไหมพรมสีม่วงอ่อน กระโปรงสีเหลืองอ่อน ถุงเท้ายาวสีขาว รองเท้าส้นเตี้ยสีดำ และแว่นตาช่วยให้เธอมองเห็นทุกอย่างได้ชัดมากขึ้น(สเลนน่าสายตาสั้นค่ะ)
เธอเดินออกจากห้องไปแล้วเดินลงไปหาผู้ดูแลและเด็กคนอื่นๆในสถานรับเลี้ยง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[ สเลน่า Pov. ]
ฉันหยุดคิดเรื่องความฝันนั้นไม่ได้จริงๆ ทำไมมันถึงรู้สึกคาใจอย่างนี้นะ ฉันฝันแบบนี้สามครั้งแล้ว และก็เป็นฝันเดียวกันด้วย...แปลกจริงๆ
ฉันลงมาจากห้องและเดินไปนั่งร่วมกินข้าวเช้ากับเด็กคนอื่นๆ
"อรุณสวัสดิ์จ้าเด็กๆ" ฉันทักทายทุกคนในห้อง
"อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะพี่สเลนน่า" เด็กๆทักทายกลับอย่างพร้อมเพรียง แล้วผู้ดูก็วางจานข้าวบนโต๊ะ
ฉันรีบยัดขนมปังทาแยมหนึ่งแผ่นพร้อมกับกาแฟหนึ่งแก้ว แล้วรีบไปหยิบกระเป๋าเรียน เดินออกจากสถานรับเลี้ยงไปขึ้นรถบัสโรงเรียนที่พึ่งมาถึง
"ตั้งใจเรียนนะสเลนน่า" ผู้ดูแลบอก ฉันผงึกหัวและยิ้มให้
"โชคดีครับ/ค่ะพี่สเลนน่า!" เด็กๆทุกคนตะโกนบอก ฉันโบกมือให้แล้วเดินขึ้นรถไป
พอขึ้นไปบนรถก็เจอกับนักเรียนคนอื่นๆที่กำลังคุยและเล่นสนุกกันบนรถ ฉันเดินไปหาที่นั่งว่างๆ ระหว่างเดินก็เผลอเดินชนคนอื่นบ้าง ฉันรีบขอโทษแล้วรีบเดินไปนั่งที่นั่งว่างแถวกลาง ฉันวางกระเป๋าลงและมองออกไปทางหน้าต่าง เช่นเดียวกับที่รถบัสขับออกไป
รถบัสวิ่งไปและหยุดจอดรับนักเรียนคนอื่นไปเรื่อยๆจนตอนนี้ขับมาถึงพื้นที่บริเวณที่เป็นป่า บ้านสถานรับเลี้ยงที่ฉันอยู่นั้นอยู่ในพื้นที่ชนบท ห่างไกลจากตัวเมือง และทั้งตัวเมืองและชนบทก็ถูกล้อมด้วยป่าใหญ่อีกที่นึง และระหว่างตัวเมืองกับพื้นที่ชนบทนั้นก็ยังมีพื้นที่ป่าที่ยังไม่ได้มีแผนจะทำก่อสร้าง (นี่เป็นเพียงแค่สถานที่สมมุตินะคะ)
ฉันคิดในใจ ถ้าไม่มีรสบัสคันนี้ ฉันคงได้เดินจนขาลากไปมหาลัยแล้ว เพราะระยะทางระหว่างตัวเมืองกับชนบทที่ฉันอยู่มันไกลพอสมควร
ระหว่างที่รถบัสกำลังวิ่ง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเสียบหูฟัง ฉันเปิดเพลงที่ฉันชอบฟังเป็นประจำแล้วก็กลับไปชมวิวข้างทางเหมือนเดิม
แต่ระหว่างที่ฟังเพลงอยู่ ฉันก็หยุดคิดเรื่องฝันนั้นไม่ได้ ไอเจ้าตัวสูงไร้หน้านั่นมันจะมีความหมายอะไรรึเปล่านะ...
ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเคยเจอ"มัน"มาก่อนเลย...
ไม่นานรถบัสก็จอดตรงหน้ามหาลัย นักเรียนทุกคนต่างเก็บของๆตัวเองแล้วเดินลงจากรถไป
ฉันเดินลงจากรถแล้วเข้าไปในมหาลัย มุ่งตรงไปที่ล็อคเกอร์ส่วนตัว ใส่รหัส แล้วเอาพวกหหนังสือและสมุดจดออกมาเตรียมไว้
"สวัสดีจ้ะสเลนน่า!" ฉันหันไปหาคนที่เรียก นั่นก็คือเพื่อนสาวคนเดียวของฉัน ชื่อว่า มินดา เธอเป็นผู้หญิงผิวขาว ไว้ผมสั้นสีดำ มีดวงตาสีน้ำตาลอ่อน
"!โอ้ว สวัสดีมินดา" ฉันทักทายกลับ ฉันมองมินดาตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้เธอใส่เสื้อเปิดไหล่ข้างสีเทา กางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าผ้าใบสีขาว
"วันนี้เธอแต่งตัวดูดีมากเลยนะ" ฉันชม ทำให้มินดาเขินและหัวเราะคิกคัก
"แค่ลองอะไรใหม่ๆนะ เธอเองก็ลองลุคใหม่บ้างนะ ฉันเห็นเธอแต่งแค่สไตล์นี้แบบเดียวเลย ฉันแนะนำให้เธอลองใส่ชุดกระโปรงยาวดูนะ" มินดาพูด ฉันแค่พูดอืมๆกับเธอ แล้วเราทั้งสองคนก็เดินไปเข้าเรียนวิชาแรกของวันนี้
เมื่อเราไปถึง ในห้องเรียนก็เริ่มมีนักเรียนเข้ามากันบ้างแล้ว แต่สวนมากก็เป็นพวกเด็กเรียนล่ะนะ
เราเดินเข้าไปในห้องเรียนและนั่งที่ประจำของเราระหว่างรออาจารย์มา ฉันเปิดโทรศัพท์ดูข่าวของเช้าวันนี้ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ฉันไถเลื่อนดูไปเรื่อยๆ จนตาไปสดุดกับข่าวเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ "กลุ่มวัยรุ่นสี่คนหายตัวในป่าตอนกลางคืน"
"เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนเหรอ..." ฉันคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
"ล่าสุด เหล่าผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นที่หายตัวไปในป่าได้แจ้งความกับตำรวจข้อหาคนหายตัวไป ตำรวจสอบถามแล้วได้ข้อมูลมาว่าวัยรุ่นกลุ่มนั้นได้วางแผนไปตั้งแคมป์ในป่า ซึ่งผู้ปกครองของวัยรุ่นทั้งสี่รับรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อพบว่าลูกๆของพวกเค้าไม่ได้กลับมาจากการตั้งแคมป์ พวกเค้าจึงโทรขอความช่วยเหลือ ตำรวจได้ออกเดินทางเข้าไปในป่าแล้วพบกับจุดตั้งแคมป์แห่งหนึ่งแต่ไม่มีคนอยู่ และที่น่าตกใจคือแคมป์แห่งนั้นเหมือนมีจะการต่อสู้กันเกิดขึ้น ข้าวของกระจัดกระจายไปทั่ว สภาพของเต้นท์พังยับเยิน สุดท้ายตำรวจคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นการปล้นทรัพย์"
"...ในป่างั้นเหรอ..." ฉันกดดูโลเคชั่นแล้วก็ถึงกับนิ่ง สถานที่เกิดเหตุคือบริเวณพื้นที่ป่าที่กั้นระหว่างพื้นที่ชนบทและตัวเมือง ใกล้กับกับเส้นทางที่ฉันนั่งรถบัสมา
ฉันกำลังจะหันไปสกิดเรียกมินดาให้มาดู แต่เห็นว่ามินดากำลังแชทกับใครบางคน...
เธอทำแบบนี้มาสักพักแล้ว ทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน มินดามักจะแชทกับใครบางคนอยู่ตลอด ฉันเคยถามเธอว่าคุยกับใคร แต่เธอก็บอกแค่ว่า "เพื่อนสมัยเด็กน่ะ"
"...มินดา-"
"อรุณสวัสดิ์นักเรียน" ฉันยังพูดไม่จบ อาจารย์ก็เดินเข้ามาพอดี ฉันเลยเก็บโทรศัพท์แล้วเปิดหนังสือเรียน ไว้ค่อยถามเรื่องข่าวนั่นกับมิดาทีหลังละกัน
หลังจากที่เรียนไปได้แป๊บนึง อาจารย์ก็สั่งให้พวกเราทำแบบฝึกหัด
"เอาละนักศึกษา เปิดหนังสือเคมีไปหน้าที่ 42 ตอบคำถามท้ายบทให้เสร็จ ส่งภายในคาบนี้นะ" คุณครูบอกก่อนที่เค้าจะเดินไปจัดการกับกองเอกสารบนโต๊ะ แล้วไม่นานประตูของห้องเคมีก็ถูกเปิด ดึงความสนใจของทุกคนในห้อง นั่นคือพวกกลุ่มเด็กเกเรที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง
"มาช้าตั้ง30นาที" อาจารย์พูดพร้อมกับมองไปที่กลุ่มเด็กเกเร
"พวกเธอถูกกักบริเวณที่ห้องนี้ตอนเย็นหลังเลิกเรียน ถ้าพวกเธอไม่มาฉันจะรายงานพฤติกรรมแย่ๆทั้งหมดของพวกเธอให้พ่อแม่ฟังจนหมดเปลือก ไปนั่งที่ประจำของตัวเองและเริ่มทำงานสะ" อาจารย์บอกพวกเค้า พวกเด็กเกเรไม่ได้พูดอะไร ยืนนิ่งเงียบฟังที่อาจารย์พูดก่อนที่จะเดินไปนั่งที่ตามที่เค้าสั่ง
ฉันมองตามพวกเค้า หนึ่งในกลุ่มนั้น คโลอี้ สบตากับฉัน เธอมองฉันด้วยสายตารังเกียจ ฉันรีบหันหน้าหนี ฉันว่าฉันไม่ควรไปยุ่งกับเธอดีกว่า
เวลาผ่านไปจนใกล้จะหมดคาบ ฉันกับมินดาทำคำถามท้ายบทเสร็จและลุกไปส่งงานที่โต๊ะอาจารย์
"ดีมากเลยทั้งสองคน ตอนนี้เวลาก็ใกล้จะหมดคาบแล้ว พวกเธอออกจากห้องไปได้เลยถ้าต้องการ" ได้ยินแบบนั้นพวกเราก็เก็บของและเดินออกจากห้องเรียนไปทันที
ฉันบอกกับมินดาว่าจะไปเอาของที่ตู้ล็อคเกอร์ก่อน เลยบอกให้เธอนำหน้าไปก่อนเลย ส่วนฉันก็เดินไปเปิดตู้ล็อคเกอร์ เอาของเก็บใส่ในตู้
ระหว่างที่ฉันกำลังจัดการกับธุระของตัวเองอยู่ จู่ๆก็มีมือของใครบางคนมาโอบไหล่ฉัน ฉันตกใจแล้วรีบหันไปดูก็เจอผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันไม่อยากจะเจอมากที่สุด
"ว่าไงคนสวย~" นั่นก็คือ แมกซ์ เป็นหนุ่มนักกีฬาของมหาลัย
ฉันไม่พูดอะไร รีบปิดตู้ล็อคเกอร์แล้วพยายามที่จะเดินหนี แต่แม็กซ์ก็รีบเอาตัวมาขวางไว้ไม่ให้ฉันหนี ฉันเมินหน้าหนี พยายามหาทางอื่น
"เมื่อไหร่เธอจะตอบรับคำขอของฉันแล้วเป็นแฟนกับฉันสักทีละ?" แม็กซ์ถาม ฉันยังไม่พูดอะไร ฉันเห็นคโลอี้ยืนอยู่ไกลๆ ฉันรีบผลักแม็กซ์ออกไปแล้วเดินหนีทันที
ฉันเดินไปถึงห้องเรียนวิชาฝรั่งเศษ มินดานั่งรออยู่ในห้อง ฉันรีบเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเธอ นั่งนิ่งตัวแข็งทื่อจนอาจารย์เดินเข้ามาในห้อง
"สเลนน่า เป็นอะไรรึเปล่า?" มินดาถาม เธอน่าจะเห็นว่าฉันเกร็งตัวแปลกๆ ฉันพยักหน้าและบอกว่าไม่มีอะไร แล้วก็ถึงเวลาเรียน...
ฉันกับมินดาเดินไปที่โรงอาหาร ฉันเลือกที่จะนั่งรอที่โต๊ะอาหารแล้วให้มินดาไปซื้ออาหารกลางวันให้เราสองคน ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งทำการบ้านรอเธอ ก็มีคนเอามือมาทุบกับโต๊ะอย่างแรง ฉันสดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นไปมองว่าใครทำแล้วก็เจอคโลอี้และเพื่อนของเธออีกสองคน อแมนด้า และ อลิส
"นี่ยัยเนิ้ต! นี่โต๊ะของเรา" คโลอี้พูดพร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะ เชิงบอกว่าเธอเป็นเจ้าของ
"..." ฉันหันหน้าหนี ไม่กล้าสบตากับเธอ
"นี่! ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอหะ!" โคลอี้ตะคอกใส่พร้อมกับจับที่คอเสื้อฉัน
"เห้~คโลอี้ อย่าทำสเลนน่าสิ" เสียงของแม็กซ์พูดขึ้น ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอยากจะขุดหลุมหนีไปจากตรงนี้
เหตุผลที่คโลอี้ไม่ชอบฉันเพราะเธอชอบแม็กซ์มากๆ แต่พอเธอรู้ว่าแม็กซ์กำลังตามจีบฉัน นั่นเลยทำให้คโลอี้ยิ่งไม่ชอบฉันไปอีกและพยายามทำให้ชีวิตฉันอยู่ยากขึ้น
ส่วนฉันก็ไม่เคยชอบแม็กซ์ เพราะสำหรับฉัน แม็กซ์ไม่ใช่สเป็คของฉันเลย
ตอนนี้สถานการณ์เริ่มอึดอัดมากขึ้น ตอนนี้ฉันต้องเผชิญหน้าทั้งพวกแก๊งสามสาวที่ชอบบูลี่ฉันและผู้ชายบ้าที่ตามตื้อฉัน ฉันควรจะทำไงดี...
"นี่! หยุดนะ!" เสียงตะโกนของมินดาดังขึ้น เธอรีบเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร เธอวางถาดลงแล้วเดินมาขวางระหว่างฉันกับพวกคโลอี้
"?...เหอะ! ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าคนอย่างเธอจะลดตัวลงไปเป็นเพื่อนกับยัยเนิ้ตนี่น่ะมินดา" คโลอี้บอกพร้อมกับเชิ้ตหน้าใส่
"มันก็เรื่องของฉันสิ แล้วพวกเธอทุกคนก็เลิกยุ่งกับสเลนน่าได้แล้ว ไปสะ! ไม่งั้นฉันจะฟ้องอาจารย์" มินดาบอกและไล่พวกเค้าไป พวกแก๊งสาวจึงพากันหัวเราะเยาะเย้ยแล้วเดินออกไป ส่วนแม็กซ์ก็ขยิบตาให้ฉันแล้วเดินจากไป แต่คโลอี้หันกลับมามองอีกครั้งและพูด
"...ไว้คุยกันทีหลังนะ เดี๋ยวฉันจะทักไปทีหลัง" คโลอี้พูดแล้วเดินจากไป
...ไว้คุยกันงั้นเหรอ...หมายความว่าไงนะ?...
"...ไม่เป็นไรนะสเลนน่า?" มินดาหันมาหาฉันพร้อมกับถาม ฉันแค่พยักหน้าตอบกลับ
"...มาเถอะ ทานข้าวกลางวันกันนะ" มินดายิ้มให้พร้อมกับยื่นจานข้าวที่เธอซื้อมาให้ ฉันรับมาแล้วเราก็เริ่มทานอาหารกลางวันด้วยกัน
วันนี้ยังคงอีกนาน...
[16:30 น.] ถึงเวลากลับบ้าน
ฉันกับมินดาเดินออกจากห้องเรียน วันนี้เรียนเสร็จสักที...
"มินดา ฉันว่าฉันจะไปทำการบ้านที่ห้องสมุดน่ะ เธอกลับไปก่อนเถอะ" ฉันบอก
"แน่ใจนะสเลนน่า ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอได้นะ" มินดาถาม
"ไม่เป็นไร ฉันอยู่คนเดียวได้จ้ะ" ฉันยืนยัน สุดท้ายมินดาก็ยอม
"เห้อ...โอเค อย่าอยู่จนดึกละ"
"อื้ม เจอกันพรุ่งนี้นะ" ฉันบอกลาแล้วหันหลังให้ เดินไปที่ห้องสมุด
"อย่าลืมแชทมาหาพอถึงบ้านนะ" มินดาตะโกนบอก ฉันยิ้มให้พร้อมโบกมือลาเธอ
ฉันเดินมาถึงห้องสมุด ในห้องก็ยังมีนักเรียนอยู่บ้าง ฉันเดินไปหาที่นั่งว่างๆ วางกระเป๋า นั่งลง แล้วเริ่มทำการบ้าน...
เวลาผ่านไปสักพัก ฉันที่ยังคงนั่งทำการบ้านอยู่ นักเรียนที่เคยอยู่ในห้องตอนนี้ก็เริ่มจะกลับบ้านกันบ้างแล้ว ฉันมองนาฬิกาในโทรศัพท์ ตอนนี้ใกล้จะห้าโมงเย็นแล้วเหรอ?
ฉันรู้สึกง่วงนอน...
"อืม...หลับสักแป๊บนึงคงไม่เป็นไร..." พูดจบฉันก็ถอดแว่นแล้วฟุบไปกับโต๊ะทันที...
"..."
"ตื่นได้แล้วสเลนน่า"
"อืม..."
"พวกเค้ากำลังตามหาเธออยู่"
"นู๋จ๋า ตื่นได้แล้ว"
"หะ!" ฉันลืมตาตื่นเมื่อรู้สึกว่ามีคนกำลังเขย่าตัวฉัน ฉันหันไปมองเจ้าของมือ นั่นคือเจ้าหน้าที่พาลโรงผู้หญิง
"นู๋จ้ะ มันดึกมากแล้ว กลับบ้านได้แล้วนะ" ฉันขยี้ตาแล้วมองนาฬิกาในโทรศัพท์
18:30 น.
"หะ!!!" ฉันตกใจสุดขีด นี่มันดึกขนาดนี้แล้วหรอ? ฉันรีบลุกขึ้นเก็บของทั้งหมดเข้ากระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องสมุด วิ่งออกมานอกมหาลัย ฉันมองไปรอบๆ ตอนนี้มันก็มืดมากแล้ว คุณจินนี่(ชื่อของผู้ดูแล)กับพวกเด็กๆคงเป็นห่วงฉันมาก คงสงสัยว่าฉันหายไปไหน
ฉันรีบเปิดโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาคุณจินนี่ แต่แถวนี้ไม่ค่อยมีสัญญาณ เพาะฉะนั้นฉันควรที่จะรีบกลับไปที่สถานรับเลี้ยงให้เร็วที่สุดเท่าทีจะเร็วได้
ฉันเดินไปตามทางเรื่อยๆจนกระทั่งฉันเดินออกมาจากตัวเมือง เข้าสู่เขตพื้นที่ที่เป็นป่า ฉันยืนมองเข้าไปในป่านั้นที่มืดคลึ้ม มีแต่ต้นไม้สูงที่ยังไม่ถูกตัด ฉันรู้สึกกลัวเล็กน้อยที่ต้องมาเดินท่ามกลางสถานที่ที่ดูน่ากลัวในตอนกลางคืนแบบนี้...
ฉันเดินไปตามริมถนน เปิดโหมดไฟฉายในโทรศัพท์เพื่อส่องดูตามทาง ถึงแม้ตามถนนจะมีไฟตามทางแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก
'กึก...กึก...'
ฉันรีบหันกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงเหยียบหญ้าจากด้านหลัง ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆแต่กลับไม่เห็นอะไร...
"...บางทีอาจจะเป็นเสียงเท้าฉันเองก็ได้..." ฉันพูดปลอบตัวเองแล้วเดินต่อ
'ครื่อ...'
ฉันรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ฉันได้ยินไม่ผิดแน่ครั้งนี้ เสียงมันอยู่ข้างหลังฉันจริงๆ!
ฉันฉายไฟไปรอบๆ ฉันส่องไปตรงต้นไม้แล้วก็เจอบางอย่างที่พอฉันเห็นแล้วทำให้ฉันหวังว่าฉันไม่ได้ฉายไฟดู...
ฉันถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อฉันเห็นเหมือนมีตัวอะไรบางอย่างแอบอยู่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่...
ฉันถอยหลังที่ละก้าวอย่างช้าๆ สายตายังจับจ้องมองเจ้าตัวนั้นไว้ แต่พอมันเริ่มขยับบ้าง ฉันกลัวสติแตกแล้วรีบวิ่งหนีทันที
ฉันวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ นั่นมันตัวอะไรกัน!
"เห้อ!เห้อ! ช่วยด้วย!" ฉันตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เผื่ออาจจะมีใครได้ยิน
เสียงฝีเท้าและเสียงครวนครางยังดังจากข้างหลังฉัน แต่อยู่ไกล ฉันไม่กล้าหันไปมอง ทำได้แต่วิ่งไปเรื่อยๆ!
ฉันเห็นทางแยกข้างหน้า ถ้าฉันวิ่งเข้าป่าอาจจะสลัดมันทิ้งได้!
ฉันตัดสินใจวิ่งเลี้ยวเข้าไปในป่า ฉายไฟไปข้างหน้า ฉันยังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆจนกระทั้งฉันวิ่งมาหยุดอยู่ที่แห่งหนึ่ง เป็นแคมป์ที่สภาพเละไปหมดแล้ะรอบๆก็ยังมีที่ขวางกันอีก
แล้วฉันก็นึกขึ้นมาได้...
ข่าวกลุ่มวัยรุ่นที่หายตัวไปในป่า...
ฉันนี่มันโง่จริงๆ!
'ครื่อ...!'
ไม่มีเวลาให้ยืนพักหายใจ เสียงเจ้าตัวนั้นที่ตามฉันมาเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว ฉันต้องรีบหนี!
แต่ก็ยังไม่ทันได้วิ่งต่อฉันก็เผลอสดุดกับอะไรบางอย่างบนพื้น ทำให้ตัวฉันล้มลงหน้าขมัมกับพื้นและแว่นที่ฉันใส่อยู่ก็หักเป็นสองท่อนและโทรศัพท์ก็หลุดมือไป
"บ้าเอ้ย!" ฉันรีบลุกขึ้น คลำหาแว่น แต่ก็ไม่มีเวลา เสียงใกล้เข้ามาแล้ว! ฉันรีบออกตัววิ่งต่อทั้งที่ไม่มีแว่นและแสงไฟนำทาง
ฉันวิ่งไป มองเห็นทางก็ไม่ชัด แถมที่เข่าก็มีแผลเพราะที่ล้มเมื่อกี้นี้
"วันนี้มันวันโชคร้ายของฉันเหรอ!"
แต่ความโชคร้ายของฉันยังไม่หมด เพราะการที่ฉันมองเห็นไม่ชัดทำให้ฉันเผลอวิ่งไปสดุดกับรากไม้ใหญ่ ทำให้หัวฉันไปโดนกับก้อนหินอย่างแรง แถมข้างหน้าฉันก็เป็นทางเนินอีก ทำให้ตัวฉันกลิ้งถไหลไปกับพื้นบวกกับบนพื้นก็ยังมีรากไม้และก้อนหินเต็มไปหมด จนสุดท้ายร่างของฉันร่วงลงกับพื้นอย่างรุนแรง ทำให้เจ็บไปทั้งตัว
ฉันถึงกับนอนแน่นิ่งไปกับพื้น พยายามที่จะดันตัวเองลุกขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะตอนนี้ทั้งร่างกายของฉันรู้สึกเจ็บระบมไปหมด และฉันก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอุ่นๆไหลลงมาจากหัวของฉัน มันคือเลือดของฉันที่กำลังไหลออกมาลงบนใบหน้า...
'ครื่อ...'
ฉันได้ยินเสียงเหมือนเสียงคำรามในคอ เสียงเหมือนอยู่ไม่ไกลจากตรงที่ฉันนอนอยู่...
เสียงเหมือนมันกำลังเดินเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ...
ฉันเริ่มเห็นรางๆ เหมือนมันยืนด้วยสี่ขาและกำลังคลานมาหาฉันพร้อมกับส่งเสียงขู่ในลำคอของมัน
...มันคืออะไร...สัตว์ดุร้ายเหรอ?...
'ครื่อ!'
เสียงของมันเริ่มดังขึ้น...
"...ใคร...ก็ได้..."
สติฉันเริ่มเลือนราง...ตาของฉันเริ่มปิดลง...
'ค-ครื่อ!...แฮร่ร!!!'
เจ้าสิ่งนั้นส่งเสียงคำรามออกมาก่อนที่จะมีเสียงฝีเท้ากำลังเข้ามาใกล้ฉัน ฉันเองก็นอนแน่นิ่งขยับตัวไม่ได้...
มันถึงเวลาที่ฉันจะไปหาคุณแม่แล้วสินะ...
'ปั้ง-!!!'
ในตอนนั้นเองที่ฉันคิดว่าทุกอย่างคงจบลงแล้ว มีเสียงยิงปืนดังขึ้นและรอบๆตัวฉันก็เงียบไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีแม้แต่เสียงคำรามหรือเสียงฝีเท้า...
ฉันพยายามลืมตาขึ้นแล้วก็เห็นอะไรสักอย่างเหมือนเป็นก้อนๆหรือตัวอะไรสักอย่างนอนอยู่บนพื้นตรงหน้าฉัน ฉันมองมันด้วยความสงสัย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?...
'...กึ่ก...กึ่ก...'
ไม่นานก็มีเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ฉัน ฉันเริ่มมองเห็นรางๆ เหมือนเป็นร่างใหญ่ น่าจะเป็นผู้ชาย กำลังเดินมาหาฉันแล้วยกเอาร่างที่นอนอยู่ตรงหน้าฉันโยนทิ้งไปทางอื่นและเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน...
ฉันมองขึ้นไปยังร่างคนๆนั้นอย่างไม่อาจหยุดสงสัยได้ และก็มีสัมผัสมือมาประคองใบหน้าฉันเอาไว้ ฉันที่พยายามที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ทันเมื่อฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดสติ...
...แต่ฉันก็ได้ยินเสียงของคนๆนั้นพูดขึ้นก่อนที่ฉันจะหมดสติไป
"เจอเธอแล้ว..."
ติดตามตอนต่อไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกับไรท์
เป็นไงบ้างค่ะทุกคนกับตอนแรกของนิยายเรื่องนี้ หวังว่ารีดเดอร์ทุกคนจะสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น