ตอนที่ 5 : เรื่องราวของนางร้าย4
ในวันที่เปิดเรียนวันแรกชั้นเดินทางไปโรงเรียนพร้อมกับแอนริต้าและท่านพี่แอนโทนิโอ โรงเรียนหลวงวินเชียร์จัดเป็นโรงเรียนที่รับเฉพาะลูกหลานขุนนาง และเชื้อพระวงค์เท่านั้น แต่ในปีนี้ทางโรงเรียนได้รับสามัญชนเข้าเรียนซึ่งก็คือนางเอกของเรื่อง มาเรีย แอนเนต ช้นกำลังคิดอยู่ว่าชั้นจะดำเนินตามเนื้อเรื่องดีมั้ยที่จะคอยกลั่นแกล้งนางเอกไปเรื่อยๆจนชั้นโดนยกเลิกการหมั้นและถูกไล่ออกจากเมืองหลวง ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นแอนริต้าก็ส่งเสียงเรียกชั้น
“พี่เบลล่าดูผู้หญิงคนนั้นสิคะ”
ชั้นหันไปมองตามเสียงเรียกของเธอ ชั้นมองเห็นหญิงสาวผมฟ้า ตาสีเขียว หน้าตาน่ารักอ่อนหวาน ท่าทางน่าทะนุถนอม กำลังเดินเข้ามาที่ประตูโรงเรียน
“นั่น มาเรีย แอนเนต สามัญชนที่มีพรสวรรค์ธาตุแสงชั้นสูงค่ะ”
พอชั้นเห็นมาเรียชั้นก็นึกในใจ ในนิยายบรรยายความงามของนางเอกไว้มาก แต่พอมาเห็นตัวจริงแล้วชั้นรู้สึกได้เลยว่าในนิยายยังบรรยายความงามของเธอได้ไม่เท่าตัวจริง มาเรียเป็นผู้หญิงที่ทั้งน่ารัก และน่าทะนุถนอมจริงๆ เมื่อเห็นตัวจริงทำให้ความคิดที่จะดำเนินตามเนื้อเรื่องของชั้นในการกลั่นแกล้งเธอถึงกับหยุดไป อืมสาวน้อยน่ารักขนาดนี้ใครจะไปแกล้งเธอลง ไม่แปลกใจเลยที่อัลเลนจะหลงรักเธอ ขนาดชั้นเป็นผู้หญิงด้วยกันตอนเห็นเธอครั้งแรกยังอดใจเต้นไม่ได้เลย แต่ชั้นดูถูกนิยายเรื่องนี้มากเกินไป ต่อให้ชั้นไม่กลั่นแกล้งนางเอกก็มีพวกลูกสาวขุนนางคนอื่นที่คอยกลั่นแกล้งเธอเพราะความอิจฉา ที่เธอได้รับความสนใจจากเจ้าชายอัลเลน และบรรดาเพื่อนของเขา และน่าแปลกที่ขณะที่พวกนั้นกลั่นแกล้งมาเรียทุกครั้งชั้นจะต้องผ่านไปเจอเหตุการณ์การกลั่นแกล้งทุกครั้งและเพราะความน่ารักของมาเรีย เมื่อชั้นพบเหตุการณ์ดังกล่าวชั้นจึงอดที่จะเข้าไปช่วยเธอไม่ได้ และในการเข้าไปช่วยเธอทุกครั้งก็ต้องให้อัลเลนผ่านมาพบเหตุการณ์ และเขาก็จะเข้ามาต่อว่าชั้นว่าเป็นคนทำร้ายมาเรีย ไม่ว่ามาเรียจะพยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง อัลเลนก็ไม่สนใจฟังเธอและตั้งหน้าตั้งตาต่อว่าชั้นจนชั้นต้องเดินหนีออกมาทุกครั้ง อย่างเช่นเหตุการณ์ครั้งแรกที่เจอกับการกลั่นแกล้งมาเรีย วันนั้นชั้นกำลังเดินกลับมาจากทานข้าว แอนริต้าแยกไปห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือ ขณะที่ชั้นเดินผ่านสวนนั้นใช้ก็ได้ยินเสียงคนกำลังโต้เถียงกัน
“เชอะเจ้าเป็นแค่สามัญชน ถึงจะใช้ธาตุแสงได้นิดหน่อย ก็อย่าผยองนักเลย”
“ใช่ การที่เจ้าเข้าไปยั่วยวนพวกผู้ชายในห้องอย่าคิดว่าพวกข้าไม่รู้นะว่าเจ้าคิดอะไร”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ ข้าอยู่ของข้าเฉยๆ พวกนั้นก็แค่เข้ามาถามเรื่องบทเรียนเท่านั้นเอง”
“เฮอะ เจ้าอย่ามาโกหกเลยถ้าเจ้าไม่ได้ยั่วยวนพวกผู้ชาย มีหรือที่พวกเค้าจะเข้าไปรุมล้อมเจ้า”
“ใช่โดยเฉพาะเจ้าชายอัลเลน เจ้าคงไม่รู้ว่าเจ้าชายน่ะมีคู่หมั้นแล้ว”
“ใช่แล้วคู่หมั้นของเขาท่านอิซาเบลล่าน่ะ”
“ข้าทำไมเหรอ”ชั้นพูดสอดคำของพวกหญิงสาวที่กำลังล้อมมาเรียอยู่ ชั้นมองหน้าพวกเธอ แล้วเดินแหวกวงล้อมของพวกเธอเข้ายืนข้างๆมาเรีย
“พวกเจ้ามามุงกันทำอะไรที่นี่ แล้วข้าเป็นยังไง”
“เอ่อ ท่านอิซาเบลล่า พวกเราก็แค่สอนมารยาทของชนชั้นสูงให้กับนางน่ะค่ะ”
“สอนมารยาท อ๋อ ก่อนที่จะคิดสอนมารยาทคนอื่นพวกเจ้าควรสอนตัวเองก่อนนะ ว่าสุภาพสตรีน่ะ ไม่ควรยกพวกมารุมล้อมผู้อื่น” ขณะที่ชั้นกำลังจะพูดอะไรต่อ อัลเลนกับพวกเพื่อนของเค้าก็เดินเข้ามา
“อิซาเบลล่า เจ้าทำอะไรมาเรีย”
ชั้นหันไปมองเขาพลางขมวดคิ้ว
“อิซาเบลล่าถึงเจ้าจะเป็นคู่หมั้นของข้า เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มากลั่นแกล้งมาเรีย”
“เจ้าชายอัลเลนท่านข้าใจผิดแล้วค่ะ”มาเรียพูดแทรกขึ้นมา
“มาเรียเจ้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ข้าจะให้ความเป็นธรรมกับเจ้า”
“แต่ท่านอิซาเบลล่าไม่ได้”
“มาเรียข้าเข้าใจว่าเจ้ากลัวนาง แต่ไม่ต้องกลัวข้าจะปกป้องเจ้าเอง”
เจ้าชายอัลเลนและพวกเพื่อนของเค้าพากันมองมาที่ชั้นด้วยความโกรธ
ขั้นหันไปมองพวกเค้าที่พากันยืนขวางระหว่างชั้นกับมาเรีย
“งั้นถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วข้าคงต้องขอตัว”
“เดี๋ยวก่อนอิซาเบลล่า”อัลเลนเรียกชั้นเอาไว้
“มีอะไรคะ”
“ถึงเจ้าจะเป็นคู่หมั้นข้าเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ไปรังแกมาเรีย”
“มีเรื่องจะพูดกับข้าแค่นี้ใช่มั้ยคะ”
“งั้นข้าคงต้องขอตัว”จากนั้นชั้นก็เดินออกจากสวนเพื่อกลับไปที่ห้องเรียน
หลังจากนั้นเวลาที่มีการกลั่นแกล้งมาเรียทุกครั้งชั้นก็จะต้องผ่านไปพบ และอัลเลนก็ต้องเข้ามาต่อว่าชั้นทุกครั้ง ทำให้ชั้นคิดได้ว่าต่อให้ชั้นไม่ทำอะไรนางเอกแต่ตัวนิยายก็จะดำเนินเรื่องไปตามเดิมอยู่ดี อย่างเช่นครั้งหนึ่งที่พวกเราไปร่วมงานของโรงเรียนโดยที่ชั้นยืนอยู่ใกล้ๆกับมาเรียข้างสระน้ำ อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งเข้ามาชนชั้น พอชั้นเหลือบไปเห็นชั้นก็หลบผู้หญิงคนนั้นตัวเธอก็เลยพุ่งลงไปที่สระน้ำ แต่ในระหว่างที่เธอเสียหลักอยู่นั้นเธอก็คว้ามาเรียตกน้ำลงไปด้วย จากนั้นเธอก็ตะโกนร้องโวบวาย
“ท่านอิซาเบลล่าทำไมต้องผลักข้าไปชนมาเรียจนตกน้ำด้วยคะ” จากนั้นพวกอัลเลนก็เข้ามาช่วยทั้งคู่ขึ้นจากน้ำและเอาเสื้อคลุมให้ทั้งคู่
“เจ้าชาย ท่านอิซาเบลล่าไม่ได้ทำอะไรนะคะ เป็นข้ากับหญิงคนนั้นที่พลัดตกลงไปเอง”
อัลเลนหันไปมองมาเรียด้วยความเป็นห่วงแล้วหันมามองชั้นด้วยความโกรธ
“มาเรีย นางทำกับเจ้าขนาดนี้เจ้ายังจะปกป้องนางอีกเหรอ”
“แต่ว่าท่านอิซาเบลล่าไม่ได้ทำอะไรจริงๆนะคะ”
“มาเรีย เจ้าไม่ต้องกลัวนางพวกข้าจะปกป้องเจ้าเอง”พูดจบอัลเลนก็เข้าไปดึงมือมาเรียมากุมไว้ ชั้นเห็นมาเรียพยายามดึงมือตัวเองออกแต่อัลเลนจับมือเธอไว้แน่นจนเธอไม่สามารถดึงมือออกมาได้ ชั้นได้แต่ส่ายหน้ากับการกระทำของทั้งสองคน จากนั้นชั้นจึงทำท่าจะเดินออกจากที่นั่นไป
“อิซาเบลล่าเจ้าจะไปไหน”
”ข้าก็จะไปหาน้องสาวของข้า”
“แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าจะรับผิดชอบยังไง”
“รับผิดชอบ เจ้ามีหลักฐานว่าข้าเป็นคนทำหรือ”
“นางไงพยาน”อัลเลนชี้ไปทีหญิงสาวคนที่ตกลงไปในน้ำ
ชั้นหันไปมองเธอแล้วถามเธอ
“เจ้าบอกว่าข้าเป็นคนผลักเจ้ากับมาเรียตกน้ำ”
“เอ่อ ข้า ข้า ตอนนั้นข้าตกใจเลยตะโกนออกไปโดยไม่รู้ตัว จริงๆแล้วเป็นข้าที่ซุ่มซ่ามพลัดตกลงไปเอง”
ชั้นหันกลับไปมองที่อัลเลน
“คงหมดเรื่องของข้าแล้วนะ งั้นข้าขอตัว”
จากนั้นตลอดสามปีที่เรียนที่วินเชียร์ทุกครั้งที่มาเรียโดนกลั่นแกล้งชั้นจะต้องผ่านไปเจอและเข้าไปช่วยเธอตลอด และให้มีเหตุบังเอิญให้พวกอัลเลนผ่านมาเจอทีหลัง และกล่าวหาว่าชั้นไปกลั่นแกล้งมาเรียตลอดเช่นกัน จนกระทั่งเหตุการณ์ผ่านมาจนถึงวันที่พวกเราต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงจบการศึกษา แล้วฉากจบของนิยายก็ดำเนินไปตามเนื้อเรื่องของมัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เรื่องเดิมๆเกิดขึ้นซ้ำซาก แต่อลิซาเลล่าก็ยังเดินเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ทั้งๆที่ก็รู้ว่า มันจะจบลงแบบไหน คือจะถามว่า ยูลืมเอาสมองมาจากบ้านรึเปล่าคะ
เจ้าชายต้องการถอนหมั้นนี่เอง หาเรื่องว่านางร้าย คว้านางเอกธาตุแสงเป็นชายา แผนสูง(รีดมโน)