ตอนที่ 6 : ความจริงที่นางร้ายไม่รู้
“บ้าเอ้ย ไอ้ราชาบ้านั่นมันเชิญพวกเราไปงานเลี้ยงน้ำชาทำไมต้องให้เราพาอิซาเบลล่ากับแอนริต้าไปด้วย”
“ท่านพี่ พระราชาคงต้องการพบลูกๆของเราน่ะค่ะ เพราะพวกเขายังไม่เคยเจอลูกสาวของพวกเราเลย”
“เฮอะ หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น”
“แอนโทนิโอ เจ้าต้องดูแลน้องสาวของเจ้าให้ดี ต้องอยู่กับน้องตลอด อย่าให้มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้น้องของเจ้า”
“ท่านพี่ ทำอย่างนั้นไม่เกินไปหน่อยหรือคะ”
“ทำไมล่ะ ข้าก็แค่ไม่อยากให้ผู้ชายคนไหนมาเกาะแกะกับลูกสาวที่น่ารักของพวกเรา”
“แต่ลูกสาวเรายังเด็กอยู่นะคะ และอีกหน่อยพอลูกสาวเราโตขึ้นก็ต้องติดต่อพูดคุยกับผู้คน ท่านจะห้ามไม่ให้พูดคุยกับผู้ชายมันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”
“อืมก็จริง งั้นแอนโทนีโอ เจ้าห้ามผู้ชายคนไหนเข้าใกล้น้องสาวของเจ้าในระยะหนึ่งเมตร”
“ได้ครับท่านพ่อ”
ระหว่างงานเลี้ยงน้ำชาในพระราชวัง
“แอนนา ลูกๆของเราหายไปไหน”ดยุคแอนโทนี่หันมาถามภรรยาระหว่างงานเลี้ยงน้ำชา
“เด็กๆคงพากันไปเดินชมสวนมั้งคะ อ๊ะนั่นลูกๆกลับมาแล้ว”
“ข้าไม่เข้าใจ ทำไมราชินีต้องเชิญพวกเรากับลูกๆเข้าวังไปบ่อยๆ นางคิดว่าข้าไม่มีงานทำเหมือนนางหรือไง”
“งั้นท่านพี่ก็ปล่อยให้ข้าไปกับลูกๆก็ได้นี่คะ”
“ไม่ได้ ข้าไม่ไว้ใจ”
แอนนาขมวดคิ้ว
“ท่านพี่ไม่ไว้ใจข้าหรือคะ”
“ไม่ใช่ข้าไม่ไว้ใจเจ้า แต่ข้าไม่ไว้ใจพวกคนในวัง ข้าเลยต้องเข้าไปด้วยไง”
“ค่ะ”
วันหนึ่งในงานเลี้ยงในพระราชวังขณะที่พระราชากับพระราชินีกำลังคุยกับดยุคแอนโทนี่อยู่นั้น ก็มีเด็กผู้ชายจูงมือเด็กผู้หญิงวิ่งเข้ามา
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากับ อิซาเบลล่าจะหมั้นกัน”
พระราชาเมื่อได้ยินสิ่งที่อัลเลนพูดถึงกับสำลักนำ้ชาออกมา
“อัลเลนลูกว่าอะไรนะ”
“เสด็จพ่อ ข้ากับอิซาเบลล่าจะหมั้นกัน”
พระราชินีหันมามองเด็กทั้งคู่แล้วหันมาถามเด็กผู้หญิง
“อิซาเบลล่าหนูอยากจะหมั้นกับอัลเลนหรือจ๊ะ”
“ค่ะ”
ดยุคแอโทนี่ที่ตอนนี้มีท่าทางไม่พอใจอย่างมากได้กล่าวขึ้น
“ข้าคิดว่าลูกสาวข้ายังเด็กอยู่ยังไม่ควรจะหมั้นกับใครตอนนี้”
“เฮ้ แอนโทนี่ ในเมื่อเด็กสองคนนี้ต้องการหมั้นกัน พวกเราก็ควรให้พวกเค้าหมั้นกันนะ”
“แต่ว่า”
“ไม่ต้องแต่แล้ว ข้าจะประกาศการหมั้นระหว่างลูกชายข้ากับลูกสาวเจ้าในวันพรุ่งนี้”
“พะยะค่ะ”แอนโทนี่ตอบรับด้วยสีหน้าไม่พึงพอใจนัก
“งั้นพวกข้าต้องขอลา”แอนโทนี่กล่าวลาราชาอย่างรวดเร็ว
“แอนนา ไปตามลูกๆกลับกันเถอะ”
ที่คฤหาสน์ดยุค ดยุคแอนโทนี่ แอนนา แอนโทนีโอ และแอนริต้าต่างนั่งรวมตัวกันในห้องรับแขก
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง อิซาเบลล่าไปรู้จักไอ้เจ้าชายนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ท่านพ่อ ข้าคิดว่าต้องเป็นไอ้เจ้าชายนั่นล่อหลอกอิซาเบลล่าแน่”
“แอนโทนีโอ พ่อบอกให้เจ้าคอยดูแลน้องสาวเจ้าให้ดีไง”
“ท่านพ่อคะ ไม่ใช่ความผิดของท่านพี่หรอกค่ะ ตอนที่เราไปที่วังพี่เบลล่ามักจะหาขออ้างแยกตัวไปคนเดียวอยู่เรื่อย ถ้าพวกหนูไม่ยอมพี่เบลล่าบอกจะไม่พูดกับพวกเราค่ะ”
“เฮอะ นั่นต้องเป็นเพราะไอ้เจ้าชายนั่นวางแผนแน่”ดยุคแอนโทนี่พูดด้วยความโกรธ
“ใช่ค่ะ นั่นต้องเป็นเพราะเจ้าชายนั่นใช้ความไร้เดียงสาชองพี่เบลล่าหลอกให้พี่เบลล่าหมั้นกับเค้าแน่ๆ”
“แล้วเรา ควรจะทำยังไงกันดี”
“หนูรู้แล้วค่ะท่านพ่อ ต่อไปนี้หนูกับท่านพี่จะตามติดพี่เบลล่า เราสองคนจะไม่ปล่อยให้พี่เบลล่าอยู่กับเจ้าชายอัลเลนสองต่อสอง”
แล้วสองพี่น้องก็ตามติดอิซาเบลล่าตลอดเวลาที่เจ้าชายอาเบลมาเยี่ยม หรือเวลาที่ไปฝึกซ้อมที่วัง
วันหนึ่งขณะที่อัลเลนกับอิซาเลล่า กำลังนั่งดื่มน้ำชาในสวนบ้านดยุคโดยมีแอนริต้านั่งอยู่ข้างๆอิซาเบลล่า
“อิซาเบลล่าพวกเราไปเดินเล่นในสวนกันมั้ย”พูดจบอัลเลนก็ลุกขึ้นแล้วยื่นมือจะไปดึงมืออิซาเบลล่า
“โอ๊ย”อัลเลนร้องเสียงดังพร้อมหันไปทางแอนริต้า
“เจ้าทำอะไร”
แอนริต้าขยับพัดในมือพลางกล่าวขึ้น
“เจ้าชาย หญิงและชายไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกันนะคะ”
“แต่อิซาเบลล่าเป็นคู่หมั้นข้า”
แอนริต้าตีหน้าเคร่งเครียด
“ยิ่งเป็นคู่หมั้นยิ่งต้องถือธรรมเนียมค่ะ”พูดจบแอนริต้าก็เข้ามาจูงมืออิซาเบลล่า
“เจ้าชายอยากชมสวนไม่ใช่หรือคะ ตามมาสิคะ”พูดจบเธอก็จูงอิซาเบลล่าแล้วเดินนำเจ้าชายไป
แล้วเหตุการณ์ดังกล่าวก็ดำเนินไปจนกระทั่งทั้งสามอายุครบเจ็ดปี พวกอิซาเบลล่าทั้งสามขณะนี้อยู่ในโบสถ์กำลังจะเข้าทำการวัดพรสวรรค์
พรสวรรค์ระดับต่ำ”
“ไม่มีพลังเวทย์”
จากการที่เด็กหลายคนวัดพลังผ่านไปมีทั้งเด็กที่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์และไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ การวัดพลังผ่านไปเรื่อยๆจนมาถึงพวกอิซาเบลล่าทั้งสามคน
“พี่เบลล่า หนูไปก่อนนะคะ”แอนริต้าหันมาบอกอิซาเบลล่าก่อนเข้าไปวัดพลังเวทย์
“โชคดีนะจ๊ะริต้า”เธอส่งยิ้มให้น้องสาว
หลังจากแอนริต้าเอามือมาแตะที่เครื่องวัดพลังก็เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นทันที
“พรสวรรค์ระดับสูง”
จากนั้นก็เกิดเสียงพูดคุยดังขึ้น
“สมเป็นลูกสาวท่านดยุคแอนโทนี่”
“ข้าจำได้ว่าตอนลูกชายท่านดยุคมาวัดพลังเมื่อปีก่อนก็ได้ระดับสูงเหมือนกัน”
“สมเป็นลูกของชนชั้นสูงจริงๆ”
จากนั้นก็เป็นตาของอัลเลน
“ข้าไปล่ะนะ อิซาเบลล่า”เขาหันมาพูดกับอิซาเบลล์
“อื้อ โชคดีนะอัลเลน”
เมื่ออัลเลนเอามือจับที่เครื่องวัดพลังก็เกิดแสงจ้าขึ้นทั่วห้องอีกครั้ง
“พรสวรรค์ระดับสูง”
“โอ้สมกับเป็นรัชทายาท“
“ใช่ๆ สมเป็นคนในราชวงศ์จริงๆ”
“คนสุดท้ายเชิญ”
เมื่อได้ยินเสียงเรียก อิซาเบลล่าก็เดินไปที่เครื่องวัดพลังเวทย์ทันที
“นั่นลูกสาวคนโตของดยุคแอนโทนี่”
“ใช่ แล้วยังเป็นคู่หมั้นของเจ้าชายอัลเลนด้วยนะ”
“ข้าอยากรู้จังว่านางจะมีพรสวรรค์ระดับไหน”
เมื่อมาถึงหน้าเครื่องวัดพลังเธอก็เอื้อมมือไปจับที่เครื่องวัดทันที
ไม่มีปฏิกริยาอะไรเกิดขึ้นกับเครื่องวัด ผู้ตรวจสอบมองนางด้วยแววตาสงสารจากนั้นเค้าก็ประกาศ
“ไม่มีพลังเวทย์”
พอสิ้นเสียงของเขาอิซาเบลล่าก็สลบไป
“พี่เบลล่า”
“อิซาเบลล่า”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
