Story:The loves that bondage
Relation:Long fiction
Category:Yaoi
Chapter[02]:Bad planing(แผนการร้าย)[Part2/3]
-----------------------------------------------------
Episode 3
อะไรกันเนี่ย!!! ข้อมูลบริษัทกำลังโดนแฮ็กและการป้องกันขั้นสุดท้ายแล้วด้วยไม่ได้การแล้วคงต้องให้'หมอนั้น'จัดการแล้วล่ะ
"โมเน่เรียก'เวอร์โก้'มาเร็ว!!!"
[เวอร์โก้กำลังป้องกันอยู่ค่ะนายน้อย]ดูเหมือนว่าโมเน่จะรู้อยู่แล้วว่าควรทำยังไง เจ้าของชื่อที่ถูกเอ่ยพยายามปกป้องข้อมูลของบริษัทด้วยความพยายามสูงสุดและดูเหมือนว่าจะสำเร็จ
ตัดมาทางด้านห้องของคุณซีโร่
มิสเตอร์ซีโร่นั่งดื่มกาแฟอย่างสบายใจก่อนที่สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวจะเอาโน๊ตบุ๊คมาให้เขา การแฮ็กไม่สำเร็จมันถูกขัดขวางไว้ได้เค้าไม่รีรอช้าที่จะสานต่อด้วยตัวเอง
หืมมมม~ อันลักกี้ยอมแพ้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้โดยแฮ็กสินะ... พวกนายเลือกให้ฉันจัดการเองนะ
"เอาล่ะ มาเริ่มของจริงกันได้แล้ว"
หมดคำนิ้วมือทั้งสิบสัมผัสลงไปบนปุ่มกดมากมายบนโน๊ตบุ๊คส่วนตัวเพื่อทำการ... แฮ็กข้อมูลของบริษัทดองกีโฮเต้กรุ๊ปโดยไม่สนใจอะไรจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นเพียงอย่างเดียวด้วยนัยน์ตาสีอำพันอันคมกริบที่เล็ดลอดออกมาจากช่องผ่านตาของหน้ากาก โดยหวังว่า...
'จะไม่ทำให้ฉันผิดหวังน่ะนะ'
ภายในห้องสี่เหลี่ยมนี้ไม่มีอะไรที่ดูแปลกตาเลยซักนิด หันไปทางไหนก็ผมแต่ผนังสีน้ำตาลอ่อนที่ดูน่าเบื่อ นัยน์ตาสีสีน้ำเงินแซฟไฟร์ที่ผ่านออกมาจากแว่นกันแดดสีไลลิคดวงนั้นมันดูโล่งใจก่อนจะถูกคำถามแทงใจดำผมออกมาจากปากของคนสนิทของผมเอง
[ดอฟฟี่...รู้รึเปล่าว่าใครเป็นตัวการ???]
อะเฮือก!!! ถามมาได้นะเวอรโก้ ผมจะรู้ได้ยังไงล่ะ อยู่ดีๆก็เข้ามาแฮ็กบริษัทกันได้หน้าตาเฉยจะรู้มั้ยเนี่ย!!! แต่ถ้าให้พูดก็มี...คนที่เข้าข่ายอยู่นะ ผมหลับตาลงมาสิ่งที่เห็นมีเพียงแค่ภาพสีขาวที่แสนไร้สีสัน เหมือนกับหน้ากากของ..เค้าคนนั้น
'นึกถึงเจ้าตัวไม่พอ...'
'ยังนึกถึงเฮียแกเปลือยตอนอาบน้ำเมื่อไม่นานนั้นอีก'
'แต่ให้พูดก็...'
'โอ้ว~หุ่นงามมาก'
ไม่ทันไรไอคนที่ตกที่นั่งลำบากเมื่อกี้ก็มานึกนิพพานหื่นกามที่คนดีๆไม่ค่อยจะคิดกัน แต่เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ในมือทำให้หลุดออกจากนิพพาน มีเสียงบางอย่างแทรกเข้ามาในโทรศัพท์ของทั้งสองฝั่งมุมโลก มันเป็นเสียงที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูของนักธุรกิจหนุ่มแห่งเดรสโรซ่า
[ขอโทษที่มาขัดจังหวะ คิดว่ามันจะจบแล้วงั้นเหรอ]
"นายเป็นใครน่ะ???"
[ฉันน่ะเหรอ???...ทำไมฉันต้องตอบคำถามนายด้วยล่ะ]
[นายคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ???...คิดว่าเป็นมิสเตอร์ซีโร่เหรอ]
"แล้วไม่ใช่รึไง"
นัยน์ตาสีแซฟไฟร์เลื่อนขึ้นไปมองประตูสีขาวนวลตรงข้าม พลันยืดร่างสูงสีแทนลุกขึ้นมาเต็มความสูง แต่เสียงจากโทรศัพท์นั้นกลับแทรกเข้ามาเพื่อบอกถึงภัยที่กำลังจะมาเยือน
[...ระวังระลอกคลื่นที่กำลังจะมาไว้ให้ดีล่ะ -ปิ๊บ-]
สิ้นคำสายแทรกก็ถูกตัดหายไปในทันใด ผมไม่เข้าใจระลอกคลื่นอะไรงั้นเหรอ??? มันทำให้ทั้งผมและทุกคนในบริษัทต่างไม่เข้าใจคำพูดของชายปริศนา แต่แล้วทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนนิรภัยภายในบริษัทก็ดังผ่านเข้ามาภายในโทรศัพท์ของผม ถ้าให้เดานี่คงจะเป็นระลอกคลื่นที่หมอนั้นบอกออกมาแน่ๆ
ภายในบริษัทมันถูกแสงไฟสัญญาณเตือนสีแดงกลบเอาไว้หมด เสียงมันดังผ่านเข้ามาภายในโทรศัพท์ถึงจะไม่รู้ว่เกิดอะไรขึ้นแต่มันก็น่าจะเข้าขั้นร้ายแรงได้เลย หน้าจอTouch screenที่กำบังถือสายของโมเน่อยู่มันถูกเปลี่ยนเป็นสีขาว และดูเหมือนจะไม่ใช่แค่มือถือของผมแต่คอมพิวเตอร์,โน๊ตบุ๊ค และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกซ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับดองกีโฮเต้กรุ๊ปจะถูกแฮ็กเรียบร้อย...
ซึ่งมันก็พอจะเดาได้ว่าไม่ใช่คนเดียวแน่ๆ ระหว่างผมกำลังคิดถึงตัวการเพลินๆทั้งโมเน่,เวอร์โก้ตะโกนเจ้ามาผ่านมือถือทำเอาผมสะดุ้งมาเลยทีเดียว
[นี้!!! นายน้อย/ดอฟฟี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย]
"แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงเนี่ย!?!"
ผมโต้กลับคำถามนั้นคืนกลับไป ทันใดนั้นมันก็มีตัวอักษรบางอย่างเด้งเข้ามาที่พื้นหน้าจอสีขาวทั้งหมดทั้งในคอมพิวเตอร์...และในโทรศัพท์ของผู้บริหารของดองกีโฮเต้กรุ๊ปทุกคนอีก
เฮ้!!!นี่เป็นแค่การตอบแทนเท่านั้น
"ตอบแทนงั้นเหรอ???"ทุกคนต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวเพราะความสงสัยประโยคที่ขึ้นมาในหน้าจอโทรศัพท์ของทุกคนที่เกียวข้องกับดองกีโฮเต้กรุ๊ปโดยไม่มีข้อแม้
อ้าว!?!อย่าทำเป็นงงสิ
พวกนายจำเรื่องเมื่อครึ่งปีก่อนไม่ได้รึไง
จบประโยคสุดท้ายนั้น ผมนึกขึ้นมาได้ทันทีเลยว่าทำไมเค้าต้องมาเอาคืนทั้งบริษัทเพราะที่พวกเราทำไปเมื่อครึ่งปีก่อน... และดูเหมือนเค้าจะยังเคืองในตัวผมซะด้วย
40%นะครับ-----------------------------------------------------
รู้สึกจะประมาณครึ่งปีก่อนละมั้งที่พวกเรา??? ไปทำให้เค้าคนนั้นแค้นเคืองในตัวของผม แต่คุณก็ไม่น่ามาเล่นแฮ็กบริษัทของผมเลยนะ...'คุณซีโร่'
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณครึ่งปีก่อน
"เฮ้อ~ ผ่านมาปีกว่ายังไม่ได้ความอะไรเลย"ผมถอนหายใจพลันทำตาขวางใส่เวอร์โก้คนสนิทของผม ดูเหมือนเค้าจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าโดนโบ้ยใส่ว่าไม่ได้เรื่องแน่ๆ เลนส์กันแดดของเวอร์โก้หันมาทางตัวของผมในไม่นาน และเริ่มที่จะเอ่ยปากต่อจากผม
"เรารู้แค่ว่าเค้าเกิดมาพร้อมเซน(พรของเทพ) แต่ดอฟฟี่กลับไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเลยด้วยซ้ำ"อึก!!! แทงใจดำเป็นบ้า แต่มันก็คือความจริงพวกเราทุกคนเริ่มต้นจาก'ศูนย์'ในงานเลี้ยงตอนนั้นเค้าไม่ได้ใช้ชื่อจริงมันเป็นเพียงแค่ชื่อ'สมมุติ' และก็ไม่ใช่นักธุระกิจอะไรเลยด้วยทำให้ผมแปลกใจสุดๆว่า...'เค้าเข้ามาในงานได้ยังไง???'
มันดูเป็นไปไม่ได้เลยซักนิดเดียว การป้องกันแน่นหนายังสามารถเข้ามาในงานอย่างชิวๆและปรับตัวได้เนียนแบบสุดๆเลยด้วย อยากเจออีกครั้งเป็นบ้าเลยว่ะ ในขณะที่ร่างสูงโปร่งกำลังบ่นกลับตัวเองก็มีข่าวเด้งขึ้นมาในโทรศัพท์มือถือที่กำลังเป็นกระแสมาแรงเรื่องของบาร็อคเวิรค์สบริษัทที่พึ่งก่อตั้งมาปีกว่าก็ดังกระฉ่อนไปทั่วทุกมุมโลก
ประธานบริษัทมีเพียงชื่อที่ปรากฏมาแค่ว่า'มิสเตอร์ซีโร่'ยังถือว่าเป็นบุคคลปริศนาและยังคงเป็นนักธุระกิจมือใหม่ แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเป็นคนที่ฉลาดสุดๆถึงสามารถสร้างชื่อเสียงด้วยการเริ่มต้นจากศูนย์แท้ๆเลยด้วย เป็นตัวอันตรายสุดๆไปเลยผู้ชายคนนี้ร่างยักษ์บ่นไปพลางไปดูคลิปการสัมภาษณ์พนักงานในบริษัท แล้วไปเห็นตรงจุดหนึ่งในการสัมภาษณ์
โดฟลามิงโก้รีบวิ่งไปหาคนสนิทที่อยู่ห้องถัดไปแต่ระหว่างนั้นกลับสะดุดเปลือกกล้วยล้มแต่ก็ยังลุกขึ้นมาได้ เวอร์โก้เมื่อเห็นอน่างนี้ก็รู้สึกคุ้นๆกับใครบางคน..หรือสายเลือดทั้งสองคนมันเป็นแบบเดียวกันจริงซะด้วย เวอร์โก้ว่าพลางนึกถึงโรซี่นันเต้น้องชายร่วมสายเลือดเพียงคนเดียวของดอฟฟี่และยิ่งล้มก็เหมือนกันเข้าไปใหญ่เลยด้วย ร่างใหญ่ที่ล้มหน้าแนบพื้นชูโทรศัพท์ขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู
"อะไรน่ะดอฟฟี่"เลนส์แว่นกันแดดสีดำมองไปยังหน้าจอเห็นการสัมภาษณ์เป็นชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นพนักงานภายในบริษัท
"หมอนี่แหละเวอร์โก้ที่ฉันตามหาอยู่"
"ห๋า!!! เค้ามีรอยบากกลางหน้าไม่ใช่เหรอดอฟฟี่"เวอร์โก้สงสัยในความขัดแย้งของคนสนิทตัวเองที่พูดขัดกันเอง
"ฟุฟุฟุ ผิดแล้วล่ะเวอร์โก้หมอนี่น่ะ..เป็นน้องชายของCEO(Chief Executive officer)บริษัทบาร็อคเวิรคส์"
"งั้นก็แปลว่า..."
"ใช่แล้วล่ะ เป้าหมายของเราคือคุณมิสเตอร์ซีโร่ที่เป็นCEOของบริษัทนั้น"ดูเหมือนดอฟฟี่เริ่มที่ตะได้ข้อมูลอะไรที่มีประโยชน์มาบ้างแล้วสิ แต่ถ้าเป็นงั้นแสดงว่าน้องชายก็ต้องเป็นรองประธานน่ะสิ ดอฟฟี่ไปถูกใจคนระดับนี้ได้ยังไงเนี่ย!!!
เสียงความคิดของเวอรโก้ดังกึ่งก้องภายในตัว ก่อนที่จะได้รับคำสั่งสุดแผลงออกมาจากปากของโดฟลามิงโก้
"เวอร์โก้..แฮ็กบริษัทให้หน่อย"โดฟลามิงโก้หันมาพร้อมรอยยิ้มและประกอยไปด้วยสายตาออดอ้อนเหมือนน้องหมาน่าร๊ากกกก~ ถุ้ย!!!ใช้ซะที่ไหนกันเล่าดอฟฟี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เวอร์โก้เลื่อนแว่นกันแดดขึ้นและสงบสติตัวเอง
"งั้นเกิดอะไรขึ้น..ดอฟฟี่ต้องรับผิดชอบทั้ง-หมด-นั้น"แต่ถึงจะบอกว่าสงบสติอารมณ์เอาไว้ก็ยังคงมีความโกรธแผ่ออกมาเล็กน้อย
ย้อนกลับมาที่ปัจจุบันกันอีกสักครั้ง เจ้าของร่างยักษ์นึกถึงอดีตประมาณครึ่งปี มันเริ่มทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆเพราะในเมื่อรับปากเรียบร้อยแล้ว..โดนแน่เลยตรูไม่น่าไปลองเล่นเลย ทางด้านผู้บริหารของดองกีโฮเต้ทุกคนเม้มปากแล้วมีเสียงเดียวกัน..
'ดอฟฟี่!!!'
ซวยแล้วไง..ยิ่งกว่านี้ก็โดนเล่นเกือบทั้งบริษัทแล้วคนที่หวังพึ่งได้ก็แต่เวอร์โก้เท่านั้น หวังว่าจะไม่โดนพวกนั้นเทศนาหลังจากกลับไปนะเรา โดฟลามิงโก้พูดกับตัวเองไปพลางๆมาสะดุ้งตกใจเสียงโทรศัพท์ที่เวอร์โก้เรียกสายเข้ามาทำซะร่างยักษ์เกือบร่วงตกจากเก้าอี้ แว่นกันแดดเลนส์สีไลลิคยื่นออกมาจากดั้งมือใหญ่พยายามคว้าไปเลื่อนหน้าจอไปรับสาย
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมากระทบลงในแก้วหูของผม มันทำให้ผมเริ่มมีสัมผัสที่หก(?)ถึงลางร้ายในอนาคตอันใกล้นี้ เสียงมันทั้งทุ้มต่ำมันทำให้ผมรู้สึกคนลุกสู้ดูจาเสียงน่าจะมีอารมณ์ส่วนตัวปนด้วย
[ดอฟฟี่!!!]
"จ๋า~ เวอร์โก้"
[จำที่ดอฟฟี่พูดตอนนั้นได้มั้ย]
แทนที่จะเป็นการบ่ายเบี่ยงเรื่องในอดีตดูเหมือนอีดฝ่ายจะจดจำไว้ในความทรงจำของตัวเอง ผมยังคงพยายามพูดเบี่ยงประเด็นหลักเพื่อช่วยชีวิตตัวเองแต่ก็...
'ล้มเหลว'
[รีบกลับมานะดอฟฟี่...ทุกคนรออยู่ อุ๊บ!!!]
ก่อนที่สายจะถูกตัดมีเสียงหลุดของโมเน่ออกมาแม้จะเพียงน้อยนิดก็ทำให้ผมรู้ถึงลางร้ายที่กำลังมาเยือน ยิ่งเวอร์โก้พูดอย่างนี้..แสดงว่าพรุ่งนี้ต้องกลับแล้ว อ้าวเฮ้ย!!!ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า ที่บอกว่าเธอ..(หยุดครับ!!!เดี๋ยวการถ่ายทำโดนแบน) (นักแสดงเวอร์โก้ไปห้ามพี่แกก่อนจะโดนข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลงเร็วเข้า!!!)
เกิดความชุลมุนวุ่นวายภายในกองถ่ายทุกคนพยายามห้ามปรามการร้องเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ การถ่ายถูกหยุดไว้ชั่วคราวนักแสดงโดฟลามิงโก้โดนผู้เขียนบท(ผมเอง)ต่อว่าไปไม่ใช่น้อย เค้าทำให้การออกมาล่าช้านักแสดงทุกคนต้องหยุดเพราะเค้าคนเดียว ทุกอย่างจบลงด้วยดี(จริงเหรอ???)
(นักแสดงพร้อม) (กล้องพร้อม) (ฉากพร้อม..ทุกอย่างพร้อม) (แผนการร้าย 2/3รอบที่2 แอ็คชั่น!!!)
นัยน์ตาสีแซฟไฟร์เลื่อนขึ้นไปมองเพดานสีน้ำตาลอ่อนแบบเดียวกับผนัง มันทำให้..ผมเริ่มมีสมาธิและสติอยู่กับตัวเองมากขึ้นเหมือนกับเวลามันหยุดนิ่ง ผมได้คิดไตร่ตรองถึงคนที่มีโอกาสสูงว่าจะเป็น..คนแฮ็กบริษัทของผม ไม่ใช่มิสเตอร์ซีโร่ก็น่าจะเป็นน้องชายของเค้าซึ่งเป็นรองประธาน ทั้งพี่ทั้งน้องถือว่ามีอำนาจเด็ดขาดก็สามารถสั่งคนอื่นได้ ทั้งสองคนไม่น่าแฮ็กเป็นพี่ชายอยู่ที่นี่ก็แสดงว่า..ฝีมือของน้องชาย แต่ก่อนจะกลับพรุ่งนี้..อยากจับกดคุณซีโร่อ่ะ
ในช่วงกลางดึกประมาณอีก4ชั่วโมงก่อนจะหกโมงเช้า ด้านนอกห้องของมิสเตอร์ซีโร่มีร่างยักษ์ที่สูงกว่าประตูด้ายโผล่ออกมาจากนิ้วชี้ ใช่แล้วล่ะผมก็มีเซนพรที่ได้รับจากเทพมาตั้งแต่เกิด ด้ายเข้าไปในรูกุญแจเพื่อทำการปลดล็อกโดยไร้แม้แต่เสียง ร่างยักษ์ย่องเข้าไปภายในห้องที่มืดจนแทบมองไม่เห็นผนังห้องเป็นสีเทาสว่าง
โดฟลามิงโก้เดินตรงไปทางเตียงสีขาวสะอาดทั้งผ้าปู ผ้าห่มและหมอนดูก็รู้ว่าเป็นพวกรักความสะอาดขนาดนอนยังใส่หน้ากาก นัยน์ตาสีแซฟไฟร์เริ่มปรับจนชินกับความมืดจึงเลื่อนสายตาไปมองรอบๆห้อง
ตรงนั้นมี..โต๊ะไม้ผิวเรียววางโน๊ตบุ๊คไว้ และถ้วยกาแฟนั่นเก้าอี้ที่เข้าเซ็ตกับโต๊ะกลม ใกล้ๆหน้าต่างมีเสาแขวนมีโอเวอร์โค้ทสีดำแขวนไว้และมีนกอีแร้ง(?)อยู่บนสุด กับตัวนากนอนพิงอยู่ตรงแง่งแค่มาเล่นด้วยนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก
85%นะครับ-----------------------------------------------------
มือใหญ่สีแทนค่อยๆหยิบผ้าห่มเลื่อนลงมาทีละนิด ทางด้านหลังของเค้ามีแสงสีเหลืองอำพันสองจุดแปลกๆ เมื่อผ้าห่มเปิดหมดสิ่งที่นัยน์ตาสีแซฟไฟร์นั้นจะเห็นเพียงหมอนขาวสะอาด เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างจากทางด้านหลังจึงหันไปทันทีแต่โดนกระสุนปืนเฉี่ยวแก้มของเค้าไปจนมีน้ำสีแดงไหลรินลงมา
เสียงของปืนนั้นดังสนั่นไปทั่วทั้งศูนย์ใหญ่กองทัพเรือ ภายในห้องมีชายแปลกหน้าอยู่ที่เตียงของเขาและตัวเขาติดอยู่กำแพงตามสัญชาตญาณที่ได้ยินเสียงประตูเปิด
"เล่นแรงจังนะ ฟุฟุฟุ"
ฉิบหายแล้วตรูจะมาเล่นด้วยสักหน่อย แต่ดันโดนปืนจ่อหน้าตัวเองซะงั้นแล้วยังจะใส่หน้ากากอีกพ่อคุณ
"หวังว่า..นายจะไม่ได้เข้ามาเพราะ.."
"ห้องฉันไม่ได้ล็อกใช่มั้ย???"
ใบหน้าภายใต้หน้ากากไร้สีสันนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่า... กำลังโกรธจัดแบบสุดๆ อยากรอดข้าพเจ้าต้อง..ค่อยๆคุยกับเค้าน่าจะดีที่สุด(ละมั้ง) แต่มันก็ไม่ค่อยมีทางเลือกหรอกเพราะเล่นมีปืนจ่อหน้าขนาดนี้ก็ต้องเลือกคำตอบที่ดีที่สุด
"ฉันแค่..อยากมาเล่นด้วยนิดหน่อย"
"งั้นก็เตรียมตายซะเถอะนะ"
-----------------------------------------------------
-End- To be continued
เนื่องจากแต่งFanfic:The mask singerจนเพลิน จึงต้องคิดว่าต้องบริหารเวลาแล้วครับ
ทุกคนอย่าลืมครับ
1คนอ่าน=100ล้านกำลังใจ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย