ตอนที่ 7 : กิจการที่เพิ่มขึ้น
"คุณหนู ท่านตื่นหรือยังเจ้าค่ะ ให้ตันตันเข้าไปได้หรือไม่เจ้าค่ะ"
"เข้ามาสิ"
"วันนี้คุณชายรองให้แจ้งคุณหนูว่าเขาจะไปยามสายเจ้าค่ะ จะมารับคุณหนูออกไปและเดี๋ยวไปทานมื้อเที่ยงที่หอเย่ว์โหลวเจ้าค่ะ" ตันตัน เอ่ยพลางเตรียมน้ำล้างหน้าให้กับคุณหนู
"ดีเลย ข้าไม่เคยไปทานหอเย่ว์โหลวเลยสักครั้ง พี่รองยังสั่งอะไรอีกมั้ย"
"ไม่มีแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูจะใส่สีอะไรดีค่ะวันนี้"
"เอาสีฟ้าอ่อนชุดนั้น ที่พี่รองไปสั่งตัดมาให้เมื่ออาทิตย์ก่อน"
"ได้เจ้าค่ะ"
ยามสายของวัน
" ลุงตง พี่รองล่ะ"
"คุณชายรองกำลังมาขอรับ สั่งว่าให้คุณหนูพาหงจื่อไปเป็นเพื่อนด้วยขอรับ เชิญคุณหนูขึ้นไปนั่งพักบนรถม้าก่อน อีกสักครู่คุณชายรองจะมาพบขอรับ"
"งั้นก็ได้ พวกเราก็ขึ้นรถม้ากันเถอะ" นางตื่นเต้น หันไปบอกหงจื่อและตันตัน พลางขึ้นรถม้า
"พี่รองมาแล้ว ไม่ช้าเกินไปใช่หรือไม่ ต่อไปนี้ให้หงจื่อคอยตามดูแลเจ้า ท่านอาหลันอวี้ กับท่านอาหลันมู่ยืนยันมาแล้วว่าหงจื่อมีวิทยายุทธ์ดีเยี่ยม สามารถปกป้องน้องเล็กได้อย่างแน่นอน " พี่หงจื่อนั้นเป็นลูกสาวคนเล็กของลุงตงมีอายุมากกว่านาง 2 ปี
"จริงหรือเจ้าค่ะ ตอนแรกข้าก็นึกว่าพี่หายไปไหนมา ที่แท้แอบไปฝึกกับท่านอามานี่เอง หากเจ้าก้อนน้อยของข้าเกิดมาแล้วพี่ต้องสอนเขาด้วยนะเจ้าค่ะ" นางพูดพลางหันไปยิ้มออดอ้อนให้กับหงจื่อ นางกับหงจื่อนั้นโตมาด้วยกัน ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยนี้ เวลาพี่หงจื่อยิ้มคือสวยมากคนนึงเชียวแหล่ะ
"จริงสิ พี่จะหลอกเจ้าทำไม ลุงตง ท่านช่วยบอกให้หงจื่อยิ้มให้ข้าสักหน่อยสิ" พูดไปก็ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ไป ลุงตงถึงกับทำสีหน้าไม่ถูก หงจื่อที่นั่งอยู่ในรถมาก็เช่นกัน
" ฮึ ฮึ ไปกันเถอะ ต้าอัน เจ้าบังคับรถม้าให้ดีล่ะ" พูดจบก็ขึ้นรถม้ามา รุม้าคันใหม่นี้เขาสั่งให้ช่างทำรถม้าทำขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องจากห่วงว่าน้องเล็กจะลำบาก เพิ่งมีโอกาศใช้จริงก็วันนี้เอง
ระหว่างอยู่บนรถม้า
"พี่รองเจ้าค่ะ อีกไกลหรือไม่เจ้าค่ะถึงจะถึง" พูดไป พลางทานของว่างไปด้วย
"ไม่นานหรอก จวนของท่านปู่ใกล้นิดเดียวผ่านถนนโค้งหน้าก็ถึงแล้ว เจ้าเหนื่อยแล้วหรือ อดใจไว้หน่อย เจ้ายังไม่เคยออกมาเลย พี่รองอยากพาเจ้าไปเที่ยวชมหลายๆที่จริงๆ เจ้าก็ชมวิวข้างทางไปด้วยเลย"
"ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ข้าอยากออกมาตั้งนานแล้วเจ้าค่ะ อยากรู้ว่าเมืองหลวงหน้าตาอย่างไร แถมยังอยากไปทานอาหารที่หอเย่ว์โหลวด้วยเจ้าค่ะ"
"พี่จองห้องอาหารไว้แล้ว เดี๋ยวเราเข้าไปวนดูถนนด้านหน้าสักหน่อยมีร้านทำเลว่างอยู่หลายร้านเช่นกัน ให้เจ้าช่วยดูว่าจะสามารถซื้อมาทำอะไรได้บ้าง"
"ท่านพี่จะเปิดกิจการเพิ่มหรือเจ้าค่ะ"
"พี่ใหญ่สั่งมาหน่ะ อยากให้เปิดเพิ่มสัก 3-4 แห่งเพียงแต่พี่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรบ้างดี เจ้ามาก็ดีแล้ว ให้เจ้าช่วยคิด พี่ใหญ่จะได้บ่นน้อยลงอีกสักหน่อย ฮึ ฮึ"
"ได้เจ้าค่ะ"
ระหว่างทางมีบ้านหลังหนึ่งที่ว่างประกาศขายอยู่ หน้าบ้านเหมือนมีช่องบางอย่างให้ทำเป็นเพิงชายของได้
"เราแวะดูหน่อยได้หรือไม่เจ้าค่ะ"
"ได้สิ เจ้าสนใจหรือ"
"เจ้าค่ะ"
ชายวัยกลางคนเดินมาที่ยุดที่หน้าบ้าน แล้วถามคุณชาย คุณหนูทั้งสอง
"คุณชาย คุณหนูทั้งสอง ต้องการซื้อบ้านหรือขอรับ เชิญเข้ามาก่อนขอรับ"
"ใช่เจ้าค่ะท่านลุง ข้ากับพี่ชายขอเข้าไปเดินดูได้หรือไม่เจ้าค่ะ"
"ได้ขอรับ เชิญๆ"
"ขอบคุณเจ้าค่ะ"
บ้านหลังเล็กมีเรือนสี่ประสานอยู่หนึ่งเรือน ลูกชายท่านลุงซื้อไว้เตรียมมีครอบครัวจึงรับพ่อกับแม่มาอยู่ด้วย ด้านหน้าเปิดเพิงช่องเล็กๆ เมื่อก่อนท่านลุงเปิดร้านขายข้าวสารที่เช่าที่ปลูกไว้ตอนว่างๆระหว่างรอบุตรชายกลับบ้าน เดิมบุตรชายก็มีอยู่คนเดียว แถมได้ดิบได้ดีเป็นทหาร เพียงแต่เพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน และยังไม่มีครอบครัว ท่านลุงจึงไม่คิดจะอยู่เมืองหลวงต่อ จึงคิดจะขายแล้วกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่เหลืออยู่ที่บ้านเกิด
"หากคุณหนูสนใจ ข้าคิดเพียง 300 ตำลึงทองเท่านั้นขอรับ" ท่านลุงพูดพลางมองด้วยสายตาคาดหวัง นางจึงหันไปมองทางพี่ชายรองอีกที เมื่อพี่ชายรองพยักหน้า นางจึงหันไปตกลงกับท่านลุง
"ได้เจ้าค่ะ ข้าตกลง ท่านลุงพร้อมทำสัญญาวันนี้เลยหรือไม่เจ้าค่ะ หากท่านลุงสะดวกย้ายออกวันไหนก็แจ้งข้าได้เจ้าค่ะ"
"ทำสัญญาวันนี้เลยก็ได้ขอรับ ข้าจะได้ย้ายไปบ้านเกิดวันพรุ่งนี้เลยทีเดียว ขอบคุณ คุณชายกับคุณหนูมากขอรับ"
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านลุง เช่นกัน"
เมื่อทำสัญญาเสร็จนางจึงแจ้งว่าพรุ่งนี้จะมีคนเข้ามารับกุญแจอีกทีจากท่านลุง นางและพี่ใหญ่ก็เดินทางไปทานข้าวที่หอเย่ว์โหลวต่อ เพราะพบว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนุกมากค่ะ
นิยายอ่านสบายดีค่ะ