ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FIC REBORN / KHR ] My Daily Life นี่แหละชีวิตของฉัน

    ลำดับตอนที่ #2 : เหตุการณ์สุดน่าตกใจกับเด็กบ้าอะไรน่ารักชะมัดเลย

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 64


    CHAPTER 2 : 

    เหตุการณ์สุดน่าตกใจกับ

    เด็กบ้าอะไรน่ารักชะมัดเลย 


     


     

    หลังจากที่ผ่านเรื่องราวสุดหน้าตื่นเต้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับปรากฏการณ์คนมีไฟลุกอยู่ตรงหน้าผากนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย


     

      “ หวา!! / อ๊าก-!! “

     
     

    เสียงร้องที่ดังขึ้นจากด้านบนทำให้ฉันมองไปยังด้านบนของตึก จึงได้เห็นว่ากำลังมีชายหนุ่มสองคนกำลังตกลงมาจากข้างบน!


     

    เมื่อเห็นดังนั้นฉันจึงรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมโทรเรียกรถพยาบาลเพื่อที่จะได้นำตัวพวกเขาส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที เมื่อพวกเขาตกลงมาถึงพื้น


     

    ถ้าถามว่าทำไมฉันถึงไม่เข้าไปช่วยพวกเขานะหรอ บอกเลยว่า ฉันไม่มีทางช่วยพวกเขาได้หรอกจะให้วิ่งไปรับ ฉันก็คงโดนพวกเขาทับตายก่อนแน่ๆ เพราะงั้นจึงมีแค่ทางเดียวเท่านั้นที่ฉันจะช่วยเหลือพวกเขาได้ แต่ก่อนที่พวกเขานั้นจะตกลงมาก็มีเสียงดังขึ้น


     

        ปัง- เปรี๊ยง-


     

    ถ้าฟังไม่ผิดเสียงดังครั้งแรกคือเสียงของปืนและเสียงที่ตามมารอบสองคือเสียงกระจกแตก น่าแปลกใจจริงๆ เพราะฉันรู้สึกว่าช่วงนี้ฉันจะได้ยินเสียงพวกนี้บ่อยไปแล้ว พวกเสียงปืนไม่ก็เสียงระเบิด


     

    หลังจากที่เสียงเหล่านั้นดังขึ้นหนึ่งในพวกเขาที่กำลังจะตกลงมาก็มีไฟลุกกลางหน้าผาก สึนะอย่างงั้นหรอ!?


     

      " รีบอร์นกลางเวหา!! ต้องช่วยชีวิตยามาโมโตะสุดชีวิต !!! “


     

    สึนะตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับวิ่งไต่ลงมาตามผนังด้านข้างของตึก นั้นเขาคิดว่าตัวเองเป็นสไปเดอร์แมนรึไงกัน!? เดี๋ยวสิหมอนั้นพูดว่าอะไรนะ รีบอร์นงั้นหรอ? ถ้าแปลตรงตัวก็คงแปลว่าการเกิดใหม่ ? ทำไมถึงพูดคำนั้นล่ะ อ่ะ นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้แล้ว พวกเขากำลังตกลงมาถึงพื้นแล้ว


     

        ปัง –


     

    อีกแล้วเสียงปืนอีกแล้ว ทำไมฉันถึงได้ยินมันอีกแล้วล่ะ มีใครยิงอะไรกันรึเปล่า  ไม่สิ นี่ไม่ใช่เวลามามัวคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนะ ต้องรีบช่วย—


     

        ดึ๋ง—


     

    เสียงที่ดังเหมือนกับเสียงของสปริง พร้อมกับพวกเขาที่ตกลงมาแล้วกระเด้งออกมาจากจุดเดิมเล็กน้อย ทำให้ฉันเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมา แต่ฉันก็รีบสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นแล้วรีบตรงเข้าไปถามพวกเขาด้วยความเป็นห่วง


     

      “ เอ่อ พวกคุณไม่เป็นอะไรกันใช่มั้ยคะ? “


     

    ฉันถามพวกเขาไปพร้อมกับใช้สายตาสำรวจพวกเขาเพื่อหาร่องรอยของบาดแผล สึนะคุงนอกจากเสื้อผ้าของเขาที่เหลือเพียงบล็อกเซอร์ ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนอีกคนที่น่าจะชื่อว่า ‘ ยามาโมโตะ ‘ มีบาดแผลตรงแขนที่ตอนนี้กำลังใส่เฝือกอยู่เท่านั้น เหมือนจะไม่ใช่แผลจากการตกลงมา แต่ฉันก็ยังถามพวกเขาเพื่อความสบายใจของตนเอง


     

      “ ผะ ผมไม่เป็นอะไรคะ ครับ “


     

      “ ฉันไม่เป็นไรหรอก ต้องขอบคุณสึนะที่ช่วยไว้ล่ะนะ ฮ่ะฮ่ะ “


     

    แน่นอนอนว่าเสียงแรกเป็นของสึนะคุงและเสียงที่สองเป็นของคนที่ชื่อ ยามาโมโตะ เมื่อฉันได้รับคำตอบที่ต้องการแล้ว ฉันจึงเดินออกมาจากพวกเขาเพื่อตรงไปยังห้องเรียน


     

    ก็ดูจากท่าทางแล้ว พวกเขาคงต้องมีเรื่องอะไรคุยกันแน่ๆ ก็พวกเขาเป็นเพื่อนกันนิ


     


     


     

    +


     


     


     

    ขณะที่ฉันกำลังเดินกลับจากการไปซื้อของก็พบเข้ากับเด็กน้อยที่ดูแปลกประหลาดเนื่องจากการแต่งตัวของเด็กคนนั้นที่เหมือนวัวมากกว่ามนุษย์ซะอีก


     

    ชุดของเด็กคนนั้นเป็นชุดลายวัว ที่มีผมทรงแอโฟร แถมยังมีเขาที่คล้ายเขาวัวอยู่บนหัวทั้งสองข้าง อีกด้วย


     

    สงสัยฉันคงจะจ้องเด็กคนนั้นมากเกินไปจึงทำให้เด็กนั้นรู้ตัวหันมาสบตากับฉันเข้า เมื่อฉันถูกจับได้ว่าแอบมองเด็กน้อย ฉันจึงเดินตรงไปหาเขา


     

      “ จ้องคุณแรมโบ้ทำไมหรอ หรือว่าจะหาเรื่องคุณแรมโบ้กัน “


     

    เมื่อฉันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเด็กคนนั้น เขาก็พูดออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนพร้อมถามความคล่องใจ ฉันเอ่ยถามเด็กที่เรียกตัวเองว่าแรมโบ้


     

      “ ชื่อแรมโบ้หรอเรานะ “


     

      “ อืม! คุณแรมโบ้ ชื่อว่าแรมโบ้! “


     

    เด็กคนนั้นพูดแนะนำตัวเอง พร้อมกับยื่นตัวเอามือทุบไปที่อกด้วยท่าทางที่ดูมั่นใจ ฉันรู้สึกเอ็นดูกับความน่ารักของเด็กน้อย ชื่อแรมโบ้หรอ มีความหมายว่าอะไรกันนะ อยากรู้จังแหะ


     

      “ แล้วคุณแรมโบ้มาทำอะไรตรงนี้หรอ “


     

    ฉันถามเขาไปอย่างสงสัยว่าเด็กตัวเล็กที่ดูจากขนาดตัวแล้วคงจะอายุไม่เกินห้าขวบแน่ๆ มาทำอะไรอยู่ที่สวนเด็กเล่นอยู่คนเดียว หรือว่าพ่อแม่จะให้มารอ ไม่งั้นก็คงอาศัยอยู่ใกล้ๆนี้ล่ะมั้ง


     

      “ คุณแรมโบ้ ฮึก คุณ . . . แรมโบ้ ฮึก ไม่รู้ว่าบ้านที่เป้าหมายอาศัยอยู่ที่ไหน ฮืออออ “


     

    เด็กคนนั้นพูดออกมาพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้นในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้ ฉันที่สงสัยกับคำว่าเป้าหมายที่เด็กคนนี้พูดแต่ก็เป็นคงไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเพราะมันคำพูดของเด็ก ฉันเลยไม่ได้เก็บไปใส่ใจ ดูเหมือนเด็กคนนี้จะหลงทางสินะ เอาไงดีล่ะ


     

      “ ตอนนี้ก็เริ่มเย็นมากแล้ว คุณแรมโบ้มีที่พักคืนนี้รึยังคะ ? “


     

      “ ฮึก คุณแรมโบ้ ฮึก ยังไม่มีที่นอนเลย แถม ฮึก ยังทำแผนที่ ที่บอสให้หายไปไหนไม่รู้อีก ฮึก “


     

    เมื่อฉันได้ยินดังนั้นฉันก็เผลอตัวเชิญชวนให้เด็กคนนี้มาพักที่บ้านของฉัน แล้วค่อยรอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อน ถึงจะค่อยคิดวิธีส่งตัวเด็กคนนี้ไปยังที่หมายปลายทาง


     

    แต่ปกติแล้วคนเราเมื่อเจอเด็กหลงต้องพาไปหาคุณตำรวจกันไม่ใช่หรอ สงสัยฉันจะไม่ใช่คนจำพวกที่นับว่าเป็นคนปกติล่ะมั้งเนี่ย ฮ่าฮ่า


     


     


     

    +


     


     


     

    ตอนนี้ฉันอยากบอกทุกคนมากเลยค่ะ ว่าเด็กที่ชื่อแรมโบ้เนี่ย น่ารักมากเลย ฮือออ ใจบางมาก


     

    ยิ่งตอนเรียกแทนตัวเองว่าคุณแรมโบ้อย่างงู้น คุณแรมโบ้อย่างงี้ โคตรน่ารักเลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีบางครั้งที่ได้ยินเสียงพรายมากระซิบบอกฉันว่าอย่าโดนหลอกก็ตามเถอะ


     

      “ ฮารุกะอยู่คนเดียวหยอ? “


     

    แรมโบ้ถามฉัน ในขณะที่ข้าวห่อไข่ที่ฉันทำให้นั้นเต็มปากของเขาอยู่ ฉันเหลือบตามองไปยังแรมโบ้ เมื่อเห็นมีซอสมะเขือเทศติดอยู่ที่แก้มของเขา ฉันจึงหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดแก้มที่เปื้อนให้


     

      “ กินระวังระวังหน่อยสิคุณแรมโบ้ แล้วก็ใช่แล้วล่ะ ฮารุกะอยู่คนเดียว “


     

      “ อืมม แล้วฮารุกะไม่เหงาหรอ ที่ต้องอยู่คนเดียวนะ “


     

    เขาถามฉันอย่างสงสัยพลางเอียงหัวลงเล็กน้อย อุ๊ก น่ารักจนอยากกระอักเลือดเลยค่ะ แม่คะหนูเจอลูกที่หายไปแล้วค่ะ เจ็บจังเลยแผลผ่าคลอดเนี่ย


     

      “ ปกติก็มีเหงาบ้าง แต่วันนี้ไม่เหงาหรอก เพราะวันนี้มีคุณแรมโบ้อยู่กับฮารุกะนิ “


     

    ฉันตอบแรมโบ้พลางยิ้มออกมาให้กับเด็กอย่างน่ารัก นี่คือวิชาลับสุดยอด


     

    วิชาล่อลวงเด็ก ตอนนี้ฉันได้ใช้ไปทั้งหมดสองวิชาแล้ว นั้นคือการเรียกตัวเองตัวชื่อ ส่วนอีกวิชาก็คือการตอบอย่างเอาใจเด็ก เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยแล้วนะว่าทำไมฉันถึงแทนตัวเองด้วยชื่อ อย่าขนลุกเชียวนะ!


     

    หลังจากที่พวกเรากินข้าวกันจนอิ่ม ฉันก็เอ่ยถามแรมโบ้ว่าจะให้อาบน้ำให้มั้ย เขาก็บอกว่า เขาโตแล้ว อาบน้ำเองได้พร้อมกับดึงผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ


     

    และตอนนี้พวกเราทั้งสองคนก็ได้นอนทำตัวเหลวอยู่ที่ห้องนั่งเล่น อ่าจริงสิ ตอนนี้มันได้เวลานอนของเด็กแล้วนี้น่า ฉันควรบอกให้แรมโบ้เข้านอนได้แล้ว 


     

      " คุณแรมโบ้ ฮารุกะง่วงแล้ว ไปนอนกันเถอะ “


     

      “ คุณแรมโบ้ก็ง่วงเหมือนกัน ไปนอนกันๆ! “


     

    พูดจบพร้อมกับยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาตรงหน้าฉัน เหมือนกับจะบอกให้ฉันอุ้มเข้า แน่นอนว่าฉันที่ตอนนี้ใจเหลวเป็นน้ำ


     

    เมื่อเจอกับท่าทางสุดออดอ้อนพลางทำสายตาประกายระยิบระยับอย่างคาดหวัง จนฉันไม่กล้าปฏิเสธ ฉันอุ้มแรมโบ้ขึ้นมาพร้อมเดินตรงไปยังห้องนอนของฉัน


     

    หลังจากที่เดินมาถึงห้องนอนฉันก็วางแรมโบ้ลงอย่างเบามือเพราะในระหว่างที่เดินมาที่ห้องนั้น แรมโบ้ได้หลับคาอ้อมกอดของฉันไปแล้ว ฉันจึงจัดท่าทางที่คิดว่าแรมโบ้คงจะนอนสบายที่สุด และล้มตัวลงนอนข้างเขา ก็บ้านของฉันมีห้องนอนห้องเดียวนิ


     

    พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าพาแรมโบ้ไปส่ง อ่อใช่ ฉันรู้แล้วว่าที่แรมโบ้ต้องไปคือที่ไหน เพราะหลังจากแรมโบ้อาบน้ำเสร็จ ก็เจอแผนที่นำทางพอดี ถ้าถามว่าเจอเจ้านั้นที่ไหน ก็ขอบอกเลยว่าเจออยู่บนหัวทรงแอโฟรของแรมโบ้นั้นแหละ ยัดเข้าไปได้ยังไง สงสัยจริงๆ


     

    หลังจากไปส่งแรมโบ้ ก็ต้องแวะไปซื้อของดีกว่า แล้วค่อยกลับบ้าน อ่ะ ก่อนไปส่งแวะซื้อลูกอมระหว่างทางน่าจะดีแหะ ชักง่วงแล้วสิ หลับดีกว่า


     

    ทุกคนคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


     


     


     

    +


     


     


     

    ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านทรงอังกฤษ ที่มีหลังคาสีส้ม หน้าบ้านมีป้ายชื่อเขียนว่า ซาวาดะ แต่ว่านะ ซาวาดะหรอ คุ้นๆแหะ ช่างมันก่อนเถอะ แค่นี้ก็ถือเสร็จสิ้นภารกิจแล้วสินะ


     

      “ ถึงแล้วล่ะคุณแรมโบ้ ถ้างั้นฮารุกะไปก่อนน้า~ “


     

    ฉันพูดพร้อมกับก้าวขากำลังจะเดินออกไป แต่โดนแรมโบ้ดึงที่ชายกางเกงก่อนที่จะได้เดินไปไหน ฉันหันกลับมาหาเจ้าตัวพร้อมถามว่ามีอะไรรึเปล่า เจ้าตัวทำตัวอึกอักก่อนที่จะตอบ


     

      “ แล้วคุณแรมโบ้จะได้เจอกับฮารุกะอีกรึเปล่า “


     

    เมื่อเห็นท่าทางที่แสนจะน่ารักของแรมโบ้ ฉันจึงย่อตัวลงมาให้พอดีกับตัวของเจ้าเด็กขี้อ้อนคนนี้ ก่อนที่จะลูบหัวของเขาอย่างเบามือ


     

      “ สักวันต้องได้เจอแน่ ก็เราอยู่เมืองเดียวกันนี่น้า อาจจะเจอกันพรุ่งนี้เลยก็ได้ใครจะรู้ เอาเป็นว่า ถ้าเจอกันอีกฮารุกะจะซื้อลูกอมให้คุณแรมโบ้เป็นรางวัลการพบกันดีมั้ยคะ “


     

      “ ดีสิ! คุณแรมโบ้จะทำให้ฮารุกะเจอคุณแรมโบ้บ่อยๆเลย “


     

    แรมโบ้พูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างน่ารัก


     

       “ อย่างนี้ฮารุกะคงต้องจนมากแน่ๆเลยค่า ถ้าต้องเจอคุณแรมโบ้บ่อยๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ฮารุกะเลี้ยงไหวอยู่แล้ว “


     

    ฉันตอบแรมโบ้อย่างทีเล่นทีจริงก่อนที่จะชันตัวลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วเอ่ยบอกลาแรมโบ้อีกครั้งพร้อมหันหลังกลับตรงไปยังย่านการค้านามิโมริ


     

    อ่า วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันที่ดีจังนะ


     


     


     


     

    เดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งตัดจบบบ คนอ่านเขาสงสัยแล้วว่าตอนนี้กับตอนที่แล้วเป็นเรื่องเดียวกันมั้ย ของบอกเลยว่า ใช่ค่า เรื่องเดียวกันแน่นอน


     

    แต่ที่ตอนนี้ทำไมตอนนี้ดูไม่ออกจูนิเบียวเลยก็เพราะว่าปรอทวัดความโซตะมันทะลุพุ่งแซงนำโด่งสุดๆไปเลยค่ะ แถมอยู่กับเด็กอีกยิ่งไม่อยากทำตัวไร้สาระเข้าไปใหญ่ ก็เพราะเด็กนะ ชอบคนจำพวกพี่สาวนิน่า ฮืออ


     

    เอาเป็นว่า โซตะน่ะดีที่สุด!!!!


     


     

    (*´∇`*)

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×