คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : สวัสดีโลกโคนัน :) Hello:เจ้าของเรือนผมสีบรอนซ์
เรือนร่างเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ส่องประกายราวกับอัญมณีอยู่ในชุดออกกำลังกายกางเกงขาสั้นสีดำและโชว์ร่องซิคแพคเล็กน้อยให้เห็นเป็นประจักษ์ เสียงสูดอากาศดังออกมาเป็นระยะๆในระหว่างที่สายตาเฉี่ยวคมคล้ายกับเหยี่ยวจ้องมองไปยังบุคคลตรงหน้าที่อยู่ในชุดเทควันโดสีขาวสายดำกำลังยืนในท่าเตรียมพร้อม
ยูกิแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากกระจับสีชมพูออกแดงของตนเหมือนกำลังเจอเรื่องที่น่าสนุกสำหรับเธอเอง ไม่กี่วินาทีต่อมาร่างบางของเธอก็วิ่งจู่โจมร่างสูงของชายวัยกลางคนที่มีศักดิ์เป็นอาจารย์อย่างรวดเร็วด้วยข้อได้เปรียบของร่างกายที่เคลื่อนที่ได้อย่างกระฉับกระเฉง
การฝึกต่อสู้ของศิษย์และอาจารย์ดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาหลากหลายคู่ที่หยุดทำกิจกรรมของตนแล้วมองมาทางพวกเขาด้วยความสนอกสนใจที่ปิดไม่มิด สิบนาทีผ่านไปร่างบางก็ได้เสียท่าให้กับคนร่างสูงที่ไขว้มือเธอไว้ด้านหลังเป็นอันจบการฝึกในรอบนี้
ยูกิระบายยิ้มอ่อนออกมาก่อนจะเซไปด้านหน้าตามแรงกระทำของอาจารย์ที่ออกแรงผลักเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเปิดปากพูดประกอบกับรอยยิ้มประจำตัวจนตาหยี
" ครั้งนี้ฝีมือเธอตกนะ ไปเจอเรื่องเครียดอะไรมาล่ะ "
สมกับเป็นอาจารย์ของร่างนี้มานาน ขนาดฉันที่ยังไม่รู้อารมณ์ของตัวเองในตอนนี้ยังคิดได้หลังจากที่เขาเปิดประโยคถามเลย
" ก็แค่เรื่องเพื่อนร่วมห้องที่มีนิสัยกวนประสาทนิดนึงค่ะ " ฉันกล่าวออกไปแล้วจึงยกขวดน้ำขึ้นดื่มอย่างกระหาย ฝึกต่อสู้มันเหนื่อยจริงๆเว้ย!
" ฮารุก็ไม่น่าใช่ แต่ซึบาสะไม่แน่ " ชายวัยกลางคนทำหน้าครุ่นคิดนึกในหัวทำเอายูกิที่นั่งมองหัวเราะออกมาเบาๆอย่างขำขัน
" ก็หนูบอกว่าเพื่อนร่วมห้องไงคะ ฮารุและซึบาสะอยู่ห้องบีต่างหาก "
" อ๋อ จำได้แล้ว! " แน่ใจนะว่านี่คืออาจารย์ฝึกด้านการต่อสู้และป้องกันตัวที่ผู้คนล่ำลือกันนักหนาว่าเป็นคนโหด นิสัยเฟรนลี่ชัดๆ
" หนูกลับได้ยัง นี่ง่วงแล้วนะ " สิ่งที่พูดไปเมื่อกี้มันคือความจริงนะเพราะเปลือกตาของฉันเริ่มจะหย่อนลงมาแล้ว
" พึ่งสองทุ่มเอง ใครบอกให้เธอมาตอนหนึ่งทุ่มครึ่งล่ะ " ยูกิหลบสายตาของร่างสูงอย่างกระอักกระอวนพรางส่งยิ้มแห้งๆไป ก็วันนี้เธอดีดเป็นพิเศษนี่นา
" แหะๆ " หัวเราะกลบเกลื่อนไปแล้วจังหวะนี้!
" แล้วเพื่อนร่วมห้องที่มีนิสัยแบบนั้นไปทำอะไรให้เธอเครียดล่ะ "
" อาจารย์อยากรู้เกินไปแล้วนะคะ " อาจารย์ส่งยิ้มแห้งให้ฉันและหัวเราะกลบเกลื่อนจากนั้นก็ย่างก้าวเดินไปดื่มน้ำของตัวเองทันทีราวกับว่าสิ่งที่พูดไปเมื่อครู่ถูกต้อง
ใครๆก็รู้ป่ะ ว่าอาจารย์อยากรู้เรื่องของฉันกับรามิลน่ะ(==) อยากใช้คำว่าเสือกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเป็นอาจารย์
.....แต่ถ้าเรื่องนิสัยผู้ใหญ่บางคนจะเก็บพิจารณาดูอีกทีก็แล้วกันนะ
" หนูไปละ "
ไม่รีรอคำตอบร่างเล็กของยูกิก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วออกตัววิ่งไปยังทางประตูทันที ปล่อยให้ชายวัยกลางคนขบฟันแน่นเพราะเขาคิดว่าวันนี้น่าจะทำให้ศิษย์ตัวเองฝึกหนักอีกสักเล็กน้อยเป็นการขัดสนิมที่เจ้าตัวไม่ได้เข้ามาฝึกห่างหายกันหลายสัปดาห์
กรุบ กรุบ กรุบ
เสียงเคี้ยวขนมกรุบกรอบดังก้องไปทั่วทางเดินยามราตรี ยูกิยิ้มหน้าบานยามได้กินของที่ตัวเองชื่นชอบสลับกับเดินดุ่มๆไปทางอพาร์ทเม้นท์ของตัวเองที่อยู่ห่างจากสถานที่ฝึกไม่มากนัก เธอจึงไม่ได้เอารถไปด้วย
" อร่อยจัง " ขนมญี่ปุ่นมีให้เลือกกินเยอะจริงๆ โดยเฉพาะพุดดิ้งที่มีหลากหลายยี่ห้อที่ยังไม่ได้ลองชิมเลย
เอาล่ะ! ฉันตั้งแพลนตัวเองไว้แล้วว่าจะชิมขนมญี่ปุ่นทุกอย่างของประเทศนี้ให้ได้
" น้ำหนักขึ้นแน่ ฮ่าๆๆ " ตอนกินไม่เท่าไหร่แต่ตอนเอาออกนี่น่ะสิเป็นปัญหาใหญ่เลย แต่ก็ช่างเถอะเพื่อขนมยูกิและไข่ตุ๋นสู้ตายค่ะ!
เสียงเดินของรองเท้ายามกระทบกับพื้นของบุคคลหนึ่งดังขึ้นมาแทรกกับเสียงรองเท้าของยูกิที่กำลังสับเท้าเดินไปตามทางในตอนกลางคืน ยูกิขมวดคิ้วเป็นปมอย่างนึกสงสัยเพราะทางที่เธอเลือกเดินในตอนนี้เป็นทางลัดที่คิดว่าใกล้ที่สุดถึงแม้ว่าต้องเดินข้ามรั้วหรือปีนกำแพงบ้านคนอื่นก็เถอะ
" ....... " เมื่อหันหลังไปมองทิศทางของเสียงกลับพบแต่ความว่างเปล่า ยูกิจึงเลือกที่จะเดินเร็วขึ้นตามรางสังหรณ์ของตัวเองที่บอกให้เธอระวังตัวเอาไว้
จากเดินก็เปลี่ยนเป็นวิ่งแทนในสถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่ายูกิสามารถเลือกที่จะหันกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายแล้วใช้ศิลปะป้องกันตัวได้ แต่เธอเลือกที่จะไม่เสี่ยงเพราะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายที่วิ่งตามมานั้นมีอาวุธรึเปล่า ถ้าหันกลับไปเผชิญหน้าแบบนั้นโดยไม่ทันคิด ไม่แน่เธออาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเอง
" แม่ง ใครวะ " ฉันพึมพำออกมาระหว่างลัดเลี้ยวไปตามทางที่ยังไม่ค่อยคุ้นชิน
ในใจก็คอยย้ำเตือนตัวเองว่าถ้าเผื่อคนคนนั้นเป็นโรคจิตขึ้นมา ห้ามเดินเข้าบ้านตัวเองเด็ดขาดเพราะจะเป็นการบอกตำแหน่งที่อยู่อาศัยแล้วเขาอาจจะมาจัดการก่อเหตุในภายหลังได้
แล้วผู้หญิงตัวเล็กแบบฉันจะเอาอะไรไปสู้กับอีกฝ่ายวะ!!! ขนาดของร่างก็มองไม่เห็นอีกเว้ย
เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเหลือบมองไปทางด้านหลังเพียงชั่วครู่พอเหมาะพอดีกับตอนที่ขาเรียวของเธอเลี้ยวลัดไปอีกซอย ก่อนจะสะดุดขาของตนทำให้ต้องล้มถลาตัวไปทางด้านหน้าอย่างอัตโนมัติเข้าพุ่มไม้ใหญ่สีเขียวข้างกำแพงท่ามกลางเสียงอุทานของยูกิ
" ว๊ายยย!!! "
มีอะไรซวยไปกว่านี้มั้ยเนี่ย!?!
เสียงรองเท้าที่หยุดเดินอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันเผลอยกมือขึ้นปิดปาก เนื่องจากเพราะมีกิ่งไม้บดบังการมองเห็นไปกว่าครึ่งทำให้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือใครแต่คาดว่าน่าจะเป็นเด็ก?
" (==) " ทำไมในหัวสมองถึงคิดว่าคนตรงหน้าเป็นเด็กผีอย่างโคนันวะหรือว่าเขาจะอัพเกรดจากนักสืบเป็นโรคจิต
" หายไปเร็วจัง " เสียงหวานตามวัยของเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ยูกิคุ้นเคยถึงแม้จะเคยพบหน้าเพียงครั้งเดียวในโลกนี้
นี่มันโคนันชัดๆ! ยูกิคิดในใจขณะมองตามแผ่นหลังร่างเล็กของโคนันที่เดินกลับหลังหันไปตามทางที่เดินเข้ามาซอยนี้ เวลาผ่านไปไม่นานยูกิก็ยันตัวขึ้นเต็มความสูงอย่างทุลักทุเลออกจากพุ่มไม้กินคนที่เคยเล่นสมัยยังเด็ก
" คงไปแล้วมั้ง " ฉันพึมพำด้วยน้ำเสียงโล่งใจตามด้วยเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอก
" ไปไหนเหรอครับ? "
" เหี้ย!!! " คำอุทานของสัตว์ชนิดหนึ่งหลุดออกมาจากปากของร่างบางอย่างไม่ได้ตั้งใจตามด้วยฝ่ามือที่เผลอยกขึ้นมาปิดปากตัวเองอีกครั้งเป็นหนที่สอง
โคนันมองหญิงสาวพร้อมกะพริบตาปริบๆกับคำอุทานตกใจของยูกิที่ชวนมึนงงและเขามั่นใจว่าไม่เคยได้ยินใครอุทานคำนี้มาก่อนแน่ๆ
" เหี้ย? " ไม่วายโคนันก็พึมพำทวนคำอุทานที่ได้ยินมาเมื่อครู่ออกมาเบาๆ แต่ก็มิอาจหลุดรอดพ้นจากหูของยูกิได้ตามด้วยอาการเลิ่กลักและฝ่ามือที่ปัดป่ายไปมา
" อย่าๆ เธอไม่ควรพูดคำนั้นออกมา! " แม่ขา หนูสอนผู้ชายในร่างเด็กปฐมวัยพูดคำหยาบของบ้านเราค่า!
" ครับ " โคนันพยักหน้าขึ้นลงเป็นท่าทางประกอบอย่างเข้าใจ
" แล้วนี่ตามฉันมาทำไม " ไหนๆแล้วก็เริ่มเปิดประเด็นกันเลยดีกว่า
" พี่ยูกิทำพวงกุญแจตกครับ " พวงกุญแจรูปไข่ตุ๋นในถ้วยชาญี่ปุ่นถูกยื่นออกมาต่อหน้าอย่างรวดเร็วทำเอาฉันมองตาค้างกับอีกฝ่าย
นี่ฉันจะโดนอะไรมั้ยเนี่ย
" เอ่อ ขอบใจ " พวงกุญแจถูกหยิบออกจากฝ่ามือเล็กของโคนันแล้วจัดการเก็บใส่ในกระเป๋า
เมื่อยูกิเก็บพวงกุญแจใส่ในกระเป๋าเสร็จ ฝ่ามือเรียวสวยของเธอก็ถูกยกขึ้นกลางอากาศพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆที่ถูกจุดขึ้นมาระหว่างโบกมือสื่อถึงการอำลาในคราวนี้
ไม่รอช้าเธอก็ย่างก้าวออกจากซอยนี้แล้วกลับไปตรงทางจุดเริ่มต้นของการวิ่งหนีบุคคลที่คิดว่าเป็นพวกโรคจิต ตามหลังของหญิงสาวก็มีร่างของเด็กชายเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าครามเดินตามหลังอย่างยิ้มๆ
ยามที่ร่างบางหันหลังกลับไปมองก็จะพบรอยยิ้มของอีกฝ่ายที่ฉีกยิ้มมอบให้เธออย่างน่าอึดอัดเปรียบเสมือนว่าเธออยู่ในกำมือของเขาเหมือนกับคนร้ายคนอื่นๆที่จนมุม
หลังจากทนความอึดอัดนี้ได้ไม่นานขณะที่ยูกิกำลังเปิดปากถามหาสาเหตุ เสียงหวานของเด็กหนุ่มก็ดังแทรกเข้ามาก่อนทันที่จะได้เอ่ยถามอะไรออกไป
" นี่...พี่ยูกิเคยพูดประโยคแปลกๆกับพี่อาซึสะใช่มั้ยครับ " คุโด้ ชินอิจิในร่างเด็กปฐมกล่าวด้วยท่าทางเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า
" ประโยคแปลกๆที่ว่า....ยังไงเหรอ " น้ำเสียงราบเรียบแต่เต็มไปด้วยความสนุกถูกกล่าวออกมาขณะก้าวขาเดินไปตามทาง โดยมีเด็กหนุ่มอย่างโคนันเดินล้วงกระเป๋าตามหลัง
" รู้รึเปล่าครับว่าวันนี้มีพนักงานคนใหม่ของร้านปัวโรต์เพิ่มเข้ามา " ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดหรืออธิบายอะไรขึ้นมาอยู่ในตอนนี้ แต่ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีขาวราวสำลีกลับกัดกินขนมปังใส่แยมสตรอเบอรี่อย่างมีความสุขกับสิ่งนี้แทนซะงั้น
" อ่าห๊ะ " ฉันส่งเสียงตอบออกไปด้วยท่าทางไม่สนใจกับประโยคของเขา
" เส้นผมสีบรอนซ์ทอง ผิวสีแทน ร่างสูงและเป็นเจ้าของสูตรแซนวิชซึ่งลักษณะแบบนี้มันบังเอิญตรงกับคำพูดของพี่ยูกิที่เคยกล่าวเอาไว้กับพี่อาซึสะวันแรกเลยนะครับ " เขาเน้นคำตรงคำว่าบังเอิญเป็นพิเศษและคอยมองปฏิกิริยาอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง
" ...... " อิ๊บอ๊าย
" แน่ใจนะครับว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ "
" แต่ฉันจำได้ว่าแค่บอกสีผมและเป็นสูตรแซนวิชแค่นั้นเองนะ " ขนมปังอีกคำก็ถูกกัดเข้าไปอยู่ในปากพร้อมแยมสตรอเบอร์รี่ที่้ปรอะเปลื้อนตามนิ้วมือและบริเวณรอบๆริมฝีปากแล้วจึงเหลือบตามองไปทางด้านหลังและต่อด้วยประโยคว่า
" ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเหรอ "
" ...... " คราวนี้ยอดนักสืบม.ปลายในร่างเด็กกลับเป็นฝ่ายที่นิ่งแทนและคิดไตร่ตรองกับคำบอกเล่าของอาซึสะเมื่อเช้า
นัยน์ตาสีครามของโคนันเหลือบมองหญิงสาวผู้มีนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลและเปล่งประกายในตอนนี้อย่างนึกคิดพรางสังเกต เสียงหัวเราะอย่างขำขันของร่างบางดึงสติของเขาให้หันกลับมาสนใจตัวเธออย่างสงสัยว่าเธอขำอะไรกัน
ยูกิปาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากเบ้า ขณะพยายามที่จะกลั้นเสียงหัวเราะที่เผลอระเบิดออกมาเพื่อเป็นการเเสดงบังหน้าหลังจากคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้ของนักสืบในร่างเด็กสำเร็จ
" ขอโทษๆพอดีฉันตลกสีหน้าเธอในตอนนี้น่ะ "
" ครับ? " โคนันเผยสีหน้าสงสัยออกมาขณะมองหญิงสาวตรงหน้า
" ไม่คุ้นชินนามสกุล กาคุรุ จริงดิ " ฉันเลิกคิ้วขึ้นถามอีกฝ่ายตามด้วยรอยยิ้มพริ้มยามที่คิดว่านักสืบจิ๋วคนนี้น่าจะรู้คำตอบแล้ว จึงกล่าวประโยคต่อไปว่า
" ที่บ้านเคยพาไปแต่คาเฟ่ต่างประเทศน่ะแล้วสูตรแซนวิชส่วนใหญ่จะเป็นของคนผมสีบรอนซ์ในร้าน " ฉันพูดจริงๆนะว่าตัวเองควรได้รับรางวัลออสการ์สาขาการแสดง
โคนันจ้องมองร่างบางของหญิงสาวไม่วางตา หลังจากที่เขาคุ้นๆนามสกุลของเธอมานานตั้งแต่ที่รันเล่าให้ฟังจนตอนนี้ก็พึ่งได้ข้อสรุป
เนื่องจากว่าเดิมทีนั้นยูกิมีเส้นผมสีน้ำตาลและในภาพถ่ายที่ได้ออกสื่อนั้นมีแต่ภาพที่หญิงสาวผมยาวแล้วถูกทำเป็นทรงต่างๆประกอบกับดวงตาที่ดูกลมโต แต่ตัวจริงตรงหน้าของเขากลับมีดวงตาที่เฉียบคมราวกับเหยี่ยวเสมือนเป็นคนละคนกับโลกสื่อสังคม
เส้นผมสีขาวถูกถัดมาอยู่บริเวณใบหูจากเจ้าของอย่างกาคุรุ ยูกิ เธอเลียแยมสตรอเบอรี่ที่เปรอะไปตามนิ้วมือและรอบๆบริเวณริมฝีปากเผยให้เห็นเขี้ยวฟันซี่แหลม จบด้วยการหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำลายที่หลงเหลืออยู่ตามนิ้วมืออย่างเฉื่อยๆของนิสัยประจำตัว
เมื่อนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเปล่งประกายเหลือบตามองยอดนักสืบร่างเด็กปฐมก็ทำให้ยูกิเผยสีหน้ามึนงงและสับสนอีกครั้งเพราะว่าตามบริเวณพวงแก้มของเขาถูกประดับไปด้วยริ้วแดงจางๆและดวงตาสีฟ้าครามที่จับจ้องมองมายังเธออย่างไม่วางตาแปลกๆ
รู้มั้ยว่าสีหน้าแบบนั้น มันทำเอาเธอแสดงสีหน้าไม่ถูกและไปไม่เป็น
" ว่าแต่เธอมาทำอะไรแถวนี้ตอนกลางคืนงั้นเหรอ ปกติเด็กวัยนี้ควรนอนได้แล้วนะ " นาฬิกาดิจิตอลสีเงินเรือนสวยถูกยกขึ้นมาดูเป็นท่าทางประกอบพร้อมโชว์เลขสามได้ให้เห็น
คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายโคนันที่เหรอหราแทนเพราะน้ำเสียงเด็กใสซื่อของเขาถูกยกออกมาใช้ต่อหน้ายูกิซะแล้วทำเอาตาเธอถึงกับกระตุกถี่ๆ
" พอดีผมพึ่งกลับจากไปเล่นบ้านเพื่อนมาน่ะครับ แหะๆ " ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีขาวสั้นประบ่ามองท่าทีของยอดนักสืบร่างเด็กตรงหน้ากำลังลูบผมตัวเองเป็นท่าทางประกอบอย่างเอือมๆ อยู่ๆความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัวเรียกรอยยิ้มมุมปากให้ขึ้นมาประดับบนหน้าของเธอ
" นี่ก็ดึกมากแล้ว เธอมากับฉันไปที่อพาทเม้นต์น่าจะดีกว่าเดี๋ยวขับรถไปส่ง "
" มะ-ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมเดินกลับเองได้! " โคนันรีบตอบปฏิเสธอย่างทันควัน
" ได้ไงกันเผื่อไปเจอคนโรคจิตเดินตามเข้า....จะแย่เอานะ " เมื่อมีโอกาสได้พูดแบบนี้ฉันก็ไม่ลืมที่จะพูดเหน็บเขาไปทีหนึ่งข้อหาเดินตามอย่างกับสตอคเกอร์แล้วดูเหมือนว่าโคนันจะรู้สึกตะหงิดกับคำว่าโรคจิตนะ
" ....... "
โคนันเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าส่งกลับมาเป็นคำตอบโดยไม่รู้สึกถึงรอยยิ้มและแววตาของคนผมขาวที่ดูเจ้าเล่ห์ขึ้นไปทุกที
" รีบตามมาล่ะ! "
เมื่อได้คำตอบที่ฉันต้องการแล้วก็รีบหันหลังกลับไปเดินเร็วตามทางอพาทเมนต์ทันที โดยมีร่างตัวกะเปี๊ยกของโคนันวิ่งตามมาและส่งแววตาไม่น่าเชื่อใจมาทางฉันอย่างลับหลัง
แล้วไงใครสน!!!
ระหว่างที่สับเท้าเดินไปตามทางพื้นคอนกรีตเสียงหวานตามวัยของเด็กปฐมก็กล่าวขึ้นมาบอกที่อยู่อาศัยของรันให้ฉันฟังอย่างละเอียด แต่ว่าถ้าฉันขับไปตามทางที่เขาบอก
ฉันก็จะไม่ไก้แกล้งอย่างสะใจนี่ เพราะฉะนั้นฉันจึงลองถามเส้นทางอื่นที่พอยื้เวลาได้บ้างแถมโคนันยังให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่อีกต่างหากถึงแม้จะได้รับสายตาและคำถามแปลกๆเป็นข้อแลกเปลี่ยนก็เถอะ
เวลาผ่านไปราวๆห้านาทีกับการเดินทางมายังอพาร์ทเม้นท์ของยูกิกับเด็กชายพ่อยอดนักสืบอย่างโคนันที่ถูกคำสั่งจากร่างบางให้นั่งรอที่ล็อบบี้ก็มาถึง ความอลังการและผู้คนที่ต่างพากันแต่งตัวด้วยชุดหรูหราทำเอาโคนันเกิดอาการเกร็งตัวขึ้นมาเสียดื้อๆเพราะต้องอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนเฟล่านั้นที่เดินผลัดกันเขเาออกเป้นว่าเล่น
ลิลลี่ที่กำลังยื่นคีย์การ์ดให้แขกรายหนึ่งก็เบนสายตาหันมามองเด็กชายในชุดสูทน้ำเงินผูกหูกระต่ายสีแดงอย่างสงสัยหลังจากที่ได้รับคำสั่งมอบหมายจากคุณหนูให้จับตามองระหว่างที่เธอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ท่าทางเกร็งตัวของเด็กคนนั้นทำเอาลิลลี่นึกเอ็นดูขึ้นมาและส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจเมื่อคิดว่าคุณหนูของตนจะไปล่อเด็กที่ไหนมารึเปล่าอย่างขำๆเพราะนิสัยของคุณท่านก็ทำเอาเธอที่เคยทำงานอยู่ที่นั่นปวดหัวไม่น้อยในแต่ละวัน
" รอนานรึเปล่า "
" มะ-ไม่เลยครับ! " โคนันตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักและริ้วแดงที่เริ่มเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง
ร่างเล็กของหญิงสาวที่มีเรือนผมสีขาวสว่างประกอบกับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลกำลังคลี่ยิ้มส่งมา กางเกงขาสั้นสีดำแถบขาวที่โชว์ให้เห็นเรียวขาอ่อนและเสื้อยืดสีฟ้ารูปม้ายูนิคอร์นทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีดำพร้อมหมวกกันน็อคที่ถูกถือข้างเอวคอด
เมื่อเห็นปฏิกิริยาตามที่ต้องการในแผนแรกสำเร็จไปได้ลุล่วง รอยยิ้มก็ถูกคลี่กว้างกว่าเดิมระหว่างย่างก้าวเข้าไปหาเด็กชายเพื่อเรียกสติจากเขาที่ดูเหมือนจะล่องลอยไปไกลแล้ว
" ไปกันเถอะ " ฉันเอื้อมมือไปจับข้อมือของอีกฝ่ายอย่างจงใจแล้วรีบลากไปยังลานจอดรถทันที
ยามเดินมาถึงรถKawasakiสีขาวคันโตอยู่ๆโคนันก็เดินหยุดนิ่งอยู่กับที่อย่างฉับพลันแล้วมองฉันสลับกับตัวรถอย่างอึ้งๆ
รู้อยู่หรอกว่าขนาดตัวมันต่างกัน แต่อย่างน้อยฉันก็ขาถึงอยู่หรอกนะ
" อะไรกันคิดว่าพี่ขับไม่ได้รึไง " น้ำเสียงหวานเชิงน้อยใจถูกเปล่งออกไปอย่างเนียนๆ
" เปล่าครับ แค่สงสัยเพราะว่าขนาดมัน...ต่างกัน " ตอบเสร็จโคนันก็หลบนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ยืนกดดันทันที
" รีบขึ้นเถอะ เดี๋ยวรันจะเป็นห่วงเอานะ "
หมวกกันน็อคสีดำถูกสวมใส่บดบังเส้นผมสีขาวพร้อมกับร่างของฉันที่ตวัดขาขึ้นไปคร่อมตัวรถ เมื่อหันกลับมามองร่างของพ่อยอดนักสืบก็เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างดีเพราะว่าเขาขึ้นไม่ได้ไงล่ะแถมยังกระโดดต๋อยๆเหมือนกับลิงอีก
โอ๊ยยยย จะน่ารักอะไรขนาดนั้นคะลูก!!!
อะแฮ่มๆ ฉันยังไม่ลืมหรอกนะว่าเขาเป็นเด็กผีที่ไปไหนก็มีแต่คนตายน่ะ ว่าแต่แถวที่พักฉันจะมีคนตายรึเปล่าหว่า
" หึๆๆ " ร่างของโคนันถูกยกลอยหวือกลางอากาศแล้วจบลงที่เบาะหลังของตัวรถ
ยูกิขึ้นคร่อมรถอีกครั้งอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะตวาดขาไปเตะเด็กชายเอาก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากบริเวณนี้อย่างช้าๆ
จนกระทั่งมาถึงทางสามแยกที่ต้องเลี้ยวเข้าไปในซอย หญิงสาวกลับขับรถไปทางตรงไม่แม้แต่จะเหลียวมองทางเลี้ยวที่ต้องขับเข้าไป
โคนันรีบเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยและระแวงหญิงสาวตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเด็กที่ถูกยกขึ้นมาใช้ทำให้ร่างบางอดไม่ได้ที่จะกรอกตามอง
" ที่จริงมันต้องเลี้ยวแล้วนะครับ "
เดี๋ยวได้เลี้ยวสมใจแน่จร้า ไม่ต้องห่วงพ่อคูณ
" พาขับรถเล่นก่อนกลับบ้านไง " ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันขับรถมาถึงท้องถนนที่มีรถใหญ่สัญจรไปมาเป็นสีสัน
" เดี๋ยวพี่รันก็เป็นห่วงเอานะครับ " แฟนนายไม่เป็นห่วงแน่จร้า ไว้ใจพี่สกิลนักแข่งได้เลย
" รันไม่เป็นห่วงหรอกเพราะว่าฉันจะขับรถไปถึงที่นั่นภายในสามนาทีให้ได้ "
" ภายในสามนาที? "
" ช่าย~ " ไฟแดงเริ่มนับถอยหลังมาเรื่อยๆจากห้าวินาทีระหว่างนั้นฉันก็ต้องคอยตอบคำถามของเด็กนี่ไปด้วย
5
" หมายความว่าไงครับ "
4
" ก็หมายความว่าอย่างงั้นแหละ "
3
" ต่อให้ขับเร็วยังไง แต่รถเยอะแบบนี้ไม่น่าทันภายในสามนาทีนะครับ "
2
" แต่นี่ยูกิไง เรื่องแค่นี้ไม่คะนามือหรอก " ฉันกล่าวพร้อมเลียริมฝีปากขณะที่สายจับจ้องไปที่ตัวเลขที่โชว์เด่นหรา ส่วนมือก็คอยบิดเร่งขึ้นเป็นการเตรียมพร้อม
1
" เกอะเอวพี่ดีๆนะน้อง!!! "
0
" อ๊ากกกกก!!! "
เมื่อตัวเลขบนไฟจราจรถึงเลขศูนย์ไม่รอช้าหญิงสาวก็บิดเร่งเครื่องขับฝ่าท้องถนนที่เต็มไปด้วยยานพาหนะอย่างชำนาญทันทีท่ามกลางเสียงตะโกนโวยวายปนความตกใจของโคนันที่เผลอเกาะเสื้อแจ็คเก็ตสีดำของหญิงสาวเอาไว้แน่นจนยับ
ขณะที่ยูกิขับรถหลบสิ่งกีดขวางไปมารอยยิ้มบางๆก็ถูกจุดขึ้นมา เมื่อได้เห็นท่าทีของโคนันผ่านตัวกระจกรถและรอยยิ้มนั่นยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปอีกพร้อมกับเสียงหัวเราะที่แทรกเข้ามายามที่เธอต้องเลี้ยวรถเข้าซอยพร้อมกับเสียงกรีดร้องของเขา
อย่าหาว่าฉันบ้าหรือโรคจิตเลยนะ แต่มันอดขำไม่ได้เฉยๆ
สามนาทีผ่านไปรถรุ่นkawasakiสีขาวก็มาจอดเทียบท่าหน้าร้านปัวโรต์อย่างตรงเวลาตามที่เสียงหวานรับปาก นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบไปมองบุคคลด้านหลังก็จำเป็นต้องกลั้นเสียงหัวเราะทันที
เนื่องจากท่าทีของอีกฝ่ายที่เกาะเอวเธอแน่นพร้อมสีหน้าเบิกตาโตและเสียงสูดหายใจนั้นผสมกับทรงผมที่ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงมันช่างเหมือนกับตัวตลกในการ์ตูนหลังข่าวของโลกนี้จริงๆ
เสียงหัวเราะของความสะใจดังแทรกหูของอีกฝ่ายได้ยินเข้ายามตั้งสติเสร็จ ดวงตาสีฟ้าครามตวัดหันมามองใบหน้าของยูกิอย่างเคืองๆเมื่อคิดว่าเธอมีความสุขบนความทุกข์ของเขา
" ฮ่าๆๆๆ " ฉันปาดน้ำตาอย่างลวกๆระหว่างยกมือขึ้นระดับอกเป็นเชิงยอมแพ้
ร่างของเด็กชายเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลในชุดสูทสีน้ำเงินกระโดดลงจากเบาะรถมอเตอร์ไซค์คันขาวด้วยใบหน้าเอือมๆใส่ยูกิที่นั่งเท้าคางมองโดยที่วางศอกทั้งสองข้างบนหมวกกันน็อคระหว่างที่โคนันคอยจัดผมของตัวเอง
เสียงหวานของรันกับเสียงทุ่มของชายคนดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของรองเท้ายามกระทบกับพื้น ยูกิเงยหน้ามองบุคคลทั้งสองพอๆกับที่ดวงตาทั้งสองคู่นั่นหันมามอง
" โคนันคุง!!! " รอยยิ้มหวานของแม่นางเอกอย่างรันประดับขึ้นมาบนใบหน้าพร้อมวิ่งตรงมาเข้าหาเด็กชายที่ยืนข้างๆกับรถสีขาว
" (=_=)" ฉันมองพวกเธอทั้งสองคนกอดกันอย่างกับก้อนอะไรบางอย่างเหมือนเป็นส่วนเกินแถมประโยคพูดของรันที่คอยถามว่าไปไหนมาและน้ำเสียงตะกุกตะกักของโคนันมันช่างเรียกความหงุดหงิดได้ดีจริงๆ
แล้วฉันมายืนมองพระเอกกับนางเอกกอดกันทำไมวะเนี่ย!!!
" ขอบคุณนะยูกิที่มาส่งโคนันคุงอย่างปลอดภัย "
" ไม่เป็นไรหรอกรัน " ปลอดภัยมากๆเลยล่ะรัน ฉันพาเขาหลบรถจนเขามีอาการหัวใจวายแล้วมังเนี่ย
" เห ผู้หญิงคนนี้คือใครงั้นเหรอครับ " เสียงทุ่มของชายคนนั้นที่ฉันลืมไปแล้วว่ายังมีตัวตนดังขึ้นมาพร้อมกับประโยคคำถามที่กล่าวอย่างยิ้มๆ
" อ๋อ นี่ยูกิค่ะคุณอามุโร่ ยูกินี่คุณอามุโร่นะเขาเป็นพนักงานคนใหม่ของร้านปัวโรต์ " รันยันตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วผายมือไปทางชายหนุ่มผิวแทนเป็นการแนะนำต่อด้วยหญิงสาวนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล
" สวัสดีค่ะ " ฉันยื่นมือไปทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มจอมปลอมที่ถูกยกขึ้นมาใช้ เขามองฝ่ามือฉันครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาลงแล้วจึงเดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับยื่นมือมาจับทักทายยามลืมตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
" สวัสดีครับ ผมได้ยินเรื่องของคุณยูกิจากคุณรันแล้วนะครับ " เขากล่าวอย่างยิ้มๆ
" ว้าว รันเล่าเรื่องแบบไหนให้คุณฟังกันนะ " ฉันเหลือบตาไปมองแม่นางเอกของเรื่องที่ยืนกุมมือเล็กของโคนันอยู่ ก่อนจะได้รับรอยยิ้มหวานส่งคืนกลับมา
" ก็เรื่องวันที่พวกคุณพบเจอกันครั้งแรกนั่นแหละครับ แต่ไม่คิดเลยว่าคุณจะขับรถคันใหญ่ซะขนาดนี้ " ไม่ว่าเปล่าอามุโร่ก็เหลือบตาไปมองรถของยูกิคันสีขาวที่เธอขึ้นคร่อมอยู่ด้วยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย
" ^*^ " ฉันยังคงฉีกยิ้มประดับบนใบหน้าแม้จะเริ่มเคลืองกับรอยยิ้มของอีกฝ่ายก็ตาม
ก็คุณชายตรงหน้าฉันเป็นหนึ่งในตัวละครที่ฉันจำได้จากโลกเดิมนั่นไง แต่ว่ารู้จักเขาในนามขององกรณ์ชุดดำที่ใช้โค้ดเนมเป็นชื่อเหล้าอ่ะนะและชายคนนี้มีโค้ดเนมว่าเบอเบิ้นและก็มีอีกหลายนามเลย
พึ่งมารู้นี่แหละว่าชื่อในเรื่องเขาใช้นามว่าอามูโร่ ส่วนชื่อจริงๆของเขานั้นเหมือนจะเป็นเรย์รึเปล่าหว่า น่าจะใช่แหละเพราะอิกรบอกว่าถ้าจะจำชื่อจริงของนายคนนี้ให้จำชื่อขนมเลย์ของไทยไว้!
รสบาร์บีคิวแซ่บหลาย เจ๊คอนเฟิร์ม
" งั้นฉันกลับก่อนก็แล้วกันนะรัน " หมวกกันน็อคบนเบาะถุกยกขึ้นมาสวมใส่อีกครั้งระหว่างสตาร์ทรถไปด้วย
" กลับดีๆล่ะ " รันโบกมือเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม ส่วนยูกิก็พยักหน้าขึ้นเป็นการตอบแทนพรางเบนสายตาหันมาสนใจชายทั้งสองคนที่จ้องมองมา
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่สวมหมวกฉันจึงแกล้งสวมให้เห็นบริเวณริมฝีปากก่อนแล้วจึงขยับปากพูดไม่มีเสียงเป็นการแกล้งเล่นว่า
" เรย์ "
อามุโร่ตาโพลงขึ้นมาพร้อมจ้องฉันยังไม่วางตาด้วยความสงสัยและกดดันและฉันหวังว่าเขาจะคิดอีกอย่างว่าคำเมื่อกี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญเฉยๆแล้วจึงขับรถออกไปตามทางอย่างช้าๆ
" ....... " อามุโร่มองตามแผ่นหลังของร่างบางไม่วางตาจนกระทั่งเธอขับหายไปจากซอยนี้ คำพูดของเธอยามที่ขยับปาก ถ้าเขาจับใจความได้ไม่ผิดนั่นคือชื่อนามจริงๆของเขาแล้วอีกคำถามคือเธอรู้ได้ยังไงหรือจะเป็นเเค่เรื่องบังเอิญ?
คุณคือใครกันแน่คุณยูกิ ดูท่าแล้วผมคงต้องขออนุญาตดูประวัติของคุณซะหน่อยแล้วล่ะครับ :)
ความคิดเห็น