ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Conan x OC สวัสดีโลกโคนัน :) Hello

    ลำดับตอนที่ #8 : สวัสดีโลกโคนัน :) Hello:เจ้าของเรือนผมสีบรอนซ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.57K
      417
      3 ธ.ค. 63




    เรือนร่างเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ส่องประกายราวกับอัญมณีอยู่ในชุดออกกำลังกายกางเกงขาสั้นสีดำและโชว์ร่องซิคแพคเล็กน้อยให้เห็นเป็นประจักษ์  เสียงสูดอากาศดังออกมาเป็นระยะๆในระหว่างที่สายตาเฉี่ยวคมคล้ายกับเหยี่ยวจ้องมองไปยังบุคคลตรงหน้าที่อยู่ในชุดเทควันโดสีขาวสายดำกำลังยืนในท่าเตรียมพร้อม


    ยูกิแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากกระจับสีชมพูออกแดงของตนเหมือนกำลังเจอเรื่องที่น่าสนุกสำหรับเธอเอง  ไม่กี่วินาทีต่อมาร่างบางของเธอก็วิ่งจู่โจมร่างสูงของชายวัยกลางคนที่มีศักดิ์เป็นอาจารย์อย่างรวดเร็วด้วยข้อได้เปรียบของร่างกายที่เคลื่อนที่ได้อย่างกระฉับกระเฉง


    การฝึกต่อสู้ของศิษย์และอาจารย์ดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาหลากหลายคู่ที่หยุดทำกิจกรรมของตนแล้วมองมาทางพวกเขาด้วยความสนอกสนใจที่ปิดไม่มิด  สิบนาทีผ่านไปร่างบางก็ได้เสียท่าให้กับคนร่างสูงที่ไขว้มือเธอไว้ด้านหลังเป็นอันจบการฝึกในรอบนี้ 


    ยูกิระบายยิ้มอ่อนออกมาก่อนจะเซไปด้านหน้าตามแรงกระทำของอาจารย์ที่ออกแรงผลักเพียงเล็กน้อย  ก่อนจะเปิดปากพูดประกอบกับรอยยิ้มประจำตัวจนตาหยี


    " ครั้งนี้ฝีมือเธอตกนะ ไปเจอเรื่องเครียดอะไรมาล่ะ "


    สมกับเป็นอาจารย์ของร่างนี้มานาน  ขนาดฉันที่ยังไม่รู้อารมณ์ของตัวเองในตอนนี้ยังคิดได้หลังจากที่เขาเปิดประโยคถามเลย


    " ก็แค่เรื่องเพื่อนร่วมห้องที่มีนิสัยกวนประสาทนิดนึงค่ะ "  ฉันกล่าวออกไปแล้วจึงยกขวดน้ำขึ้นดื่มอย่างกระหาย  ฝึกต่อสู้มันเหนื่อยจริงๆเว้ย!


    " ฮารุก็ไม่น่าใช่ แต่ซึบาสะไม่แน่ "  ชายวัยกลางคนทำหน้าครุ่นคิดนึกในหัวทำเอายูกิที่นั่งมองหัวเราะออกมาเบาๆอย่างขำขัน


    " ก็หนูบอกว่าเพื่อนร่วมห้องไงคะ ฮารุและซึบาสะอยู่ห้องบีต่างหาก " 


    " อ๋อ จำได้แล้ว! "  แน่ใจนะว่านี่คืออาจารย์ฝึกด้านการต่อสู้และป้องกันตัวที่ผู้คนล่ำลือกันนักหนาว่าเป็นคนโหด  นิสัยเฟรนลี่ชัดๆ


    " หนูกลับได้ยัง นี่ง่วงแล้วนะ "  สิ่งที่พูดไปเมื่อกี้มันคือความจริงนะเพราะเปลือกตาของฉันเริ่มจะหย่อนลงมาแล้ว


    " พึ่งสองทุ่มเอง ใครบอกให้เธอมาตอนหนึ่งทุ่มครึ่งล่ะ "  ยูกิหลบสายตาของร่างสูงอย่างกระอักกระอวนพรางส่งยิ้มแห้งๆไป  ก็วันนี้เธอดีดเป็นพิเศษนี่นา


    " แหะๆ "  หัวเราะกลบเกลื่อนไปแล้วจังหวะนี้!


    " แล้วเพื่อนร่วมห้องที่มีนิสัยแบบนั้นไปทำอะไรให้เธอเครียดล่ะ "


    " อาจารย์อยากรู้เกินไปแล้วนะคะ "  อาจารย์ส่งยิ้มแห้งให้ฉันและหัวเราะกลบเกลื่อนจากนั้นก็ย่างก้าวเดินไปดื่มน้ำของตัวเองทันทีราวกับว่าสิ่งที่พูดไปเมื่อครู่ถูกต้อง


    ใครๆก็รู้ป่ะ ว่าอาจารย์อยากรู้เรื่องของฉันกับรามิลน่ะ(==) อยากใช้คำว่าเสือกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเป็นอาจารย์ 


    .....แต่ถ้าเรื่องนิสัยผู้ใหญ่บางคนจะเก็บพิจารณาดูอีกทีก็แล้วกันนะ


    " หนูไปละ "  


    ไม่รีรอคำตอบร่างเล็กของยูกิก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วออกตัววิ่งไปยังทางประตูทันที  ปล่อยให้ชายวัยกลางคนขบฟันแน่นเพราะเขาคิดว่าวันนี้น่าจะทำให้ศิษย์ตัวเองฝึกหนักอีกสักเล็กน้อยเป็นการขัดสนิมที่เจ้าตัวไม่ได้เข้ามาฝึกห่างหายกันหลายสัปดาห์


    กรุบ กรุบ กรุบ


    เสียงเคี้ยวขนมกรุบกรอบดังก้องไปทั่วทางเดินยามราตรี  ยูกิยิ้มหน้าบานยามได้กินของที่ตัวเองชื่นชอบสลับกับเดินดุ่มๆไปทางอพาร์ทเม้นท์ของตัวเองที่อยู่ห่างจากสถานที่ฝึกไม่มากนัก  เธอจึงไม่ได้เอารถไปด้วย


    " อร่อยจัง "  ขนมญี่ปุ่นมีให้เลือกกินเยอะจริงๆ  โดยเฉพาะพุดดิ้งที่มีหลากหลายยี่ห้อที่ยังไม่ได้ลองชิมเลย


    เอาล่ะ!  ฉันตั้งแพลนตัวเองไว้แล้วว่าจะชิมขนมญี่ปุ่นทุกอย่างของประเทศนี้ให้ได้


    " น้ำหนักขึ้นแน่ ฮ่าๆๆ "  ตอนกินไม่เท่าไหร่แต่ตอนเอาออกนี่น่ะสิเป็นปัญหาใหญ่เลย  แต่ก็ช่างเถอะเพื่อขนมยูกิและไข่ตุ๋นสู้ตายค่ะ!


    เสียงเดินของรองเท้ายามกระทบกับพื้นของบุคคลหนึ่งดังขึ้นมาแทรกกับเสียงรองเท้าของยูกิที่กำลังสับเท้าเดินไปตามทางในตอนกลางคืน  ยูกิขมวดคิ้วเป็นปมอย่างนึกสงสัยเพราะทางที่เธอเลือกเดินในตอนนี้เป็นทางลัดที่คิดว่าใกล้ที่สุดถึงแม้ว่าต้องเดินข้ามรั้วหรือปีนกำแพงบ้านคนอื่นก็เถอะ


    " ....... "  เมื่อหันหลังไปมองทิศทางของเสียงกลับพบแต่ความว่างเปล่า  ยูกิจึงเลือกที่จะเดินเร็วขึ้นตามรางสังหรณ์ของตัวเองที่บอกให้เธอระวังตัวเอาไว้


    จากเดินก็เปลี่ยนเป็นวิ่งแทนในสถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่ายูกิสามารถเลือกที่จะหันกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายแล้วใช้ศิลปะป้องกันตัวได้  แต่เธอเลือกที่จะไม่เสี่ยงเพราะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายที่วิ่งตามมานั้นมีอาวุธรึเปล่า  ถ้าหันกลับไปเผชิญหน้าแบบนั้นโดยไม่ทันคิด  ไม่แน่เธออาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเอง


    " แม่ง ใครวะ "  ฉันพึมพำออกมาระหว่างลัดเลี้ยวไปตามทางที่ยังไม่ค่อยคุ้นชิน  


    ในใจก็คอยย้ำเตือนตัวเองว่าถ้าเผื่อคนคนนั้นเป็นโรคจิตขึ้นมา  ห้ามเดินเข้าบ้านตัวเองเด็ดขาดเพราะจะเป็นการบอกตำแหน่งที่อยู่อาศัยแล้วเขาอาจจะมาจัดการก่อเหตุในภายหลังได้


    แล้วผู้หญิงตัวเล็กแบบฉันจะเอาอะไรไปสู้กับอีกฝ่ายวะ!!!  ขนาดของร่างก็มองไม่เห็นอีกเว้ย


    เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเหลือบมองไปทางด้านหลังเพียงชั่วครู่พอเหมาะพอดีกับตอนที่ขาเรียวของเธอเลี้ยวลัดไปอีกซอย  ก่อนจะสะดุดขาของตนทำให้ต้องล้มถลาตัวไปทางด้านหน้าอย่างอัตโนมัติเข้าพุ่มไม้ใหญ่สีเขียวข้างกำแพงท่ามกลางเสียงอุทานของยูกิ


    " ว๊ายยย!!! "


    มีอะไรซวยไปกว่านี้มั้ยเนี่ย!?!


    เสียงรองเท้าที่หยุดเดินอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันเผลอยกมือขึ้นปิดปาก  เนื่องจากเพราะมีกิ่งไม้บดบังการมองเห็นไปกว่าครึ่งทำให้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือใครแต่คาดว่าน่าจะเป็นเด็ก?


    " (==) "  ทำไมในหัวสมองถึงคิดว่าคนตรงหน้าเป็นเด็กผีอย่างโคนันวะหรือว่าเขาจะอัพเกรดจากนักสืบเป็นโรคจิต


    " หายไปเร็วจัง "  เสียงหวานตามวัยของเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ยูกิคุ้นเคยถึงแม้จะเคยพบหน้าเพียงครั้งเดียวในโลกนี้


    นี่มันโคนันชัดๆ!  ยูกิคิดในใจขณะมองตามแผ่นหลังร่างเล็กของโคนันที่เดินกลับหลังหันไปตามทางที่เดินเข้ามาซอยนี้  เวลาผ่านไปไม่นานยูกิก็ยันตัวขึ้นเต็มความสูงอย่างทุลักทุเลออกจากพุ่มไม้กินคนที่เคยเล่นสมัยยังเด็ก


    " คงไปแล้วมั้ง "  ฉันพึมพำด้วยน้ำเสียงโล่งใจตามด้วยเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอก


    " ไปไหนเหรอครับ? "


    " เหี้ย!!! "  คำอุทานของสัตว์ชนิดหนึ่งหลุดออกมาจากปากของร่างบางอย่างไม่ได้ตั้งใจตามด้วยฝ่ามือที่เผลอยกขึ้นมาปิดปากตัวเองอีกครั้งเป็นหนที่สอง


    โคนันมองหญิงสาวพร้อมกะพริบตาปริบๆกับคำอุทานตกใจของยูกิที่ชวนมึนงงและเขามั่นใจว่าไม่เคยได้ยินใครอุทานคำนี้มาก่อนแน่ๆ  


    " เหี้ย? "  ไม่วายโคนันก็พึมพำทวนคำอุทานที่ได้ยินมาเมื่อครู่ออกมาเบาๆ  แต่ก็มิอาจหลุดรอดพ้นจากหูของยูกิได้ตามด้วยอาการเลิ่กลักและฝ่ามือที่ปัดป่ายไปมา


    " อย่าๆ เธอไม่ควรพูดคำนั้นออกมา! "  แม่ขา  หนูสอนผู้ชายในร่างเด็กปฐมวัยพูดคำหยาบของบ้านเราค่า!


    " ครับ "  โคนันพยักหน้าขึ้นลงเป็นท่าทางประกอบอย่างเข้าใจ


    " แล้วนี่ตามฉันมาทำไม "  ไหนๆแล้วก็เริ่มเปิดประเด็นกันเลยดีกว่า


    " พี่ยูกิทำพวงกุญแจตกครับ "  พวงกุญแจรูปไข่ตุ๋นในถ้วยชาญี่ปุ่นถูกยื่นออกมาต่อหน้าอย่างรวดเร็วทำเอาฉันมองตาค้างกับอีกฝ่าย


    นี่ฉันจะโดนอะไรมั้ยเนี่ย


    " เอ่อ ขอบใจ "  พวงกุญแจถูกหยิบออกจากฝ่ามือเล็กของโคนันแล้วจัดการเก็บใส่ในกระเป๋า


    เมื่อยูกิเก็บพวงกุญแจใส่ในกระเป๋าเสร็จ  ฝ่ามือเรียวสวยของเธอก็ถูกยกขึ้นกลางอากาศพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆที่ถูกจุดขึ้นมาระหว่างโบกมือสื่อถึงการอำลาในคราวนี้


    ไม่รอช้าเธอก็ย่างก้าวออกจากซอยนี้แล้วกลับไปตรงทางจุดเริ่มต้นของการวิ่งหนีบุคคลที่คิดว่าเป็นพวกโรคจิต  ตามหลังของหญิงสาวก็มีร่างของเด็กชายเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าครามเดินตามหลังอย่างยิ้มๆ


    ยามที่ร่างบางหันหลังกลับไปมองก็จะพบรอยยิ้มของอีกฝ่ายที่ฉีกยิ้มมอบให้เธออย่างน่าอึดอัดเปรียบเสมือนว่าเธออยู่ในกำมือของเขาเหมือนกับคนร้ายคนอื่นๆที่จนมุม 


     หลังจากทนความอึดอัดนี้ได้ไม่นานขณะที่ยูกิกำลังเปิดปากถามหาสาเหตุ  เสียงหวานของเด็กหนุ่มก็ดังแทรกเข้ามาก่อนทันที่จะได้เอ่ยถามอะไรออกไป


    " นี่...พี่ยูกิเคยพูดประโยคแปลกๆกับพี่อาซึสะใช่มั้ยครับ "  คุโด้ ชินอิจิในร่างเด็กปฐมกล่าวด้วยท่าทางเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า


    " ประโยคแปลกๆที่ว่า....ยังไงเหรอ "  น้ำเสียงราบเรียบแต่เต็มไปด้วยความสนุกถูกกล่าวออกมาขณะก้าวขาเดินไปตามทาง  โดยมีเด็กหนุ่มอย่างโคนันเดินล้วงกระเป๋าตามหลัง


    " รู้รึเปล่าครับว่าวันนี้มีพนักงานคนใหม่ของร้านปัวโรต์เพิ่มเข้ามา "  ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดหรืออธิบายอะไรขึ้นมาอยู่ในตอนนี้  แต่ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีขาวราวสำลีกลับกัดกินขนมปังใส่แยมสตรอเบอรี่อย่างมีความสุขกับสิ่งนี้แทนซะงั้น


    " อ่าห๊ะ "  ฉันส่งเสียงตอบออกไปด้วยท่าทางไม่สนใจกับประโยคของเขา


    " เส้นผมสีบรอนซ์ทอง ผิวสีแทน ร่างสูงและเป็นเจ้าของสูตรแซนวิชซึ่งลักษณะแบบนี้มันบังเอิญตรงกับคำพูดของพี่ยูกิที่เคยกล่าวเอาไว้กับพี่อาซึสะวันแรกเลยนะครับ "  เขาเน้นคำตรงคำว่าบังเอิญเป็นพิเศษและคอยมองปฏิกิริยาอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง


    " ...... "  อิ๊บอ๊าย


    " แน่ใจนะครับว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ "


    " แต่ฉันจำได้ว่าแค่บอกสีผมและเป็นสูตรแซนวิชแค่นั้นเองนะ "  ขนมปังอีกคำก็ถูกกัดเข้าไปอยู่ในปากพร้อมแยมสตรอเบอร์รี่ที่้ปรอะเปลื้อนตามนิ้วมือและบริเวณรอบๆริมฝีปากแล้วจึงเหลือบตามองไปทางด้านหลังและต่อด้วยประโยคว่า


    " ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเหรอ "


    " ...... "  คราวนี้ยอดนักสืบม.ปลายในร่างเด็กกลับเป็นฝ่ายที่นิ่งแทนและคิดไตร่ตรองกับคำบอกเล่าของอาซึสะเมื่อเช้า 


     นัยน์ตาสีครามของโคนันเหลือบมองหญิงสาวผู้มีนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลและเปล่งประกายในตอนนี้อย่างนึกคิดพรางสังเกต  เสียงหัวเราะอย่างขำขันของร่างบางดึงสติของเขาให้หันกลับมาสนใจตัวเธออย่างสงสัยว่าเธอขำอะไรกัน


    ยูกิปาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากเบ้า  ขณะพยายามที่จะกลั้นเสียงหัวเราะที่เผลอระเบิดออกมาเพื่อเป็นการเเสดงบังหน้าหลังจากคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้ของนักสืบในร่างเด็กสำเร็จ


    " ขอโทษๆพอดีฉันตลกสีหน้าเธอในตอนนี้น่ะ " 


    " ครับ? "  โคนันเผยสีหน้าสงสัยออกมาขณะมองหญิงสาวตรงหน้า


    " ไม่คุ้นชินนามสกุล กาคุรุ จริงดิ "  ฉันเลิกคิ้วขึ้นถามอีกฝ่ายตามด้วยรอยยิ้มพริ้มยามที่คิดว่านักสืบจิ๋วคนนี้น่าจะรู้คำตอบแล้ว  จึงกล่าวประโยคต่อไปว่า


    " ที่บ้านเคยพาไปแต่คาเฟ่ต่างประเทศน่ะแล้วสูตรแซนวิชส่วนใหญ่จะเป็นของคนผมสีบรอนซ์ในร้าน "  ฉันพูดจริงๆนะว่าตัวเองควรได้รับรางวัลออสการ์สาขาการแสดง


    โคนันจ้องมองร่างบางของหญิงสาวไม่วางตา  หลังจากที่เขาคุ้นๆนามสกุลของเธอมานานตั้งแต่ที่รันเล่าให้ฟังจนตอนนี้ก็พึ่งได้ข้อสรุป  


    เนื่องจากว่าเดิมทีนั้นยูกิมีเส้นผมสีน้ำตาลและในภาพถ่ายที่ได้ออกสื่อนั้นมีแต่ภาพที่หญิงสาวผมยาวแล้วถูกทำเป็นทรงต่างๆประกอบกับดวงตาที่ดูกลมโต  แต่ตัวจริงตรงหน้าของเขากลับมีดวงตาที่เฉียบคมราวกับเหยี่ยวเสมือนเป็นคนละคนกับโลกสื่อสังคม


    เส้นผมสีขาวถูกถัดมาอยู่บริเวณใบหูจากเจ้าของอย่างกาคุรุ ยูกิ  เธอเลียแยมสตรอเบอรี่ที่เปรอะไปตามนิ้วมือและรอบๆบริเวณริมฝีปากเผยให้เห็นเขี้ยวฟันซี่แหลม  จบด้วยการหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำลายที่หลงเหลืออยู่ตามนิ้วมืออย่างเฉื่อยๆของนิสัยประจำตัว


    เมื่อนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเปล่งประกายเหลือบตามองยอดนักสืบร่างเด็กปฐมก็ทำให้ยูกิเผยสีหน้ามึนงงและสับสนอีกครั้งเพราะว่าตามบริเวณพวงแก้มของเขาถูกประดับไปด้วยริ้วแดงจางๆและดวงตาสีฟ้าครามที่จับจ้องมองมายังเธออย่างไม่วางตาแปลกๆ 


     รู้มั้ยว่าสีหน้าแบบนั้น  มันทำเอาเธอแสดงสีหน้าไม่ถูกและไปไม่เป็น


    " ว่าแต่เธอมาทำอะไรแถวนี้ตอนกลางคืนงั้นเหรอ  ปกติเด็กวัยนี้ควรนอนได้แล้วนะ "  นาฬิกาดิจิตอลสีเงินเรือนสวยถูกยกขึ้นมาดูเป็นท่าทางประกอบพร้อมโชว์เลขสามได้ให้เห็น


    คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายโคนันที่เหรอหราแทนเพราะน้ำเสียงเด็กใสซื่อของเขาถูกยกออกมาใช้ต่อหน้ายูกิซะแล้วทำเอาตาเธอถึงกับกระตุกถี่ๆ


    " พอดีผมพึ่งกลับจากไปเล่นบ้านเพื่อนมาน่ะครับ แหะๆ "  ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีขาวสั้นประบ่ามองท่าทีของยอดนักสืบร่างเด็กตรงหน้ากำลังลูบผมตัวเองเป็นท่าทางประกอบอย่างเอือมๆ  อยู่ๆความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัวเรียกรอยยิ้มมุมปากให้ขึ้นมาประดับบนหน้าของเธอ


    " นี่ก็ดึกมากแล้ว เธอมากับฉันไปที่อพาทเม้นต์น่าจะดีกว่าเดี๋ยวขับรถไปส่ง "


    " มะ-ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมเดินกลับเองได้! "  โคนันรีบตอบปฏิเสธอย่างทันควัน


    " ได้ไงกันเผื่อไปเจอคนโรคจิตเดินตามเข้า....จะแย่เอานะ "  เมื่อมีโอกาสได้พูดแบบนี้ฉันก็ไม่ลืมที่จะพูดเหน็บเขาไปทีหนึ่งข้อหาเดินตามอย่างกับสตอคเกอร์แล้วดูเหมือนว่าโคนันจะรู้สึกตะหงิดกับคำว่าโรคจิตนะ


    " ....... "


    โคนันเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าส่งกลับมาเป็นคำตอบโดยไม่รู้สึกถึงรอยยิ้มและแววตาของคนผมขาวที่ดูเจ้าเล่ห์ขึ้นไปทุกที 


    " รีบตามมาล่ะ! "


     เมื่อได้คำตอบที่ฉันต้องการแล้วก็รีบหันหลังกลับไปเดินเร็วตามทางอพาทเมนต์ทันที  โดยมีร่างตัวกะเปี๊ยกของโคนันวิ่งตามมาและส่งแววตาไม่น่าเชื่อใจมาทางฉันอย่างลับหลัง 


    แล้วไงใครสน!!!


    ระหว่างที่สับเท้าเดินไปตามทางพื้นคอนกรีตเสียงหวานตามวัยของเด็กปฐมก็กล่าวขึ้นมาบอกที่อยู่อาศัยของรันให้ฉันฟังอย่างละเอียด  แต่ว่าถ้าฉันขับไปตามทางที่เขาบอก


    ฉันก็จะไม่ไก้แกล้งอย่างสะใจนี่  เพราะฉะนั้นฉันจึงลองถามเส้นทางอื่นที่พอยื้เวลาได้บ้างแถมโคนันยังให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่อีกต่างหากถึงแม้จะได้รับสายตาและคำถามแปลกๆเป็นข้อแลกเปลี่ยนก็เถอะ


    เวลาผ่านไปราวๆห้านาทีกับการเดินทางมายังอพาร์ทเม้นท์ของยูกิกับเด็กชายพ่อยอดนักสืบอย่างโคนันที่ถูกคำสั่งจากร่างบางให้นั่งรอที่ล็อบบี้ก็มาถึง  ความอลังการและผู้คนที่ต่างพากันแต่งตัวด้วยชุดหรูหราทำเอาโคนันเกิดอาการเกร็งตัวขึ้นมาเสียดื้อๆเพราะต้องอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนเฟล่านั้นที่เดินผลัดกันเขเาออกเป้นว่าเล่น


    ลิลลี่ที่กำลังยื่นคีย์การ์ดให้แขกรายหนึ่งก็เบนสายตาหันมามองเด็กชายในชุดสูทน้ำเงินผูกหูกระต่ายสีแดงอย่างสงสัยหลังจากที่ได้รับคำสั่งมอบหมายจากคุณหนูให้จับตามองระหว่างที่เธอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า


    ท่าทางเกร็งตัวของเด็กคนนั้นทำเอาลิลลี่นึกเอ็นดูขึ้นมาและส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจเมื่อคิดว่าคุณหนูของตนจะไปล่อเด็กที่ไหนมารึเปล่าอย่างขำๆเพราะนิสัยของคุณท่านก็ทำเอาเธอที่เคยทำงานอยู่ที่นั่นปวดหัวไม่น้อยในแต่ละวัน


    " รอนานรึเปล่า "


    " มะ-ไม่เลยครับ! "  โคนันตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักและริ้วแดงที่เริ่มเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง


    ร่างเล็กของหญิงสาวที่มีเรือนผมสีขาวสว่างประกอบกับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลกำลังคลี่ยิ้มส่งมา  กางเกงขาสั้นสีดำแถบขาวที่โชว์ให้เห็นเรียวขาอ่อนและเสื้อยืดสีฟ้ารูปม้ายูนิคอร์นทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีดำพร้อมหมวกกันน็อคที่ถูกถือข้างเอวคอด


    เมื่อเห็นปฏิกิริยาตามที่ต้องการในแผนแรกสำเร็จไปได้ลุล่วง  รอยยิ้มก็ถูกคลี่กว้างกว่าเดิมระหว่างย่างก้าวเข้าไปหาเด็กชายเพื่อเรียกสติจากเขาที่ดูเหมือนจะล่องลอยไปไกลแล้ว


    " ไปกันเถอะ "  ฉันเอื้อมมือไปจับข้อมือของอีกฝ่ายอย่างจงใจแล้วรีบลากไปยังลานจอดรถทันที


    ยามเดินมาถึงรถKawasakiสีขาวคันโตอยู่ๆโคนันก็เดินหยุดนิ่งอยู่กับที่อย่างฉับพลันแล้วมองฉันสลับกับตัวรถอย่างอึ้งๆ


    รู้อยู่หรอกว่าขนาดตัวมันต่างกัน  แต่อย่างน้อยฉันก็ขาถึงอยู่หรอกนะ


    " อะไรกันคิดว่าพี่ขับไม่ได้รึไง "  น้ำเสียงหวานเชิงน้อยใจถูกเปล่งออกไปอย่างเนียนๆ


    " เปล่าครับ แค่สงสัยเพราะว่าขนาดมัน...ต่างกัน "  ตอบเสร็จโคนันก็หลบนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ยืนกดดันทันที


    " รีบขึ้นเถอะ เดี๋ยวรันจะเป็นห่วงเอานะ "  


    หมวกกันน็อคสีดำถูกสวมใส่บดบังเส้นผมสีขาวพร้อมกับร่างของฉันที่ตวัดขาขึ้นไปคร่อมตัวรถ  เมื่อหันกลับมามองร่างของพ่อยอดนักสืบก็เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างดีเพราะว่าเขาขึ้นไม่ได้ไงล่ะแถมยังกระโดดต๋อยๆเหมือนกับลิงอีก


    โอ๊ยยยย  จะน่ารักอะไรขนาดนั้นคะลูก!!!


    อะแฮ่มๆ  ฉันยังไม่ลืมหรอกนะว่าเขาเป็นเด็กผีที่ไปไหนก็มีแต่คนตายน่ะ  ว่าแต่แถวที่พักฉันจะมีคนตายรึเปล่าหว่า


    " หึๆๆ "  ร่างของโคนันถูกยกลอยหวือกลางอากาศแล้วจบลงที่เบาะหลังของตัวรถ


    ยูกิขึ้นคร่อมรถอีกครั้งอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะตวาดขาไปเตะเด็กชายเอาก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากบริเวณนี้อย่างช้าๆ


    จนกระทั่งมาถึงทางสามแยกที่ต้องเลี้ยวเข้าไปในซอย  หญิงสาวกลับขับรถไปทางตรงไม่แม้แต่จะเหลียวมองทางเลี้ยวที่ต้องขับเข้าไป


    โคนันรีบเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยและระแวงหญิงสาวตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเด็กที่ถูกยกขึ้นมาใช้ทำให้ร่างบางอดไม่ได้ที่จะกรอกตามอง


    " ที่จริงมันต้องเลี้ยวแล้วนะครับ "  


    เดี๋ยวได้เลี้ยวสมใจแน่จร้า  ไม่ต้องห่วงพ่อคูณ


    " พาขับรถเล่นก่อนกลับบ้านไง "  ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันขับรถมาถึงท้องถนนที่มีรถใหญ่สัญจรไปมาเป็นสีสัน


    " เดี๋ยวพี่รันก็เป็นห่วงเอานะครับ "  แฟนนายไม่เป็นห่วงแน่จร้า  ไว้ใจพี่สกิลนักแข่งได้เลย


    " รันไม่เป็นห่วงหรอกเพราะว่าฉันจะขับรถไปถึงที่นั่นภายในสามนาทีให้ได้ "


    " ภายในสามนาที? "


    " ช่าย~ "  ไฟแดงเริ่มนับถอยหลังมาเรื่อยๆจากห้าวินาทีระหว่างนั้นฉันก็ต้องคอยตอบคำถามของเด็กนี่ไปด้วย


    5


    " หมายความว่าไงครับ "


    4


    " ก็หมายความว่าอย่างงั้นแหละ "


    3


    " ต่อให้ขับเร็วยังไง แต่รถเยอะแบบนี้ไม่น่าทันภายในสามนาทีนะครับ "


    2


    " แต่นี่ยูกิไง เรื่องแค่นี้ไม่คะนามือหรอก "  ฉันกล่าวพร้อมเลียริมฝีปากขณะที่สายจับจ้องไปที่ตัวเลขที่โชว์เด่นหรา  ส่วนมือก็คอยบิดเร่งขึ้นเป็นการเตรียมพร้อม


    1


    " เกอะเอวพี่ดีๆนะน้อง!!! "


    0


    " อ๊ากกกกก!!! " 


    เมื่อตัวเลขบนไฟจราจรถึงเลขศูนย์ไม่รอช้าหญิงสาวก็บิดเร่งเครื่องขับฝ่าท้องถนนที่เต็มไปด้วยยานพาหนะอย่างชำนาญทันทีท่ามกลางเสียงตะโกนโวยวายปนความตกใจของโคนันที่เผลอเกาะเสื้อแจ็คเก็ตสีดำของหญิงสาวเอาไว้แน่นจนยับ


    ขณะที่ยูกิขับรถหลบสิ่งกีดขวางไปมารอยยิ้มบางๆก็ถูกจุดขึ้นมา  เมื่อได้เห็นท่าทีของโคนันผ่านตัวกระจกรถและรอยยิ้มนั่นยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปอีกพร้อมกับเสียงหัวเราะที่แทรกเข้ามายามที่เธอต้องเลี้ยวรถเข้าซอยพร้อมกับเสียงกรีดร้องของเขา


    อย่าหาว่าฉันบ้าหรือโรคจิตเลยนะ  แต่มันอดขำไม่ได้เฉยๆ


    สามนาทีผ่านไปรถรุ่นkawasakiสีขาวก็มาจอดเทียบท่าหน้าร้านปัวโรต์อย่างตรงเวลาตามที่เสียงหวานรับปาก  นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบไปมองบุคคลด้านหลังก็จำเป็นต้องกลั้นเสียงหัวเราะทันที


    เนื่องจากท่าทีของอีกฝ่ายที่เกาะเอวเธอแน่นพร้อมสีหน้าเบิกตาโตและเสียงสูดหายใจนั้นผสมกับทรงผมที่ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงมันช่างเหมือนกับตัวตลกในการ์ตูนหลังข่าวของโลกนี้จริงๆ


    เสียงหัวเราะของความสะใจดังแทรกหูของอีกฝ่ายได้ยินเข้ายามตั้งสติเสร็จ  ดวงตาสีฟ้าครามตวัดหันมามองใบหน้าของยูกิอย่างเคืองๆเมื่อคิดว่าเธอมีความสุขบนความทุกข์ของเขา


    " ฮ่าๆๆๆ "  ฉันปาดน้ำตาอย่างลวกๆระหว่างยกมือขึ้นระดับอกเป็นเชิงยอมแพ้  


    ร่างของเด็กชายเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลในชุดสูทสีน้ำเงินกระโดดลงจากเบาะรถมอเตอร์ไซค์คันขาวด้วยใบหน้าเอือมๆใส่ยูกิที่นั่งเท้าคางมองโดยที่วางศอกทั้งสองข้างบนหมวกกันน็อคระหว่างที่โคนันคอยจัดผมของตัวเอง


    เสียงหวานของรันกับเสียงทุ่มของชายคนดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของรองเท้ายามกระทบกับพื้น  ยูกิเงยหน้ามองบุคคลทั้งสองพอๆกับที่ดวงตาทั้งสองคู่นั่นหันมามอง


    " โคนันคุง!!! "  รอยยิ้มหวานของแม่นางเอกอย่างรันประดับขึ้นมาบนใบหน้าพร้อมวิ่งตรงมาเข้าหาเด็กชายที่ยืนข้างๆกับรถสีขาว


    " (=_=)"  ฉันมองพวกเธอทั้งสองคนกอดกันอย่างกับก้อนอะไรบางอย่างเหมือนเป็นส่วนเกินแถมประโยคพูดของรันที่คอยถามว่าไปไหนมาและน้ำเสียงตะกุกตะกักของโคนันมันช่างเรียกความหงุดหงิดได้ดีจริงๆ 


    แล้วฉันมายืนมองพระเอกกับนางเอกกอดกันทำไมวะเนี่ย!!!


    " ขอบคุณนะยูกิที่มาส่งโคนันคุงอย่างปลอดภัย "  


    " ไม่เป็นไรหรอกรัน "  ปลอดภัยมากๆเลยล่ะรัน  ฉันพาเขาหลบรถจนเขามีอาการหัวใจวายแล้วมังเนี่ย


    " เห ผู้หญิงคนนี้คือใครงั้นเหรอครับ "  เสียงทุ่มของชายคนนั้นที่ฉันลืมไปแล้วว่ายังมีตัวตนดังขึ้นมาพร้อมกับประโยคคำถามที่กล่าวอย่างยิ้มๆ


    " อ๋อ นี่ยูกิค่ะคุณอามุโร่ ยูกินี่คุณอามุโร่นะเขาเป็นพนักงานคนใหม่ของร้านปัวโรต์ "  รันยันตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วผายมือไปทางชายหนุ่มผิวแทนเป็นการแนะนำต่อด้วยหญิงสาวนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล


    " สวัสดีค่ะ "  ฉันยื่นมือไปทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มจอมปลอมที่ถูกยกขึ้นมาใช้  เขามองฝ่ามือฉันครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาลงแล้วจึงเดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับยื่นมือมาจับทักทายยามลืมตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม


    " สวัสดีครับ ผมได้ยินเรื่องของคุณยูกิจากคุณรันแล้วนะครับ "  เขากล่าวอย่างยิ้มๆ


    " ว้าว รันเล่าเรื่องแบบไหนให้คุณฟังกันนะ "  ฉันเหลือบตาไปมองแม่นางเอกของเรื่องที่ยืนกุมมือเล็กของโคนันอยู่  ก่อนจะได้รับรอยยิ้มหวานส่งคืนกลับมา


    " ก็เรื่องวันที่พวกคุณพบเจอกันครั้งแรกนั่นแหละครับ แต่ไม่คิดเลยว่าคุณจะขับรถคันใหญ่ซะขนาดนี้ "  ไม่ว่าเปล่าอามุโร่ก็เหลือบตาไปมองรถของยูกิคันสีขาวที่เธอขึ้นคร่อมอยู่ด้วยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย


    " ^*^ "  ฉันยังคงฉีกยิ้มประดับบนใบหน้าแม้จะเริ่มเคลืองกับรอยยิ้มของอีกฝ่ายก็ตาม


    ก็คุณชายตรงหน้าฉันเป็นหนึ่งในตัวละครที่ฉันจำได้จากโลกเดิมนั่นไง  แต่ว่ารู้จักเขาในนามขององกรณ์ชุดดำที่ใช้โค้ดเนมเป็นชื่อเหล้าอ่ะนะและชายคนนี้มีโค้ดเนมว่าเบอเบิ้นและก็มีอีกหลายนามเลย 


    พึ่งมารู้นี่แหละว่าชื่อในเรื่องเขาใช้นามว่าอามูโร่  ส่วนชื่อจริงๆของเขานั้นเหมือนจะเป็นเรย์รึเปล่าหว่า  น่าจะใช่แหละเพราะอิกรบอกว่าถ้าจะจำชื่อจริงของนายคนนี้ให้จำชื่อขนมเลย์ของไทยไว้!


    รสบาร์บีคิวแซ่บหลาย เจ๊คอนเฟิร์ม


    " งั้นฉันกลับก่อนก็แล้วกันนะรัน "  หมวกกันน็อคบนเบาะถุกยกขึ้นมาสวมใส่อีกครั้งระหว่างสตาร์ทรถไปด้วย


    " กลับดีๆล่ะ "  รันโบกมือเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม  ส่วนยูกิก็พยักหน้าขึ้นเป็นการตอบแทนพรางเบนสายตาหันมาสนใจชายทั้งสองคนที่จ้องมองมา


    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง  ขณะที่สวมหมวกฉันจึงแกล้งสวมให้เห็นบริเวณริมฝีปากก่อนแล้วจึงขยับปากพูดไม่มีเสียงเป็นการแกล้งเล่นว่า


    " เรย์ "  


    อามุโร่ตาโพลงขึ้นมาพร้อมจ้องฉันยังไม่วางตาด้วยความสงสัยและกดดันและฉันหวังว่าเขาจะคิดอีกอย่างว่าคำเมื่อกี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญเฉยๆแล้วจึงขับรถออกไปตามทางอย่างช้าๆ


    " ....... "  อามุโร่มองตามแผ่นหลังของร่างบางไม่วางตาจนกระทั่งเธอขับหายไปจากซอยนี้  คำพูดของเธอยามที่ขยับปาก  ถ้าเขาจับใจความได้ไม่ผิดนั่นคือชื่อนามจริงๆของเขาแล้วอีกคำถามคือเธอรู้ได้ยังไงหรือจะเป็นเเค่เรื่องบังเอิญ?


    คุณคือใครกันแน่คุณยูกิ ดูท่าแล้วผมคงต้องขออนุญาตดูประวัติของคุณซะหน่อยแล้วล่ะครับ :)

















    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×