ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว(EXO) HIDE (Kaihun)

    ลำดับตอนที่ #4 : สี่

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 64




    4.

     

     

    โครมมมมม!!!

     

                “...............!!!!!?”

     

                เสียงที่ดังมาจากหน้าห้อง...ทำให้คนที่หลับไปตั้งแต่ตอนเที่ยงต้องตื่นด้วยความตกใจ  แต่เมื่อยังมีสติพอให้ทบทวน  กายบางค่อยๆพลิกตัวขึ้นจากความนุ่มก่อนมองไปที่ต้นเสียงด้วยความใคร่รู้  และกล่องเครื่องมือพร้อมอุปกรณ์ต่างๆที่หล่นเกลื่อนพื้นรวมถึงช่างไคก็คือคำตอบ  เจ้าของคฤหาสน์ยิ้มเจื่อนทันทีเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำหลุดมือนั้นพาลให้ใครต้องตื่นจากการหลับใหล

     

                “ขอโทษนะ...พอดีจะรีบไปซ่อมไฟเลยทำกล่องเครื่องมือหล่น”

     

                เด็กใบ้ในความคิดของช่างไค...รีบลุกออกจากเตียงที่ไม่เคยนอนมาตั้งแต่เกิดและช่วยเก็บอุปกรณ์ต่างๆใส่กล่องเหล็กอย่างไม่เกี่ยงงอน  เขาไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหนหรือมานอนบนเตียงได้อย่างไร  มันจำได้แค่ว่า...กินข้าวผัดแสนอร่อยหมดจาน  มีไข่ดาวสองฟอง  มีนมรสหวานๆมันๆให้ดื่มด้วยนะ  แล้วก็ได้กินขนมปังทาแยมสีแดง

     

                “ง่วงก็ไปนอนต่อได้...ฉันจะต่อไฟที่ห้องใต้ดิน”

     

                “...........”

     

                “จะไปด้วยกันเหรอ?”

     

                ใช้มือ...ตบลงไปบนหน้าอกเพื่อบอกว่าตัวเองพร้อมที่จะไปซ่อมไฟกับช่างไคและรีบพยักหน้าทันทีเพราะอยากสื่อสารให้รู้ว่านั่นคือคำตอบ  มือบางรีบปิดกล่องเหล็กเมื่อเก็บอุปกรณ์ต่างๆเรียบร้อย  แล้วอาสาถือให้ก่อนจะเดินตามหนุ่มผิวเข้มไปที่ห้องใต้ดิน  ความใหญ่โตของสิ่งก่อสร้างที่เรียกปราสาท...มันมีพื้นที่ที่กว้างจนต้องจำว่าเลี้ยวไปทางไหนจะเป็นห้องใดไม่อย่างนั้นคงหลงทาง  มันเหมือนเดินอยู่ในเขาวงกตหรือเดินเขาไปในถ้ำเนื่องจากทุกทางทุกที่มันเต็มไปด้วยกำแพงที่ก่อขึ้นด้วยก้อนหิน

     

                “กลัวหรือเปล่าเซฮุน?”

     

                ส่ายศีรษะเป็นคำตอบ...เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าปราสาทเก่าๆหลังนี้ก็คือห้องใต้ดินที่เขาจากมา  ที่นั่นแม้แต่เตียงก็ยังไม่มีและหน้าต่างก็แทบมองอะไรไม่เห็นเลยนอกจากแสงแดดที่สาดส่อง  และถ้าให้พูดถึงคำว่า  “ผี”  มันก็ยิ่งกว่าจินตนาการไม่ออกเสียอีกเพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าผีก็คือพวกที่จับเขามาขังไว้เป็นปีๆ 

     

                “เซฮุนรอยู่ข้างนอกก่อนนะ...เดี๋ยวฉันจะเข้าไปจุดตะเกียง”

     

                และที่ไคต้องถาม...ก็เพราะเกรงว่าคนที่ถูกขังมานานจะเกิดความหวาดกลัว  แล้วที่ให้รอก็เพราะเป็นห่วงว่าในห้องใต้ดินจะมีสิ่งที่อาจจะสร้างความวิตกให้เด็กใบ้ก็เป็นได้  ทั้งความมืด  ความคับแคบหรือจะเป็นขนาดของห้องห้องนี้...ทุกๆอย่างอาจกระทบจิตใจที่ยังเปราะบาง  และการเข้ามาสำรวจปราสาทหลังนี้เมื่อสองวันที่แล้วก็ทำให้เขาทราบเป็นอย่างดีว่าต้องเตรียมอะไรมาบ้าง  เพื่อซ่อมอะไรบ้าง  เพื่อแก้ไขสิ่งใดบ้าง  มือหนาเปิดประตูไม้ออกอย่างช้าๆ  สองขาเร่งก้าวไปที่กำแพงฝั่งซ้ายแล้วรีบจุดตะเกียงเพื่อให้แสงสว่างก่อนต่อด้วยตะเกียงที่ฝั่งขวา

     

                “เข้ามาเลยเซฮุน...”

     

    แกร๊กกก!!

     

                “สว่างพอไหม...ให้ฉันไปเอาเทียนมาจุดเพิ่มอีกไหม?”

     

                ไม่รู้จะส่ายหัวหรือพยักหน้าให้กับคำถามพวกนั้นดี...เซฮุนจึงใช้นิ้วชี้ไปที่ดวงตาก่อนจะชี้ไปรอบๆห้องเพื่อบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย  เขาไม่กลัว  เขาเห็นทุกอย่าง  ห้องก็สว่างดี  เขาไม่เป็นไร  มือบางรีบวางกล่องเครื่องมือลงบนพื้นที่ปูด้วยหินและเปิดออกเพื่อสื่อสารให้คนตรงหน้าทราบว่าเราควรเริ่มงานช่างกันได้แล้ว

     

                “งั้นก็ส่งคีมด้ามสีเขียวกับไขควงมาให้ฉันก่อน”

     

                ที่รู้...ว่าอุปกรณ์ใดเรียกว่าอะไรก็เพราะถูกลุงเรียกใช้ให้ช่วยซ่อมหลังคาเวลาฝนตก  และถ้าถามว่าเด็กต่างจังหวัดแบบเขาทำอะไรไม่เป็นบ้างก็คงตอบได้เลยว่า...ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่เป็นนอกจากการเขียนหรือการอ่านหนังสือ  ลุงกับป้าไม่เคยส่งให้เรียน  วันๆทำแต่ไร่แต่นา  ทำกับข้าวให้ลุงกับป้ากินและทำทุกอย่างอยู่ในบ้านหลังโทรมๆหลังเก่า 

     

                “เก่งนะเรา...บอกให้หยิบอะไรก็รู้หมด”

     

                “รับไขควงไป...แล้วส่งเทปพันสายไฟม้วนสีดำๆมาให้ฉัน”

     

                ยิ้มรับเมื่อถูกชม....และยังส่งอุปกรณ์ต่างๆให้ช่างไคได้อย่างถูกต้องเหมือนเดิม  เซฮุนมองสิ่งที่เจ้าของปราสาทกำลังซ่อมด้วยความตั้งใจเพราะแผงเหล็กขนาดใหญ่ที่มีสายไฟสีแดงสีเหลืองสีเขียวมันดูยุ่งเหยิงจนไม่รู้ว่าช่างไคซ่อมได้อย่างไรและรู้ได้ไงว่าสายไฟอันไหนต่อกันแล้วจะใช้งานได้???

     

                “เสร็จจากตรงนี้ก็ไปช่วยกันยกของขึ้นมาไว้บนห้องนะ...คืนนี้เราจะได้มีพัดลมใช้  แต่ถ้าเซฮุนเหนื่อยก็พักได้  ฉันไม่บังคับหรอก  แล้วถ้าเซฮุนอยากทำอะไรก็บอกฉันเลย  เดี๋ยวฉันช่วย”

     

                ยอมรับว่าเหนื่อย...แต่ไม่ได้เหนื่อยที่ต้องช่วยช่างไคซ่อมนั่นซ่อมนี่หรือช่วยยกของ  แต่มันเหนื่อยที่ชีวิตของตัวเองต้องมาเป็นแบบนี้  เป็นคนใบ้ทั้งๆที่ไม่อยากเป็น  เป็นเด็กกำพร้าทั้งๆที่ไม่อยากกำพร้าและเป็นอะไรก็ไม่รู้ที่ต้องคอยหลบหนีไปจนกว่าจะเจอที่ที่ปลอดภัย  เขากลัว...ว่าจะถูกจับไปอีกครั้ง  เขาไม่แน่ใจว่าที่นี่จะดีพอให้อยู่ได้อย่างสบายใจหรือไม่  นอนก็ระแวง  หลับก็พะวงและมักจะตื่นมาพร้อมกับความหวาดกลัวเสมอ

     

                “เป็นอะไรหรือเปล่าเซฮุน?”

     

                เหมือนพูดอยู่คนเดียวมานาน...เพราะไม่มีการตอบรับจากคนที่นั่งแหมะอยู่บนพื้นเลยสักอย่าง  พนักหน้าก็ไม่มี  ส่ายศีรษะก็ไม่เห็น  นี่เขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า??  ไคยึดสายไฟเส้นสุดท้ายก่อนพันด้วยเทปสีดำและปิดแผงวงจรให้กลับเข้าที่  สองขาก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กใบ้แล้วย่อตัวลงพร้อมมือที่แตะไปบนไหล่ของเซฮุนเบาๆ

     

                “มีอะไรก็บอกฉันได้นะ...ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเพราะเธอพูดไม่ได้  แต่ฉันก็จะพยายาม”

     

                และนิ้วที่ชี้มาบนอกกว้าง...สลับกับอกของเด็กใบ้ก่อนชี้ลงไปบนพื้นซ้ำๆก็ทำให้ไคต้องแปลว่า  เซฮุนจะอยู่ที่นี่กับเขาได้จริงๆใช่ไหม?  เขาไม่ต้องหนีอีกแล้วใช่ไหม??  และไม่ต้องหาที่ซ่อนอีกแล้วใช่ไหม???  มันเหมือนคนย้ำคิดย้ำทำ  เหมือนคนที่หวาดระแวง  เหมือนคนที่ไร้ซึ่งความมั่นใจต่อการมีชีวิต  และท่าทางแบบนั้นกับสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังก็ทำให้ไคต้องรีบโอบกายบางเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบาย

     

                “อยู่ได้...เซฮุนอยู่ได้  จะอยู่นานเท่าไหร่ก็อยู่ไปเลยฉันอนุญาต  เซฮุนไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นเข้าใจไหม...ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นเลย”

     

                กอดตอบอย่างหาที่พึ่ง...กอดตอบอย่างนึกขอบคุณและกอดตอบเอาไว้จนเต็มอ้อมแขน  เซฮุนไม่เคยมีความมั่นใจในอะไรเลยสักอย่าง  ชีวิตที่เกิดมาแบบขาดๆเกินๆมันพาให้ต้องหาคำตอบหรือต้องถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่าเมื่อไหร่ชีวิตของเขาจะดีขึ้น  และทั้งคำตอบรวมถึงคำถามก็ต้องพังลงเพียงเพราะการถูกจับมาขังไว้  ชีวิตมันเหมือนไร้หนทางตั้งแต่ตอนนั้น...แล้วตอนนี้มันก็คล้ายว่าจะเจอแสงสว่างพร้อมทางออกที่ดีขึ้น

     

                “ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว...และฉันจะบอกเธอเป็นครั้งสุดท้ายว่าที่นี่ปลอดภัย  เธอจะอยู่นานเท่าไหร่ก็อยู่ไป  แต่เราต้องช่วยกันประหยัด...เข้าใจไหม?”

     

                รีบคลายอ้อมกอด...พนมสองมือขึ้นกราบและยิ้มรับก่อนจะพยักหน้าจนเส้นผมพริ้วไปตามแรงที่เคลื่อนไหว  มือหนาลูบหัวทุยอย่างนึกเอ็นดูกับพฤติกรรมเพราะไม่ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไร  เซฮุนก็จะยกมือไหว้จนเหมือนกับว่าช่างไคคนนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์

     

                “ถ้าเข้าใจ...งั้นก็รีบไปช่วยกันขนของให้เสร็จก่อนที่มันจะมืด  แล้วก็ต้องไปเช็คไฟด้วยนะว่ามันติดหรือเปล่า”

     

                เมื่อสิ้นเสียงทุ้ม...เซฮุนก็หยิบกล่องเหล็กมาถือไว้เหมือนเช่นเคยและรีบออกไปจากห้องใต้ดินเพื่อช่วยช่างไคขนของ  สองขาเร่งก้าวไปตามทางที่ปูด้วยก้อนอิฐ  กางเกงที่เคยใช้เชือกผูกก็เริ่มเปื้อน  เสื้อที่เคยเป็นสีขาวก็เปลี่ยนสีฝุ่น  ผมที่เคยสะบัดไปมาเมื่อต้องลมก็เปียกลู่ไปตามเหงื่อบนกรอบหน้า

     

                “มาสิ...ออกมาช่วยกันยก!?”

     

                เดินตามช่างไคมาถึงหน้าประตู...กล่องเครื่องมือก็ถูกวางไว้บนพื้น  แต่สองขากลับไม่ยอมก้าวออกไปด้านนอกเพราะรู้สึกกลัว  การวิ่งหนีคนใจร้ายมาทั้งคืน  การมุดรั้วมุดประตูเพื่อหนีตายหรือการเข้ามาแอบอยู่ในปราสาท  ทุกๆอย่างยังคงหลอกหลอนจนเด็กแบบเขาไม่กล้าจะออกไปไหนอีกแล้ว  ที่นี่ปลอดภัยที่สุด  ใหญ่โตที่สุดและมีที่ซ่อนที่ดีที่สุด  ดังนั้น...เซฮุนจะไม่ยอมออกไปไหนเด็ดขาด

     

     

                และเมื่อเด็กใบ้...ส่ายศีรษะไปมาซ้ำๆแล้วเริ่มเดินถอยหลังห่างออกไปจากประตูเรื่อยๆ  นั่นจึงทำให้ไคต้องรีบวิ่งเข้ามาด้านในก่อนที่เซฮุนจะวิ่งหนีไป  ดีที่ความคิดเช่นนั้นมันไวพอที่จะทำให้เขาจับตัวคนขี้กลัวเอาไว้ได้  ไม่อย่างนั้น...ใต้เตียง  ใต้โต๊ะหรือใต้โซฟาก็อาจจะเป็นที่ซ่อนที่ทำให้คนในอ้อมแขนตอนนี้รู้สึกปลอดภัย

     

                “ฉันบอกแล้วไง...ว่าถ้าไม่อยากทำอะไรก็บอก  อย่าวิ่งหนีแบบนี้เพราะฉันไม่เข้าใจ”

     

                ออกไปข้างนอกก็จะถูกจับตัว...แล้วก็เอามาขัง  ถูกมัดมือ  ถูกล่ามโซ่  เขาไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว  มันเจ็บ...เจ็บมากๆ  กายบางขืนตัวออกจากการโอบกอดก่อนโชว์รอยแผลบนข้อมือข้อเท้าและบนใบหน้าเพื่อบอกว่าสิ่งที่ตัวเองถูกกระทำมานั้นมันเป็นเหตุให้ไม่อยากออกไปจากที่นี่  ใบหน้าเรียวสวยแดงก่ำ  น้ำตาก็คลออยู่ที่ดวงตาแต่ไม่ยอมไหล...และทุกๆอย่างที่ไคพอจะจับใจความได้หรือสิ่งที่เซฮุนแสดงออกมาทั้งหมดก็พาให้วงแขนแข็งแรงต้องเพิ่มกำลังเพื่อโอบกระชับเซฮุนเอาไว้

     

                “ถ้ากลัวก็ไม่ต้องออกไป...ฉันจะไม่บังคับเธออีกแล้ว  ไม่ต้องร้องนะ  ชู่ววว!

     

    แรงสะอื้นจนกายไหวอาจทำให้งานต่างๆภายในปราสาทต้องล่าช้า...แต่มันก็ต้องยอม!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ปึ่กกกก!!!!

     

                “ค่อยๆวาง...ไม่ต้องรีบ  ระวังมือระวังเท้าด้วย!!

     

                ตู้เย็นขนาดเล็ก  พัดลมรวมถึงข้าวของเครื่องใช้จากห้องเช่าห้องเดิม  ถูกทยอยเอาเข้ามาในปราสาทโดยมีคนขี้กลัวคอยช่วยเหลือจนงานเริ่มเสร็จ  ไคต้องยกของทุกชิ้นมาไว้ด้านในก่อนจะเรียกให้เซฮุนมายกไปวางตามห้องต่างๆ  ซึ่งนั่นก็เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เจ้าตัวหายหวาดกลัวได้  แต่!!มันก็แปลกดีเพราะจากที่เคยถูกขังก็กลับยอมถูกขังอีกครั้งในปราสาทหลังนี้  เด็กใบ้เลือกที่จะช่วยงานทุกอย่าง  แต่ขออย่างเดียวคือ...อย่าให้เขาออกไปจากที่นี่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดใดก็ตาม

     

    การวิ่งเล่นอยู่ในปราสาท...มันปลอดภัยกว่าการวิ่งเล่นอยู่ข้างนอกเป็นไหนไหน!!

     

                “อันนี้เรียกว่าตู้เย็น...เดี๋ยวพอฉันเสียบไฟเสร็จ  เซฮุนก็เอานมกับไข่ไปแช่ไว้เลยนะ  แต่ขนมปังไม่ต้องแช่  ไข่ไว้ตรงนี้  ผักไว้ตรงนี้  ส่วนพวกเนื้อสัตว์ใส่ช่องนี้  เข้าใจนะ?  ฉันจะเก็บรถแล้วก็ล็อคบ้านก่อน”

     

                เข้าใจ...ว่าอะไรต้องใส่ตรงไหน  แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบนี้เขาก็เพิ่งเคยจับเป็นครั้งแรก  เซฮุนเคยเห็นอยู่ตามตลาดตอนออกไปซื้อกับข้าว  แต่ในบ้านลุงกับป้าไม่มีให้ใช้หรอก  ขนาดหลังคาพุเป็นรูยังต้องหาถังมารองน้ำฝน...จักรยานก็ไม่มีให้ขี่สักคัน  แล้วนับประสาอะไรกับตู้เย็น

     

     

                และเมื่อเห็นเด็กใบ้พยักหน้ารับ...ไคก็รีบวิ่งลงที่ชั้นล่างเพื่อไปเก็บรถกระบะคันเก่าๆของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางก่อนล็อคประตูรั้วรวมถึงประตูหน้าปราสาทให้เรียบร้อยเพราะท้องฟ้ามันเริ่มเปลี่ยนสี  พระอาทิตย์เริ่มหมดหน้าที่  และดี...ที่งานต่างๆอย่างการต่อไฟ  ต่อระบบประปาหรือการขนของมาจัดวางมันเริ่มเสร็จไปตามเป้าหมาย  แต่มันก็ยังเหลืออีกหลายเป้าหมายที่ต้องทำเช่นกัน

     

     

                พรุ่งนี้ต้องไปซ่อมหน้าต่างให้ลูกค้า  ซ่อมรั้วที่พังให้เซฮุนและซ่อมช่องประตูที่เจ้าตัวแอบมุดเข้ามาจนได้เลือดได้แผล  เจ้าเด็กใบ้มันฟ้องหมดว่าตรงไหนคือช่องโหว่ที่อาจทำให้คนเลวแอบเข้ามาในปราสาทหลังนี้  และทั้งหมดที่เซฮุนกล่าวมาก็เป็นสิ่งที่ช่างไคต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่คนพวกนั้นจะกลับมาอีกครั้ง  ใช่ว่าเขาอยากให้เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นอีก  แต่อะไรที่พอจะสร้างความปลอดภัยให้เซฮุนหรือทรัพย์สินของตัวเองได้...ไคก็ขอป้องกันเอาไว้ก่อนเพราะมันก็เป็นมรดกชิ้นเดียวที่คุณพ่อทิ้งไว้ให้

     

                “หิวหรือไง...แล้วทำอะไรกิน?”

     

                ลงไปทำธุระครู่เดียว...และพอขึ้นมาบนชั้นสองก็เห็นควันลอยออกมาจากกระทะพร้อมกลิ่นของกระเทียมที่หอมฟุ้งจนต้องเดินมาดูที่หน้าเตาโบราณ  เนื้อหมูที่ถูกผัดจนเริ่มสุก  ไข่ไก่ที่ตอกไว้ในชามและปรุงเครื่องด้วยซอสรวมถึงแครอท   ทุกๆอย่างที่ไคเห็นอยู่ตอนนี้มันทำให้เดาได้ไม่อยากว่ามื้อเย็นคืออะไร  หมูทอดกระเทียมกับไข่เจียวใส่แครอทนั่นเอง  ปากหยักยกยิ้มอย่างไม่รู้ตัว  สองขาก้าวไปที่ตู้เย็นก่อนก้มลงหยิบข้าวสวยทีเหลือจากมื้อเที่ยงมาใส่หม้อเอาไว้

     

                “ฉันเตรียมข้าวไว้ในนี้นะ...เธอทำกับข้าวเสร็จก็ฝากอุ่นให้ด้วย  เดี๋ยวฉันจะไปดูไฟบนห้องต่อ”

     

                ขออาสา...ทำมื้อเย็นแทนเจ้าของปราสาทโดยไม่ไถ่ถามเพราะวันนี้ช่างไคก็เหนื่อยมามากแล้ว  ทั้งยกตู้เย็น  โต๊ะเขียนหนังสือ  พัดลมและอื่นๆอีกตั้งหลายอย่าง  แม้จะมีเขาคอยช่วยอยู่ก็เถอะ  แต่ช่างไคก็เหนื่อยมากกว่า  ไหนจะซ่อมไฟ  ซ่อมท่อน้ำ  ต่อก๊อกที่ฝักบัว  แถมยังยกโซฟาจากห้องข้างล่างขึ้นมาไว้บนห้องนอนอีก...ช่างไคแข็งแรงมากจริงๆ

     

     

                มือบาง...เทหมูผัดกระเทียมใส่จานเมื่อปรุงรสเรียบร้อยและเริ่มทอดไข่เจียวเป็นอย่างต่อไป  ส่วนข้าวสวยที่ฝากให้ช่วยอุ่นก็ถูกยกมาวางไว้บนเตาโบราณทางด้านซ้ายก่อนจะเขี่ยท่อนฝืนที่ติดไฟเพื่อเพิ่มความร้อน  เซฮุนชำนาญในเรื่องทำอาหารด้วยวิธีแบบนี้เพราะที่บ้านลุงกับป้าก็ใช้เตาถ่านเหมือนกัน  แต่เรื่องการทำอาหาร...เขาทำเป็นเพียงไม่กี่อย่างเนื่องจากฐานะที่ยากจนมันพาให้ต้องกินอะไรซ้ำๆอย่างไม่มีทางเลือก  หมูต้ม  หมูผัด  ผักลวก  ไข่เจียว...วนไปอย่างนี้จนเคยชิน

     

    ...

     

    ...

     

                “ตกใจหมดเลยเซฮุน!

     

                แรงสะกิดที่หัวไหล่...ทำให้คนที่ต้องปีนบันไดเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟรู้สึกตกใจ  แต่พอได้เห็นใบหน้าขาวๆที่เปื้อนไปด้วยสีดำของถ่านไม้  ความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม  ไข่เจียวใส่แครอทจะดำเหมือนหน้าเซฮุนไหมนะ?  แล้วหมูทอดกระเทียมจะนุ่มเหมือนแก้มของเด็กคนนี้หรือเปล่า???

     

                “ทำกับข้าวเสร็จแล้วเหรอ?”

     

                รีบพยักหน้า...ก่อนยกมือทำท่าทำทางเหมือนกำลังจะกินข้าวเพื่อบอกว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว  และที่ขึ้นมาบนชั้นสองก็เพราะอยากชวนช่างไคไปกินมื้อเย็นตอนที่มันยังร้อนๆ  แต่!!ท่าทางของเด็กใบ้ก็ไม่อาจทำให้หนุ่มผิวเข้มสนใจมากไปกว่าใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยถ่าน  ไคมองความจิ้มลิ้มอย่างไม่วางตา  สองมือก็เอาแต่เช็ดรอยดำที่บังอาจมาเปื้อนแก้มเนียนหรือความขาวที่ขาวเหมือนก้อนหิมะ

     

                “มอมแมมเป็นลูกแมวเลย...”

     

                คงจะเป็นอย่างที่ช่างไคว่า...เพราะแก้มของเขากำลังถูกเช็ดจนอาจขึ้นสีแดงระเรื่อ  สายตาคมก็เอาแต่จ้องหน้าของเขาอยู่อย่างนั้น  แล้วปากหยักก็เอาแต่ยิ้ม  ยิ้ม  ยิ้ม....แล้วก็ยิ้ม  เซฮุนได้แต่เอียงคอมองการกระทำของไคด้วยความสงสัยและปล่อยให้มือหนาเช็ดแก้มเนียนด้วยนึกว่าตัวเองจะได้หายมอมแมม

     

                “ฟะ...ไฟติดหมดแล้วนะ”

     

                ไฟในห้องนอนติดหมดทุกดวง...บนโต๊ะทำงาน  บนหัวเตียง  บนเพดานหรือจะเป็นในห้องน้ำ  ทุกๆส่วนของห้องนอนมันพร้อมที่จะใช้งานได้ทั้งหมด  และอาจรวมถึง...ไฟในตัวของช่างไคด้วยก็ได้  หนุ่มผิวเข้มเหมือนจะต้องตั้งสติก่อนที่ความสโนไวท์และความนุ่มบนแก้มเนียนจะพาลให้หัวใจเตลิด  แล้วไหนจะความไร้เดียงสาที่เอาแต่ยืนเฉยๆ  ยิ้มเฉยๆและเอียงคอทำท่าสงสัยเฉยๆให้เขาสัมผัสนั่นอีก!!?

     

    ทำตัวเป็นตาแก่บ้ากามไปได้!!!

     

                “ไปกินข้าวกัน...”

     

                กว่าจะตั้งสติ...หรือกว่าอาหารมื้อเย็นจะน่าสนใจ  ช่างไคก็เกือบจะเอาตัวไม่รอด  เขาไม่ได้เป็นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว  การงาน  อาชีพ  อายุ  ทุกอย่างมันพาลให้เจอคนถูกใจได้ยากเหลือเกิน  แถมการเป็นช่างและไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนคนอื่นๆก็ยิ่งพาลให้ไม่เป็นที่หมายตาของสาวๆ  ใครจะยากได้คนรักจนๆ  ใครจะยากได้คนที่ไร้อนาคตมาเป็นแฟนและใครมันอยากจะฝากชีวิตไว้กับคนที่มีมรดกเป็นปราสาทผีสิง

     

                “พรุ่งนี้ฉันต้องออกไปทำงานนะ...เซฮุนอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม?”

     

                ลงมาที่ห้องครัว  นั่งประจำที่  ทานมื้อเย็น...และต้องเริ่มพูดคุยถึงวันพรุ่งนี้เพราะเขาได้นัดลูกค้าเอาไว้แล้ว  ไคกลัวว่าคนตรงหน้าจะอยู่คนเดียวไม่ได้  กลัวว่าจะไม่มีใครปกป้องเมื่อเกิดเสียงที่อาจทำให้เซฮุนตกใจ  แถมยังกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาตอนที่เขาไม่อยู่  และถ้าจะให้โทรไปยกเลิกลูกค้าก็คงทำไม่ได้  มีงานก็มีเงิน  มีเงินก็มีชีวิตอยู่ต่อ  ซึ่งเรื่องเงินก็ยิ่งเป็นปัจจัยหลักเมื่อมีใครอีกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

     

     

                ส่วนคนที่ทราบดีทุกอย่าง...ก็รีบพยักหน้าก่อนตบอกตัวเองอย่างมั่นใจหรือเพื่อบอกว่าเขาอยู่คนเดียวได้จริงๆ  ช่างไคไม่ต้องเป็นห่วง  เซฮุนคนนี้ซ่อนเก่ง  แอบได้  หนีทัน   แถมปราสาทหลังใหญ่ก็มีห้องให้แอบให้ซ่อนอีกตั้งมากมาย  เขาจะไม่มีวันให้คนใจร้ายจับได้เด็ดขาดและเขาก็จะไม่มีวันกลับไปอยู่ในห้องใต้ดินนั่นอีกแน่นอน 

     

                “ถ้ากลัวก็หาที่ซ่อนได้...แต่ถ้าฉันกลับมาแล้ว  ฉันจะเรียกและเธอต้องรีบออกมาจากที่ซ่อน  ตกลงไหม?”

     

                ตักข้าวเข้าปากคำโต..ก่อนพยักหน้าเป็นคำตอบ  และการที่เห็นเซฮุนยิ้มได้  กินอิ่มหรือมีแรงพอจะใช้ชีวิตต่อ  มันก็ทำให้ไคยิ้มได้เหมือนกัน  เคยลำบากจึงรู้  เคยเหนื่อยจึงเข้าใจ  การเป็นลูกนอกสมรสมันไม่เคยได้อะไรทั้งนั้นเพราะไม่เป็นที่ยอมรับของตระกูล  แต่!!การถูกทารุณ  ถูกกักขัง  ถูกจองจำด้วยโซ่ตรวนมันยังเป็นสิ่งที่ไคไม่เข้าใจและถ้าไม่เข้มแข็งจริงๆก็คงจะตายไปนานแล้ว  ซึ่งเขาก็ได้แต่นึกว่าอะไรที่ทำให้เด็กแบบเซฮุนยังมีความหวัง...???

     

                “กินเสร็จก็ไปอาบน้ำ...เธออาบก่อน  ฉันอาบทีหลัง”

     

                ถึงมื้อนี้จะไม่ได้กินขนมปังทาแย้มก็ไม่เป็นไร...เซฮุนจำได้ว่าเราต้องประหยัด  ช่างไคไม่ได้รวย  ไฟเปิดได้เท่าที่จำเป็นและต้องเชื่อฟังเจ้าของปราสาท  เด็กใบ้รับคำอย่างว่าง่าย  สองขาเดินตามหนุ่มผิวเข้มขึ้นไปบนชั้นสามเมื่อจบมื้อเย็นและ.......

     

                “อันนี้ผ้าเช็ดตัว...อันนี้ชุดใส่นอน  น้ำเปิดแบบนี้  อันนี้สบู่  ส่วนยาสีฟันกับแปรงสีฟันก็อยู่ตรงอ่างล้างหน้า”

     

                เดินตามมาถึงในห้องน้ำ...และตั้งใจฟังเจ้าของเสียงทุ้มพร้อมมองตามสิ่งของที่ถูกตระเตรียมไว้ให้เป็นอย่างดี  ผ้าเช็ดตัวในไม้แขวน  ชุดนอนคือเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้น  แปรงสีฟันใหม่เอี่ยมและน้ำในฝักบัวก็หยดลงมาเหมือนฝนตก  แถมยังต้องอาบน้ำในอ่างสีขาว  เซฮุนยิ้มจนเต็มแก้มเพราะที่บ้านหลังเก่ายังใช้ตุ่มรองน้ำพร้อมขันพลาสติก  ซึ่งฝักบัวกับอ่างน้ำใบใหญ่ก็เพิ่งเคยเห็นและเพิ่งได้ใช้เป็นครั้งแรกก็วันนี้

     

                “แต่น้ำจะเย็นหน่อยนะเพราะฉันไม่ได้ติดเครื่องทำน้ำอุ่น...มันเปลืองน่ะ”

     

                จะน้ำเย็นน้ำแข็ง...เขาก็อาบน้ำได้เพราะเกิดมาก็ไม่เคยใช้เครื่องทำอุ่นเหมือนกัน  สองมือยกขึ้นพนมก้มกราบผู้ใหญ่ใจดีด้วยความอ่อนน้อม  เซฮุนไม่นึกเลยว่าช่างไคจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้เขาทั้งๆที่วันนี้ก็เหนื่อยมามากแล้ว  แถมยังสอนการใช้ฝักบัวหรือสอนการอาบน้ำในอ่างสีขาว  ขอบคุณที่ใส่ใจกันถึงเพียงนี้  ขอบคุณที่ให้การช่วยเหลือและขอบคุณที่ทำให้เขาเหมือนได้ชีวิตใหม่

     

                “ไม่ล็อคหรอกน่า...ฉันรู้ว่าเธอกลัว”

     

                เห็นไหม...ว่าช่างไคใส่ใจเขามากแค่ไหน  รู้ว่ากลัวก็ไม่ล็อคประตูห้องน้ำ  แถมยังยืนรออยู่ด้านนอกเพราะเซฮุนยังคงเห็นแผ่นหลังกว้างจากช่องประตู  ส่วนหนุ่มผิวเข้มก็ไม่เคยต้องมายืนรอใครอาบน้ำแบบนี้มาก่อน  แต่มันก็จำเป็นต้องทำ...ไคเกรงว่าความขวัญอ่อนของเซฮุนจะพาลให้เกิดอันตราย  อย่างเช่นลมพัดอะไรสักอย่างในปราสาทจนเสียงดังโครมคราม...แล้วเด็กใบ้ก็ตกใจจนหัวฟาดไปกับอ่าง??

     

    แค่คิดก็สยองแล้ว...และปราสาทผีสิงก็คงจะเป็นเรื่องจริงถ้าเป็นแบบนั้น!!! (ผีเด็กใบ้)

     

                “อาบน้ำเสร็จละ...แล้ว  เฮ้ยย!!  แล้วทำไม่ใส่กางเกง!!

     

                เสียงน้ำที่ดังขึ้นสักพักและเงียบไป...ทำให้คนที่รออยู่ด้านนอกคิดว่าเด็กใบ้คงอาบน้ำเสร็จแล้วจนกระทั่งประตูถูกเปิดออกพร้อมแรงสะกิดที่แผ่นหลัง  แต่!!การที่เจ้าของแรงสะกิดใส่เพียงเสื้อยืดและเปลือยท่อนล่างก็เป็นเหตุให้ช่างไคต้องหันหลังอีกครั้ง  สองขาก็ต้องรีบก้าวไปที่ราวไม้ข้างหน้าต่างก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวมาพัดรอบเอวบางเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว

     

                “กางเกงหลวมเหรอ...ใส่ไม่ได้เหรอ?”

     

                เซฮุนพยักหน้าตอบเหมือนเช่นทุกครั้ง...ไคก็ต้องถอนหายใจเหมือนเช่นทุกครั้งเพราะเขาไม่มีกางเกงที่ต้องใช้เชือกผูกอีกแล้ว  มันมีตัวนั้นตัวเดียวจริงๆ  ส่วนกางเกงตัวอื่นก็เป็นยางยืดทั้งหมด  และไอ้เรื่องความขาวก็ขาวเกินไป  ไอ้เรื่องความหอมก็หอมจนฟุ้งไปทั่วทั้งห้องนอน  แล้วการที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้อีกรอบ...หัวใจของช่างไคก็คงได้วายเข้าสักวัน

     

                “งั้นเอาเทปพันไว้ก่อนนะ...อึดอัดไหม  ฉันทำแน่นไปหรือเปล่า?”

     

                เป็นช่างก็คิดได้แค่นี้...อุปการณ์ในการทำงานก็มีแค่นี้และถ้าจะให้เอาสายไฟมาพันรอบเอวคอดๆแบบนี้...เห็นทีก็จะทำไม่ได้  ไครีบเดินไปคว้าเทปสีดำที่ใช้พันสายไฟมาถือไว้ก่อนหยิบกางเกงมาให้เซฮุนสวม  แล้วดึงเทปพลาสติกมาพันขอบยางยืดด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวว่าตัวเองจะรัดแน่นเกินไป  และยิ่งอยู่ใกล้ๆ...ความหอม  ความขาว  ความสโนไวท์ไปทั้งตัวของเซฮุนก็ทำให้ก้อนเนื้อด้านซ้ายของช่างไคต้องทำงานหนัก

     

                “โอเคเรียบร้อย...ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ  ถ้าเธอง่วงก็นอนก่อนได้เลย”

     

     

    เหนื่อยกว่าการซ่อมทุกอย่างในวันนี้ก็คือ...การต้องอดทนต่อความน่ารัก  ความขาวเนียนและความกลมกลึงงงงงง !!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     



     


     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr. ภาพตอนที่สี่ : sfgirlbybay.com และ IG>OOHSEHUN

     

    Talk.

    น้องอาบน้ำตัวหอมเบยยยย!!


    ช่างไคยังไหวอยู่ไหมมมมมม??

    ฝากทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้ช่างไคกับน้องฮุนด้วยนะคะ

    และนักอ่านก็สามารถติชม  บอกกล่าว...หรือติดแท๊กพูดคุยกับเราได้ทุกช่องทางเลยค่ะ ^^)

    ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ

    รัก

    #KHhide  

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×