ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว(EXO) HIDE (Kaihun)

    ลำดับตอนที่ #2 : สอง

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 65




    2.

     

     

    ปั้งงงง!!!

     

                “เชี่ยยย!!

     

                เสียงหน้าต่าง...ที่ถูกลมพัดจนกระแทกไปกับผนังทำให้หนุ่มผิวเข้มรู้สึกตกใจ  แต่ก็ไม่ได้ทำให้หายสงสัยในเรื่องของเศษขนมปังที่ตกเกลื่อนพื้น  เขาจำได้ว่าไอ้เสียงหน้าต่างนั่นมามันจากส่วนใดของปราสาทเพราะตลอดสองวันที่เข้ามาตรวจเช็คสภาพภายในก็ทำให้รู้ว่าหน้าต่างบานนั้นอยู่ที่ชั้นสาม  สายตาคมก้มมองไปตามทางที่คล้ายว่าจะเต็มไปด้วยเศษขนมปังและสองขาก็ต้องก้าวด้วยความอยากรู้

     

     

                ถ้าเป็นหนูอย่างที่คิด...ก็จะรีบกำจัดรังของมันก่อนที่ปราสาทโทรมๆหลังนี้จะเสียหายไปมากกว่าเดิมเพระเท่าที่ตรวจเช็คเมื่อสองก่อนก็ไม่รู้ว่าจะต้องซ่อมอีกกี่เดือนกี่ปีถึงจะดูเหมือนใหม่  ถึงแม้โครงสร้างของปราสาทจะยังคงแข็งแรง  เฟอร์นิเจอร์หลายๆชิ้นก็ยังใช้งานได้  แต่ก็มีอีกหลายส่วนที่ต้องซ่อมและที่ต้องซ่อมเป็นอย่างแรกเลยก็คือระบบไฟฟ้า  แล้วคืนนี้คงต้องใช้ตะเกียงหรือไม่ก็จุดเทียนเพื่อให้มีแสงสว่าง  จะทำอาหารก็ต้องก่อไฟด้วยฟืน  จะอาบน้ำก็ต้องหาถังมารองน้ำให้เต็ม

     

    การใช้ชีวิตในช่วงนี้...เหมือนต้องย้อนกลับไปในยุคที่ไร้ความทันสมัยทั้งๆที่ก็มีสมาร์ทโฟนก็อยู่ในกระเป๋ากางเกง  T_T

     

                ขายาวสมส่วน...ค่อยๆเดินมารอยของขนมปังเหมือนในนิทานที่เคยฟังตอนเด็กๆ  จากห้องครัวลงมาจนถึงบันได  จากบันไดก็เดินลงมาที่ชั้นหนึ่ง  สายตาก็คอยกวาดมองร่องรอยที่เริ่มหายไปทีละน้อย  ทีละน้อยและขนมปังชิ้นสุดท้ายก็หล่นอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง  มันเป็นห้องที่อยู่ใกล้ประตูหน้าบ้านมากที่สุด  แถมยังถูกปิดสนิทจนไม่น่าจะมีตัวอะไรวิ่งเข้าไปได้?

     

    แกร๊กกก!!

     

                มือหนาจับลูกบิดก่อนเปิดแผ่นไม้บานเก่าออกอย่างช้าๆ...เขาเคยเข้ามาสำรวจห้องนี้แล้วครั้งหนึ่งเพราะมันเป็นห้องแรกที่เห็นเมื่อเข้ามาในปราสาท  หนุ่มผิวเข้มจำได้ว่าในห้องมีเพียงโซฟาที่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาวขนาดใหญ่และเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวที่อยู่ในห้อง  ส่วนประตูเก่าๆอีกบานทางซ้ายก็เป็นห้องน้ำที่มีเพียงแค่อ่างล้างหน้าเท่านั้น...ไม่มีอ่างอาบ  ไม่มีฝักบัว  ไม่มีโถส้วม  ซึ่งเป็นห้องที่แปลก  เป็นการก่อสร้างที่แปลกและตอนนี้ก็เหมือนจะมีอะไรแปลกๆอยู่ในห้องด้วย??

     

     

                ขอย้ำอีกครั้ง...ว่าเขาจำได้ว่าห้องห้องนี้มันเป็นอย่างไร  ฝุ่นเยอะแค่ไหน  แล้วเศษขนมปัง  ความเปียกชื้นของพื้นไม้รวมถึงผ้าที่ใช้คลุมโซฟานั่นอีก...ทำไมมันถึงเปียกไปด้วยน้ำ??  หนุ่มผิวเข้มค่อยๆก้าวขาอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นความผิดปกติก่อนเอื้อมมือไปตรงความเปียกชื้นแล้วดึงผ้าขนาดใหญ่ออกจากโซฟาสีซีด

     

    และ............

     

                “โอ๊ยยยย!!

     

                มันก็ไม่ใช่หนูอย่างที่คิด...แต่ก็ต้องรีบคว้าตัวเอาไว้แม้แขนข้างหนึ่งจะถูกกัดจนเป็นรอยก็ตามที  แรงขัดขืนที่มากทำให้หนุ่มผิวเข้มต้องออกแรงโอบรัดและเพราะเกรงว่าตัวเองจะถูกกัดอีกครั้งจึงจำเป็นต้องใช้กำลังทั้งหมดที่มี  ในหัวก็คิดว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหนหรือเข้ามาในปราสาทได้อย่างไร...แล้วถูกจับไว้ด้วยแรงที่มากขนาดนี้แต่ทำไมไม่ร้องให้คนช่วย??

     

    คำถามมากมาย...ผุดขึ้นจนแทบเรียงลำดับไม่ทัน  แถมคนในอ้อมแขนก็ยังเอาแต่ดิ้นอยู่อย่างนั้น!!

     

                “ใจเย็นๆ...ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก  ยิ่งดิ้นมันยิ่งเจ็บ  ใจเย็นๆก่อนได้ไหม!!?”

     

                “.....................”

     

                “โอ๊ยยยย!!...”

     

                “..........................”

     

                “กัดอีกทีจะโทรเรียกตำรวจมาจับเลยนะ!!!

     

                โดนกัดแขนอีกรอบ...เจ็บอีกรอบและต้องออกแรงอีกรอบเพราะคนในอ้อมแขนยังไม่ยอมหยุดดิ้นสักที  แถมยังไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ  แต่!!พอขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ  แรงดิ้น  แรงขัดขืนหรือแรงกำลังทุกอย่างก็เริ่มอ่อนลง  หนุ่มผิวเข้มค่อยๆคลายการโอบรัดก่อนจับหนูตัวใหญ่ให้หันหน้ามาเพื่อถามถึงสาเหตุ  แต่..........

     

                (เชี่ยยย!!)

     

                ขอสบถแค่ในใจ...เพราะเมื่อได้เห็นหน้าคนในอ้อมแขน  ใจมันกลับเต้นเหมือนเจอของถูกใจ  ดวงตาคู่สวยสวยที่คลอไปด้วยน้ำสีใสพร้อมกระบนใบหน้าเรียวไล่ลงมาจนถึงพวงแก้มก็พาให้ไม่อาจละสายตา  ยิ่งแสงแดดที่ส่องเข้ามาจนเห็นความสวยงามได้อย่างชัดเจนก็ยิ่งไม่อยากจะละสายตามากขึ้นไปอีก  น่ารักมาก  น่ารักมากจริงๆ...และไม่เคยเห็นใครน่ารักเท่านี้มาก่อน

     

     

                เคยอ่านนิทานเรื่องสโนไวท์กันไหม?...เขาบอกได้เลยว่าเด็กคนนี้คือสโนไวท์  ผิวที่ขาวดั่งหิมะ  รอยจับ  แรงบีบ  กำลังที่ใช้โอบรัดก็ทำให้ผิวขาวๆนั้นขึ้นริ้วแดงทั้งตัว  แต่!!สองมือเรียวสวยที่ยกขึ้นมาเพื่อพนมก้มกราบก็ทำให้หนุ่มผิวเข้มต้องยอมละออกจากภวังค์ความน่ารัก

     

                “ไหว้ทำไม...”

     

                “..................”

     

                ยอมรับว่ากลัวเมื่อถูกจับได้...และการเสแสร้งแกล้งใบ้ก็ถูกนำออกมาใช้อย่างเช่นที่เคย  ใจมันเต้นตั้งแต่ได้ยินเสียงฝีเท้า  เสียงเปิดประตูและเสียงผ้าที่ถูกดึงออกจากร่างกาย  เด็กตัวขาวขอสู้สุดชีวิตเพื่อหาทางรอด  ทั้งกัด  ทั้งข่วน  ทั้งดิ้น  ทำทุกอย่างเพื่อให้หนีรอดอีกครั้ง  แต่การถูกโอบรัดด้วยแรงของคนที่มีกำลังเยอะกว่าก็ทำให้ต้องยอมพ่ายแพ้  แถมการถูกขู่ว่าจะแจ้งตำรวจก็พาลให้ยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก  เขาไม่อยากถูกส่งตัวกลับไปที่เดิม  ที่นั่นมีแต่ความมืด  มีแต่คนใจร้ายและมีแต่ความสิ้นหวัง  น้ำตาที่เคยไหลออกมาเพราะคำว่า  “อิสระ”  ตอนนี้กลับไหลออกมาเพราะความ  “กลัว”

     

     

                เด็กตัวขาว...ยกมือไหว้ซ้ำๆก่อนใช้มือชี้ไปที่ปากก่อนโบกไปมาเพื่อบอกว่าตัวเองพูดไม่ได้  และนิทานเรื่องสโนไวท์ของหนุ่มผิวเข้มก็คงแปลกไปจากนิทานที่เคยอ่าน  ไคเข้าใจว่าคนตรงหน้ากำลังสื่อสารว่าอะไร  ส่ายหัวคงแปลว่าไม่  มือที่ชี้ไปที่ปากและใช้นิ้วทำเป็นรูปกากบาทก็คงแปลว่าพูดไม่ได้  ความสงสารอาจเป็นสิ่งแรกที่ไครู้สึก  ส่วนความสงสัยในเรื่องอื่นๆก็คงสอบถามให้ได้ความเพราะเขาอยากก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

     

                “ไม่ต้องกลัวฉัน...เข้าใจไหม  ถ้าเข้าใจให้พยักหน้า  แล้วก็ห้ามกัด  ห้ามหนี  ห้ามไปไหนจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง  โอเคไหม??”

     

                และการพยักหน้าของเด็กตัวขาว...ก็ทำให้ไคต้องยอมปล่อยอ้อมกอด  โซฟาสีซีดกลายเป็นที่พูดคุยระหว่างคนแปลกหน้า  ดวงตาคู่คมมองคนที่นั่งพับแข้งพับขาและขดตัวอยู่บนโซฟาด้วยความสงสาร  แล้วเสื้อผ้าที่ขาด  กางเกงที่เปียกชื้นหรือจะเป็นเส้นผมสีดำที่เริ่มแห้ง  ทุกๆอย่างที่เป็นเด็กคนนี้ทำไมมันถึงได้ดูเศร้านัก

     

                “ฟังให้ดีนะ...ฉันเป็นเจ้าของปราสาทหลังนี้  ฉันชื่อไค  แล้วเธอล่ะ...ชื่ออะไร  มาจากไหน??”

     

                ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลพูดคุย...และหวังว่าเด็กคนนี้จะให้คำตอบเขาได้  แม้จะต้องแปลความหมายจากท่าทางก็ตามที  ไคพยายามจะไม่กดดันหรือใช้สายตาที่ใครๆก็บอกว่าน่ากลัวเพราะเกรงว่าคนตรงหน้าจะไม่ให้ความร่วมมือ

     

                “ชื่อ  เซฮุน  เหรอ?”

     

                ใช้ฝุ่นบนพนักพิงของโซฟา...เขียนชื่อตัวเองให้เจ้าของปราสาทรับรู้และใช่การพยักหน้าเพื่อการสื่อสาร  แต่เรื่องที่เขาเป็นใครมาจากไหนคงต้องทำท่าทางให้ดูเพราะเกิดมาจนอายุสิบห้าหรือตอนนี้จะอายุสิบแปดเขาก็เขียนอะไรไม่ได้เลยนอกจากชื่อของตัวเอง  ลุงกับป้าไม่เคยส่งเสียให้เรียนหนังสือ  วันวันเอาแต่ใช้ให้ไปทำไร่และต้องทำอาหารทุกมื้อให้ลุงกับป้ากินทุกวัน  แล้วการไปตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารก็เป็นเหตุให้เขาถูกคนใจร้ายจับมาขังไว้นานถึงสามปี

     

     

                เด็กตัวขาว...นำผ้าที่เคยใช้คลุมโซฟามาทำท่ามัดแขนมัดขา  ก่อนเดินไปที่ประตูพร้อมกดล็อคและนั่งชันเข่าท่าเหมือนตอนถูกจับมาขังไว้ในห้องใต้ดิน  เหตุการณ์ต่อไปถูกเล่าโดยการจูงมือเจ้าของปราสาทออกมาจากห้อง  แล้วทำท่าวิ่งหนี  มุดรั้ว  มุดช่องประตูรวมถึงเอาตัวเองมาแอบอยู่ในผ้าม่าน  เสื้อขาดๆถูกเปิดออกเพื่อโชว์รอยแผลจากการถูกรั้วเหล็กบาด  ที่ข้อมือข้อเท้าก็เป็นรอยของโซตรวนครั้งถูกจองจำ

     

     

                ถึงแม้...จะจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน  แต่ท่าทางต่างๆที่พยายามบอกเล่าเรื่องราวมาทั้งหมดมันก็น่าหดหู่ไม่ใช่น้อย  การถูกมัดจนแขนขาเป็นรอยลึก  การถูกขังอยู่ในห้องมืดๆ  หรือการวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดมันไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น  หนุ่มผิวเข้มรู้สึกสงสารคนตรงหน้าจับใจ  การเล่าเรื่องราวไปพร้อมๆกับดวงตาที่แดงก่ำคือสิ่งที่เหมือนจะอัดอั้นอยู่ในใจมาแสนนาน  แล้วการใช้ฝุ่นบนโซฟาเพื่อเขียนชื่อ  รูปรถบรรทุกที่วาดใส่กำแพง  รูปคน  รูปเงิน  รูปตัวเองที่หนีเข้ามาแอบอยู่ในปราสาท  ทุกๆรูปถูกวาดโดยใช้ฝุ่นบนผนังบ้าง  บนพื้นไม้บ้าง  ซึ่งแต่ละภาพก็กลายเป็นเรื่องราวที่สามารถเอามาปะติดปะต่อกันได้ไม่ยาก

     

                “พอแล้ว...ให้ฉันทำแผลให้ใหม่ก่อนเดี๋ยวค่อยมาเล่าต่อเพราะแผลอาจติดเชื้อ”

     

    ขอหยุดความน่าเวทนาไว้เพียงแค่นี้เพราะถ้าให้เล่าต่อ...ใจของคนฟังคงรับไม่ไหว  >_<!!!

     

     

     

     

     

     

     

     


     


     

     

     

     

     


     

     

     

     

    แกร๊กกก!!

     

                “แล้วเซฮุนอายุเท่าไหร่...?”

     

                มือเรียว...ที่กางออกสิบนิ้วก่อนงอนิ้วนางกับนิ้วก้อยลงก็ทำให้ไครู้ว่าเจ้าสโนไวท์ของเขาอายุ  18  กล่องยาถูกวางลงบนโต๊ะเมื่อพาคนเจ็บมาพักที่ห้องนอนบนชั้นสาม  ห้องๆนี้ถือเป็นห้องแรกที่ถูกปรับปรุงไปเมื่อสองวันก่อนเพราะจะให้เข้ามานอนโดยที่ห้องยังเต็มไปด้วยฝุ่นก็เห็นทีจะไม่ไหว  ส่วนไฟที่ยังไม่ได้ต่อก็ต้องใช้เทียนหรือตะเกียงในยามค่ำคืน  แต่ในตอนที่แดดยังมี...หน้าต่างก็ต้องถูกเปิดเพื่อรับแสง

     

                “ฉันเหรอ...ฉันอายุ  30!

     

                นิ้วเรียวสวย...ที่ขยับไปมาเหมือนกำลังนับเลขก่อนชี้มาที่หนุ่มผิวเข้มก็ทำให้ทราบว่าถูกเด็กตรงหน้าถามถึงอายุบ้างแล้ว  ไคตอบไปอย่างไม่นึกอาย  ในวัยสามสิบ...ใครๆอาจคิดว่าต้องมีเงิน  มีงานหรือมีความมั่นคงชีวิต  แต่!!ในวัยสามสิบของแต่ละคนมันจะไปเหมือนกันได้อย่างไร  การเกิดมาเป็นลูกนอกสมรส  พ่อแม่ก็ตายหมด  แถมยังได้มรดกเป็นปราสาทผีสิง...แล้วแบบนี้ใครมันอยากจะไปนับญาติด้วย  ไคทำแผลให้เด็กตัวขาวไปพร้อมๆกับการพูดคุยและแผลถลอกบนหน้าท้องเนียนก็ไม่ได้ลึกมากจนถึงขั้นต้องเย็บ  แต่การใส่ยารวมถึงติดผ้าก๊อตก็น่าจะดีกว่าแค่การล้างเลือดออกอย่างที่คนเจ็บทำเอาไว้

     

                “ทำอะไร?!

     

                กำลังเก็บกล่องยา...แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะคนที่เคยนอนอยู่บนเตียงกลับลุกขึ้นก่อนนั่งคุกเข่าและพนมมือไหว้อยู่บนพื้นพรม  กายบางก้มกราบคนใจดี  นิ้วเรียวก็ชี้มาที่ตัวเองแล้วจิ้มลงบนพื้น  ทุกๆอย่างถูกทำย้ำๆซ้ำๆเหมือนอยากบอกว่าขอบคุณและขออยู่ที่นี่  เซฮุนไม่อยากกลับบ้านไปอยู่กับลุงกับป้าอีกแล้ว  ขืนกลับไปก็คงถูกคนใจร้ายลักพาตัวมาอีกแน่นอน

     

                “เซฮุนจะอยู่ที่นี่เหรอ?”

     

                ไม่แน่ใจ...กับสิ่งเด็กตัวขาวกำลังจะสื่อสาร  แต่เมื่อเอ่ยถามและเจ้าตัวก็พยักหน้าจนผมกระจาย  ไคก็ได้แต่คิดว่าตัวเองจะทำเช่นไรดี  ใช่ว่าจะให้เซฮุนอยู่ไม่ได้หรือไม่อยากให้อยู่  แต่มันจะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลังหรือเปล่า  ซึ่งเขาก็ไม่รู้และต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ  แต่........!!! 

     

    ปั้งงง!!!!!!

    Rrrr!!!!!!!

     

                “เซฮุน...ออกมา!!

     

                ยังไม่ทันได้ตัดสินใจ...เสียงหน้าต่างที่กระแทกไปกับผนังพร้อมเสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ในกระเป๋ากางเกงก็ทำให้ต้องหยุดความคิดเอาไว้ชั่วคราว  แล้วเสียงทั้งหมด!!ก็เป็นเหตุให้เด็กตัวขาวตกใจจนต้องหาที่ซ่อน  และที่ซ่อนใกล้ที่สุดก็คือ...ใต้เตียง  ไครีบรับสายแต่ก็ต้องรีบเข้าไปที่ใต้เตียงเช่นกันเพราะเกรงว่าเซฮุนจะได้รับบาดเจ็บ  มือข้างหนึ่งกอดเด็กตัวขาวเอาไว้  ส่วนอีกมือก็ต้องรับโทรศัพท์ด้วยความทุลักทุเล

     

                “ครับ...ช่างไคครับ”

     

                (สวัสดีค่ะคุณไค....ตกลงเรื่องซ่อมหน้าต่างว่าไงคะ)

     

                “ขอโทษทีครับ...ผมลืมไปเลย  แล้วบ้านคุณอยู่แถวไหนครับ?”

     

                (ถนนXXX  หน้าตึก........)

     

                “โอเคครับ....เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปดูที่หน้างานแล้วจะรีบจัดการซ่อมให้นะครับ”

     

                (ขอบคุณค่ะ)

     

                ถ้าเป็นงานที่ไกลเกินไป...ช่างอย่างเขาคงต้องปฏิเสธเพราะมันไม่คุ้มกับค่าเดินทาง  การเป็นช่างอิสระใช่ว่าจะมีงานกันได้ง่ายๆ  แล้วเดี๋ยวนี้ตามบริษัทต่างๆก็ไม่ค่อยรับพนักงานใหม่เข้าทำงาน  สวัสดิการเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกๆบริษัท  การจ้างคนใหม่จึงกลายเป็นสิ่งที่บริษัทหลายๆที่ไม่กล้าเปิดรับ  พวกเขายอมให้โอทีกับพนักงานคนเก่ามากกว่าจะยอมเสียทั้งเงินเดือนหลักหมื่นรวมถึงสวัสดิการอื่นๆอีกมากมาย  แต่ไคก็รู้สึกดีที่ตัวเองไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปทำงาน  มีใครจ้างมาเมื่อไหร่ก็ไปทำตามออร์เดอร์  แม้เงินที่ได้อาจจะไม่มากหรือดูไม่มั่นคงเท่ากับทำงานในบริษัท...แต่มันสบายใจดี

     

    ส่วนตอนนี้มันเริ่มมาสบายใจแล้ว...เพราะเด็กตัวขาวยังไม่ยอมออกมาจากใต้เตียง?!

     

                “กลัวอะไร?”

     

                คำตอบที่ได้...คือท่าทางของการถูกจับและถูกมัดมือมัดเท้า  กายบางที่ขดตัวจนหัวเข่าแทบชิดกับหน้าอก  ข้อมือทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาประกบกัน  ส่วนข้อเท้าก็เอามาแนบกันไว้และทุกๆท่าทางที่เซฮุนแสดงออกมามันก็ทำให้เจ้าของปราสาทตัดสินใจได้ว่าควรทำเช่นไร

     

                “ถ้าอยากอยู่ที่นี่...เซฮุนต้องออกมาจากใต้เตียง  ตกลงไหม?  ถ้าไม่ออกจะเรียกตำรวจมาจับ”

     

                จำเป็นต้องขู่...ไม่อย่างนั้นเด็กตัวขาวที่เขาคิดว่าเหมือนสโนไวท์ก็คงไม่ยอมออกมาจากที่ซ่อน  แล้วคำขู่เช่นนั้นก็ได้ผล  เซฮุนคลานออกมาจากใต้เตียงอย่างช้าๆ  ใบหน้าเรียวสวยดูไม่ค่อยสดใสเมื่อได้ยินคำว่าตำรวจ  ไครู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองใช้ขู่มันทำให้เจ้าตัวดูเศร้า  แต่ทำไมต้องเศร้าด้วยล่ะ...ทุกอย่างต้องมีเหตุผลและต้องถามให้ได้ความเพราะไม่อยากรู้สึกผิดซ้ำสอง

     

                “กลัวตำรวจเหรอ?”

     

                และคำตอบ...ก็คือการพยักหนาจนผมกระจายอีกครั้ง  ไคได้แต่ส่ายหัวด้วยความเพลียใจเพราะการสื่อสารกันเช่นนี้มันค่อนข้างลำบาก  เขาอยากเข้าใจ  อยากรู้  อยากสอบถามอีกหลายๆเรื่อง  แต่จะไปคาดคั้นอะไรกับคนเป็นใบ้ก็คงจะใจร้ายเกินไปหน่อย  มือหนาปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าให้เด็กตัวตัวขาวและเขาก็เพิ่งสังเกตว่ามันขาดจนเป็นทางยาว  ส่วนกางเกงนั่นก็เปื้อนคราบเลือดจนเป็นรอยด่าง

     

                “ดะ...เดี๋ยว ๆ ๆ  มาบีบคอทำไมเนี่ย!!!

     

                กำลังคิด...ว่าจะเอาเสื้อผ้าของตัวเองให้คนตรงหน้าเปลี่ยน  แต่ยังไม่ทันได้คิดหรือเดินไปดูในกระเป๋าว่ามีชุดไหนที่คนตัวบางขนาดนี้จะใส่ได้  เขาก็ถูกมือเรียวบีบคอเข้าอย่างแรงก่อนจะปล่อยและทำท่าเหมือนตำรวจที่กำลังทำความเคารพผู้ที่มียศสูงกว่า  เซฮุน...ทำท่าทางแบบนั้นซ้ำๆพร้อมกับความกลัวที่ฉายอยู่ในแววตาคู่สวยและชี้ไปที่แผลบนแก้มสลับกับบาดแผลที่หน้าท้อง

     

                “เคยโดนตำรวจบีบคอแล้วก็ทำให้ตรงนี้มีแผลใช่ไหม...เซฮุนจะบอกแบบนี้ใช่ไหม?”

     

                ไค...เริ่มไม่สบอารมณ์กับการพยักหน้าของสโนไวท์ตัวน้อยเพราะนั่นหมายถึงการถูกทำร้ายจากคนควรที่ทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน  ตำรวจมีสิทธิ์อะไรมาบีบคอเซฮุน  แถมยังใช้มีดกรีดใบหน้าสวยๆให้เป็นรอย  มีคำไหนที่ยิ่งกว่าคำกว่า  “เลว”  อีกไหม?  เขาอยากจะพูดคำนั้นออกมาอย่างไม่กลัวการถูกฟ้อง  เด็กมันก็ตัวแค่นี้ทำไมถึงทำร้ายกันได้ลงคอ  แล้วทำไม...เซฮุนถึงต้องมาเจอเรื่องราวร้ายๆเช่นนี้  โลกมันกว้างจนไคไม่คิดว่าการถูกลักพาตัว  การถูกขาย  การถูกทารุณมันจะมีอยู่จริง

     

    เคยเห็นแค่ไหนหนัง  ในซีรีส์  ในละครหลังข่าว...แต่ตอนนี้มันกลับถูกเล่าจากเด็กที่นั่งอยู่ตรงหน้า!!

     

                “ขอโทษนะ...ทีหลังจะไม่พูดถึงตำรวจแล้ว”

     

                สองมือ...พนมก้มกราบคนแปลกหน้าผู้ใจดีเพราะในโลกนี้คงไม่มีใครใจดีกับเขาอีกแล้วนอกจากช่างไค  ขนาดลุงกับป้าแท้ๆยังใจร้ายกดขี่ใช้งานเขาสารพัด  แถมยังโชคร้ายถูกจับมาขังมาขายอยู่ในห้องใต้ดิน  วันนี้มันเหมือนฟ้าหลังฝนมีจริงอย่างเคยได้ยิน  ช่างไคใจดี  มีปราสาทหลังใหญ่  ทำแผลให้ด้วย...ช่างไคใจดีที่สุดในโลก

     

                “เลิกไหว้ก่อน  เซฮุนต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า...เสื้อตัวนี้มันขาดแล้ว  เดี๋ยวฉันไปหามาให้...รออยู่ตรงนี้นะ”

     

                ไคเดินไปหยิบกระเป๋าเป้...ก่อนเปิดซิปและเทเสื้อผ้าออกมากองบนเตียงเพื่อเลือกชุดที่คนตัวบางพอจะใส่ได้  ส่วนเรื่องของชั้นในก็คงต้องเอาไว้ก่อนเพราะมันไม่มีขนาดที่เด็กคนนี้จะใส่ได้แน่นอน  มือหนาหยิบเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงบ๊อกเซอร์สีเทายื่นให้เซฮุนทันทีเมื่อตัดสินใจได้  แต่.......!!!

     

    ปั้งงงงงง!!!

     

                “ไม่ต้องแอบ...ใจเย็นๆ  ไม่ต้องกลัว  ถ้าฉันอยู่ด้วยเซฮุนไม่ต้องซ่อน  ตกลงไหม?”

     

                วันนี้...คงต้องซ่อมหน้าต่างบนชั้นสามเป็นอย่างแรกหรือไม่ก็ปิดเอาไว้ชั่วคราวเพราะขืนยังไม่ทำอะไรสักอย่าง  เขาคงต้องคอยจับเด็กคนนี้เอาไว้ก่อนที่จะวิ่งหนีและหาที่ซ่อนเหมือนหมาที่กลัวเสียงปะทัด  ไครีบดึงเด็กตัวขาวมากอดปลอบพร้อมบอกว่าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นหากเขายังอยู่ตรงนี้  คนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวงมันเป็นอย่างนี้นี่เอง  เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกและไม่อยากเห็นอีกแล้วเพราะมันหดหู่เหลือเกิน

     

                “ถ้าฉันอยู่ด้วย...เซฮุนห้ามวิ่งหนี  แล้วก็ไม่ต้องซ่อน  ที่นี่เป็นของฉัน...จะไม่มีใครเข้ามาทำร้ายเซฮุนแน่นอน”

     

                สองมือ...ที่กำเสื้อของหนุ่มผิวเข้มไว้แน่น  ทำให้คนเป็นเจ้าของอยากหยุดฝันร้ายที่เด็กคนนี้เคยเจอ  ไคไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา  เซฮุนเคยถูกทำร้าย  เคยถูกขังหรือเคยถูกทำอย่างไรและมากน้อยแค่ไหน  เจ้าตัวถึงได้แสดงอาการออกมาเช่นนี้  กายน้อยๆยังคงสั่นแม้อยู่ในอ้อมกอดพร้อมการปลอบใจ  เสื้อยืดสีดำก็ยับยู่ยี่ด้วยแรงจากความหวาดกลัวและใบหน้าเรียวสวยก็ยังคงซบอยู่บนอกกว้างเหมือนหาที่พึ่ง

     

                “ไม่ต้องกลัวน้าาา.....”

     

    เสื้อผ้ายังไม่ได้เปลี่ยน...คำปลอบใจยังไม่สิ้นสุดและคำถามก็ยังมีอีกมากมาย????????

     

     

     

     

     

     

     

     


     


     

     

     


     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr. ภาพในตอนที่สอง :  hearthomemag

     

    Talk.

    สงสารน้องด้วย  สงสารช่างไคด้วย...แล้วจะอยู่กันได้ยังไงนะ?

    เราฝากติดตาม  คอมเมนต์และให้กำลังใจกับฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ

    ส่วนจะเป็น S/F หรือเรื่องยาว...เราขอลองเขียนไปเรื่อยๆก่อนเพราะยังไม่แน่ใจเลยค่ะ

    ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ 

    รัก

    #KHhide  

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×