คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : Chapter 28 Begin again นับหนึ่งใหม่ที่จุดจบ [100%]
Chapter 28
Begin again
นับหนึ่งใหม่ที่จุดจบ
“เมื่อความรักทำให้...เราอยากใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน”
(Riko’s part)
ฉันกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ได้เกือบๆอาทิตย์แล้วล่ะ รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลย อาจจะเพราะไม่มีเวลาว่างให้คิดฟุ้งซ่าน ฉันเลยดูไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อน ตอนกลับมาแรกๆ ท่านทั้งสองเป็นห่วงฉันมากเลย ก็นะ….อาการหนักเอาเรื่องเหมือนกัน
“ริโกะ คิดอะไรอยู่เหรอลูก” เสียงของแม่ดังเข้ามาในโสตประสาท ฉันส่ายหน้าเบาๆให้ผู้เป็นแม่
“ไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะแม่”
“ถ้าลูกไม่สบายใจเล่าให้แม่ฟังได้นะจ้ะ”
“ค่ะแม่ แต่หนูไม่ได้เป็นไรจริงๆ”
ที่ว่าไม่เป็นไร มันก็จริงส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนลึกๆมันก็ยังรู้สึกโหวงๆอยู่ดี เหมือนอะไรบางอย่างมันขาดหายไปน่ะนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกัน
“ลูกดูไม่ค่อยสดใสเลยนะริโกะ” แม่เอื้อมมือมาลูบหัวฉันเบาๆ
“หนูไม่เป็นไรจริงๆค่ะแม่…”
My jewelry (You're calling me)
My girl, so I'm feeling you My jewelry ~
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดต่อ เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างฉันก็ดังแทรกขึ้นซะก่อน ฉันหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เบอร์ใคร?” ฉันพึมพำออกมาเบาๆก่อนจะกดรับสายอย่างช่วยไม่ได้ แต่พอได้ยินเสียงของปลายสายฉันก็รู้ได้ทันทีว่าใคร…
“พี่ริโกะคะ…”
เอมม่า…
โทรมาทำไมอีกนะ…
“ว่าไงเหรอเอมม่า”
“คือเอมม่าแค่จะมาเชิญพี่ริโกะมางานแต่งงานของเอมม่ากับพี่ไนท์น่ะค่ะ” เสียงที่เต็มไปด้วยความยินดีของอีกฝ่ายทำเอาฉันจุก…
มันรู้สึกเจ็บยังไงก็ไม่รู้…
เจ็บ… เจ็บไปทั้งใจ
“แล้ววันไหนเหรอ พี่อาจจะไปก็ได้” ฉันกลั้นสะอื้นถามออกไป รู้ไหม… ตอนนี้ขอบตาฉันร้อนผ่าวไปหมด
“เสาร์นี้นะคะพี่ริโกะ มาร่วมยินดีกับพวกเรานะ เอมม่ารักพี่ริโกะจัง” อีกฝ่ายพูดน้ำเสียงระรื่นก่อนจะวางสายไป
โทรศัพท์หลุดออกจากมือฉันอย่างง่ายดาย มันเหมือนไม่มีแรงเหลือเลย เรี่ยวแรงไม่มีเลย…
น้ำตาไหลริน…
เจ็บหนึบไปทั้งหัวใจ…
รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น…
“รู้ทั้งรู้อยู่แล้วนี่ริโกะ จะร้องไห้อีกทำไม” ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน มือก็ปาดน้ำตาอย่างลวกๆ
ฉันพาตัวเองมายังห้องนอนเ ก่อนจะทิ้งตัวบนเตียงอย่างคนหมดเรี่ยวแรง
เหมือนอะไรบางอย่างมันกดทับหัวใจฉัน…
ฉันหลับตาลงอย่างช้าๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลรินอยู่อย่างนั้น นานแสนนาน… ให้มันนานเท่าที่หัวใจฉันจะถูกปิดตายหลังจากนี้…
(End Riko’s part)
----------------------------------[50%]----------------------------------
(Yuto’s part)
ผมหันมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ในห้องนอนตัวเองหลายๆครั้งเพื่อสำรวจความเรียบร้อย ผมรู้สึกประหม่านิดหน่อย…
เพราะวันนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะไปอ้อนวอนเอมม่าให้ใจอ่อน อย่าเพิ่งมองผมแบบนั้นสิครับ… ผมก็อ่อนโยนเป็นเหมือนกันนะครับ ตั้งแต่วันนั้นที่เราทะเลาะกันแรงมากๆ มันก็เหมือนทำให้เราสองคนปรับความเข้าใจกันไปด้วย
ผมคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าผมเลือกเอมม่าจริงๆแล้วใช่ไหม แน่ล่ะครับ ว่าคำตอบมันคือใช่
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่รู้นั่นก็คือ เอมม่าจะเลือกผมรึเปล่า…
ก็ผมทำเลวไว้มากนี่ครับ จะให้เธอยอมยกโทษให้ผมง่ายๆ ก็เห็นจะไม่ใช่เอมม่าแล้วล่ะครับ
ตอนนี้ผมเฝ้าภาวนาให้เอมม่ายอมใจอ่อน ยอมให้ผมได้เป็นพ่อของลูกเธอ ไม่สิครับ ต้องเรียกว่า ลูกของเรา ผมขอแค่นั้นจริงๆ
ผู้ชายที่เคยทำเลวมาตลอดอย่างผม อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน ได้โปรดให้เธอยอมใจอ่อนให้ผมสักที…
ในที่สุดรถสปอร์ตดำขลับคันโปรดของผมก็มาจอดอยู่หน้าคอนโดของเอมม่าเป็นที่เรียบร้อย ผมเปิดประตูลงจากรถก่อนจะฉีกยิ้มเล็กๆให้พนักงานต้อนรับก่อนเดินสวนพวกเธอเข้ามาในลิฟท์ ผมเห็นพวกเธอยิ้มตอบผมอย่างเขินๆ
แน่นอนครับว่ารอยยิ้มของผมค่อนข้างจะพิฆาตใจคน
ผมก้าวมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง 1017 ก่อนจะกดออดหน้าห้อง ห้องนี้ก็คือห้องของเอมม่านั่นเอง ตอนนี้ผมรู้สึกใจเต้นแปลกๆยังไงก็ไม่รู้นะครับ หรือเป็นเพราะผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้
ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก… เจ้าของห้องเดินออกมาด้วยสภาพที่เหมือนคนเพิ่งจะตื่นนอน
แต่นี่ก็ 10 โมงแล้วนะ
เธอขยี้ตาอยู่สองสามครั้งก่อนจะเบิกตาโพลงมองหน้าผมด้วยความตกใจ ผมไม่รอให้เจ้าของห้องได้พูดอะไร ผมรีบแทรกตัวเข้าไปในห้องทันที!
ขืนรอให้เชิญ คงไม่ได้เข้าง่ายๆหรอกครับ
“นาย! มาที่นี่ได้ไง!?” เธอยืนกอดอก ขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับส่งสายตาดุๆใส่ผม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ทำหน้ามึนนั่งลงที่โซฟากลางห้องราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“ใครอนุญาตให้นายนั่ง?” ร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตตัวหลวมโคร่งบางๆยืนทำหน้ามุ่ยอยู่ข้างโซฟา แต่ถึงเธอจะว่าสารพัด ผมก็ไม่สนอยู่ดีแหละครับ
“ไม่มี” ผมตอบนิ่งๆ
เธอคงอยากจะฆ่าผมได้เลยมั้ง? ดูจากท่าทางแล้วเนี่ย
“แล้วรู้ได้ไงว่าฉันอยู่นี่!?” เธอยอมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม ดูเหมือนเธอจะทำใจแล้วว่าพูดไปก็คงเปล่าประโยชน์ ผมน่ะไม่ฟังอยู่แล้ว
“ก็ไม่ยาก…”
“เหอะ…ไม่มีอะไรยากสำหรับนายหรอกจริงมั๊ย?”
“ครับ” ผมตอบแล้วหันไปมองหน้าเอมม่านิ่ง เธอเหมือนจะชะงักไปนิดหน่อยกับคำตอบเรียบง่ายของผม
ปกติผมไม่พูดครับน่ะ…
“ทำไม ฉันพูดอะไรผิดรึเปล่า จ้องหน้าอยู่ได้” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆที่เห็นเอมม่าทำหน้าตกใจแบบนั้น
เธอน่ารักไม่เปลี่ยนเลยครับ
“เปล่า จะมองทำไม หน้านายมีอะไรให้มองล่ะ” หน้าสวยเชิดขึ้นเล็กน้อยตามนิสัยของเธอ
“เยอะแยะไป”
“หลงตัวเอง!” เอมม่ายื่นมือมาหยิกแขนผมแรงๆหนึ่งที ผมทำท่าร้องโอดโอยด้วยความเจ็บก่อนรวบมือทั้งสองของเธอไว้
“ปล่อยเลยนะ คนบ้า!”
“ไม่ปล่อยหรอก” ผมยิ้มกวนๆ
“ปล่อยสิ!!” เธอเริ่มโวยวายพร้อมกับจ้องหน้าผมด้วยความโกรธ
น่าขำชะมัด… เอมม่าในสภาพนี้น่ะ
“ไม่... ตอบตกลงก่อนถึงจะปล่อย” ผมกระตุกยิ้มเล็กที่มุมปาก
“ตกลงอะไร?” เธอขมวดคิ้ว
“เธอจะตกลงคบกับฉันมั๊ย?”
(End Yuto’s part)
หวานพอมั๊ยนะ ใครอ่านเรื่องนี้เป็นเบาหวานแน่นอน ฮ่าๆๆ
ผ่านดราม่ามาเยอะแล้ว เอาใจรีดเดอร์กันบ้างเนาะ ><
ไหนๆก็เอาใจรีดเดอร์กันแล้ว อ่านแล้วก็เม้นต์นะค้า กำลังใจๆๆๆ
รอกำลังใจ ><
ความคิดเห็น