ตอนที่ 17 : ตอนที่ 17 เรื่องราวในอดีต
ตอนที่ 17
เรื่องราวในอดีต
แคว้นอ้าย
บุรุษวัยกลางคนร่างกายสูงโปร่งที่ผมเริ่มมีสีขาวแซมบ้างสวมชุดสีทองปักลายมังกรห้าเล็บที่แสดงถึงฐานะของจักรพรรดิหรือฮ่องเต้ ใบหน้ายังคงความหล่อเหลาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆเอาไว้หากแต่เริ่มมีริ้วรอยเนื่องจากภาระหน้าที่อันมากมายที่ต้องทำเพื่อเหล่าราษฎร ใบหน้าแสดงความเคร่งเครียดมาตลอดเกือบครึ่งค่อนเดือนคลายกังวลลงทันทีที่ได้รับข่าวสารที่ส่งตรงมาจากแคว้นจ้าวเมื่อครู่ ใบหน้าที่พึ่งผ่อนคลายกลับมาตึงเครียดอีกครั้งเมื่อกลับมานึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องราวร้ายแรงเช่นนี้ขึ้น ร่างสูงถอนหายใจกับชะตากรรมที่ตนเป็นผู้เริ่มก่อหากเหตุการณ์ครั้งนี้เลวร้ายเกินจะแก้ก็คงเป็นเพราะพระองค์เอง
“ฝ่าบาทหวงโฮ่วเสด็จมาถึงแล้วพะยะค่ะ”
“รีบเชิญเข้ามา”
“ถวายพระพรฝ่าบาท” สตรีวัยที่มีใบหน้างดงามแววตาที่พยามปกติมักมีความเรียบนิ่งมั่นคงหากแต่เวลานี้กลับมีแต่ความกังวลเต็มไปหมด ร่างกายที่เคยสมบูรณ์แบบกลับดูซูบผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“ลุกขึ้นเถิด”อ้ายซานเหอฮ่องเต้กวาดสายตาไปทั่วร่างบางคนที่เป็นคู่ชีวิตคนแรกด้วยความรู้ผิดเต็มอก รู้ว่าตนทำผิดกับนางมากมายเหลือเกินเพราะความเห็นแก่ตัวในความรักของตนเองทำให้เรื่องราวเกือบสายจนเกินแก้ ใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตาดวงตาคู่งามแดงก่ำและคำพูดตัดพ้อเมื่อยามที่นางบุกเข้ามายังตำหนักของพระองค์กลางดึกเมื่อรู้ว่าโอรสตนถูกลอบสังหารจนเป็นตายร้ายดีเช่นไรก็ไม่มีใครทราบ แต่ไหนแต่ไรมานางมิเคยแม้แต่จะปริปากแม้ครึ่งคำต่อว่าพระองค์ไม่ว่าจะเป็นยามที่ถูกสนมอื่นเยาะเย้ยถากถางเรื่องที่ไม่เป็นที่โปรดปราน หวังกุ้ยเฟยคนรักของพระองค์ที่มักเอ่ยกระทบกระเทียบหรือวางอำนาจเกินหน้าฮองเฮาเช่นนาง นางก็หาได้ใส่ใจไม่นางยังคงปฏิบัติในฐานะฮองเฮาของแคว้นได้อย่างไม่มีบกพร่อง
เมื่อนางตั้งครรภ์โอรสของพระองค์ ด้วยความที่คาดหวังเฝ้ารอถึงการมีบุตรมากจึงทำให้พระองค์ตื่นเต้นถึงกับจัดการดูแลทุกอย่างด้วยตนเอง ทั้งสองจึงได้มีโอกาสใกล้ชิดกันก่อเกิดเป็นความรักและความผูกพันขึ้นมาจนลืมเลือนหวังฮุ่ยเจินคนรักของตนและทารกที่เขามอบให้ ฝ่ายคนรักของตนที่ถูกละเลยเกิดความน้อยใจจนเริ่มกลายเป็นความเกลียดชัง เขาจึงกลับไปให้ความสนใจและดูแลอีกฝ่ายดังเดิมรวมถึงได้มีการพูดคุยกับเหลียนอวิ้นซื่อฮองเฮาของตน ซึ่งเหลียนอวิ้นซื่อก็เข้าใจว่าอีกคนเป็นคนรักของพระองค์ที่มาก่อนมิได้โกรธเคืองอันใดยังคงทำตนเป็นแม่ที่ดีและฮองเฮาที่ดี
เขาพยายามดูแลจัดการหาทุกสิ่งทุกอย่างมาให้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเกิดความน้อยใจ ดูแลเอาใจใส่อ้ายหลิ่งอี้ประดุจเหมือนบุตรของตนอีกคน ทั้งสองคนเติบโตขึ้นมามีความรู้ความสามารถเก่งกาจทั้งคู่ทำให้พระองค์ภาคภูมิใจถึงแม้ว่าหนึ่งในสองนั้นจะไม่มีสายเลือดของพระองค์เลย ถึงคราวที่ต้องเลือกรัชทายาท เลือดย่อมข้นกว่าน้ำพระองค์ตัดสินใจแต่งตั้งอ้ายอยางหลงที่เกิดทีหลังทั้งยังเป็นโอรสที่เกิดจากฮองเฮามีสายเลือดตนมีสิทธิในบัลลังก์มังกรอย่างชอบธรรม หลังจากนั้นมาหวังฮุ่ยเจินที่ยังคงมีความโกรธแค้นเหลียนอวิ้นซื่ออยู่ในใจและยังคิดว่าอีกฝ่ายแย่งความรักที่มีให้ตนไปก็เผยท่าทีเป็นปรปักษ์กันชัดเจน อ้ายหลิ่งอี้จากเคยดีรักใคร่กับอ้ายหยางหลงก็แปรเปลี่ยนเป็นคนร้ายกาจทั้งยังโกรธแค้นทั้งเขาที่มอบตำแหน่งรัชทายาทให้ผู้เป็นน้องมิใช่ตน ขุนนางต่างแบ่งออกเป็นสองฝั่งคอยขัดขวางซึ่งกันและกันกลุ่มขุนนางที่ทราบเรื่องราวเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนและอีกหลายกลุ่มสนับสนุนรัชทายาทและอีกฝั่งหนึ่งสนับสนุนจวิ้นอ๋องอ้ายหลิ่งอี้ จากนั้นมาราชวงศ์ที่เคยสงบร่มเย็นก็ร้อนรุ่มดั่งไฟบรรลัยกัณฑ์
“สารจากชินอ๋องของแคว้นจ้าว” เขายื่นจดหมายที่ถูกส่งมาให้ฮองเฮาของตนอ่าน
เหลียนอวิ้นซื่อรับกระดาษในมือมาด้วยความสั่นเทานางกลัวเหลือเกินกับข่าวสารที่ได้รับหากแต่เมื่อได้อ่านข้อความในกระดาษดวงตาคู่งามก็ฉายแววยินดี ขอบคุณสวรรค์ที่บุตรชายนางยังปลอดภัยหัวอกคนเป็นมารดาแทบใจสลายเมื่อทราบข่าวการหายตัวไปของบุตรชายถึงจะมีบุตรสาวคนเล็กที่คอยอยู่เคียงข้าง หลังจากผ่านไปได้สองวันบิดานางก็ส่งข่าวมาบอกว่าบุตรชายตนถูกลอบสังหารถึงแม้ในตอนนั้นทางบิดานางยังมิมีหลักฐานแต่ก็มั่นใจว่าเป็นใคร
ความอดกลั้นของนางขาดผึ่งลงบุกไปยังตำหนักสวามีด้วยพายุอารมณ์แห่งความโกรธ ระเบิดอารมณ์ที่อดกลั้นมานานกล่าวต่อว่าโอรสสวรรค์อย่างไม่เกรงกลัวอาญาไม่เพียงไม่ถูกลงโทษหากแต่ยังได้รับคำขอโทษจากอีกฝ่ายอย่างคนสำนึกผิด นางแค่อยากรู้ว่าเกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้เขาจะยังคงเข้าข้างคนรักตนอีกต่อไปหรือไม่?
“หยางหลงจะเดินทางกลับมาเมื่อไหร่เพคะ” เสียงนุ่มที่สภาพจิตใจดีขึ้นหลังจากได้อ่านจดหมายจากแคว้นจ้าวเอ่ยถามผู้เป็นสวามี
“ข้าไม่ทราบ เนื่องจากคนของชินอ๋องพึ่งพบหยางหลงคงต้องใช้เวลารักษาตัวจากการบาดเจ็บสักเล็กน้อย” ใบหน้าของอ้ายซานเหอหมองลง การที่รัชทายาทของแคว้นถูกช่วยโดยคนจากแคว้นอื่นเพราะเนื่องจากผู้เป็นบิดาอย่างเขาไม่สามารถทำการช่วยได้นับว่าเป็นความน่าอัปยศของการเป็นฮ่องเต้และบิดาของบุตรชาย
“ข้าสัญญาว่าจะจัดการเรื่องราวทุกอย่างให้จบลง” อ้ายซานเหอกล่าวคำสัญญาอย่างหนักแน่นกับฮองเฮาของตนน้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและขอโทษ
วังพยัคฆ์คราม
“ท่านอ๋องรัชทายาทอ้ายหยางหลงเดินทางมาถึงแล้วพะยะค่ะ” ซานหลิวที่เข้ามารายงานเหลือบตามองบุรุษสูงศักดิ์ตรงหน้าที่ช่วงนี้ดูจะเหม่อลอยผิดปกติอยู่บ่อยครั้ง เขาที่ได้รับมอบหมายให้ไปรับรัชทายาทแคว้นอ้ายที่เขตเมืองหานเป่ยซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดกับป่าอู๋เฮยที่อยู่ระหว่างแคว้นจ้าวและแคว้นอ้ายมายังเมืองหลวงเพื่อมาพบกับชินอ๋องของตน
“อืม” ความเงียบยังคงดำเนินต่อไปอีกซักพัก ทางด้านซานหลิวเองก็รู้ตัวดีว่าไม่ควรเอ่ยอะไรอีกจึงได้แต่รอเงียบๆ
“ไปเถอะ” ร่างสูงกำยำสลัดความคิดถึงคนบางคนที่ไม่ได้พบหน้ามาหลายวันออกจากหัวแล้วลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องทำงานตนเองไปยังห้องรับรองที่ตอนนี้มีคนสำคัญของแคว้นอ้ายรออยู่
อ้ายหยางหลงมองไปยังรอบๆห้องอย่างสนใจ ในห้องระดับไปด้วยสิ่งของที่น้อยชิ้นแต่มีค่ามหาศาลและหายากยิ่งนัก วังรัชทายาทของเขาที่แคว้นอ้ายยังไม่หรูหราเท่านี้นับว่าชินอ๋องแคว้นจ้าวช่างร่ำรวยเสียจริง เขานั้นรักษาตัวอยู่กระท่อมกลางป่าอู๋เฮยของท่านหมอเทวดาฟงอยู่อีกเกือบห้าวันปรากฏว่าเหล่าองครักษ์ที่เหลือรอดที่กำลังออกตามหาก็มาพบเข้าพร้อมคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก หลังจากที่ได้พูดคุยกันจึงทราบว่าเป็นคนของทางแคว้นจ้าวที่เสด็จพ่อเขาส่งสารลับไปขอความช่วยเหลือ จึงออกจากป่าเดินทางมายังเมืองหลวงแห่งนี้เพื่อพบจ้าวหมิงหลงฮ่องเต้และชินอ๋องจ้าวเฟยหลง
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้เขาหันหลังกลับไปมองแล้วพบบุรุษที่ตัวเขาเองก็ต้องยอมรับว่าอีกฝ่ายนับว่ารูปงามเป็นหนึ่งในใต้หล้าอย่างที่ผู้คนล่ำลือ ร่างสูงกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นตึงใบหน้าผสมผสานความคมเข้มกับความงามได้อย่างลงตัวนิ่งสนิทไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย รอบกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันน่าเกรงขามแผ่ซ่านจนคนธรรมดาที่จิตใจไม่เข้มแข็งอาจเกิดอาการหวาดกลัวได้โดยง่าย
“ถวายพระพรรัชทายาท” จ้าวเฟยหลงเอ่ยคาราวะอีกฝ่ายที่มีฐานะสูงกว่าตนอย่างให้เกียรติตามมารยาทหากแต่น้ำเสียงและใบหน้าไม่ได้ต่างจากเดิม
“ชินอ๋องอย่าได้มากพิธี”
จ้าวเฟยหลงนั่งลงแล้วมองบาดแผลนอกร่มผ้ายังคงชัดเจนหากแต่แห้งสนิท จากการรายงานของซานหลิวอ้ายหยางหลงบังเอิญได้พบกับฟงเกาจั้งผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดาช่วยเหลือให้การรักษาจนอาการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและสามารถที่จะเดินทางมายังเมืองหลวงได้
“นับว่าข้าติดหนี้ท่านแล้ว หากท่านต้องการสิ่งใดจากข้าได้โปรดเอ่ยมาหากข้าสามารถหามันมาให้ท่านได้.... อ้อ ยกเว้นแคว้นอ้ายละกัน” อ้ายหยางหลงพูดด้วยน้ำเสียงติดตลกอย่างไม่เคร่งเครียดและไม่ถือสาที่บุรุษตรงหน้าแสดงอาการไม่เกรงในตำแหน่งรัชทายาทของตนเอง เขาต่างหากเล่าที่ต้องเกรงอีกอีกฝ่ายที่มีชื่อเสียงและความสามารถวรยุทธสูงส่งที่หาคนต่อสู้นับนิ้วได้แถมยังกลายเป็นผู้มีพระคุณต่อตนเองอีกด้วย
“ท่านคิดจะทำอย่างไรเมื่อกลับไปยังแคว้นอ้าย”
“คงไม่ใช่ข้าที่ต้องจัดการ” น้ำเสียงของอ้ายหยางหลงติดจะเย้ยหยัน เมื่อนึกถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมดตลอดหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เขาได้รับตำแหน่งรัชทายาทคำว่าสงบสุขก็ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาและเสด็จแม่ มิหนำซ้ำคนที่ควรจะจัดการเรื่องทั้งหมดกลับปล่อยปะละเลยหลับหูหลับตาไม่เคยจัดการขั้นเด็ดขาด กี่ครั้งแล้วที่เขาและเสด็จแม่ต้องรับมือจากคนพวกนั้นฝ่ายเดียว
จ้าวเฟยหลงปล่อยให้อีกฝ่ายดำดิ่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองส่วนเขาก็นั่งจิบชาอย่างไม่เดือดร้อนพลางคิดเรื่องอื่นๆ
“พรุ่งนี้ฝ่าบาทจะเสด็จมาพบท่านเป็นการส่วนตัว”
อ้ายหยางหลงพยักหน้ารับทราบเข้าใจดีว่าการช่วยเหลือตนครั้งนี้เป็นความลับจึงไม่สามารถเข้าเฝ้าจ้าวหมิงหลงฮ่องเต้ได้อย่างเปิดเผย
“ข้าให้คนเตรียมเรือนรับรองเอาไว้หากขาดเหลืออันใดก็บอกแก่บ่าวไพร่”
“รบกวนชินอ๋องแล้ว”
“เชิญท่านพักผ่อนตามสบายข้าขอตัวก่อน” จ้าวเฟยหลงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปทันทีเมื่อจบเรื่อง
จวนเสนาบดี
“นายท่านมีจดหมายจากชินอ๋องขอรับ” พ่อบ้านหม่าที่เข้ามาให้ห้องพร้อมยื่นจดหมายที่คนของชินอ๋องนำมาเมื่อครู่
ไป๋เจี้ยนรับจดหมายมาแล้วคลี่อ่าน ใบหน้าที่ขมวดคิ้วต่อปัญหาต่างๆมากมายหลายอย่างในช่วงนี้เริ่มคลายออกบ้างหลังจากได้อ่านจดหมายเห็นทีวันรุ่งคงต้องไปเยือนจวนชินอ๋องเพื่อสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นให้จบลงครอบครัวตนจะได้อยู่อย่างสงบเสียที
“ส่งจดหมายให้ชินอ๋องว่าข้าจะขอเข้าเฝ้ารัชทายาทอ้ายหยางหลง”
“ขอรับ”
วันรุ่งขึ้น
รถม้าคันหนึ่งแล่นเข้ามาเทียบท่าประตูวังพยัคฆ์ครามตั้งแต่ยังไม่ทันยามเฉิน (辰:chén)ดี ภายในรถม้ามีบุรุษทั้งสองของจวนเสนาบดีที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี
“อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านเสนาบดีเยี่ย ท่านรองแม่ทัพ” พ่อบ้านหย่งที่ออกมาต้อนรับเอ่ยทักทายทั้งสองที่ก้าวลงมาจากรถม้า
“อรุณสวัสดิ์พ่อบ้านหย่ง / อรุณสวัสดิ์พ่อบ้านหย่ง”
“เชิญท่านทั้งสองขอรับ”
ทั้งสองคนตามพ่อบ้านหย่งเข้ามาในวังพยัคฆ์คราม สายตาทั้งคู่มองไปรอบๆยังความอลังการกว้างขวางและงดงามของบรรยากาศรอบๆวังด้วยความสนใจ แม้กระทั้งไป๋เทียนเองก็ยังไม่เคยได้มายังที่แห่งนี้ตั้งแต่ชินอ๋องได้รับพระราชทานจากฝ่าบาท อาจกล่าวได้ว่าวังพยัคฆ์ครามแห่งนี้เทียบเท่าตำหนักฤดูร้อนของฮ่องเต้ที่เตียวหุยเลยทีเดียว
“ชินอ๋อง ท่านเสนาบดีเยี่ยไป๋เจี้ยนกับท่านรองแม่ทัพเยี่ยไป๋เทียนมาถึงแล้วพะยะค่ะ” พ่อบ้านหย่งเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งหมดอยู่หน้าเรือนหลังหนึ่งคล้ายว่าจะเป็นเรือนไว้รับรอง
“อืม” เสียงทุ้มที่ดังลอดมาจากด้านในส่งเสียงอนุญาตให้ทั้งสองคนที่รอหน้าห้องเข้าไปด้านในได้
“ถวายพระพรรัชทายาท ถวายพระพรชินอ๋องพะยะค่ะ/ ถวายพระพรรัชทายาท ถวายพระพรชินอ๋องพะยะค่ะ” ไป๋เจี้ยนและไป๋เทียนเอ่ยถวายความเคารพบุรุษสูงศักดิ์ทั้งสอง ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้มานั่งที่เก้าอี้
“ท่านคงเป็นท่านอาเขย” อ้ายหยางหลงมองคนตรงหน้าแล้วมองไปยังบุรุษอีกคนที่วัยน่าจะอ่อนกว่าตนอยู่หลายปีคาดว่าคงเป็นบุตรชายของเสด็จอาหญิงของเขา
“พะยะค่ะ”
“นี่คงเป็นไป๋เทียนสินะ”
“พะยะค่ะรัชทายาท”
“อย่ามากพิธีไปเลยเจ้าเองก็เป็นองค์ชายคนหนึ่งของแคว้นอ้ายเช่นกัน” อ้ายหยางหลงกล่าวอย่างเป็นกันเอง เขานั้นจำความได้ก็มีเสด็จอาหญิงที่คอยเป็นเพื่อนเล่นคอยดูแลเขาแทนเสด็จแม่ในหลายๆครั้งยามเมื่อเป็นเพียงองค์ชายตัวน้อย จนกระทั่งเสด็จอาหญิงต้องเดินทางมายังแคว้นจ้าวเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีก็ไม่ได้พบกันอีกเลย มีเพียงจดหมายถามไถ่กันบ้างนานๆที
“กระหม่อมอยู่ที่แคว้นจ้าวไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวเรื่องภายในแคว้นอ้ายพะยะค่ะ” ไป๋เทียนแสดงจุดยืนชัดเจนเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจว่าเขาจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจทางแคว้นอ้าย
อ้ายหยางหลงพยักหน้าอย่างเข้าใจในจุดประสงค์ของอีกฝ่ายเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้อยู่ใกล้คนที่นับได้ว่าเป็นครอบครัวตนที่แท้จริง
“ข้าขอโทษที่ทำให้ครอบครัวท่านเดือดร้อน”
“ไม่ใช่ความผิดของพระองค์พะยะค่ะ”
“แต่ถึงอย่างไรสาเหตุก็มาจากข้าอยู่ดี”
ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะได้พูดคุยเรื่องอันใดก็มีเสียงฝีเท้าจากหน้าห้องดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออก
“ถวายพระพรฝ่าบาท” ทั้งหมดลุกขึ้นแล้วทำความเคารพบุรุษผู้มาใหม่ที่อยู่ในชุดลำลองผ้าแพรเนื้อดีที่ดูเผินๆเหมือนพวกบัณฑิต
“ตามสบายเถิด” จ้าวหมิงหลงที่ลอบออกจากวังเสด็จมายังที่วังพยัคฆ์ครามนี้ก็เพราะน้องชายตนส่งคนไปบอกว่าอ้ายหยางหลงพำนักอยู่ที่วังต้องการเข้าเฝ้าเขาแต่ไม่สะดวก
“ขอบพระทัย”
“ข้าดีใจที่ท่านยังสบายดีรัชทายาทแคว้นอ้าย” จ้าวหมิงหลงที่เดินเข้ามานั่งหัวโต๊ะแทนที่ผู้เป็นรัชทายาทเอ่ยขึ้น
“ต้องขอบพระทัยฝ่าบาทที่ให้การช่วยเหลือ”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด แคว้นอ้ายและแคว้นจ้าวล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานานเรื่องใดที่ช่วยได้ก็ต้องย่อมช่วยยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วยกันทั้งสองแคว้นด้วยละก็ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องปฏิเสธ”
“แล้วท่านคิดจะกลับแคว้นอ้ายเมื่อใด”
“คงไม่เกินสามวันพะยะค่ะ” เขาเองก็ไม่อยากอยู่นานเท่าใดนักอยากกลับไปจัดการเรื่องราวทุกอย่างให้จบสิ้น งานนี้มีทั้งหลักฐานและพยานครบถ้วนหากเสด็จพ่อยังคงหลับหูหลับตาเข้าข้างอีกฝ่ายเขาคงต้องถอนตัวออกจากตำแหน่งรัชทายาทและยกให้อีกฝ่ายไปเสีย
“ข้าจะให้คนคุ้มครองจนถึงจุดหมายที่ปลอดภัย” จากนั้นทั้งหมดจึงพูดคุยกันอีกหลายเรื่องวางแผนการเดินทางกลับไปยังแคว้นอ้ายให้ปลอดภัยที่สุด ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะส่งมือสังหารมาอีกก็เป็นได้
ตำหนักชิงเทียนแคว้นอ้าย
“ฝ่าบาทท่านเสนาบดีมาแล้วพะยะค่ะ” กงกงผู้ที่ทำงานใกล้ชิดทูลต่อนายเหนือหัวของตนที่ยืนคิดอะไรอยู่ริมหน้าต่างในตำหนักชิงเทียนคนเดียว
“เชิญเข้ามา”
“ถวายพระพรฝ่าบาท” หวังฮุ่ยเซินก้มหน้าเมื่อยังไม่ได้รับอนุญาตให้ลุกขึ้น มองชายฉลองพระองค์สีทองที่อยู่ใกล้อย่างนึกหวั่นใจ
“ลุกขึ้นเถิด”
“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”
อ้ายซานเหอหันหน้ามามองคนที่เป็นบิดาของคนรักตนสายตาเต็มไปด้วยความเศร้า แต่ถึงอย่างไรเสียพระองค์ก็ตัดสินใจแล้วจึงต้องการบอกกล่าวแก่อีกฝ่ายโดยตรง
“ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง ท่านสบายดีหรือไม่”
“ด้วยพระบารมีฝ่าบาทกระหม่อมสบายดีพะยะค่ะ”
“อย่างนั้นหรือ เช่นนั้นก็ดีแล้ว”
“ที่ข้าเรียกท่านมาวันนี้ก็เรียกมาเพื่อรับทราบบางอย่าง” อ้ายซานเหอมองไปยังชายชราที่ยังคงมีแววตาเช่นเดิม แววตาที่เต็มไปด้วยความซื่อตรง ไม่เอนเอียง มองทุกอย่างด้วยความยุติธรรม สมกับตำแหน่งเสนาบดีกรมยุติธรรมที่พระองค์มอบให้
“พะยะค่ะ” เสียงชายชราสั่นเล็กน้อยเขาเองก็รู้บ้างว่าหลายปีที่ผ่านมาว่าบุตรสาวตนก่อเรื่องไม่น้อยแต่ทว่าบุรุษสูงศักดิ์ตรงหน้าก็พยายามปิดหูปิดตาลงข้างหนึ่งถึงความจริงข้อนี้ บุตรสาวตนเปลี่ยนไปจนไม่หลงเหลือความสดใส อ่อนหวาน มีแต่ความริษยาและความโกรธแค้นที่สะสมขึ้นเรื่อยๆจนไม่แม้จะฟังคำทัดทานของบิดาเช่นตน
“ฮุ่ยเจินอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับรัชทายาท” เสียงแผ่วเบาที่คล้ายไม่อยากเอ่ยลอดออกมาจากปากคนที่เป็นเจ้าครองแคว้น
“ข้าคงต้องจัดการเพื่อให้บ้านเมืองมั่นคง..... ท่านคงเข้าใจ”อ้ายซานเหอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเจ็บปวด
“กระหม่อมเข้าใจดีพะยะค่ะ ขอให้พระองค์ทรงจัดการตามความผิดที่ก่ออย่าได้เห็นแก่กระหม่อมเลย” หวังฮุ่ยเซินกล่าวกับอ้ายซานเหอฮ่องเต้ด้วยแววตาของคนที่ยอมรับการตัดสินใจและสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวตน เขาทราบดีว่าฝ่าบาททรงรู้สึกผิดกับการที่ต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้เมื่อยามเอ่ยปากขอบุตรสาวของตนหากคิดจะเอาผิดตนย่อมโดนหางเลขไปด้วย แต่เรื่องนี้มันหนักหนาเกินกว่าที่จะต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมันเกี่ยวกับอนาคตของแคว้น
“ข้าต้องขอโทษท่านที่ผิดสัญญา”
“เป็นความผิดของกระหม่อมที่ไม่สามารถสั่งสอนบุตรสาวให้ดีได้ทำให้ฝ่าบาทต้องปวดพระทัย”
“ไม่ใช่หรอกไม่ใช่ความผิดของท่าน เป็นความผิดของข้าเอง” สิ้นคำพูดทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบแล้วอ้ายซานเหอก็ให้หวังฮุ่ยเซินกลับไปเพื่อเตรียมใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

2,563 ความคิดเห็น
-
#2213 kimurakung (จากตอนที่ 17)วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 / 14:35ฮ่องเต้แคว้นอ้าย ไร้ความสามารถจริงๆ ก็ต้องรอดูกันไป#2,2130
-
#2191 Foam_Zana (จากตอนที่ 17)วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 / 23:36อยากอ่านฉากฟินๆ#2,1910
-
#2190 muay1007 (จากตอนที่ 17)วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 / 22:59อ่านตอนนี้ในกัวเต็มไปด้วยคำว่า โง่งงงงงงงงงงงงงงง เป็นฮองเต้ได้ไงคนแบบนี้ อ่านตอนนี้แล้วเพลียจิตกับคนแบบนี้มากกกก#2,1900
-
#2189 Nantanat_neung (จากตอนที่ 17)วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 / 22:28รอออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ#2,1890
-
#2188 tipanun14 (จากตอนที่ 17)วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 / 22:15ยอดเยี่ยมเลย#2,1880
-
#2187 Viwkhittayarssv (จากตอนที่ 17)วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 / 22:00รอนะคะไรท์\\^^//#2,1870
-
#222 ดิสตี้โนวา (จากตอนที่ 17)วันที่ 17 มิถุนายน 2562 / 18:51อ้าาาาาว อดอ่านเลย#2220
-
#221 Nuengsupasit (จากตอนที่ 17)วันที่ 17 มิถุนายน 2562 / 17:31ขอให้ซ่อมเสร็จเร็วๆนะคะ#2210
-
#220 Mytreasure (จากตอนที่ 17)วันที่ 17 มิถุนายน 2562 / 17:09สาธุให้น้องหายไวๆนะคะ เป็นห่วงมากค่ะตอนนี้#2200
-
#219 Karaketsukhchwy (จากตอนที่ 17)วันที่ 17 มิถุนายน 2562 / 16:42โอเคค่ะไรท์ สาธุขอให้ซ้อมเสร็จไวๆทีเถอะ และขอให้ทางศูนย์ใส่อะไหร่ดีๆให้ทนๆน่ะค่ะไรท์#2190
-
#218 lukpatu (จากตอนที่ 17)วันที่ 17 มิถุนายน 2562 / 16:41ยังรอจ้า อย่าทิ้งกันล่ะ#2180
-
#217 Veggie23 (จากตอนที่ 17)วันที่ 17 มิถุนายน 2562 / 16:02รอนะคะ :)#2170