ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic KNB || Best Part [ Kuroko × OC ] 《 END

    ลำดับตอนที่ #41 : Q38

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.2K
      141
      30 เม.ย. 63






    Q38







        เธอมองในสนาม ไม่ได้ละสายตาจากสนาม มีความรู้สึกนึงที่ทำให้รู้สึกเลยว่า ไม่มีใครในสนามที่ไม่เห็นเท็ตสึยะเลยในตอนนี้ อายากะคิดว่าตอนนี้มีคนอื่นๆที่ดูจะสนใจเงามายาของเซย์ริน



        และใช่ ทุกคนเห็นเขา เห็นเพื่อนของเธอในสนามแล้วจริงๆ



        มิสไดเร็คชั่นยังอยู่นี่นา… หรือว่าความจืดจางของเขาจะจางลงไปแล้ว?



        ลูกส่งของเท็ตสึยะถูกมองออก



        เหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้หยุดหรือใช้วิธีไหน ราคุซันก็แค่เห็นลูกส่งของเท็ตสึยะก็เลยไปแย่งบอลมาได้ ก็แค่นั้นเอง…



        แปลว่า



        เท็ตสึยะกลายเป็นดาวเด่นจนไม่อาจเป็นดั่งเงาได้อีก



        "แบบนี้นี่เอง…"โองิวาระพูดออกมาหลังจากเขาเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด 



        "ฉันคิดว่าน่าจะมีผลมาจากการที่เท็ตสึยะเริ่มชู้ตลูก และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตัวตนของเขาเปลี่ยนไปก็...คงจะเป็นลูกตัดสินในนัดที่แล้วที่แข่งกับคิเสะคุงในรอบรอง" เธออธิบายให้หนุ่มผมสีน้ำตาลฟัง เขาตั้งใจฟังที่เธอพูด



        "แบบนี้เองสินะ…"



        เงาก้าวเข้าสู่แสงแล้ว…



        และอายากะก็สัมผัสได้ถึงความช็อคของเพื่อนสนิทที่กำลังสู้อยู่ในสนาม โค้ชสาวก็เช่นกันที่เปลี่ยนตัวรุ่นพี่สึจิดะเข้าไปแทน



        และเมื่อเห็นโค้ชสาวที่ทำท่าทางให้เพื่อนสนิทไปนั่งข้างๆ อายากะก็เปิดบทสนทนาออกไปอีกครั้ง "คุณเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ โชคชะตาอะไรแบบนี้ไหมคะ?"



        "ก็นิดหน่อย"



        "สำหรับฉันคำว่าปาฏิหาริย์ก็คงเป็นเขาค่ะ"อายากะบอก "เขาเป็นปาฏิหาริย์ที่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะสู้ต่อได้"



        ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอมักจะเครียดและคิดว่าไม่มีหนทางใดที่จะชนะอยู่ตลอด



        และเขาก็เปลี่ยนทัศนคติอะไรแบบนั้นของเธอไป ด้วยตัวของเขาที่ไม่เคยยอมแพ้



        ในเวลาไม่นาน ก่อนหมดเวลาในควอเตอร์แรก สามนาทีหลังของควอเตอร์ เขาก็กลับลงสนามอีกครั้ง ถึงจะรู้สึกซีเรียสอยู่มากๆ แต่ว่าการที่โค้ชส่งเท็ตสึยะกลับลงมาก็...อาจ..อาจให้เพื่อนหนุ่มของเธอโดนเล่นงานให้เต็มที่กระมัง?



        ใช่ โดนเล่นจนน่วมเลย



        โดนดูออกหมดแทบทุกอย่าง



        กระนั้นสถานการณ์ในเกมก็ดูไม่ได้แย่เลย เพราะเราจบควอเตอร์แรกที่แต้มเสมอจากลูกสามแต้มของรุ่นพี่ฮิวงะ ทำให้คะแนน 21-21



        "คิดว่ายังไงต่อ?"



        "จากประสบการณ์โค้ชไม่น่าจะให้เท็ตสึยะลงต่อ น่าจะให้พักก่อนค่ะ"



        เวลาพักหมดลง



        แต่ว่า พอเห็นผู้ชายผมสีเงินที่เป็นรุ่นพี่ปีสามคนเดียวของราคุซันคนนั้น อายากะก็ยังรู้สึกตงิดใจอยู่ และ ยิ่งเธอเห็นสองพี่น้องอาคาชิที่ตอนพักพวกเขาดูพูดคุยกันยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่า...ราคุซันต้องกำลังคิดวางแผนอะไรบางอย่างเป็นแน่



        จะว่าไปก็นึกถึงข้อมูลที่รวบรวมมาเมื่อคืน…



        มายุสึมิ จิฮิโระ ปี 3 ตำแหน่ง PF



        ความเร็ว พลัง เทคนิค อยู่ในระดับ C



        ไม่มีท่าที่ถนัดหรือไม่ถนัด



        พึ่งมาได้เป็นตัวจริงก็หลังจากที่อาคาชิ B1 เป็นกัปตันทีม…ก่อนหน้าเป็นตัวสำรองตลอด เพราะไม่ได้อยู่ทีม A ด้วยซ้ำ 



        จะว่าไป…



        "ซวยแล้ว"



        หลังคำพูดของอายากะที่หลุดออกมาจากริมฝีปาก รุ่นพี่ปีสามคนนั้นก็หายไปจากสนามและส่งลูกที่ทุกคนคิดว่าอาคาชิ B1 ส่งพลาด



        เขาใช้มิสไดเร็คชั่น ถึงจะดูเหมือน แต่ว่า… พลังและความเร็วของคนๆนั้นดูจะสูงกว่าเพื่อนของเธอ



        ให้พูดก็คือ เงาที่อัพเดทเวอร์ชั่นแล้ว



        ให้ตายสิ มีแบบนี้ด้วยเหรอ?



        ราคุซันถือไพ่ตายแบบนี้ด้วย ไม่น่าเชื่อเลย



        และเขาก็ชู้ตเหมือนคนธรรมดา ทำแต้มได้



        ตอนนี้เราตามอยู่ที่เจ็ดแต้ม



        มีการเปลี่ยนตัวเป็นฟุริฮาตะลงมา



        สงสาร



        คำเดียวเลยว่าสงสาร



        "สงสารนะ…"



        "เหมือนกันค่ะ…"หัวเราะท้ายประโยคเสียงเบา



        "แต่ว่าผลลัพธ์ก็ไม่แย่นะคะ"



        "เป้าหมายคือไม่ให้อาคาชิใช้ดริปเบิ้ลได้สินะ?"



        "น่าจะใช่ค่ะ"



        "หมอนั้นลงมาเป็นเหยื่อล่อโดยเฉพาะสินะ?" เธอพยักหน้าตอบคำถามของเพื่อนสนิทเท็ตสึยะ "โค้ชของพวกเธอ เลือดเย็นชะมัด"



        อ่ะ ไม่เถียง



        อายากะมองผู้จัดการสาวผมแดง อาคาชิ B2 ที่เข้าไปคุยกับโค้ชของตัวเอง เธอคนนั้นทั้งพูดและแสดงมือไม้ ไม่ทันไร ทางราคุซันก็ขอเวลานอก



        ก็คือ...ตอนนี้ราคุซันคงอยากจะเบรกเกมให้ช้าลง



        "คราวนี้ทั้งสองทีมน่าจะต้องเดินเกมรุก"โองิวาระวิเคราะห์ให้เธอฟัง "และน่าจะฝากชะตากรรมไว้กับมือชู้ตของทั้งสองฝ่าย"



        พอดูที่ม้านั่ง ทางเซย์รินก็เปลี่ยนตัวจากฟุริฮาตะมาเป็นฟุคุดะ แก๊งสามช่าต้องได้เปิดตัวแล้วนะ ตอนนี้ 



        แต่ก็อย่างที่โองิวาระบอก



        ตอนนี้คือศึกของมือชู้ตที่ทั้งสองทีมต่างฝากอนาคตไว้ที่พวกเขาทั้งสองคน



        มิบุจิ เรโอะ และ ฮิวงะ จุนเปย์



        ฟอร์มของมิบุจิทั้งลื่นไหลและงดงาม



        จนดูเป็นไอดอลของหลายๆคน พวกเขาสองคนสลับกันทำแต้มในควอเตอร์ที่สอง หมัดต่อหมัด แต่ว่า…



        จากในข้อมูลที่เธอหามาเมื่อคืน



        มิบุจิที่เป็นมือชู้ตของราคุซันนั้น มีท่าไม้ตายที่ชอบใช้อยู่สองท่า ท่าแรกคือท่าชู้ตที่ฝ่ายตรงข้ามเอื้อมไปไม่ถึง สวรรค์



        ส่วนอีกท่าคือท่าที่จะเข้าปะทะกับผู้ต่อสู้ แผ่นดิน



        แต่เธอก็ไม่รู้เลยว่ายังมีอีกแบบ



        และท่าที่รุ่นพี่ฮิวงะไม่สามารถขยับตัวได้ สุญญากาศ



        "ยักษา มิบุจิ เรโอะ"



        "ฉายาเพราะมากเลยนะคะ"



        อายากะแสดงความเห็นออกไป ตายังดูมองไปที่สนามตั้งสมาธิ ตอนนี้ถ้าในศึกของมือชู้ต… และผู้ชนะก็คือมิบุจิ



        สิ่งที่เกิดขึ้นคือการหลอกล่อของมิบุจิที่ทำให้กัปตันได้ฟาล์ว จังหวะนี้ทำให้ราคุซันได้แต้มเพิ่มเป็นสี่แต้ม



        "ตอนนี้รุ่นพี่คิโยชิก็น่าจะอยากเล่นเกมรุกเหมือนกันแล้วค่ะ"



        "หมายถึงเซ็นเตอร์สินะ?"



        "ค่ะ คนในสนามน่าจะตัดสินใจเปลี่ยนมาทำแต้มจากใต้แป้นแทน"



        ราชันย์ไร้มงกุฎที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน พลังของเนบุยะน่ะ มาจากกล้ามเนื้อของเขา มันทำให้เขามีพลังมากเลยแหละ



        และดูท่าว่าจอมพลังและหัวใจเหล็กก็เริ่มการดวลกันแล้ว



        แต่ขนาดเธอยืนห่างขนาดนี้ ยังได้ยินเสียงตะโกนว่า กล้ามเนื้ออะไรออกมาทุกประโยค



        "ขนาดอยู่ตรงนี้ยังได้ยิน ในสนามก็น่าจะหูแตกเนอะ"



        บวกค่ะ



        และศึกของเซ็นเตอร์ในคราวนี้ก็รู้เลยว่ารุ่นพี่คิโยชิถูกบีบให้ส่งไปที่ฟุคุดะจากแก๊งสามช่าทำแต้ม



        วันนี้แก๊งสามช่า สองในสามลงสนามและทำแต้มให้เซย์รินได้ทั้งคู่เลยนะ ไม่ใช่เล่นๆ!



        มันก็แค่เอ่อ...คำแอบปลอบใจตัวเองน่ะ เพราะขอยอมรับตามตรงเลยว่าตอนนี้ทั้งรุ่นพี่ฮิวงะและรุ่นพี่คิโยชิ ต่างพ่ายไปแล้วทั้งคู่



        จากนั้นก็ฮายามะก็ผ่านคางามิไปทำแต้ม ดูมีทั้งพลังและความเร็ว



        เธอได้ยินคนในสนามเรียกหมอนั้นว่า อสูรสายฟ้า



        เอ่อ...ทำไม มันดูเหมือนสัตว์หายากเลยนะ



        แล้วก็อีกอย่างเลย คือ ทำให้เธอนึกถึง ปิกxาจู ปล่อยสายฟ้าแสนโวลต์เลย



        ตลกกกก



        จากนั้นมายุสึมิก็หายไปจากสายตาของอีเกิ้ลอายส์ของรุ่นพี่อิสึกิ



        "ขากับแขนของเซย์รินก็คือสองคนนั้นใช่ไหม?"



        "ค่ะ"



        "ถ้าจัดการสองคนนั้นได้ เหมือนเซย์รินเสียแขนกับขาไปเลยนะ"



        ใช่ ใช่เลย



        อายากะเปรียบรุ่นพี่คิโยชิเป็นขา กัปตันฮิวงะเป็นแขน รุ่นพี่อิสึกิเป็นตา โค้ชสาวเป็นมันสมอง



        และตอนนี้ฟุคุดะก็หมดแรงแล้ว สิ่งที่โค้ชสาวทำคือการส่งคาวาฮาระลงมา



        "ตอนนี้เซย์รินกำลังยื้อเวลาใช่ไหม?"



        "ก็ใช่ค่ะ…"



        อายากะมองโค้ชสาวที่ไหล่สั่น รู้สึกแย่จากใจจริงเลย และทุกคนคะ ในสนามตอนนี้นะคะ



        คุณเคยรู้สึกหมั่นไส้ใครเพราะเขาโชว์เหนือไหมคะ?



        อายากะขอพูดตรงๆเลยว่าเธอกำลังมีอาการนั้นค่ะ



        ลูกส่งของมายุสึมิ



        ที่ส่งให้หนุ่มผมแดงตาสองสีที่เทคตัวโดดจากพื้นขึ้นสูงทำอัลเลย์ฮูปทำแต้ม



        จ้า พ่อ จ้า



        ถึงพ่อจะไม่สูง แต่พ่อก็ทำได้เหมือนคนอื่นจ้า เชื่อจ้า เชื่อพ่อเลยจ้า



        เหมือนจะขิงกับชาวบ้านว่าเหอะ แกทำได้เหรอ ฉันก็ทำได้เหมือนกันงั้นแหละ หมั่นไส้



        "ตัวก็เตี้ยยังจะโชว์พาว"



        คำพูดของเธอทำหนุ่มผมน้ำตาลข้างๆเผลอหัวเราะ



        "กล้าพูดแบบนั้นต่อหน้าเขาไหม?"



        "แน่นอนดิ จะง้างมือด้วย"



        "หือ?"



        "หมายถึงง้างมือเตรียมพนมไหว้สวยๆกราบขออภัยที่ล่วงเกินน่ะ…"



        กะ กะ กะ กลัวที่ไหน!



        ควอเตอร์ที่สามเริ่มขึ้น อายากะไม่ได้แสดงท่าทางร้อนลน หรือ เครียดอะไรมากมาย เธอตัดสินใจมองเกมอย่างนิ่งขึ้น ถ้าเทียบกับทุกครั้ง ตอนนี้เปิดมาเซย์รินก็เริ่มทำแต้มด้วยสามแต้ม



        แต่เพราะเป็นสองพี่น้องตัวอันตราย เธอเลยไม่รู้สึกมั่นใจเท่าไรว่าจะชนะ อายากะคิดว่า...ถ้าตัวเองเป็นราคุซันเธอจะทำอะไร



        "ถ้าโองิวาระคุงเป็นราคุซันจะทำยังไงเหรอคะ?"



        เขาไม่ได้ตอบในทันที เขาใช้เวลาสักครู่ "ก็คงจะจัดการมือชู้ตกับเอสก่อนมั้ง?"



        งั้นก็…



        ใช่ ใช่แน่ๆ



        เพราะตอนนี้รุ่นพี่ฮิวงะได้ฟาล์วจากมิบุจิ เป็นการฟาล์วครั้งที่สาม และ เขาก็ทะเลาะกับกรรมการ อายากะค่อยๆกำมือแน่น เมื่อเห็นรุ่นพี่เถียงกรรมการ จนกรรมการให้ฟาล์วครั้งที่สี่



        มันก็แค่...ก็แค่อยากชนะ



        ใช่ รุ่นพี่ก็แค่อยากชนะเท่านั้นเอง



        "จริงๆ เธอเชื่อไหมว่าตอนนี้ ตัวฉันคิดว่าเซย์รินไม่มีทางเลยที่จะชนะได้"



        "แต่ฉันก็ยังเชื่อค่ะ"



        "ทำไม?"



        "นั้นสิน้า…"เธอลากเสียง "อาจเป็นเพราะฉันอยู่ในทีมที่มีลูกบ้า มีแรงฮึดบ้าๆตลอดเวลามั้งคะ? เลยรู้สึกว่าอะไรที่เป็นไปไม่ได้ มันมักจะเป็นไปได้ตลอดเลย"



        ใช่ ตั้งแต่อยู่ที่นี้ ตั้งแต่เจอเท็ตสึยะ เธอก็เชื่อเสมอ เชื่อมาตลอดเลย



        โองิวาระหัวเราะเบาๆ "ตอนฉันแข่งรอบชิงกับเทย์โคตอนม.ต้น ฉันบอกกับตัวเองว่าเทพีแห่งชัยชนะจะยิ้มให้คนที่ไม่มีวันยอมแพ้เสมอนะ"



        อายากะพยักหน้ารับ มองเซย์รินที่ขอเวลานอก จิตใจของพวกเขาจะย่ำแย่แค่ไหนนะ… แต่ว่า…



        เพื่อนของเธอ จุดมุ่งหมายของเขา...ตอนที่เขาเขียนจุดมุ่งหมายของเขาลงบนสนาม



        จะเป็นที่หนึ่งของญี่ปุ่น



        "เธอรู้ใช่ไหมว่าบาสเป็นกีฬาที่แต้มห่างกันมาก มันจะยิ่งน่าเบื่อ…"



        อายากะมองหน้าเจ้าของคำพูด "แต่มันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้แพ้ที่ไม่มีใจจะสู้ค่ะ"



        เมื่อหันกลับมามองสนาม เงาของเซย์ริน...ก็เดินกลับสู่สนามแล้ว แม้ว่า แม้ว่า



        เขาจะร้องไห้ก็ตาม



        เจ็บที่ใจเลยแหะ พอเห็นน้ำตาของเขา



        "นี่? เธอจะร้องไห้เหรอ?"



        อ่า...อายากะไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าน้ำตามันล้นขอบตาจนไหลออกมาจากตาสีทับทิมแล้ว ไม่ใช่เพราะโกรธ เสียใจ หรือ ผิดหวัง



        แต่มันเพราะมีความหวัง มีหวังว่าจะชนะต่างหาก



        เมื่อสองเงาจากราคุซันและเซย์รินเจอกัน ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่คุณมายุสึมิจะชนะในการดวลครั้งนี้



        หรือว่า!



        "ฉันรู้แล้วค่ะ! ฉันรู้แล้ว!"



        "หือ?"



        "โองิวาระคุงคิดว่าถ้าเราชู้ตต่อไปเรื่อยๆทุกลูก...จะเป็นยังไงเหรอคะ?"



        อีกฝ่ายเริ่มใช้ความคิด "ก็คงจะ...เด่นขึ้นมา!"



        ใช่ และคำตอบของข้อนี้คือการทำให้ปีสามที่อยู่ในสนามคนเดียวตอนนี้โดดเด่นกว่าตัวเอง แค่นั้นเอง



        เพราะตอนนี้เกมเปลี่ยนไปแล้ว



        เท็ตสึยะกลับไปจืดจางกว่า จนสามารถใช้มิสไดเร็คชั่นได้



        และมันก็ทำให้คู่หูของเขาสามารถเข้าโซนไปได้หลังจากเงาได้จุดแสงแห่งความหวังขึ้นมา



        แสงที่จะสานต่อความหวังของเซย์ริน จนอาคาชิคนนั้นไม่กล้าที่จะเข้าปะทะ



        แรงกดดันและสัญชาตญาณ



        เธอเห็นสาวผมแดงที่ม้านั่งแสดงท่าทางร้อนรนออกมา



        และที่ทำให้อายากะรู้สึกแอบสะใจขึ้นมา คือการทำตามสัญชาตญาณของมายุสึมิ



        เลือดเย็นจังเลยนะ เท็ตสึยะ



        ตอกฝาโลงรุ่นพี่ปีสามคนนั้นแรงมาก…



        การยอมเป็นแค่เงา



        พูดง่าย



        แต่จะทำยาก



        การที่จะเป็นแค่เงา...คำพูดนี้ พอคิดดูแล้ว ตอนนั้นเธอก็นึกหัวเราะเพื่อนสนิทสินะ



        เพราะผมเป็นเงา



        คำพูดนั้น พอนึกถึงก็ตลกดี



        เราผ่านอะไรกันมาเยอะเหมือนกันเลยนะ



        อายากะยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนสนิทกลับมาจืดจางเหมือนเดิม ก่อนรอยยิ้มจะค่อยๆหุบลงเมื่อได้ยินคำพูดของคนข้างๆ



        "คุโรโกะกลับมาจืดจางแบบนี้ คงไม่ต้องเสียเวลาหวงแล้วใช่ไหม?"



        มายอกย้อน!



        นิสัย!!!






    |||||


    วันนี้มาช้าหน่อยนะคะ แง

    พอดีตอนแรกมาววเขียนจบแล้ว

    แต่รู้สึกมันยังไม่ถูกใจเลยลบแก้ใหม่ไปสามรอบเลยค่ะ 5555

    เพราะเป็นแมตช์สุดท้าย มาววเลยอยากจะเน้นเกมมากกว่าความสวีท กุ๊กกิ๊ก ซึ่งนัดนี้ไม่มีการสวีทแน่ๆ เพราะไว้ปล่อยโบ้มเป็นระเบิดทีเดียวค่ะ 555555

    แล้วก็เพราะเป็นแมตช์สุดท้าย มาววยิ่งอยากจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป แสดงรายละเอียดออกมาให้มาไปทีละขั้น ส่วนนึงเพราะในเมะ แมตช์นี้ยาวสุดเลยค่ะ ลากยาวตั้งแต่ประมาณ 17-25 จะเอามาย่อฉึบฉับก็รู้สึกไม่ดีเท่าไร


    และได้เห็นมุมมองของน้องอายะที่มีต่อบาสใหม่ด้วย

    ถ้าจำได้ เราจะเห็นเธอเชียร์สุดใจ มีรีแอคชั่นที่ไม่ได้นิ่งเหมือนตอนนี้ ซึ่งมันต่างออกไปจากเมื่อก่อน เพราะความนิ่งที่เพิ่มขึ้น ได้ประสบการณ์จากการดูมากขึ้นค่ะ 


    และเหนือสิ่งอื่นใด ยัยน้องก็แอบแซะนายน้อยนะคะ อุแง 555

    สารภาพว่าเพราะเปงเมนพี่มายุ มาววเลยจะเอ็นดูพี่เขาเป็นพิเศษนิสนึง--- อะฮึ่ม ตอนนี้ถ้าเทียบกับอนิเมะ คือ ถึง Ss.3 ตอนที่ 20 นะคะ


    สำหรับวันนี้ขอขอบคุณทุกๆคน และรักเช่นเคยค่ะ

    ราตรีสวัสดิ์นะคะ!






    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×