คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ARC 2 :: 16. [ Develop a passion for learning. If you do, you will never cease to grow ] || 100%
o n l y u | fanfic bnha
midoriya izuku x shiori sachita (oc)
ARC 2 :: 16. [ Develop a passion for learning. If you do, you will never cease to grow ] || 100%
ช่อดอกคาร์เนชั่นถูกวางไว้หลังการทำความเคารพต่อหลุมศพที่หินอ่อนสลักชื่อของผู้เป็นแม่เอาไว้ - ซาจิตะค่อยๆยันตัวลุกขึ้น บอกลาหลุมศพที่ตนเคารพและเดินห่างไกลออกมา
ชีวิตคน...แสนสั้น
พอได้เจอกับคนใกล้ตัว เด็กสาวที่เป็นเด็กหญิงในวันวานถึงได้รู้ว่าการจากลามันรวดเร็วเพียงใด พอได้เจอกับตัวถึงได้รู้ว่าความน่ากลัวของการสูญเสียมันไม่เคยดีเลยสักครั้ง
หลังเหตุการณ์ USJ ซาจิตะยังคงเห็นภาพที่พ่อบุญธรรมถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา โดยที่ร่างกายของหล่อนมิอาจขยับตรงเข้าไปห้ามทัพได้ทัน ภาพนั้นเป็นภาพที่ปรากฎในความฝันเมื่อเข้าสู่เวลานอน
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดของตัวเอง ฝีเท้าหยุดเคลื่อนไหว หันกลับไปยังหลุมศพที่คุ้นเคย เผลอขยับริมฝีปากยิ้มออกมาบางๆ ยามที่นึกถึงใบหน้าของผู้หญิงที่รักที่สุดบนโลกใบนี้ - ความคิดถึงอีกฝ่ายยังคงล้นเอ่ออยู่เสมอ
ไม่มีคำพูดใดๆ
มีเพียงรอยยิ้มที่ให้ไปในครั้งสุดท้าย
สักวันจะเจอกันอีกครั้ง - แต่แค่ยังไม่ใช่ตอนนี้
เธอหันหลังกลับ วันนี้พ่อบุญธรรมจะกลับบ้านหลังออกจากโรงพยาบาลที่เข้าทำการรักษาโดยพรีเซนท์ไมค์กับมิดไนท์สองฮีโร่เพื่อนสนิทจะพาเขามาส่งที่บ้าน ซาจิตะตัดสินใจแวะตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับอาหารเย็น - มือขยับล้วงไปในกระเป๋ากระโปรงที่สวมอ่านโน้ตที่ตนเขียนเอาไว้ว่าตัวเองต้องการอะไรบ้าง
ใช้เวลาสักพักในการซื้อของ เด็กสาวนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนไล่สายตาเช็คของในกระเป๋าผ้าที่ตนพกมาด้วยขณะที่เดินไปตามทางฟุตบาท ก่อนที่จะชะงักหลังการปะทะกันระหว่างร่างกายของเธอกับอีกฝ่ายที่เดินสวนมา ซาจิตะเซเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นล้ม
"ขอโทษนะคะ"
เธอก้มหัวเล็กน้อยขอโทษเพราะรู้ตัวว่าตนเป็นฝ่ายผิดที่ไม่ได้มองทางให้ดี เมื่อเงยหน้ามาก็พบว่าเจ้าของลูกแก้วสีม่วงมองตรงมาทางเธอ ก่อนจะโบกไม้โบกมือเป็นเชิงไม่เป็นอะไร เมื่อเห็นแบบนั้นซาจิก็ตัดสินใจเดินผ่านไปในทันทีเพื่อตรงกลับบ้านของตนเอง
ใบหน้าเฉื่อยชาดูเรียบเฉยมองแผ่นหลังของเธอที่เดินห่างออกมา คลับคล้ายคลับคลารู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับเด็กสาวที่เดินผ่านไป รู้สึกเหมือนเคยเห็นเธอที่ไหน - ไม่สิ ชินโซ ฮิโตชิ คิดว่าตนเคยเห็นเธอเดินผ่านไปผ่านมาในโรงเรียนเดียวกัน
อาจเคยเห็นผ่านๆในยูเอย์
เขาสรุปแบบนั้น
หลังกลับถึงบ้าน ซาจิตะก็ทำอาหารเย็นเพื่อรอต้อนรับพ่อบุญธรรมกลับบ้านรวมถึงทำให้แขกอีกสองคนด้วย เด็กสาวม.ปลายสวมผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อน ดวงตาจับจ้องไปยังเนื้อหมูชุบแป้งทอดที่กำลังทอดอยู่ในกะทะ ซาจิตะจัดสำรับไว้สำหรับสี่คน ทั้งหมูทอด ข้าวสวยที่หุงเอาไว้ ซุปมิโซะ สลัดผักสด และเครื่องเคียงชุดผักดองที่เตรียม เด็กสาวตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะจัดอาหารลงจาน
เสียงของออดประตูบ้านดังหลังจัดจานสุดท้ายลงกับโต๊ะ ซาจิขยับตัวตรงไปเปิดประตู ยิ้มออกมาบางๆยามเห็นทั้งสามคน
อาจเพราะเปิดประตูค้างนานไปและไม่ได้พูดในสิ่งที่ควรพูด พ่อบุญธรรมที่หน้าตาพันด้วยผ้าพันแผลจึงเอ่ยทักขึ้นมา
"กลับมาแล้ว"
เธอยังคงเงียบ และทำให้ไอซาวะ โชตะต้องพูดต่อ "ถ้าได้ยินแบบนี้ต้องพูดอะไรต่อ"
ซาจิรู้สึกดีใจที่ได้เจออีกฝ่ายจนทำตัวไม่ถูกเท่าไรนัก เด็กสาวม.ปลายยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ ป๊ะป๋า"
เด็กสาวเชิญแขกอีกสองคนเข้ามาในบ้าน เชิญให้ทานข้าวเย็นร่วมกัน บรรยากาศของโต๊ะอาหารค่อนข้างสบายๆ ผู้ใหญ่สามคนตรงนี้ไม่ได้อยู่ในสถานะอาจารย์หรือโปรฮีโร่ แต่เสมือนครอบครัวหนึ่งของซาจิ
ยามาดะซังหยอกล้อพ่อบุญธรรมขณะที่คายามะซังคอยเอ่ยชมอาหารและชวนซาจิคุยถึงเรื่องต่างๆ
"เวลาผ่านมานานแล้วเหมือนกันเลยน้า"
หญิงสาวผมสีดำบอก "ตอนนั้นยังตัวเล็กอยู่เลย ดูตอนนี้สิ โตเป็นสาวแล้ว ซาจิตะจังน่ะ" ว่าพลางบิดตัวไปมา ทำเอาผู้ปกครองถึงขั้นนปรายตามา
"มันขนลุก เก็บอาการหน่อย"
"แหม ก็วัยหนุ่มสาวก็แบบนี้ไม่ใช่รึไง!?"
เสียงหัวเราะจากหนุ่มผมทองทรงสูงหัวเราะตามบทสนา "หวงลูกสาวจังนะเนี่ย"
"กลับบ้านไปได้เลย"
เจ้าของบ้านไล่ส่งแขก บรรยากาศบนโต๊ะอาหารผ่อนคลาย หละงผ่านมื้ออาหารไป ซาจิตัดสินใจเป็นฝ่ายเก็บโต๊ะเอง ขณะที่ผู้ใหญ่สามคนไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น เขาพูดถึงอาการของพ่อเธอและเรื่องทั่วๆไป
ระหว่างที่กำลังล้างจาน เสียงของโทรทัศน์จากห้องนั่งเล่นก็ดังแว่วผ่านมา ซาจิตะฟังบ้างไม่ฟังบ้าง
"รายงานข่าววันนี้นะคะ - โปรฮีโร่เรเนสเม่กลับมาปฏิบัติหน้าที่และออกสื่อต่อสังคมอีกครั้ง หลังจากที่พักการออกสื่อมาเป็นเวลานาน"
มือที่กำลังล้างจานชะงักไป ซาจิลดความแรงของน้ำจากก๊อกน้ำลง เพื่อฟังเนื้อความของข่าว
"เป็นอย่างที่เรารู้กันดีนะคะ เรเนสเม่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของเธอมาตลอดเวลา แต่เพียงเธอไม่ให้และไม่รับการสัมภาษณ์ใดๆจากสื่อ รวมถึงฮีโร่ในสังกัดของเธอก็เช่นกัน - วันนี้จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่เรียกได้ว่าค่อนข้างฮือฮาในวงการนี้เลยค่ะ"
โปรฮีโร่เรเนสเม่ - จุดสูงสุดจุดหนึ่งของวงการฮีโร่ ในฐานะฮีโร่สายแพทย์พยาบาล หญิงสาวที่มีใบหน้าเย็นชา ฉลาด สุขุม ทั้งยังพ่วงด้วยตำแหน่งอดีตภรรยาของสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ เธอมีคอนเนคชั่นกับโรงพยาบาลทั่วญี่ปุ่นเพื่อติดต่อประสาน ควบคุมและกระจายการรักษาผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ
อาจด้วยนิสัยส่วนตัวหรืออะไรต่างๆ ชื่อของเธอจึงไม่ได้อยู่ในชาร์ตอันดับของฮีโร่ แต่ถึงแบบนั้นในฐานะพลเมือง หรือ ฮีโร่ มีคนมากมายที่นับถือเรเนสเม่
เมื่อการนำเสนอข่าวของฮีโร่หญิงจบเพียงเท่านั้น ซาจิตะก็ล้างจานของเธอต่อไป ในหัวของเด็กสาวอัตลักษณ์ยายังคงนึกถึงเหตุการณ์ที่ USJ
ถ้าแข็งแกร่งกว่านี้ - ตัวเธอคงจะไม่สั่น
ถ้าแข็งแกร่งกว่านี้ - อาจทำอะไรได้มากกว่านี้
มากกว่าต้องรู้สึกกลัว
เธอคิดอย่างจริงจังกับเรื่องนี้ คิดมาหลายคืนก่อนจะหลับตาฝันถึงเหตุการณ์เดิมที่เกิดขึ้นมาไม่นาน วันที่ของเหลวกลิ่สนิมอาบใบหน้าของพ่อ รวมไปถึงผ้าพันแผลที่ปรากฎพันใบหน้าของไอซาวะ โชตะ มันยิ่งตอกย้ำถึงความอ่อนแอของตัวเอง
เพราะฉะนั้นจะต้องไปให้ไกลกว่านี้ให้ได้
เวลาล่วงเลยไป ซาจิตะล้างจานเสร็จ เพื่อนร่วมงานของพ่อทั้งสองคนก็กลับไป เมื่อเจ้าของบ้านนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ซาจิก็ตัดสินใจรวบรวมคำพูดและความตั้งใจตรงเข้าไปหา
"พ่อคะ"
เธอเรียกเขา - ร่างกายของเขาขยับหันมาหา ซาจิตะนั่งลงคุกเข่าข้างๆโซฟา มองใบหน้าที่มีผ้าพันแผลพันปกปิดใบหน้า ลูกสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
ตัดสินใจมาแล้ว
คิดมาอย่างดีแล้ว
ไม่มีทางเสียใจทีหลัง
แต่จะเสียใจที่สุดหากไม่ได้ทำมัน
"ศิลปะการต่อสู้แบบอีเรเซอร์เฮด ช่วยกรุณาสอนหนูทีเถอะนะคะ"
ร่างกายขยับ เธออยู่ในท่าขอร้อง หัวของเด็กสาวก้มลงติดพื้น
"การใช้ผ้าจับกุม ให้หนูฝึกมันทีเถอะนะคะ"
ซาจิตะร้องขอ
อยากก้าวไปข้างหน้ามากกว่านี้
ไม่อยากรู้สึกจมอยู่กับรอยเท้าเดิมที่ย่ำกับที่ของตัวเอง
เพื่อให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น แข็งแกร่งขึ้น
และไม่หวาดกลัวกับสิ่งที่ต้องเจอ
ให้สิ่งที่ได้รับมา ให้ความแข็งแกร่งที่ได้รับช่วยค้ำจุนความรู้สึกไม่ให้ดิ่งลงกับความสิ้นหวังในใจของตนเอง
[ 50% ]
วันนั้นซาจิตะถูกปัดปฏิเสธไปตามด้วยคำบอกให้เข้านอน เพราะพรุ่งนี้ก็จะต้องไปเรียน เมื่อเข้านอนจนตื่นมาในยามเช้าของอีกวัน - พ่อบุญธรรมนั่งดื่มกาแฟพร้อมทานขนมปังปิ้ง
"คุยกันก่อนสิ ซาจิ"
เขาเรียกเธอ เด็กสาวที่กำลังงับขนมปังปิ้งราดแยมส้มทานคู่กับนมต้องเงยมองหน้าที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล เด็กสาวผมสั้นแสดงสีหน้าวิตกครู่หนึ่ง ท่าทางแบบนั้นทำให้ฮีโร่ใต้ดินค่อยๆพ่นลมหายใจและเอ่ยถาม
ถึงสิ่งที่เธอตัดสินใจขอร้อง
"ทำไมถึงอยากเรียนล่ะ?"
หัวใจของซาจิตะสั่นเมื่อได้ยินคำถาม ส่วนหนึ่งเพราะมันเป็นคำถามที่ชวนให้รู้สึกว่าเป็นคำถามที่ไม่ได้ถามเธอ ไม่ได้ต้อวการคำตอบจากอะไรมากไปกว่าคำตอบในหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ ตาสีฟ้าอ่อนกะพริบตาครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆเอ่ยปากตอบ
"เพราะ...ว่ามันเป็นความหมาย"
ซาจิพยายามไม่รีบ
"หนูเชื่อมาตลอดว่าการตั้งใจเรียนรู้ ปรารถนาที่จะเรียนรู้...จะทำให้ทุกอย่างสำเร็จ อย่างน้อยถ้าไม่สำเร็จก็จะพัฒนาตนเอง และคนที่ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ จะต้องพัฒนาขึ้นไปให้ได้" เธอบอกผลลัพธ์ของการจะทำสิ่งนั้น "ที่ผ่านมา ความจริงขิงโลกตอกย้ำหนูหลายๆครั้งเลย"
ว่าโลกนี้ - อัตลักษณ์ที่ไม่แข็งแกร่งจะต้องพยายามกว่าคนอื่น
"วันนั้น…." ซาจิสูดลมหายใจ "ตอนที่ป๊ะป๋าถูกทำร้าย หนูถามตัวเองว่าถ้าหนูแข็งแกร่งกว่านี้ - หนูจะช่วยป๊ะป๋าได้ไหมนะ ป๊ะป๋าจะไม่เจ็บรึเปล่า"
หัวใจของลูกสาว
ความรู้สึกห่วงใย ความรักที่บริสุทธิ์และมีแต่ความหวังดี
ไอซาวะสูดลมหายใจ เขาลุกขึ้นเดินมาก่อนจะวางมือลงบนกลุ่มผมสีเทา พลางยีมันจนแอบยุ่งเหยิงขึ้นเล็กน้อย ซาจิตัวแข็งทื่อ ขณะที่เขาค่อยๆพูดด้วยเสียงราบเรียบของตนเองดั่งเช่นเคย
"อย่าเสียใจเลย - นั่นมันไม่ใช่หน้าที่หรือความรับผิดชอบของเธอเลย"
เขาเป็นผู้ใหญ่
เขาปกป้องลูกศิษย์
ปกป้องทุกคน
ปกป้องลูกสาวมันก็คือหน้าที่
"ป๊ะป๋า…"
"เย็นนี้การฝึกครั้งแรกจะเริ่มฝึกแบบพื้นฐานง่ายๆก่อน - กลับบ้าน อย่าเถลไถลที่ไหน"
มันคือคำตกลง
ข้อตกลงของเธอถูกตอบรับ
คาบโฮมรูมของห้อง 1-A เริ่มขึ้นหลังจากทุกคนนั่งประจำที่ โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษายืนอยู่หน้าชั้นด้วยสภาพที่ชวนให้นักเรียนเป็นห่วง
"เรื่องอาการของฉันน่ะ ช่างหัวมันไปเถอะ"
คนเป็นผู้ใหญ่บอกปัดไป "ที่สำคัญคือการต่อสู้มันยังไม่จบ"
เพียงประโยคนั้นก็ทำให้ปฏิกิริยาของคนในห้องไปในทางหวาดหวั่นขึ้นมา
"การต่อสู้?"
"หรือว่า…"
"ยังจะมีวิลเลินอีกเหรอ?!!"
แหม พูดเรียงกันไปตั้งแต่บาคุโก มิโดริยะ มิเนตะไปเป็นแถว ขณะที่เธอหันกลับมาฟังคนที่ยังมีอาการบาดเจ็บพูดต่อ
"เพราะงานกีฬายูเอย์เข้ามาแล้ว!"
บทจะมาเป็นโรงเรียนธรรมดาทั่วไปก็มาได้อย่างง่ายดาย
"กีฬา กีฬา!"ริทสึกะดูสนอกสนใจและกระตือรือร้นขึ้นมา "เป็นยาวิเศษ ห้าไร่! ห้าไร่!"
อ อะไรของหล่อนกัน
"เดี๋ยวสิ พึ่งโดนวิลเลินบุกไปหมาดๆเองนะ!"
มันก็จริง
"การจัดงานจะจัดขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าการดูแลความปลอดภัยของยูเอย์ยังมั่นคง รู้สึกจะคิดแบบนี้กันนะ เห็นว่าจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยเป็นห้าเท่าของทุกปี และเหนือสิ่งอื่นใดพวกเธอก็คงรู้กันดีว่างานกีฬาของยูเอย์เป็นโอกาสครั้งที่สำคัญที่สุด"
งานกีฬาที่เป็นอีเวนท์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น
งานที่สามารถยกมาแทนที่งานโอลิมปิกได้
อีกทั้งยังมีแมวมองมาคอยจับตาดู
เพื่อหาเด็กที่จะเป็นฮีโร่อนาคตรุ่ง
"แน่นอน ถ้าได้เข้าในสำนักงานที่มีชื่อเสียง ค่าประสบการณ์ โอกาสมีชื่อเสียงย่อมสูงกว่า พวกเธอมีเวลานั้นอย่างจำกัด ถ้ามือโปรเห็นว่าเธอมีแวว ก็เท่ากับได้ปูทางอนาคตตั้งแต่แรก" อาจารย์ที่ปรึกษาบอกเล่า - ตัวเขาผ่านประสบการณ์พวกนี้มาจนสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างที่เนื้อความไม่ได้ถูกบิดเบือนไป
" 1 ปีมีครั้งเดียว โอกาสรวมมี 3 ครั้ง ถ้าพวกเธออยากจะเป็นฮีโร่นี่เป็นงานที่พวกเธอพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด"
คิดมาตลอดอยู่แล้ว
ว่าถ้าเข้ามาเรียนที่นี่ - ถ้าได้มีโอกาสเข้าร่วมงานกีฬา
เธออยากจะไปที่ไหน
ซาจิตะไม่ได้ต้องการขึ้นเป็นท็อป
ไม่ได้ต้องการขึ้นไปเหนือกว่าใครๆ
แต่…
สำนักงานของเรเนสเม่ - สถานที่ที่เดียวเท่านั้น ที่เธอจะต้องเข้าไปให้ได้
ดวงตาสีฟ้าไล่สายตามองไปทั่วห้อง สายตาของแต่ละคน รวมไปถึงสายตาของอิซึคุที่ผสานเข้าด้วยกันกับสายตาของเธออย่างพอดิบพอดี เราสบตากัน ก่อนที่ซาจิตะจะกระตุกยิ้มมุมปากให้ไปเป็นเชิงให้กำลังใจ
เธอคิดว่าเขาทำได้
ไม่ต้องห่วงอะไร - งานกีฬา เขาจะทำผลงานได้ดีอย่างแน่นอน
เพราะเขาจะต้องบอกโลกใบนี้
ว่าเขามาแล้ว
มันเป็นสิ่งที่เขารับสืบทอดมา
เวลาจะผ่านไปเรื่อยๆ ช่วงนี้ทุกคนล้วนเดินหน้าไปตามโปรแกรมการฝึกของแต่ละคน ซาจิจะเองก็เช่นกัน เธอใช้เวลาในช่วงกลางวันในการคลุกอยู่ในห้องพยาบาลกับรีคัพเวอร์รี่เกิร์ล เพื่อขอการอนุญาตรับหน้าที่เป็นพยาบาลสนามในการประลองในกรณีที่ไม่ต้องถึงขั้นส่งมาห้องพยาบาล หรือ รับหน้าที่ช่วยเยียวยาอาการบาดเจ็บก่อนจะส่งตัวผู้บาดเจ็บมาที่ห้องพยาบาล
ขณะเดียวกันก็ศึกษาสารเคมีบางชนิดที่กินได้ เพื่อรับคุณสมบัติของสารนั้นมาใช้ - พอตกเข้าช่วงเย็น ซาจิตะก็กลับบ้านไปฝึกการใช้ผ้าจับกุมรวมถึงการฝึกฝนร่างกายกับครูพิเศษของเธอ
พวกเรารับรู้ว่านอกจากพวกเรา ทั้งห้อง 1-B และ แผนกอื่นๆต่างก็ร่วมลงประลองในงานกีฬา คำพูดของเด็กหนุ่มห้อง C จากแผนกสามัญคนนั้นยังคงฝังใจของซาจิตะไม่น้อย - คำพูดท้าทายที่ได้รับ นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ยิ่งทำให้ทุกคนพยายามมากกว่าเดิม
เย็นนี้ก็เป็นดั่งเช่นเคย ซาจิลุกจากที่นั่งประจำของตัวเอง เอ่ยบอกลาทุกคนในห้อง
"กลับก่อนนะ"
"ชิโอริคุง! กลับดีๆนะ!"
หัวหน้าห้องเป็นฝ่ายบอกเธอ ซาจิพยักหน้ารับอีดะคงจะไปวิ่งเหมือนเดิมเป็นแน่ ขณะที่เธอเปิดประตูออกจาห้องมา เมื่อเหลือบมองไปข้างหลังก็พบว่าเจ้าของผมสีเขียวเข้มก็ก้าวเท้าตามออกมา
"ซัจจัง ผมขอกลับด้วยนะครับ"
เราไม่ได้กลับมาด้วยกันสักพักแล้ว
เด็กสาวคลี่ยิ้ม "อื้อ"
เราเดินลงจากอาคารตรงไปยังตู้เก็บรองเท้าประจำของตัวเอง เด็กสาวหยิบรองเท้าออกจากตู้ สวมมันอย่างคล่องแคล่วแล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายที่รออยู่
ทางกลับคือสถานีรถไฟฟ้า
"ไม่ได้กลับกันมาสักพักเลยนะครับ"
รอยยิ้มจากอีกฝ่ายถูกส่งออกมาหา ซาจิพยักหน้ารับเชื่องช้า "สักพักเลย"
"เป็นยังไงบ้างเหรอครับ ทางซัจจัง…"
"อื้ม...ก็ไม่เลวร้าย"
ล่าสุดเธอพึ่งได้รับใบอนุญาตจากรีคัพเวอร์รี่เกิร์ลแล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถติดเข้าไปในรอบการประลองตัวต่อตัว หน้าที่ของเธอก็ยังคงดำเนินต่อไป และ ซาจิตะก็หวังว่าสำนักงานฮีโร่จะเห็นแววของเธอและพร้อมสนับสนุน
แต่ไม่บอกเขาหรอก
ความลับ
"แล้วคุณล่ะคะ?"
"ทางผมก็โอเคดีครับ"
เขาดูกังวลแบบทุกครั้ง - เป็นตัวเขาที่มักจะแบกความกังวลไว้กับตัวเสมอ
พรุ่งนี้ก็งานกีฬา
ไม่แปลกที่จะกังวล
"อย่ากังวลไปเลยค่ะ"
เธอพูดพลางพ่นลมหายใจ
"เวลาคนเราเครียดกังวล เราจะทำอะไรออกมาไม่ดีนะคะ"
ซาจิตะคิดว่าอิซึคุรู้แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้จะจัดการกับอารมณ์พวกนั้นอย่างไร
สถานีรถไฟ หลังจากรอรถไม่นาน พวกเราก็ได้ขึ้นมาพร้อมได้จับจองที่นั่งข้างๆกัน ซาจิตะใช้ชีวิตเหมือนทุกวัน เธอเปิดหนังสืออ่าน แต่คราวนี้เป็นวิชาเคมีไม่ใช่วิชาชีววิทยาที่ตัวเองมักจะเปิดอ่าน
สายตาของเธอเหลือบมองไป
เขายังคงเครียด
"อิซึคุ"
"ค ครับ!?"
"อย่ากังวลมากเลยนะคะ"
ละมือจากหนังสือที่อ่าน ละจากการท่องจำสิ่งที่จะต้องทำ - ซาจิตะขยับมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าของตน หยิบโทรศัพท์มือถือที่ขอบจอยังคงแตกขึ้นมา เปิดกล้องถ่ายรูปขึ้นมาหันไปทางอีกคน
"ซ ซัจจังจะทำอะไรกันครับ?"
"ยิ้มสิคะ"
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิ "เวลาถ่ายรูปต้องยิ้มสิ"
พอได้ยินแบบนั้นจากปากของเธอ คนที่ตื่นตูมก็ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา ซาจิคุมนิ้วมือให้นิ่งและถ่ายรูปในจังหวะที่รอยยิ้มฝืนๆเริ่มเป็นรอยยิ้มธรรมชาติ เมื่อถ่ายเสร็จ เด็กสาวหันรูปอีกฝ่ายให้เจ้าของรูปดู
คนเห็นรูปนิ่งไป
เธอพูดด้วยความจริงจัง
"สำหรับฉัน - เวลาคุณยิ้ม คุณดูดีมากเลยนะคะ"
ตาสีมรกตค่อยๆเบิกตากว้างขึ้น
"คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่ได้ แต่ว่าฮีโร่ที่ไม่เท่ที่มีรอยยิ้มและช่วยเหลือคนอื่นด้วยความสุขเสมอ มันสุดยอดมากกว่าฮีโร่ที่กังวลนะคะ - เพราะฉะนั้นยิ้มเถอะนะ"
อิซึคุแอบคิดว่าซัจจังมีพลังพิเศษ
คำพูดของซัจจังมันมีพลัง - อิซึคุสรุปแบบนั้น
"ข ขอบคุณครับ"
เป็นอีกครั้ง
ที่ซัจจังช่วยเขา
ช่วยเขาขึ้นมาจากความรู้สึกที่เขาเผชิญ
เป็นซัจจังที่สุดยอด
เขายิ้มออกไป
"ขอบคุณจริงๆครับ"
คนได้รับคำขอบคุณขยับอีกครั้งคราวนี้เธอหยิบหูฟังบลูทูธของตัวเองออกมา เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ซาจิตะสวมหูฟังลงบนหูข้างขวาและยื่นหูฟังข้างซ้ายของเธอให้เขาสวม
"เพลงเพราะนะคะ"
เธอบอกไปก่อนจะปล่อยให้ทำนองและเสียงเพลงขับกล่อมจิตใจของตัวเธอและอิซึคุ
君と未来を盗み描く 捻りのないストーリーを ( จะแอบวาดอนาคตที่อยู่ด้วยกันกับเธอ ให้เป็นเรื่องราวที่ไม่แปรผัน )
ท่อนสุดท้ายของเพลงจบลง
และเราก็แยกกันหลังถึงจุดหมาย
โบกมือลากันเล็กน้อย
เดินห่างกันไกลขึ้นเรื่อยๆ
พรุ่งนี้
เปิดฉากงานกีฬายูเอย์
เจอกันที่สนาม - ขอให้ต่างคนต่างได้ยิ้มอย่างภาคภูมิ
||||
Talk with มาวว ♡
[100%]
มาแล้วครับ มาต่อครบ 100% แล้ว!
ตอนนี้อาจแอบรีบๆไปหน่อย จริงๆเป็นความตั้งใจค่ะ
ฉากชินโซ มาวจะเอาไปเล่าในตอนหน้าต้นๆตอนก่อน--
เลยยังไม่ได้ใส่มาในตอนนี้ ถือว่าเแนการเปลี่ยนวิธีเล่าเรื่องค่ะ!
เพลงที่ให้มั้งสองคนฟังกะคือ Peace sign น่ะเองค่า!
ใดๆพระนางมม.น้อยมากค่ะ ช่วงนี้ 55555
ขอบคุณสำหรับความรักและการติดตามค่ะ รักทุกคนนะคะ
ฝันดีอย่างเช่นทุกทีค่ะ! ❤
[50%]
กลับสู่โครงการอัพทีละครึ่งอีกครั้งค่ะ 555
ขึ้น arc2 แล้วค่ะ ! หวังว่าทุกคนจะชอบเหมือนดั่งเคย
และมารอครึ่งหลังไปพร้อมๆกันนะคะ!
รักทุกคนมากๆเลยค่ะ! ฝันดีนะคะ! ❤
ความคิดเห็น