ตอนที่ 13 : ตัวตายตัวแทน 1
"ยาบุมิ! เธอเป็นอะไรเนี่ย! เฮ้ๆๆรอด้วย!!"
มาซาชิแทบจะวิ่งตามยาบุมิไม่ทัน สาวเจ้าเล่นไม่ยอมคุยกับเขาเลยตลอดอาหารเช้าทตลอดการสนทนาของเขาเมื่อเช้าทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นบ้า... พูดอยู่ได้คนเดียว
ร่างบอบบางของเด็กสาวอายุสิบเจ็ดที่เพิ่งผ่านการ 'เติมเลือดเนื้อ' มาหยกๆนั้นโกยอ้าวออกจากคฤหาสน์ที่เพิ่งจะเป็นของเธอเมื่อคืนแทบจะไม่ทัน ฝีเท้ารีบเร่งจ้ำอ้าวไปข้างหน้าชนิดไม่ยอมเห็นใจใครบางคนที่กระหืดกระหอบตามมาเอาเสียเลย
และแล้ว... เหมือนขาจะเป็นใจ... มาซาชิวิ่งตามมาคว้าข้อมือของยาบุมิไว้ได้(ในที่สุด)
"อย่าเพิ่งวิ่งหนีสิ นี่... เป็นอะไรเหรอ"
แต่เจ้าตัวคนถูกถามกลับหลบหน้า เสหน้ามองไปทางอื่นซะงั้น ปากก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆแก้ตัว
"เปล่าซะหน่อย"
"แล้วทำไมต้องเดินหนีด้วยล่ะ ฉันพูดด้วยเธอก็ไม่พูดด้วย"
มาซาชิถามแบบคนไม่เข้าใจอะไรเลย ซึ่งเขาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วยเพราะนิสัยของเด็กผู้ชายอย่างมาซาชิ ที่ออกจะดิบๆซะหน่อย ด้วยเพราะ'ไม่เคยมีแฟน'เป็นตัวเป็นตนซักที
สำหรับความคิดของ'ผู้ชายอย่างมาซาชิ'แล้ว ก็คงจะสรุปแบบเออๆออๆไปตามเรื่องของตัวเองว่าเธอคงจะมีวันนั้นของเดือน จะว่าๆเขาไม่มีประสบการณ์ ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิงอันนั้นก็เห็นทีจะใช่...
ยาบุมิลดสปีดการก้าวเท้าของตัวเองลง เมื่อตระหนักได้ว่ายังไงซะก็คงจะหนีคนข้างๆนี่ไม่พ้น
เพราะถึงเธอจะสามารถหลบหน้าเขาได้ทั้งวันที่โรเงรียน... แต่ถึงกลับบ้านยังไงก็ต้องเจออยู่ดี!
"ฮึๆๆๆ ตกลงทำไมเธอถึงไม่พูดกับฉันเลยล่ะ"ไอ้คนถามนี่ก็เซ้าซี้ขี้จ้อซะเหลือเกิน ไม่ยอมละความพยายามเสียง่ายๆ หน้าของยาบุมิขึ้นสีแดงระเรื่อ จะให้บอกตรงๆเหรอไงว่าเธอเขินเขาเรื่องเมื่อคืน! อยู่ๆก็มาหอมแก้มกันง่ายๆ แถมยังต่อหน้าต่อตตาบอดี้การ์ดอีกเป็นสิบ แล้วนี่ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูคนข้างนอก เธอจะกลายเป็นคนยังไงในสายตาของคนอื่นล่ะเนี่ย!!
"ยาบุมิจางงงง"
มาซาชิยังคงตื๊อถามต่อ ถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็เขาเองก็คงจะขี้เกียจจะถามเสียแล้ว แต่บังเอิญว่าเธอคนนี้น่ะ'พิเศษ'ไม่เหมือนใครสำหรับเขาซะด้วยสิ...
++++++++++
ซือหลงชะเง้อมองทางนู้นททางนี้ที อย่างหวังว่าจะเห็นร่างของชายหญิงสองคู่ที่เดินเคียงกันเข้ามา เขาพยายามจินตนาการใบหน้าของอดีตฮานาโกะซังในคราบของมนุษย์ แต่ก็นึกไม่ออกซักที... สาวๆทั้งหลายเริ่มพากันเดินวนเวียนหน้าห้องเรียนของเขามากขึ้น ทุกครั้งที่ซือหลงเผลอหันไปสบตากับใครเข้า เขาก็พยายามกลั้นยิ้มสุดความสามารถ ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นพวกคาสโนว่าหรืออะไรหรอกนะ...
แต่ไอ้โรคยิ้มไม่หยุดที่เขาเป็นมาตลอด17ปีนี่มันก็ไม่ได้ควบคุมกันตง่ายบๆเหมือนโรคภูมิแพ้ซะเมื่อไหร่กัน... แน่นอนว่าเขายังไม่ละความพยายามที่จะสร้างภาพให้คนอื่นมองว่าเขา'เย็นชา'หรอกนะ
"หวัดดี ซือหลง"อากาโอมิ เคตะ ประธานชมรมเทควันโด เด็กหนุ่มคนแรกที่(ทำใจกล้า)มาทักเขานอกเหนือจากมาซาชิ เขารู้สึกถูกชะตากับคนๆนี้อย่างบอกไม่ถูก
"หวัดดี เคตะ"นัยน์ตาสีเงินเผลอจับจ้องเรือนผมสีฮาเซลของคนตรงหน้าอยู่พักใหญ่ ซึ่งมันเป็นสีที่เขาชอบ ก่อนจะรีบเบือนสายตาไปทางอื่นทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าเขากำลังรอการมาของคนสองคน ที่ป่านนี้ยังไม่ถึงสักที...
"รอมาซาชิอยู่เหรอ"
"ครับ..."
"ได้ข่าวว่าวันนี้จะมีเด็กใหม่นี่นา นายรู้รึเปล่า?"เคตะพยายามชวนคุย ซือหลงที่เดิมทีก็ไม่ใช่คนอยู่สุขอยู่แล้วก็คุยตอบ
"ครับ... ชื่อ..."
"ยาชิคุริ ยาบุมิ"
เสียงหวานๆแต่ออกห้วนเล็กน้อยดังขึ้นทำเอาสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่นั้นอดหันไปมองตามต้นเสียงไม่ได้
นัยน์ตาสีโกโก้วาววับจ้องมองโต้ตอบสายตาสองคู่อย่างไม่เกรงกลัว ไม่มีกระทั่งท่าทีเขินอายเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆด้วยซ้ำ เรือนผมสีน้ำตาลเข้มขาวถึงกลางหลังถูกรวบไว้เป็นแกะยาวต่ำๆสองข้าง หน้าตาจัดว่าน่ารักพอตัวทีเดียว
"เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง"ซือหลงถามทันทีด้วยความสงสัย แน่นอนว่านอกจากเขาและซือหลงแล้วคงจะไม่มีใครรู้อีกเป็นอันขาด หรือว่าเธอจะได้รู้มาจากพวกคุณครูกัน?
"ฉันไม่มีเหตุผลที่ดีพอจะตอบนาย"ร่างเล็กที่คาดว่าสุงไม่ถึงไหล่ของซือหลงและเคตะนั้นหลังกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง มิน่า... เขาถึงว่าเธอหนาตาคุ้นๆ ก็นั่งอยู่ข้างๆเขาเองนี่นา..
"ยัยนั่นน่ะชื่ออิโช ชิโระ เป็นคนเงียบๆแบบนี้แหละ แต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้ฉันหมั่นไส้ซักทีน่ะนะ"เคตะเอ่ยแนะนำเรียบๆ
"ชิโระ... ชื่อเพราะดีนะ"ซือหลงเอ่ยชมจากใจจริง แต่คนฟังกลับทำไม่รู้ไม่ชี้ หยิบหนังสือนิยายขึ้นมาอ่านสร้างโลกส่วนตัวในทันที
"นี่... ชิโระ"
"อะไร"
"เธออยู่ชมรมอะไรเหรอ"
"ถามทำไม"คราวนี้เธอหันกลับมาจ้องตาซือหลงตอบ ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่กล้าคุยกับเธอได้นานเกินสองประโยค ด้วยเพราะเธอชอบทำหน้าดุอยู่ตลอดเวลา ส่วนเคตะนั้นหันไปคุยกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ท่าทางจะอยู่ห้องอื่น
"เปล่านี่ ฉันจะได้อยู่ด้วยไง"
คราวนี้ใบหน้าของคนโดนหยอกเริ่มขึ้สี ใจเต้นตึกตักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทำเอาเจ้าของหัวใจเริ่มหงุดหงิดกับอาการแปลกๆนี้
"ฉัน..."
"อรุณสวัสดิ์มาซาชิ!!!"เสียงของทั้งห้องที่เอ่ยขึ้นทันควันทำเอาทั้งสองสะดุ้ง เมื่อได้ยินว่าเป็นใครนัยน์ตาสีเงินก็ละจากคู่สนทนาไปแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาคุยต่อ ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่และเสียงฮือฮาต่างๆนาของทั้งคนในห้องและคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ด้วยเพราะเด็กสาวที่ท่านหัวหน้าห้องผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับลงทุน'จับมือแน่นไม่ยอมปล่อย'เข้ามาในห้องเรียนด้วยตัวเองเลยทีเดียว
"ว่าไงล่ะ อยู่ชมรมอะไรเหรอชิโระ"
"ฉันอยู่ชมรมพยาบาล"
"โตขึ้นอยากเป็นพยาบาลเหรอ"
"จะว่างั้นก็ได้"ถึงเธอจะถามคำตอบคำเหมือนจงใจยุ แต่เขาก็ยังไม่ย่อท้อตั้งคำถามไปเรื่อยๆ นั่นเป็นสิ่งที่เธอประทับใจกับหลิงซือหลงไปโดยไม่รู้ตัว
"ฮั่นแน่... ซือหลง จะจีบชิโระก็บอกได้... นี่!ฉันมีเบอร์ด้วยนะเอามั้ย"มาซาชิเดินแทรกเข้ามา นัยน์ตาสีเงินและนัยน์ตาสีน้ำตาลจับจ้องยังเด็กสาวที่บัดนี้หน้าสีแดงระเรื่อยิ่วกว่าเครื่องหมายกาชาดเสียอีก
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ ยาบุมิ"ชิโระเอ่ยก่อนพลางส่งยิ้มหวานอย่างเป็นกันเองไปให้
"โห... ทีกับยาบุมิละยิ้มให้ ทำไมไม่ยิ้มให้ฉันบ้างล่ะ"ซือหลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็มีแค่เพียงใบหน้าของนางยักษ์แปลงเท่านั้น
"เฮ้ยๆๆ นี่เค้าถามกันใหญ่แล้วว่าแกกับเด็กใหม่นี่เป็นอะไรกัน"เคตะเดินเข้ามาพร้อมกับส่งยิ้มกรุ้มกริ่มไปยัง'เด็กใหม่'ที่ยังคงยืนก้มหน้างุดๆไม่พูดไม่จาอะไรกับใครเขาทั้งนั้น
มาซาชิกระแอมไอก่อนจะตะโกนเสียดัง กะเอาให้ได้ยินกันทั้งชั้นเรียน
"นี่คือยาชิคุริ ยาบุมิ!! หรือน้องสาวบุญธรรมของฉัน!! เธอไม่เชิงเป้นเด็กใหม่หรอกแต่ก็...ประมาณนั้นแหละ แหะๆ"
มาซาชิส่งยิ้มแหยไปให้คนทั้งห้องทันทีที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าเกือบจะเผลอพูดเรื่องอดีตของเธอให้ใครต่อใครฟัง หากไม่ได้ซือหลงสะกิดไว้สงสัยจะแย่
เสียงออดดังขึ้นขัดจังหวะทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องเรียนอันชุลมุนวุ่นวายได้แทบจะในทันที ทุกคนต่างกุลีกุจอรีบกลับไปนั่งตามที่นั่งของตัวเองอย่างเร่งรีบราวกับกลัวว่าจะมีคนมาแย่งที่นั่งไป แต่ความจริงน่ะหรือ...
คาบแรกเป็นคาบของอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ ที่มีคุณสมบัติครบไม่ว่าจะ"โหด" "เหี้ยม" "เฮี้ยบ" "เฮี้ยน" ต่างรวมมิตรกันได้ดีแถมลิมิตเกินร้อยอยู่กับอาจารย์เอดะ ซึบุงิอยู่เต็มจนล้นปรี่ และเป็นอาจารย์คนเดียวที่หัวหน้าห้องสองอย่างมาซาชิไม่เคยคิดจะเฉียดกรายเข้าใกล้เกินระยะ500เมตร!
ประตูห้องเรียนค่อยๆเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆท่ามกลางหยาดเหงื่อของนร.หลายๆคนที่ค่อยๆซึมออกมาตามรูขุมขน
ใบหน้าเหี้ยมโหดและเปี่ยมด้วยริว้รอบเค้าก่อนวัยชราของอาจารย์ซึบุงิพร้อมกับสายตาคมกร้าว ดื้อดึงที่กวาดมองไปทั่วห้อง มองปราดเดียวก็รู้ว่าวันนี้นักเรียนอยู่กัน"ครบ" หนังสือคู่มือการสอนเล่มหนาถูกวางไว้บนโต๊ะอาจารย์ ก่อนที่ร่างสูงติดจะผอมแห้งจะหันหลังกลับไปที่กระดานดำ ในมือหยิบชอล์กที่ก็ไม่มีใครทันได้สังเกตเหมือนกันว่าไปเอามาจากไหน?ขึ้นมาถือเตรียมพร้อมจะสอน
มาซาชินั่งอยู่ข้างๆยาบุมิ ถัดไปเป็นเจ้าหนุ่มสำอางซือหลง และถัดไปอีกนั้นคือเด็กสาวที่มีตำแหน่งรองหัวหน้าห้องชิโระ
มาซาชิขมวดคิ้วเล็กน้อย... ในใจเริ่มสั่นไหวอย่างประหลาดพร้อมกับความคิดหนึ่งที่แล่นแว้บมาที่สมอง
'วันนี้อาจารย์ซึบุงิดูแปลกๆไป ทุกที... จะไม่นิ่งขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องหันมาข่มสบตาเราบ้าง แต่วันนี้มัน... อะไรกันวะเนี่ย?'
เขาหันมานั่งพิงพนัก กอดอก นัยน์ตาจับจ้องการเคลื่อนไหวของอาจารย์ที่ยืนสอนอยู่หน้าชั้นเรียนไม่วางตา
อาจารย์ซึบุงิหันกลับมาขณะที่ปากก็ยังขยับสอนไปเรื่อยๆ ตาก็กวาดมองนักเรียนทุกคนเป็นการตรวจเช็คว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยดีรึไม่
และแล้วมาซาชิก็ทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝัน!!
เขายกขาทั้งสองขึ้นพาดวางบนโต๊ะ สองมือกอดอก แววตาพราวระยับทำเป้นทองไม่รู้ร้อน ทั้งๆที่ในใจก็แอบกังวลลึกๆ
แต่ตอนนี้มันเป็นสิ่งเดียวที่เขาคิดว่ามันจะช่วยคลายความสงสัยของเขาในตอนนี้ได้! ในใจก็นึกปลงเอาไว้แล้วว่าถ้าที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องจริงสงสัยได้ตายเป็นผีเฝ้าโต๊ะแน่ๆ เพราะอาจารย์ซึบุงินั้นเกลียดนักเรียนที่ไร้มารยาท... ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด มาซาชิหวังว่าจะได้ยินเสียงเอ็ดตะโรมาว่า 'นั่นคุณคิดจะทำอะไรคุณโอนิชิตะ!! ออกไปยืนนอกห้องเรียนเดี่ยวนี้!!'
แต่...
"กรุณายกขาเรียวงามของคุณลงจากโต๊ะเรียนด้วย มันเป็นอะไรที่ไม่สุภาพสุดๆไปเลยรู้มั้ย"
เท่านั้นแหละทั้งห้องก็ถึงกับอึ้ง ทุกทีจะไม่เป็นแบบนี้นี่นา...
ส่วนเจ้าตัวคนทดสอบที่อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตนั้นก็ยิ้มร่า กระโดดขึ้นพรวดเดียวก็ยืนบนโต๊ะตัวเองได้สบายๆ ท่ามกลางความตื่นตกใจของทุกคน ท่านหัวหน้าห้องก็ชี้นิ้วไปยังผู้สุงวัยตรงหน้าทันที
"คุณไม่ใช่อาจารย์ซึบุงิ"
เกิดเสียงฮือฮาขึ้นทันที แต่ก็เงียบเสียงลงเมื่ออาจารย์ซึบุงิโต้ตอบ
"มีหลักฐานอะไรมายืนยันไม่ทราบ มาซาชิ"
"1.อาจารย์ซึบุงิจะสบตาข่มผมทุกครั้งที่ก่อนเข้าเรียน
2.อาจารย์ซึบุงิไม่เคยสอนโดยที่ไม่ใช้คู่มือการสอน
3.อาจารย์ซึบุงิถือชอล์กมือซ้าย
4.อาจารย์ซึบุงิจะไล่ผมออกนอกห้องเรียนทันทีที่ผมเอาเท้าวางไว้บนโต๊ะ และที่สำคัญที่สุด... อาจารย์ซึบุงิไม่เคยพูดจากับนักเรียนด้วยเสียงนุ่มนวลแถมยังหวานเลี่ยนแปลกๆแบบนั้น"
ทุกคนในห้องพากันนึกภาพตามคำกล่าวหาของมาซาชิ ก่อนที่ต่างคนจะต่างพยักหน้าส่งเสียงร้องรับเห็นด้วยกับหัวหน้าห้องของตัวเอง
ชายวัยกลางคนตรงหน้ากระตุกยิ้มที่มุมปากเบาๆก่อนจะแสยะยิ้มกว้างหน้ากลัว... มุมปากนั้นฉีกขึ้นไปจนถึงติ่งหูดูผิดธรรมชาติเป็นที่สุด!!
เสียงกรี๊ดของนร.หญิงในห้องและเสียงโวยวายของนร.ชายเริ่มดังขึ้นด้วยความหวาดกลัว
"มาซาชิ!!"ซือหลงบีบแน่นที่ต้นแขนของตัวเอง เลือดเริ่มไหลซึมผ่านเสื้อผ้ามาตามมาตามซอกมือ!
ปีศาจ!!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
