ตั๋วหนังในมือสองใบหลุดหล่นออกจากมือที่หยาบเล็กน้อยของคนที่เคยผ่านการเป็นทหารผ่านศึกในสงครามอัฟกานิสถานมาก่อน มือนั้นไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งอากาศก็ไม่สามารถใช้มือนั้นจับได้ อุณหภูมิรอบตัวเหมือนลดต่ำลงจนอากาศเย็นเฉียบ คนตัวเล็กตัวสั่นเบาๆเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของคนทั่วทั้งถนนกลางกรุงลอนดอนหลังจากสิ้นเสียงการลั่นไกของคนในทีวี
เพียงแค่เสียง 'ปัง' เดียวของปืนพกขนาด 0.38 มม.ที่ดังออกมาจากในทีวีจอยักษ์ตรงสี่แยกมันทำให้เวลาทุกวินาทีหยุดนิ่ง สมองของจอห์น วัตสันหยุดทำงานทันทีที่เห็นภาพของคนที่คุ้นเคยล้มพับไปหลังจากลั่นไกใส่ขมับของตนเองแล้วภาพในทีวีจึงตัดไป เขาอยากจะคิดว่ามันเป็นรายการตลกหรือรายการแอบถ่ายคนดังอย่างที่เขาเคยดูในโทรทัศน์ถ้าเขาไม่ได้รับข้อความอำลาจากคนที่อยู่ในทีวี
หลังจากจอห์นเข้าไปรับตั๋วหนังในโรงหนังตามที่เชอร์ล็อค โฮมส์บอกไว้ว่าจองไว้ให้แล้ว ตั๋วหนังเรื่อง 'The Hobbit' ภาคแรกสองใบอยู่ในมือของเขา แม้จอห์นจะงงๆอยู่บ้างว่าทำไมเพื่อนร่วมแฟลตชวนเขามาดูหนังเรื่องนี้ทั้งๆที่แม้แต่แฮร์รี่พ็อตเตอร์ที่เคยนั่งดูด้วยกัน เชอร์ล็อคยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลย นักสืบหนุ่มไม่ชอบหนังที่ใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟ็คอะไรที่น่ารำคาญแต่ก็แปลกมากที่ชวนจอห์นมาดูเรื่องนี้ แต่มันก็ดีอยู่เหมือนกันจอห์นเองก็อยากจะดูหนังเรื่องนี้อยู่พอดีเพราะใครๆที่ไปดูมาแล้วก็ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันมาว่ามันสนุกมากๆ
จอห์นออกมายืนรอที่ริมถนนตรงหน้าโรงหนังอันเป็นจุดนัดพบของเขาทั้งสอง เชอร์ล็อคนัดเขาไว้ 5 โมงตรงซึ่งมันก็คืออีกไม่กี่นาทีนี้เอง
ก่อนเวลา 5 โมงตรงไม่นานนัก ทีวีจอยักษ์ตรงสี่แยกที่ปกติใช้โฆษณาสินค้าถูกตัดภาพออกกลายเป็นภาพของใครบางคนที่จอห์นกำลังรอให้เขามาหาตามนัด ผู้คนต่างพากันชี้ชวนให้ดูนักสืบชื่อดังที่กำลังพูดบางอย่างอยู่ในทีวี
เชอร์ล็อค โฮมส์พูดอะไร? จอห์นยืนดูด้วยใบหน้างุนงง เขาพูดเหมือนเขากำลังสารภาพว่าคดีฆาตกรรมในตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมาคือฝีมือของเขา? จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว เดือนนี้ทั้งเดือนเชอร์ล็อคแทบจะไม่ได้ออกไปไหน นอกจากไปส่งเชอร์ลินที่โรงเรียนแล้วก็ไปก่อกวนมายครอฟที่เวสต์มินสเตอร์ บางวันก็ไปสก็อตแลนด์ยาร์ตจนตอนเย็นก็ไปรอรับจอห์นที่คลีนิกและไปรับลูกกลับบ้านด้วยกัน เชอร์ล็อคมีคนอยู่ด้วยแทบจะ 24 ชั่วโมงแล้วเขาจะไปทำอย่างนั้นได้ยังไง เขาจะไปฆ่าคนได้ยังไง หรือต่อให้มีช่วงจังหวะเผลอ เชอร์ล็อคไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นได้อยู่แล้ว เชอร์ล็อคเป็นคนดี เป็นพ่อที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี จอห์นไม่มีทางเชื่อว่าเขาจะทำอะไรแบบนั้นได้ ไม่มีทางเชื่อและไม่มีวันเชื่อ
จอห์นรีบกดโทรศัพท์หาคนที่อยู่ในทีวี ไร้การตอบรับ เชอร์ล็อคไม่รับสายและยังคงพูดไปเรื่อยๆ จอห์นพิมพ์ข้อความหาอีกฝ่ายด้วยมือที่เริ่มสั่น
'ชั้นเห็นนายอยู่ในทีวีตอนนี้ นี่มันเรื่องอะไร - JW'
จอห์นหวังว่าจะมีข้อความตอบกลับ เชอร์ล็อคไม่เคยเมินเฉยในข้อความของเขามาก่อนนอกจากเวลางอน ซึ่งตอนนี้เขาไม่ได้กำลังงอนกันอยู่ เชอร์ล็อคต้องตอบข้อความของเขา
ไร้การตอบกลับ.....จอห์นอดทนรอเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นจึงส่งข้อความไปใหม่อีกครั้ง
'ชั้นรอที่หน้าโรงหนังแล้วนะ เรามีนัดดูหนังกัน ไม่ลืมใช่มั้ย - JW'
อีกครั้ง....ไร้การตอบกลับอีกครั้ง เชอร์ล็อคในทีวียังคงพูดต่อไปโดยไม่ตอบข้อความของเขา
'ชั้นหิวแล้วด้วย เราต้องไปกินข้าวด้วยกันใช่มั้ย มีเดินเล่นด้วย นายจะไม่ผิดนัดใช่มั้ย - JW'
'ถ้านายผิดสัญญา ถ้านายมาสาย ชั้นโกรธนะ - JW'
จอห์นแหงนหน้ามองทีวีอีกครั้ง เชอร์ล็อคยังคงพูดอะไรก็ไม่รู้ เขาไม่สามารถจับใจความประโยคเหล่านั้นได้ หัวสมองของเขาตื้อไปหมด จอห์นพิมพ์ข้อความส่งกลับไปอีกครั้ง โดยหวังที่จะได้การตอบกลับ
'เรากำลังเดตกันอยู่หรือเปล่าเชอร์ล็อค นายตอบชั้นหน่อยได้ไหม - JW'
จอห์นกดส่งข้อความนั้นไปแล้วแหงนมองทีวี เชอร์ล็อคในทีวีหยุดพูดแล้ว จอห์นมองมือถือตัวเองโดยหวังว่าจะมีข้อความตอบกลับมา
ติ๊ด ติ๊ด
เสียงสัญญาณเตือนข้อความเข้า จอห์นรีบเปิดอ่านด้วยใจที่เต้นระทึก หวังว่าเชอร์ล็อคจะส่งกลับมาบอกว่าให้รอก่อนนะ เขากำลังอัดรายการตลกอยู่...จอห์นหวังว่าจะเป็นข้อความเช่นนั้น
'GoodBye John'
ข้อความไม่กี่ตัวอักษรที่ส่งมามันทำให้ใจของเขาหยุดเต้น ในหัวของเขาหยุดคิดทุกอย่าง บรรยากาศรอบตัวเหมือนถูกกดหยุดเวลาเอาไว้ จอห์นแหงนมองทีวีอีกครั้งด้วยใจที่ภาวนาให้มันไม่เป็นเรื่องจริง
เชอร์ล็อค โฮมส์ในทีวีกำลังใช้ปืนพกสีดำสนิทจ่อที่ขมับด้านขวาของตนเอง หลังจากนั้นเขาก็ลั่นไก แล้วภาพก็ตัดไป เสียงผู้คนกรีดร้องกันระงมกันทั่วทั้งถนน ... ภาพการฆ่าตัวตายอย่างสำนึกผิดของเชอร์ล็อค โฮมส์ถูกถ่ายทอดไปทั่วทั้งลอนดอนอย่างไร้การตัดต่อและไร้การเซ็นเซอร์ ขาของจอห์นหมดเรี่ยวแรงจนไม่สามารถทนยืนได้อีกต่อไป เชอร์ล็อค โฮมส์ฆ่าตัวตาย เชอร์ล็อค โฮมส์ผิดนัด เชอร์ล็อค โฮมส์ทิ้งเขา
ลำแสงสีแดงของปืนสไนเปอร์ที่จ่อศรีษะของจอห์นมาตั้งแต่ที่เขาเดินมารอเชอร์ล็อคที่ริมถนน ถูกทำให้หายไปเมื่อภาพการฆ่าตัวตายของนักสืบชื่อดังถูกออกอากาศจนกระทั่งภาพตัดจบไป
หมดยุคของนักสืบอัจฉริยะอย่างเชอร์ล็อค โฮมส์แล้ว
จอห์น วัตสันถูกพากลับบ้านเลขที่ 211B โดยคนแปลกหน้าที่อยู่ละแวกนั้น ตัวเขาเองจำไม่ได้ว่าได้กล่าวขอบคุณคนๆนั้นไปหรือเปล่าเพราะในหัวของเขาเหมือนขาดออกซิเจน สมองไร้การตอบสนองอะไร เขายังคงเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงอยู่ตลอดเวลาเกินกว่าจะจำได้ว่าใครเป็นคนช่วยเขาให้ออกมาจากตรงนั้น
เวลาผ่านไปแต่ละวินาทีอย่างเชื่องช้า จอห์นนั่งอยู่ที่เก้าอี้นวมของตนเองด้วยใจที่เหม่อลอย เขาได้ยินเสียงคุณนายฮัตสันร้องไห้อยู่ข้างๆแต่เขาก็ไม่ได้หันไปปลอบอย่างเคย....เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้จนกระทั่งสารวัตรเกร็ก เลสเตรดพาเชอร์ลิน โฮมส์ลูกสาวคนเดียวของเชอร์ล็อค โฮมส์กลับมาส่ง ดวงตาของสารวัตรแดงก่ำไม่ต้องพูดอะไรก็รู้ว่าสารวัตรเสียใจไม่น้อยไปกว่าตัวเขา เลสเตรดบอกว่ามายครอฟจะต้องกลับไปแจ้งข่าวให้พ่อและแม่ของเชอร์ล็อคที่เมืองลีดส์ทราบด้วยตัวเองจึงขอให้สารวัตรไปรับหลานสาวที่บ้านในเคนซิงตันกลับมาส่งให้จอห์น
เชอร์ลินวิ่งเข้ามากอดขาของจอห์นที่กำลังนั่งอยู่ที่โซฟา หลานสาวตัวเล็กในชุดกระโปรงสีม่วงอ่อนกอดขาของอาจอห์นจนแน่นพลางร้องไห้ เชอร์ลินร้องไห้หาพ่ออยู่ตลอดเวลา จอห์นจึงต้องพยายามกลืนก้อนแห่งความทุกข์ลงไปในคอ เขาจะต้องเข้มแข็งเพื่อหลานสาว หากเขาร้องไห้อีกคนทุกอย่างมันจะยิ่งแย่ เขาต้องเป็นเสาหลักที่มั่นคงให้หลานต่อไป
เชอร์ลินถูกอุ้มขึ้นให้มานั่งบนตักของจอห์น เด็กหญิงซุกหน้าไปที่หน้าอกของผู้เป็นอาและยังคงร้องไห้ต่อไป จอห์นลูบผมหลานสาวอย่างปลอบโยน เสียงร้องไห้ของเชอร์ลินดังอยู่ใกล้ๆหูของเขา เขาได้ยินมันอย่างชัดเจน เสียงร้องไห้ของหลานสาวผู้เป็นที่รักบาดลึกลงไปในใจของเขา เชอร์ล็อคคือคนที่ช่วยเชอร์ลินไว้จากการกำพร้าแม่ และเชอร์ล็อคเองก็เป็นคนทำให้เชอร์ลินกำพร้าพ่ออีกครั้ง มันร้ายแรงเกินไปหรือเปล่าสำหรับเด็กเล็กๆวัยแค่ 5 ขวบอย่างเชอร์ลินที่จะสูญเสียคนที่รักไปพร้อมๆกันในเวลาเพียงแค่ 1 ปี
"ฮืออออ จะไปหาคุณพ่อ เชอร์ลินจะไปหาคุณพ่อ" ประโยคเช่นนี้วนเวียนมาอยู่เรื่อยๆ "อาจอห์นพาเชอร์ลินไปหาคุณพ่อนะคะ ได้ไหมคะ ฮืออออ จะไปหาคุณพ่อ"
"อาไม่รู้ว่าคุณพ่ออยู่ที่ไหน" จอห์นพยายามกลืนก้อนแข็งๆลงไปในคอและคุยกับหลานสาว
"จะไปหาคุณพ่อ จะไปหาคุณพ่อ ฮือออออ" เชอร์ลินดิ้นอยู่บนตักอย่างรุนแรง "คุณพ่อไปไหน จะไปหาคุณพ่อ"
จอห์นกอดหลานสาวที่ดิ้นอยู่บนตักแน่นๆแล้วปลอบ "อย่าร้องไห้เลยนะเชอร์ลิน อย่าร้องเลยนะ"
"จะไปหาคุณพ่อ ฮือออ" เชอร์ลินยังคงร้องไห้ต่อไป เด็กหญิงร้องไห้อยู่หลายชั่วโมงจนเจ็บคอ บางทีก็ร้องไห้จนสำลัก มีอาเจียนอีก1 ครั้ง ...เชอร์ลินไม่เคยร้องไห้หนักขนาดนี้ นี่ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และนับจากนี้เชอร์ลินจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนไม่รู้ อาจจะอีกหลายวัน หลายสัปดาห์หรือมันอาจจะไม่หายไป จอห์นทำได้เพียงกอดปลอบให้หลานสาวคลายความเสียใจแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลยก็ตาม
เชอร์ลินร้องไห้จนเหนื่อยและหลับไปตอนเกือบจะตี 2 จอห์นพาเด็กหญิงเข้าไปนอนในห้อง....ห้องของเชอร์ล็อคที่เจ้าของห้องจะไม่กลับมานอนที่นี่อีก จอห์นทำได้เพียงก้าวเข้าไปได้เพียงแค่ก้าวเดียวแล้วเดินออกมา .... เขาเข้าไปไม่ได้ ... ทุกความทรงจำของเชอร์ล็อคยังคงอยู่ รอยนิ้วมือของเชอร์ล็อคตามลูกบิดประตู ด้ามจับตู้เสื้อผ้า รอยยับบนที่นอน กลิ่นหอมของน้ำหอมมันยังคงอยู่....จอห์นกลัวการเปิดประตูในครั้งนี้จะทำให้ทุกอย่างหายไป กลิ่นน้ำหอมของเชอร์ล็อคจะจางหายไป...คุณหมอจึงจำใจปิดประตูห้องนอนห้องนี้และพาหลานสาวขึ้นไปนอนที่ห้องนอนชั้นบน
จอห์นเช็ดคราบน้ำตาของหลานสาวที่เปรอะไปทั่วทั้งหน้าอย่างอ่อนโยน แก้มนิ่มและจมูกเล็กๆแดงก่ำจากการร้องไห้อย่างหนักมาหลายชั่วโมง จอห์นใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดไปตามลำตัวของคนตัวเล็ก....นี่แค่คืนแรกเท่านั้น พรุ่งนี้เช้าเชอร์ลินจะตื่นมาร้องไห้อีก วันนี้มันคือฝันร้ายของเชอร์ลินและของเขา จอห์นภาวนาเพียงแค่ว่ามันจะเป็นเพียงฝัน พรุ่งนี้เช้าเชอร์ล็อคก็จะทำการทดลองบ้าๆบอๆจนเกิดระเบิดในห้องครัวอีก เขาสัญญา เมื่อแสงอาทิตย์สาดแสงมาที่กรุงลอนดอนแล้วเชอร์ล็อค โฮมส์ยังมีชีวิตอยู่ เขาสัญญาว่าต่อให้เชอร์ล็อคจะระเบิดห้องครัวอีกกี่สิบครั้ง หรือยิงกำแพงบ้านเป็นรูอีกสักร้อยรูเขาก็จะไม่ว่า ไม่ดุอะไรทั้งนั้น เพียงแค่นักสืบชื่อดังคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ก็พอ
จอห์นเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง พรุ่งนี้เช้าเชอร์ล็อคจะกลับมา กลับมาหาเขา กลับมาอยู่กับเขา กับเชอร์ลินอีกครั้ง
ไม่เคยมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับจอห์น วัตสัน.....เขาคงเป็นคนบาปมากที่ขอพรจากพระเจ้าแล้วพระองค์ไม่ประทานพรให้เขา....พรที่ขอให้เรื่องเมื่อวานเป็นแค่ฝันร้าย...พรมันไม่สัมฤทธิ์ผล....เชอร์ล็อค โฮมส์ไม่กลับมาหาเขากับลูกอีกแล้ว
เช้าวันนี้เขาได้รับโทรศัพท์จากสารวัตรเกร็ก เลสเตรดว่าพบศพของเชอร์ล็อค โฮมส์แล้วที่ตึกร้างบนถนนบรู๊ค หัวใจของจอห์นแทบจะหยุดเต้นทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น สารวัตรขอให้จอห์นไปที่โรงพยาบาลเซนต์บาร์ตเพื่อยืนยันศพว่าเป็นเชอร์ล็อคจริงเนื่องจากจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อมายครอฟ โฮมส์พี่ชายคนเดียวของเชอร์ล็อคได้จึงมีแค่จอห์นเท่านั้นที่ต้องทำหน้าที่นี้...เลสเตรดปฏิเสธที่จะทำ...เขายังทำใจไม่ได้ที่เพื่อนรักมาจากไปอย่างกะทันหัน เพียงแค่เขาเป็นคนเอาร่างที่ไร้ชีวิตของเชอร์ล็อคออกมาจากตึกแล้วไปไว้ที่โรงพยาบาลเขาก็แทบจะต้องล้มทั้งยืนอยู่แล้ว อย่าให้เขาจับปากกาเซ็นเอกสารยอมรับการจากไปของเพื่อนเลย มันเกินที่ใจจะทนไหว จอห์น วัตสันที่เป็นทหารเก่าอาจจะมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าจึงต้องทำหน้าที่นี้ส่วนสารวัตรก็มาอยู่เป็นเพื่อนเชอร์ลินที่บ้าน เพราะหากเด็กหญิงตื่นมาแล้วไม่พบใคร จะยิ่งเสียขวัญไปกันใหญ่
จอห์นมาโรงพยาบาลเซนต์บาร์ตนับครั้งไม่ถ้วนนับจากรู้จักกับเชอร์ล็อค นอกจากมาทำคดีแล้วบางวันเชอร์ล็อคก็มายืมใช้ห้องแล็ปที่นี่ ไม่คิดเลยว่าวันนี้เขาต้องมาที่นี่ตามลำพัง จอห์นยืนอยู่หน้าห้องดับจิตตามลำพัง ไม่ชอบเลย...ไม่ชอบห้องนี้เลย เชอร์ล็อคเคยมาห้องนี้มาก่อนเวลาต้องทำการทดลองเกี่ยวกับศพ แต่เขาไม่เคยต้องเข้าไปนอนในนั้นเสียเอง ในห้องนั้นอากาศเย็นมาก หากเชอร์ล็อคไม่สวมเสื้อโค้ตเขาจะต้องป่วยแน่นอน
เจ้าหน้าที่ชายคนหนึ่งยืนรออยู่ที่หน้าห้องอยู่ก่อนแล้ว จอห์นถามถึงมอลลี่ ฮูเปอร์ที่ปกติแล้วก็จะทำงานอยู่ที่ชั้นนี้ เจ้าหน้าที่ชายบอกว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะพบใคร....จอห์นเข้าใจดี มอลลี่รักเชอร์ล็อคมาก เธอคงเสียใจอย่างมากที่เชอร์ล็อคมาจากไปอย่างนี้ มอลลี่คงรับไม่ได้ เพราะเขาเองก็รับไม่ได้เช่นกัน
ประตูห้องดับจิตถูกเปิดออก อากาศหนาวเย็นกระทบเข้าที่ผิวของคุณหมอตัวเล็กจนเขาต้องกระชับแจ็คเก็ตสีดำของตนเอง ภายในห้องมีร่างไร้ลมหายใจที่นอนนิ่งสงบอยู่บนเตียงรถเข็น จอห์นเดินไปที่เตียงนั้น เจ้าหน้าที่เปิดผ้าสีขาวที่คลุมร่างของเขาออก ความหนาวของอากาศในนี้เทียบกับความหนาวเย็นในใจของเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เชอร์ล็อค โฮมส์ในชุดเสื้อเชิร์ตสีดำและสูทสีดำนอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียง ผิวที่ขาวเป็นทุนเดิมยิ่งขาวซีดมากยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยงร่างกายเช่นนี้ จอห์นมองไปที่ขมับด้านขวา มันเป็นรูเล็กๆและมีเลือดที่แห้งแล้วติดอยู่ เขาพยายามรวบรวมลมหายใจเฮือกสุดท้ายกล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ข้างๆ
"เป็นเขาครับ เขาคือเชอร์ล็อค โฮมส์" จอห์นพูดด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย เขาพยายามแล้ว พยายามที่จะทำเสียงเป็นปกติ
เจ้าหน้าที่ยื่นแฟ้มเอกสารให้จอห์นเซ็นรับรอง มือเขาสั่นที่ไม่ได้สั่นเพราะอากาศหนาวจับปากกาเซ็นรับทราบว่าทางโรงพยาบาลจะยืนยันศพนี้ว่าเป็นเชอร์ล็อค โฮมส์จริง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางโรงพยาบาลจะจัดการเคลื่อนย้ายศพออกจากที่นี่ให้เมื่อญาติระบุสถานที่จัดงานศพมา จอห์นพยักหน้าเข้าใจก่อนจะขออยู่กับเพื่อนร่วมแฟลตที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงสักครู่ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจดี
เมื่อประตูปิดลง จอห์นที่อยู่ลำพังยื่นมือไปจับมือที่เย็นเฉียบของเชอร์ล็อค เขากระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาออกไป จอห์นกุมมือข้างนั้นจนแน่น
"ชั้นเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่านายเป็นคนมือเย็นง่ายมาก ให้สวมถุงมือหนังเอาไว้" จอห์นพูด "ในนี้มันหนาวมากเลยนะ ชั้นไม่ชอบอากาศแบบนี้เลย"
เขามองหน้าเพื่อนร่วมแฟลตที่นอนหลับตานิ่งสงบอยู่บนเตียง น้ำตาที่เขาพยายามที่กลั้นเอาไว้ตั้งแต่รับรู้ข่าวทะลักออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างไม่สามารถห้ามได้อีกต่อไป จอห์นร้องไห้สะอื้นอยู่เงียบๆ แล้วค่อยๆแนบศรีษะของตนไปที่หน้าอกของคนที่นอนอยู่
"ตื่นขึ้นมาคุยกับชั้นสิเชอร์ล็อค ไหนนายเคยบอกว่าจะดูแลชั้นกับเชอร์ลินให้ดี จะดูแลให้มีความสุขไง นายทิ้งชั้นกับเชอร์ลินแบบนี้ไม่ได้นะ" จอห์นร้องไห้หนักขึ้น "นายทิ้งชั้นในเดตแรกของเราได้ยังไงเชอร์ล็อค นายเป็นคู่เดตที่แย่มากรู้มั้ย"
"กลับมาหาชั้นกับลูกเถอะนะ ตื่นขึ้นมาเถอะนะ เชอร์ลินร้องไห้หาแต่นาย ชั้นทำยังไงก็ไม่หยุดร้อง ที่ผ่านมาก็มีแต่นายเท่านั้นที่ทำให้เชอร์ลินหยุดร้องไห้ได้" จอห์นสะอื้น "เชอร์ลินไม่ยอมกินอะไรเลย ชั้นจะทำยังไงดีเชอร์ล็อค ชั้นจะดูแลลูกของนายต่อไปยังไงดี นายตื่นมาบอกชั้นสิ นายเป็นพ่อที่เก่งนี่ นายบอกชั้นสิว่าชั้นควรทำยังไง"
จอห์นกดหน้าลงบนหน้าอกที่ไม่หายใจ "อย่าทิ้งชั้นไปเชอร์ล็อค ชั้นจะอยู่ยังไง ชั้นอยู่ไม่ไหวแล้ว ตื่นขึ้นมาหาชั้นเถอะนะ ได้โปรด"
เสียงคำขอร้องของจอห์นไม่ได้ทำให้คนที่นอนอยู่ฟื้นขึ้นมา น้ำตาของเขาเปียกซึมไปทั่วทั้งเชิร์ตสีดำตัวนั้น จอห์นร้องไห้สะอื้นอยู่ลำพังในห้องนานเป็นชั่วโมง มันคงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้อยู่ใกล้ๆกับเชอร์ล็อค โฮมส์แบบนี้
อีกด้านหนึ่งของโรงพยาบาล จอทีวีเล็กๆที่ฉายภาพในห้องดับจิตถูกปิดลง ชายผิวขาวผอมสูงในชุดเสื้อเชิร์ตสีดำสวมทับด้วยสูทสีเดียวกันเป็นคนกดปิดมัน มือเรียวยื่นมือไปสัมผัสหน้าจอทีวีที่ถูกปิดอย่างแผ่วเบาแม้ว่าทีวีจะมีแต่ภาพไม่มีเสียงอะไรแต่ภาพคุณหมอตัวเล็กที่ร้องไห้อยู่นับชั่วโมงนั้นมันบาดลึกลงไปในใจของเขา คนในชุดสูทสีดำยืนนิ่งอยู่หลายนาทีจนชายอีกคนที่มีอายุมากกว่าในชุดสูทสีน้ำตาลเข้ม เนคไทด์สีแดงกระแอมไอเรียกสติและพาคนอายุน้อยกว่าที่ดูจะอาลัยอาวรณ์กับคนในจอทีวีเล็กๆนั้นออกจากห้องที่ใช้ดูกล้องวงจรปิดแห่งนี้ไปเสียที
"เราต้องไปกันได้แล้วเชอร์ล็อค ท่านรออยู่ที่สนามบิน" ชายที่มีอายุมากกว่าพูดขึ้น
คนในสูทสีดำมองจอที่มืดสนิทนั้นอีกครั้งก่อนจะพูดว่า "ลาก่อนนะจอห์น"
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ม่ายน้าาา ร้องไห้ไม่ไหว สงสารจอร์นเชอร์ล็อคอย่าทิ้งจอร์น
ให้เชอร์ลกลับมาาาา สงสารน้องเชอร์ลินแม่จอห์นลุงเกร็ก และรอคอยให้มีการง้อระดับชาติของสองพี่น้องอยู่น้าาาาาา
ขอให้แม่จอห์นกะลุงเกร็กมีหนุ่มเข้ามาจีบให้สองพี่น้องตระกูลโฮล์มส์อกแตกไปเลย (โดนโบกด้วยร่มและถุงมือหนัง5555)
ปล.สู้น้าาาจ้าไรต์จ๋าาาา อย่ามาช้านะพลีสสสสสสสส (ทำสายตาหมาโกลเด้น)
ปล. ถ้ารู้ว่าถูกหลอกนะ อ่อห่อว มหกรรมง้อยิ่งใหญ่อลังการระดับรัชดาลัยต้องมา -,.-"
ฮือออออ ขอให้จอห์นไปมีแฟนใหม่---(โดนตรบ)บีบรัดหัวใจรีดเหลือเกิน..TT จอห์นไม่เป็นไรน่ะ..มาหาเราก็ได้ มีข้าว3มื้อ มีที่พักอาศัย มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันและเราสามารถเลี้ยงเชอร์ลีนได้น่ะ!(โดนเชอร์ลกระทืบ)ตอนนี้บีบคั้นหัวใจแต่ละคนไปกับน้ำตาค่ะ..ขอให้ครอบครัวที่แสนอบอุ่นนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยเถอะ พลีส
ไรต์มาต่อเร็วมากค่ะ..นับถือจริงๆเชื่อเถอะค่ะ พอจอห์นกับสารวัตรรู้ว่า2พี่น้องหลอกพวกเขา..จะเกิดมหกรรมง้อภรรยาทันที(จินตนาการภาพ)
ไรต์สู้ๆน้าาาา ยังคงสนุกและสนุกขึ้นเรื่อยๆค้าาาา
T.T