ตอนที่ 22 : ดวงใจศิขรินทร์ : ตอนที่ 7 --- 100%
ท่ามกลางอากาศเย็นสบายของปลายเดือนตุลาคม ค่ายอาสาหนีรักของมีนมีนาดำเนินไปได้ร่วมหนึ่งเดือนแล้ว ในขณะที่ข้อเท้าซึ่งได้รับบาดเจ็บก็ดีขึ้นตามลำดับ หญิงสาวสามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำอีกแล้ว หลังต้องเดินโดยใช้ตัวช่วยอยู่ร่วมสัปดาห์ วันนี้เธอจึงตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาเข้าร่วมทำกิจกรรมกับบรรดารุ่นน้อง แทนการพักผ่อนอยู่ที่บ้านของป้าคำจันเฉยๆ ด้วยเพราะเบื่อกับการนั่งๆ นอนๆ เต็มทนแล้ว
วันนี้งานของทุกคนเริ่มต้นที่ห้องสมุดของโรงเรียนมะปินอีกครั้ง หลังถูกระงับการทำงานไปชั่วคราว เพราะต้องระดมแรงไปช่วยกันก่อสร้างห้องน้ำของโรงเรียนก่อน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้พวกอุปกรณ์งานช่างและปูนซีเมนต์ร่วมกับบรรดาชาวบ้านที่ต้องก่อสร้างห้องน้ำสำหรับบ้านของตัวเอง ซึ่งเป็นงานด่วนที่ทุกคนต้องช่วยกันลงแรง จนห้องน้ำหลังใหม่ของบรรดานักเรียนเสร็จเรียบร้อยไปด้วยดี
และงานของวันนี้มีนมีนาอาสารับหน้าที่ทาสีชั้นวางหนังสือของห้องสมุด มีบรรดารุ่นน้องคอยอำนวยความสะดวก จัดหาเก้าอี้มาให้นั่ง พร้อมด้วยอุปกรณ์ทาสีครบครัน โดยมีติวเป็นตัวตั้งตัวตีคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ ท่ามกลางสายตาหยอกล้อกึ่งแซวของชาวค่ายคนอื่นที่มองมา ด้วยเพราะการแสดงออกของติวชัดเจน เสียจนคนที่มองคิดเป็นอื่นไม่ได้เลย
"หิวน้ำไหมครับพี่มีน เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยถามขึ้นตอนที่เดินเอาสีถังใหม่มาให้ ขณะที่มีนมีนาส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
"ขอบใจมากนะติว แต่พี่ยังไม่หิวน่ะ"
"ถ้าหิวเมื่อไร ก็...เรียกผมได้เลยนะครับ"
"จ้ะ" มีนมีนารับคำ ก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจ เมื่อรุ่นน้องหนุ่มยังไม่ยอมผละออกไป "ติวมีอะไรอีกหรือเปล่า"
"พี่มีนมีอะไรให้ผมช่วยไหม"
"ตอนนี้ยังไม่มีน่ะ"
"งั้นหรือครับ" ติวยกมือขึ้นเกาท้ายทอยอย่างออกเก้อ ทำเอามีนมีนานึกขัน ก่อนจะเอ่ยบอกอย่างรักษาน้ำใจ
"ไว้ถ้าพี่มีอะไรให้ช่วย เดี๋ยวพี่เรียกติวละกันนะ"
"ได้เลยครับ" ติวรับคำเสียงแข็งขัน ก่อนจะยอมเดินผละออกไปในที่สุด มีนมีนาจึงได้เริ่มลงมือทำงานตรงหน้าอีกครั้งอย่างคร่ำเคร่ง ครู่เดียว ก็ถูกขัดด้วยสองรุ่นน้องสาวที่เดินตรงเข้ามาทักทาย
"เหนื่อยไหมคะพี่มีน หิวน้ำหรือเปล่า" คนถูกถามละมือจากการทาสีชั้นวางตรงหน้า แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนถามอย่างประหลาดใจ
"นี่ถามจริง หรือแกล้งแซวพี่กันแน่"
"เอ้า" น้ำฝนอุทานกลั้วเสียงหัวเราะอย่างขบขันแกมประหลาดใจ เมื่อมีนมีนาย้อนถาม
"ทำไมคะ มีคนถามพี่มีนแบบนี้ไปแล้วหรือ"
"นายติวแน่ๆ เลยใช่ไหมคะ" จริยาย้ำถามอีกคนอย่างมั่นใจ มีนมีนาจึงพยักหน้ารับ
"อือ ติวเพิ่งผละออกไปเมื่อครู่นี่เอง"
"ท่าทางติวจะจริงจังกับพี่มีนนะคะนี่" น้ำฝนเอ่ยแซว ขณะที่มีนมีนาฉีกยิ้มบางๆ อย่างไม่ถือสา ก่อนจะพูดล้อเล่นออกไป
"ก็ช่วยไม่ได้นะ คนเสน่ห์แรงก็งี้"
"แหม" น้ำฝนและจริยาลากเสียงยาวด้วยท่าทีแสร้งกระแนะกระแหนพร้อมกัน ทำเอามีนมีนาหลุดหัวเราะเบาๆ
"งั้นเดี๋ยวฝนกับเจี๊ยบขอตัวไปช่วยงานในครัวก่อนนะคะ"
"จ้ะ เดี๋ยวพี่ก็จะทาสีต่อเหมือนกัน จะได้เสร็จทันพักกลางวัน" มีนมีนาบอก ก่อนละสายตาจากรุ่นน้องสาวหันมาจดจ่อกับงานตรงหน้า ขณะที่น้ำฝนและจริยายังไม่ผละออกไป จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามอีกครั้งอย่างแปลกใจ
"ว่าแต่...เราสองคนมีอะไรอีกหรือเปล่า"
"คือฝนมีเรื่องจะรบกวนหน่อยน่ะค่ะ" น้ำฝนยิ้มแหยๆ ยามเอ่ยปากบอก
"เรื่องอะไรหรือ"
"พอดีเมื่อวานพี่ดินกับพี่พลลงไปซื้อของที่ตลาดในเมืองมาแล้วน่ะค่ะ แต่ฝนลืมฝากซื้อถ่านใส่กล้องฟิล์ม เลยอยากให้พี่มีนไปคุยกับคุณคามให้หน่อยค่ะ"
"หือ พี่เนี่ยนะ" มีนมีนาอุทานอย่างประหลาดใจ
"ค่ะ พอดีฝนรู้มาว่าคุณคามต้องลงไปสอนหนังสือในตัวเมืองทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เลยอยากจะฝากซื้อของน่ะค่ะ แต่ไม่กล้าไปเอ่ยขอเขาเอง กลัวถูกดุ"
"ฝนเลยมาเอ่ยวานให้พี่ไปเป็นหน่วยกล้าตายแทนหรือไง"
"ก็พี่มีนดูสนิทกับคุณคามที่สุดแล้วนี่คะ" น้ำฝนบอกพร้อมกับหัวเราะแหะๆ
"อะไรทำให้คิดว่าพี่สนิทกับเขาเนี่ย" มีนมีนาย้อนถามเสียงอ่อน ด้วยเพราะมั่นใจว่าตัวเธอไม่ได้สนิทสนมกับศิขรินทร์ขนาดนั้น
"ก็พี่มีนสนิทกับน้องหนูดี ลูกสาวคุณคามนี่คะ เจี๊ยบเห็นทีไร หนูดีตะโกนเรียกพี่มีน ๆ ตลอดเลย"
"มันก็ถูก แต่ใช่ว่าพี่จะต้องสนิทกับคุณคามด้วยซะเมื่อไหร่"
"แต่พี่มีนก็ดูเข้าหน้ากับคุณคามได้ดีกว่าทุกคนนะคะ เพราะถ้าฝนไปบอกพี่ดิน ฝนว่าพี่ดินต้องลงไปซื้อของให้ แทนที่จะเอ่ยรบกวนคุณคามแน่ๆ เขาดูเกรงอกเกรงใจคุณคามจะตาย"
"ใช่ค่ะๆ เจี๊ยบเห็นด้วยกับฝน เราสองคนเลยจะมารบกวนพี่มีนให้ไปรบกวนคุณคามอีกที เพราะไม่อยากให้พี่ดินต้องวุ่นวายเพราะเรื่องของพวกเราอย่างเดียว"
"แต่ถ้าพี่มีนลำบากใจก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกเราไว้ซื้อคราวหน้าก็ได้"
"จริงเหรอ" เมื่อรุ่นน้องพูดแบบนั้น มีนมีนาจึงย้ำถามให้แน่ใจ
"ค่ะ ไว้ซื้อครั้งหน้าก็ได้"
"ไม่ใช่พี่ไม่อยากช่วยนะ แต่คือพี่…" มีนมีนาปฏิเสธอย่างสับสน เธออยากช่วย แต่อีกใจก็กลัวการเผชิญหน้ากับศิขรินทร์
"ไม่เป็นไรค่ะพี่มีน พวกเราโอเค"
"ปากบอกโอเค แต่เราจะทำหน้าตาน่าสงสารไม่ได้นะ"
"ฝนเปล่านะคะ"
"น่าเชื่อมาก" มีนมีนาค่อนเสียงว่า ทำเอาทั้งน้ำฝนและจริยาหัวเราะร่าอย่างเป็นต่อ เมื่อมีนมีนาตกหลุมที่ทั้งสองขุดดักเข้าโครมเบ้อเร่อ ก็เล่นตีหน้าเศร้าแบบนี้ ใครจะไปปฏิเสธได้
"ไปถามเพื่อนคนอื่นมาละกันว่าใครอยากซื้ออะไรเพิ่มไหม เดี๋ยวพี่ไปคุยกับเขาเอง"
"เย้" สองสาวร้องลั่นอย่างยินดี "ขอบคุณพี่มีนมากเลยนะคะ"
"จ้ะ"
"งั้นเดี๋ยวพวกเราขอตัวไปถามคนอื่นๆ ก่อนนะคะ" มีนมีนาพยักหน้าให้ ก่อนน้ำฝนและจริยาจะผละออกไป หลังได้รับคำตอบสมใจ หญิงสาวจึงลงมือทำงานต่ออีกราวหนึ่งชั่วโมง ก็สามารถทาสีชั้นวางหนังสือที่กองอยู่ตรงหน้าได้หมด เป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้อง ๆ ซึ่งรับหน้าที่งานครัวเดินออกมาร้องเรียกให้ไปร่วมวงรับประทานอาหารด้วยกันที่โรงอาหารของโรงเรียน ร่วมกับบรรดาชาวค่ายอีกกลุ่มที่รับหน้าที่ปรับปรุงสวนหย่อมและสนามหญ้าหน้าโรงเรียน ซึ่งมีบรรดาชาวบ้าน ร้อยโทอคิน พลและนายใหญ่ของมะปินรวมอยู่ด้วย
ศิขรินทร์นั่งร่วมวงอยู่กับอคินและคนสนิทอย่างพลและดินอีกสองคนตรงโต๊ะมุมหนึ่งของโรงอาหารขนาดเล็ก ในจุดที่สามารถมองเห็นทุกอิริยาบถของร่างบางที่เพิ่งก้าวเข้ามาภายในโรงอาหารได้อย่างชัดเจน
ใบหน้าใสชื้นเหงื่อ แก้มแดงปลั่งเพราะระไอร้อนจากแดดตอนเที่ยงวัน โดยที่ทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาวไม่มีเครื่องป้องกันแสงแดดอีกเช่นเคย และนั่นชวนให้เขานึกตำหนิในใจ ทำไมถึงไม่ดูแลตัวเองบ้างเลย
"มองอะไรวะ" อคินกระแซะไหล่ถามพร้อมกับกระตุกยิ้ม เมื่อเห็นจุดโฟกัสสายตาของเพื่อนชัดเจน
"อ๋อ นึกว่ามองสาวคนใหม่ ที่ไหนได้ มองสาวคนเดิมนี่เอง"
"ยุ่ง" ศิขรินทร์แค่นเสียงว่าเพื่อน ก่อนดึงสายตากลับมา แต่เพียงแค่ครู่เดียว ก็ต้องหันกลับไปมองใหม่ ตอนที่ใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นเสียงดังโหวกเหวก
"เฮ้ย ไอ้ติวอยู่ไหนวะ ไปช่วยพี่มีนหน่อยเร้ว" ชายหนุ่มร่างสูงโย่งเอ่ยขึ้น แล้วหันไปร้องเรียกหาเพื่อนคนที่ถูกเอ่ยถึงให้ควั่ก ก่อนชายหนุ่มที่ชื่อติวจะเดินลิ่วเข้าไปช่วยประคองมีนมีนาจริงๆ ท่ามกลางเสียงเฮอย่างถูกอกถูกใจของคนเชียร์ รวมถึงอคินด้วย
"กับข้าวไม่อร่อยหรือไงวะคาม หน้าตาแกบูดเป็นหมีกินผึ้งเชียว" เสียงอคินเอ่ยแซวขึ้นกลางวง ทำเอาพลและดินที่นั่งร่วมวงอยู่ด้วยก้มหน้าลอบยิ้มบางๆ อย่างพอรู้ตื้นลึกหนาบางอยู่บ้าง ขณะที่ศิขรินทร์รีบดึงสายตาออกมาจากร่างบางทันที
"ว่าไง กับข้าวไม่อร่อยหรือ"
"แกไม่มีอะไรจะพูดแล้วหรือไง" อคินหัวเราะ เมื่อถูกเพื่อนตอกกลับด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ แบบที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดี แต่แทนที่จะสลด นายตำรวจหนุ่มกลับยังเอ่ยแหย่ไม่เลิก
"แกไม่ได้คิดอะไรไม่ใช่หรือ จะอารมณ์เสียทำไมวะ"
"ไอ้อคิน"
"เอ้า" อคินหัวเราะร่า มองศิขรินทร์ที่ลงมือกินข้าวอย่างไม่รอใครอย่างอารมณ์ดี เขารู้ว่าเพื่อนสนใจมีนมีนา แต่แค่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะลังเลอยู่ทำไม ทั้งที่ตัวเองก็ดีพร้อม
"มัวลีลา ระวังใครเขาจะคว้าตัดหน้าไปนะเว้ย"
ศิขรินทร์เงียบ ไม่ได้ตอบโต้ ก่อนเหลือบตาขึ้นมองตรงไปยังจุดที่มีนมีนานั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ติวเดินถือแก้วน้ำไปเสิร์ฟพอดี และมีนมีนาก็ส่งยิ้มตอบกลับเสียหวานหยด ซึ่งภาพนั้นทำให้เขาฉุกคิดได้ว่า บางทีเขาอาจจะต้องทบทวนความรู้สึกของตัวเองใหม่ซะที
ร่างสูงใหญ่เดินออกจากโรงอาหารทันทีที่จบมื้ออาหาร โดยปฏิเสธคำเชิญชวนของอคินที่รั้งให้นั่งคุยกันก่อน ด้วยเพราะตั้งใจว่าจะไปดูการก่อสร้างห้องน้ำของผู้รับเหมาที่เขาจ้างมาจากในตัวเมืองที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวพ้นอาณาเขตโรงเรียนดี เสียงเรียกที่เริ่มคุ้นหูก็ดังท้วงขึ้นเสียก่อน
"คุณ!" ชายหนุ่มหยุดชะงักฝีเท้า แล้วหันไปมองตามเสียงเรียก เห็นมีนมีนาเดินหย็องแหย็งเข้ามาหา เสียจนต้องขมวดคิ้วมองอย่างแปลกใจ
"เรียกผมหรือ"
"ค่ะ"
"มีอะไรหรือเปล่า"
"พรุ่งนี้" มีนมีนาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปนหอบเล็กน้อย รู้สึกรำคาญกับการที่ต้องเดินกะเผลกเต็มทนแล้ว
"พรุ่งนี้ทำไม"
"คุณ…" หญิงสาวหยุดพูดเพื่อสูดหายใจเล็กน้อย โดยมีสายตาคมของศิขรินทร์จับจ้องไม่วางตา
"ค่อยๆ พูดก็ได้ ผมไม่ได้เดินหนีไปไหนเสียหน่อย" นั่นแหละ มีนมีนาจึงหยุดพักไปครู่หนึ่ง รอให้ลมหายใจติดขัดเป็นปกติ แล้วจึงเอ่ยพูดอีกครั้ง
"พรุ่งนี้คุณมีสอนไหมคะ"
"มี ทำไมหรือ"
"ฉันจะขอติดรถลงไปซื้อของด้วยน่ะค่ะ ได้ไหม" มีนมีนาทอดเสียงถามอย่างไม่มั่นใจ ขณะที่ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง
"พอดีน้องๆ เขาฝากซื้อด้วยน่ะค่ะ ฉันเลยกะว่าจะไปซื้อของ ขณะรอคุณสอน ไม่รบกวนคุณแน่นอนค่ะ"
"จะไปตะลอนเดิน ทั้งที่ขาเพิ่งหายดีน่ะหรือ"
"ฉันหายดีแล้วค่ะ" มีนมีนาเอ่ยบอกเสียงแข็งขัน แต่กลับถูกมองด้วยสายตาตำหนิกึ่งไม่อยากเชื่อ หญิงสาวเลยเงียบ
"ถ้าคุณจะไปก็ได้ แต่ต้องรอให้ผมสอนเสร็จก่อนราวสามชั่วโมง รอได้หรือเปล่า"
"ฉันสามารถไปซื้อของได้เองขณะที่รอคุณสอนได้นะคะ คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลา"
"แถวนั้นมีร้านกาแฟ ถ้าคุณสามารถไปนั่งรอผมที่นั่นสามชั่วโมงได้ ก็ไป แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ต้องไป" ศิขรินทร์มัดมือชก ยื่นข้อเสนอให้
"แต่ว่า…"
"คุณมีช้อยส์แค่นี้" ชายหนุ่มรวบรัด บ่งบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่ควรปฏิเสธ
"ค่ะ"
"ค่ะคืออะไร ไปหรือไม่ไป"
"ฉันไปรอคุณที่ร้านกาแฟก็ได้ค่ะ"
"งั้นเจอกันที่บ้านผมตอนเจ็ดโมง ต้องออกเช้าหน่อย เพราะผมมีคลาสตอนเก้าโมง"
"ค่ะ" มีนมีนารับคำอย่างว่าง่าย แต่กิริยาที่ลอบเม้มปากน้อยๆ อย่างดื้อดึงทำเอาศิขรินทร์หลุดยิ้ม และลงความเห็นว่าหญิงสาวเป็นคนที่ดื้อรั้นมากคนหนึ่งจริงๆ
"งั้น ฉันขอตัวก่อนนะคะ"
"ครับ" เขาพยักหน้าเป็นเชิงให้อนุญาต ก่อนหญิงสาวจะหมุนตัวเดินกลับไปยังตัวอาคารเรียนที่อยู่ห่างออกไป โดยมีสายตาของศิขรินทร์ทอดมองตามจนลับสายตาด้วยความรู้สึกหนึ่งที่พุ่งขึ้นมาในใจ ก่อนจะก้มมองเสื้อผ้าแสนธรรมดาที่สวมใส่อยู่เล็กน้อย พลางคิดว่าวันนี้พรุ่งนี้ เขาคงต้องหยิบเสื้อเชิ้ตตัวเก่งออกมาใช้บริการอีกสักรอบเสียแล้ว
--------------------------------------------
อัพครบจบตอนที่ 7 แล้วค้าาาา
เสาร์อาทิตย์นี้ ใครอยากอ่านกันแบบยาวๆ ปาคอมเมนต์มาสัก 15 คอมเมนต์นะค้าาา
เดี๋ยววันหยุดนี้จะอัพให้อ่านกันต่อเนื่องไปเลยยยยยย ^^
ขอบคุณสำหรับทุกแรงใจนะค้าาาา มาปูเสื่อรอชมความดุของคุณคามกัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่ค่อยรีบเตรียมตัวเลยนะคะ ท่าน
อยากอ่านอีกกกก??????‘?
รอ ๆๆๆ
รออยู่นะคะ
รอลุ้นนะคะพี่มีนกับคุณคามมุ้งมิ้งน่ารัก
ปูเสื่อรอด้วยคนค่ะ
วางแผงเมื่อไหร่คะออเดอร์เลยไหมหรืออีบุ๊คออกก่อนคะ
พระเอกรู้ใจตัวเองแล้วๆๆๆ
รออออออออออออออออออออออออออออออจ้าาาาาาาาาาาาาาาา
แอบดู งานนี้ พ่อเลี้ยงคาม เอาจริง เบื่อเป็นโสดแล้วใช่มั้ย
สาวขอตืดรถไปซื้อของนะ ไม่ได้ชวนไปเดทสักหน่อยถึงต้องแต่งตัวหล่อ เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ระวังจะโดนหมวดอคินแซวอีกนะ
น้องมีนเสน่ห์แรงจริงๆ