ตอนที่ 23 : ดวงใจศิขรินทร์ : ตอนที่ 8 --- 30%
ตอนที่ 8
ร่างบางในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบคู่กลางเก่ากลางใหม่ก้าวออกมาจากบ้านพักของป้าคำจัน ในตอนที่ฟ้ายามรุ่งสางยังไม่แจ่มกระจ่างดี แล้วออกเดินไปบนถนนลูกรังเส้นเล็กภายในหมู่บ้าน ตรงไปยังบ้านพักของนายใหญ่แห่งหมู่บ้านมะปิน ด้วยเพราะวันนี้เธอมีนัดกับเขาตอนเจ็ดโมงเช้า เพื่อขอติดรถชายหนุ่มลงไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวให้กับบรรดารุ่นน้อง ที่ห้างสรรพสินค้าในตัวจังหวัด หลังจากเมื่อวานเธอเอ่ยปากขออนุญาตเขาไว้เรียบร้อยแล้ว และด้วยความที่มีนมีนาไม่อยากให้เขาต้องมารอเธอ หญิงสาวจึงตื่นนอนแต่เช้าตรู่ และเดินเท้ามาถึงบ้านศิขรินทร์ในตอนที่ประตูบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ยังปิดเงียบ ขณะที่รถกระบะแบบ 4wd คันใหญ่ยังคงจอดนิ่งอยู่ในโรงรถด้านซ้าย
มีนมีนาพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา และพบว่ามันเพิ่งจะเป็นเวลาหกนาฬิกาสิบนาทีเท่านั้น ทำเอาหญิงสาวถึงกับยืนเก้อที่มาก่อนเวลานัดร่วมหนึ่งชั่วโมง แต่ร่างบางก็ยืนละล้าละลังอยู่ได้เพียงครู่เดียว ประตูบ้านก็เปิดออก ด้วยฝีมือของหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีที่เยี่ยมหน้าออกมามอง อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นเธอ มีนมีนาจึงยกมือขึ้นไหว้ทันทีตามมารยาท พร้อมกับร้องทักทายออกไป
"สวัสดีค่ะ"
"ไหว้พระเถอะเจ้า มาหานายคามหรือ" อีกฝ่ายย้อนถามกลับมาด้วยภาษาเหนือชัดแจ๋ว แต่ยังพอจับใจความได้ เธอจึงเอ่ยตอบกลับไปได้ตรงประเด็น
"ค่ะ หนูนัดกับเขาไว้"
"เข้ามารอข้างในก่อนสิจ๊ะ นายกำลังแต่งตัว" หญิงสูงวัยเอ่ยชวนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแสนเป็นมิตร หวนให้มีนมีนานึกถึงคำพูดของเด็กหญิงหนูดี
'หนูดีรักทุกคน รักพ่อ รักพี่มีน รักลุงอคิน แล้วก็รักป้าเหมยด้วยค่ะ'
ผู้หญิงคนนี้คงเป็นป้าเหมยของเด็กหญิงหนูดีแน่ๆ
"เอ่อ...หนูรอข้างนอกดีกว่าค่ะ" มีนมีนาปฏิเสธอย่างเกรงใจ
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้ะ เข้ามารอข้างในนี่แหละ มาๆ" ป้าเหมยเอ่ยบอกพร้อมกับกวักมือเรียกหย็อยๆ แล้วเดินนำเข้าไปก่อน มีนมีนาจึงต้องเดินตามเข้าไปอย่างเสียไม่ได้
บ้านของนายใหญ่แห่งมะปินเป็นบ้านไม้กึ่งปูนสองชั้น ถูกออกแบบในไสตล์ไทยประยุกต์ ด้านบนเป็นไม้สักอย่างดี ขณะที่ภายในตกแต่งแบยเรียบง่าย มีโต๊ะรับประทานอาหารตั้งอยู่กลางบ้าน เยื้องกับประตูครัวที่ยื่นออกไปทางด้านซ้าย ส่วนพื้นที่ทางด้านขวาเป็นห้องรับแขกขนาดเล็ก มีเพียงโซฟาและโต๊ะกระจกตั้งไว้ ถัดไปเป็นตู้หนังสือไม้ขนาดใหญ่และโต๊ะอ่านหนังสือ ซึ่งตั้งอยู่ริมหน้าต่างแบบกระจกบานใหญ่ ส่วนกลางบ้านนั้นเป็นบันไดไม้สักที่ถูกขัดมันจนเงาวับ
"น้ำเจ้า" เสียงป้าเหมยที่เดินกลับออกมาจากห้องครัวพร้อมกับแก้วน้ำเย็นเฉียบดึงความสนใจของมีนมีนาที่ยืนคว้างอยู่กลางบ้านให้หันไปมอง
"ขอบคุณค่ะ"
"นั่งรอตรงนี้ก่อนก็ได้จ้ะ นายกับหนูดีกำลังมา"
"ค่ะ" มีนมีนาพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนเลื่อนเก้าอี้ไม้ออกมานั่ง ตามคำเชิญชวน
"แล้วหนูกินข้าวมาหรือยัง"
"ยังค่ะ"
"งั้นกินเลยไหม หรือจะรอนายก่อน วันนี้ป้าทำข้าวต้ม…"
"เอ่อ...หนูยังไม่หิวน่ะค่ะ"
"ได้จ้า งั้นรอกินพร้อมนายเลยเนอะ นั่งไปก่อนนะ ป้าขอไปเตรียมอาหารในครัวก่อน"
"ค่ะ" หญิงสาวรับคำอย่างว่าง่าย ก่อนป้าเหมยจะเดินผลุบหายเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง ปล่อยให้มีนมีนานั่งมองไปรอบบ้านหลังใหญ่อย่างสำรวจ ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงเล็กๆ สลับกับเสียงร้องเมี้ยวๆ ดังลงมาจากด้านบน
"คิตตี้! อย่าเดินพันขาหนูดีสิ เดี๋ยวหนูดีหล่นบันไดนะ" มีนมีนาหลุดยิ้ม แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองตรงด้านบนของบันได เห็นเด็กหญิงตัวน้อยกำลังเกาะราวบันได ค่อยๆ เดินลงมาอย่างระมัดระวัง พร้อมด้วยเจ้าแมวน้อยตัวอ้วนปุ๊กเดินเคลียคลอลงมาอย่างออดอ้อน
เมี้ยว เมี้ยว
"อย่าพันขาสิ!" เสียงหนูดีดุเจ้าคิตตี้อีกรอบ ใบหน้าจิ้มลิ้มยับยุ่ง ก่อนเงยหน้าขึ้นร้องเรียกป้าเหมยเสียงดัง
"ป้าเหมยขา คิตตี้หิวข้าวแล้ว" เด็กหญิงร้องบอกแกมตะโกน ก่อนจะเดินลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้ายได้ในที่สุด ตอนนั้นแหละที่มีนมีนาซึ่งนั่งเงียบอยู่ร้องทักออกไป
"อรุณสวัสดิ์จ้ะหนูดี" หนูดีหันขวับมามอง ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกกว้างขึ้นอย่างประหลาดใจ ตามมาด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างยินดี
"พี่มีน! พี่มีนมาอยู่ที่บ้านหนูดีได้ยังไงคะ" เด็กหญิงเอ่ยถาม ก่อนเดินแกมวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเจ้าคิตตี้อีกตัว
"พี่มีนมีนัดกับคุณพ่อหนูดีน่ะค่ะ ป้าเหมยเลยให้มานั่งรอในนี้"
"งั้นหรือคะ" เด็กหญิงรับคำเสียงใส ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าตื่นเต้น "พี่มีนเห็นเจ้าคิตตี้หรือยังคะ มันตัวอ้วนกว่าเดิมมากเลย"
"เห็นแล้วจ้ะ" หญิงสาวบอกพร้อมกับก้มมองเจ้าแมวตัวอ้วนที่เดินเข้ามาเคลียคลอตรงขา เจ้าคิตตี้ดูอ้วนกว่าครั้งที่เจอกันมากจริงๆ
"ลุงอคินบอกคิตตี้ตะกละ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า เลยตัวอ้วนค่ะ"
"น่ารักดีออกจ้ะ ตัวกลมๆ แก้มยุ้ยๆ"
"ก็น่ารักค่ะ แต่มันขี้เกียจ ไม่ช่วยจับหนูเลย" เด็กหญิงฟ้องหน้ายุ่ง ขณะที่เจ้าคิตตี้ครางรับเสียงเมี้ยวๆ ทำเอามีนมีนาหลุดหัวเราะเบาๆ กับท่าทีไม้เบื่อไม้เมาของหนูดีและคิตตี้
"แล้วนี่พี่มีนกินข้าวหรือยังคะ กินข้าวกับหนูดีไหม หนูดีกำลังหิวเลย"
"หนูดีกินก่อนเลยจ้ะ พี่มีนยังไม่ค่อยหิว" มีนมีนาบอก ก่อนชวนคุยอย่างถูกชะตา
"ว่าแต่ทำไมหนูดีตื่นเช้าจังเลย"
"หนูดีได้กลิ่นข้าวต้มของป้าเหมยน่ะค่ะ เลยตื่นเลย" เด็กหญิงบอกพร้อมกับยิ้มเขินอาย ด้วยกิริยาน่ารักน่าชัง จนมีนมีนาอดคว้าตัวเข้าไปกอดด้วยความเอ็นดูอย่างเสียไม่ได้ แถมด้วยการหอมแก้มอิ่มอีกหนึ่งฟอด
"ทำไมหนูดีถึงได้น่ารักขนาดนี้เนี่ย" หนูดียิ้ม ก่อนตอบเสียงหวาน
"เพราะหนูดีเป็นลูกพ่อคามไงคะ ถึงได้น่ารัก"
"เอ แบบนี้หมายความว่าคุณพ่อต้องน่ารักก่อนหรือเปล่าน้า หนูดีเลยน่ารักตาม" มีนมีนาเอ่ยแซวยิ้มๆ พลางก้มมองคนในอ้อมแขนอย่างให้ความสนใจ จึงไม่ทันได้เห็นว่าร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงสแลคเนื้อดีที่กำลังเดินลงมาจากด้านบน หยุดชะงักยืนอยู่บนตีนบันไดสามขั้นสุดท้าย ยามที่ประโยคนั้นลอยเข้าหูแบบชัดเจน
"ใช่แล้วค่ะ พ่อน่ารัก ลูกเลยน่ารัก"
"หืม น่ารักแพคคู่เลยหรือคะ" หญิงสาวจับแก้มอิ่มอย่างหมันเขี้ยว ทำเอาเด็กหญิงหัวเราะคิกคักอย่างจั๊กจี้ ก่อนที่หนูดีจะเอ่ยเรียกชื่อบุคคลที่สามเสียงดัง ทำเอามีนมีนาเกร็งตัวขึ้นอย่างตกใจ
"พ่อขา"
.......................
พ่อคามมาแอบได้ยินสาวพูดแบบนี้ จะรู้สึกยังไงน้าาาาา 5555
มาอัพแล้วนะคะ อย่าลืมปาหัวใจกับคอมเมนต์มาเป็นกำลังใจให้ลานีนด้วยนะค้าาาา
ถ้ามีคนรอเยอะ วันนี้อ่านยาวๆ จบตอนที่ 8 กันไปเลยค่ะ ^^
ขอให้มีความสุขกับวันหยุดและนิยายละมุนๆ นะค้าาา
ปล.ไม่ได้ตั้งใจช้านะค้าาา เนตบ้านล่มตั้งแต่ช่วงเที่ยง หลังตอบคอมเมนต์เสร็จ นี่ใช้เนตมือถือค่ะ กับจัดหน้าในมือถือ ถ้าไม่สวยงามหรือไม่สบายตา ต้องขออภัยมาด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ุู่ว่าไงคะ คุณพ่อผู้น่ารัก
พูดอย่างนี้ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยไหมล่ะ
มาต่อเลยค่ะ
พ่อคามน่ารักจริงป่ะ หุหุ
น่ารักแพคคู่ คุณคามได้ยินคงยิ้มแก้มแตก 55
ตกใจตามนางเอกเลย อิอิ
วลีเด็ด
สงสัยจะถูกใจ
ขุ่นพ่อ อย่างแรง