ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Bleach: Ulquiorra x Original] The Lullaby for my dream

    ลำดับตอนที่ #25 : Chapter 24: One little spoiled girl (นักเรียนสาวเจ้าปัญหา)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 969
      44
      25 ม.ค. 53

     

    อ๊ะ!  ดูข้างนอกสิคะท่านอุลคิโอร่า  หิมะล่ะค่ะ ข้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพลางกระตุกดึงแขนเสื้อของอีกฝ่ายให้หันออกไปมองนอกหน้าต่างร้าน

     

    อืม ร่างโปร่งของคนข้างตัวข้าตอบรับขณะหันไปมองเพียงเล็กน้อย จากนั้นจึงละความสนใจไปหาชั้นหนังสือตรงหน้าเช่นเดิม ข้าเลื่อนสายตาจากหิมะแรกของปีที่เริ่มร่วงโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าซึ่งเริ่มจะมืดมิด หันกลับมามองร่างสูงตรงหน้าที่ยังคงจดจ่อหยิบหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าขึ้นมาเปิดดู

     

    ...นายท่านเนี่ย  พอเจอหนังสือเข้าหน่อย...อะไรก็ไม่สนใจเลยเหมือนเดิม...

     

    ถ้าอย่างนั้น ขอข้าออกไปด้านนอกร้านสักครู่แล้วเดี๋ยวจะกลับมานะคะ ข้าขออนุญาตเสียงเบา และเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงอนุญาต ข้าจึงก้าวเท้าเดิน เซนเซอร์ประตูกระจกทำงานอัตโนมัติ  ทันทีที่ก้าวพ้นออกมาจากตัวร้าน กระแสลมเย็นเยียบก็พัดเข้าปะทะหน้าทันที

     

    หวา  หนาวจัง  ข้าพึมพำกับตนเองพลางกระชับเสื้อคลุมปิดคอแล้วเดินไปพิงที่เสาหินข้างๆ  จากนั้นจึงยกมือหนึ่งขึ้นรองรับเกล็ดเล็กๆสีขาวที่ค่อยๆร่วงลงสู่มืออย่างแผ่วเบา  มันให้ความรู้สึกเย็นนิดๆ  เพียงไม่นานนักก็ละลายไป  ข้าเงยหน้าขึ้นมองความมหัศจรรย์ของธรรมชาติบนโลกมนุษย์ด้วยความหลงไหลเพลิดเพลิน  โคมไฟสีเหลืองรายทางที่กำลังทำหน้าที่ให้ความสว่างยามค่ำคืนเป็นช่วงๆนั้นตัดสลับกับแสงไฟจากป้ายนีออนหลากสี ทำให้ทิวทัศน์ยามรัตติกาลมาเยือนของบริเวณย่านร้านค้าดูสวยงาม  บริเวณจัตุรัสกลางเมืองไม่ไกลจากร้านหนังสือนั้น  ชายหลายคนกำลังช่วยกันยกต้นไม้ต้นใหญ่ลงจากรถ และเริ่มประดับไฟและสิ่งต่างๆลงบนนั้น

     

    ...อีกไม่นานก็จะเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาสแล้ว...

     

     นับๆดูก็ผ่านมาเกือบสี่เดือนแล้วที่พวกเรามาอยู่ที่โลกมนุษย์  ถึงแม้ว่าพวกเราจะเริ่มปรับตัวกับชีวิตประจำวันอันเรียบง่ายของที่นี่แล้วก็เถอะ   แต่จนถึงตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับนายท่านก็แทบจะไม่มีอะไรคืบหน้าไปจากเดิมเลย  นอกจากที่ว่า ดูเหมือนท่านจะใจดีขึ้นนิดหน่อย แล้วก็เวลาจะไปไหนมาไหนท่านก็ยอมชวนข้าไปด้วยต่างจากเมื่อก่อนที่อยู่ฮุเอโก้ มุนโด้  ยกตัวอย่างเช่นวันนี้หลังเลิกงาน  นายท่านที่นานๆจะไม่มีงานค้างไว้ให้อยู่ทำต่อจนดึกก็เอ่ยปากถามข้าว่าจะมาร้านหนังสือด้วยกันไหม...

     

    ...อ้อ อีกเรื่องที่คืบหน้าขึ้นอีกนิด  ก็คือเวลาอยู่ด้วยกันลำพังท่านจะเรียกข้าด้วยชื่อเฟลิโอน่าเหมือนที่ท่านเคยบอกไว้  ซึ่งจนป่านนี้ข้าก็ยังไม่ได้เล่าเรื่องชื่อจริงของข้าให้ใครอื่นฟัง  ชื่อนี้ยังคงเป็นเพียงความลับระหว่างข้ากับเขาเท่านั้น ...ที่จริง หากข้าไม่คิดเข้าข้างตนเองจนเกินไปนัก  ข้ารู้สึกว่าน้ำเสียงที่เขาเรียกชื่อข้านั้นแฝงความอ่อนโยน นุ่มนวลเอาไว้ด้วย

     

    ข้ามองเข้าไปด้านในร้านอีกครั้ง  ร่างโปร่งของชายหนุ่มผมสีดำที่สวมเสื้อโค้ทหนังสีน้ำตาลกำลังยืนอ่านหนังสืออย่างจดจ่อ  ร่างนั้นแลดูสง่าและมีเสน่ห์เรียกสายตาของหญิงสาวทุกคู่บริเวณนั้นให้หันไปมอง  บางคนถึงกับหน้าแดงนิดๆและหันไปซุบซิบกันอย่างสนุกปากกับเพื่อนสาวใกล้ๆเลยก็มี  ข้าเห็นภาพนั้นแล้วอดที่จะรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้  ถึงจะรู้ว่าเจ้านายของข้าจะไม่ใส่ใจแววตาที่จับจ้องมาที่เขาเลยก็เถอะ แต่สายตาแบบนั้นของพวกผู้หญิงที่มองเขาอย่างกับจะกลืนกินเนี่ยข้าล่ะทำใจให้ชินไม่ได้เลยจริงๆ  ที่จริงแค่ที่โรงเรียนข้าก็เคยได้ยินข่าวลือมาว่าพวกนักเรียนมีแอบจัดอันดับคนหน้าตาดีในโรงเรียน  และเท่าที่เคยได้ยินพวกนั้นคุยกัน...ท่านอุลคิโอร่าก็ติดอันดันต้นๆด้วยสิ!

     

    ...ดูเหมือนบนโลกมนุษย์เนี่ย  นายท่านจะฮอตน่าดู...

     

    ข้าถอนหายใจเฮือก  ยกมือขึ้นเป่าพลางถูมือไปมาเพื่อลดความหนาวเย็น  รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ลืมหยิบถุงมือก่อนออกมาจากบ้าน  เมื่อกวาดสายตาไปมองบรรยากาศโดยรอบ  ผู้คนมากมายดูเหมือนจะตื่นเต้น และรอคอยเทศกาลที่กำลังจะใกล้เข้ามานี้  พ่อแม่บางคนก็กำลังจูงมือลูกเดินไปดูที่หน้าร้านขายของเล่น พลางคุยหยอกล้อและหัวเราะอย่างสนุกสนาน  คู่รักหนุ่มสาวที่เดินผ่านไปมาก็เดินจูงมือกัน  บางคู่ก็เดินซบกันอย่างอิงแอบแนบชิดชนิดที่ไม่อายสายตาใครจนข้าเห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้ แล้วเสียงประตูร้านที่เปิดออกดึงข้าให้หันไปมอง  และเป็นร่างของท่านอุลคิโอร่าที่ก้าวออกมาพร้อมกับถุงหนังสือในมือ

     

    ซื้อเสร็จแล้วเหรอคะข้าเหลือบมองหนังสือสองสามเล่มในถุงแล้วหันมายิ้มให้ อีกฝ่ายพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ 


    ...อยากจะไปเดินเล่นดูวิวต่อจังเลย  ท่าทางคืนนี้จะสวยน่าดู...


    ข้าครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วจึงถามออกไป

     

    ท่านจะรีบกลับ หรือมีธุระที่ไหนต่อรึเปล่าคะ

     

    ไม่..." นายท่านหันมองข้าพลางเอ่ยถามเสียงเรียบ



    "
    ทำไม หรือเจ้าอยากไปที่ไหน

     

    ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ เพียงแต่ข้าอยากลองเดินเล่นดูบรรกาศรอบๆบ้างน่ะค่ะ เพราะตั้งแต่ข้ามาโลกมนุษย์ ยังไม่เคยเวลามาเดินเล่นแบบจริงๆจังๆซักที  ดูเหมือนว่านายท่านจะงุนงงกับคำว่า เดินเล่นจริงๆจังๆของข้า แต่ก็ไม่ใส่ใจมากนัก เขาหันไปมองรอบๆ

     

    จะไปไหนล่ะ ข้าฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำพูดนั้น พลางรีบชี้ไปทางต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ที่กำลังถูกประดับอยู่ ชักชวนเสียงระรื่น

     

    ไปเริ่มจากตรงนั้นมั้ยคะ พูดจบข้าก็ดึงปลายแขนเสื้อโค้ทสีน้ำตาลนั้นเบาๆให้ตามมา ท่านอุลคิโอร่ายอมก้าวเท้าตามแต่โดยดี เราสองคนเดินผ่านผู้คนมาเรื่อยๆ ระหว่างนั้นพวกข้าก็เดินสวนกับคู่รักวัยรุ่นหลายคู่ที่เดินจูงมือกันกระหนุงกระหนิง ข้าล่ะอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองกิริยาของพวกเขา หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นลอยๆว่ารู้สึกหนาว ฝ่ายชายจึงหันไปมอง แล้วรวบมือหล่อนเข้ามากุมไว้แน่น เอ่ยเสียงกระเซ้า

     

    งั้นจับมือกันไว้ละกัน จะได้อุ่นขึ้น เขาคนนั้นเอ่ยหัวเราะออกมาเมื่อโดนหญิงสาวตีเผียะเข้าที่ไหล่เบาๆด้วยความเขิน แต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายจับมือแน่นเดินควงกันผ่านข้าไปแต่โดยดี แว่บหนึ่งที่ฝ่ายหญิงแอบหันกลับมามองนายท่าน แต่ก็โดนสายตาข้าพิฆาตไป เร็วพอๆกับที่โดนฝ่ายชายดึงหัวเจ้าหล่อนให้หันกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วข้าก็ได้ยินเสียงใสต้องตามง้อชายหนุ่มทีเหมือนจะงอนไปแล้ว แต่เพียงครู่เดียว...เสียงหัวเราะสองเสียงก็ลอยประสานมาตามลม

     

    เออ...หวาน...หวานกันเข้าไป...ไม่เห็นใจคนมองซะบ้างเลย

     

    ข้าแอบเหลือบกลับไปมองคู่รักที่น่าอิจฉานั่นอีกครั้ง  พอเห็นมือทั้งสองข้างที่จับกันไว้แน่นอย่างมีความสุขของพวกเขาแล้วก็รู้สึกอ้างว้างในใจ ข้าลอบมองมือที่ซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทของคนข้างตัว อดไม่ได้ที่จะคาดหวังให้เขาทำอย่างคู่ที่เพิ่งเดินผ่านไปบ้าง  ลมเย็นที่พัดผ่านมาอีกครั้งทำให้ข้าต้องยกมือขึ้นมาอังที่ปากแล้วเป่าลมหายใจร้อนๆใส่ไล่ความหนาวเย็น

     

    หนาวรึไงเสียงทุ้มที่ดังขึ้นข้างตัวทำเอาข้าสะดุ้ง รีบละสายตาจากมือขึ้นมองหน้าคนถาม

     

    ก็...นิดหน่อยค่ะพอได้ยินคำตอบ ดวงตาสีเขียวเข้มก็เลื่อนมามองมือข้าที่กุมประสานกันไว้ ครุ่นคิดบางอย่างเพียงครู่ แล้วจึงเลื่อนมือออกจากกระเป๋า มือแกร่งนั้นกุมมือข้าไว้อย่างนุ่มนวล เมื่อสัมผัสถึงความเย็นยะเยียบของปลายนิ้วข้า คิ้วเรียวนั้นก็ขมวดน้อยๆ แล้วจึงดึงมือข้าข้างใกล้ตัวลงไปซุกที่กระเป๋าเสื้อเขาพร้อมๆกับมือเขาที่บีบมันไว้แน่น ทำเอาข้าถึงกับยืนนิ่งจับต้นชนปลายไม่ถูก

     

    แบบนี้...ดีขึ้นไหมเขาถามโดยไม่หันมอง แต่กลับเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ข้าเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าด้านข้างของเขาที่ดูเหมือนจะพยายามตีสีหน้านิ่ง แต่กลับมีสีเรื่อขึ้นเล็กน้อย มือข้างที่กุมมือข้าไว้มั่นนั้นทำให้ใจรู้สึกอบอุ่น ข้าเผยยิ้มบาง เอ่ยตอบรับเบาๆในขณะที่ต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วพอจะเคียงข้างคนตรงหน้าให้ทัน

     

    ค่ะ

     
    ...อุ่นขึ้นมาก...โดยเฉพาะที่หัวใจ...


    พวกเราเดินมองร้านค้าต่างๆไปเรื่อยๆ  บางครั้งข้าเวลาเห็นของต่างๆที่ดูสวยงามตื่นใจข้าก็จะหยุดดูพลางเรียกให้นายท่านหันไปมองด้วย  ส่วนใหญ่ท่านก็เหมือนจะแค่พยักหน้าน้อยๆเป็นการรับรู้แต่ก็ดูไม่ค่อยจะสนใจอะไรสักเท่าไหร่จนข้าชักไม่แน่ใจว่าเขาเบื่อรึเปล่า  แต่ถึงอย่างนั้น  เวลาข้าเดินไปไหน  เขาก็ยังคงเดินเคียงข้างข้าไปเรื่อยๆโดยไม่บ่นอะไร...และมือของเขาก็ยังคงกุมมือข้าไว้โดยไม่ปล่อยตลอดทางเช่นกัน...

     

    ระหว่างที่เดินผ่านแผงเครื่องประดับที่ปูวางขายเรียงรายอยู่ที่พื้น  สายตาข้าก็ไปสะดุดกับสร้อยข้อมือสีเงินที่ประดับด้วยจี้รูปดอกไม้เล็กๆทำด้วยกระจกหลากสี  สร้อยนั้นมันทอประกายสะท้อนแสงไฟงดงาม...สวยจนข้าลืมตัวหยุดมอง  เผลอรั้งร่างของชายข้างตัวเอาไว้ให้หยุดเดิน  ท่านอุลคิโอร่าหันมามองด้วยความแปลกใจ  แล้วจึงสลับมองระหว่างข้ากับเจ้าสร้อยข้อมือเส้นเล็กนั้น

     

    ติดใจมันรึไง

     

    อ๊ะ...ก็แค่เห็นว่ามันสวยดีน่ะค่ะข้าหันไปมองนายท่าน   แล้วจึงละสายตากลับไปมองที่เจ้าสร้อยนั้นอีกครั้ง  รู้สึกชอบมันจริงๆนั่นแหละ...แต่ท่าทางจะแพงน่าดู...แต่แล้วนายท่านกลับทรุดตัวลงนั่ง หยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมา แล้วยื่นให้คนขายทันที

     

    ข้าเอาเส้นนี้  เท่าไหร่?”

     

    หญิงวัยกลางคนที่เป็นเจ้าของแผงนั้นยิ้มระรื่นพลางบอกราคาที่ฟังดูก็ค่อนข้างจะแพง  หากนายท่านกลับไม่ใส่ใจ  หยิบเงินออกมาจ่ายให้หล่อนอย่างรวดเร็ว  จากจึงหันมามองข้าที่ยังคงมองเขาอย่างงงๆ  ไม่พูดพร่ำทำเพลง  จับมือข้าดึงลงนั่งข้างๆแล้ว สวมสร้อยนั้นลงบนข้อมือบางอย่างรวดเร็ว ข้าซึ่งตั้งตัวไม่ทันได้แต่กระพริบตาปริบๆมองสร้อยเส้นสวยที่มาอยู่บนข้อมือตนเองเรียบร้อย แล้วจึงค่อยๆเลื่อนสายตาขึ้นมองเจ้าของดวงตาสีเขียวเข้มนั้น

     

    เจ้าอยู่กับข้ามานานแต่ข้าไม่เคยให้อะไร  เอาเป็นว่าข้าซื้อสิ่งนี้ให้แล้วกัน เขาตอบเสียงเรียบ ขณะหันกลับไปรับเงินทอนจากคนขายที่มองสลับข้าทีท่านอุลคิโอร่าทีแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

     

    ขะ...ขอบคุณค่ะข้าเอ่ยขอบคุณในขณะที่หัวสมองยังงๆ  แต่แล้วเสียงของคนขายที่จู่ๆก็โพล่งกระเซ้าขึ้นมานี่สิ  ทำเอาเลือดสูบฉีดขึ้นมาจนร้อนไปทั้งหน้า

     

    แหม...แฟนหนูนี่นอกจากหน้าตาดี แล้วยังทำตัวน่ารักนะเนี่ย เจ้าหล่อนหันไปมองนายท่านที่ตอนนี้เหมือนจะแข็งเป็นหินไปแล้วเมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด จากนั้นจึงหันมาขยิบตาให้ข้า

     

    อย่าปล่อยให้หลุดมือไปล่ะ หล่อระดับเนี้ย ป้าเสียดายแทนข้าหันไปมองนายท่านที่ดูจะเหมือนอึ้งๆไป เขารีบหลบสายตาหญิงคนขายที่ส่องประกายวิบวับมาให้เหมือนจะลำบากใจ

     

    ...ถึงจะดีใจที่คุณป้าเค้าเห็นแบบนั้นก็เถอะ  แต่ข้ากับนายท่านก็ยังไม่ได้เป็นคนรักกันสักหน่อย  พูดแบบนี้ท่านอุลคิโอร่าคงลำบากใจน่าดู...

     

    เอ่อ เข้าใจผิดแล้วค่ะ คือว่า...  ข้าว่าจะแก้ความเข้าใจผิด  แต่ก่อนที่ข้าจะได้อธิบายจบ...

     

    อ้าว  นั่นคุณครูชิฟเฟอร์กับคุณครูอาราวเน่นี่นาเสียงใสๆขัดขึ้นมาจากด้านหลัง  เรียกให้พวกข้าหันไปมอง  เด็กสาวในชุดนักเรียนของโรงเรียนเราในกระโปรงสั้นยาวเพียงคืบและปักสัญลักษณ์ว่าอยู่ปีสามวิ่งตรงมาหาอย่างร่าเริง  เส้นผมสีทองย้อมผิดระเบียบที่ถูกมัดรวบขึ้นไปเป็นหางม้าสะบัดไปมา  เจ้าหล่อนแต่งหน้าซะเข้ม แต่ก็จัดว่าสวยและมีเสน่ห์มาก  มือของเธอทาเล็บหลากสีหยิบลูกอมเข้าปาก...เด็กคนนี้...ผิดระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยมั้งเนี่ย

     

    เธอคนนั้นวิ่งมาหยุดแล้วนั่งลงข้างๆข้า  หยิบแหวนวงเล็กๆขึ้นส่อง  แล้วจึงเลื่อนสายตามามองข้าผ่านช่องแหวนที่อยู่ในมือนั้น

     

    ตกลงแล้ว...พวกครูเป็นแฟนกันสินะคะ  แหม! แบบนี้สาวๆโรงเรียนเราคงต้องอกหักกันทั้งโรงเรียนแน่ๆเลย  เธอเอ่ยเย้าแบบไม่กลัวเกรงว่าพวกข้าเป็นครูเลยสักนิด  ทำเอาข้าตั้งสติไม่ถูก  ส่วนนายท่านก็เอาแต่เงียบหากก็มองนักเรียนสาวตรงหน้าไม่วางตา  ประเมินบางอย่าง  หากเด็กสาวก็ไม่ใส่ใจสายตานั้น  เธอส่งยิ้มหวานเยิ้มไปให้นายท่านแทน  แล้วจึงหันหลังไปตะโกนเรียกชายหนุ่มอีกคน  ที่ข้าเพิ่งสังเกตว่ายืนรออยู่ไม่ไกล

     

    นี่  ฮิโรกิคุง!  อายากะอยากได้แหวนวงนี้ล่ะ  ซื้อให้ทีสิ เธอส่งสายตาออดอ้อนไปหาชายคนที่กำลังเดินเข้ามา พอเห็นคนที่ชื่อฮิโรกิเต็มๆตาข้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วงเด็กสาวคนที่เพิ่งเดินมาทักข้า...ก็ดูท่าทางผู้ชายคนนี้สิ ท่าทางนักเลงสุดๆ แถมดูยังไงอายุก็น่าจะพ้นวัยที่จะเป็นนักเรียนแล้ว ชายคนนั้นเหลือบมองข้า แว่บหนึ่งที่สายตาเขามันแฝงแววกะลิ้มกะเหลี่ยที่ข้าไม่ชอบเอาซะเลย เขาละสายตาไปมองหญิงสาวอีกคนพลางหยิบแหวนมาจากมือเธอแล้วหันไปถามราคาจากแม่ค้า แต่เมื่อรับฟังราคาเขาก็ยื่นเงินไปให้เกินจำนวนพร้อมบอกว่าไม่ต้องทอน ราวกับต้องการอวดว่าตนเองรวยนักหนา  เขาบรรจงสวมแหวนนั้นลงบนนิ้วนักเรียนหญิงโดยไม่ขออนุญาตสักคำ  ก่อนเลื่อนสายตามามองข้า  หรี่ตาแล้วยิ้มอย่างไม่น่าไว้ใจ  ขณะที่ยกแขนขึ้นโอบรอบคอเด็กคนที่ชื่ออายากะไว้หลวมๆ

     

    แล้ว...จะไม่แนะนำคุณผู้หญิงคนสวยตรงหน้าให้ผมรู้จักหน่อยเหรอ อายากะจัง

     

    แหม...ผู้หญิงคนสวย พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง  อายากะสวยสู้เค้าไม่ได้เลยเหรอ  เจ้าหล่อนแกล้งเอ่ยเสียงกระเง้ากระงอด  แสร้งเบะปากเหมือนไม่พอใจ  ทำเอาคนที่กอดคอไว้อยู่หัวเราะออกมาเบาๆ

     

    ใครว่าล่ะ  อายากะของผมต้องสวยที่สุดอยู่แล้ว แต่เห็นเธอรีบวิ่งมาหาพวกเค้า  ผมก็เลยอยากรู้จักเพื่อนของเธอบ้างก็เท่านั้น  พูดจบเขาก็หอมแก้มหญิงสาวฟอดใหญ่โดยไม่อายสายตาชาวบ้านเลยสักนิด...การแสดงออกมันกล้าเกินไปแล้ว...มันไม่ใช่สิ่งที่วัยนักเรียนสมควรทำเลย  ข้าชักเป็นห่วงนักเรียนหญิงตรงหน้า  และอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาตำหนิไปให้พวกเขา  พอทั้งคู่เห็น  ฝ่ายชายเพียงแค่ละมือออกจากคอหญิงสาว  ยกมือขึ้น ส่งสายตายั่วเย้ามาให้ข้าราวกับเป็นการบอกว่ากลัวแล้วๆ  ส่วนนักเรียนหญิงตัวดีเพียงแค่มองข้าแล้วหัวเราะคิก  เอ่ยราวกับมันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ

     

    อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ  แหม...ก็แค่กอดกับหอมแก้ม เรื่องปกติเท่านั้นเอง  สมัยนี้ใครๆเค้าก็ทำกัน  ข้าเบิกตากว้าง  แทบไม่เชื่อหู...เรื่องปกติงั้นเหรอ!?  ให้ตายเถอะเด็กสมัยนี้!  เจ้าเด็กแก่แดดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของข้า  เธอหันไปหาแฟนหนุ่มข้างตัว

     

    เสียใจด้วยฮิโรกิคุง  เห็นหน้าเด็กๆแบบนี้ พวกเค้าไม่ได้เป็นเพื่อนของอายากะหรอกนะ  คนผู้ชายนั่นคือคุณครูอุลคิโอร่าล่ะ  ส่วนอีกคนน่ะคุณครูอารา...

     

    กลับกันได้แล้ว จู่ๆท่านอุลคิโอร่าก็เอ่ยขัดจังหวะการแนะนำตัวของหล่อน พลางกระตุกดึงมือข้าให้เดินตามไปทันที ระหว่างที่นายท่านเดินสวนชายที่ชื่อฮิโรกิไปนั้น แว่บหนึ่งที่แววตาของทั้งคู่จ้องประสานกันอย่างไม่เป็นมิตร ดวงตาสีเขียวบนใบหน้าเฉยชานั้นมีประกายแข็งกร้าว ในขณะที่อีกคู่กลับฉีกยิ้มยั่วหากแววตาที่จ้องตอบกลับมานั้นดุดันราวกับจะประกาศศึก เพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่นายท่านจะเลื่อนสายตาไปมองเด็กหญิงที่จ้องมองทั้งคู่พลางอมยิ้มให้ เขาเอ่ยเสียงดุ

     

    เธอเองก็กลับบ้านไปซะ นี่ไม่ใช่เวลาที่เด็กนักเรียนสมควรจะมาเดินเล่น

     

    ค่าๆ  เจ้าหล่อนตอบรับแกนๆ ไม่ใส่ใจ  แล้วจึงดึงมือชายหนุ่มข้างตัวไปอีกทางอย่างไม่ทุกข์ร้อน

     

    ฮิโรกิคุง เราไปทางนั้นกันดีกว่านะ  อีกฝ่ายพยักหน้าพลางเดินตามไป  ข้าลอบมองเด็กหญิงคนนั้น รู้สึกเป็นห่วงที่เธอไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายแบบนั้น  แต่แล้วจู่ๆชายที่ชื่อฮิโรกินั่นก็หันกลับมามองข้าราวกับรู้ว่าถูกแอบจ้องอยู่  เขายิ้มพลางยกมือขึ้นแตะคิ้วแล้วสะบัดออกเหมือนกับเป็นการทักทาย  ข้ารีบหันหน้ากลับทันที...ผู้ชายอะไรน่ารังเกียจจริงๆ

     

    ระหว่างที่กำลังเดินทางกลับบ้าน  เรื่องของเด็กสาวกับชายคนนั้นกับมันติดอยู่ในใจข้าตลอดเวลา  จนอดไม่ได้ที่จะปรึกษาคนข้างตัว

     

    ท่านอุลคิโอร่า...ข้าเป็นห่วงเด็กคนที่ชื่ออายากะนั่นจังเลยค่ะ  สายตาของผู้ชายคนนั้นมัน...ข้า...ข้ากำลังรู้สึกว่านางกำลังเอาตัวไปเล่นกับไฟ” 

     

    ...เจ้ารู้ข่าวลือของเด็กคนนั้นในโรงเรียนเรารึเปล่า  เสียงทุ้มนั่นเอ่ยขึ้นมา ในขณะที่จูงมือข้าให้เดินตามมาเรื่อยๆ

     

    เอ๋?  ไม่นี่คะ  ข้าแปลกใจ...มีข่าวลือนี้ด้วยเหรอ  ข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย...แต่ให้เดาจากสภาพเธอแล้ว  คงไม่ใช่เรื่องดีหรอก

     

    อายากะ  ชิมาบาระ  ปี3 ห้องB  แทบไม่มีใครในโรงเรียนที่ไม่รู้จักชื่อนี้  เป็นเด็กที่จัดได้ว่าเป็นตัวปัญหาเพราะทำตัวผิดระเบียบโรงเรียนเกือบทุกข้อ รวมทั้งโดดเรียนเป็นว่าเล่น และมีข่าวลือว่าเปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้าแทบทุกอาทิตย์  ถ้าผู้ชายคนไหนอยากคบด้วยก็เตรียมตัวจ่ายเงินจนกระเป๋าฉีกได้เพราะนางจะเรียกร้องให้ซื้อนั่นซื้อนี่ให้ไม่รู้จักจบสิ้น  แต่เพราะหน้าตาจัดได้ว่าเข้าขั้นดี ทำให้ผู้ชายมากมายยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้คบและจะได้เอาไปคุยอวดใครต่อใครได้...ส่วนพวกเด็กผู้หญิงในโรงเรียน  เกลียดนางกันทั้งนั้น  ตอนนี้ได้ข่าวว่ากำลังคบอยู่กับลูกชายหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่มีอิทธิพลอยู่...เดาได้ว่าคงเป็นเจ้าคนเมื่อครู่ที่ได้พบกัน  หลังจากที่นายท่านร่ายจนจบและรู้สึกว่าข้าเงียบไป  เขาจึงหันกลับมามองข้า...ที่กำลังกระพริบตาปริบๆ

     

    มองอะไร?”  เขาเอ่ยถามเสียงเรียบเมื่อเห็นสีหน้าข้าที่ดูจะอึ้งๆไป

     

    เอ่อ...นายท่านรู้ละเอียดจังเลยนะคะ  ...ไปรู้มาจากไหนเนี่ย...

     

    พวกเด็กนักเรียนหญิงที่พยายามมาตามหน้าตามหลังข้าจนน่ารำคาญเล่าให้ฟัง...เอาเป็นว่าผู้หญิงแย่ๆอย่างเด็กคนนั้นไม่สมควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยให้เสียเวลา เจ้าก็อยู่ให้ห่างนางเข้าไว้เป็นดีนายท่านเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ  แล้วจึงจูงมือข้าเดินต่อ   แล้วก็เหมือนนึกขึ้นได้  เขาจึงพูดลอยๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    อีกเรื่อง...อยู่ให้ห่างเจ้ามนุษย์ผุ้ชายคนนั้นไว้ด้วยแล้วกัน ข้าว่าสายตามันที่มองเจ้ามันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด ถ้าเป็นไปได้ ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมันทั้งคู่นั่นแหละดีที่สุด

     

    เข้าใจแล้วค่ะ ข้าตอบรับเมื่อรู้ถึงความเป็นห่วงที่เจือมาในน้ำเสียงนั้น...หากไม่รู้ทำไม ลึกๆเสี้ยวหนึ่งในหัวใจกลับรู้สึกสังหรณ์ว่าจะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์สองคนนั่นอีกครั้ง

     

    แสงจากโคมไฟที่ส่องประกายตามทางตกกระทบสร้อยข้อมือเส้นบางจนส่งประกายระยิบระยับ  ข้าจ้องมองสร้อยเส้นบางที่มีจี้รูปดอกไม้สั่นไหวไปตามก้าวเดินนั้น พลางเหลือบมองแผ่นหลังของคนที่จูงมือข้าอยู่ด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ...ของขวัญชิ้นแรกจากนายท่าน...ข้าจะเก็บรักษามันไว้อย่างดีที่สุด...  แล้วจู่ๆสิ่งที่คนขายวัยกลางคนคนนั้นพูดขึ้นมาว่าข้ากับนายท่านดูเหมือนเป็นคนรักกันก็ดังขึ้นมาในหัว ทำเอาข้าบีบมือของคนตรงหน้าเบาๆ อีกฝ่ายเหมือนจะเข้าใจว่าข้าหนาวจึงกระชับมือข้าให้แน่นขึ้น  พอเห็นการกระทำนั้นข้าก็ต้องลอบยิ้ม...

     

    ...ดูเหมือนว่า  อะไรหลายๆอย่างจะพัฒนาขึ้นโดยที่ข้าไม่รู้ตัวเหมือนกันมั้ง...

     

    แต่แล้วความรู้สึกทั้งมวลก็พลันหายไปเมื่อเจ้าโทรศัพท์ดังก้องขึ้นมาในความเงียบ  และตามมาด้วยเสียงโวยวายลั่นจนหูข้าแทบพังของกริมจอว์ ที่บ่นว่าข้าหายตัวไปไหนกับท่านอุลคิโอร่า และรีบๆกลับมา  เขาหิวจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

     

     

     

    ///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

    ตอนนี้มาสั้นๆ *ฮา*

    จำ อายากะ กับ ฮิโรกิเอาไว้นะคะ  2 คนนี้จะเป็นตัวแปรที่นำไปสู่จุดพีคของเรื่องในเร็วๆนี่ล่ะค่ะ ^^

    ...ปล. กริมจอว์...นายนี่มันมารขัดขวางเวลาแห่งความสุขของอารี่จังชัดๆเลย = =”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×