คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : บทที่ 8
บทที่
8
อากาศปลอดโปร่งโล่งสบายเหมาะกับเช้าวันใหม่ยิ่ง
แสงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วนภาและผืนดินปลุกเหล่าสิ่งมีชีวิตให้ตื่นจากนิทรา
บ่งบอกว่าถึงเวลาเริ่มต้นใหม่ของอีกวัน..
แสงแดดอ่อนค่อยๆ ทอดแสงจากระเบียงมายังปลายเตียงของชายหนุ่มผู้กำลังหลับใหล
ไอร้อนจากแสงแดดสัมผัสกับขาอันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแกร่งที่ยื่นออกมานอกผ้าห่มเพียงเล็กน้อย
ทำให้ขาแกร่งต้องชักขากลับเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มตามเดิม
สายลมหอบไอร้อนจากแสงแดดพัดลอดหน้าต่างที่แง้มไว้เข้ามาภายในห้อง กระทบเข้ากับใบหน้าคมเข้มของบุรุษจนเกิดเป็นภาพที่งดงามยั่วยวนตา..
ซิกฟรีดปรือตาเบาๆเมื่อรับรู้ถึงไอร้อนที่กระทบหน้าเขาก่อนจะค่อยๆใช้ดวงตาสีแดงของตนปรับแสงร้อนเหล่านั้นให้คุ้นชิน
ผิวขาวซีดราวกับมิได้ต้องแสงใดๆค่อยๆเล็ดรอดออกจากผ้าห่มผืนหนา
เรือนร่างบุรุษเพศเย้ายวนสายตาสายลมและแสงสุริยะราวกับดึงดูดให้จ้องมอง..
“ฮาว..ว..ว..”
ซิกฟรีดบิดขี้เกียจก่อนจะยกมือป้องปากหาวยาวๆทีหนึ่งแล้วจึงค่อยลุกออกจากเตียงมุ่งตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อประสาทสัมผัสของเขาที่ยังไม่ตื่นเต็มที่ดันได้ยินเสียงหนึ่งดังออกมาจากกำแพง
‘อ๊า..อ๊ะ..อ๊า อือ..อ๊า..’
เสียงครวญครางหวานชวนให้คิดไปไกลดังเล็ดรอดออกมาแม้จะแผ่วเบา
แต่สำหรับสายเลือดแวมไพร์บริสุทธิ์เช่นเขาแล้วนั้น...เสียงนี้มันช่างดังชัดเจนราวกับว่าดังอยู่ข้างหูเลยทีเดียว
– มือหนาลูบหน้าตนเองทีหนึ่งด้วยความปลงจิตก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำธุระของตน
‘มนุษย์หนอ...ไม่ว่าเวลาใด
ก็เสพกามารมณ์ได้ทุกเวลาจริงๆ’ นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มคิด
ใช้เวลาไม่นาน
ร่างหนาในชุดลำลองก็เก็บข้าวของออกจากห้องพักที่ตนเองเช่าแล้วมุ่งเดินลงไปชั้นล่างเพื่อคืนกุญแจทันที
แต่หูของเขามันก็ช่างดีจริงๆ เสียงครวญครางและเสียงเนื้อกระทบเนื้อยังคงดังอยู่
ราวกับว่าพวกเขาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยใดๆ ‘อ๊า แรงอีก ได้โปรด..อืออ..แรงอีก
อ๊า..ท่า..ท่านสโมค แรงอีก..’
ตึกๆ
“อ้าวคุณชาย ท่านจะไปแล้วรึ – ” เสียงแหบๆของผู้ดูแลดังขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของชายหนุ่มเดินตรงมาทางตนพร้อมสัมภาระด้านหลัง
“อืม..”
ซิกฟรีดส่งเสียงแค่นั้นก่อนจะคืนกุญแจแล้วเดินออกจากร้านไป
โดยมีรอยยิ้มการค้าของชายชราเป็นฉากหลังของเขา
ร่างสูงเดินไปตามถนนที่มีผู้คนเดินพรุกพร้านเต็มไปหมดอย่างครองแคร้วแม้จะมีย่นจมูกบ้างเมื่อได้กลิ่นที่ตนเองไม่พึงชอบ
จุดมุ่งหมายของเขาคือ ประตูทางเข้าโรงเรียนมหาเวทย์ ที่ตอนนี้อัดแน่นไปด้วยฝูงชน!
เสียงจอกแจกจอแจดังขึ้นไม่ขาดสายตลอดสายทางที่มุ่งสู่ทางเข้าโรงเรียนมหาเวทย์แสนเกรียงไกร
ร่างบอบบางของอิสตรีนางหนึ่งเด่นสง่าท่ามกลางฝูงชนเหล่านั้น สเตลล่า
เทอร์มินเลี่ยน ในชุดสีดำสลับขาวยืนเกาแก้มด้วยความเขินอายเมื่อมีแต่สายตาจับจ้องมาที่ตน
ในใจก็ภาวนาให้ผู้เป็นพี่ออกมารับตัวเธอเข้าไปเสียที
แต่ทะว่าเหมือนหญิงงามจะมีเทพเจ้าโชคร้ายสิงสถิต...
“ว้าย! กระเป๋าของข้า!!!”
สเตลล่าหลุดเสียงร้องเมื่อจู่ๆตนก็โดนชนแถมกระเป๋าสัมภาระที่มีจดหมายสำหรับเข้าโรงเรียนอยู่ในนั้นถูกช่วงชิงไปต่อหน้าต่อตา
ใบหน้าหวานซีดเผือกตามนิสัยที่แสนจะขี้กลัวก่อนจะออกตัววิ่งตามเมื่อนึกได้ในสิ่งที่พี่ชายพูดย้ำเสมอ
‘ถ้าน้องไม่มีจดหมาย...น้องก็เข้าเรียนไม่ได้ จำไว้
ห้าม-ทำ-หาย-เด็ด-ขาด’
ตึกๆ
ร่างบางวิ่งตามคนร้ายแทบจะไม่ทัน แต่สายตาดุจเหยียวก็ยังคงแลเห็นว่าคนร้ายอยู่ที่ใด
สมองน้อยๆคลุดคิดถึงบทเรียนที่เคยได้รับการสั่งสอนจากพี่ไปด้วยขณะวิ่ง
แต่เหมือนเทพโชคร้ายจะรักเธอเหลือเกิน..
“หลีกไป!! รถม้ามังกรอสูรดำมาแล้ว หลีกๆ”
“นังหนู หลีกเร็ว!!!!”
“หือ?...ว้าย!!!”
สเตลล่าที่วิ่งตามคนร้ายจนมาถึงโซนสำหรับจอดรถม้าของเหล่าชนชั้นสูงและราชวงค์หยุดวิ่งเมื่อได้ยินร้องตะโกนเรียกตนให้หลีกทาง
แต่ราวกับว่าความกลัวตรึงขาเล็กๆทั้งสองเอาไว้กับที
ใบหน้าหวานซีดเผือกพร้อมกับเหงื่อที่ไหลย้อยจนเปียกชุ้ม ในใจคิดซ้ำไปซ้ำมา ตายแน่ๆ
ตายๆ ฮือ ท่านพี่ช่วยน้องด้วย!
เอี๊ยด!!! พรึบ!
สเตลล่าหลับตาปี๋เพื่อรอรับความรู้สึกเจ็บที่จะต้องต้องถาโถมเข้ามา
แต่เธอก็ต้องร้องเอ๊ะในใจเมื่อไม่ได้รู้สึกเจ็บใดๆ
แถมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอุ่นว้าบแปลกๆที่ผ่านเนื้อผิวของตนเอง
เปลือกตาค่อยๆปรือขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
สิ่งแรกที่เธอเห็นคือดวงตาสีเหลืองอัมพันธ์เหลือบแดง
“ค..คือ..”
ตุบ!
“โอ๊ย!” หญิงสาวหลุดเสียงร้องออกมาเมื่อจู่ๆก็ถูกเหวี่ยงร่างลงกับพื้นเสียเต็มแรงโดยไม่ทันได้ตั้งตัวใดๆ
ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองค้อนใส่บุรุษผู้เหวี่ยงตนลงอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง
พร้อมกับพองแก้มและลูบสะโพกปอยๆ
“เจ้าอยากตายรึไง?” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์ของชายหนุ่มดังขึ้น
แววตาของเขาราวกับว่ากำลังจ้องจับผิดเธออยู่ “รึว่า?...ต้องการเรียกร้องความสนใจจากข้า”
กึด! “ใครอยากเรียกร้องความสนใจจากท่านกัน!” สเตลล่าค้อนเสียงใสก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนแม้จะเจ็บที่สะโพกก็ตามที
ดวงตาสีฟ้าอ่อนจ้องเขม็งบุรุษเบื้องหน้าด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะสะบัดผมแล้วเดินหนีไปทันทีด้วยใบหน้าบึงตึงที่โดนสบประมาท
ทิ้งไว้เพียงเหล่าฝูงชนและชายหนุ่มผู้ถูกค้อนขอด
ตึกๆ
“ให้ตายสิกระเป๋าก็ถูกขโมย
แถมยังมาเจอบุรุษหลงตัวเองอีก – ทำไมข้าซวยแบบนี้เนี้ย!” สเตลล่าบ่นพึมพำไปตลอดทาง
ในขณะที่ใช้สายตากวาดหาหัวขโมยที่บังอาจขโมยกระเป๋าของเธอไป
ตอนนี้เธอโกรธมากจนลืมเลือนความกลัวจนหมดสิ้น... กว่าจะรู้ตัว
เธอก็เดินออกมาไกลจากจุดนับพบกับพี่ชายเสียแล้ว...
แต่โชคยังดีเมื่อสายตาดันไปเห็นบุรุษผู้หนึ่งที่ทำหน้าร้อนใจอยู่
“ท่านพี่ฟิลิป!!”
หญิงสาวโดดโบกมือโหย่งๆก่อนจะวิ่งตรงไปหาผู้เป็นพี่ด้วยความดีใจ
“สเตล?! หายไปไหนมาห่ะเรา
พี่เป็นห่วงมากรู้ไหม!!” ฟิลิป เทอร์มินเลี่ยน
ดุน้องสาวด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะโผล่เข้ากอดน้องสาวตัวน้อยด้วยความคิดถึง “เด็กดื้อ
พี่บอกให้รออยู่นี้ยังจะหนีไปเล่นซนอีกนะเรา”
“ข้าเปล่าเล่นซนนะเจ้าค่ะ – มีขโมยมาแย่งกระเป๋าข้าไป
ในนั้นมีจดหมายข้าเลยวิ่งตาม” สเตลล่าพองแก้มก่อนจะออดอ้อนพี่ชาย
ฟิลิปร้องอ๋อออกมาก่อนจะหันไปส่งสายตาให้เพื่อนชายที่กำลังเล่นกับต่างหูของตนเองอยู่ทีหนึ่ง
ชายหนุ่มผู้ถูกเพื่อนส่งสายตาขอร้องเลิกคิ้วมองทีหนึ่งก่อนจะบ่นงุบงิบๆใส่
“ข้าเป็นประธานหอนะ ทำไมต้องทำตามคำสั่งเจ้าด้วย”
“- - เพราะข้าไม่ไว้ว่างใจให้เจ้าอยู่กับน้องน้อยของข้านะสิ!”
ฟิลิปส่งสายตาจิกกัดให้เพื่อนก่อนจะลูบหัวกลมๆของหญิงสาวด้วยความรักใคร่
“เหอๆ ไอ้คนติดน้อง!” เมแกน
แจ๊คควาลีน ผู้ดำรงตำแหน่งประธานหออัสเบสกรอกตาใส่รองประธานผู้ติดน้องทีหนึ่ง
ก่อนจะยอมทำตามที่อีกฝ่ายขอโดยการออกตามหาหัวขโมยผู้นั้นทันที
แต่ก็ไม่วายหันกลับมาตะโกนสั่งไว้ทิ้งท้าย “เจ้าติดหนี้ข้า จำไว้!!”
ไม่ไกลจากจุดที่สองพี่น้องกอดกันอยู่
ชายหนุ่มผู้ถือครองสายเลือดแวมไพร์อันบริสุทธิ์กำลังส่งสายตามองหาป้ายสำหรับส่งจดหมายเข้าเรียนของตน
และเขาก็เห็นแล้วว่าอยู่ที่ใดก่อนที่ร่างหนาจะเดินมุ่งหน้าไป..
การรับสมัครนักเรียนเข้าสู่โรงเรียนมหาเวทย์นั้นไม่ได้ยุ่งยากประการใด
เพราะ
นักเรียนทุกคนจะได้รับจดหมายรับรองจากทางโรงเรียนเพื่อมายื่นในจุดที่กำหนดไว้
โดยมีด้วยกันทั้งหมด 4 จุดตามป้ายที่ตัวแทนติดประกาศ
จดหมายรับรองจากโรงเรียนมหาเวทย์ แบ่งออกเป็นทั้งหมด
3 สี สีขาว
สีดำและสีเทา
จดหมายสีขาว
ส่งถึงประชาชนธรรมดาที่มีพลังเวทย์และถูกพลังกักขังพลังเวทย์
ทุกเผ่าพันธุ์และทุกฐานะ แม้แต่ขอทาน ยาจกหรือเด็กกำพร้าก็ได้รับ ผู้ทำหน้าที่มอบตราประทับเพื่อเข้าร่วมบททดสอบคือ
หัวหน้ากรรมการกลางของสภาศักดิ์สิทธิ์ มาเชียร์น่า เฮลซิน เชอร์โนบ็อก
ตราประจำจดหมายขาวคือ Snow
หรือ เกร็ดหิมะขาว
จดหมายสีดำ ส่งถึงเผ่าพันธุ์ปีศาจระดับชั้นสูง ผู้มีสายเลือดปีศาจ เหล่าองค์หญิง องค์ชาย หรือผู้สืบสายเลือดราชวงค์ รวมไปถึงเผ่าพันธุ์เทพและเหล่าสายเลือดผสม ผู้ทำหน้าที่มอบตราประทับเพื่อเข้าร่วมบททดสอบคือ หัวหน้าฝ่ายคุมกฎของสภาศักดิ์สิทธิ์ เดล เฟรคเมนต์ ตราประจำจดหมายสีดำคือ Ink หรือ หยดหมึก
จดหมายสีเทา
ส่งถึงบุคคลพิเศษที่มีชื่ออยู่ในระเบียบการเป็นนักเรียนตั้งแต่เกิด อาทิ
ผู้ถูกเลือกทั้ง 12 จากศิลาแห่งราชันย์และผู้พิทักพ์
หรือ ผู้มีพลังพิเศษที่ฝืนโชคชะตาและอำนาจของโลก ผู้ทำหน้าที่มอบตราประทับเพื่อเข้าร่วมบททดสอบคือ
ประธานสภาศักดิ์สิทธิ์ แมคเคนซี อิซาเบล เวด้า เฟอร์แลนด์
ตราประจำจดหมายสีเทา คือ smoke
หรือ ลายควัน
ส่วนจุดที่ 4 เป็นจุดเสริมสำหรับผู้ที่ไม่ได้รับจดหมายหรือผู้ทำจดหมายหาย
จุดนี้เป็นจุดสมัครและรับการทดสอบพลังขั้นพื้นฐานก่อนจะเลือกเกณฑ์ให้เหมาะสมกับอีก
3 จุด
มีผู้ดูแลด้วยกัน 3 คนได้แก่
อีวานเจลีน ยูริ ประธานหอกอสดาร์ก, อควาเซีย มารีน
ประธานหอแจ๊คเกอร์ และ เบอเรย์ ไวท์มูน ประธานหออคา
แน่นอนว่าย่อมมีผู้คนมากมายมาสมัครและย่อมต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นตามมา
ไม่ว่าจะเป็นการขโมย การก่อความวุ่นวายเพื่อทำลายชื่อเสียงของโรงเรียน
แต่ก็ยังมีคนกลุ่มที่ทำหน้าที่จัดการความวุ่นวายและยุติปัญหาต่างๆ นั้นก็คือ เมแกน
แจ๊คควาลีน ประธานหออัสเบส,
ฟิลิป เทอร์มินเลี่ยน
รองประธานหออัสเบส, เอมิเลีย
ฟอริน วอเกอร์ รองประธานหออคา, ไค มอนเตอร์
ภารโรงประจำโรงเรียนและโฮร์รี แอล(ลูอิส) นอกซ์ อาจารย์สอนวิชาการต่อสู้
ดังนั้นเรื่องวุ่นวายจึงจบลงไปได้อย่างง่ายดาย
จนเป็นที่ชื่นชมและชื่นชอบของชาวเมืองในละแวกใกล้เคียงและผู้มาชมการคัดเลือกนักเรียนของที่นี้...
ซิกฟรีด
ดี บลัดคิงสลีย์ เดอ ครีซิส
รัชทายาทผู้เกลียดความวุ่นวายเหล่ตามองบรรดาชนชั้นสูงและเหล่าเชื้อพระวงค์ทั้งหลายที่ขนข้ารับใช้มาเสียมากมายด้วยสายตาเบื่อหน่าย
ตอนนี้เขาประทับตราหยดหมึกสีดำไว้บนหลังมือขวา ดวงตาสีแดงสดกวาดสายตามองไปรอบๆ
ก่อนจะเลือกเดินไปยังโซนที่จัดไว้เพื่อรองรับผู้ประทับตราเสร็จแล้ว
ตึก..ชิ้ง!
ซิกฟรีดชะงักขาที่กำลังก้าวเดินของตน ดวงตาสีแดงมองไปยังจุดที่จิตสัมผัสของเขาสัมผัสได้
ราวกับโลกถูกหยุดเวลา เรือนผมสีข้าวโพดพลิ้วไปตามลม สตรีผู้ที่เขาตามหามาแสนนาน..ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปหาร่างบอบบางที่เขาเห็นเพียงแผ่นหลังก็เดินหายไปท่ามกลางฝูงชน....
ความคิดเห็น