ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jenlisa เกลียดก็จริง แต่ยัยหน้าหยิ่งนี่น่ะของฉัน (END)

    ลำดับตอนที่ #35 : พันกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.01K
      176
      5 เม.ย. 63








    “ว่าไงนะ?”  ดาวคณะสาวถามขึ้นด้วยแววตาที่ดูตกใจเล็กน้อย ทันทีที่อีกคนถามขึ้นมาลิซ่าก็ยกนิ้วขึ้นมาเกาแก้มก่อนจะก้มตาลงหลบสายตาเฉี่ยวของสาวหน้าหมวยที่จ้องมองมาที่เธออย่างฉับพลัน



    "..."



    "เมื่อกี๊เธอพูดว่าอะไร?"



    "ย..อย่าให้ต้องพูดอีกรอบสิ"  สาวร่างโปร่งเงยหน้าขึ้นมาเจอสายตาเฉียบคมของเจ้าของห้องที่ยังคงจ้องหน้าเธอนิ่งจนทำให้เธอต้องเป็นฝ่ายหันหลบไปตรงพื้นข้างๆเสียเอง



    เจนนี่สาวเท้าเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นก่อนที่ลิซ่าจะเห็นอีกว่าคนกำลังยิ้มมุมปากนิดๆทำเอาคนที่ถูกมองอย่างเธอแทบจะขนลุกไปทั้งร่าง 



    ลิซ่าพยายามจะก้าวถอยหนี แต่รุ่นพี่ตัวเล็กก็ก้าวเข้าใกล้เธอพร้อมคว้าข้อมือรุ่นน้องตัวสูงเอาไว้ทำให้ไปไหนไม่ได้ ดวงตากลมโตจำต้องตวัดกลับมาจ้องหน้ารุ่นพี่หน้าหมวยอีกครั้ง แล้วก็พบกับแววตาระยิบระยับที่มองมาที่เธอพร้อมกับรอยยิ้มที่หาดูได้ยากของคนที่ปกติหน้านิ่งตึงไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ



    "กว่าจะพูดออกมาได้นะ...ยัยบ้า" 



    ใบหน้าสวยของเจนนี่ขยับเข้ามาใกล้หน้าเธอจนลิซ่าเบิกตากว้าง ตอนนี้ตัวของทั้งสองแทบจะแนบชิดกันเพราะคนอายุมากกว่าที่ก้าวเข้ามาจนไม่เหลือพื้นที่ให้เธอยืน แถมยังจับแขนสาวร่างโปร่งเอาไว้แน่นอย่างบังคับบัญชา



    "ด..เดี๋ยวสิ..."



    "ชู่ว..."



    นิ้วเรียวของดาวคณะสาวแตะริมฝีปากของคนที่กำลังจะต่อต้านอย่างเบาๆเป็นการหยุดทุกคำพูดเอาไว้ ตาคมของเจ้าของห้องจ้องมองเข้าไปในดวงตาอีกคนในระยะที่ใกล้แบบที่ไม่เหลือความเป็นพี่น้อง 



    ลิซ่ามองใบหน้าสวยตรงหน้าเหมือนถูกสะกดจิต แววตาของดาวคณะหน้าหมวยไม่เหลือความเย็นชาที่คุ้นเคยเลยแม้แต่นิด ตอนนี้น้ำแข็งในแววตาเย่อหยิ่งที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรทำลายได้กลับกลายเป็นเหมือนกับดวงไฟร้อนเล็กๆแทนซึ่งสาวร่างโปร่งไม่เคยเห็นมาก่อนในดวงตาเฉี่ยวคู่นั้น



    ยังไม่ทันจะได้พูดหรือคิดอะไรต่อจากนั้น สัมผัสนุ่มของริมฝีปากคนตรงหน้าก็ประกบลงมาปิดปากเธอจนสาวร่างสูงต้องหลับตาแน่นด้วยหัวใจที่สั่นไหว 



    แม้จะคาดเดาเอาไว้แล้วบ้างแต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำเอาหัวใจเธอพลันหยุดเต้นได้เหมือนกับทุกครั้ง ลมหายใจที่เตรียมไว้ห้ามอีกคนต้องปล่อยออกมาเป็นการถอนหายใจแทน สติที่เต็มร้อยกลับกลายเป็นเลือนลางเมื่อคนตรงหน้ากำลังมอบสัมผัสหวานให้เธอ



    มือเรียวของลิซ่าคว้าเอวของรุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่าเอาไว้แล้วกระชับแน่นทั้งๆที่ตัวเองแทบหมดแรง แต่ดาวคณะสาวก็เหมือนจะรู้ ถึงได้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นคล้องคอคนตัวสูงกว่าพลางขยับเข้าไปใกล้และจูบอีกคนอย่างลุ่มลึกกว่าเดิมอย่างไม่ปราณีสถานะความเป็นน้องรหัสของอีกคน



    ผ่านไปเพียงชั่วครู่ที่สาวร่างโปร่งรู้สึกเหมือนตลอดกาล เจนนี่ก็ผละออกมาแล้วเว้นช่องให้อีกคนยืนอีกครั้ง ลิซ่ากะพริบตาลืมขึ้นมาอย่างช้าๆแล้วก็มองหน้าอีกคนอย่างงงๆเหมือนยังคงถูกตรึงเอาไว้ด้วยมนต์ร้อนที่ทำเอาสมองของเธอนึกอะไรไม่ทัน



    เจ้าของห้องยืนกอดอกมองหน้าเธอก่อนจะถามขึ้นเสียงเรียบๆดังปกติ



    "เป็นอะไร"



    ลิซ่าตวัดสายตาขึ้นมองหน้าอีกคนกลับเมื่อถูกเรียก แต่ก็ยังคงคิดคำตอบไม่ออกจึงได้แต่กะพริบตาถี่ๆสองสามทีด้วยความเงียบ



    "ไม่ชอบเหรอ?"



    เสียงหวานที่ถามขึ้นด้วยใบหน้านิ่งๆที่มองมาทำให้สาวร่างโปร่งต้องรีบตอบออกไปอย่างกลัวอีกคนเข้าใจผิด



    "ป..เปล่า มันก็แค่... "



    "?"



    "ไม่ชินล่ะมั้ง"  ลิซ่ายกนิ้วโป้งของตัวเองขึ้นมางับตรงปลายอย่างเขินๆพลางมองหน้าอีกคน ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเกาแก้มแทนเมื่อคนตรงหน้ายังคงเงียบสนิทไม่พูดอะไร



    "..."  



    เจนนี่เลิกคิ้วข้างหนึ่งแล้วก็เอียงหัวนิดๆพลางก้าวเข้ามามองหน้าเธออย่างชัดๆ เมื่อสบตากับดาวคณะหน้าหมวยลิซ่าก็เผลอใจสั่นอีกครั้ง แต่นั่นยังไม่แย่เท่าการที่เธอไม่รู้เลยว่าอีกคนจะทำอะไรต่อไป



    "ก็ชินซะสิ"



    และก็เป็นอีกครั้งที่ช่องว่างระหว่างทั้งสองถูกปิดลงด้วยริมฝีปากนุ่มที่บดจูบสาวร่างโปร่งอย่างอ่อนโยน 



    จังหวะการขยับของริมฝีปากที่เร็วเท่าเดิม น้ำหนักการกดเท่าเดิม และคงความหวานเท่าเดิมหรือแทบจะมากกว่า เหมือนจะเป็นการย้ำเตือนแทนคำพูดว่าให้เธอทำตัวให้เคยชินกับรสชาตินี้ซะ 



    เหมือนกับว่าเจ้าของริมฝีปากกำลังมอบสิ่งพิเศษให้กับเธอและให้เพียงเธอคนเดียวเป็นสัญญาตราตรึงว่าดาวคณะสาวจะเป็นของเธอเท่านั้น



    ลิซ่าถอนหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย เธอค่อยๆตอบสนองอีกคนโดยการเริ่มขยับตามและเอียงใบหน้าของตัวเองให้อีกคนเข้ามาได้อย่างสะดวกขึ้น มือทั้งสองของเธอจับร่างบางตรงหน้าเอาไว้อย่างเบามือเหมือนมันไม่ใช่เรื่องจริง 



    ระหว่างที่กำลังถูกความคิดในหัวพาล่องลอยไปไกลเจนนี่ก็กำลังมอบจุมพิตอันแสนหอมหวานให้กับเธออย่างจงใจ ลิซ่าแทบจะไม่อยากเชื่อว่าในตอนนี้รุ่นพี่หน้าหมวยกำลังบอกเธอกลายๆว่าสิ่งที่เธอได้ยินวันนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก... ที่ผ่านมาเธอไม่ได้คิดมากไปเอง 



    และอีกคนเองก็เลือกเธอเหมือนกับที่เธอเลือกอีกคน



    สาวร่างโปร่งค่อยๆถอนจูบออกมาอย่างเชื่องช้า... ไม่ใช่ว่าเธอต้องการให้มันหยุดลง แต่เพราะถ้านานกว่านี้เธออาจจะเป็นบ้าเอากับพิษรสหวานของคนตรงหน้านี่ต่างหาก



    เพียงแค่สองครั้งติดกันเท่านั้นก็ทำให้เธอรู้ได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่า...



    คนอะไรจูบเก่งเป็นบ้า!!



    "ฉันรู้นะว่าเธอคิดอะไรอยู่"  เสียงหวานของนางพญาบวกกับแววตาคมกริบปลุกให้สาวร่างโปร่งหลุดออกจากความคิดตัวเองอีกครั้งหลังจากอีกฝ่ายถอนริมฝีปากออกไปแล้ว 



    "อะไร?"



    เจนนี่ยิ้มขึ้นมาบางๆพลางจ้องหน้าเธอแล้วก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจที่ออกจะติดหลงตัวเองอยู่นิดๆของเจ้าตัว ทำให้ลิซ่าต้องรีบคิดหาวิธีป้องกันตัวเองในทันที



    "ว่าฉันจูบเก่งใช่ไหมล่ะ"



    อึก...



    ลิซ่าเผลอชะงักเล็กน้อยทันทีที่อีกคนพูดความคิดของเธอออกมาอย่างกับว่าได้ยินที่เธอคิด แต่เธอก็จะไม่ยอมให้คนที่อ่านตัวเองออกจะได้ใจไปเสียฝ่ายเดียว



    "ฉันว่าไม่ใช่พี่คนเดียวหรอกมั้ง"  สาวร่างโปร่งยิ้มมุมปากแล้วก็มองหน้าอีกคนเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ทำให้เจ้าของห้องเอียงหน้าไปข้างๆเล็กน้อยพลางมองหน้าเธอนิ่งอย่างไม่เข้าใจ



    "หมายความว่ายังไง?"



    ก็ตอนที่เธอจูบกลับน่ะสิ... จากที่แค่ชิมรสกันภายนอกทันทีที่ลิซ่าเริ่มรุกล้ำเข้าไปในปาก ร่างกายของรุ่นพี่ก็แสดงถ้าทีที่แตกต่างออกไปอย่างฉับพลัน เมื่อเธอเริ่มใช้ลิ้นร้อนสำรวจโพรงปากของอีกคนเจนนี่ก็ลูบไล้ลำตัวเธอมากขึ้น เรือนร่างของอีกคนแทบจะเข้ามาใกล้เธอจนชิดติดกันสนิท โดยเฉพาะส่วนนุ่มนิ่มที่เบียดเข้ามาเสียจนแม้แต่ตัวเธอเองก็รู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นในร่างกายทำให้รู้สึกโหยหาบางอย่างที่รุนแรงและมากขึ้น 



    และสาเหตุก็เป็นเพราะการจูบของสาวร่างโปร่งเองที่ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ารุ่นพี่...ถึงได้จุดติดไฟในตัวอีกคนขึ้นมาขนาดนั้น



    ลิซ่าไม่พูดอะไรต่อ เพียงแค่แสยะยิ้มแล้วมองหน้าอีกคนค้างไว้ ก็ทำให้สาวดาวคณะปีสองคิดได้ทันทีว่าน้องรหัสของตัวเองกำลังหมายถึงอะไร



    "ยัยบ้า!"



    เพียะ



    รุ่นพี่หน้าหมวยเดินเข้าไปตีแขนสาวร่างสูงเสียงดังแล้วก็รีบตีหน้านิ่งหน้าดุของตัวเองพลางเดินหนีไปทางอื่นด้วยความรวดเร็ว ลิซ่ามองตามคนตัวเล็กที่เดินหนีเธอเข้าห้องน้ำไปพลางลูบแขนตัวเองป้อยๆ แถมยังหุบรอยยิ้มกึ่งขำของตัวเองไม่ได้กับความน่ารักที่ล้นตัวของอีกคน



    ปัง



    "ถ้าอย่างงั้นยังไงต่อ?"  ลิซ่าเดินตามอีกคนที่เพิ่งเข้าไปในห้องน้ำซึ่งอยู่ใกล้ประตูห้องแล้วก็พูดขึ้นมาให้อีกคนได้ยิน สาวร่างโปร่งกอดอกยืนพิงผนังข้างหลังตัวเองอย่างสบายๆพลางมองไปตรงหน้ารอคำตอบจากคนข้างใน



    "อะไร?"



    "เราสองคนน่ะ..."



    มีความเงียบกลืนกินอยู่ในอากาศ...นานพอที่จะรู้ว่าอีกคนก็รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ลิซ่ายิ้มออกมาบางๆพลางมองเล็บตัวเองฆ่าเวลา ที่เธอไม่เครียดอาจเป็นเพราะอีกคนยังอยู่ในห้องน้ำไม่ได้อยู่ตรงหน้า หรือไม่ก็เป็นเพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าคราวนี้ตัวเองจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสมันลอยไปไหนอีกแน่ๆ



    "ในเมื่อเราทั้งคู่ชอบอีกคน..."



    "..."



    "ถ้าอย่างนั้นเราก็มาเป็นแฟนกันดีมั้ย?"



    สาวร่างโปร่งพูดด้วยรอยยิ้มพลางมองไปยังประตูห้องน้ำตรงหน้าที่รู้ว่าอีกคนอยู่ข้างในและก็ได้ยินเธอชัดในทุกๆคำแน่ๆ แต่ยังไม่ทันทีเจนนี่จะได้ตอบ เสียงทุบจากประตูห้องข้างตัวก็ทำให้ลิซ่าสะดุ้งขึ้นมาเสียก่อน แล้วก็ต้องรีบมองออกไปทางตาแมวทันที



    ปังๆๆ!!



    'เฮือก'



    ผ่านรูเล็กๆนั้นมีคนๆหนึ่งยืนอยู่ด้วยสีหน้าเหมือนกำลังโกรธเกรี้ยวใครอยู่ ความตกใจที่ปนอยู่ในแววตาของชายหนุ่มที่เพิ่งทุบประตูทำให้ดวงตากลมโตของลิซ่าเบิกกว้างขึ้นทันที เพราะมีสิทธิเป็นอย่างสูงโดยเฉพาะถ้าเป็นบุคคลตรงหน้าแล้วที่เขาจะเพิ่งได้ยินสิ่งที่เธอพูดไปเมื่อกี๊ไม่มากก็น้อย



    หัวสมองของสาวร่างโปร่งทำงานด้วยความรวดเร็วแข่งกับเวลาและความอดทนที่ดูจะมีน้อยนิดของคนหน้าห้อง



    เธอมาทำอะไรที่นี่? ทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องของเจนนี่? แล้วเจ้าของห้องตอนนี้อยู่ไหน?



    ลิซ่าหาเหตุผลและหนทางให้กับคำถามทั้งหมดพร้อมกับคิดไปด้วยว่าเธอจะหาทางแก้ให้กับคำพูดเมื่อครู่ของตัวเองได้อย่างไร



    'โทรศัพท์... ส่วนพี่เจนนี่คงฉลาดพอที่จะไม่ออกมาจากห้องน้ำตอนนี้อยู่แล้ว'



    ทันทีที่เธอคิดออกมือเรียวก็กดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทแล้วซ่อนมันไว้ข้างตัว ก่อนที่อีกมือจะรีบเปิดประตูให้กับคนที่อยู่หน้าห้องก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวทุบประตูมาอีกรอบ



    แกร๊ก



    ใบหน้าคมเข้มที่คุ้นเคยมองหน้าลิซ่าด้วยดวงตาที่โตแทบถลน หนุ่มผมดำหอบหายใจจนอกกระเพื่อมด้วยความโกรธและแววตาที่ต้องการคำอธิบายจากเธอ สาวร่างโปร่งมองคนที่อายุน้อยกว่าแต่อยู่ชั้นปีเดียวกันด้วยสีหน้าที่ทำให้ดูปกติสบายๆที่สุด ก่อนที่จะทักอีกคนไปด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆทั้งๆที่เธอเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน



    "อ้าว ว่าไงแม็ค"



    ...



    ไม่ต้องมองนานก็รู้ว่าคนที่กำลังยืนขมวดคิ้วจ้องหน้าเธอเขม็งอยู่นั้นไม่มีความอดทนเหลืออยู่มากนัก กำปั้นของชายหนุ่มที่ยันอยู่ข้างประตูห้องนั้นเกร็งจนสั่น ลิซ่าปั้นยิ้มสุภาพใส่แม็คแล้วก็ยกมือขึ้นขอเวลาส่วนตัวสักนิดจากแขกผู้มาใหม่ มือเรียวยกโทรศัพท์ที่ถืออยู่อีกข้างขึ้นมาแนบหูอีกครั้งพลางกรอกเสียงลงไปเหมือนสานต่อบทสนทนาที่กำลังคุยค้างเอาไว้



    "ตกลงว่าไง?"



    "เธอกับฉันน่ะ... จะคบไม่คบ?"



    สาวร่างโปร่งที่มีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้ามองผ่านชายหนุ่มไปที่กำแพงสีขาวข้างนอกห้องอย่างสบายๆ ในโทรศัพท์มีเสียงของฝั่งนั้นตอบกลับมาซึ่งแม็คฟังไม่ออกว่าพูดว่าอะไร แต่เจ้าของดวงตากลมโตก็ค่อยๆยิ้มกว้างขึ้นแล้วก็กลับมามองหน้าเขาอีกครั้งเหมือนกำลังจะให้เขายินดีไปด้วยกับคำตอบที่เขาไม่รู้เรื่องด้วย



    "งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ ที่รัก"



    ลิซ่าที่ดูอารมณ์ดีตัดสายไปก่อนจะลดมือลงและก็เพิ่งจะมาให้ความสนใจกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนไปซะอย่างนั้น



    แม็คขมวดคิ้วแน่นแล้วก็จ้องหน้าสาวร่างโปร่งพลางถามออกมาเสียงแข็งอย่างยังไม่ยอมแพ้



    "ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่ครับ?"  เหงื่อที่ตกลงมาจากไรผมของหนุ่มหน้าเข้มนั้นบ่งบอกถึงอารมณ์ร้อนของเขาในขณะนั้นที่อยากจะรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยไม่มีปิดบัง แต่หารู้ไม่ว่าคนตรงหน้าเขาก็กำลังพยายามจะทำสิ่งตรงข้ามเลยนั่นแหละ



    "มาเอาของขวัญ"  ลิซ่าตอบเสียงนุ่ม เมื่อความเงียบผ่านไปเล็กน้อยเธอก็เลิกคิ้วขึ้นเหมือนจะถามว่ามีอะไรอีกรึเปล่า เพียงแต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมจากไปง่ายๆ



    "ที่ห้องพี่เจนนี่งั้นเหรอ...แล้วพี่เจนนี่อยู่ไหนล่ะ?"



    "..."  ยังไม่ทันที่ลิซ่าจะได้ตอบ หนุ่มผมดำก็แทรกคำถามขึ้นมาต่อโดยไม่รีรอจะสนใจประเด็นแรกเลยสักนิด



    "แล้วเมื่อกี๊ถ้าผมได้ยินไม่ผิด... พี่ลิซ่ากำลังขอใครเป็นแฟนเหรอครับ"  ลิซ่าตีหน้าไม่คิดมากก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วก็ครางตอบในลำคอ  



    "อื้ม..ใช่ ทำไมอะ?"  ชายหนุ่มหรี่ตาอย่างไม่เชื่อใจแล้วก็เหร่ตามองไปยังโทรศัพท์ในมือของเธอที่ปิดหน้าจอเป็นสีดำไปแล้ว



    "ถ้าผมจะถามว่าใครคงจะไม่ได้เป็นการรบกวนใช่ไหม?"  ประโยคคำถามถูกเน้นทีละคำเหมือนกำลังต้องการเค้นคำตอบออกมาจากอีกคน 



    แต่แน่นอนว่าสาวร่างโปร่งเองก็เตรียมใจให้แผนเอาตัวรอดครั้งนี้ของเธอเป็นแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่แรก



    "ดาวคณะฉันน่ะ แกไม่รู้จักหรอก"  ทันทีที่คำว่าดาวคณะเผยขึ้นมา ชายหนุ่มก็เลิกคิ้วขึ้นทันทีพร้อมเบิกตาโตมากกว่าเดิม



    "ใครครับพี่ลิซ่า"



    ท่าทางของแม็คทำให้ลิซ่าต้องแอบรู้สึกกระตุกเกร็งในใจ ไม่ใช่เพราะการที่เขากำลังก้าวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นจนอกแทบจะเข้ามาชิด แต่เป็นเพราะแววตาและน้ำเสียงแข็งกร้าวนั่นต่างหากที่ทำให้เธออยากจะถอยห่างออกมา



    แต่สาวร่างโปร่งรู้ว่าการที่ตัวเธอและบุคคลที่หลบอยู่ในห้องน้ำจะรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้อย่างราบรื่นก็ต้องการความไหลลื่นของเธอในขณะนี้ เพราะฉะนั้นเธอจึงปั้นหน้านิ่งไม่ไหวติงแล้วก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกอย่างรวดเร็วอีกครั้ง  


    "ที่รัก... ขึ้นมาหาที่ห้องพี่เจนนี่หน่อย"  พูดเพียงแค่นั้นเธอก็ตัดสายไป ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาชายหนุ่มที่กำลังเดือดแล้วยักคิ้วให้เบาๆ เพิ่มความงุนงงให้กับเขาไปอีกซึ่งก็เป็นสิ่งที่เธอต้องการ



    ไม่ถึงห้านาทีผ่านไปที่รู้สึกเหมือนยาวนาน ร่างบางของสาวเรือนผมสีแดงก็มาปรากฏตัวขึ้นสร้างความตกใจให้กับชายหนุ่มเล็กน้อย โรเซ่สบตาลิซ่าอย่างรับรู้สถานการณ์ แล้วก็เข้าไปยืนข้างเธอโดยที่ชายหนุ่มต้องหลบตัวให้ด้วยความเกรงใจเบื้องต้นของคนที่เขายังไม่รู้จัก


    "ว่าไงคะ? เรียกขึ้นมามีอะไร"  ดาวคณะสาวปีหนึ่งถามเพื่อนสนิทเสียงหวานด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่จริงๆก็เป็นการลองเชิงไปด้วยเพราะเธอเองก็ไม่รู้แน่ชัดเหมือนกันว่าลิซ่าเรียกตัวเองขึ้นมาทำไม



    แต่ดูจากสถานการณ์ก็ไม่น่าพ้นเรื่องหนุ่มหน้าเข้มที่ยืนอยู่ใกล้ๆเธอที่คอยสร้างปัญหาหัวใจให้กับสาวร่างโปร่งสักเท่าไหร่หรอก



    ลิซ่าใช้มือเรียวเกี่ยวเอวบางของเพื่อนเข้าหาตัวแล้วก็โอบไว้แนบข้างชิด แม็คมองมือและการกระทำของเธอเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนมามองหน้าเธอแทนเพื่อหาคำอธิบายที่เขาต้องการ สาวร่างโปร่งยิ้มนิดๆก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเรียบๆจิดภูมิใจหน่อยๆเมื่อเธอประกาศทำความรู้จักเพื่อนสนิทในสถานะแปลกใหม่ให้กับคนใจร้อนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้



    "นี่โรเซ่ ดาวคณะเศรษฐศาสตร์ของปีนี้... แฟนฉันเอง"

     


    "..."



    "..."



    ชายหนุ่มอึ้งไปสักพัก และแน่นอนว่าคนข้างตัวเธอที่เพิ่งถูกแนะนำก็คงตกใจเช่นกัน... แต่โรเซ่ก็รู้มากพอที่จะเงียบไว้และยิ้มบางๆรับกับคำพูดเธอไปโดยธรรมชาติที่สุด หญิงสาวผมแดงแม้กระทั่งเอนตัวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นนิดนึงตามคำบอกเล่าที่เพิ่งถูกปรุงแต่งออกไปด้วยซ้ำ



    แม็คมองหน้าของสาวหุ่นดีทั้งคู่สลับกันแล้วก็ยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองอย่างไม่ค่อยเชื่อ ท่าทางขมวดคิ้วหนักของเขาเป็นเครื่องอุ่นใจให้กับลิซ่าได้ระดับหนึ่งว่าแม็คคงจะเชื่อสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปอยู่ไม่มากก็น้อย กำปั้นแข็งแรงของชายหนุ่มขยุ้มแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคงเป็นเพราะความสับสนและไม่รู้จะทำอย่างไรของเขา ลิซ่ายิ้มออกมาบางๆ ปล่อยให้วินาทีค่อยๆผ่านไปดั่งสายน้ำที่ชะโลมข้อมูลใหม่เข้าไปในสมองของแขกผู้ที่ไม่ได้รับเชิญที่อารมณ์ร้อนตรงหน้า



    แต่ที่เธอกำลังจะต้องกังวลมากกว่าคือหลังจากนี้ต่างหาก



    ผลจากคำพูดครั้งนี้ของเธอ แน่นอนว่าจะไม่สามารถใช้คืนได้ในเวลาอันสั้น



    ไหนจะเจนนี่... ไหนจะพี่จีซู... ลำพังเธอกับแชยองจะต้องมาแกล้งว่าคบกันต่อก็น่าลำบากใจที่จะนึกภาพอยู่แล้ว



    'แต่ช่างเถอะ... เอาตอนนี้ให้รอดก่อนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด'






    หนึ่งอาทิตย์ต่อมา



    กลิ่นไอทะเลเค็มลอยเข้าหาฝั่งทุกครั้งที่คลื่นน้อยใหญ่ซัดเข้ากับผืนทรายสีทอง แสงอาทิตย์สีแดงส้มที่สะท้อนกับผืนน้ำบอกเวลาประมาณเกือบเย็น 



    บนชายหาดที่แทบจะไม่มีผู้คน... ร่างของหญิงสาวสองคนเดินข้างกันด้วยความสูงที่แตกต่าง 



    คนที่ตัวสูงกว่าถือหมวกชายหาดใบกว้างไว้ในมือข้างหนึ่ง ในขณะที่มืออีกข้างก็กุมอวัยวะเดียวกันของคนตัวเล็กกว่าที่เธอเรียกว่าทั้งพี่ทั้งคนรักเอาไว้อย่างหวงแหน



    สายตาของคนที่เพิ่งถูกคว้ามือไปจับเอาไว้ชายมองออกไปยังทะเลกว้างเหมือนถูกคลื่นลมทะเลดึงดูด ไม่ใช่เพราะไม่อยากจะมองใบหน้าของคนข้างๆ ในเมื่อสำหรับเธอนั้นสาวผมแดงนั้นสวยกว่าใคร... แต่เป็นเพราะใบหน้าของเธอเองในตอนนี้กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อจนไม่อยากให้คนตัวสูงที่อายุน้อยกว่าจับได้อย่างโต้งๆต่างหาก



    แต่แล้วจู่ๆสาวร่างบางก็ดึงจีซูเอาไว้เบาๆทำให้เธอต้องหยุดเดินหันมามองหน้าอีกคนอย่างหลีกไม่ได้ โรเซ่ยิ้มนิดๆเหมือนกับทุกครั้งเวลาอยู่กับเธอ แต่ในแววตาของดาวคณะสาวรุ่นน้องมีประกายแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก ทำให้หญิงสาวผมดำต้องเลิกคิ้วขึ้นนิดๆเป็นเชิงคำถามให้กับอีกคน



    มือบางของสาวผมแดงล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงขาสั้นของตัวเอง เสื้อยืดเนื้อผ้าเบาบางสีขาวสะอาดปลิวไปตามลมทำให้หญิงสาวตรงหน้าดูอ่อนโยนน่าทะนุถนอมยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ไม่นานนักวัตถุที่เหมือนกันสองอันก็ถูกยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ดูขัดเขินของเจ้าของฝ่ามือเรียว



    "..."



    "..."



    "สุขสันต์วันครบรอบสามเดือนค่ะ"  โรเซ่พูดขึ้นอย่างเขินๆ น้ำเสียงของเธอจะกลืนไปกับอากาศอยู่แล้วถ้าจีซูไม่ยิ้มรับแล้วจับมือเธอพร้อมกับของขวัญในมือเอาไว้ก่อนเหมือนเป็นการรับเธอที่กำลังตกลงมาจากที่สูงให้เข้ามาในอ้อมกอดอันปลอดภัย



    ความเงียบผ่านไปสักพักอย่างไม่น่าอึดอัด เพราะทั้งสองคนที่กำลังมองหน้ากันมีแต่รอยยิ้ม เสียงคลื่นซัดชายหาดผ่านไปประมาณสามสี่ครั้งก่อนที่กำไลข้อมือสีน้ำตาลเข้มจะถูกใส่ลงบนข้อมือบางให้กันและกันเพื่อเป็นเครื่องหมายเล็กๆน้อยๆฉลองความรักที่ผ่านมาอย่างอบอุ่นและมีความสุข



    มือบางคล้องเข้าหากันอีกครั้งก่อนที่ทั้งสองคนจะออกเดินต่อไปด้วยสีหน้าที่ขัดเขินแต่เปี่ยมสุข สายลมที่พัดเข้ามาหาฝั่งเปรียบดั่งความรักที่ไม่มีวันหมดสิ้น จะเท่าไหร่ก็ไม่เบือ... ขอแค่เพียงมีอีกคนอยู่ข้างๆต่อไปด้วยกันแบบนี้เท่านั้น



    แค่คนตรงหน้าก็พอแล้ว... 



    บางทีความรักอาจไม่ต้องการอย่างอื่นให้เข้ามากระทบมากมาย... ไม่ต้องมีใครมาข้องเกี่ยว



    เรียบง่าย... นุ่มนวล... และราบลื่น






    ช่วงเวลาเดียวกัน... ในห้องพักกระท่อมไม้ที่ภายในตกแต่งระดับโรงแรมสี่ดาว



    "แฮ่ก... แฮ่ก"



    ปั่ก!



    มือเรียวฟาดสวิตช์ปิดไฟบนกำแพงอย่างไม่ใส่ใจทำให้แสงทั้งหมดในห้องดับลงอย่างฉับพลัน มืออีกข้างของสาวสวยกำรอบลำคอยาวของคนตัวสูงด้วยแรงโทสะที่ไม่มีอ่อนข้อจนคนถูกกระทำต้องหอบหายใจถี่ ทั้งห้องพักมีเพียงเธอและคนตรงหน้า...ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะเป็นสนามอารมณ์ให้กับเธอได้ เพราะตอนนี้ไม่มีใครที่สาวดาวคณะอยากจะลงโทษไปมากกว่าคนร่างโปร่งตรงหน้าที่กำลังจ้องหน้าเธอกลับอย่างไม่เกรงกลัวอยู่ตอนนี้



    "เด็กเทียบงั้นเหรอ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเธอเลย!"  สาวดาวคณะหน้าหมวยตะโกนใส่หน้าพลางกัดฟันแน่นอย่างไม่พอใจ ยิ่งเธอมองหน้าคนตัวสูงที่เพิ่งไปเล่นกระแนะกระแหนกับเด็กปีหนึ่งที่เป็นเด็กเทียบอายุเพียง 17 ปีคนนั้นแล้ว เจนนี่ยิ่งรู้สึกถึงไฟพล่านในตัวที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ... ดีแค่ไหนแล้วที่เธออดกลั้นสยบอารมณ์ตัวเองจนมาได้ถึงตอนนี้



    ตอนที่เธอจะแก้แค้นคนร่างโปร่งตรงหน้าให้ได้มากที่สุดที่ปล่อยให้เธอเป็นแบบนี้



    พลั่ก!



    มือทั้งสองข้างของสาวหน้าหมวยกำแน่นลงบนไหล่กว้างของคนตัวสูงที่เธอผลักเสียจนชิดกำแพง สายตาคมกริบดั่งนางพญาที่กำลังพิโรธมองคนที่กำลังมองเธอกลับมาอย่างไม่วางตา เจนนี่มองรอยมือของตัวเองที่เพิ่งกึ่งบีบคอของอีกคนจนเป็นรอยแดงที่ลำคอแล้วก็กลับไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด



    'อยากจะทำมากกว่านี้อีก... ทำให้ทุกคนรู้ไปเลยว่าเธอเป็นของฉัน'



    "ชิ"  เสียงสบถในลำคออย่างไม่พอใจดังขึ้นก่อนดาวคณะสาวจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่เป็นต้นเหตุแห่งอารมณ์เพลิงของเธอในตอนนี้



    ก็แน่สิ... ที่ผ่านมาเธอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิอะไรในตัวอีกคนเลยสักนิด



    ไม่มีการเดินจับมือกันตอนอยู่ข้างนอก... ไม่มีสถานะที่บอกออกมาชัดเจน แม้แต่การพูดคุยที่ดูสนิทสนมยังไม่สามารถแสดงออกมาได้ ทุกถ้อยคำเหมือนจะถูกจำกัดโดยการประหยัดคำพูดและการกระทำระหว่างทั้งสองคนให้มากที่สุด ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกลับต้องถูกหักห้ามเก็บกักเอาไว้อย่างกับกลัวจะมีใครมาเห็น



    เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะมีคนกำลังจับจ้องอยู่จริงๆน่ะสิ



    แม็คที่ยังคงตามตื๊อไม่เลิก... หลังจากที่ลิซ่าบอกไปว่าตัวเองคบกับเพื่อนสนิทเขาก็ยอมปล่อยสาวร่างโปร่งไป แต่สายตาของเขาก็คงสอดส่องมาทางเธอไม่มีเปลี่ยน โดยเฉพาะกับเวลาที่สาวหน้าหมวยกับน้องรหัสตัวสูงจะต้องอยู่ใกล้กัน... ในนั้นมักจะมีชายหนุ่มไม่ก็เพื่อนหรือคนของเขาคอยสังเกตและจับผิดอยู่เสมอ



    'น่ารำคาญ'  เป็นสิ่งที่อยู่ในใจดาวคณะสาวมาตลอดอาทิตย์โดยไม่มีเว้นวันให้ได้หยุดพักจิตใจ



    และนั่นมันก็คงจะแย่ที่สุดแล้ว... ถ้าสาวร่างโปร่งไม่ใส่ไฟเพิ่มเข้าไปอีกโดยการที่เป็นคนมีบุคลิกเข้ากับทุกคนง่ายไปเสียหมด ใครมาหยอดมาเติมก็เล่นกับเขาไปทั่วจนทำให้คนที่ต้องคอยรักษาระยะปลอดภัยอยู่ห่างๆอย่างเธอแทบจะอยากทึ้งหัวตัวเองและอีกฝ่ายด้วยความอึดอัดคับแค้น



    "อ..อึก"



    เสียงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากของคนร่างสูงปลุกเจนนี่คิมให้ตื่นขึ้นมาจากความคิดตัวเอง เธอมองไปยังมือข้างซ้ายที่อยู่บนใบหน้าของอีกคนแล้วก็เพิ่งรู้ว่าเธอจับหน้าลิซ่าแน่นจนสันกรามคมของอีกฝ่ายเป็นรอยแดงแทบจะเลือดซิบ ความรู้สึกผิดและสงสารลอยมาเพียงแวบเดียวแล้วก็แวบออกไปทันทีดั่งลมหนาวที่ไม่มีอยู่จริงของประเทศไทยในปี 2019 



    แววตาเฉี่ยวเปลี่ยนกลับเป็นแข็งกร้าวอีกครั้งและนั่นก็สร้างความเกรงกลัวและเย็นสะท้านไปถึงกระดูกสันหลังให้กับเหยื่อที่ถูกมอง ตอนนี้ลิซ่าไม่รู้จะเอามือไปไว้ตรงไหน... จังหวะนี้เธอจะทำอะไรก็ดูจะผิดไปหมดเสียแล้วในเมื่อคนตรงหน้าคาดโทษเธออย่างเห็นได้ชัดผ่านแววตาและการกระทำที่กราดเกรี้ยว



    ริมฝีปากร้อนแนบปิดอวัยวะเดียวกันด้วยความรุนแรงและฉาบฉวย สัมผัสที่เผ็ดร้อนถูกมอบให้ด้วยความร้อนแรงและไฟพิโรธ ลิซ่ารู้สึกดั่งร่างกายของตัวเองจะหลอมละลายลงไปทันทีที่อีกฝ่ายแทรกลิ้นเล็กเข้ามาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ร่างกายของคนที่อายุมากกว่าก้าวเข้าเบียดแนบชิดดันคนตัวสูงติดฝาผนังไร้ทางหนี สัมผัสที่บดเบียดเข้ามาทางกายและรสจูบที่ไร้ความอ่อนโยนบ่งบอกลิซ่าได้อย่างง่ายดายว่าคืนนี้บทลงโทษของเธอจะต้องหนักหนาสาหัสแน่ๆ... แม้เธอจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปทำผิดอะไรขนาดนั้น



    มือเรียวค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนที่ตัวสูงกว่าออกพลางแหวกทางให้ตัวเองได้เข้าถึงส่วนที่อยู่ใต้เนื้อผ้าด้วยริมฝีปากที่ทั้งขบทั้งกัด เจนนี่วาดแขนโอบรอบลำคอของลิซ่าอย่างลวกๆแล้วก็เหวี่ยงอีกคนให้ลงไปนอนราบบนเตียงอย่างบังคับบัญชา ไม่รอช้าสาวร่างเล็กขึ้นคร่อมร่างโปร่งที่เสื้อผ้ายังคงอยู่ระหว่างการถอดของเธอแล้วก็พยายามปลดเปลื้องอาภรณ์กายของอีกคนต่อโดยไม่สนใจเสียงต่อต้านของคนใต้ร่าง



    ฟึ่บ!



    เสื้อเชิ้ตตัวบางถูกมือทั้งสองของนางพญากระชากออกก่อนจะนำมันมามัดมือทั้งสองข้างของเจ้าของเสื้อแล้วผูกให้แน่นจนข้อมือใต้ผ้าคงขึ้นเป็นรอยแดง ลิซ่ามองการกระทำของอีกคนอย่างตาโตด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันทำอะไรเจนนี่ก็ดึงให้เธอขึ้นมาอยู่ในท่านั่งบนขอบเตียง โดยมีมือทั้งสองข้างถูกพันธนาการไว้ข้างหลังทำให้ไร้การปกป้องตัวเองใดๆทั้งสิ้นและไม่มีทางสู้อีกคนเลยแม้แต่นิด



    รอยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์เป็นสิ่งแรกที่ลิซ่าได้เห็นที่ใกล้เคียงความสุขที่สุดจากคนหน้าสวยที่อยู่ตรงหน้า ดาวคณะสาวค่อยๆถอยหลังเหมือนอยากจะมองสภาพเธอตอนนี้ที่จะเป็นผลงานของตัวเองชิ้นเอกในค่ำคืนนี้ ก่อนที่จะค่อยๆสาวเท้าเข้ามาใกล้เธออย่างเนิบนาบ ทุกฝีก้าวเปรียบดั่งผู้กุมชัยชนะซึ่งไม่ได้ละสายตาออกไปจากดวงหน้าของสาวร่างโปร่งที่กำลังตกเป็นเหยื่อของเธอเลยไม้แต่นิด



    เรียวขาสวยน่ามองค่อยๆย่างเข้ามาจนใกล้ตักของคนตัวสูงแล้วก็นั่งลงบนตักของเหยื่อพลางคลี่มือโอบรอบคอของลิซ่าที่ตอนนี้มองมาที่เธอเหมือนถูกแช่แข็งเอาไว้ ลมหายใจแทบจุกคอเมื่อดาวคณะหน้าหมวยเข้ามาใกล้เพียงเอื้อมขนาดนี้... แต่รู้ดีว่าทำอะไรไม่ได้เพราะมือถูกมัดอยู่อย่างหนาแน่นทั้งสองข้าง



    เจนนี่ค่อยๆยิ้มออกมาช้าๆ ก่อนที่จะเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้แล้วกระซิบข้างใบหูของเสือสาวตัวดีที่คอยดื้อไม่ยอมอยู่ในความประพฤติที่เธออยากได้เสียที วันนี้แหละที่เธอจะทำให้อีกคนได้รู้... ว่าแท้จริงแล้วเธอต้องการแบบไหน



    "ชอบเล่นกับคนอื่นดีนักใช่มั้ย?"



    "..."



    "มาเล่นกับฉันนี่"








    //ตัดไปnc  55555555555555555555555555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×