ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jenlisa เกลียดก็จริง แต่ยัยหน้าหยิ่งนี่น่ะของฉัน (END)

    ลำดับตอนที่ #34 : ขนมหวาน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.32K
      235
      5 เม.ย. 63







    ดวงตาคู่สวยที่ปิดสนิทค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆเมื่อแดดยามเช้าส่องทะลุม่านเข้ามาในห้องนอน แพขนตางอนกระพือขึ้นลงอย่างช้าๆเมื่อเจ้าตัวกะพริบตาถี่เพื่อเป็นการปรับการมองเห็นให้คมชัดขึ้นจากการหลับไหลที่ยาวนาน สาวดาวคณะปีสองชันตัวขึ้นโดยใช้ศอกค้ำยันตัวเองเอาไว้ด้วยความสะลึมสะลือ แต่แล้วเจ้าของห้องอย่างเธอก็ต้องสะดุ้งดีดตัวขึ้นมานั่งอย่างฉับพลันด้วยความตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างๆ



    บนเตียงมีร่างของใครอีกคนนอนตะแคงหันหลังอยู่แถมยังเอาผ้าห่มไปจนหมด เรือนผมยาวกับไหล่กว้างทำให้สาวหน้าหมวยรู้ทันทีว่าอีกคนเป็นใคร แต่เธอก็ยังคงจำอะไรไม่ค่อยได้อยู่ดีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง



    ลิซ่า...’






    ลิซ่ารู้สึกตัวว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในห้องนอนที่คุ้นเคยก็เมื่อแสงแดดกระทบเปลือกตาบังคับให้เธอต้องตื่นขึ้นมา เพราะห้องของเธอนั้นผ้าม่านหนาชนิดที่ว่าไม่มีแสงใดหลุดรอดเข้าไปได้ถ้าไม่เปิดม่าน สาวร่างโปร่งขยี้ตาเบาๆแล้วก็มองไปรอบๆห้องด้วยความงัวเงีย ข้าวของที่ถูกแสงสว่างจากธรรมชาติกระทบยิ่งชี้ชัดว่านี่เป็นห้องของใครอีกคน

     

     

     

    ด้วยสมองที่ยังไม่ตื่นลิซ่ายันตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วก็เดินไปทางห้องน้ำที่อยู่ก่อนประตูห้อง ภายในใจก็พยายามรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ได้ทุกรายละเอียด

     

     

    ...

     

     

    เจนนี่บอกชอบเธอ

     

     

    มันเป็นไปได้รึเปล่าก็ไม่รู้ แต่เท่าที่เธอจำได้มันก็เกิดขึ้นแล้ว เสียงแหบที่ฟังดูเมาจนไม่ได้สตินั้นยังคงติดตรึงอยู่ในใจเมื่ออีกคนพูดคำคำนั้นออกมา แววตาที่มองมาที่เธอด้วยความรู้สึกมากมายดูจริงใจมากกว่าที่จะเป็นเพียงคำพูดชั่ววูบจากฤทธิ์แอลกอฮอล์

     

     

    ขนาดมานึกย้อนไปจากตอนนี้ก็ยังฟังดูไม่น่าเชื่ออยู่ดี ว่าดาวคณะหน้าหมวยบอกชอบเธอเองกับตัวแถมยังเรียกชื่อก่อนชัดเจนด้วย

     

     

    ไม่ได้โกหกใช่มั้ย?

     

     

    เฮือก

     

     

    สายตาคมกริบสีดำสนิทดั่งนางแมวจ้องมองมาที่เธอด้วยแววตาที่ค่อนข้างตกใจไม่แพ้กัน ประตูห้องน้ำที่จู่ๆก็เปิดออกเผยให้เห็นรุ่นพี่หน้าหมวยในผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวที่พันร่างอยู่หลวมๆ ลิซ่าเผลอกลั้นหายใจเมื่อคนที่กำลังนึกถึงอยู่ๆก็มาปรากฏในระยะประชิดขนาดนี้ แถมยังมาในแบบที่ไม่คาดคิดสุดๆด้วยไหล่บางขาวเนียนที่มีหยดน้ำเกาะพราวกับลำคอระหงที่มีใบหน้าสวยเป็นเครื่องประดับสูงสุด

     

     

    จ...จะทำอะไร”  เสียงของเจนนี่ทำให้ลิซ่ารู้สึกตัวขึ้นมาแล้วก็พบว่าตัวเองกำลังก้าวเข้าไปใกล้รุ่นพี่อย่างไม่รู้ตัว สาวดาวคณะยกมือขึ้นมาจับผ้าเช็ดตัวที่เหน็บอกเอาไว้พลางมองคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้อย่างไม่ไว้ใจ

     

     

    เปล่า”  ร่างโปร่งรีบถอยกายออกมาแล้วก็ยกมือขึ้นกำแนบอกเว้นพื้นที่ให้อีกคนได้เดินออกไป เจ้าของดวงตาเฉี่ยวเหมือนกับจะพูดอะไรกับเธอสักอย่าง แต่เจนนี่ก็เพียงเดินผ่านเธอไปทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมสบู่อ่อนๆที่ปลิวมาแตะจมูกเบาๆในรูปแบบของลมเย็น

     

     

    แกร็ก

     

     

    ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกกว้างอีกครั้ง ขายาวของลิซ่าก้าวออกมาจากห้องน้ำพลางเอามือที่เพิ่งล้างเช็ดกับชายเสื้อตัวเองอย่างลวกๆ แล้วระหว่างที่กำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองสาวร่างสูงก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นในระยะใกล้หู

     

     

    ก๊อกๆๆ

     

     

    พี่เจนนี่ครับ”

     

     

    ดวงตากลมโตหันมองตามเสียงควับโดยที่ในใจรู้ทันทีว่าคนที่ยืนอยู่หลังบานประตูเป็นใคร

     

     

    'แม็ค'

     

     

    ภาพเมื่อวานที่ชายหนุ่มมอมเหล้ารุ่นพี่ดาวคณะฉายกลับมาในหัวของลิซ่าอีกครั้ง สาวร่างโปร่งเอาตัวบังประตูไว้ทันทีที่เจ้าของห้องเดินเข้ามา เจนนี่พยายามขยับซ้ายขวาเพื่อเดินผ่านอีกคนไปแต่ไม่ว่าจะไปทางไหนลิซ่าก็ขยับขวางไม่ให้เธอไปทั้งนั้น

     

     

    ก๊อกๆๆๆ

     

     

    พี่เจนนี่ครับ!”

     

     

    เสียงของแม็คหลังบานประตูที่เรียกดาวคณะปีสองดังขึ้นกว่าเดิมพร้อมเสียงเคาะรัวๆที่ฟังดูน่ารำคาญใจ เจนนี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องร่างโปร่งไม่ยอมให้เธอไปที่ประตู

     

     

    ถอย”  สาวหน้าหมวยสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงถือตัว แต่ลิซ่าก็ไม่ถอยแถมยังก้าวเท้าเข้าไปใกล้เธออีก

     

     

    พี่นั่นแหละถ-”  จู่ๆมือของคนที่ตัวเล็กกว่าก็ขึ้นมาปิดปากสาวร่างโปร่งอย่างเร็ว เจนนี่เบิกตากว้างขึ้นพลางเป็นฝ่ายยอมถอยเหมือนกลัวใครจะได้ยินเสียงของคนที่อยู่ในห้องด้วยกันมากกว่า

     

     

    ชู่ว... เงียบๆ”  สาวปีสองดึงข้อมือของน้องรหัสกลับเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าเหมือนกำลังระแวงอะไรบางอย่าง ลิซ่ามองซ้ายขวาอย่างไม่เข้าใจแต่เธอก็ยอมปิดปากสนิทและเดินเข้าไปตามโดยดี

     

     

    ทั้งสองเดินเข้ามาจนถึงปลายเตียง ลิซ่านั่งลงบนเตียงแล้วก็มองหน้าเจ้าของห้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอแต่สายตาเฉี่ยวกลับมองไปที่ประตู

     

     

    แล้วไงต่อ?”  สาวร่างโปร่งถามขึ้นด้วยเสียงกระซิบ คนหน้าหมวยหันมามองหน้าเธอทันทีแล้วก็เม้มปากก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเบาเช่นกัน

     

     

    "รอจนกว่าจะไป... ตอนนี้ก็ทำอะไรเงียบๆไปก่อน"  สีหน้านิ่งๆเครียดๆของเจนนี่ทำให้ลิซ่ายิ่งสงสัยกว่าเดิมว่ามันมีอะไรที่จะต้องมาหลบๆซ่อนๆ แต่ที่เธอสนใจมากกว่าก็คือความคิดที่ผุดขึ้นมาทันทีจากสิ่งที่อีกคนกล่าว

     

     

    ฟึ่บ!

     

     

    มือเรียวจับข้อมือคนที่ยืนอยู่แล้วก็ดึงให้เสียหลักล้มลงบนเตียงอย่างฉับพลัน สาวหน้าหมวยเบิกตากว้างเมื่ออยู่ดีๆคนร่างสูงก็มาคร่อมอยู่บนตัวเธอ แถมใบหน้าของคนร่างโปร่งยังฉายแวววิบวับดูไม่น่าไว้ใจ เจนนี่พยายามดิ้นออกแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อข้อมือเธอถูกตรึงไว้กับเตียงทั้งสองข้าง เมื่อเธอพยายามหันหนีลมหายใจอุ่นของคนบนร่างยิ่งลงมารดต้นคอมากกว่าเดิม จะส่งเสียงก็ไม่ได้เพราะมีตัวอันตรายหน้าห้องที่อยากจะให้เธอเปิดประตูอยู่อีก

     

     

    "มันจะเงียบรึเปล่าก็ขึ้นอยู่กับพี่ล่ะนะ"  เสียงเบากระซิบข้างหูทำเอาเจนนี่ขนลุกไปทั้งคอ สาวดาวคณะมองหน้าคนที่อยู่บนร่างพลางขมวดคิ้วแล้วส่งสายตาดุใส่ แต่สาวร่างโปร่งก็หากลัวไม่ก้มลงมาใกล้เธอเข้าไปกว่าเดิม ลิซ่าไม่สนใจแรงต้านของเธอเลยสักนิดทั้งๆที่คนนอกห้องก็ยังคงโหวกเหวกจะเข้ามาให้ได้ ดูเหมือนเสียงนั้นยิ่งใส่ไฟให้คนบนร่างเธอด้วยซ้ำ



    "ย..หยุดนะ"  เสียงของคนหน้าหมวยสั่นและเบาลงเหมือนคนหมดแรงทันทีที่สันจมูกและปากอิ่มไล่ไปตามต้นคอและสันกรามของเธออย่างแผ่วเบา มือที่ถูกกดไว้กับเตียงทั้งสองข้างทำให้ทางเดียวที่เธอจะกลั้นเสียงตัวเองไว้ได้คือการเม้มปากแล้วก็หลับตาแน่น ลิซ่ายังคงวนเวียนอยู่แถวซอกคอเธอไม่หยุดจนเจนนี่แทบจะเป็นบ้า ลมหายใจอุ่นวกไปเวียนมาสลับกับสัมผัสนุ่มนิ่มที่พรมไปทั่วเหมือนอีกคนกำลังสำรวจร่างกายของเธอด้วยความสนุกสนาน



    แล้วสาวร่างโปร่งก็ไล่มาเรื่อยจนขึ้นมาถึงสันกรามของรุ่นพี่หน้าหมวยอีกครั้งแล้วจึงค่อยๆผละออกห่าง ดวงตากลมโตสบกับสายตาเฉี่ยวสักพักแล้วคนตัวสูงก็ปล่อยมือข้างหนึ่งให้อีกคนมีอิสระมากขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง



    ลิซ่าค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้คนที่อยู่ใต้ร่างอย่างช้าๆ จากที่ใบหน้าห่างกันหนึ่งฟุตก็กลายเป็นเพียงคืบเดียว แล้วจากคืบเดียวก็ค่อยๆใกล้เข้าไปเรื่อยๆ



    ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองสาวร่างสูงนิ่งไม่หลบตาไปไหน ตอนนี้มือของดาวคณะสาวข้างที่ถนัดไม่ได้ถูกเธอจับเอาไว้อีกแล้ว แปลว่าอีกคนจะผลักเธอออกตอนไหนก็ได้ แต่ทั้งๆที่เจนนี่ปฏิเสธในตอนแรกแถมยังพยายามดิ้นหนี... ในขณะนี้ที่ใบหน้าของลิซ่าห่างกับริมฝีปากสวยเพียงไม่กี่เซนติเมตรเจ้าตัวกลับหลับตาสนิทเหมือนกำลังรอให้เธอเข้าไปชิมรสหวานของตนเสียเอง



    ลิซ่ากระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยกับใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้มอยู่ใต้ร่างแถมยังเอามือมาจับไหล่เธอเอาไว้หลวมๆเหมือนหาที่ยึด สาวร่างโปร่งกำลังจะปิดช่องว่างอันน้อยนิดระหว่างทั้งคู่ถ้าจู่ๆไม่มีเสียงที่ประตูดังขึ้นก่อน



    โครม! 



    เสียงที่เหมือนกับของแข็งโดนกระแทกอย่างแรงทำให้คนทั้งสองบนเตียงลืมตาขึ้นแล้วก็กระเด้งออกจากกันด้วยความตกใจ สาวหน้าหมวยรีบดันคนตรงหน้าออกแล้วก็ลุกขึ้นมาจากเตียงก่อนจะคว้าข้อมือของรุ่นน้องร่างโปร่งให้มากับตนอย่างเร่งรีบ



    "เข้าไปก่อน"



    ลิซ่ารู้ตัวอีกทีตัวเองก็ถูกผลักมาอยู่หลังประตูห้องน้ำโดยที่อีกคนรีบปิดมันโดยไม่มีเสียงเหมือนกับจะจัดฉากว่าเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้ ดูจากแค่สีหน้าของเจนนี่เพียงเสี้ยววินาทีสาวร่างโปร่งก็รับรู้ได้ว่าตัวเองควรทำตัวยังไง ถึงจะไม่อยากทำแต่ตอนนี้เธอก็คงต้องหลบอยู่ในนี้เงียบๆเหมือนกำลังเล่นซ่อนแอบไปก่อนระหว่างที่เจ้าของห้องเปิดประตูบานนอกออกไปทักทายอีกคนที่เข้ามาขัดจังหวะ



    แกรก



    ร่างสูงได้ยินเสียงเปิดล็อคประตูจากด้านนอก เธอจึงเอาหูแนบประตูห้องน้ำฟังคนทั้งสองคุยกัน เพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่เพิ่งถีบหรือกระแทกประตูขนาดนั้นจะพูดว่าอะไร... เผื่อชายหนุ่มเกิดบ้าพลังขึ้นมาเธอจะได้ออกไปช่วยรุ่นพี่หน้าหมวยทัน  



    "ผมเรียกตั้งหลายครั้งแล้วทำไมไม่เปิดประตูครับ?"  เสียงของแม็คดูหงุดหงิดเล็กน้อย... แปลกแฮะ จากที่ลิซ่าเห็นทุกครั้งเขาดูจะเกรงใจรุ่นพี่ดาวคณะจะตาย



    "นอนอยู่... ไม่เห็นต้องเสียงดังเลยนี่"  เสียงเย็นตอบขึ้นด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อยเหมือนกำลังดุรุ่นน้อง ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอสั้นๆแล้วก็มีเสียงเหมือนเขากำลังเดินเข้าไปข้างในห้องมากขึ้น คราวนี้ลิซ่าต้องตั้งใจฟังมากกว่าเดิมเพราะเสียงมันสะท้อนมาจากกลางห้องที่ไม่ใช่หน้าห้องน้ำแล้ว



    "ก็ผมนึกว่ามี'ใคร'อยู่ข้างในกับพี่นี่..."  ประโยคนั้นทำให้สาวร่างโปร่งเหลือบมองไปยังลูกบิดประตูห้องน้ำที่อยู่ใกล้มือตนแล้วก็ต้องใจหายวาบเมื่อมันไม่ได้ล็อคอยู่



    'ก็แน่ล่ะ... ถ้าเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้มันก็ควรจะไม่ได้ล็อคนี่แหละ แต่ถ้าเขาเปิดเข้ามาล่ะ??'



    ความเป็นไปได้ที่แม็คจะเปิดเข้ามานั้นมีอยู่พอสมควร สังเกตจากน้ำเสียงที่ดูเคลือบแคลงใจของชายหนุ่มเหมือนกับเจ้าตัวยังคงไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ารุ่นพี่เพียงหลับอยู่ตอนที่เขามาเคาะประตูจริงๆ



    บ้าจริง... น่าจะไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าหรืออะไรที่เขาไม่น่าจะเปิดแน่นอนอะไรแบบนั้น



    ว่าแต่เธอเป็นอะไรทำไมต้องมาหลบๆซ่อนๆด้วย?



    "ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไปได้แล้ว"  น้ำเสียงเย็นเยียบของเจนนี่กล่าวออกมาอีกครั้ง แค่ได้ยินแต่เสียงก็เห็นภาพสาวดาวคณะกอดอกทำหน้านิ่งหน้าตายใส่คนที่พูดด้วยขึ้นมาเลย



    "โธ่... อย่าเพิ่งไล่กันสิครับ"  เสียงของแม็คกลับมาแถวๆหน้าประตูห้องน้ำอีกครั้งทำให้ลิซ่ารีบย่องไปหลบหลังที่อาบน้ำด้วยความรวดเร็ว ดีที่มีม่านไว้บังเธอได้ทั้งตัวเลยทำให้อุ่นใจขึ้นมาหน่อย ถึงแม้ตรงเท้าจะต้องเหยียบพื้นเปียกๆที่อีกคนเพิ่งอาบน้ำไปก็เถอะ



    "มีอะไรก็ว่ามา"



    "ผมก็แค่จะมาบอกว่าขอโทษสำหรับเมื่อวานเท่านั้นแหละ ผมไม่น่า... ไม่น่าต้องไปเรียกรวมเลย ถ้าไม่อย่างนั้นผมคงอยู่ดูแลพี่ได้ดีกว่านั้น"



    'เหรอ?'



    ลิซ่าอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบนทันทีกับสิ่งที่เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด



    ดูแลงั้นเหรอ? ...พูดออกมาจากคนที่มอมเหล้าแล้วพยายามลวนลามอีกคนตอนไม่มีสติเนี่ยนะ? น่าเชื่อถือสุดๆ



    "อืม"  เจนนี่กลับไม่เถียงหรือคัดค้านอะไรอย่างที่สาวร่างโปร่งกำลังคิดในใจอย่างคับแค้น รุ่นพี่ดาวคณะกลับเพียงครางตอบในลำคอเบาๆ และนั่นยิ่งทำให้ลิซ่ารู้สึกเดือดไปกว่าเดิมที่อีกคนเหมือนจะยอมรับคำขอโทษบ้าๆนั่นแถมยังไม่ท้วงเรื่องการดูแลบ้าบอที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงนั่นอีก



    จริงๆแล้วแค่ได้ยินทั้งสองคนคุยกันมันก็ก่อให้เกิดไฟผลาญข้างในใจเธออยู่แล้ว แค่เสียงของแม็คกับเจนนี่ที่พูดตอบกันไปตอบกันมาก็ทำให้สาวนักเต้นรู้สึกหงุดหงิดอย่างรุนแรง ภาพของหนุ่มหน้าเข้มกับรุ่นพี่หน้าหมวยที่ยืนคุยกันมันแทบจะทำให้เธอทนอยู่เฉยๆไม่อยู่ แต่ลิซ่าก็ทำได้เพียงยืนกำมืออยู่คนเดียวในนั้นแล้วก็ทำเหมือนตัวเองไม่มีตัวตนต่อไประหว่างที่คนข้างนอกสองคนคุยกัน



    "เดี๋ยวเย็นนี้ผมมารับนะครับ"  ดวงตากลมโตของคนในห้องน้ำเบิกกว้างขึ้นทันที ในใจก็คิดสงสัยว่าทั้งสองคนข้างนอกสนิทกันไปถึงขั้นไหนแล้วชายหนุ่มถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมาได้ง่ายๆ



    คนปกติแทบไม่มีใครคิดแม้แต่จะกล้าชวนเจนนี่ไปไหนด้วยซ้ำ... นี่หนึ่งเดือนที่เธอไม่เจอหน้ารุ่นพี่ดาวคณะนั้นอีกคนไปไหนหรือทำอะไรมาบ้างเธอก็ไม่มีทางรู้เลย



    "จะไปไหน?"



    "ผมอยากเลี้ยงข้าวพี่เป็นการขอโทษครับ"



    "ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก"



    "ให้ผมทำเถอะนะครับ หรือว่าพี่อยากได้อย่างอื่นแทน?"  มีความเย้าแหย่มาจากน้ำเสียงของแม็คทำเอาลิซ่าเอามือตบหน้าผากตัวเองเบาๆอย่างละอายใจแทน แค่นี้เธอก็รังเกียจและขยะแขยงในสิ่งที่เขาทำมากเพียงพอแล้ว... ยังจะมากล้าเล่นอะไรแบบนี้กับรุ่นพี่หน้าหมวยอีก



    "ไม่อยาก... อีกอย่างเย็นนี้ฉันไม่ว่าง"  ไม่มีตอนไหนที่ลิซ่าจะรู้สึกขอบคุณน้ำเสียงเย็นเยียบสยบยักษ์มารของดาวคณะหน้าหยิ่งได้เท่านี้อีกแล้ว ในคำพูดไม่มีความสั่นไหวหรือไม่แน่ใจอยู่เลยสักนิด โทนเสียงของเจนนี่นิ่งสนิทไม่แสดงท่าทีเล่นด้วยเลยแม้แต่นิดจนบางทีสาวร่างโปร่งก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกับว่าอีกคนเคยรู้สึกอะไรกับใครบ้างรึเปล่า



    ก็นะ... เท่าที่รู้ก็คงมีอยู่คนหนึ่งแหละ ถึงจะไม่น่าเชื่อก็เถอะ



    "ไม่เอาน่า อย่าให้ผมเล่นไม้แข็งสิครับพี่"  



    '...ไม้แข็ง?'  ยังไม่ทันที่ลิซ่าจะได้สงสัยก็มีเสียงเหมือนมือใครสะบัดไปโดนตัวอีกคนดังขึ้นขัดความคิดเธอเสียก่อน



    เพียะ!



    "อย่ามารุ่มร่าม"  เสียงดุกล่าวขึ้นอย่างเด็ดขาดด้วยความไม่พอใจ ไม่ต้องจินตนาการก็รู้ว่าชายหนุ่มคงจะทำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับการแตะตัวรุ่นพี่หน้าหมวยแน่ๆ 



    ...แค่คิดลิซ่าก็อยากจะออกไปกระชากคอไอ้เด็กข้างบ้านที่ชอบทำตัวเกินที่ควรเป็นแล้ว



    "ตกลงเย็นนี้นะครับ?"



    "..."



    "?"



    "อืม"  คำตอบที่ดูไม่ค่อยเต็มใจหลังจากที่เจ้าตัวถอนหายใจออกมาสั้นๆทำให้สาวร่างโปร่งที่ดักฟังอยู่ขมวดคิ้วเข้าไปหนักกว่าเดิม



    'นี่มันอะไรกัน?'



    ทำไมจู่ๆเจนนี่ถึงได้ตอบตกลง? 



    เขายังไม่ทันจะยกอะไรขึ้นมาข่มขู่เยอะเลยด้วยซ้ำ แต่รุ่นพี่ดาวคณะก็กลับตอบไปอย่างไม่เต็มใจเหมือนกับว่าตัวเองหมดหนทางสู้ยังไงอย่างนั้น



    อย่างกับทั้งสองคนรู้กันว่าไม้แข็งที่เขาว่ามันคืออะไรอย่างนั้นแหละ... มันจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียว?



    แกรก ปัง



    เสียงปิดประตูห้องจากข้างนอกเป็นเหมือนสัญญาณที่ส่งเข้ามาให้คนที่หลบอยู่ออกมาจากที่ซ่อนได้แล้ว



    แกรก



    ลิซ่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาเผชิญหน้าสาวหน้าหมวยอีกครั้ง ใบหน้าที่นิ่งไม่เคยเปลี่ยนจ้องมองมาที่เธอก่อนที่เจ้าตัวจะถอนหายใจออกมาแล้วก็เดินนำกลับเข้าไปในห้องอีกรอบ ร่างสูงเดินตามเข้าไปแล้วจึงไปนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วความเงียบก็กลืนกินบรรยากาศระหว่างทั้งคู่อยู่จนกระทั่งลิซ่าพูดขึ้นมา



    "ทำไมถึงได้ตอบตกลงล่ะ?"  เจ้าของดวงตากลมโตเงยหน้าขึ้นมาสบตากับดวงตาเฉี่ยวที่นิ่งจนคบกริบ เจนนี่มองหน้าเธอนิ่งๆสักพักก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆแล้วก็ตอบออกมาเรียบๆ



    "จะให้ฉันตอบว่าอะไรล่ะ"



    "ไม่รู้สิ... 'ไม่' ล่ะมั้ง?"  น้ำเสียงประชดประชันที่ฟังดูเหมือนเจ้าตัวกำลังหงุดหงิดอย่างชัดเจนทำให้สาวหน้าหมวยมองหน้ารุ่นน้องร่างโปร่งนิ่ง 



    "ฉันปฏิเสธไม่ได้หรอก"



    "ทำไมล่ะ?"



    "ก็เจ้านั่นมัน-"



    "เป็นแฟนพี่? แล้วฉันล่ะเป็นอะไร?"  ลิซ่าพูดแทรกอีกคนขึ้นมาทันทีด้วยอารมณ์โมโหที่พุ่งขึ้น เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วก็เดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว ถึงแม้สายตาจะสบกันอยู่แต่สาวร่างโปร่งก็ไม่ได้เห็นอะไรอีกเพราะอารมณ์หงุดหงิดที่เข้ามาบดบังทุกอย่างจากเหตุการณ์เมื่อครู่



    "ลิซ่า..."



    "บอกมาสิ! ตอนนี้ฉันเป็นอะไร!?"



    เจนนี่ปิดปากเงียบทันทีที่อีกคนตะโกนใส่ เธอหายใจออกมายาวๆแล้วก็พยายามครุ่นคิดคำตอบ แต่ลิซ่าก็เร็วกว่าที่จะตะโกนใส่หน้าเธออีกครั้งด้วยดวงตาที่แดงก่ำเหมือนคนจะร้องไห้ พูดจบร่างสูงก็ไม่รอคำตอบเดินออกไปทางประตูห้องทันที



    "คือฉันเป็นชู้อยู่ใช่มั้ย!? ที่ต้องมาหลบๆซ่อนๆเนี่ย!!?"



    "..."  สาวหน้าหมวยหลับตาแน่นให้กับความตึงเครียดของบรรยากาศ บัดนี้อีกคนเดินไปถึงประตูห้องแล้ว ถึงจะไม่ได้หันไปมองแต่เธอก็ได้ยินเสียงลิซ่าจับลูกบิดเปิดออกก่อนที่อีกคนจะพูดออกมาประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำอย่างขุ่นเคือง แล้วรุ่นน้องร่างโปร่งก็เดินออกจากห้องไปพร้อมปิดประตูทันที



    "บางทีฉันก็ไม่เข้าใจพี่เลยจริงๆ"



    ปัง!






    "เฮ้อ"



    สาวร่างโปร่งทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงตัวเองด้วยความหัวเสีย ถึงแม้อารมณ์หงุดหงิดจะยังไม่หลุดออกจากร่างแต่เธอก็พอรู้ว่าตนอาจจะพูดเกินไปหน่อยที่ไปตะโกนใส่อีกคนแบบนั้น



    เอาอีกแล้ว... เป็นแบบนี้อีกแล้ว



    อีกคนเพิ่งจะบอกชอบเธอไปแท้ๆ มันกำลังจะไปได้ดีขึ้นแต่พอมีตัวแปรที่สามเข้ามาก็ทำให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่เธอยังไม่ได้ถามหรือฟังความอะไรจากรุ่นพี่หน้าหมวยเลยแม้แต่นิด



    แล้วตกลงแม็คนี่ยังไงกัน? 



    "โว้ยยยยย"  หมอนใบเล็กที่อยู่ข้างตัวถูกเจ้าของห้องโยนไปกระทบกำแพงด้วยความหงุดหงิดใจ ลิซ่าลุกขึ้นแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ตอนนี้ในเมื่อเธอคิดไม่ออกก็จะไม่คิดมันเลยก็แล้วกัน ปล่อยให้อะไรๆมันเป็นไปของมันเองอย่างที่ควรจะเป็น



    ...



    'แต่ถ้าเธอไม่ทำอะไรเย็นนี้เจนนี่จะไปกับแม็คนะ'



    -*-



    ก๊อกๆๆ



    คนที่เคาะยกมือลงจากประตูแล้วก็ถอนหายใจออกมาทางปากอย่างเตรียมใจ ตอนนี้สาวร่างสูงมายืนอยู่ที่เดิมหน้าห้องที่เธอเพิ่งจะออกมาอย่างเกรี้ยวกราด แต่หลังจากที่ร่างกายได้ผ่านฝักบัวและน้ำเย็นๆมาแล้วลิซ่าก็ตัดสินใจกลับขึ้นมาอีกรอบเพื่อไม่ให้สถานการณ์แย่ๆมันผ่านไปนานเกินไป



    แกรก



    คนในห้องเดินมาเปิดประตูแง้มออกเพียงครึ่งเดียวแล้วก็มองหน้าคนที่มาเคาะนิ่ง สีหน้าของเจนนี่นั้นลิซ่าก็อ่านไม่ออกเช่นเคยว่าอีกคนคิดอะไรอยู่ แต่จากที่เพิ่งตะโกนใส่อีกคนไปเธอจะถือว่าตัวเองเป็นฝ่ายมาง้อก็แล้วกัน



    "ว่าไง?"  เสียงเรียบที่น่าเกรงขามถามขึ้นมาเย็นๆอีกตามเคย สาวร่างโปร่งสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วก็พยายามเรียบเรียงคำพูดของตัวเองออกมาให้ฟังดูเป็นเหตุเป็นผลมากที่สุดเพราะเกรงว่าคนหน้าดุตรงหน้าจะปิดประตูใส่หน้าได้ถ้าพูดอะไรผิดไปเพียงนิดเดียว



    "เอ่อ... จะว่ายังไงดีล่ะ"  ลิซ่าพูดออกมาอย่างไม่เต็มเสียง แถมยังไม่กล้าสบตาอีกคนเพราะความไม่มั่นใจในสิ่งที่จะพูดอีก และไหนจะความลังเลในอีกหลายๆอย่างที่ยังค้างคาใจอยู่



    "..."



    "คือฉัน..."  



    "..."  แต่ดาวคณะสาวก็ยังคงเงียบฟังไม่ขัดอะไรขึ้นมา ลิซ่าเงยหน้าขึ้นมองสายตาคมกริบของเจนนี่ที่จ้องมายังเธอนิ่งเหมือนกำลังรอคำตอบแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายลงไปอีกอึกก่อนจะพยายามอย่างที่สุดที่จะพูดออกมาให้ไม่ติดขัด



    "ฉันน่ะ...ช..“



    “?”  



    “ฉันช..ช..”



    “??”  สาวหน้าหมวยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอมพูดขึ้นมาซะที ถ้ามีนาฬิกาข้อมือเธอคงก้มลงมองแล้วว่ามันผ่านไปแล้วกี่นาที แต่พอดีนี่เธออยู่ในห้องตัวเองเลยไม่ได้ใส่มาตอนนี้ ถึงอย่างนั้นคนตรงหน้าก็ลีลาจนเธออยากจะเดินกลับเข้าไปในห้องอีกรอบแล้วก็ทำอะไรที่ทำอยู่ให้มันเสร็จแล้วค่อยกลับออกมาอีกที เจนนี่หรี่ตาใส่อีกคนด้วยความรำคาญใจแล้วก็กำลังจะเป็นคนอ้าปากพูดออกมาซะเองอยู่แล้วถ้าลิซ่าไม่เร็วไปกว่านี้



    ‘เอ๊ะ หรือว่า...!?!?’  สาวหน้าหมวยคิดขึ้นมาในใจด้วยความหวังที่พุ่งขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อสิ่งที่อีกคนกำลังพยายามพูดอาจเป็นสิ่งที่เธอรอคอยมานาน แต่ความหวังนั้นก็ต้องดิ่งลงเหวด้วยความรวดเร็วเช่นกันเมื่อสาวร่างโปร่งพูดประโยคต่อไปออกมาซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดเลยสักนิด



    “ฉัน...ขอเข้าไปหน่อยสิ”



    ...







    "เฮ้อ"  เจนนี่ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะทิ้งประตูเปิดค้างไว้ให้อีกคนเดินตามเข้ามาอย่างที่ขอ เธอนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะทำงานแล้วก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนงานต่อด้วยความจดจ่อ ลิซ่าเดินตามเข้ามาแล้วก็ปิดประตูลง สาวร่างโปร่งนั่งลงที่ไหนซักแห่งข้างหลังเธอที่เจนนี่ไม่ได้หันไปมอง แต่แล้วลิซ่าก็เริ่มพูดขึ้น



    "ขอโทษนะที่ตะโกนใส่อะ"  น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังกว่าปกติทำให้สาวหน้าหมวยหยุดเขียนแล้วก็หันเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่ไปทางคนที่พูด เธอจ้องหน้าลิซ่านิ่งก่อนจะครางตอบในลำคอเบาๆ



    "อืม"



    "วันนั้นที่ฉันคืนเครื่องคิดเลขไปน่ะ..."



    "?"



    "พี่มีของจะให้ไม่ใช่เหรอ?"



    คำพูดของคนร่างสูงทำให้เจนนี่นึกย้อนกลับไปวันที่เธอบอกว่าให้อีกคนขึ้นมาเอาบนห้อง แต่เมื่อนึกถึงคำตอบที่ได้จากอีกคนในวันนั้นสาวหน้าหมวยก็ยกมือขึ้นกอดอกทันทีอย่างป้องกันตัว



    "ของอะไร?"  คำถามห้วนกับน้ำเสียงที่แข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทำให้ลิซ่ามั่นใจว่าอีกคนรู้ว่าเธอหมายถึงวันไหน แต่พิจารณากับสิ่งที่วันนั้นเธอทำไปแล้วมันก็สมควรที่อีกคนจะมองมาอย่างตาขวางด้วยความฉุนเคืองอยู่เหมือนกันแหละ



    "ก็บอกว่าอยู่บนห้องไม่ใช่เหรอ? นี่ฉันก็ขึ้นมาแล้วนี่ไง"  สาวร่างโปร่งพูดเสียงหวานเหมือนจะง้อให้กับวันนั้นที่ตนปฏิเสธอีกคนทั้งๆที่รุ่นพี่หน้าหมวยดูจะพยายามเป็นอย่างมาก แต่ก็ด้วยตอนนั้นเธอเองก็เจ็บปวดและแค้นใจอีกคนอย่างแสนสาหัส ถึงได้พยายามสร้างกำแพงกั้นให้อีกคนออกไปไม่มาทำอะไรกับหัวใจเธออีก



    ซึ่งแน่นอนว่ามันเวิร์คซะที่ไหน... ถ้าไม่งั้นเธอก็คงไม่มานั่งง้อเจ้าของห้องอยู่ตรงนี้หรอก



    "ไม่มีแล้ว"  เจนนี่ตอบขึ้นหน้าตายแล้วก็มองไปทางอื่นเหมือนคนอารมณ์ไม่ดี ลิซ่าเห็นท่าทางที่ดูน่ารักน่าแกล้งของอีกคนแล้วจึงเดินเข้าไปคนที่นั่งอยู่แล้วก็หยุดอยู่ตรงหน้า ฝั่งคนที่เห็นเธอเดินเข้าไปใกล้ก็รีบหันกลับมามองเธออย่างไม่ไว้ใจ



    "ไม่ใช่อมยิ้มที่วางอยู่ตรงนั้นเหรอ?"  ลิซ่าพูดขึ้นอย่างยิ้มๆแล้วก็ชี้ไปยังอมยิ้มอันเล็กที่หน้าตาเหมือนอันที่เธอเคยโยนทิ้งครั้งแรกที่เจอกันกับรุ่นพี่หน้าหมวยซึ่งวางอยู่บนโต๊ะยาว ไม่ใช่อะไรหรอก... เมื่อกี๊เมื่อเธอพูดถึงของที่จะให้ขึ้นมาก็เห็นอีกคนเหลือบมองไปทางโต๊ะยาวนั้นแว้บหนึ่งเพียงเสี้ยววินาที แต่มันก็ทำให้เธอพอจะเดาได้ทันทีเพราะถ้าเจ้าของห้องซื้อมากินเองก็คงไม่เอามาวางทื่อๆเดี่ยวๆตรงนั้นเป็นแน่



    "ไม่ใช่"  เจนนี่หันมองตามที่เธอชี้ก่อนที่จะหันกลับมาแล้วตอบหน้าตาย ถึงแม้ในแววตาเฉี่ยวจะยังคงนิ่งสนิทแต่เจ้าตัวก็ยังคงซ่อนความหงุดหงิดที่อยู่ในน้ำเสียงไปจากหูของสาวร่างโปร่งไม่ได้



    "อื้ม..."  ลิซ่าเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนุกแล้วก็ค่อยๆเดินไปหยิบอมยิ้มขึ้นมาในมือก่อนจะเดินกลับมาตรงหน้าเจ้าของห้องอีกครั้ง เมื่อสาวดาวคณะเห็นดังนั้นก็หรี่ตามองหน้าเธอแล้วก็ยื่นมือมาจะคว้าวัตถุอันเล็กออกไปจากมือของเธอ



    ฟึ่บ



    แต่สาวร่างโปร่งก็ไวกว่ายกมือขึ้นหลบอีกคนด้วยความรวดเร็วทำให้ขนมอันเล็กยังอยู่ในมือของเธอ เจนนี่ลุกขึ้นพยายามคว้าอมยิ้มอย่างไม่ยอม แต่คนที่ตัวสูงกว่าก็ยืดแขนสุดขึ้นไปบนอากาศทำให้สาวดาวคณะที่ตัวเล็กกว่าเอื้อมไม่ถึง



    คิ้วสวยทั้งสองของคนหน้าหมวยขมวดเข้าหากันก่อนที่ลิซ่าจะถูกสายตาคมกริบจ้องอย่างเอาเรื่อง รุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้ากอดอกแล้วก็จิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ใบหน้าสวยกำลังดูดุอย่างสุดๆซึ่งถ้าเป็นแต่ก่อนเธอเห็นก็คงจะกลัวไปแล้ว 



    "เธอ..."


    "อะไรคะ?"  สาวร่างโปร่งกล่าวขึ้นเสียงหวานพร้อมส่งรอยยิ้มกว้างไปให้อีกคนอย่างกวนๆ ซึ่งแน่นอนว่าหน้าตาของอีกฝ่ายก็ไม่ได้สนุกไปด้วยเลยสักนิด ดวงตาเฉี่ยวจ้องมองเธออย่างทะลุทะลวงสลับกับอมยิ้มในมือที่ยังคงถูกชูขึ้นสูงเกินที่จะเอื้อมอยู่ 



    "..."  เจนนี่ไม่พูดอะไรแต่กลับแบมือออกมาข้างหนึ่งพลางจ้องหน้าเธอนิ่งด้วยสายตาคมกริบ มือข้างที่ยื่นมาเหมือนเป็นคำสั่งให้เธอคืนขนมชิ้นเล็กในมือมากกว่าที่จะเป็นการขอ ยิ่งการที่แขนอีกข้างหนึ่งก็ยังคงกอดอกอยู่ทำให้คนตรงหน้าเหมือนกับแม่ดุๆที่กำลังตำหนิลูกที่ขโมยของไปก็ไม่เชิง



    ทั้งๆที่จะไม่ทำตามก็ได้... แต่ไม่รู้เพราะอะไรลิซ่าก็ค่อยๆลดมือตัวเองลงแล้วก็วางอมยิ้มอันเล็กคืนลงบนฝ่ามืออีกคนอย่างเชื่อฟัง อาจเป็นเพราะดวงตาคมกริบที่ดูมีอำนาจของรุ่นพี่หน้าหมวย หรือเพราะลึกๆแล้วเธอเองก็ไม่อยากจะขัดใจอีกคนก็ไม่รู้



    "หึ"  เจนนี่แค่นหัวเราะออกมาเบาๆทางจมูกทั้งๆที่ยังคงมีสีหน้านิ่งสนิทก่อนจะหมุนอมยิ้มในมือไปมาแล้วก็ใช้อีกมือนึงค่อยๆแกะห่อข้างนอกออกจนเหลือเพียงตัวลูกอมกลมๆกับไม้เสียบอันเล็กที่เธอถืออยู่



    ในขณะที่ลิซ่ากำลังมองที่ตัวลูกอมอันเล็กว่าอีกคนจะทำอะไรกับมัน ดาวคณะสาวก็เอาอมยิ้มเข้าปากซะเองก่อนจะขบไปมาในปากโดยที่ไม่ได้มองหน้าเธอ และแล้วคนหน้าสวยก็เอาอมยิ้มออกมาจากปากจนเกิดเสียงดูดเบาๆจากริมฝีปากสวย ทำเอาสาวร่างโปร่งต้องกลืนน้ำลายดังอึกเมื่อมองลูกอมเปียกใสสลับกับปากเล็กที่เผยอออกเล็กน้อยของรุ่นพี่หน้าหมวย



    ลิซ่าเผลอเลียริมฝีปากตัวเองอย่างไม่รู้ตัวและก็ยังคงจ้องการกระทำของอีกคนจนตาค้าง บัดนี้ดวงตาเฉี่ยวกลับมามองที่เธออีกครั้งทำให้สาวร่างสูงเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังอ้าปากค้าง ท่าทางของเธอตอนนี้คงจะดูตลกมากทีเดียว... เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงกำลังจะปิดปาก แต่ก็ไม่ทันลูกอมอันเล็กที่ถูกดันเข้ามาให้ได้ชิมเสียก่อน



    หงับ



    เฮือก!!



    ความหวานที่แผ่ซ่านไปทั่วลิ้นบวกกับความเปรี้ยวนิดๆของรสผลไม้เปรียบดั่งความร้อนบนใบหน้าที่กำลังกระจายไปทั่วจนตอนนี้ใบหน้าเธอคงแดงไปหมด ลิซ่าเบิกตากว้างเมื่อจิตใต้สำนึกกำลังตระหนักถึงสิ่งที่คนตรงหน้าทำ ความอุ่นของลูกอมที่ยังคงอยู่ยิ่งทำให้ความหวานที่กำลังได้ลิ้มรสเปรียบเหมือนดั่งเธอกำลังชิมรสชาติในปากของดาวคณะสาวตรงหน้าอยู่ก็ไม่ปาน สาวร่างโปร่งมองหน้ารุ่นพี่หน้าหมวยที่ยังคงมองหน้าเธอนิ่งแล้วก็ยิ่งรู้สึกเขินเข้าไปกว่าเดิมจนเธอไม่สามารถจะเอาสายตาตัวเองไปสู้กับอีกคนต่อได้



    ตึกตัก ตึกตัก



    'บ้าจริง!'



    ขายาวถอยออกมาจากเจ้าของห้องสองสามก้าวพลางมองไปที่อื่นอย่างกระดากอาย ถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่ดูเล็กน้อยแต่ลิซ่าก็ยังอดรู้สึกไปกับมันอย่างมากไม่ได้เมื่อคนที่ทำคือรุ่นพี่หน้าหมวยที่มีสีหน้านิ่งๆอยู่ตลอดเวลา แต่ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าภายใต้ใบหน้าหยิ่งนั้นการกระทำของอีกคนกำลังชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างจากเธอที่แม้แต่คำพูดก็ไม่กล้าบอกออกไปเสียที



    'มันน่ามั้ยเนี่ย?'



    เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างโปร่งจึงก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งก่อนจะดึงอมยิ้มออกจากปากแล้วก็มองหน้าอีกคนด้วยแววตามั่นใจ ฝ่ายสาวปีสองเมื่อเห็นดังนั้นก็ยกคิ้วขึ้นมาหนึ่งข้างก่อนจะถามออกมาเสียงนิ่ง



    "อะไร?"



    "พี่คบกับแม็คจริงๆเหรอ?"



    "..."  สาวหน้าหมวยเอียงคอเล็กน้อยเมื่อจู่ๆอีกคนก็ถามขึ้นมา เธอคิดในหัวสักพักว่าจะบอกรุ่นน้องร่างโปร่งตรงหน้าว่าอะไร แต่ในเมื่อเธอไม่เคยคิดจะโกหกหรือจงใจหลอกอะไรอีกคนอยู่แล้ว เจ้าของใบหน้าสวยจึงพูดออกมาตามตรงที่สถานการณ์จริงมันเป็นอยู่



    "ไม่ใช่"



    สีหน้าของลิซ่าดูตกใจเล็กน้อย ซึ่งสาวหน้าหมวยก็คิดไว้อยู่แล้ว... เจนนี่สูดหายใจเข้าแล้วก็ปล่อยออกมายาวๆหนึ่งครั้งก่อนที่จะเริ่มอธิบายให้อีกคนฟังพอสังเขป



    "เรื่องบอกว่าเป็นแฟนน่ะฝ่ายนั้นทำอยู่ฝั่งเดียว แต่เขาบังคับให้พี่ไม่พูดอะไรก็เท่านั้นแหละ"



    'เรียกตัวเองว่า 'พี่' ด้วยแฮะ'  



    ลิซ่าเผลออมยิ้มในใจกับสรรพนามใหม่ที่เพิ่งจะเคยได้ยินจากอีกคน แต่นอกจากที่จะมามัวคิดว่ามันน่ารักขนาดไหนที่อีกคนเรียกตัวเองแบบนั้น... ตอนนี้เธอมีเรื่องในใจที่สำคัญกว่าก็คือบทสนทนาที่กำลังมีอยู่กับคนตรงหน้า



    "ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ชอบแม็คเลยเหรอ?"  ลิซ่าถามออกไปอย่างคับข้องใจ



    "บอกว่าอะไร?"  สาวหน้าหมวยเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกอีกครั้งอย่างวางมาด



    "...ให้เรียกพี่"  สาวร่างโปร่งตอบเสียงอ่อย เจนนี่หลับตาพยักหน้าเล็กน้อยด้วยใบหน้าเซ็งๆแล้วสาวดาวคณะก็เริ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบ



    "ใช่... ไม่ได้ชอบ"



    ทันทีที่ได้ยินคำตอบออกมาจากปากของรุ่นพี่ ลิซ่าก็สูดหายใจเข้าลึกๆด้วยความรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้เจนนี่จะไม่เคยจะดูเล่นด้วยกับรุ่นน้องชายหนุ่มให้เธอเห็นเลยแม้แต่สักครั้ง... แต่สาวร่างโปร่งก็อดนึกน้อยใจไปเองไม่ได้เมื่อส่วนลึกในใจเธอยังคงสงสัยอยู่ตลอดว่ารุ่นพี่หน้าหมวยจะมีความรู้สึกให้กับเขา ในเมื่อก่อนหน้านี้เธอก็เข้าใจว่าทั้งสองคบกันเพราะความชอบ ไหนจะการที่เจ้าตัวไม่เคยปริปากในเรื่องของแม็คอีก



    สรุปไม่ได้ชอบสินะ...



    ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า



    ความรู้สึกเราสองคนอาจจะตรงกันจริงๆ?



    "พี่..."



    "อะไร?"  ใบหน้าสวยเงยขึ้นมาสบตาเธอเป็นคำถาม รุ่นพี่หน้าหมวยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยมือก็ยังคงกอดอกอยู่ดูสมกับเป็นอีกคนที่มีภาพพจน์ว่าหยิ่ง สาวร่างสูงทำใจกับตัวเองสักพักด้วยการหายใจเข้าลึกๆแล้วก็ผ่อนออกมา เมื่อพร้อมแล้วเธอจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนตรงหน้าอีกครั้ง



    ลิซ่ายืดตัวตรงก่อนจะมองอมยิ้มในมือสลับกับเจ้าของดวงตาเฉี่ยวอันคมกริบแล้วก็เผลอนึกไปถึงวันแรกที่เจอกันแล้วเธอเกลียดใบหน้าของคนตรงหน้ายิ่งกว่าใคร เกลียดจนถึงขั้นโยนของที่ให้ทิ้งลงถังขยะต่อหน้าได้นี่ก็ต้องระดับไม่เผาผีกันเลยทีเดียว



    "หึๆๆ คิกๆ"  สาวร่างโปร่งหัวเราะออกมากับภาพที่อยู่ในหัวจนทำให้คนตรงหน้ามองเธออย่างไม่เข้าใจ แต่ลิซ่าก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักกับสายตางงงวยของคนตรงหน้าเพราะยังไงเธอก็กำลังจะทำให้กระจ่างอยู่แล้ว 



    ก็ใครจะไปรู้ว่าเธอจะมาถึงจุดนี้ได้...



    จุดที่คำคำนี้กำลังจะออกจากปากเธอไปหาคนที่เธอเคยเกลียดที่สุด



    "ฉัน..."



    "?"  ดาวคณะสาวมองรอยยิ้มบางของคนตรงหน้าแล้วก็ขมวดคิ้วนิดๆ แต่เมื่อเห็นแววตาที่ดูมั่นใจและจริงจังจนส่องประกายแวววับเธอจึงเงียบฟังและปล่อยให้สาวร่างโปร่งพูดสิ่งที่กำลังจะพูดจนจบ



    "ฉันน่ะ..."



    "?"



    ...



    "ชอบพี่นะ"











            



























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×