ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนาย my boyfriend. (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #23 : Chapter 19 : แป๊ด เฟสติวัล ภาคบ่าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.62K
      37
      16 ต.ค. 50




     

    อากาศสดใส  ท้องฟ้าเปิดสว่างไสวมีปุยเมฆลอยบางเบา  ผู้คนมากหน้าหลายตาในชุดเสื้อผ้าสวยหลากสไตล์  คัทเอาต์งานขนาดใหญ่ถูกติดตั้งไว้ทางเข้างานด้วยสีเขียวสดของสปอนเซอร์หลัก  คำโปรยงานอันเป็นที่จดจำอย่างง่ายดายว่า  ฝนตกขี้หมูหัน  คนมัน ๆ มารวมตัว  ซึ่งพวกผมแอบเปลี่ยนในตอนหลังว่า  ฝนตกขี้หมูไหล  คนจังไรมาพบกัน  ฮ่า ๆ  ไม่ได้หมายถึงตัวงานหรือผู้เข้าร่วมงานหรอกครับ  แต่หมายถึงเกรียนบางประเภทที่เลือกเอางานนี้เป็นสถานที่โชว์พาวมากกว่า

     

    ปีนี้งานจัดขึ้นที่สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร  โฆษณาโทรทัศน์สวนน้ำแห่งนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วยังไง  ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นอย่างงั้น  จนป่านนี้คนที่เล่นโฆษณาคงโตจนมีลูกมีหลานกันหมดแล้ว  คอนเซปท์งานปีนี้เน้นความสดใสครับโดยนำมาจากชื่อเพลงนึงของ 2 พี่น้องร็อคเกอร์ชื่อดัง  แบ่งเป็น 7 โซน 7 สี  แบ่งเป็นโซนสำหรับหนังสือ 1 โซน  ภาพยนตร์ 1 โซน  ตลาดนัดดนตรีอีก 1 โซน  โดยอีก 4 โซนที่เหลือเป็นโซนสำหรับเวทีคอนเสิร์ตหลากหลายแนวที่แบ่งไว้ชัดเจนทั้ง POP  ROCK  HIP-HOP,SKA,ELECTRONICA  SOUL  หนึ่งในนั้นมีโซน 6 ที่ชื่อประหลาดว่า ใกล้เคียงสีแสด  โซนสำหรับนักดนตรีหน้าใหม่ที่อยากเล่นอยากร้อง  วงไอ้ต๊อดพร้อมจะโชว์ในเวทีนี้ด้วย

     

     

    อ้ายเร  อ้าย  ทางนี้เน้อ  เสียงสดใสของไอ้ต๊อดร้องเรียกผมให้ไปทางเดียวกัน  เอี้ยน้องต๊อดมาในชุดสไตล์แหวกและแปลกของมันเช่นเคย  เสื้อเชิ้ตเข้ารูปแขนยาวลายกราฟฟิกแบบยุค 60’S สีน้ำเงินติดกระดุมบนจนเสมอคอเข้าคู่กับกางเกงขาเดฟเอวต่ำสีน้ำตาลเข้มคาดเข็มขัดหนังเส้นสวย  และรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สหุ้มข้อสูงสีขาวคู่เก่งเช่นเคย  แต่มันก็ดูธรรมดาไปเลย  เมื่อมาอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นที่แนว  แปลก  และเป็นตัวของตัวเองอย่างมากมายในงานนี้

     

    อื้อ  ผมยิ้มโบกมือทักมันกลับไป  มืออีกข้างถือโทรศัพท์มือถือแนบหูอยู่  กรูอยู่ในงานแล้ว  เมิงอยู่ที่ไหน  ตรงทางเข้า?  ทางเข้าไหนว๊ะ  กรูก็อยู่ตรงทางเข้าเนี่ยะ  ผมคุยโต้ตอบกับคู่สนทนาในสายแข่งกับเสียงจอแจรอบตัว 

    ....  เสียงตอบรับมีอารมณ์ฉุนเฉียวพอประมาณ

    คนไม่ได้มางานศพเมิงนะเว้ย  ถึงจะมาร่วมอโหสิกรรมกันน้อยขนาดนั้น  ให้มองหา ๆ ใช่ว่าหากันง่าย ๆ ซะที่ไหนเล่า  ผมเคืองด่ากลับ

    ....”  เสียงบ่นหงุดหงิดมาตามสายจนผมทนไม่ไหว

    เออ  มองหาก็ได้ว๊ะ  สาด  ทีหลังเมิงใส่ชุดสีเขียวสะท้อนแสงมานะเมิง  จะได้มองหาเจอง่าย ๆ  ผมตวาดใส่ปลายสายก่อนวางหู  แล้วเหลือบมองไปทั่วบริเวณทางเข้างานที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน  มันคงคิดว่าผมจะจับอนุมูลอิสระอย่างมันได้ง่าย ๆ แต่

     

                ภาพชายหนุ่มรูปร่างสูงสมส่วนยืนพิงเสาไฟสวยสไตล์ยุโรปในสวนสนุก  คมหน้าหล่อเหลากำลังง่วนอยู่กับมวนบุหรี่สีขาวในมือ  เสื้อยืดคอวีสีเทาเรียบเนื้อผ้าบางเบาถูกสวมทับบนลำตัวแกร่งที่เผยกล้ามเนื้อสวยผ่านตัวเสื้อออกมาลาง ๆ  กางเกงยีนส์ขายาวสีซีดทรงเท่ห์ลู่ตัวอวดแนวช่วงขายาวที่ซ่อนไว้ใต้เนื้อผ้าหยาบหนา  รองเท้าผ้าใบคู่สวยถูกสวมใส่    ประดับเพิ่มด้วยเครื่องประดับเงินเท่ห์เก๋น้อยชิ้นกำลังพอดี  พ่วงโซ่ล่ามกระเป๋าตังค์กับเข็มขัดตัวเองอีกเส้น  สาบานได้ว่าไอ้กิงสวมชุดได้ธรรมดามาก ๆ แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์  แต่มันก็สะกดสายตาคนละแวกนั้นไม่ว่าจะเป็นเด็กพั้งค์  เด็กอีโม  เด็กฮิปฮอป  เด็กป๊อป  ร็อค  แจ๊ซ  แว้น  สก๊อย  แซ้บ  แร๊พ  ลาบ  น้ำตก  และอีกมากมายได้อย่าง ณ จังงันนัก

     

    ผมเผลอแสบตานิดหน่อย  เหมือนมีลำแสงส่องเป็นทางมากระทบกับตัวมันจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับ 

     

    เฮ้!”  เกือบลืมส่งเสียงตะโกนเรียกมันไป

    ไอ้กิงยกมือทักตอบตามเสียงเรียก  แล้วเดินมาหาผม  เหมือนฉากในละคร  คนรอบข้างแหวกทางให้มันเดินผ่าน  ไม่รู้เพราะรัศมีออร่าที่เปล่งออกมา  หรือเพราะกลัวจะเป็นมะเร็งปอดตาย  พ่อเล่นพ่นควันเป็นดรายไอซ์เสียขนาดนั้น

     

    เห็นมั้ย  กรูบอกแล้ว  มองหาเดี๋ยวก็เจอ  มันเถียงต่อจากในโทรศัพท์ทันทีที่เผชิญหน้ากับผม

    กรูสายตาดีต่างหากเว้ย  แล้วเมิงแมร่งก็ไม่ยอมบอกกรูว่าอยู่ตรงไหน  ลำบากชาวบ้านเขาจริง  ผมบ่นใส่หน้ามันอย่างไม่ยอม

    กรูบอกแล้วไงตรงทางเข้า ๆ มันจะยากอะไรวะ  ไอ้กิงยังไม่เลิกเช่นกัน

    ทางเข้าบ้านเมิงมันเล็กมากรึไงวะ  ไม่ใช่ขนาดเท่าห้องส้วมนะโว้ย  แหกตาดูซะ  นี่มันสวนสนุก  ผมขึ้นเสียงใส่พร้อมผายมือออกข้างตัวเปรียบเทียบให้เห็นถึงความใหญ่โตของสถานที่

    เออ ๆ กรูยอม  แมร่งถ้าเมิงมาพร้อมกรูก็หมดเรื่องแล้ว  มันพูดพร้อมทำหน้าหงุดหงิดใส่ผม

     

    ...  ผมหยุดเถียงแล้วเปลี่ยนเป็นอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว  เออ  หัดยอมคนเขาบ้างก็ดี  ถือซะว่าเป็นอานิสงส์ในชีวิตเมิง  ผมกล่าวต่อมีแววเยาะพอประมาณ  อะไรไม่รู้แต่มีความสุข

     

    อ้ายยยยย  อ้ายเร  เสียงเรียกยานยาวแบบไม่ต้องมองหาต้นเสียง  เมื่อไอ้คนหลงยุคอย่างเอี้ยน้องต๊อดก้าวแทรกมาที่ช่องว่างระหว่างผมกับไอ้กิง  เบียดตัวเองให้อยู่ตรงกลางแล้วพยายามดันไอ้กิงออกไป

     

    อ้ายไปกันเต๊อะ  แอ่วงานกันได้แล้วเน้อ  มันเอ่ยชวนผมด้วยความสดใสร่าเริงเกินร้อย  แบบลืมไปว่ามีใครอีกคนอยู่ด้วย

    เฮ้ย  เสียงทุ้มเรียบเรียกให้รู้สึกตัว

    เอี้ยน้องต๊อดค่อย ๆ เสหน้าไปด้านหลัง  มีแววขัดใจบนใบหน้า  อ้าวอั้ยกิงมาด้วยเรอะ  ชักน้ำเสียงกวนตีน

     

    ไอ้กิงมองโต้ตอบแบบไม่ยอมกัน  ผมกลัวงานแป๊ดจะเปลี่ยนเป็นงานแว้กโดยไม่รู้ตัว

     

    กรูจะไปโซนหนังสือ  อยากดูหนังสือว่ะ  ผมแทรกกลางปล้องชวนเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ

    ดีเลยอ้าย  แอ่วกันเน้อ  เอี้ยน้องต๊อดสนับสนุนเต็มที่

    เหรอ  แต่กรูว่าจะไปซื้อซีดีเพลงก่อนว่ะ  ไอ้กิงเสนอขึ้นมา

    จะไปดูเพลงก่อนเหรอวะ  ผมทำท่าครุ่นคิดตาม

     

    ไปเบิ่งหนังสือกันอ้าย  ไปเบิ่งหนังสือกัน  อั้ยกิงเขาอยากไปเบิ่งซีดี  ให้อั้ยไปคนเดียวเซ่  เอี้ยน้องต๊อดดึงชายเสื้อผม  ก่อนเหลือบไปมองไอ้กิงแบบวอนตีน  ไม่รู้ว่ามันเป็นพี่รหัสน้องรหัสกันได้ยังไงตั้งนาน  ตั้งท่าเป็นศัตรูกันขนาดนี้  (จริง ๆ เป็นเอี้ยน้องต๊อดกวนประสาทคนเดียวเสียมากกว่าครับ)

     

    ผมนึกว่าผมต้องหาทางเปลี่ยนเรื่องอีกรอบ

     

    สวัสดีครับพี่กิง  พี่เร  เสียงทักแทรกจากรุ่นน้องอีกคนนึงเรียกให้พวกผมหันไปทำความสนใจ  คิมน้องรหัสผมยิ้มให้  แล้วเอื้อมมือเข้าไปดึงคอเสื้อไอ้ต๊อดต่อทันที 

    ไอ้ต๊อดเมิง  ไปรายงานตัวที่เวทีก่อนโว้ย  ตอนนี้เมิงจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น  ซ้อมมาตั้งนาน  ถ้าไม่ได้เล่นนะเมิง  พวกกรูเอาเมิงตายแน่  คิมเปลี่ยนมาดนิ่งเรียบเป็นโหมดโหดใส่ไอ้ต๊อดก่อนจะออกแรงลากไปยังกลุ่มเพื่อนที่ยืนรออยู่

     

    บ่เอา  กรูบ่ไป๋  พวกเมิงไป๋กันก่อนก็ได้นิ  บ่เห็นต้องให้กรูไปด้วยเลย  อีกตั้งนานนิกว่าจะฮ้อง  ไอ้ต๊อดทำตัวแข็งดื้อดึงยืนอยู่กับที่

    ไอ้ต๊อด  ขืนกรูปล่อยเมิงไว้กับพี่เร  เมิงก็ไม่ยอมไปไหนสิวะ  ยังไงเมิงก็ต้องมากับพวกกรู  คิมเปลี่ยนเป็นจับคอเสื้อสองมือออกแรงดึงยิ่งกว่าเดิม  ไอ้ต๊อดก็ขืนแรงหนักเข้าไปอีก  ผมเห็นแล้วอดไม่ได้กับภาพเสาไฟฟ้ายุคซิกซ์ตี้กับชายหนุ่มรูปร่างมาตรฐานชายไทยอย่างน้องรหัสผมยื้อยุ้ดฉุดกระชากกันอยู่ 

     

    ไปก่อนเหอะน่าเมิง  เมิงเล่นตอนเย็นนี่  เดี๋ยวกรูตามไปดู  ผมตัดบทให้

    เออ  ไปได้แล้วเมิง  รายงานตัวเสร็จจะไปเที่ยวตอนไหนก็ได้  งานมีทั้งวัน  พวกเมิงอุตส่าห์ซ้อมมาตั้งนาน  พวกกรูมารอดูเมิงด้วยวันนี้  ไอ้กิงบอกต่อด้วยความหวังดี

     

    เอี้ยน้องต๊อดชะงักไปพักนึงก่อนเลิกทำตัวแข็ง  ปล่อยให้คิมลากไปง่าย ๆ ก็ได้อั้ย  เดี๋ยวต๊อดไปรายงานตัวก่อน  ฝากอั้ยกิงดูอัลบั้มชุดแรกของDOXให้ต๊อดด้วย  ที่ต๊อดเคยบอกนะอั้ย ตอนใต้ดินอย่าซื้อผิดเน้อ  ไอ้ต๊อดสั่งเสีย

    อืม  กรูรู้แล้ว  เมิงบอกกรูรอบที่ร้อยได้มั้งเนี่ยะ  เอาเสื้อยืดไซส์ M ด้วยใช่มั้ย  กรูไม่พลาดหรอก  ไอ้กิงพยักหน้ารับคำเรียบ ๆ

     

    ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย  เห็นตั้งท่ามาคุใส่ตลอด  อันที่จริงพวกมันสองคนก็มีมุมเอาใจใส่ในแบบของตัวเองเหมือนกัน

     

    อ๋อ  อั้ยกิงอีกเรื่องอั้ย  ไอ้ต๊อดยังคงสั่งเสียไม่เสร็จ  ส่งเสียงดังกลับมา

    ไอ้กิงทำหน้าเหรอ  ยกคิ้วข้างเดียวเป็นเชิงมีคำถาม  อัลบั้มไหนอีกวะ?

     

    ฝากดูแลอ้ายเรด้วยอั้ย  ถ้าอ้ายกระหายต้องหาน้ำให้ดื่ม  ถ้าอ้ายเหนื่อยต้องให้นั่งพัก  ถ้าอ้ายฮ้อนต้องพัดให้  ถ้าอ้ายหิวต้องพาไปกิน  ถ้าอ้ายหน้ามันต้องซับหน้าให้อ้าย  ถ้ามีคนจีบอ้ายต้องขวางเน้อ  ถ้า...  เอี้ยน้องต๊อดร่ายยาว

     

    เฮ้ย  พอแล้วเมิง  กรูดูแลตัวเองได้  ผมไม่ปล่อยให้มันพูดต่อจนจบ

     

    บ่ได้หรอกอ้าย  อ้ายน่ะบ่ฮู้ตัวดอก  ทำสิ่งใด  อ้ายบ่เคยระมัดระวัง  มันเถียงกลับโดยที่ยังถูกดึงร่นไปเรื่อย ๆ

    ห๊ะ?  ไอ้ต๊อดเมิง...  ผมจนใจมันบ่นอะไรของมัน  ผมว่าผมดูแลตัวเองดีพอสมควร  มันซะอีกที่น่าห่วงกว่า

    กะจะด่ากลับไปอีกสักบท

     

    ควับ  น้ำหนักแขนคว้ากระชับโอบรอบไหล่ผมดึงเข้าไปชนกับอกกว้างของคนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกัน  ผมตกใจกับแรงดึง  ก่อนจะหันหน้าไปมองไอ้กิงอย่างฉงน

     

    ไอ้กิงส่งสายตาไปทางเอี้ยน้องต๊อดใบหน้านิ่ง  ไม่ต้องให้เมิงมาบอกหรอกไอ้ต๊อด  พูดจบมันก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกระชับแขนโอบไหล่ผมให้แน่นเข้ามาอีก

     

    เอี้ยน้องต๊อดมีสีหน้าอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะหายลับไปกับฝูงชน  แว่บสุดท้ายที่ผมเห็นมันพยายามจะฝืนตัวเองออกจากแรงดึงของเพื่อนร่วมวงทุกคนที่ทั้งลากทั้งจูงมันไป  ผมในตอนนี้ก็อึ้งเช่นกัน  ไอ้กิงยังโอบรอบไหล่ออกแรงเบา ๆ  ให้เริ่มออกเดินไปด้วยกัน

     

    หึหึ  เป็นอะไร  หิวข้าวเหรอว๊ะ  มันขำสนุก  หันใบหน้ามาทางผม

    ผมงงอะไรที่บอกว่าผมหิวข้าว  แต่ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป

     

    สัมผัสนุ่มนวลของมือหนาเชยคางผมแล้วออกแรงเบา ๆ ให้ริมฝีปากปิดเข้าหากัน  อ้าปากซะค้างเลยนะเมิง  อยากหาอะไรกินรึไง  พูดจบมันก็ยิ้มแล้วเชิดคิ้วเป็นเชิงถาม  ผมรู้ตัวในทันทีว่าผมคงขากรรไกรค้างด้วยความตกตะลึงอยู่แน่ ๆ

     

    ผมหันหน้ากลับมาอย่างไว  ก่อนที่ความรู้สึกบางอย่างจะไหลตื้อขึ้นมา  ความอบอุ่นจากช่วงแขนที่โอบรอบไหล่ผสมกับคำพูดเมื่อกี้ทำให้ผมจุกอก

     

    พอ ๆ เลยเมิง  กรูเริ่มร้อนแล้ว  ผมแสร้งยกแขนมันออกจากตัวผมก่อนที่มันจะรับรู้ถึงแรงกระเทือนของหัวใจ

    หืม  มันยกมุมริมฝีปากทำหน้างงแล้วมือหนานั่นก็เปลี่ยนมาเป็นลูบศีรษะผมอย่างเบามือ  แค่นี้ร้อนแล้วเหรอวะ  ไหนว่าชอบหน้าร้อนไง

    กรูชอบหน้าร้อน  ไม่ได้หมายความว่ากรูชอบอากาศร้อนเว้ย  แล้วที่นี่คนยิ่งเยอะอย่างกับงานฝังลูกนิมิตอยู่ด้วย  มาเดินเบียดกันยิ่งร้อนหนักกว่าเดิมสิว๊ะ  พรสวรรค์ในการด่าเปลี่ยนเรื่องผมไม่เป็นรองใคร

     

    ฮ่า ๆๆ  เออ  ร้อนก็ร้อนวะ  มันหัวเราะชอบใจก่อนยกมือตัวเองมาไว้ข้างตัว  อันที่จริงกรูก็อยากเดินกุมมือไปกับเมิงนะกิง  ผมแอบเม้มริมฝีปากสะบัดหัวเสียดายในใจ

     

    โซนจัดงานกระจายตัวไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ของสวนสนุกผสมสวนน้ำแห่งนี้  โลกแห่งจินตนาการผสานดินแดนแห่งความฝันสำหรับเด็ก,วัยรุ่นและผู้ใหญ่รักสนุก   ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นมิวสิคเฟสติวัลเต็มรูปแบบด้วยคัทเอาท์งาน  สีสันของฉากและป้ายอีกมากมายที่จัดตามคอนเซ็ปท์ที่วางไว้   เสียงดนตรีบรรเลงดังผ่านโดยรอบบริเวณปลุกเร้าบรรยากาศให้คึกคัก  หลายส่วนและหลายโซนมีกิจกรรมให้ร่วมเล่นสนุกกันอย่างไม่รู้เบื่อ

     

    บูธDOXอยู่ไหนวะ  จะได้เดินไปซื้อแผ่นก่อน  ผมมองแผนที่งานในมือแล้วเพ่งพิจารณาหาเป้าหมาย

    แทนคำตอบจากไอ้กิง  ปลายนิ้วยาวชี้มาบนโซนสีม่วงบนแผนที่แทน  ไปนี่ก่อน  เสียงทุ้มเอ่ยบอก

    เห?  ไหนว่าจะไปดูแผ่นเพลงไง  ทำไมไปดูหนังสือก่อนวะ  ผมสงสัยหันหน้าไปถามมัน

    ริมฝีปากหยักยกยิ้มบาง ๆ  เมิงอยากดูหนังสือก่อนไม่ใช่เหรอ  ไปที่ ๆ เมิงอยากไปก่อนเถอะว่ะ

     

    ผมเสมองหน้ามันด้วยความแปลกใจ  แดกอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าวะ  ตามใจคนอื่นเขาเป็นด้วยเหรอเมิง 

    คิ้วมันย่นเข้าหากันนิดหน่อย  กรูเคยขัดใจเมิงด้วยเหรอวะ  มันตอบกลับแบบไม่น่าเชื่อ

    โห  เมิงเนี่ยะอ่ะนะไม่เคยขัดใจกรู  ดีแต่บังคับใจกรูล่ะสิไม่ว่า  อดเถียงมันไปไม่ได้

    ฮ่า ๆๆ  มันหัวเราะเสียงดัง  เหอะน่า  ไม่เคยบังคับเรื่องที่เมิงไม่ชอบละกัน  ตอบเสร็จมันก็ยิ้มแบบมีเลศนัยแต่แววตากลับอบอุ่นหวาน

     

    เออ  โว้ย!  สรุปยังไงเมิงก็ต้องถูกใช่มั้ย  ผมขึ้นเสียงใส่มันเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง  วันนี้ไอ้กิงคงเผลอตื่นเช้ามาตักบาตร  ดูดบุหรี่กลับข้าง  ไม่ก็ดันสวดมนต์ก่อนนอนแน่นอน  พฤติกรรมชวนเคลิบเคลิ้มน่าตบจูบแล้วลูบคลำจึงเกิดขึ้น  เพียงแต่ผมต้องท่องย้ำกับตัวเองไว้  แค่เพื่อน ๆ 

     

    เส้นทางการเดินเที่ยวของพวกผมจึงมุ่งไปยังโซนนิตยสารและหนังสือทำมือ  โซนนี้อยู่ไม่ไกลจากทางเข้างานนัก  บูธหนังสือตั้งเรียงรายมากมาย  ทั้งจากสำนักพิมพ์ดังและหนังสือทำมือโดยนักเขียนมากฝีมือ  วันนี้ผมอยากมาซื้อฉบับเก่า ๆ ของนิตยสารหัวหนึ่งเก็บไว้  ผมเห็นป้ายสำนักพิมพ์ไว ๆ

     

    กรูไปเลือกหนังสือก่อนนะ  อารามดีใจเจอหนังสือฉบับโปรด  ผมเดินลิ่วตรงสู่บูธอย่างเร็ว

    กรูไปดูตรงอื่นก่อนละกัน  เสียงไอ้กิงเรียกบอกไว้

    ผมหันกลับไปพยักหน้ารับ  อื้ม  แล้วเราสองคนก็ต่างคนต่างเที่ยว  ไม่ต้องแปลกใจไปครับ  ปกติพวกผมมักจะเป็นแบบนี้เสมอ  ใครชอบอะไรอยากดูสิ่งไหน  จะแยกย้ายไปเที่ยวคนเดียวเสียมากกว่าแล้วค่อยนัดเจอกันภายหลัง

     

    กองหนังสือวางเป็นตั้งหลายกองในเต้นท์ผ้าใบขนาดกว้างกำลังพอดี  มีทั้งฉบับปัจจุบันไปจนถึงฉบับเก่า ๆ เล่มแรก  ผมพลิกเปิดดูเล่มที่ต้องการหาทีละเล่มอย่างเบามือ  นิตยสารท่องเที่ยวเชิงปรัชญาของสำนักพิมพ์นี้ผมชอบมาก  ด้วยแนวคิดและเนื้อหาที่น่าสนใจทำให้ภายเล่มเปิดอ่านได้อย่างสนุกแทบทุกหน้า

     

    มองหาเล่มไหนอยู่เหรอคะ  เสียงหวานใสเอ่ยทักผม

    ผมหันไปตามเสียงเรียก  สต๊าฟหญิงสาววัยรุ่นผมซอยยาวประบ่านัยน์ตากลมโตแก้มชมพูตัวเล็ก ๆ ผมสะดุดกับความน่ารักของเธอพอประมาณ  เอ่อ  ประมาณช่วงเล่มแรก ๆ ครับ  ผมตอบไป

     

    มือเล็กพลิกหนังสือในกองไปมาเลือกกองที่จัดลำดับหนังสือที่ตีพิมพ์ช่วงแรกไว้  ประมาณเล่ม 1-5 รึเปล่าคะ  ถ้าเป็นเล่มช่วงนั้นอาจจะหมดไปแล้วค่ะ  เธอเงยหน้าจากกองหนังสือขึ้นมาตอบผม

    เหรอครับ  ว้า  เสียดายจัง  ผมตัดพ้ออุตส่าห์หมายมั่นว่าต้องเจอแน่ ๆ

     

    ไหน ๆ เล่มไหน  ลองค้นดูในลังอาจจะยังเหลือก็ได้  เสียงของสต๊าฟหญิงอีกคนหนึ่งในบูธเรียกเตือนสต๊าฟคนที่เข้ามาช่วยหานิตยสารให้ผม

    เอ่อ  ไม่ต้องลำบากหรอกครับ  ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร 

    ไม่ลำบากหรอกค่ะ  เป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว  สต๊าฟคนที่ 3 ยิ้มแย้มตอบผม  ผมได้แต่ยิ้มกลับด้วยความเกรงใจ  ก่อนที่สต๊าฟสาวทั้งสามคนจะช่วยกันค้นลังกระดาษหาหนังสือให้ผมด้วยความกระตือรือล้น

     

    ให้ผมช่วยนะครับ  บอกพร้อมจะออกเดินอ้อมไปข้างหลังบูธ

    ไม่ต้องหรอกค่ะ  เสียงประสานของทั้งสามสาวเอ่ยหยุดผมไว้  ส่งตรงมากับสายตาปรามและรอยยิ้มหวาน 

    อะ  อื้ม  ครับ  ผมตกใจเล็กน้อย  แล้วหยุดยืนนิ่งให้พวกเธอค้นหาต่อไป  ผมเห็นพวกเธอแอบซุบซิบกันพอประมาณ  อาจจะแอบบ่นเรื่องผมอยู่

     

    เวลาผ่านไปพักนึง  กองโบราณวัตถุเป็นจดหมายเหตุกรุงศรีถูกตั้งขึ้นบนกองหนังสือที่วางอยู่ก่อนหน้า  ในที่สุดหนังสือเล่มที่ผมอยากได้ก็ถูกหาจนเจอ  จำนวนเล่มถูกบรรจุใส่ถุงใบสวยยื่นมาให้ผม  ผมเอื้อมจับพร้อมยื่นเงินจำนวนนึงให้กับสต๊าฟผู้น่ารักที่ช่วยกันค้นด้วยความตั้งใจ  ผมรับถุงมาแต่ทำไมถุงไม่ติดมากับมือผม  ผมออกแรงรั้งอีกทีสองที  สต๊าฟสาวตาโตคนนั้นเองยื้อถุงไว้

     

    เอ่อ  ผมให้ตังค์ไม่ครบเหรอครับ  เรื่องเงินเรื่องทองผมละเอียดแต่ไม่เคยเม้มนา

    คิก ๆ  เธอขำโดยที่ผมไม่ทราบสาเหตุพร้อมกับอีกสองสาวด้วย  เปล่าค่ะ  ให้ครบแล้วค่ะ 

    ผมยิ้มรับเธอแล้วออกแรงดึงถุงหนังสืออีกครั้ง  ...  ยังไม่ได้หนังสืออยู่ดี

     

    ชื่ออะไรเหรอคะ  เสียงใสเอ่ยถามผม

    หา?  เอ่อ  ผมเหรอครับ  มือผมยังอยู่ที่ถุง  มองหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ  เดี๋ยวนี้ซื้อหนังสือต้องถามชื่อลูกค้าเก็บไว้ด้วยเหรอเนี่ยะ  อืม  ละเอียดดีจริง ๆ

    ค่ะ  ใช่ค่ะ  ชื่ออะไรเหรอคะ  เธอถามต่อด้วยใบหน้าสดใสใครรู้

    เรครับ  ชื่อเรครับ  ผมยิ้มตอบกลับไป

     

    ว้าว  เสียงร้องเบา ๆ พร้อมกันของสามสาว  พวกเธอทำหน้าตื่นเต้นดีใจเล็กน้อย  ชื่อของผมอาจไปคล้ายชื่อญาติผู้ใหญ่ของเธอเข้า  ผมงงกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้แต่พยักหน้ารับ

    ชื่อเพราะจังเลยค่ะ  เราชื่อทรายนะ  แล้วนี่เอ้กับปอค่ะ  สต๊าฟสาวตาโตแนะนำตัวเองและเพื่อนทั้งสองคนอย่างมีมนุษยสัมพันธ์  ความสดใสของเธอทำให้ผมอดยิ้มรับไม่ได้

     

    เร  เรียนชั้นไหน  เรียนอะไรเหรอคะ  ทรายคอมโบยิงคำถามผมต่อทันที  ผมคิดว่านี่อาจเป็นการเก็บข้อมูลไว้ขยายฐานตลาดใหม่ของนิตยสารหัวนี้

    ผมเรียนปี 4 แล้วครับ  เรียนสถาปัตย์ครับ 

    ว้าว  สามสาวอุทานพร้อมกันเบา ๆ ผมอาจเรียนคณะเดียวกับญาติผู้ใหญ่ของเธออีกรอบ สถาปัตย์เหรอคะ  เท่ห์จังเลย  พวกทรายเรียนนิเทศน์  ปี 4 เหมือนกันค่ะ  ทรายคุยต่อด้วยความร่าเริง  สองสาวที่นั่งอยู่ก็ยิ้มอารมณ์ดีสนใจฟังไปด้วยกัน

     

    ฮื่อ  ไม่เท่ห์หรอกครับ  คณะที่แขวนชีวิตไว้กับกาแฟและกระทิงแดง  แถมขาดแอลกอฮอล์ไม่ได้อีก  ไม่เท่ห์สักนิดเลย  น่าเวทนามากกว่าครับ  ผมยิ้มตอบกลับไปด้วยความจริงใจจากตัวแทนคณะ

     

    คิก ๆ  สามสาวขำพร้อมกันก่อนที่ทรายจะพูดต่อ  ไม่หรอกค่ะ  เรเป็นคนตลกดีนะ  เรชอบอ่านOPENเหรอ  ทรายก็ชอบนะ  อ่านแล้วอยากออกไปเที่ยวบ้างเลย  เวลาเรียนเครียด ๆ ได้เที่ยวนี่ยังไงก็ดีที่สุดเนอะ  เรว่ามั้ย  ทรายพูดจบก็หันมายิ้มสวยให้ผม  ความอัธยาศัยดีและช่างคุยของเธอทำให้ผมเพลินอยู่ในบูธตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  แต่เหมือนมีสังหรณ์อะไรสักอย่าง  อืม  อาจจะไม่หรือจะใช่

     

    เร  ทรายรบกวนอะไรหน่อยได้มั้ย  ทรายทักถามผมขึ้นมาเมื่อเราคุยกันไปสักพักนึง

    ครับ  ได้ครับ  ผมพยักหน้ารับเบา ๆ

     

    วิ้ว  เอาแล้วไง  ทรายใจกล้าแฮะ  เสียงของเพื่อนอีกคนแซวทรายแว่ว ๆ 

     

    เอ่อ  ทราย  คือทรายขอ  เธอพูดติดขัดแล้วทำท่าเขินอาย  ขออะไรหว่า  อย่าขอเพิ่มราคาค่าหนังสือผมก็พอ  ผมลุ้นในใจ

    ทรายขอเบอร์โทรศัพท์หน่อยได้มั้ยคะ  สิ้นเสียงหวานจากเธอ

     

    ...  ผมอึ้งเงียบไปพักนึง  แอบหันหน้าไปด้านหลังช้า ๆ กำมือไว้ข้างลำตัว  แม่ครับ  เรทำได้แล้ว  21 ปีกว่า ๆ เกือบ 22 ปี  เรมีผู้หญิงมาขอเบอร์โทรศัพท์แล้วครับแม่  ผมรีบกระพริบตาถี่ ๆ ไล่ของเหลวที่ซึมมาทางหางตา  ความปลาบปลื้มใจที่ล้นขึ้นมากับที่แอบสงสัยว่า  มีหญิงมาจีบตรูรึเปล่าหว่า?  ในที่สุดความจริงก็เปิดเผย  ตรูมีหญิงจีบแล้วโว้ย  ฮ่า ๆๆ 

     

    เอ่อ  ว่าไงคะ?  เสียงเรียกของทรายดึงผมกลับจากโลกของตัวเอง  ใบหน้าหวานของเธอขึ้นสีระเรื่อ

    พอรู้ตัวอีกทีผมเองก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน  คือ...ผม  ไม่ใช่จะเล่นตัวครับ  แต่ผมไม่รู้จะตอบยังไง  ไม่เคยโดนสาวน่ารักจีบ  มีแต่เอี้ยน้องต๊อดมากวนส้นอย่างเดียว

     

    ให้ไปเถอะนะเร  ทรายจริงใจน้า  เอ้สต๊าฟสาวที่ดูออกห้าวชงให้ทีนึง

    น่านะเร  ไม่เอาไปเล่นของหรอก  ปอเพื่อนอีกคนร่วมด้วยช่วยส่งเสริมโปรโมชั่นแจกซิมมือถือ

     

    นี่  พวกแก  ไม่ต้อง ๆ เงียบไปเลย  ทรายหันไปปรามเพื่อนพอประมาณ  เธอยิ้มหวานเจือความอายบนใบหน้า  ในมือถือถุงหนังสือผมอยู่  เริ่มบิดทดสอบประสิทธิภาพหูถุงพลาสติก  ท่าทางเหล่านั้นชวนให้ผมรู้สึกวูบไหวแปลก ๆ ตามไม่ได้  ยังไงผมก็ยังเป็นปู้บ่าวอยู่นะครับ

     

    ครับ  คือ 08...  ไม่ทันที่ผมจะพูดจบ

     

    หมับ  สัมผัสของมือหนาที่คุ้นเคยคว้าควับเข้าที่เอวผมพร้อมด้วยแรงโอบแน่นจนรู้สึกถึงร่างกายและอุณหภูมิของมัน  ตัวผมเข้าไปอยู่ในอ้อมอกแกร่งของไอ้กิงอย่างง่ายดาย

     

    เพื่อนผมรบกวนพวกคุณมากรึเปล่าครับ  เสียงทุ้มบอกริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนโยน

    ...  ไม่มีคำตอบจากสามสาว  มีเพียงรอยตกตะลึงจาง ๆ บนใบหน้าเช่นเดียวกันกับผม  คล้ายทรายจะรู้ตัวก่อนเพื่อน  อ๊ะ  เอ่อ  เปล่านี่คะ  ไม่ได้รบกวนอะไรเลย  ทรายยิ้มตอบขัดเขิน

     

    ไอ้กิงเพิ่มรอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีก  งั้นดีเลยครับ  ผมเห็นหายไปนาน  มาคุยเล่นอยู่ตรงนี้นี่เอง  มันพูดจบก็หันใบหน้ามาทางผม  ระยะห่างที่แทบไม่มีระหว่างผมกับมันทำให้มัวแต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก  ไปกันได้รึยัง  มันถามผมพร้อมรอยยิ้มอุ่น

     

    ผมยังยืนค้างนิ่งอึ้งอยู่เลยไม่ได้ตอบอะไรออกไป  ไอ้กิงเลยหันไปหาทรายต่อ  นั่น  มันพูดแล้วส่งสายตาไปทางถุงหนังสือ  ใช่ของเพื่อนผมรึเปล่าครับ 

     

    เอ้อ  คือ  ใช่ค่ะใช่  ทรายตอบตะกุกตะกักใบหน้าเหมือนจะขึ้นสีระเรื่อยิ่งกว่าตอนขอเบอร์โทรศัพท์ผม  ตอบเสร็จทรายก็รีบยื่นถุงหนังสือที่ผมซื้อคืนให้

    ไอ้กิงรับไว้พยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณพร้อมรอยยิ้มเพิ่มเรตติ้ง  แล้วออกแรงรั้งตัวผมให้เดินออกจากบูธไปด้วยกัน

     

    ว้ายย...  ผมได้ยินเสียงเหมือนคนร้องกรี๊ดเบา ๆ แว่ว ๆ จากบูธ  คาดว่าหน้าไอ้กิงคงไม่ไปคล้ายญาติผู้ใหญ่ของพวกเธอเข้าอย่างแน่นอน

     

    หึหึ  เสียงขำขันจากปากไอ้กิงเรียกให้ผมหันไปมองใบหน้ามันที่อยู่ในระยะประชิด

    ขำอะไรวะ  เหมือนปากผมจะอ้าออกแล้ว

    ขำเมิงไง  ตลกดีว่ะ  ยืนตั้งนานเมิงไม่รู้เหรอว่าเขาจีบเมิงอยู่  มันบอกมา

    หา?  นี่แสดงว่าเมิงยืนดูกรูตลอดเลยดิ  ผมสงสัยมองหน้ามัน

     

    สายตาไอ้กิงมองตอบกลับมาแววจริงจังฉายชัดในแววตานั่น  อืม  มันพยักหน้าเบา ๆ มองอยู่ตลอดเลย

     

    ...  ผมรู้สึกบอกไม่ถูกกับท่าทีนั่น  วันนี้มันแปลกไปหลายอย่างเลยครับ  แล้วนี่ก็เป็นครั้งที่ 2 ของวันแล้วด้วยที่อยู่ ๆ มันคว้าผมเข้าไปกอด  คาดว่ามันอาจอัพยามาเป็นคำตอบสุดท้าย

    ชอบเขามั้ย  เสียงทุ้มถามผม

    หา?  ชอบอะไร  ผมหันไปถามมันออกอาการงง

    ผู้หญิงคนนั้นไง  ชอบเขารึเปล่า  มันขยายความใบหน้านิ่ง

     

    เออ  ใช่  พอมันพูดถึงทรายทำให้ผมเพิ่งนึกออก  กรูยังไม่ให้เบอร์โทรศัพท์เขาเลยว่ะ 

     

    คิ้วมันขมวดปมแทนคำพูดแขนที่อ้อมกอดเอวผมอยู่ออกแรงผลักตัวผมให้หันหลังกลับไปทางบูธ

    เฮ้ย  อะไรไปไหน  ผมแปลกใจกับกิริยาของมัน

    ไปให้เบอร์ไง  ยังไม่ให้เขาไม่ใช่เหรอ  มันพูดเสียงเรียบคิ้วขมวด

    อืม  แต่ไม่ต้องแล้วมั้ง  กรูเห็นเขาไม่สนใจขอแล้วนี่ว๊ะ 

     

    ไอ้กิงนิ่งเงียบไปพักนึงก่อนจะยิ้มกว้างออกมา  เหรอ  อืมดีแล้ว  งั้นไปดูซีดีกันเลยละกัน  พูดจบมันก็โอบแรงหมุนตัวผมกลับตัวอีกรอบนึง

     

    ผมเหลือบมองใบหน้าอมยิ้มของมันอย่างไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็นและสัมผัสนัก  อะไรบางอย่างบอกผมว่ามันคล้ายจะหวงผม  นี่ผมไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย  มือมันยังคงโอบเอวผมไว้แบบไม่ผ่อนแรงง่าย ๆ  ผมรู้สึกตื้อตันแปลก ๆ ก่อนจะเผลออมยิ้มออกมา  แล้วเหมือนมันจะสังเกตุเห็น

     

    ยิ้มอะไรวะ  สนุกเหรอ  มือที่โอบเอวเปลี่ยนมาเป็นจับหัวผมเบา ๆ พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มที่หันมาถาม

    ก็ไม่เชิงว่ะ  แค่ดีใจนิดหน่อยที่คนหล่ออย่างกรูมีสาวน่ารักจีบ  ผมยิ้มกว้างตอบกลับ  ขอพิสูจน์อีกนิดเหอะครับ

     

    หน้ามันนิ่งแทนคำตอบ  แววฉุนเหมือนโดนเตะมาปรากฎชัดบนใบหน้านั่น  น่าน  รู้ตัวรึเปล่าว่าเมิงเริ่มอะพอสโทรฟรี่เอสกรูแล้ว  ฮ่า ๆ กร๊ากก  ผมแทบกลั้นความดีใจไว้ไม่อยู่  รู้สึกถึงแก้มร้อน ๆ ของตัวเองที่คงจะป้ายสีพอประมาณ  กับริมฝีปากที่พยายามเม้มไว้ให้สนิท  หน้าผมตอนนี้คงตลกน่าดู

     

    ทำไม  ชอบเหรอว๊ะ  งั้นไม่กลับไปให้เบอร์ให้เรียบร้อยไปล่ะเมิง  เสียงมันเริ่มดุดันมากขึ้นพร้อมกับรอยขมวดตรงระหว่างคิ้ว

    อื้อ  นั่นดิ  ว่าแล้วกรูกลับไปสานสัมพันธ์อีกทีดีกว่าว่ะ  ผมยังคงวอนมันต่อไป

     

    มันใช้สายตาและสีหน้าหงุดหงิดมาแทนคำตอบ  คนอย่างมันมักจะชอบกระทำเลยมากกว่าใช้คำพูด  อันนี้ผมรู้ดี  และได้ผลทันใด  อ้อมแขนแกร่งของมันออกแรงเล่นกายบริหารโอบไหล่หมุนรอบตัวกันอยู่ตรงนั้น  คราวนี้ผมฝืนแรงมันไม่ยอมผ่อนตัวตามง่าย ๆ

     

    ทำไมวะกิง  หงุดหงิดอะไร  ไม่อยากให้กรูให้เบอร์เขารึไง  ผมไม่อ้อมค้อมซัดตรงทันทีพร้อมใบหน้ายิ้มอย่างไว้เชิง 

    มันมองตรงตอบกลับมาอย่างไม่หลบสายตา  อืม  กรูหวง  แล้วไงวะ  มันพูดเพียงแค่นั้น 

    แต่...  มันทำเอาผมเอ๋อเหวอใบ้แดกไปกับคำพูดเพียงไม่กี่คำทันที  ทั้งที่กะจะยอกย้อนกวนประสาทมัน  แต่พอเจอเข้าแบบนี้  ไอ้อาการพยายามกลั้นยิ้ม  สีเลือดแดกหน้ามันพาลจะตีกลับเสียให้ได้  มือผมที่ว่างอยู่เริ่มอยู่ไม่สุข  พยายามมองหาต้นหญ้าเพื่อจะดึงทึ้งทันที  แต่พื้นสวนสนุกผสมสวนน้ำแห่งนี้ดันปูเต็มไปด้วยอิฐบล็อคเสียแล้ว  หรือผมจะแงะอิฐบล็อคมาแก้เก้อก่อนดี

     

    หวงเอี้ยไรเมิงเล่า  เมาบรรยากาศเรอะเมิง  ก่นด่าปากหมาเป็นทางออกของผมเสมอ  ตัวผมเริ่มมีอาการเหมือนคนเป็นโรคบิด  เหลือบมองมันพร้อมกับที่กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ บนหน้าพยายามฝืนต่อกิริยายิ้มไม่อยู่ของตัวเอง

     

    เออ  หวง  ผิดรึไงวะ  มันยังคงหน้าด้านตอบอย่างไม่รู้สึกอะไร

    เมิง...บ้าเรอะ  หวงเหิงเอี้ยอะไร  จนปัญญาจะตอบโต้ ผมเลยออกท่าทางบิดตัวเป็นส่วน ๆ มือไม้จับขมวดชายเสื้อยืดตัวเองทดสอบความยืดหยุ่นของใยคอตตอน 100% ริมฝีปากพ่นลมร้อนจากภายใน สายตาลอบมองมันอย่างประหม่าอาย  หน้าผมคงขึ้นสีจนสังเกตุได้

     

    ทำไม  เป็นอะไร  ไอ้กิงคงสงสัยสภาพเหมือนคนโดนเล่นของในตัวผม  ยกมุมริมฝีปากเลิ่กคิ้วถามแววตาเจ้าเล่ห์

    เมิงน่ะสิวะ  เป็นหร่าอะไร  ร้อยวันพันปีแมร่งไม่เคยเห็นจะสนใจ  ไม่รู้เรอะเบอร์โทรกรูมีโปรโมชั่นสายเข้าได้ตังค์เพิ่มเว้ย  จะหาทางประหยัดสักหน่อย  เศือกขัดลาภกรูได้  มั่วแถไปล้วน ๆ เจ็บสีข้างพอประมาณ

     

    หึหึ  มันคงขำในความงกจำเป็นของผม  งั้นเดี๋ยวกรูโทรหาเอง  นานแค่ไหนเท่าไหร่บอกกรูมา

    ...  ผมอึ้งหันไปมองเต็ม ๆ ใบหน้ามัน  ความมาดมั่นที่ออกมาบอกว่าไม่ล้อเล่น  เมิง  เมิง  เล่นยามาใช่มั้ยเนี่ยะ  ไม่สบายเมิงไม่สบายแน่ ๆ หรือโดนของเข้าวะ  ผมที่ตกใจในกิริยาเหนือความคาดหมาย รีบเอามือไปทาบหน้าผากมันเบา ๆ  แต่ตัวอุ่นปกติดี

     

    หมับ  ฝ่ามือมันรวบจับมือผมไว้  สายตามองตรงมา  สบายดี  เชื่อรึยัง  พูดจบใบหน้าหล่อลากนั่นก็ยิ้มอ่อนโยนให้

    อืม กรูเชื่อแล้ว  เชื่อแล้วว่า..  ผมหลบตาก้มหน้าตอบ

    หืม  เชื่ออะไรวะ  น้ำเสียงยียวนอยู่ในตัว  นึกหน้ามันออกเลยว่าต้องกวนตีนอยู่แน่ ๆ

     

    ผมเงยหน้าไปสบตามันจัง ๆ อีกครั้ง  ยิ้มกว้างมาก  เชื่อแล้วว่า  เมิง หวง กรู  พูดช้า ๆ ชัด ๆ ย้ำกับตัวเองอีกรอบ  พร้อมกับรีบชักมือที่มันกุมอยู่มาไพล่หลังไว้  แล้วเริ่มอาการบิด หยิก ทึ้งมือทั้งสองข้างของผมเองเพื่อระบายอารมณ์ปลาบปลื้ม  ทดแทนการแสดงออกทางสีหน้าที่มันมากมายจนแทบเก็บไม่อยู่

     

     

    มันนิ่งไปพักมีแววเอ๋อบนหน้านั่นก่อนที่มันจะยิ้มร่าออกมาไม่แพ้กัน  ส่ายหัวกับตัวเองเล็ก ๆ  เหมือนเสียเชิง

     

    เออ ๆ กรูก็บอกตั้งแต่แรกแล้วไง เฮ้อ! เมิงนี่  แล้วแรงสัมผัสนุ่มนวลของมือหนามันจับเข้าเต็มที่ศีรษะผม  รีบไปซื้อซีดีกันสักทีเหอะว่ะ  มันชวนผมไปโซนอื่นต่อทันที  ผมเห็นมันก้มหน้าต่ำยิ้มแบบขัดเขินอยู่ในทีพร้อมกับมืออีกข้างที่ยกขึ้นมาลูบปลายจมูกตัวเอง  อาการผมคงแพร่เข้าตัวมันโดยไม่ทันรู้สึก

     

    อืม  ไปเถอะ  ผมยิ้มตอบรับบางเบากลั้นใบหน้าร้อนฉ่า  ก่อนจะเดินบิดตามมันไป  เพิ่งสังเกตุเห็นว่าโซนหนังสือที่ผมอยู่  ตกแต่งไปด้วยคัทเอาท์สีม่วงสด  เราอยู่ในโซน 1 แผงหนังสือม่วงกันนี่เองถึงได้มีปฏิกิริยาผิดปกติกันเช่นนี้  แถมรายรอบตัวก็มีเด็กสารพัดแนวเหมือนจะแอบมองพวกผมอยู่  แต่ในเวลานี้ผมรู้สึกอย่างอื่นมากกว่าอายสายตาที่ลอบมองมาของผู้คนนัก  ยังเหลืออีกหลายโซนให้เที่ยวที่สำคัญมีคอนเสิร์ตของวงเอี้ยน้องต๊อดอีก  ผมคงไม่ละลายไปก่อนถึงตอนนั้นนะครับ

     

    ---------------------------------------------------------

     

    TBC.

     

    สวัสดีค่าเพื่อน ๆ น้อง ๆ นักอ่านทุกท่าน  ไม่เจอกันนานสบายดีกันมั้ยค้า  ลงฉลองเทศกาลถือศีลกินเจของชาวไทยเชื้อสายจีน  ถือศีลอดของชาวไทยมุสลิม  ถือศีลห้างดเหล้าเข้าพรรษาของชาวไทยพุทธ  ซึ่งเหมือนว่าว่างจะทำไม่ได้เลยฮ่า ๆๆ  คิดฮอดหลาย ๆ เด้อค่ะ

     

    **ขอขอบคุณข้อมูลจากงาน HEINEKEN FAT FESTIVAL 3 (104.5 FAT RADIO) @สวนสยาม  เอื้อเฟื้อฉากในตอนนี้ค่า

     

    เพิ่งรู้สึกว่าสำหรับตอนนี้ว่างใช้เวลาถึง 1 เดือนฝ่า ๆ  โอ้ว  ม่าย  นานอะไรปานนั้น  สำหรับข้อแก้ตัวไม่มีค่ะ ฮ่า ๆ จริงใจที่จะบอกว่าเรียบเรียงไม่ออก  ว่าจะไปขุดลอกสมองแล้วค่ะ  ช่วงนี้สมองตัน(เห็นตันมาหลายช่วง)ทั้งงานทั้งฟิค  เล่นเอาเอ๋อไปเลย  คงต้องหาเวลาว่างไปบริหารสมองบ้าง  เพื่อน ๆ น้อง ๆ อย่าเคร่งเครียดมากนะคะทั้งเรื่องงาน  สอบ  เรียน  ไม่งั้นอาจเอ๋อแดรกแบบว่างได้

     

    ขอขอบคุณทุกกำลังใจจริง ๆ ค่าทั้งนักอ่านขาประจำ  ขาจร  ขาหลบ  ขาหลีก  ขามืด และทุก ๆ ขา  ทุกความคิดเห็นเป็นกำลังใจให้ว่างค่า  แม้บางทีจะเคลือบยาพิษผสมมีดมาเร่งบ้างไม่ว่ากัน (สมควรโดนแล้วตรู)  หลาย ๆ ท่านยังฮาคงเส้นคงวาเสมอนะคะ  อ่านไปขำไปเครียดไป ^^”

     

    --ติชมได้ตามสะดวกค่ะ

    ขอขอบคุณ(อีกรอบค่า)ทั้งแรงอ่าน  แรงเม้นท์  แรงแอด  แรงโหวต ซาบซึ้งใจจริง ๆ ค่ะที่ยังไม่หายกันไป (^_^)V

    ปล. พบข้อสงสัย  คำผิด  ทักได้บอกได้นะคะ  แล้วเจอกันจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×